จับมือกันไว้แน่นๆ
ก็อุ่นใจ
สองเรา…
“ไอ้สัด
เขยิบไปห่างๆกูได้ไหมล่ะมึงอ่ะ”จงอินเอ่ยปากไล่ไอ้เพื่อนตัวดีที่เขยิบมาจนชิด
นี่สิงกูเลยไหม? ถ้าจะโน้มตัวมาชิดขนาดนี้ ถ้าเป็นแม่สาวทรงโตคงจะฟิน
นี่เป็นไอ้เหี้ยลู่หาน จงอินเบ้หน้ากับเนื้อหนังแข็งอย่างกับกระดานของมัน
“ก็กูอยากรู้ผลสอบเหมือนกันนี่
มึงนั่นแหล่ะตัวโตเป็นหมีควายบังจออยู่ได้ไอ้เหี้ย”ลู่หานก็ใช่จะยอม
มือเรียวผลักหัวเพื่อนออกแล้วชะโงกหน้าไปดูหน้าจอคอมพิวเตอร์เครื่องเก่าที่ลู่หานซื้อส่วนประกอบมาซ่อมให้มินซอกใช้ทำรายงานตอนเรียน
ไฟล์พีดีเอฟถูกเปิดหลา
จงอินใช้สายตาไล่รายชื่อคนสอบผ่านทีละบรรทัดอย่างใจจดจ่อ
เพราะไม่สามารถใช้เครื่องมือค้นหาได้ แต่ก็ดีเหมือนกันจะได้ลุ้นมากๆหน่อย
มินซอกยิ้มขำกับสองเพื่อนซี้ที่แย่งกันดูรายชื่อ อดจะตื่นเต้นไม่ได้เหมือนกัน
ภาวนาให้มีทั้งชื่อลู่หานและจงอิน
“ไอ้เหี้ย!! เจอแล้ว!!”เสียงร้องดังลั่น
จงอินดีดตัวออกจากหน้าคอมคว้าโทรศัพท์ไปกดหาเซฮุนทันที ลู่หานยิ้มกับเพื่อน
มีชื่อคิมจงอินอยู่ในรายชื่อที่สอบผ่านจริงๆ คราวนี้ก็ลุ้นชื่อตัวเองต่อ ใจเต้นตุบๆเพราะตั้งแต่ไล่ดูมากว่าสามร้อยชื่อยังไม่มีแววจะเจอชื่อตัวเองเลย
มินซอกเดินมานั่งข้างๆแล้วจับบ่าคนรักบีบ บอกว่าค่อยๆหา ไล่สายตาดีๆ เดี๋ยวก็เจอ
“ไม่มีอ่ะมินซอก”พูดออกมาเสียงอ่อย
เมื่อเลื่อนจนจะสุดหน้าแล้วก็ยังไม่เจอ ตัดใจไม่อยากจะดูต่อแล้ว คิดว่ายังไงก็ไม่มีชื่อตัวเองแน่ๆ
“เดี๋ยวผมดูให้นะ”มินซอกคว้าเม้าส์มาจับไว้เอง
เลื่อนนิ้วไปมาที่ลูกกลิ้งกลม ค่อยๆไล่สายตาไปทีละบรรทัด
ส่วนลู่หานทิ้งตัวนอนแผ่หมดหวังไปแล้ว
ได้ยินเสียงไอ้จงอินโทรศัพท์คุยกับเซฮุนอวดว่ามันสอบติดแล้ว
จากนี้ก็ฝึกเหมือนนักเรียนตำรวจทุกอย่าง
อีกสามปีก็จะได้เป็นนายตำรวจเท่ๆเหมือนที่เซฮุนชมพี่ชาย
คิดไว้อยู่เหมือนกันถ้าสอบไม่ติดว่าจะลองสมัครร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์แถวนี้ดู
เจ้าของร้านก็สนิทกันระดับหนึ่ง
แต่ที่ไม่คิดจะทำงานที่นี่เพราะเคยเป็นคนค้าขายกันมาก่อน
ไม่อยากจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดแล้ว
“ลู่หานฮยองฮะ”เสียงมินซอกที่เรียกทำให้ลู่หานเด้งตัวขึ้นมานั่ง
คนรักของเขายิ้มกว้างบอกให้ดูหน้าจอคอมสิ
อันอับที่ 333
– ลู่หาน
“เฮ้ย!”ร้องออกมาอย่างตกใจและดีใจ
มองหน้ามินซอกเห็นน้อยยิ้มให้ก็คว้าคนตัวเล็กมากอดแล้วโยกไปมา
ชื่อของเขาอยู่ท้ายสุดของรายชื่อทั้งหมดที่สอบผ่า 333 คน
“ไหน
มึงก็สอบผ่านเหรอไอ้สัด”จงอินที่ได้ยินเสียงร้องอย่างดีใจของเพื่อนเข้ามาดู
ผลักหัวไอ้ห่าลู่หานไปที ทำเป็นตัดพ้อว่าสอบไม่ติดเสือกไม่เลื่อนดูให้หมดก่อน
“ฉลอง! กูว่าเราต้องฉลองอ่ะ!”จงอินบอก
ยกโทรศัพท์ที่ยังไม่วางสายคุยกับเซฮุนว่าฉลองกันดีไหม
เพราะทั้งจงอินและลู่หานสอบผ่านหมดเลย ได้ยินปลายสายพูดว่าฉลองอีกแล้ว
เดี๋ยวก็เมาเป็นหมีเน่าอีก จงอินยิ้มหวานหยอดเสียงอ่อยว่าไม่เมาแล้วคราวนี้
ถึงเมาก็ไม่เมามาก ถ้าเมามากก็จะไม่เป็นภาระให้แฟนเลย
“ผมอยากกินพิซซ่าฮะ
เราสั่งพิซซ่ามาฉลองกันได้ไหม?”มินซอกเสนอความเห็น ลู่หานคิดว่าก็ดีเหมือนกัน
เบื่อจะฉลองหม้อไฟปิ้งย่างเต็มทน กินฟ้าสต์ฟู๊ดไร้สารอาหารบ้างก็ดี
บอกให้เซฮุนมาหาที่บ้านของลู่หานเลย ลู่หานผละออกไปโทรหาอี้ชิงบอกข่าวดีด้วย
น้องชายที่วันนี้ไปรับเอกสารเกรดเฉลี่ยตัวจริงที่โรงเรียนได้ฟังก็ร้องไชโยลั่น ไม่เห็นก็รู้ว่าอาอี้ยิ้มกว้างขนาดไหน
“ถ้าเสร็จแล้วกลับมาบ้านนะ
วันนี้กินพิซซ่ากัน อยากกินหน้าอะไรพี่ให้เราเลือก”ถามน้องอย่างเอาใจ
น้องชายตัวขาวทำเสียงงึมงำนึกอยู่นานก็บอกอยากกินชิคเก้นทรีโอ้กับมีตเดอลุกซ์สองอย่างเลย
“อย่างเดียวก็พอไอ้อ้วน
ให้คนอื่นสั่งบ้าง”ว่าน้องเย้าๆ อี้ชิงโวยวายตามสายมาว่าไม่อ้วนเสียหน่อย หุ่นดีจะตาย
-เอาชิคเก้นก็ได้
อี้ขอไก่กรอบด้วยนะพี่ อี้อยากกินอ่ะ-
คนไม่อ้วนร้องขอเมนูเพิ่มเติมจากพิซซ่า
ลู่หานหัวเราะบอกเดี๋ยวจะจัดการให้ รีบกลับมาก็แล้วกัน
ไม่งั้นเสร็จไอ้จงอินหมดไม่รู้ด้วย อี้ชิงบอกให้ยั้งพี่จงอินเอาไว้อย่าให้กินไก่กรอบของเจ้าตัวหมดเชียว
เดี๋ยวจะรีบกลับ
“ตกลงเอาหน้าอะไรฮะ
ผมจะได้โทรสั่ง”มินซอกถาม เตรียมกดเบอร์ร้านพิซซ่ารอ
ลู่หานบอกสั่งชิคเก้นทรีโอ้ให้อี้ชิง อีกถาดก็ให้มินซอกเลือกเอา
ไม่ต้องถามไอ้จงอินเพราะไอ้ห่านั่นอะไรก็แดกได้หมด มินซอกนึกอยู่นานก่อนจะตัดสินใจสั่งหน้าดับเบิ้ลชีสไป
ชอบกินชีสยืดๆ แม้ว่าคนรักจะล้อว่าคนชอบกินชีสยื่นๆจะมีพุงยื่นๆก็ตามทีเถอะ
“เห็นปั๋วเสียนไลน์มาบอกว่าวันนี้ไม่ไปทำงาน
นอนกลิ้งอยู่บ้าน
ชวนน้องมากินด้วยได้ไหมฮะ”พูดถึงเด็กชาวจีนที่หมู่นี้ไม่ค่อยได้เจอหน้ากันเท่าไหร่
หลังจากที่มินซอกเลิกทำงานร้านป้านาบีก็ไม่ค่อยได้พบกับปั๋วเสียนเลย
แต่ก็แชทคุยกันบ่อยๆ ลู่หานบอกก็ตามใจมินซอกเลย
คนตัวเล็กเลยจัดแจงโทรหาคนที่บอกนอนกลิ้งอยู่บ้านให้มากินพิซซ่าด้วยกัน
หลังจากวางสายไม่กี่นาทีไอ้เจ้าปั๋วเสียนก็มาโผล่อยู่ที่หน้าบ้าน
ถามหาพิซซ่าตาวาววับ
ลู่หานเขกหัวมันไปทีบอกไปนั่งรอก่อนหรือถ้าจะทำให้เป็นประโยชน์ก็ขี่รถไปซื้อโคล่ามาซะ
“โห
นี่ชวนมากินหรือชวนมาใช้งานเนี่ย”ไม่วายจะบ่น ลู่หานผลักหัวปั๋วเสียนอีกสักที
ยัดเงินใส่มือบอกไปซื้อโคล่ามาซะ เดี๋ยวพิซซ่าก็มาถึง
“แล้วตัวขาวมึงอยู่ไหนแล้วล่ะ?”ถามถึงเซฮุนที่กำลังเดินทางมา
จงอินบอกว่าเซฮุนรอผู้กองคริสให้ไปรับที่มหาวิทยาลัยอยู่ เดี๋ยวจะมาพร้อมกันเลย
แต่จุนมยอนยังไม่เลิกงานคงมาไม่ได้
ถ้าพิซซ่ามาก็ให้แบ่งใส่ทับเปอร์แวร์เอาไว้ให้จุนมยอนสักชิ้นก็ได้
“รู้สึกว่าช่วงนี้เราจะฉลองกันบ่อยจัง
น้ำหนักผมขึ้นด้วย”มินซอกว่า จับก้อนเนื้อตรงหน้าท้องพบว่ามันหยุ่นนุ่มขึ้นเยอะ
ทั้งเนื้อย่าง สุกี้ พิซซ่า กะจะขุนเขาให้กลมจนกลิ้งได้กันแน่ๆ
จงอินหัวเราะคล้องคอน้องมากอด บอกตัวกลมๆน่าฟัดจะตาย น่านอนกอด
อิจฉาไอ้เพื่อนตัวดีได้นอนกอดมินซอกตลอดเลย อยากจะกลับไปนอนกอดมินซอกอีกเหมือนตอนอยู่ในคุก
“กอดตีนกูไหมครับ”ขัดเพื่อนได้ชะงัดแถมด้วยนิ้วง่ามตีนหนีบขาแล้วบิดแรงๆจนจงอินต้องร้องโอดโอยปล่อยเหี้ยมาวิ่งไล่เพื่อนไปสามสี่ตัวนู่น
“เดี๋ยววันประกาศผลสอบของมินซอกเราก็ได้ฉลองกันอีก
เชื่อสิ”ลูบหัวน้องอย่างเอ็นดู บอกถ้ามินซอกติดหมอเดี๋ยวจะให้ลู่หานพากินซีฟู๊ด
คนตัวเล็กเลยเบะปากบอกกะจะขุนกันจริงๆสินะ ซีฟู๊ดน่ะตัวอ้วนเลย
คลอเลสตอรอลสูงจะตายชัก
“แล้วกินไหมล่ะ?”ลู่หานถามคนที่อยู่ในอ้อมกอดจงอิน
มินซอกยู่ปาก งึมงำว่าถึงจะอ้วนแต่กุ้งก็อร่อยไม่ใช่เหรอ
“ไอ้เด็กอ้วนเอ้ย!”อดไม่ได้จะยื่นมือไปขยี้หัวน้อง
ได้ไอ้เพื่อนหมีช่วยแกล้งอีกแรง
มินซอกเลยได้แต่ดิ้นพราดๆเพราะจั๊กจี้ที่จงอินเอาอุ้งตีนหมีจี๋เอวน้อง
กว่าจะยอมหยุดแกล้งก็ตอนที่ปั๋วเสียนกลับมาพร้อมโคล่าสามขวดใหญ่นั่นล่ะ
มินซอกผมเผ้าชี้ฟูครางหงิงๆ น้ำตาเล็ดที่ปลายหางตาน่าสงสาร เหมือนลูกหมาโดนเกาพุง
“เหมือนพิซซ่าจะมาส่งแล้วเลย
ใครจ่ายอ่ะครับ?”เด็กจีนตัวเล็กถามแล้วชี้ไปที่ประตู ได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์มาจอด
คิดว่าคงเป็นพิซซ่าที่สั่ง
ลู่หานควักเงินให้คนตัวเล็กไปมินซอกก็ขันอาสาไปช่วยเพื่อนถือพิซซ่าเข้าบ้านด้วย
อี้ชิงกับเซฮุนและคริสมาถึงในเวลาไล่เลี่ยกัน
น้องชายตัวขาวโผเข้ากอดลู่หานแน่นแล้วกระโดดขี่หลังจนพี่ชายแทบลงไปทรุด
ชมลู่หานยกใหญ่ว่าพี่ชายของอี้เก่งที่สุด ถ้าแม่ยังมีชีวิตอยู่
แม่ต้องภูมิใจในตัวพี่มากแน่ๆ
“มันจะดีกว่านี้ถ้าแม่อยู่กับเราในวันที่เราประสบความสำเร็จนะ”คนเป็นพี่ยิ้มน้อยๆ
คิดว่าถ้าแม่อยู่ด้วยตอนนี้คงจะดี แต่สุดท้ายแล้วก็ทำไม่ได้ อดีตก็คืออดีต
มันผ่านมาแล้ว เชื่อว่าแม่ก็ต้องดีใจและภูมิใจ
ที่ลูกชายเลวๆคนนี้กลับเนื้อกลับตัวได้และเลือกเดินในทางที่ดีงาม
“พ่อก็ต้องภูมิใจในตัวมินซอกเหมือนกันรู้ไหม?”จงอินคว้าน้องชายตัวเล็กที่ยืนยิ้มกับภาพพี่น้องกอดกันกลม
“กินกันเถอะฮะ
ผู้กองหิวไหม?”อี้ชิงผละจากพี่ชายมา
เอ่ยถามผู้กองตัวสูงที่ยืนอมยิ้มอยู่ข้างๆเจ้าปั๋วเสียน คริสบอกไม่มาก
แต่ก็ยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้า พิซซ่าสองกล่องถูกเปิดออก
ปั๋วเสียนหยิบชิ้นแรกเข้าปากไม่รอใครเลยโดนลู่หานตบหน้าผากเล็กๆนั่นไปทีโทษฐานไม่มีมารยาท
ไอ้เด็กนี่เลยเถียงว่าหิวจนจะแย่ ใช้งานไปซื้อโคล่าแล้วก็ขอกินก่อนนิดเดียวเอง
“เออๆ
ค่อยๆกิน เดี๋ยวติดคอ”ว่ายังไม่ทันจะขาดคำมันก็ไอค่อกแค่กร้องเรียกหาน้ำแล้ว เดือนร้อนมินซอกต้องจัดแจงรินโคล่าให้อีก
“แล้วรู้หรือยังว่าต้องไปฝึกในโรงเรียนตำรวจนะ
อาจจะต้องไปพักในนั้นด้วย”คริสถาม
เพราะต้องได้รับการฝึกเหมือนนักเรียนตำรวจทุกอย่าง
ยิ่งเป็นคนนอกที่ไม่ได้เรียนพวกเตรียมตำรวจมายิ่งต้องเข้มงวดให้มาก
การฝึกก็เข้าขั้นโหดพอควร
เป็นบทชี้วัดว่าคนที่สอบเข้ามาได้มีความสามารถพอที่จะเป็นนายตำรวจหรือไม่
“แค่ความรู้มันไม่พอหรอก
มันต้องบวกประสบการณ์และไหวพริบ ความสามารถเฉพาะตัวเยอะแยะ
เพราะฉะนั้นนายสองคนอาจจะเหนื่อยหน่อย
โดยเฉพาะมึงน่ะไอ้ลู่หาน”เพราะจงอินทำงานกับตำรวจมานานจึงมีความสามารถและทักษะหลายอย่าง
แต่ลู่หานอ่อนประสบการณ์คงต้องถูกฝึกหนักกว่าพวก
“เหนื่อยไม่กลัวหรอก
กลัวจะขาดใจตายไม่เจอแฟนมากกว่า”แซวคนตัวเล็กข้างๆปั๋วเสียนจนน้องต้องก้มหน้างุด
ไอ้จงอินพึมพำด่าคนที่เสี่ยวฉิบหาย บอกว่าวันอาทิตย์เขาก็ให้กลับบ้านหรอกไอ้โง่
ใครที่ไม่อยากกลับก็อยู่ในโรงเรียนได้ ใครอยากจะกลับก็กลับไป เช้าวันจันทร์ก็กลับมาฝึกต่อ
พิซซ่าจากสองถาดร่อยหลอลงจนในที่สุดก็หมดลง
ปั๋วเสียนลากท้องที่เต็มไปด้วยแป้งกลับบ้านตัวเองไปแล้ว
จงอินนอนเอกเขนกอยู่กับเซฮุนที่หน้าทีวี ส่วนคริสไปส่งอี้ชิงทำงานและเลยไปรับจุนมยอนที่โรงพยาบาลตำรวจเพราะได้เวลาอีกคนเลิกงานแล้ว
ลู่หานแซวไอ้ผู้กองว่ายังไงยังไงกับจุนมยอนอยู่นะ
จะปิ๊งปั๊งกันจริงอย่างไอ้จงอินกับเซฮุนจับคู่ให้หรือเปล่า
“เพ้อเจ้อแล้วไอ้สัด”
ถือว่าเป็นคำด่าที่มุมิ
แม้เสียงที่เปล่งออกมาจะทุ้มใหญ่แต่ไอ้อาการหลุกหลิกนั่นปิดไม่มิดหรอก ลู่หานบอกตามสบาย
แต่ยังไงก็ช่วยดูแลจุนมยอนด้วยแล้วกัน
“จะกินเบียร์กันต่อเหรอฮะ?”มินซอกเดินมาถามหลังจากเอากล่องพิซซ่าไปทิ้งแล้ว
เห็นจงอินพร่ำๆว่าอยากดื่มเบียร์
มินซอกไม่ได้ห้ามแต่คิดว่าจะดื่มบ่อยไปหรือเปล่าช่วงนี้ ลู่หานบอกไม่เป้นไรหรอก
ไม่มีงานเสียหน่อย อุตส่าห์มีวันดีๆทั้งทีก็ฉลองกันให้เต็มที่ ถือว่าส่งท้ายก่อนเข้าฝึกด้วย
วันอาทิตย์กลับมาก็อยากจะนอนกอดมินซอก ไอ้จงอินก็คงแล่นไปหาเซฮุน
คงร้างเครื่องดื่มพวกนี้ไปอีกนาน
“อย่าให้พี่จงอินเมานะฮะ
ไม่งั้นลำบากแน่ๆ”ถ้าเมาเหมือนครั้งที่แล้วใครจะลากกลับได้ เหนื่อยเซฮุนอีกแน่ๆ
จะให้นอนที่บ้านลู่หานก็ไม่มีห้องหับเหลือ มานอนข้างนอกยุงได้ห้ามจนตัวแดงเป็นจ้ำๆชัวร์เลย
“ไม่ให้มันเมาขนาดนั้นหรอก
มินซอกไปอาบน้ำก่อนเลยก็ได้นะ จะเข้าห้องไปอ่านแฮร์รี่ต่อก็ได้
พวกพี่กินกันไม่ดึกมากหรอก”บอกน้องแบบนั้น มินซอกพยักหน้า
ถามอีกคนว่าจะไปซื้อเบียร์ตอนไหน ให้ไปช่วยถือหรือเปล่า
“ไม่เป็นไร ไปอาบน้ำได้แล้ว
ถ้าง่วงก็นอนเลยนะ”มินซอกได้ยินก็พยักหน้ารับ
เดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำอย่างที่พี่บอก ลู่หานเรียกให้จงอินไปช่วยหิ้วเบียร์
วันนี้ไม่อยากจะเมามากเลยซื้อมาแค่สามขวดเอาแค่หายเปรี้ยวปากแล้วก็แยกย้าย
ส่งเพื่อนกับแฟนเพื่อนกลับไปแล้วลู่หานจึงเข้าไปดูมินซอกในห้องนอน
คนตัวเล็กยังนั่งอยู่ที่โต๊ะญี่ปุ่นของเจ้าตัว เปิดหนังสือนวนิยายเรื่องโปรดอ่าน
เห็นว่าลู่หานเข้ามาก็ถามเสียงใสว่าจงอินกลับไปแล้วเหรอ
“อืม
กลับไปแล้ว มินซอกยังไม่ง่วงเหรอ?”เห็นอีกคนนั่งอ่านหนังสือตาแป๋ว มินซอกยิ้ม
บอกว่าไม่ง่วงเลย คงเพราะกินโคล่ามากไป ลู่หานยีหัวน้องไม่เชื่อหรอกว่ามินซอกจะยังไม่ง่วง
กินพิซซ่าไปตั้งสามชิ้น เดี๋ยวก็ตาปรือปรอย
“ไปอาบน้ำเถอะฮะ”ไล่อีกคนไปอาบน้ำ
ถึงจะกินกันไม่มากแต่กลิ่นเบียร์ก็เหม็นหึ่ง ลู่หานบอกต้องรอให้เหงื่อออกอีกสักพัก
ขับกลิ่นเบียร์ออกมา ไม่อย่างนั้นถึงจะอาบน้ำแล้วก็ยังเหม็นอยู่ดี
มินซอกไล่ให้ไปวิ่งรอบบ้านสักรอบจะได้เหงื่อออกเยอะๆ
“ไม่เอาอ่ะ
ทำอย่างอื่นก็เหงื่อออกได้นะ”พูดสองแง่สองหง่ามแถมยังยกยิ้มเจ้าเล่ห์
เห็นน้องหน้าเปื้อนสีแดงแล้วก็ชอบอกชอบใจ ทำให้มินซอกเขินคงเป็นงานอดิเรกของลู่หาน
แล้วไอ้ที่บอกทำอย่างอื่นก็เหงื่อออกได้แล้วมาทำสายตาเจ้าเล่ห์นั่นมันอะไรกันล่ะ
“ถ้าจะทำผมก็ไม่เคยห้ามเลยนี่ฮะ”บอกกับคนรักแล้วช้อนสายตามอง
แต่ลู่หานกลับขยี้หัวทุย บอกว่าเลิกพูดเรื่องนี้เถอะ มินซอกปิดหนังสือลง
หันมาเผชิญหน้ากับคนรักแบบตรงๆ ถามว่าเพราะอะไร ลู่หานไม่ยอมทำเพราะกลัวเขาจะบอบช้ำเหรอ?
หรือกลัวจะเจ็บ มินซอกบอกแล้วว่าเต็มใจ
แต่นับจากวันนั้นในห้องน้ำที่ลู่หานจู่โจมมา
คนรักก็ไม่แตะต้องมินซอกมากกว่าหอมและจูบอีกเลย
ถ้าอย่างนั้นก็อดจะคิดไม่ได้ว่ามินซอกไม่มีน่ากอดงั้นใช่ไหม?
หรือ...พี่ยังคงชอบร่างกายของผู้หญิง
สัดส่วนที่โค้งเว้าน่าจับต้อง หน้าอกที่นูนใหญ่จับเต็มไม้เต็มมือ...
“คิดอะไรอยู่”เหมือนรู้ทันว่าสมองก้อนน้อยๆกำลังคิดเองเออเองไปไกล
ลู่หานโยกหัวน้องไปมาบอกว่าเลิกคิดเดี๋ยวนี้ กำลังคิดน้อยใจอะไรอยู่
“มินซอกคิดว่าที่พี่ต้องการจากมินซอกคืออะไร
เซ็กส์เหรอ?”ถามน้องที่หลุบตาไปมองมือตัวเอง
ลู่หานเชยคางให้มินซอกมองหน้ากันอีกครั้ง
“พี่ดูแลของพี่มา
พี่รักของพี่...เซ็กส์มันอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคู่แต่มันก็ไม่ใช่ทั้งหมด...พี่อยากให้มินซอก
เป็นมินซอกที่น่ารัก ใสสะอาดแบบนี้”
“...”
“ไม่ใช่ว่าพี่ไม่อยากนอนกับเรา
ถึงจะเพิ่งเคยชอบผู้ชายสักคนพี่ก็ไม่รังเกียจจะมีอะไรด้วยหรอกนะ...ยิ่งถ้าเป็นคนที่พี่รัก
แน่นอนว่าพี่อยากเอาใจจะขาด”บอกพร้อมจ้องในตาน้อง
คำว่าอยากเอาใจจะขาดทำให้ริ้วแดงพาดที่แก้มกลมอย่างน่าเอ็นดู
แบบนี้ต่างหากที่ลู่หานต้องการ มินซอกที่น่ารัก คนที่เขินอายกับการกระทำของเขา คนที่บริสุทธิ์เป็นผ้าผืนสีขาว
ผ้าผืนนี้ที่เขาซักจนสะอาดด้วยมือของตัวเอง
“เข้าใจที่พี่พูดหรือเปล่า”ใช้หัวแม่มือเกลี่ยแก้มใส่แผ่วเบา
มินซอกก้มหน้างุดคนเป็นพี่เลยดันตัวน้องมาปะทะอกแล้วกอดเอาไว้ มินซอกส่งเสียงงื่อ
ซุกหน้าเข้ากับอกของอีกคน มือยกกำเสื้อลู่หานแน่น เอ่ยคำว่ารักให้อีกคนฟัง
“ผมรักฮยองนะ”ลู่หานยิ้มกว้าง
กดจูบลงบนกลุ่มผมหอม บอกว่ารักเหมือนกัน ไม่รักมินซอกแล้วจะให้ไปรักใคร
แค่นี้ก็หลงจนไม่รู้จะยังไงแล้ว ไม่ต้องมีเซ็กส์ไม่เห็นจะเป็นไร
หรือถ้ามินซอกเกิดอาการอยากเรื่องอย่างว่าก็บอก เขาพร้อมจะช่วย
“งื่อ ลามกฮะ”ดันตัวออกจากอีกคน
ยู่หน้าว่าเสียงใส ลู่หานใช้นิ้วจิ้มแก้มกลมที่ป่องออก
แซวยัยหน้าแดงว่าหรือไม่จริง ถามคนรักว่าครั้งนั้นน่ะเพิ่งเคยเสร็จครั้งแรกใช่ไหม?
แล้วตั้งแต่ครั้งนั้นก็ไม่เคยช่วยตัวเองอีกเลยสิท่า
คนเป็นน้อยอ้าปากเหวอตีอกไอ้คนพี่แรงๆ บอกว่าเพ้อเจ้อใหญ่แล้ว
ถึงจะเป็นเรื่องจริงก็ตามเถอะ
“ผมไม่ได้ลามกนี่ฮะ
ทำไมต้องทำเรื่องแบบนั้นบ่อยๆด้วยล่ะ”ว่าแล้วลุกหนีพี่ไปทิ้งตัวลงนอนที่ฟูก
ไม่วายไล่ให้ลู่หานไปอาบน้ำได้แล้ว เหม็นเหงื่อคนกินเบียร์
ลู่หานหัวเราะ
ยกยิ้มกับใบหน้าแดงจัดของยัยแก้มแดงของเขา...
เห็นไหมว่ามินซอกแบบนี้น่ารักขนาดไหน...
แล้วจะให้เขาทำเรื่องอย่างว่ากับอีกคนได้ยังไง...คนที่ไม่แม้แต่จะประสีประสาเลยสักนิด
ช่วยตัวเองก็ยังไม่เคย เด็กคนนี้บริสุทธิ์เกินกว่าเขาจะทำให้แปดเปื้อนได้จริงๆ
ให้เลวแค่ไหนลู่หานก็ไม่กล้า
แต่ถึงอย่างนั้น
การที่อีกคนไม่มีประสบการณ์ด้านเพศเลยก็ไม่ใช่เรื่องดี มินซอกโตมากแล้ว
อย่างน้อยก็ควรรู้จักการปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศ
...ซึ่งเขาไม่คิดจะสอนคนรักในตอนนี้หรอกนะ...
“ยังไม่ไปอาบน้ำอีกเหรอฮะ
ง่วงแล้วนะ”เห็นว่าลู่หานยังไม่ไปอาบน้ำเสียที
คนที่แก้มยังแดงปลั่งเลยผงกหัวจากหมอนขึ้นมาถาม ลู่หานร้องบอกว่าจะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ
ส่ายหัวเพราะรู้ว่าคนตัวเล็กน่ะง่วงแล้วล่ะสิ ไหนนะเด็กน้อยที่บอกว่ายังไม่ง่วง
ไอ้อาการงอแงแบบนี้คืออะไรกัน
หลังอาบน้ำลองดมกลิ่นตัวก็ดูสะอาดดี
อาจจะมีกลิ่นเหม็นน้อยๆช่วงที่เหงื่อออกมาอีก แต่ก็ไม่มากเกินจะทนไม่ไหวหรอก
ลู่หานขยี้ผมที่เปียกชื้นแล้วพาดผ้าขนหนูเอาไว้ มองที่ที่นอนคนตัวเล็กหลับไปแล้ว
นี่ไงล่ะคนไม่ง่วง หลับปุ๋ยสบายเชียว
มือเรียวตบสวิตช์ไฟลงก่อนจะแทรกตัวเข้าไปนอนกับมินซอก
โอบคนรักเอาไว้แล้วทรุกหน้าลงที่กลุ่มผมนิ่มที่ยาวมากแล้วแต่มินซอกยังไม่ได้ไปตัด
ซึ่งลู่หานก็ไม่ได้บอกให้อีกคนตัดเช่นกัน ผมยาวๆนิ่มๆเหมือนขนแมว
เขาชอบที่จะกดจูบลงไปหรือนอนทรุกไซร้แบบนี้
ไม่ต้องมีเซ็กส์
ไม่ต้องมีเรื่องความต้องการทางเพศ...
แค่ได้นอนกอดทุกคืนก็พอแล้ว...
ไม่ต้องมีเรื่องพวกนั้นมาเกี่ยวเลยจริงๆ
ค น คุ ก
จงอินส่งจูบให้เซฮุนที่เดินไปขึ้นรถผู้กองคริส
ยัยตัวขาวคว้าจูบที่แฟนส่งให้มาปาลงพื้นแล้วแลบลิ้นใส่น่าหมั่นไส้
ปากแดงๆนั่นก็น่าตีให้เจ่อเลย ยู่อยู่ได้
ไม่รู้หรือไงว่าน่ารักมาก!!
“เซฮุนนี่น่ารักจังเนาะ”จุนมยอนเอ่ยขึ้นด้านหลัง
ในมือของคนตัวขาวมีพิซซ่าที่จงอินปันใส่ทับเปอร์แวร์กลับมาด้วย
“เดี๋ยวนี้ผู้กองเขาไปรับไปส่งเลยนะ
ไหนบอกไม่มีอะไรไง”จงอินถาม คิดว่าเรื่องเมื่อคืนนั้นคงลงเอยด้วยดี
ระหว่างผู้กองกับจุนมยอนก็ดูปรกติดี ติดที่ผู้กองคล้ายจะดูแลอีกคนดีมากขึ้น
ไปรับไปส่ง พาไปบ้านพ่อแม่วันหยุด
แล้วพ่อแม่ของจุนมยอนก็ต้อนรับผู้กองหนุ่มดีเสียด้วย
“อย่างกับคนรักกัน”พูดตามที่เห็น
จุนมยอนเบิกตากว้าง ส่ายหัวดิก
“หยุดพูดไปเลย”ยัดพิซซ่าคำสุดท้ายใส่ปากก่อนจะปัดมือที่เปรอะเปื้อนแล้วเดินไปหาน้ำกิน
จงอินหัวเราะบอกว่าก็พูดไปตามที่เห็น ผู้กองก็ไม่ได้แย่ตรงไหน หน้าที่การงานก็ดี
หน้าตาก็โคตรรดี
“เปิดใจมั่งเถอะจุนมยอน...ให้ฉันพูดตรงๆไหมว่านายไม่มีทางกลับไปเป็นผู้ชายที่มีชีวิตปรกติ
มีเมียมีลูกได้อีกแล้วล่ะ
สิ่งที่นายมองว่าเป็นตราบาปมันเกาะกุมใจนายอยู่ไม่รู้เหรอ”
“...”
“ยอมรับผู้ชายดีๆสักคนเข้ามาในหัวใจนายดูนะ...”จงอินตบบ่าเพื่อนก่อนจะแยกเข้าห้องตัวเองไป
จุนมยอนมองตามอีกคน เก็บคำพูดของจงอินมาคิด
ถูก...
แม้จะบอกว่าออกจากคุกก็อยากเป็นแค่ผู้ชายปรกติธรรมดา
มีเมียสักคน มีอาชีพที่มั่นคง แต่ความจริงคือเขาก็ยังคิดถึงเรื่องที่เดิมๆอยู่
มันคือตราบาปอย่างที่จงอินว่า ทำให้เขาไม่มีหน้าไปมองผู้หญิงคนไหน
และกับผู้ชายด้วยกันก็หวาดหวั่น
เปิดใจ...
จงอินหมายถึงเขาควรจะเปิดใจให้กับใครสักคน...ผู้ชายสักคนใช่ไหม?
หัวเราะขื่นๆ
ถ้ามีผู้ชายสักคนที่ไม่มองเขาเป็นแค่ตัวอะไรสักอย่างที่มีแรงดึงดูดต่อเพศเดียวกันอย่างมหาศาล
ไม่มองเขาที่แค่ใบหน้ารูปร่างที่น่าหลงใหล
ใครสักคนที่สามารถไม่แตะต้องและสร้างบาดแผลในใจ
แค่อยู่เป็นเพื่อนใจข้างๆกันได้...
ถ้ามีคนแบบนั้นเขาก็คงเปิดใจรับ...
“ฉันจะช่วยนายเอง...ครั้งนี้ฉันพูดจริงๆ
มันจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบเมื่อคืนอีก...ฉันจะไม่มองนายเป็นแค่วัตถุทางเพศ”
“...”
“และจะไม่ให้คนอื่นมองนายอย่างนั้น”
“...”
“เรามาเริ่มใหม่กันอีกครั้งนะ...”
รอยยิ้มน้อยๆจุดที่มุมปากก่อนมันจะจางหายไป...
อยู่ดีๆก็คิดถึงคำพูดของใครบางคนขึ้นมา...
TBC.
มันน้อยนะ
เอาจริงๆ ยอมรับเลย ขอโทษจริงๆค่ะ ปั่นสุดๆแล้ว ร่างกำลังจะสลาย ขอโดเนทกาแฟด้วยนะ
ไปทำงานเหมือนซอมบี้ละ
เหลืออีก3-4ตอนค่ะ
ปล.
ปิดโอนฟิควันที่28นะ แจ้งโอนได้ถึง30
ใครยังไม่มีเงินอยากจองไว้ก่อนแล้วโอนทีหลังสามารถบอกกันได้
จะในบทความหรือเมนชั่นทวิตเตอร์ก็ได้
ขอบคุณนะคะ
ไม่ได้พูดคำนี้นานเลย...
รักนะ♥
#พี่ลู่คนคุก
แมลงจี่...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น