คำเตือน...
ฟิคขนาดสั้นเรื่องนี้อุดมด้วยคำหยาบโยน (ไม่ใช่หยาบคาย)
ไม่เหมาะแก่เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี โปรดใช้จักรยานในการปั่นไปซื้อของแทนการใช้มอเตอร์ไซค์เป็นการประหยัดน้ำมัน
(เดี๋ยวนะ)
BEHIND
มือขาวจัดปลดกระดุมเสื้อออกแล้วถอดเสื้อผ้าจนตัวเปล่าเปลือย
ไม่ได้แคร์และสนใจว่ามีอีกหนึ่งชีวิตที่แชร์ห้องอยู่ด้วยกัน
ความจริงก็ไม่เคยสนใจอยู่แล้ว
“เมื่อไหร่พี่จะเลิกแก้ผ้าต่อหน้าผมสักที ไปถอดในห้องน้ำไม่ได้หรือไง”คนที่อี้ชิงไม่ได้สนใจบ่นกระปอดกระแปด
หัวคิ้วขมวดมุ่นเพราะเดินเข้าห้องมาเจออีกคนล่อนจ้อนอยู่พอดี ไล่กว้าง ช่วงเอวสอบ
ลำขาแน่นไปด้วยเนื้อ เป็นรูปร่างที่สมบูรณ์แบบในความคิดของจงแด
แต่ก็ไม่ได้อยากจะเห็นเสียหน่อย โดยเฉพาะไอ้ตรงนั้นที่อีกคนทำเหมือนมันไม่ใช่ของสงวนที่ควรเก็บไว้ให้มิดชิด
“ก็แก้แบบนี้ตลอด อิจฉา?”คนที่ยังไร้ผืนผ้าปิดกายถามเย้า
จงแดเบ้ปากบอกไล่ให้เข้าไปอาบน้ำเถอะ แล้วก็คลุมผ้าเช็ดตัวออกมาด้วย
เบื่อจะเห็นกิ้งกือของอีกคนเต็มแก่
อี้ชิงกระตุกมุมปาก ไล่สายตามองคนเด็กกว่าเดินไปวางข้าวของลงบนโต๊ะของตัวเอง
ช่วงเวลาที่ขยับก้มเงยเก็บกล่องเครื่องประดับเข้าลิ้นชัก สะโพกเล็กๆก็ลอยเด่น
จงแดเป็นคนตัวเล็ก เล็กมากจนไม่มีเนื้อหนัง ไม่ได้ดูอ่อนนุ่มน่าจับต้อง...แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่น่าสนใจ
เห็นหนังหุ้มกระดูกแบบนั้น
โดนตรึงแล้วเสือกกายเข้าไปจนสุดก็เร้าใจอยู่ไม่หยอกหรอก
*-*-*
ที่บอกว่าศิลปินนั้นหน้ากล้องกับหลังกล้องจะต่างกันสิ้นเชิง
จงแดยืนยันว่ามันเป็นความจริง
สำหรับเขาเองก็มีมุมที่เขาไม่สามารถแสดงออกต่อหน้ากล้องได้ แต่สำหรับจางอี้ชิง
ไม่ใช่แค่นิสัยบางอย่างหรือมุมบางมุม
แต่คนคนนั้นเปลี่ยนไปราวกับหน้ามือและหลังเท้า...
เลย์จางผู้อ่อนโยนมีรอยยิ้มที่น่าหลงใหล
เมื่อไม่มีกล้องอยู่ตรงหน้า เขาก็เป็นแค่จางอี้ชิงคนมากเล่ห์เท่านั้นเอง
เสียงน้ำในห้องน้ำหยุดลงหลังจากที่อี้ชิงเข้าไปได้ราวครึ่งชั่วโมง
จงแดลุกขึ้นยืนแล้วคว้าผ้าเช็ดตัวของตัวเองบ้าง
เพื่อที่อีกคนออกมาจากห้องน้ำเขาจะได้เข้าไปใช้ต่อเลย
คนในห้องน้ำเดินออกมาสวนกับจงแดที่จะเดินเข้าไป
ได้กลิ่นครีมอาบน้ำผู้ชายยี่ห้องดังลอยคว้าง
มันให้ความรู้สึกถึงความเป็นผู้ชายเต็มตัวเสียจริง ผิดกับครีมอาบน้ำของจงแดที่เป็นกลิ่นผลไม้ให้ความรู้สึกผ่อนคลายเวลาอาบ
เสื้อผ้าของวันนี้ถูกเปลื้องออกและโยนไว้ในตะกร้า
จงแดรูดกางเกงชั้นในออกพ้นปลายเท้า
ไม่ลืมสะบัดมันให้คลายรูปทรงแล้วโยนมันลงไปกองรวมกับผ้าชิ้นอื่นๆ
เครื่องทำน้ำอุ่นนั้นได้องศาพอดีเพราะมีคนใช้งานไปก่อนหน้า เขาจึงขยับไปอยู่ใต้ฝักบัวอาบน้ำแล้วเปิดวาล์วให้สายน้ำไหลลงมาตามร่างกายได้ทันที
มือที่ผอมแห้งลูบไล้ตามร่างกายพาเอาสบู่เหลวไปสัมผัสทุกซอกทุกมุมของลำตัว
ไม่ลืมทำความสะอาดจุดที่ซ่อนเร้นและอับชื้นมาทั้งวัน
จงแดปัดมือทำความสะอาดกลางกายแล้วพลันความคิดกลับนึกถึงใครอีกคนที่อยู่ด้านนอกห้องน้ำ
ภาพแกนกายอีกคนที่เห็นบ่อยนั้นติดตายิ่งกว่าใบหน้าเสียด้วยซ้ำ...
สะบัดภาพรูปร่างเปลือยเปล่าของจางอี้ชิงออกจากความคิด
จงแดไล่ทำความสะอาดร่างกายตนเองจนเสร็จเรียบร้อย หยิบผ้าขนหนูมาซับหยดน้ำที่เกาะพราวตามร่าง
มือผอมแห้งปาดไอร้อนที่เกาะเป็นฝ้าบนกระจกบานสูงออกเพื่อที่จะมองเงาของตัวเองซึ่งสะท้อนออกมาได้ชัดเจนขึ้น
ขยับซ้ายขวาก็เจอแต่ร่างกายที่มีเพียงหนังหุ้มกระดูก
คิมจงแดเป็นคนผอมมาก มากจนทำยังไงก็ไม่อ้วน
เคยลองกินเยอะ กินตลอดเวลา น้ำหนักเพิ่มมาไม่ถึงเดือนก็ลดลงพรวดพราดเช่นเดิม
ก็เลยเลิกคิดจะเพิ่มน้ำหนักตัวเองไปแล้ว
ต่างกับใครบางคนที่คงนั่งแต่งเพลงอยู่ตอนนี้
เนื้อขาวเนียนนั่นนิ่มน่าสัมผัส แม้จะดูเป็นคนเนื้อเยอะแต่ก็ไม่ได้หย่อนคล้อย
หมั่นออกกำลังกาย ไม่กี่ปีก็มีรูปร่างสมบูรณ์แบบพร้อมซิกแพ็คที่หน้าท้อง
...อยู่ดีๆหน้าก็ร้อนวูบขึ้นมา...
ภาพที่ติดตานอกจากจะเป็นร่างที่เปลือยเปล่า
คงเป็นหน้าท้องที่เมื่อเกร็งแน่นจะขึ้นลอนสวยงาม
และเวลามือของเขาวางทาบลงไปเพื่อขอร้องให้เพลาแรง
ลอนสวยๆนั้นก็คลายออกพร้อมการขยับกายที่ช้าลง...
*-*-*
เนื้ออ่อนถูกขบเม้มที่สันกราม
ลากไล้มือผ่านยอดอกจนต้องแอ่นเอนขึ้นรับสัมผัสนั้น จางอี้ชิงยกมุมปากขึ้น
หน้าตาดูไม่เหมือนคนมึนๆอึนๆที่อยู่ในทีวีสักนิดเดียว จงแดขบริมฝีปาก
บอกว่าจะทำอะไรก็รีบๆทำเสีย อยากพักผ่อนจะแย่อยู่แล้ว
“ใครวะที่บอกเบื่อจะเห็นกิ้งกือ
ตอนนี้อยากได้แล้วสิ?”ส่งเสียงกระซิบข้างใบหูเล็กแล้วค่อยๆเปลื้องเสื้อนอนของอีกคนออกช้าๆ
จงแดขยับให้ถอดเสื้อออกได้ถนัดมากขึ้น เมื่อทั้งตัวล่อนจ้อน ส่วนที่ชูชันล่อตาแถมแข็งเป็นไตก็ถูกครอบครองโดยโพรงปากอุ่นร้อน
จงแดส่งเสียงครางหนักหวิวไปทั้งตัวกับเรียวลิ้นของอีกคน
พลิกกระหวัดดูดดึงและโลมไล้ด้วยความชำนาญ
จนแทบคลั่ง...
ไม่ต้องมีการโอ้โลมที่มากกว่านี้
คิมจงแดดันให้แผ่นหลังกว้างลงไปติดพื้นเตียงแทนแล้วให้ตนเองพลิกกลับมาอยู่ด้านบน
เสื้อกล้ามที่อี้ชิงใส่นอนถูกเลิกไปกองเหนืออก
นิ้วเล็กๆกรีดลากผ่านหน้าท้องสวยไปหยุดที่กางเกงบอลเนื้อลื่น
แค่มองก็รู้ว่าแกนกายที่อีกคนชอบโชว์อวดให้ได้เห็นนั้นกำลังตึงแน่นเตรียมขยายออกอีก
บ่นบาๆว่าจางอี้ชิงนี่จะไวไปไหนกัน
กางเกงไม่ทันได้ถอดก็พร้อมจะรบแล้วงั้นเหรอ?
“ต้องอมให้ไหม?”ถามเพราะเห็นว่าขนาดมันขยายจนใช้งานได้
คนตัวขาวไม่ได้ตอบแต่กลับรูดกางเกงออกจากสะโพกแล้วกดหัวของจงแดลงไปแทน
ความที่ไม่ตั้งตัว ริมฝีปากจำต้องเปิดอ้ารับท่อนเนื้อยาว ส่วนปลายเข้ามาถึงผนังลำคอด้านใน
จงแดจับแขนอีกคนที่กดหัวเขาเอาไว้แน่น ตีหลายครั้งให้ปล่อยกันก่อน
“จุก!”ละปากออกมาแล้วแหวเสียงสูง และเหมือนว่าอี้ชิงก็คงรำคาญถึงได้พลิกตัวขึ้นมานั่งแล้วเหวี่ยงให้คนตัวเล็กกว่าลงไปนอนกองแทน
มือขาวจัดแหวกเรียวขาคนใต้ร่างออกเผยส่วนน่ารักน้อยๆที่ซุกซ่อนใต้ไรขนสีดำสนิท
“ไม่ต้องเบิกหรอกมั้ง เมื่อวานก็เอา”เหมือนจะถามแต่จางอี้ชิงไม่ได้ถามกันหรอกเพราะทันทีที่พูดจบ
ท่อนเนื้อแข็งได้ที่ก็จ่ออยู่ที่ช่องทางคุ้นชินแล้วค่อยๆดันเข้ามาลึก
จงแดขบริมฝีปากแน่นเมื่อสัมผัสได้ว่าเส้นเอ็นบนสิ่งนั้นถูเสียดสีกับผนังอ่อนนุ่ม
ร้อนวาบไปทั้งหน้าพึมพำเสียงอ่อนว่าให้เบาก่อน เมื่อวานก็ทำน่ะใช่
อาจจะพาตัวตนเข้าไปได้ง่ายแต่การขยับกายเสียดสีซ้ำทับก็ทำให้แสบสันต์อยู่ไม่หยอก
“ก็เงี่ยน...อยากเอาแรง...ไม่ได้เหรอครับ?”
..
.
ก็บอกแล้วไงว่าจางอี้ชิงลับหลังกล้องก็เป็นแค่ผู้ชายมากเล่ห์คนหนึ่งเท่านั้น
*-*-*
จางอี้ชิงไม่เคยปิดบังว่าเขาเป็นเกย์
แม้สมาชิกชาวเกาหลีบางคนจะรังเกียจคนผิดเพศแบบพวกเขาก็ตามที ก็แค่ต่างคนต่างอยู่
ต่อหน้ากล้องเราก็ทำเป็นรักใคร่สามัคคี พอถึงหอก็แยกย้ายกันไป
คริสเคยพูดไว้ว่าสักวันจะเอาไอ้ผู้ชายแท้ๆปากจัดอย่างแบคฮยอนมาทำเมีย
แต่คงไม่มีวันนั้นเมื่อเพื่อนร่างสูงชิงออกจากวงไปเสียแล้ว
พยอนแบคฮยอนก็เลยยังลอยหน้าลอยตาด่าอี้ชิงว่าผิดเพศได้ถึงทุกวันนี้
“ดีไหม?”กระซิบถามอีกคนที่นอนบิดอยู่ใต้ร่าง
อี้ชิงเสือกกายเข้าไปจนสูงเรียกเสียงหวีดสูงให้ดังขึ้น
จงแดไม่ตอบแต่ส่ายสะบัดหน้าไปมา และนั่นก็ไม่ใช่คำตอบด้วยเช่นกัน
เป็นเพียงอาการของคนที่เสียวซ่านจนไม่รู้จะแสดงออกอย่างไร
สะโพกเล็กจับทีก็เจอกระดูกแต่ช่องทางรักนั้นอ่อนนิ่ม อี้ชิงโหมแรงเข้าออกอยู่พักใหญ่
ช่วงเอวสอบถี่กระชั้นส่งแรงหนักๆเข้าไปในตัวของจงแด
ไม่ได้ฟังเสียงร้องลั่นว่าจุกเจ็บของอีกคนที่ตามมา
“เบาหน่อย”ร้องบอกทั้งที่ร่างไหวคลอน
ข้อเท้าเพรียวเล็กถูกกำแล้วแยกขาออกกว้างกว่าเดิม
จงแดดันหน้าท้องขึ้นลอนสวยออกน้อยๆเป็นเชิงบอกให้ผ่อนแรง เผลอเกร็งหน้าท้องตามจนเจ็บ
ถ้าอีกคนยังโหมแรงไม่ยั้ง พรุ่งนี้คงจุกมากแน่ๆ
“บอกก่อนว่าดี”จะเอาคำพูดที่ต้องการ
ถ้าไม่พูดก็คงยังเสือกไสเข้ามาแบบนี้ จงแดครางฮือบอกว่าดี ดีมากๆด้วย แรงที่โหมกระหน่ำจึงผ่อนปรนลง
กลายเป็นการขยับร่างที่เนิบนาบแทน แล้วก็นิ่งหยุด อี้ชิงปาดเหงื่อที่ไหลลงตามขมับ
มองหน้าแดงๆของจงแดแล้วยิ้มมุมปาก เขาชอบเวลาเห็นอีกคนนอนระทวยแบบนี้จริงๆ
“ทำให้หน่อย”ว่าพลางเอนตัวลงนอนหงาย
แล้วใช้มือฉุดให้จงแดลุกขึ้นมานั่ง
“อึ่ก”ท่อนเนื้อที่เข้ามาลึกกว่าเดิมจากการเปลี่ยนท่าทำเอาจุกจนพูดไม่ออก
จงแดวางทาบมือลงบนหน้าอกของอี้ชิง ไม่มีแรงจะยกตัวขึ้นทำให้อีกคนอย่างที่คนตัวขาวสั่ง
ทำได้แค่ขยับโยกเหมือนควบม้า
แต่นั่นก็ยิ่งส่งให้ท่อนเนื้อยาวขยับเข้าไปยิ่งลึกกว่าเดิม
เสียงซี้ดปากดังมาจากด้านล่าง อี้ชิงลูบสะโพกเล็กที่ขยับโยกอยู่ตอนนี้
ก็บอกแล้วว่าเห็นคิมจงแดผอมเหมือนมีแค่หนังหุ้นกระดูก
แต่ได้เข้ามาในตัวแล้วเร้าใจเป็นบ้า เนื้อที่แม้จะแข็งมือเล็กน้อย
แต่ก็จับถนัดถนี่
“ยกตัวขึ้น”สั่งเสียงพร่าพร้อมใช้มือดันสะโพกของอีกคนให้ยกสูง
จงแดส่งเสียงในลำคอเพราะขาไม่มีแรงแต่ก็พยายามจนสะโพกนั้นลอยขึ้น หายใจยังไม่ทันได้ทั่วท้องก็ต้องหวีดเสียงลั่นเมื่อคนที่นอนข้างใต้ขยับกายกระแทกสวนขึ้นมา
เกือบจะทรุดลงไปกองแต่มือของอี้ชิงก็รั้งเอวไว้
ตรึงแน่นไม่ให้ขยับไปไหนเพื่อจะรองรับแกนกายที่เด้งสวนขึ้น
“ฮา...”เพราะเสียงของคิมจงแดแหลมและแหบหวาน
เวลาครางมันถึงทำใจหวิวพิกล อี้ชิงโน้มคอคนตัวเล็กกว่าลงมาจูบ
ส่งลิ้นเขาไปหยอกล้อทักทายกับลิ้นของอีกคน
เท่านี้เสียงครางก็เงียบหายไปอยู่แค่ในลำคอของอีกคนแล้ว สะโพกสวยเลยได้โอกาสกระแทกส่งแรงตามใจปรารถนา
ถี่ระรัว กระชั้นชัด หนักแน่น หลอมหลวมแล้วกระชากออกห่างก่อนจะแนบสนิทกันเหมือนเดิม
“อ๊า...พี่อี้ชิง!”หวีดเรียกชื่ออีกคนดังลั่น
เผลอจิกเล็บลงที่หน้าอกของอี้ชิงจนแดงและได้แผล แต่อีกคนก็ไม่ได้มีท่าทีจะสนใจ
เพราะเป็นคอนเสิร์ตวันสุดท้าย ต่อไปก็ไม่ได้โชว์แผงอกแล้ว
ได้โชว์อีกทีรอยก็คงหายดีเป็นปลิดทิ้ง
“เรียกชื่อทำไม
กลัวจำไม่ได้เหรอว่ากำลังเอากับใครอยู่”ถามเย้าเสียงเจ้าเล่ห์ จงแดส่ายหน้า
หูนั้นแดงก่ำพอกับพวงแก้ม เหงื่อพราวระยับและไหลลงมาตามร่าง
หยดแมะที่หน้าท้องซึ่งขยับไม่มีหยุด
“แตกข้างในนะ”อี้ชิงพูดเสียงพร่าสั่นเพราะรู้สึกได้ว่าร่างกายใกล้จะถึงขีดสูงสุดเต็มที
จงแดส่ายหัวปฏิเสธแต่ก็คงไม่ได้เข้าสู่ประสาทการมองเห็นของอีกคนเมื่ออี้ชิงหลับตาแน่น
ยึดเอวของคิมจงแดกดย้ำจนขึ้นรอยเขียว
กระแทกสวนขึ้นไปรังให้เกิดเสียงเนื้อกระทบฟังดูน่ากลัว อี้ชิงกัดฟันแน่น
หูอื้ออึงได้ยินเสียงกรีดร้องลั่นเมื่อเขจงใจกระแทกเน้นย้ำหนักๆ
เสียวปราดไปหมดและอดไม่ได้ที่จะเรียกชื่อคนที่นั่งคร่อมอยู่บนร่างอย่างเสน่หา...
“จงแด...”
*-*-*
พยอนแบคฮยอนยืนหัวเสียอยู่หน้าห้องพักของสมาชิกยูนิตเอ็มห้องหนึ่ง
ที่หัวเสียคงเพราะเสียงอะไรที่ลอดออกมาให้ได้ยิน
อยากจะยกมือกระแทกบานประตูดังๆให้คนข้างในที่เป็นรูมเมทกันรู้ว่าเสียงที่พวกมันเอากันน่ะดังออกมายันข้างนอก!
พยอนแบคฮยอนไม่ชอบพวกผิดเพศ
ตอนแรกที่รู้ว่าจะมีคนเป็นเกย์อยู่ร่วมวงเขาแสดงออกชัดเจนว่าไม่ต้องการจะร่วมวงด้วย
แต่เพราะไม่มีทางเลือก
ถึงต้องอยู่ร่วมวงกับพวกผิดเพศแบบจางอี้ชิงและอู๋อี้ฟานที่ออกจากวงไปแล้ว
ภาวนาทุกวันให้อี้ชิงรีบๆออกจากวงไปตามอี้ฟานเสียที
รังเกียจจะแย่...
“ผมว่าพี่เลิกโลกแคบแล้วชีวิตจะมีความสุขขึ้นนะ”ดวงตารีเล็กจวัดมองสมาชิกชาวจีนอีกคนที่เหลืออย่างไม่พอใจ
ฮวังจื่อเทายืนเต๊ะทำพิงกำแพงด้วยท่าทีสบายๆ แต่แบคฮยอนกลับมองว่ามันน่ารังเกียจ
...เพราะจื่อเทาก็เป็นอีกคนที่เป็นเกย์
“พวกนายน่าจะออกตามอี้ฟานตามลู่หานไปกันให้หมดนะ
บางทีจงแดกับเซฮุนอาจจะเลิกหลงผิดแล้วกลับมาเป็นผู้ชายจริงๆเหมือนเดิม ทุเรศชะมัด
เพราะพวกนายนั่นล่ะ สองคนนั้นถึงกลายเป็นเกย์ไปด้วย”ด่ากราดน้องเล็กยูนิตเอ็มด้วยน้ำเสียงเย้ยเยาะ
จื่อเทาไม่ได้แสดงสีหน้าไม่พอใจกับคำด่านั้น ตรงข้ามกลับยิ้มมุมปากให้อีกคน
“ผมไม่ได้ทำให้เซฮุนเป็นเกย์
หมอนั่นมันเป็นของมันอยู่แล้ว ส่วนพี่จงแดเขาจะกลายเป็นเกย์มันก็เรื่องของเขา
ต่อให้ไม่มีพี่อี้เขาก็ไปให้คนอื่นเอาอยู่ดีนั่นแหละ คนเป็นเกย์ไปแล้ว”ยักไหล่ไม่หยี่ระ
จื่อเทาร้องเหอะในคำเมื่อพยอนแบคฮยอนมีสีหน้าไม่พอใจ
“แต่ถ้าไม่เจอจางอี้ชิงจงแดก็ไม่เป็นเกย์หรอก”เถียงกลับฉอดๆ
จงแดน่ะเคยเป็นผู้ชายแท้ๆที่คบกับแฟนสาวจนกระทั่งเดบิ้วต์
แต่เพราะไปใช้ชีวิตร่วมกับพวกวิปริตแบบนั้น
ถึงได้กลายเป็นเพศที่น่ารังเกียจสำหรับแบคฮยอนไปด้วย
ใจหนึ่งแบคฮยอนก็นึกโมโหเพื่อน ไม่รู้ว่าจงแดเสียท่าให้จางอี้ชิงตอนไหน
รู้แค่สองคนนั้นไปไกลจนถึงขั้นมีอะไรกันไปแล้ว แต่การแสดงออกระหว่างกันก็คงยังเป็นเหมือนรูมเมทและพี่น้องธรรมดา
คล้ายๆกับจื่อเทาและเซฮุนที่บอกว่าไม่ได้คบกัน แต่ก็เอากัน
ประมาณแค่ปลดเปลื้องอารมณ์ทางเพศแล้วก็จบ
แต่กระนั้น...การที่เอากับผู้ชายด้วยกัน
มันก็น่ารังเกียจอยู่ดีนั่นล่ะ
แม้หลายคนจะเห็นว่ามันเป็นการดีกว่าไปคว้าผู้หญิงหน้าคลับมาเอาจนเสี่ยงมีข่าวก็ตามทีเถอะ...
ให้ตายพยอนแบคฮยอนก็ไม่เอาด้วยหรอก...
“พูดกับพี่เหมือนคุยกับหมาอ่ะ ภาษาคนไม่เข้าใจ
ยังไงก็กลับห้องยูนิตตัวเองไปเถอะนะ”จื่อเทาว่าอย่างขี้เกียจจะต่อปากต่อคำ
สำหรับพยอนแบคฮยอน ให้เอาอะไรมาพูด เกย์ก็ยังเป็นเพศที่น่ารังเกียจอยู่ดี คนโลกแคบแบบนั้นไม่ไปยุ่งด้วยคงจะดีที่สุด
แต่แล้วความคิดหนึ่งก็แวบขึ้นมา
ดวงตาคมกริบมองไอ้ลูกหมาที่เดินปึงปังกลับห้องตัวเองไป
ทิ้งสายตาที่สะโพกแน่นๆของอีกฝ่าย...
...ก็น่าลองดูนะ ว่าคนที่เกลียดเกย์
เวลาโดนผู้ชายด้วยกันเอา...
...จะรู้สึกยังไง...
*-*-*
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น