ใจตรงกันรอวันเปิดเผย
คิมจงอิน.1…
“แล้วมึงก็ให้น้องออกจากห้องน้ำไป”จงอินปะติดปะต่อเรื่องราวจากการเล่าของลู่หานพูดออกมาอย่างรู้ดีว่าเพื่อนต้องทำแบบนั้นแน่ๆ
ซึ่งมันก็เป็นความจริง
ลู่หานพยักหน้าบอกว่าให้มินซอกแต่งตัวแล้วออกไปจากห้องน้ำก่อน จากนั้นลู่หานจึงจัดการอารมณ์ที่ค้างคาเพราะฤทธิ์ยาไปอีกหลายครั้ง
กว่าจะเสร็จทุกอย่างมินซอกที่กลับไปนอนรอที่ห้องก็หลับไปแล้ว
คงเพลียด้วยเหตุผลหนึ่ง
“นับถือฉิบหาย
น้องยอมขนาดนี้ก็ยังตัดใจหยุดได้
พระเอกเหี้ยๆ”ปรบมือให้ด้วยสองทีทำเอาลู่หานซึ้งใจจนต้องยกตีนถีบมันไป
ลู่หานนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมา
เมื่อคืนเขาไม่ได้นอนกอดมินซอก วันรุ่งขึ้นก็พาอีกคนไปซื้อโทรศัพท์มือถืออย่างที่สัญญา
แต่ลู่หานก็ไม่ได้ทำอะไรมากกว่าพามินซอกไป เขาไม่ได้กอดน้อง
ไม่ได้หอมน้องเหมือนเคย เพราะในใจยังรู้สึกผิด ต่อให้มินซอกพูดว่าลู่หานไม่ต้องรู้สึกผิดอะไร
น้องยอมที่จะตกเป็นของเขา
แต่คนที่โอบอุ้มมินซอกมาตลอดในวันนี้กลับเป็นคนเดียวกันกับที่ทำลายความบริสุทธิ์เหมือนเด็กของมินซอกลง
จะไม่ให้เขารู้สึกผิดได้ยังไง
“ถ้าเป็นเซฮุนอยู่ตรงหน้ามึงในสภาพเนื้อตัวแดงเถือก
หมดเรี่ยวหมดแรง มึงเพิ่งพาน้องไปถึงสวรรค์เป็นครั้งแรกในชีวิตเพราะฤทธิ์ยาปลุก
มึงจะรู้สึกยังไง”ลู่หานถามกลับ
จงอินหัวเราะบอกว่าถ้าเป็นเซฮุนเขาจะไม่ปล่อยให้หลุดมือไปหรอก...แต่ถ้าเป็นมินซอก...เขาก็ทำไม่ลงเหมือนกัน
ถึงน้องจะบอกว่าทำได้ก็ตาม
เพราะดูแลอีกคนมาอย่างดี
จะทำร้ายมินซอกได้ยังไง
ถึงไม่เคยลองกับผู้ชายเพราะเซฮุนเป็นผู้ชายคนแรกที่จงอินชอบ
ก็พอจะเดาออกว่าการเอาท่อนเนื้อแข็งๆยาวๆชำแรกเข้าร่างของผู้ชายด้วยกันมันต้องเข้าทางไหนและจะเจ็บขนาดไหน
ไอ้ลู่หานไม่มีทางยอมให้มินซอกเจ็บแบบนั้นหรอก
ถึงมันจะโง่
รู้ตัวช้า เป็นควายผู้จีนให้จงอินกับคนอื่นรุมด่าอยู่นานสองนาน
แต่เมื่อมันรู้ใจตัวเอง มันก็ปฏิบัติกับความรักของมันด้วยความบริสุทธิ์ใจ...จงอินชื่นชมจุดนี้ของลู่หานเสียจริง
ถึงจะน่ารำคาญที่มันทำตัวหวานเลี่ยนน่าหมั่นไส้ก็ตามเถอะ
“ว่าแต่มึงเถอะ
หมู่นี้น้องนีออนไม่ค่อยมากับผู้กองคริสเลยนิ่”เขาถามถึงโอเซฮุนที่หายหน้าหายตาไปเลย
ช่วงแรกๆที่ลู่หานมาทำงานที่นี่เขามักจะเห็นเซฮุนติดสอยห้อยตามคริสมาด้วยเสมอ
ถึงจะออกตัวก่อนจนล้อฟรีว่าที่ตามพี่ชายมาเพราะไม่มีอะไรทำเลยขี้เกียจอยู่บ้านก็ตามเถอะ
“ติดเรียนมั้ง
ใกล้สอบแล้ว”ช่วงนี้เป็นช่วงใกล้สอบปลายภาค นักศึกษาก็คงต้องขยันเข้าเรียนมากขึ้น
เซฮุนก็เช่นกัน เพราะคนตัวขาวเป็นนักศึกษาสาขาการแสดงของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ไม่แปลกเลยที่จะแสดงบทบาทน้องชายได้แนบเนียน
น้ำตานี่หยดเหมือนสั่งได้ตอนเข้าขึ้นศาล
“พรุ่งนี้บุกจับปาร์ตี้สร้างปัญหาแล้ว
มึงพร้อมจะโดนจับอีกรอบหรือยังล่ะ”จงอินวางเรื่องเซฮุนลงแล้วถามถึงงานที่ลู่หานได้รับมอบหมายแทน
ที่บอกว่ามันเป็นปาร์ตี้สร้างปัญหาก็เพราะว่าเพื่อนเขาไปปาร์ตี้นั้นเลยโดนยาปลุกเข้าให้ยังไงล่ะ
ลู่หานด่าจงอินปากหมา เขาไม่ได้โดนจับอีกครั้งเสียหน่อย
ตำรวจที่เข้าไปบุกจับไม่ได้จับเขาแต่จับพวกนักศึกษาพวกนั้นต่างหาก
“ก็เหมือนกันนั่นแหล่ะ
มึงก็ปลอมตัวเป็นนักศึกษาอยู่ไม่ใช่หรือไง”ลู่หานป่วยการจะพูดกับมัน เขาฝากบอกผู้กองคริสที่ไปราชการว่าเขากลับก่อน
วันนี้นัดกับมินซอกว่าจะพาไปซื้อหนังสือแฮร์รี่พอร์ตเตอร์ที่มินซอกบ่นว่าอยากได้เพราะเล่มที่ซื้อมาอ่านจบไปวันอาทิตย์
เสียงโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าลู่หานดังขึ้น
เป็นมินซอกที่โทรมาถามว่าคนรักถึงไหนแล้ว
ตัวมินซอกเองเพิ่งเลิกเรียนและกำลังจะไปรอที่ร้านหนังสือให้ลู่หานตามไปได้เลย
จงอินมองตามเพื่อนจนมันเดินออกจากบ้านไป
ช่วงนี้จงอินไม่ค่อยมีงานเพราะกำลังเตรียมตัวสอบตำรวจอยู่
เวลาส่วนมากเขาใช้หมดไปกับการอ่านหนังสือสอบ
มีงานใหญ่ๆอีกงานที่เขาจะรับผิดชอบร่วมกับลู่หานคือคดีล่อซื้อ
ตัวขายเป็นผู้มีอิทธิพลเจ้าหนึ่ง
ประวัติบอกว่ามีธุรกิจร่วมกันและสนิทสนมกับฮวังชอนจี
คนที่เป็นแบ๊กอัพหนุนหลังธุรกิจค้ายาที่เพิ่งถูกจับกุมไปอีกด้วย งานนี้คงยากหน่อย
เพราะหลังจากชอนจีถูกจับกุมได้จากการให้การของกอนโม ตัวขายหลายรายก็ระวังตัวแจ
งานนี้จงอินเลยต้องแฝงเข้าไปเป็นหนึ่งในบอดี้การ์ดของผู้ต้องหาเพื่อรายงานถึงความเคลื่อนไหวของตัวขายคนนี้
ส่วนลู่หานจะรับบทเป็นคนล่อซื้อ
เขาหยิบหนังสือสอบตำรวจที่อ่านค้างไว้ขึ้นมาอ่านต่อ
ทั้งกฎหมายต่างๆและความรู้ทางสังคมศาสตร์ตีกันอยู่ในหัว
แล้วยังจะวิชาภาษาอังกฤษอีกที่เขาไม่ค่อยเข้าใจมันซักเท่าไหร่แต่เป็นวิชาที่เก็บคะแนนสูงน่าดู
แต่ที่มานั่งทนอ่านก็เพราะใครบางคน...
เห็นเซฮุนพูดบ่อยว่าพี่ชายของตัวเองนั้นเท่
เป็นตำรวจดีมีความสามารถ ได้แฟนอย่างนี้คงจะดี อีกอย่าง
แค่ลำพังเป็นสายตำรวจกิ๊กก๊อกมันจะไปสู้คุณหมอจบด็อกเตอร์ปริญญาเกียรตินิยมได้ยังไง
แถมปาร์คชานยอลยังมีผู้กองคริสสนับสนุนอยู่ด้วย
คิมจงอินคนธรรมดาไม่สามารถไปสู้เขาได้เลย
คิมจงอินคนธรรมดาเลยต้องสอบตำรวจให้ผ่าน
อย่างน้อย เขาก็จะเป็นนายตำรวจคิมจงอิน ไม่ใช่แค่คิมจงอิน ภาษีก็ดูดีกว่ากันเยอะ
เสียงข้อความโปรแกรมแชทดังขึ้นทำให้จงอินต้องละสายตาจากหนังสือไปมองหน้าจอโทรศัพท์
หน้าต่างสีเขียวที่เด้งขึ้นมาโชว์ข้อความจากหมายเลขที่จงอินเม็มชื่อไว้เป็นพิเศษว่า
“ตัวขาว” เขาลอบยิ้มเมื่อคิดถึงตอนที่ออกมาจากคุกวันแรกและได้หยิบโทรศัพท์อีกครั้ง
โอเซฮุนคว้าโทรศัพท์เขาเอาไปกดยุกยิกแล้วส่งคืนให้บอกว่าเปลี่ยนเบอร์โทรตอนจงอินอยู่ในเรือนจำ
แต่เม็มเบอร์ใหม่ให้แล้ว
ชื่อว่า
“โอเซฮุน” ไม่ค่อยถูกใจจงอิน เขาอยากจะมีชื่อที่พิเศษสำหรับเซฮูน
สุดท้ายก็เลยได้ชื่อ “ตัวขาว” เพราะสีผิวของเจ้าตัวนั่นล่ะที่มันขาวสว่างกว่าใคร
-ตัวอยู่บ้านไหม?-
จงอินพิมพ์ตอบกลับไปด้วยคำถามว่าทำไม?
มีอะไรหรือเปล่า อีกฝ่ายก็ส่งสติ้กเกอร์หน้ายู่ปากจู่กลับมา
ตามด้วยข้อความที่อ่านแล้วต้องอมยิ้ม
-จะไปรอพี่คริสที่นั่น-
จงอินไม่ได้เข้าข้างตัวเองหรอก
ที่ทุกวันนี้ยังปักใจกับเซฮุนทั้งที่คู่แข่งอันดับหนึ่งก็ดีกว่าเขาไปทุกอย่าง
เหตุผลนอกจากความรู้สึกของหัวใจก็คงเป็นการที่เซฮุนแสดงออกว่าก็มีใจให้กันนี่ล่ะ
จำไม่ได้ว่าเรียกแทนกันและกันว่า
“ตัว” ตั้งแต่ตอนไหน แต่พอจะนึกออกว่าคำนี้เซฮุนเป็นคนเริ่ม
จงอินก็แค่ใช้คำที่เหมือนกันเพื่อแกล้งแหย่ล้ออีกฝ่าย
สุดท้ายก็กลายเป็นความเคยชินและเป็นคำเรียกที่พิเศษสำหรับเรา
จงอินพิมพ์ข้อความกลับไปว่าให้เซฮุนมาสิ
เดี๋ยวผู้กองคริสก็เข้ามา แต่ก่อนจะเข้ามาก็ซื้อของกินมาฝากกันบ้าง
ฝั่งนั้นเลยส่งสติ้กเกอร์หมูตัวอ้วนดำปี๋มาให้
-กินมากจะอ้วน
อ้วนเป็นหมู หมูหัวโล้น-
จงอินหัวเราะออกมากับข้อความของเซฮุน
พอเห็นคำว่าหัวโล้นก็ต้องยกมือขึ้นลูบผมตัวเองตลอด
ไอ้ลู่หานกับมินซอกผมเริ่มยาวกันแล้ว แต่จงอินเป็นคนผมยาวช้า
เลยยังเตาะแตะอยู่แค่ไม่กี่เซนจากหนังหัว
เซฮุนชอบพูดว่าเขาหัวโล้นทั้งที่ความจริงมันก็ไม่ได้โล้นเสียหน่อย
ทรงนี้แต่ก่อนเขาฮิตกันระเบิด เรียกว่าสกินเฮต
แต่ไอ้ตัวขาวก็ไม่ได้สนใจหรอกว่าเขาจะเรียกทรงนี้ว่าอะไร
เซฮุนก็เรียกว่าหัวโล้นอยู่ดี
หลังจากข้อความสุดท้ายสิ้นสุดลง
แค่ครึ่งชั่วโมงโอเซฮุนก็มายืนอยู่หน้าบ้าน
คนตัวขาวหิ้วถุงพลาสติกเข้ามาพะรุงพะรัง
จงอินวางหนังสือภาษาอังกฤษที่อ่านลงแล้วไปช่วยอีกคนถือของไปวางในส่วนครัว
ถามว่าซื้ออะไรมาเยอะแยะ เซฮุนถอดเสื้อนอกตัวแขนยาวออก
บ่นอุบว่าร้อนชะมัดแล้วจึงเปิดตู้เย็นหาน้ำเย็นๆมาดับกระหาย
จงอินเปิดถุงพลาสติกที่อีกคนหิ้วซื้อมาดู
มีกับข้าวอยู่อย่างสองอย่าง และมีขนมอยู่อีกสองถุง
คนตัวหนายิ้มออกมาเมื่อหนึ่งในสองถุงนั้นเป็นปุงออปังไส้ถั่วแดงที่เขาชอบ
“จำได้ด้วยว่าชอบกินอะไร
แหม รู้ใจกันจัง”คนตัวโตพูดออกมา คว้าเจ้าขนมรูปปลาออกมากัด
เห็นเซฮุนที่หลังหลังให้กันก้มๆเงยๆอยู่หน้าตู้เย็นชะงักไปน้อยๆก่อนคนตัวขาวจะหันมายู่หน้าใส่
“ก็ผ่านเลยซื้อๆมาหรอก
จะไปจำทำไมว่าตัวชอบกินอะไร เค้าไม่ใช่แฟนตัวนะ”พูดไปก็หน้าร้อนผ่าว
จงอินบอกอีกครั้งว่าไม่ได้เข้าข้างตัวเองหรอก เขาเชื่อว่าเซฮุนมีใจให้กัน
คนตัวโตกว่าแกล้งงับปุงออปังไว้กึ่งหนึ่งแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้คนที่ยังยู่หน้าอยู่
เซฮุนผงะไปน้อยๆแล้วจึงตั้งหลักได้
มือเรียวขาวดึงขนมปังปลาที่อีกคนคาบเอาไว้จนมันขาดกลางตัว ไส้ถั่วแดงปริทะลักออกมา
เซฮุนโยนขนมปังเข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ
จงอินงับขนมที่เหลือในปากไว้ทันก่อนไส้จะทะลักร่วงไปที่พื้น
มองคนที่เคี้ยวขนมชิ้นเดียวกันจนแก้มกลม
“น้ำลายเค้าอร่อยล่ะสิ
เคี้ยวแก้มย้วยขนาดนั้นอ่ะ”จงอินแกล้งแซว
เซฮุนยู่ปากใส่แล้วสะบัดหน้าพรืดหนีไปนั่งที่โต๊ะหน้าทีวีแถมยังเปิดดูช่องสารคดีเอาตามสบาย
จงอินยิ้มกริ่ม กำลังจะพูดต่อเชียวถ้าอีกคนไม่สะบัดหน้าหนีกันไปก่อน
ว่าถ้าน้ำลายเขาอร่อยอยากจะลองชิมปากต่อปากกันไหม?...
ถุย!! นึกเหี้ยอะไรน่าขนลุก
จงอินตบหัวตัวเอง เพิ่งด่าไอ้ลู่หานหยกๆว่าทำตัวเลี่ยนน่าหมั่นไส้
นี่จะไปเอาคำพูดชวนแหวะแบบนั้นมาใช้เองทำไมกัน
คนตัวโตถือถุงปุงออปังมานั่งข้างคนที่ครองรีโมททีวีแต่ไม่ได้เปลี่ยนช่องไปไหน
ในทีวี หมีขั้วโลกกำลังเดินกันยั้วเยี้ย
ขนสีขาวของมันกลืนไปกับหิมะที่ขาวโพลนที่ขั้วโลก
คงมีแต่จมูกสีดำๆนั่นที่ทำให้รู้ว่ามันคือสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง ไม่ใช่กองหิมะ
“ตัวชอบหมีเหรอ?”จงอินถามคนที่ตั้งใจดูทีวีเอามากๆ
เซฮุนพยักหน้า บอกว่าหมีตัวใหญ่ กอดทีคงอุ่น นึกถึงพี่ชายที่ตอนเล็กๆเคยกอด
พี่คริสตัวใหญ่เหมือนหมี กอดทีน้องเลยอุ่นมาก
แต่พอโตแล้วก็ไม่ค่อยได้กอดพี่นอกจากตอนจะอ้อนเอาอะไรถึงไปนอนกอดออเซาะเป็นลูกแมว
เหมือนตอนที่ขอสวมบทบาทน้องชายของจงอินนั่นล่ะ ลงทุนเป็นแมวให้พี่คริสนอนกอดทั้งคืนกว่าจะได้
“เค้าก็เหมือนหมีนะ”จงอินพูดแล้วกัดขนมในมือไปด้วย เซฮุนทำหน้าเหวอ
นึกขึ้นมาได้ว่าอีกคนก็ตัวเหมือนหมี เป็นพ่อหมีของมินซอก คนตัวขาวหน้าร้อนขึ้นมา
กดรีโมทเปลี่ยนไปช่องอื่นไม่สนใจหมีตัวขาวที่กำลังจะลงจับปลาในหลุมน้ำแข็งเลยสักนิด
จงอินยิ้มกับอะไรแดงๆที่พาดหน้าของเซฮุน
คิมจงอินว่าจะไม่
ถ้าพูดคำนี้ออกมาคงกลายเป็นไอ้เสี่ยวหวานเลี่ยนเหมือนลู่หาน
แต่มันอดไม่ไหวจนต้องพูดเพื่อแซวคนที่เขินหน้าแดงกอดรีโมทแน่นแบบนั้น
“...เค้าเหมือนหมีตัวก็ชอบเค้าสิ”
.
.
เริ่มเข้าใจว่าเหี้ยลู่หานทำไมต้องทำตัวหวานเลี่ยนหยอดมินซอกทุกเม็ดจนน่าหมั่นไส้
...ก็เพราะคนที่ชอบเขินจนหน้าแดงมันน่ารักมากยังไงล่ะ
ยิ่งเห็นอีกคนเขินแก้มแดงก็ยิ่งอยากให้มันแดงปลั่งมากยิ่งขึ้น
จนอดไม่ไหวจะต้องหยอดคำเลี่ยนๆลงไปอีกเรื่อยๆ
ค น คุ ก
ผู้กองคริสกลับมาจากราชการเจอน้องชายตัวเองนอนดูทีวีก็ไม่ได้นึกแปลกใจ
คนเป็นพี่ส่ายหัวกับไอ้ดื้อ
ดูท่าว่าพี่ชายตัวสูงจะต้องยกน้องชายตัวดื้อให้ลูกน้องร่างหนาจริงๆ
เห็นจงอินกำลังจะสอบเข้าตำรวจ
เขาเองก็สนับสนุน ถ้าจงอินสอบติดจริงๆเขาจะได้มั่นใจได้ว่าอีกคนจะดูแลเซฮุนได้
“พรุ่งนี้ให้ลู่หานเข้าไปในปาร์ตี้ก่อนเลยนะ แล้วฉันจะบุกตาม
ส่วนเรื่องล่อซื้อนายก็จัดการเริ่มแฝงตัวเข้าไปได้แล้ว
พวกนั้นไม่ค่อยสืบประวัติคนเข้าไปเป็นการ์ด เอาแค่มีฝีมือก็ได้แล้ว”คริสบอกกับจงอิน
มีเซฮุนที่ละสายตาจากทีวีมามองก่อนจะขมวดคิ้ว
“ตัวจะปลอมตัวไปเป็นสายอีกแล้วเหรอ”คนตัวขาวถามออกมา
เพิ่งรู้ว่างานชิ้นใหม่ที่จงอินต้องรับผิดชอบนั้นต้องปลอมตัวไปเป็นบอดี้การ์ดของผู้มีอิทธิพลที่อยู่ในวงการค้ายา
เซฮุนเบะปากไม่ชอบใจ งานที่จงอินทำมันมีความเสี่ยงสูงเกินไป ไม่ใช่จงอินไม่เก่ง
จงอินปลอมตัวแฝงเข้าไปยังที่ต่างๆได้แนบเนียนเสมอ แต่ถ้าหากถูกจับได้ขึ้นมา..ถ้าเกิดมันพลาด
“อย่าทำหน้าไม่พอใจสิ พี่ให้งานชิ้นนี้ชิ้นสุดท้ายแล้ว
จงอินจะสอบตำรวจต้องอ่านหนังสือเตรียมตัวมากๆ
ต่อไปลู่หานจะมารับหน้าที่สายต่อจากจงอิน”คริสพูดขึ้น
ดูน้องชายขมวดคิ้วก็รู้ว่าไม่พอใจที่จงอินจะต้องเสี่ยงงานอันตราย
โดยเฉพาะกับผู้มีอิทธิพลที่จะเป่าสมองใครสักคนได้ง่ายๆ
งานนี้เขาพยายามทำทุกอย่างให้รัดกุม
จงอินได้เรียนเรื่องการใช้ปืนและการป้องกันตัวมาบ้างและมีทักษะการทำงานที่ดีเยี่ยมเขาจึงมั่นใจว่าอีกคนต้องไม่พลาดแน่ๆ
“เป็นห่วงล่ะสิ”จงอินยิ้มกริ่ม ชอบจริงๆที่ได้ยั่วให้เซฮุนเขิน คนตัวขาวได้ยินแบบนั้นก็ยู่ปาก
สะบัดหน้าหนีบอกว่าก็ห่วงตามประสาคนรู้จักกันนั่นล่ะ จงอินร้องว่าอ้อเหรอเบาๆ
“เอาตามนี้ล่ะ เรื่องติดต่อขอซื้อฉันดำเนินการเรียบร้อยแล้ว
ลู่หานจะไปซื้อในนามของหลี่ชิวเหลียง นัดส่งของคืออีกสามอาทิตย์ข้างหน้า”สรุปงานจบลงเพียงเท่านี้
คริสเรียกให้เซฮุนกลับบ้านสวนกับจุนมยอนที่เพิ่งเลิกงานและกลับเข้ามาพอดี
เซฮุนทักทายอดีตนางพญาอย่างเป็นมิตร
จุนมยอนเองก็เช่นกันแต่พอเหลือบสายตามองคริสใบหน้าขาวนวลก็นิ่งเฉยติดจะเหม็นเบื่อขึ้นมา
“ทำงานเป็นยังไงมั่ง”เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถาม จุนมยอนเก็บรองเท้าเข้าที่เสร็จแล้วหันมาบอกแค่ว่าก็ดีแล้วเดินเข้าไปทันที
คริสได้แต่ส่ายหัวแล้วเดินออกจากบ้านไปพร้อมกับเซฮุน
จงอินเก็บงานที่คุยกับคริสเมื่อครู่เข้าซองกระดาษ
จุนมยอนมาล้อมตัวนั่งที่ที่เซฮุนนั่งอยู่เมื่อกี้นี้
มือเรียวขาวยกขึ้นมานวดขมับน้อยๆ
“ทำงานเหนื่อยมากเหรอ?”เขาถาม ตั้งแต่จุนมยอนออกมาจากเรือนจำ
จงอินยังไม่เห็นคนตัวขาวหยุดพักเรื่องงานเลย จุนมยอนเปลี่ยนงานมาหลายครั้ง
เป็นเด็กเสิร์ฟบ้าง พนักงานร้านหนังสือบ้าง
แต่สุดท้ายก็ต้องออกจากงานเพราะทนผู้ชายมาจีบไม่ไหว
เห็นนอนทอดกายให้คิมกอนโมแบบนั้น
จุนมยอนเองก็เป็นแค่ผู้ชายคนหนึ่ง หากไม่มีหน้าที่ที่บังคับ
ไม่มีรางวัลเป็นอิสระที่เจ้าตัวโหยหา
ใครกันที่จะเต็มใจนอนให้ผู้ชายเอาโดยที่ไม่ได้รักกัน
ไม่มีผู้ชายคนไหนจะเต็มใจยอมหรอกนอกจากไอ้ตัวขายน้ำ
“เดิมๆ คราวนี้เป็นเจ้าของร้านด้วยซ้ำ”ถ้าจำไม่ผิดตอนนี้จุนมยอนทำงานที่ร้านต๊อกใกล้ๆนี่เอง เจ้าของร้านเป็นผู้ชายแก่คราวพ่อ
จงอินเคยไปกินต๊อกที่นั่นหลายครั้ง
สภาพตาลุงเจ้าของร้านไม่น่าจะคิดเรื่องอกุศลได้แล้ว
ควรจะคิดเรื่องทำบุญทำทานไว้เป็นกำลังทรัพย์ขับเคลื่อนตัวเองไปสวรรค์ตอนสิ้นใจเสียมากกว่า
จงอินได้แต่ปลอบอีกคน
หน้าตาและเสน่ห์ของจุนมยอนนี่ช่างมีปัญหาเสียจริง
เจ้าตัวบ่นอุบว่าถ้ามันดึงดูดเพศตรงข้ามเข้ามาคงจะดีกว่าที่เป็นเพศผู้ทั้งหมดที่หลงในดวงตาที่น่าหลงใหล
“ลาออกคราวนี้ก็ไม่ต้องรีบหางานใหม่ อยู่บ้านเฉยๆไปสักพัก
เห็นนายหากี่งานก็ไม่พ้นเจอผู้ชายพวกนั้นมาจีบมาลวนลามแทะเล็ม”จงอินบอก
จุนมยอนถอนหายใจออกมาบอกว่าถ้าไม่รีบทำงานแล้วจะรีบเก็บเงินได้ยังไง
เขาอยากย้ายออกไปจากที่นี่ จงอินถามว่าที่นี่ไม่ดีตรงไหน อยู่ฟรี บางครั้งก็กินฟรี
ค่าน้ำค่าไฟก็ไม่เสีย
“จุนมยอนไม่ชอบผู้กองที่เขาสั่งให้นายไปนอนกับไอ้กอนโมใช่ไหม?”จงอินถาม จุนมยอนกัดริมฝีปาก
เขาเบือนหน้าไม่อยากจะพูดถึงเรื่องเก่า
จงอินตบซองเอกสารปุปุก่อนจะลุกขึ้นยืนเพื่อเอาเอกสารไปเก็บในห้อง
ก่อนจะเดินเข้าประตูห้องตัวเองก็หันมาพูดกับคนที่ยังนั่งอยู่ที่เก้าอี้หน้าทีวี
“ฉันรู้ว่านายก็แค่ผู้ชายคนหนึ่งที่คงไม่ปลื้มที่ต้องไปมีอะไรกับผู้ชาย
แต่คิดดูสิจุนมยอน ถึงผู้กองเขาจะตอกย้ำนายด้วยการให้นายไปนอนอ้าขาให้ไอ้กอนโมเอา
แต่ก็ทำให้นายออกมาจากเรือนจำได้”
“...”
“เขาไม่ใช่คนที่ทำให้นายเข้าไปอยู่ในนั้นจนต้องไปเอากับผู้ชาย...นายเองต่างหากที่ทำผิดจนต้องไปใช้ชีวิตในนั้น
ทางเลือกของนายมีแค่จะยอมแล้วได้อิสระออกมา หรืออยู่ในนั้นแล้วอาจจะโดนเซ็กส์หมู่แบบถึงใจอีกหลายยก...”
“...”
“ผู้กองแค่ยื่นทางเลือกใดทางเลือกหนึ่งมาให้...นายควรจะขอบคุณเขาด้วยซ้ำที่อย่างน้อยนายก็ไม่ต้องเป็นตุ๊กตายางให้คนในแดนทึ้งเอาตลอดเวลาที่อยู่ในคุก”พูดจบแล้วคนตัวโตก็หายเข้าไปในห้อง ทิ้งให้จุนมยอนนั่งอยู่ที่เดิม
คนตัวขาวยกมือขึ้นปิดหน้าแล้วงอตัวลงซบกับหน้าขาตัวเอง
จงอินพูดถูกทุกอย่าง
ผู้กองคริสไม่ได้ทำอะไรเลย...
เป็นเขาเองที่ทำตัวเอง...
นึกถึงตอนที่ตัวเองโดนข่มขืนอย่างทารุณในวันแรกที่เหยียบเรือนจำ
นั่นก็ไม่ใช่ความผิดของใคร...ของเขาเอง ถึงจีใบหน้า
หน้าตารูปร่างที่เชิญชวนบุรุษเพศให้เข้าหา แต่ถ้าเขาไม่เก็บมันมาใส่ใจ
ไม่พยายามจะทำให้ตัวเองเสเพลเพื่อเรียกเอาความมั่นใจแบบผู้ชายในทางผิดๆ
เขาก็คงไม่ถูกจับ...พ่อจะไม่ตัดความสัมพันธ์กับเขา
และเขาจะไม่มีชีวิตแบบนี้...
...ก้าวขาเดินด้วยตัวเองไม่มีใครสั่ง
เพราะฉะนั้นถ้าทางข้างหน้าเป็นเหวจะโทษคนอื่นได้ยังไงเพราะเขาเดินลงเหวด้วยตัวเอง...
TBC.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น