วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2558

คนคุกคิมจงอิน.1


ใจตรงกันรอวันเปิดเผย

 

 

 

คิมจงอิน.1

 

“แล้วมึงก็ให้น้องออกจากห้องน้ำไป”จงอินปะติดปะต่อเรื่องราวจากการเล่าของลู่หานพูดออกมาอย่างรู้ดีว่าเพื่อนต้องทำแบบนั้นแน่ๆ ซึ่งมันก็เป็นความจริง ลู่หานพยักหน้าบอกว่าให้มินซอกแต่งตัวแล้วออกไปจากห้องน้ำก่อน จากนั้นลู่หานจึงจัดการอารมณ์ที่ค้างคาเพราะฤทธิ์ยาไปอีกหลายครั้ง กว่าจะเสร็จทุกอย่างมินซอกที่กลับไปนอนรอที่ห้องก็หลับไปแล้ว คงเพลียด้วยเหตุผลหนึ่ง

“นับถือฉิบหาย น้องยอมขนาดนี้ก็ยังตัดใจหยุดได้ พระเอกเหี้ยๆ”ปรบมือให้ด้วยสองทีทำเอาลู่หานซึ้งใจจนต้องยกตีนถีบมันไป ลู่หานนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมา เมื่อคืนเขาไม่ได้นอนกอดมินซอก วันรุ่งขึ้นก็พาอีกคนไปซื้อโทรศัพท์มือถืออย่างที่สัญญา แต่ลู่หานก็ไม่ได้ทำอะไรมากกว่าพามินซอกไป เขาไม่ได้กอดน้อง ไม่ได้หอมน้องเหมือนเคย เพราะในใจยังรู้สึกผิด ต่อให้มินซอกพูดว่าลู่หานไม่ต้องรู้สึกผิดอะไร น้องยอมที่จะตกเป็นของเขา แต่คนที่โอบอุ้มมินซอกมาตลอดในวันนี้กลับเป็นคนเดียวกันกับที่ทำลายความบริสุทธิ์เหมือนเด็กของมินซอกลง จะไม่ให้เขารู้สึกผิดได้ยังไง

 

“ถ้าเป็นเซฮุนอยู่ตรงหน้ามึงในสภาพเนื้อตัวแดงเถือก หมดเรี่ยวหมดแรง มึงเพิ่งพาน้องไปถึงสวรรค์เป็นครั้งแรกในชีวิตเพราะฤทธิ์ยาปลุก มึงจะรู้สึกยังไง”ลู่หานถามกลับ จงอินหัวเราะบอกว่าถ้าเป็นเซฮุนเขาจะไม่ปล่อยให้หลุดมือไปหรอก...แต่ถ้าเป็นมินซอก...เขาก็ทำไม่ลงเหมือนกัน ถึงน้องจะบอกว่าทำได้ก็ตาม

เพราะดูแลอีกคนมาอย่างดี จะทำร้ายมินซอกได้ยังไง

ถึงไม่เคยลองกับผู้ชายเพราะเซฮุนเป็นผู้ชายคนแรกที่จงอินชอบ ก็พอจะเดาออกว่าการเอาท่อนเนื้อแข็งๆยาวๆชำแรกเข้าร่างของผู้ชายด้วยกันมันต้องเข้าทางไหนและจะเจ็บขนาดไหน ไอ้ลู่หานไม่มีทางยอมให้มินซอกเจ็บแบบนั้นหรอก

ถึงมันจะโง่ รู้ตัวช้า เป็นควายผู้จีนให้จงอินกับคนอื่นรุมด่าอยู่นานสองนาน แต่เมื่อมันรู้ใจตัวเอง มันก็ปฏิบัติกับความรักของมันด้วยความบริสุทธิ์ใจ...จงอินชื่นชมจุดนี้ของลู่หานเสียจริง ถึงจะน่ารำคาญที่มันทำตัวหวานเลี่ยนน่าหมั่นไส้ก็ตามเถอะ

“ว่าแต่มึงเถอะ หมู่นี้น้องนีออนไม่ค่อยมากับผู้กองคริสเลยนิ่”เขาถามถึงโอเซฮุนที่หายหน้าหายตาไปเลย ช่วงแรกๆที่ลู่หานมาทำงานที่นี่เขามักจะเห็นเซฮุนติดสอยห้อยตามคริสมาด้วยเสมอ ถึงจะออกตัวก่อนจนล้อฟรีว่าที่ตามพี่ชายมาเพราะไม่มีอะไรทำเลยขี้เกียจอยู่บ้านก็ตามเถอะ

“ติดเรียนมั้ง ใกล้สอบแล้ว”ช่วงนี้เป็นช่วงใกล้สอบปลายภาค นักศึกษาก็คงต้องขยันเข้าเรียนมากขึ้น เซฮุนก็เช่นกัน เพราะคนตัวขาวเป็นนักศึกษาสาขาการแสดงของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ไม่แปลกเลยที่จะแสดงบทบาทน้องชายได้แนบเนียน น้ำตานี่หยดเหมือนสั่งได้ตอนเข้าขึ้นศาล

 

“พรุ่งนี้บุกจับปาร์ตี้สร้างปัญหาแล้ว มึงพร้อมจะโดนจับอีกรอบหรือยังล่ะ”จงอินวางเรื่องเซฮุนลงแล้วถามถึงงานที่ลู่หานได้รับมอบหมายแทน ที่บอกว่ามันเป็นปาร์ตี้สร้างปัญหาก็เพราะว่าเพื่อนเขาไปปาร์ตี้นั้นเลยโดนยาปลุกเข้าให้ยังไงล่ะ ลู่หานด่าจงอินปากหมา เขาไม่ได้โดนจับอีกครั้งเสียหน่อย ตำรวจที่เข้าไปบุกจับไม่ได้จับเขาแต่จับพวกนักศึกษาพวกนั้นต่างหาก

“ก็เหมือนกันนั่นแหล่ะ มึงก็ปลอมตัวเป็นนักศึกษาอยู่ไม่ใช่หรือไง”ลู่หานป่วยการจะพูดกับมัน เขาฝากบอกผู้กองคริสที่ไปราชการว่าเขากลับก่อน วันนี้นัดกับมินซอกว่าจะพาไปซื้อหนังสือแฮร์รี่พอร์ตเตอร์ที่มินซอกบ่นว่าอยากได้เพราะเล่มที่ซื้อมาอ่านจบไปวันอาทิตย์

เสียงโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าลู่หานดังขึ้น เป็นมินซอกที่โทรมาถามว่าคนรักถึงไหนแล้ว ตัวมินซอกเองเพิ่งเลิกเรียนและกำลังจะไปรอที่ร้านหนังสือให้ลู่หานตามไปได้เลย

 

จงอินมองตามเพื่อนจนมันเดินออกจากบ้านไป ช่วงนี้จงอินไม่ค่อยมีงานเพราะกำลังเตรียมตัวสอบตำรวจอยู่ เวลาส่วนมากเขาใช้หมดไปกับการอ่านหนังสือสอบ มีงานใหญ่ๆอีกงานที่เขาจะรับผิดชอบร่วมกับลู่หานคือคดีล่อซื้อ

ตัวขายเป็นผู้มีอิทธิพลเจ้าหนึ่ง ประวัติบอกว่ามีธุรกิจร่วมกันและสนิทสนมกับฮวังชอนจี คนที่เป็นแบ๊กอัพหนุนหลังธุรกิจค้ายาที่เพิ่งถูกจับกุมไปอีกด้วย งานนี้คงยากหน่อย เพราะหลังจากชอนจีถูกจับกุมได้จากการให้การของกอนโม ตัวขายหลายรายก็ระวังตัวแจ งานนี้จงอินเลยต้องแฝงเข้าไปเป็นหนึ่งในบอดี้การ์ดของผู้ต้องหาเพื่อรายงานถึงความเคลื่อนไหวของตัวขายคนนี้ ส่วนลู่หานจะรับบทเป็นคนล่อซื้อ

เขาหยิบหนังสือสอบตำรวจที่อ่านค้างไว้ขึ้นมาอ่านต่อ ทั้งกฎหมายต่างๆและความรู้ทางสังคมศาสตร์ตีกันอยู่ในหัว แล้วยังจะวิชาภาษาอังกฤษอีกที่เขาไม่ค่อยเข้าใจมันซักเท่าไหร่แต่เป็นวิชาที่เก็บคะแนนสูงน่าดู แต่ที่มานั่งทนอ่านก็เพราะใครบางคน...

เห็นเซฮุนพูดบ่อยว่าพี่ชายของตัวเองนั้นเท่ เป็นตำรวจดีมีความสามารถ ได้แฟนอย่างนี้คงจะดี อีกอย่าง แค่ลำพังเป็นสายตำรวจกิ๊กก๊อกมันจะไปสู้คุณหมอจบด็อกเตอร์ปริญญาเกียรตินิยมได้ยังไง แถมปาร์คชานยอลยังมีผู้กองคริสสนับสนุนอยู่ด้วย คิมจงอินคนธรรมดาไม่สามารถไปสู้เขาได้เลย

คิมจงอินคนธรรมดาเลยต้องสอบตำรวจให้ผ่าน อย่างน้อย เขาก็จะเป็นนายตำรวจคิมจงอิน ไม่ใช่แค่คิมจงอิน ภาษีก็ดูดีกว่ากันเยอะ

 

เสียงข้อความโปรแกรมแชทดังขึ้นทำให้จงอินต้องละสายตาจากหนังสือไปมองหน้าจอโทรศัพท์ หน้าต่างสีเขียวที่เด้งขึ้นมาโชว์ข้อความจากหมายเลขที่จงอินเม็มชื่อไว้เป็นพิเศษว่า “ตัวขาว” เขาลอบยิ้มเมื่อคิดถึงตอนที่ออกมาจากคุกวันแรกและได้หยิบโทรศัพท์อีกครั้ง โอเซฮุนคว้าโทรศัพท์เขาเอาไปกดยุกยิกแล้วส่งคืนให้บอกว่าเปลี่ยนเบอร์โทรตอนจงอินอยู่ในเรือนจำ แต่เม็มเบอร์ใหม่ให้แล้ว

ชื่อว่า “โอเซฮุน” ไม่ค่อยถูกใจจงอิน เขาอยากจะมีชื่อที่พิเศษสำหรับเซฮูน สุดท้ายก็เลยได้ชื่อ “ตัวขาว” เพราะสีผิวของเจ้าตัวนั่นล่ะที่มันขาวสว่างกว่าใคร

-ตัวอยู่บ้านไหม?-

จงอินพิมพ์ตอบกลับไปด้วยคำถามว่าทำไม? มีอะไรหรือเปล่า อีกฝ่ายก็ส่งสติ้กเกอร์หน้ายู่ปากจู่กลับมา ตามด้วยข้อความที่อ่านแล้วต้องอมยิ้ม

-จะไปรอพี่คริสที่นั่น-

 

จงอินไม่ได้เข้าข้างตัวเองหรอก ที่ทุกวันนี้ยังปักใจกับเซฮุนทั้งที่คู่แข่งอันดับหนึ่งก็ดีกว่าเขาไปทุกอย่าง เหตุผลนอกจากความรู้สึกของหัวใจก็คงเป็นการที่เซฮุนแสดงออกว่าก็มีใจให้กันนี่ล่ะ

จำไม่ได้ว่าเรียกแทนกันและกันว่า “ตัว” ตั้งแต่ตอนไหน แต่พอจะนึกออกว่าคำนี้เซฮุนเป็นคนเริ่ม จงอินก็แค่ใช้คำที่เหมือนกันเพื่อแกล้งแหย่ล้ออีกฝ่าย สุดท้ายก็กลายเป็นความเคยชินและเป็นคำเรียกที่พิเศษสำหรับเรา

จงอินพิมพ์ข้อความกลับไปว่าให้เซฮุนมาสิ เดี๋ยวผู้กองคริสก็เข้ามา แต่ก่อนจะเข้ามาก็ซื้อของกินมาฝากกันบ้าง ฝั่งนั้นเลยส่งสติ้กเกอร์หมูตัวอ้วนดำปี๋มาให้

-กินมากจะอ้วน อ้วนเป็นหมู หมูหัวโล้น-

จงอินหัวเราะออกมากับข้อความของเซฮุน พอเห็นคำว่าหัวโล้นก็ต้องยกมือขึ้นลูบผมตัวเองตลอด ไอ้ลู่หานกับมินซอกผมเริ่มยาวกันแล้ว แต่จงอินเป็นคนผมยาวช้า เลยยังเตาะแตะอยู่แค่ไม่กี่เซนจากหนังหัว เซฮุนชอบพูดว่าเขาหัวโล้นทั้งที่ความจริงมันก็ไม่ได้โล้นเสียหน่อย ทรงนี้แต่ก่อนเขาฮิตกันระเบิด เรียกว่าสกินเฮต

แต่ไอ้ตัวขาวก็ไม่ได้สนใจหรอกว่าเขาจะเรียกทรงนี้ว่าอะไร เซฮุนก็เรียกว่าหัวโล้นอยู่ดี

หลังจากข้อความสุดท้ายสิ้นสุดลง แค่ครึ่งชั่วโมงโอเซฮุนก็มายืนอยู่หน้าบ้าน คนตัวขาวหิ้วถุงพลาสติกเข้ามาพะรุงพะรัง จงอินวางหนังสือภาษาอังกฤษที่อ่านลงแล้วไปช่วยอีกคนถือของไปวางในส่วนครัว ถามว่าซื้ออะไรมาเยอะแยะ เซฮุนถอดเสื้อนอกตัวแขนยาวออก บ่นอุบว่าร้อนชะมัดแล้วจึงเปิดตู้เย็นหาน้ำเย็นๆมาดับกระหาย

จงอินเปิดถุงพลาสติกที่อีกคนหิ้วซื้อมาดู มีกับข้าวอยู่อย่างสองอย่าง และมีขนมอยู่อีกสองถุง คนตัวหนายิ้มออกมาเมื่อหนึ่งในสองถุงนั้นเป็นปุงออปังไส้ถั่วแดงที่เขาชอบ

“จำได้ด้วยว่าชอบกินอะไร แหม รู้ใจกันจัง”คนตัวโตพูดออกมา คว้าเจ้าขนมรูปปลาออกมากัด เห็นเซฮุนที่หลังหลังให้กันก้มๆเงยๆอยู่หน้าตู้เย็นชะงักไปน้อยๆก่อนคนตัวขาวจะหันมายู่หน้าใส่

“ก็ผ่านเลยซื้อๆมาหรอก จะไปจำทำไมว่าตัวชอบกินอะไร เค้าไม่ใช่แฟนตัวนะ”พูดไปก็หน้าร้อนผ่าว จงอินบอกอีกครั้งว่าไม่ได้เข้าข้างตัวเองหรอก เขาเชื่อว่าเซฮุนมีใจให้กัน คนตัวโตกว่าแกล้งงับปุงออปังไว้กึ่งหนึ่งแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้คนที่ยังยู่หน้าอยู่ เซฮุนผงะไปน้อยๆแล้วจึงตั้งหลักได้ มือเรียวขาวดึงขนมปังปลาที่อีกคนคาบเอาไว้จนมันขาดกลางตัว ไส้ถั่วแดงปริทะลักออกมา เซฮุนโยนขนมปังเข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ

จงอินงับขนมที่เหลือในปากไว้ทันก่อนไส้จะทะลักร่วงไปที่พื้น มองคนที่เคี้ยวขนมชิ้นเดียวกันจนแก้มกลม

“น้ำลายเค้าอร่อยล่ะสิ เคี้ยวแก้มย้วยขนาดนั้นอ่ะ”จงอินแกล้งแซว เซฮุนยู่ปากใส่แล้วสะบัดหน้าพรืดหนีไปนั่งที่โต๊ะหน้าทีวีแถมยังเปิดดูช่องสารคดีเอาตามสบาย จงอินยิ้มกริ่ม กำลังจะพูดต่อเชียวถ้าอีกคนไม่สะบัดหน้าหนีกันไปก่อน

ว่าถ้าน้ำลายเขาอร่อยอยากจะลองชิมปากต่อปากกันไหม?...

ถุย!! นึกเหี้ยอะไรน่าขนลุก จงอินตบหัวตัวเอง เพิ่งด่าไอ้ลู่หานหยกๆว่าทำตัวเลี่ยนน่าหมั่นไส้ นี่จะไปเอาคำพูดชวนแหวะแบบนั้นมาใช้เองทำไมกัน คนตัวโตถือถุงปุงออปังมานั่งข้างคนที่ครองรีโมททีวีแต่ไม่ได้เปลี่ยนช่องไปไหน ในทีวี หมีขั้วโลกกำลังเดินกันยั้วเยี้ย ขนสีขาวของมันกลืนไปกับหิมะที่ขาวโพลนที่ขั้วโลก คงมีแต่จมูกสีดำๆนั่นที่ทำให้รู้ว่ามันคือสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง ไม่ใช่กองหิมะ

“ตัวชอบหมีเหรอ?”จงอินถามคนที่ตั้งใจดูทีวีเอามากๆ เซฮุนพยักหน้า บอกว่าหมีตัวใหญ่ กอดทีคงอุ่น นึกถึงพี่ชายที่ตอนเล็กๆเคยกอด พี่คริสตัวใหญ่เหมือนหมี กอดทีน้องเลยอุ่นมาก แต่พอโตแล้วก็ไม่ค่อยได้กอดพี่นอกจากตอนจะอ้อนเอาอะไรถึงไปนอนกอดออเซาะเป็นลูกแมว เหมือนตอนที่ขอสวมบทบาทน้องชายของจงอินนั่นล่ะ ลงทุนเป็นแมวให้พี่คริสนอนกอดทั้งคืนกว่าจะได้

เค้าก็เหมือนหมีนะจงอินพูดแล้วกัดขนมในมือไปด้วย เซฮุนทำหน้าเหวอ นึกขึ้นมาได้ว่าอีกคนก็ตัวเหมือนหมี เป็นพ่อหมีของมินซอก คนตัวขาวหน้าร้อนขึ้นมา กดรีโมทเปลี่ยนไปช่องอื่นไม่สนใจหมีตัวขาวที่กำลังจะลงจับปลาในหลุมน้ำแข็งเลยสักนิด จงอินยิ้มกับอะไรแดงๆที่พาดหน้าของเซฮุน

คิมจงอินว่าจะไม่ ถ้าพูดคำนี้ออกมาคงกลายเป็นไอ้เสี่ยวหวานเลี่ยนเหมือนลู่หาน แต่มันอดไม่ไหวจนต้องพูดเพื่อแซวคนที่เขินหน้าแดงกอดรีโมทแน่นแบบนั้น

 

“...เค้าเหมือนหมีตัวก็ชอบเค้าสิ

 

.

.

เริ่มเข้าใจว่าเหี้ยลู่หานทำไมต้องทำตัวหวานเลี่ยนหยอดมินซอกทุกเม็ดจนน่าหมั่นไส้

...ก็เพราะคนที่ชอบเขินจนหน้าแดงมันน่ารักมากยังไงล่ะ ยิ่งเห็นอีกคนเขินแก้มแดงก็ยิ่งอยากให้มันแดงปลั่งมากยิ่งขึ้น จนอดไม่ไหวจะต้องหยอดคำเลี่ยนๆลงไปอีกเรื่อยๆ

 

 

ค น คุ ก

 

 

ผู้กองคริสกลับมาจากราชการเจอน้องชายตัวเองนอนดูทีวีก็ไม่ได้นึกแปลกใจ คนเป็นพี่ส่ายหัวกับไอ้ดื้อ ดูท่าว่าพี่ชายตัวสูงจะต้องยกน้องชายตัวดื้อให้ลูกน้องร่างหนาจริงๆ

เห็นจงอินกำลังจะสอบเข้าตำรวจ เขาเองก็สนับสนุน ถ้าจงอินสอบติดจริงๆเขาจะได้มั่นใจได้ว่าอีกคนจะดูแลเซฮุนได้

พรุ่งนี้ให้ลู่หานเข้าไปในปาร์ตี้ก่อนเลยนะ แล้วฉันจะบุกตาม ส่วนเรื่องล่อซื้อนายก็จัดการเริ่มแฝงตัวเข้าไปได้แล้ว พวกนั้นไม่ค่อยสืบประวัติคนเข้าไปเป็นการ์ด เอาแค่มีฝีมือก็ได้แล้วคริสบอกกับจงอิน มีเซฮุนที่ละสายตาจากทีวีมามองก่อนจะขมวดคิ้ว

ตัวจะปลอมตัวไปเป็นสายอีกแล้วเหรอคนตัวขาวถามออกมา เพิ่งรู้ว่างานชิ้นใหม่ที่จงอินต้องรับผิดชอบนั้นต้องปลอมตัวไปเป็นบอดี้การ์ดของผู้มีอิทธิพลที่อยู่ในวงการค้ายา เซฮุนเบะปากไม่ชอบใจ งานที่จงอินทำมันมีความเสี่ยงสูงเกินไป ไม่ใช่จงอินไม่เก่ง จงอินปลอมตัวแฝงเข้าไปยังที่ต่างๆได้แนบเนียนเสมอ แต่ถ้าหากถูกจับได้ขึ้นมา..ถ้าเกิดมันพลาด

อย่าทำหน้าไม่พอใจสิ พี่ให้งานชิ้นนี้ชิ้นสุดท้ายแล้ว จงอินจะสอบตำรวจต้องอ่านหนังสือเตรียมตัวมากๆ ต่อไปลู่หานจะมารับหน้าที่สายต่อจากจงอินคริสพูดขึ้น ดูน้องชายขมวดคิ้วก็รู้ว่าไม่พอใจที่จงอินจะต้องเสี่ยงงานอันตราย โดยเฉพาะกับผู้มีอิทธิพลที่จะเป่าสมองใครสักคนได้ง่ายๆ งานนี้เขาพยายามทำทุกอย่างให้รัดกุม จงอินได้เรียนเรื่องการใช้ปืนและการป้องกันตัวมาบ้างและมีทักษะการทำงานที่ดีเยี่ยมเขาจึงมั่นใจว่าอีกคนต้องไม่พลาดแน่ๆ

เป็นห่วงล่ะสิจงอินยิ้มกริ่ม ชอบจริงๆที่ได้ยั่วให้เซฮุนเขิน คนตัวขาวได้ยินแบบนั้นก็ยู่ปาก สะบัดหน้าหนีบอกว่าก็ห่วงตามประสาคนรู้จักกันนั่นล่ะ จงอินร้องว่าอ้อเหรอเบาๆ

เอาตามนี้ล่ะ เรื่องติดต่อขอซื้อฉันดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ลู่หานจะไปซื้อในนามของหลี่ชิวเหลียง นัดส่งของคืออีกสามอาทิตย์ข้างหน้าสรุปงานจบลงเพียงเท่านี้ คริสเรียกให้เซฮุนกลับบ้านสวนกับจุนมยอนที่เพิ่งเลิกงานและกลับเข้ามาพอดี เซฮุนทักทายอดีตนางพญาอย่างเป็นมิตร จุนมยอนเองก็เช่นกันแต่พอเหลือบสายตามองคริสใบหน้าขาวนวลก็นิ่งเฉยติดจะเหม็นเบื่อขึ้นมา

ทำงานเป็นยังไงมั่งเสียงทุ้มต่ำเอ่ยถาม จุนมยอนเก็บรองเท้าเข้าที่เสร็จแล้วหันมาบอกแค่ว่าก็ดีแล้วเดินเข้าไปทันที คริสได้แต่ส่ายหัวแล้วเดินออกจากบ้านไปพร้อมกับเซฮุน จงอินเก็บงานที่คุยกับคริสเมื่อครู่เข้าซองกระดาษ จุนมยอนมาล้อมตัวนั่งที่ที่เซฮุนนั่งอยู่เมื่อกี้นี้ มือเรียวขาวยกขึ้นมานวดขมับน้อยๆ

ทำงานเหนื่อยมากเหรอ?”เขาถาม ตั้งแต่จุนมยอนออกมาจากเรือนจำ จงอินยังไม่เห็นคนตัวขาวหยุดพักเรื่องงานเลย จุนมยอนเปลี่ยนงานมาหลายครั้ง เป็นเด็กเสิร์ฟบ้าง พนักงานร้านหนังสือบ้าง แต่สุดท้ายก็ต้องออกจากงานเพราะทนผู้ชายมาจีบไม่ไหว

เห็นนอนทอดกายให้คิมกอนโมแบบนั้น จุนมยอนเองก็เป็นแค่ผู้ชายคนหนึ่ง หากไม่มีหน้าที่ที่บังคับ ไม่มีรางวัลเป็นอิสระที่เจ้าตัวโหยหา ใครกันที่จะเต็มใจนอนให้ผู้ชายเอาโดยที่ไม่ได้รักกัน ไม่มีผู้ชายคนไหนจะเต็มใจยอมหรอกนอกจากไอ้ตัวขายน้ำ

เดิมๆ คราวนี้เป็นเจ้าของร้านด้วยซ้ำถ้าจำไม่ผิดตอนนี้จุนมยอนทำงานที่ร้านต๊อกใกล้ๆนี่เอง เจ้าของร้านเป็นผู้ชายแก่คราวพ่อ จงอินเคยไปกินต๊อกที่นั่นหลายครั้ง สภาพตาลุงเจ้าของร้านไม่น่าจะคิดเรื่องอกุศลได้แล้ว ควรจะคิดเรื่องทำบุญทำทานไว้เป็นกำลังทรัพย์ขับเคลื่อนตัวเองไปสวรรค์ตอนสิ้นใจเสียมากกว่า

จงอินได้แต่ปลอบอีกคน หน้าตาและเสน่ห์ของจุนมยอนนี่ช่างมีปัญหาเสียจริง เจ้าตัวบ่นอุบว่าถ้ามันดึงดูดเพศตรงข้ามเข้ามาคงจะดีกว่าที่เป็นเพศผู้ทั้งหมดที่หลงในดวงตาที่น่าหลงใหล

ลาออกคราวนี้ก็ไม่ต้องรีบหางานใหม่ อยู่บ้านเฉยๆไปสักพัก เห็นนายหากี่งานก็ไม่พ้นเจอผู้ชายพวกนั้นมาจีบมาลวนลามแทะเล็มจงอินบอก จุนมยอนถอนหายใจออกมาบอกว่าถ้าไม่รีบทำงานแล้วจะรีบเก็บเงินได้ยังไง เขาอยากย้ายออกไปจากที่นี่ จงอินถามว่าที่นี่ไม่ดีตรงไหน อยู่ฟรี บางครั้งก็กินฟรี ค่าน้ำค่าไฟก็ไม่เสีย

จุนมยอนไม่ชอบผู้กองที่เขาสั่งให้นายไปนอนกับไอ้กอนโมใช่ไหม?”จงอินถาม จุนมยอนกัดริมฝีปาก เขาเบือนหน้าไม่อยากจะพูดถึงเรื่องเก่า จงอินตบซองเอกสารปุปุก่อนจะลุกขึ้นยืนเพื่อเอาเอกสารไปเก็บในห้อง ก่อนจะเดินเข้าประตูห้องตัวเองก็หันมาพูดกับคนที่ยังนั่งอยู่ที่เก้าอี้หน้าทีวี

ฉันรู้ว่านายก็แค่ผู้ชายคนหนึ่งที่คงไม่ปลื้มที่ต้องไปมีอะไรกับผู้ชาย แต่คิดดูสิจุนมยอน ถึงผู้กองเขาจะตอกย้ำนายด้วยการให้นายไปนอนอ้าขาให้ไอ้กอนโมเอา แต่ก็ทำให้นายออกมาจากเรือนจำได้

“...”

เขาไม่ใช่คนที่ทำให้นายเข้าไปอยู่ในนั้นจนต้องไปเอากับผู้ชาย...นายเองต่างหากที่ทำผิดจนต้องไปใช้ชีวิตในนั้น ทางเลือกของนายมีแค่จะยอมแล้วได้อิสระออกมา หรืออยู่ในนั้นแล้วอาจจะโดนเซ็กส์หมู่แบบถึงใจอีกหลายยก...

“...”

ผู้กองแค่ยื่นทางเลือกใดทางเลือกหนึ่งมาให้...นายควรจะขอบคุณเขาด้วยซ้ำที่อย่างน้อยนายก็ไม่ต้องเป็นตุ๊กตายางให้คนในแดนทึ้งเอาตลอดเวลาที่อยู่ในคุกพูดจบแล้วคนตัวโตก็หายเข้าไปในห้อง ทิ้งให้จุนมยอนนั่งอยู่ที่เดิม คนตัวขาวยกมือขึ้นปิดหน้าแล้วงอตัวลงซบกับหน้าขาตัวเอง

จงอินพูดถูกทุกอย่าง ผู้กองคริสไม่ได้ทำอะไรเลย...

เป็นเขาเองที่ทำตัวเอง...

นึกถึงตอนที่ตัวเองโดนข่มขืนอย่างทารุณในวันแรกที่เหยียบเรือนจำ นั่นก็ไม่ใช่ความผิดของใคร...ของเขาเอง ถึงจีใบหน้า หน้าตารูปร่างที่เชิญชวนบุรุษเพศให้เข้าหา แต่ถ้าเขาไม่เก็บมันมาใส่ใจ ไม่พยายามจะทำให้ตัวเองเสเพลเพื่อเรียกเอาความมั่นใจแบบผู้ชายในทางผิดๆ เขาก็คงไม่ถูกจับ...พ่อจะไม่ตัดความสัมพันธ์กับเขา

และเขาจะไม่มีชีวิตแบบนี้...

 

 

...ก้าวขาเดินด้วยตัวเองไม่มีใครสั่ง เพราะฉะนั้นถ้าทางข้างหน้าเป็นเหวจะโทษคนอื่นได้ยังไงเพราะเขาเดินลงเหวด้วยตัวเอง...

 

 

 

 

TBC.

 

 

 

 

 

 

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น