เกิดคำถามว่าทำไมชอบทำให้เป็นห่วง
คำตอบในใจก็แค่อยากให้ห่วง
คิมจงอิน.2…
จงอินกำลังยืนอยู่ในบ้านหลังใหญ่โต
พร้อมกับอีกหลายชีวิตที่อยู่รายล้อมกาย
“อายุเท่าไหร่?”คนที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันอยู่ตรงหน้าถามออกมา
ขายาวใต้กางเกงยีนสีฟอกเดินวนไปมารอบตัวของจงอินพร้อมคำถามที่ดำเนินมาถึงสี่ห้าข้อแล้ว
ตั้งแต่ชื่อ การศึกษา ญาติพี่น้อง อายุ
นึกว่าเป็นการสัมภาษณ์งานเข้าทำงานบริษัทอสังหาริมทรัพย์สักแห่งในตำแหน่งการตลาด
แต่จริงๆตอนนี้จงอินกำลังถูกสัมภาษณ์เพื่อจะเข้าทำงานตำแหน่งบอดี้การ์ดส่วนตัวของปีเตอร์ปาร์ค
นักธุรกิจบวกเป็นผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งของเกาหลี
ฉากเบื้องหน้าคือนักธุรกิจนำเข้าส่งออกอะไหล่เครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรม
แต่ที่จริงคือพ่อค้ายาบ้ารายยักษ์
ปีเตอร์ปาร์คเคยทำธุรกิจร่วมกับฮวังชอนจีที่เพิ่งถูกจับเข้าคุกโดยการให้ปากคำจากคิมกอนโมถึงชื่อของคนที่หนุนหลังวงการค้ายาเสพติดอยู่
จงอินตอบคนที่ยังเดินสำรวจเขาไปว่าอายุ22
ก็ได้คำถามใหม่มาว่าเคยติดคุกคดีอะไรเพราะเขาบอกกับมันไปว่าเพิ่งออกจากคุกมา
“ขายยา”คนตรงหน้าพยักหน้า
สายตาคมเข้มกราดมองทั้งตัวจงอินอย่างพิจารณา หน่วยก้านดี รูปร่างสูงใหญ่แต่ไม่เทอะทะเกินไป
ถ้าประกบข้างให้ความระมัดระวังกับเจ้านายของจะคล่องตัวดี
“ใช้ปืนเป็นหรือเปล่า”มันถามอีกครั้งก่อนจะส่งกระบอกสีเงินมาให้
จุดสามแปดเป็นปืนที่ใช้ง่ายและใช้ได้เกลื่อนกลาด จงอินรับมันมาถือเอาไว้ ถึงจะเคยเรียนการใช้งานมาบ้างเขาก็อดจะรู้สึกหนักอึ้งทุกครั้งไม่ได้ที่จะต้องจับกระบอกปลิดชีพเอาไว้
เพียงพลาดเล็กน้อยไปโดนไกปืน อาจจะทำให้ชีวิตคนสักคนสูญเสียไปตลอดกาล
“จะให้ยิงใคร”คำถามของจงอินดูจะถูกใจคนตรงหน้าไม่น้อย
มันหัวเราะหึพร้อมแสยะยิ้ม ชี้ไปที่ลิ่วล้ออีกสองสามคนที่ยืนอยู่ไกลๆ
พวกมันแต่งตัวคล้ายกับคนตรงหน้าจงอินคือกางเกงยีนเสื้อเชิ้ต
บอดี้การ์ดของจริงกับในหนังดูจะแตกต่างกันน่าดู
ก็อย่างที่วิพากษ์วิจารณ์กันตอนดูหนังมาเฟียนั่นล่ะว่าถ้าบอดี้การ์ดใส่สูทดำยืนเรียงแถวกัน
มันไม่เป็นที่น่าสงสัยเกินไปหรือไง การแต่งตัวแบบสามัญชนธรรมดาเขาแต่งกันน่าจะดีกว่า
“มีคนนึงชื่อฮงฮุน
มึงเลือกยิงให้ถูกคนสิ”จงอินร้องเหอะขึ้นมา จากสามคน
มีหนึ่งคนที่ชื่อฮงฮุนแล้วให้เขาเลือกยิงน่ะเหรอ?
ไอ้ลิ่วล้อทั้งสามได้ยินคำสั่งก็หน้าเหวอ โดยเฉพาะคนที่อยู่ซ้ายมือมันหน้าซีดเผือด
ไม่บอกก็ฉลาดพอจะรู้ว่ามันนั่นแหล่ะคือฮุนฮง ถึงจะฉลาดรู้ว่าใครคือฮุนฮง
แต่จงอินก็ไม่โง่พอจะยิงไอ้ฮุนฮงตัวจริงหรอก
เขากัดฟันยกกระบอกปืนขึ้นเล็งไปทางสามคนนั้น
พวกมันจะขยับหนีแต่เสียงตวาดของคนที่อยู่ตรงหน้าจงอินก็บอกให้มันห้ามขยับไปไหน
สีหน้าหวาดกลัวกับวิถีกระสุที่จะพุ่งออกจากปลายกระบอกปืนทำให้จงอินพูดคำว่าขอโทษอยู่ในใจ
ปัง! ปัง!
ปัง!
เสียงปืนดังขึ้นสามนัด
พร้อมกับเสียงร้องโอดโอยของคนสามคน
จงอินลดกระบอกปืนที่ยังกรุ่นกลิ่นไหม้ของการเสียดสีจากแรงอัดของปืนกับกระสุนลง
ลิ่วล้อสามคนลงไปนอนกับพื้น จงอินไม่ใช้คนที่แม่นปืน เขาเลือกพยายามจะยิงเข้าที่ขาของพวกมันเพราะการล็อกเป้าจะใหญ่กว่าที่แขน
เสียงปรบมือดังขึ้นทำให้จงอินต้องหันไปมอง
คนที่สั่งให้เขายิงสามคนนั้นยิ้มกว้าง ปรบมือให้เขา
“เก่ง
ฉลาดดีจริง”เพราะไม่รู้ว่าใครคือฮงฮุน แต่ทั้งหมดคือกลุ่มเป้าหมาย เพราะฉะนั้น
หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นจริงๆจะมัวเลือกหาตัวคนที่ต้องการยิงไม่ได้
ทางที่ดีก็ให้ยิงทั้งหมดที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมาย
ลูกน้องกระจอกๆหลายคนมาพาสามคนที่ถูกยิงออกไป
คนตรงหน้าจงอินรับปืนไปเหน็บไว้ที่เอวตามเดิมก่อนที่มันจะเดินมาตบที่บ่ากว้าง
“ยินดีต้อนรับ
หวังว่ามึงจะให้ความคุ้มครองนายด้วยชีวิต
กูชื่อยุนโฮเป็นหัวหน้าการ์ดทั้งหมด”จงอินพยักหน้ารับ
เขาเอ่ยขอบคุณที่รับเขาเข้าเป็นบอดี้การ์ดของปีเตอร์ปาร์ค
ยุนโฮหัวเราะออกมาบอกว่าจงอินมีฝีมือ ขอแค่มีใจที่ภักดีไม่หักหลังกัน
รับรองว่าจะสุขสบาย แต่ถ้าคิดจะหักหลังเขาและปีเตอร์ปาร์ค…
“เห็นบ่อน้ำนั่นไหม?”นิ้วเรียวยาวชี้ไปทางแท๊งค์เก็บน้ำที่ดูเก่าคร่ำครึใกล้ๆกัน
มันไม่น่าจะเป็นแท๊งค์น้ำที่ถูกใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคแน่ๆ
แล้วจงอินก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอเมื่อยุนโฮพูดหน้าที่ของมันออกมาต่อจากนั้น
“คนที่ทรยศก็จะไปนอนเน่ารวมกันอยู่ที่นั่นยังไงล่ะ”
ค น คุ ก
จงอินกลับมาบ้านเพื่อจะเก็บของบางส่วนและย้ายไปอยู่กับปีเตอร์ปาร์คในฐานะบอดี้การ์ด
วันนี้ลู่หานและผู้กองคริสจะบุกจับปาร์ตี้ไอซ์ ดูนาฬิกาแล้วก็อีกแค่ชั่วโมงเดียว
ตอนนี้ลู่หานคงกำลังอยู่ในห้องของนักศึกษาพวกนั้นแล้ว
รอเวลาให้ผู้กองคริสและตำรวจคนอื่นเข้าชาร์จ แต่ชายหนุ่มก็ต้องแปลกใจเมื่อเจอเซฮุนนั่งรออยู่ในบ้านกับจุนมยอน
คนตัวขาวทั้งคู่มานั่งดูทีวีอยู่ด้วยกันพอเห็นจงอินมาจุนมยอนก็ลุกเข้าห้องของตัวเองไป
“ตัวมาทำไม
วันนี้ผู้กองจับไอซ์
ไม่ได้เข้ามาที่นี่หรอกนะ”เขาถามแล้วเดินไปนั่งเก้าอี้ใกล้ๆเซฮุน
คนตัวข่วเลิกสนใจรายการทีวีแล้วหันมายู่ปากใส่
“ไม่ได้มารอพี่คริส
มาหาตัว”
“คิดถึงเค้าล่ะสิ”เซฮุนยู่ปากบอกว่าจงอินเพ้อเจ้อ
“จะไปอยู่ที่นั่นเหรอ?”คนตัวขาวถาม
เดินตามจงอินเข้าไปในห้องเจ้าตัว
แอบเบ้ปากเพราะกองเสื้อผ้าของร่างหนาที่ใส่แล้วยังกองอยู่ในตะกร้าไม่ยอมเอาไปซัก
บ่นอุบอิบว่าหัวโล้นซกมก
จงอินเก็บเสื้อผ้าไม่กี่ชิ้นใส่กระเป๋าเป้ใบขนาดกลางกับพวกเครื่องใช้ไม่กี่อย่าง
“ไปสามอาทิตย์
ก่อนถึงวันส่งของ ตัวอย่าคิดถึงกันล่ะ”จงอินว่า
เดินเข้ามาใกล้เซฮุนแล้วยกมือวางบนหัวทุย เซฮุนเบะปาก ไม่อยากให้จงอินไปทำงานนี้
เขามีความรู้สึกไม่ดีเลยจริงๆ ไม่ใช่ว่าจงอินไม่เคยทำงานเสี่ยงอันตราย
แต่ครั้งนี้มันรู้สึกต่างออกไป ทว่าโอเซฮุนก็ไม่อาจจะห้ามหน้าที่ของอีกคนได้
ทุกคนที่ภาระงานและหน้าที่ที่แตกต่างกัน
จงอินต้องรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
“ระวังตัวด้วยนะ”คนตัวขาวพูดได้แค่นี้
ก่อนจะเดินออกจากห้องของอีกคนไปนั่งจุ้มปุ๊กหน้าทีวีอีกครั้ง จงอินตามออกมา
เขารู้ว่าเซฮุนเป็นห่วง ในใจเขาเต้นแรง อยากจะบอกกับเซฮุนว่าไม่ต้องห่วง
เขาดูแลตัวเองได้
เขาจะไม่ปล่อยตัวเองตายหรอกถ้ายังไม่ได้บอกรักเซฮุน...
“ดีใจนะที่ตัวเป็นห่วง”จงอินพูด
เขากระชับเป้ขึ้นสะพายก่อนบอกว่ามานานไม่ได้เพราะบอกกับยุนโฮไว้ว่าจะมาเอาแค่ของใช้เล็กน้อยแล้วจะรีบกลับไป
“ตัวรีบไปเหอะ
เดี๋ยวโดนสงสัย”เซฮุนไล่ จงอินยิ้มก่อนจะขยี้หัวอีกคน
เขาตั้งใจไว้ตั้งแต่ก่อนออกจากเรือนจำว่าถ้าออกมาจะบอกรักเซฮุน
แต่ก็ยังไม่ได้บอกสักที ช่วงนี้หมอปาร์คก็ไม่ค่อยมายุ่งกับเซฮุน ถือเป็นโอกาสดี
จบงานนี้
ก่อนสอบตำรวจ...เขาจะบอกรักเซฮุนเสียที
เพราะเซฮุนเองเขาก็รู้ว่าคนตัวขาวมีใจ
ถ้าใจเราตรงกัน...เราก็ควรจะทำให้มันชัดเจน
“อีกสามอาทิตย์เจอกันนะ”จงอินพูดก่อนจะเดินออกจากบ้านมา
ทิ้งสายตาเป็นห่วงไว้ด้านหลัง
เขากลับไปหายุนโฮอีกครั้ง
เห็นคนที่ถูกยิงจากกระบอกปืนยุนโฮที่อยู่ในมือของเขานอนซมเพราะไข้ขึ้นจากบาดแผล
กระสุนถูกผ่าตัดออกไปแล้วอย่างลวกๆจากฝีมือพรรคพวกเดียวกันเอง
เห็นมียาฆ่าเชื้อและยาแก้อักเสบอยู่เป็นกระปุก
คงจะเกิดเหตุผลการณ์ถูกยิงหรือได้แผลกันบ่อยพอควร
“อยู่ห้องกะไอ้จงฮยอนไปแล้วกัน
ส่วนนี่ปืน ติดตัวเอาไว้”ยุนโฮพูดบอกพร้อมส่งกระบอกสีเงินให้จงอิน
ร่างหนารับปืนมาก่อนจะเหน็บเข้าที่ขอบกางเกง
อีจงฮยอนคนที่ยุนโฮบอกว่าเขาต้องอยู่ร่วมห้องด้วยเป็นผู้ชายตัวสูงแต่ดูไม่หนาเทอะทะออกจะแบบบางไปเสียด้วย
หมอนี่นำจงอินไปที่ห้อง เป็นห้องขนาดไม่กว้างมากแต่ก็ไม่ได้แคบเกินกว่าจะอยู่กันสองคน
มีเตียงเดี่ยวสองเตียงเพราะบอดี้การ์ดของปีเตอร์ปาร์คก็มักจะอยู่กันสองคนต่อหนึ่งห้อง
แต่จงฮยอนยังไม่มีเพื่อนร่วมห้องจึงอยู่คนเดียว
“คิดยังไงถึงมาเป็นบอดี้การ์ดนายวะ”จงฮยอนถามออกมา
มันถอดเสื้อผ้าที่ใส่อยู่ลงตะกร้าแล้วเปลี่ยนเป็นเสื้อบอลกางเกงขาสั้นตัวเปื่อยๆบอกว่าช่วงนี้นายไม่ออกไปไหน
เย็นๆแบบนี้ก็เปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำนอนกันได้แล้ว
“กูเพิ่งออกจากคุก
มึงน่าจะคิดออกว่าสังคมคงต้อนรับกูดีมาก”จงอินพูด
เอาเสื้อผ้าที่หยิบใส่กระเป๋ามาจากบ้านออกมากองและเลือกเสื้อตัวเก่งที่ใส่นอนบ่อยครั้งออกมา
เขาไม่ได้จะแค่เปลี่ยนเสื้อผ้าแต่จะอาบน้ำด้วยเพราะเหนียวตัว
จงฮยอนหัวเราะ
บอกว่าเข้าใจดีเลยล่ะเพราะเจ้าตัวก็เคยเข้าคุกเหมือนกัน
จงอินอดถามไม่ได้ว่าคดีอะไรก็ได้เป็นยิ้มแผ่วเบาพร้อมกับคำตอบที่เหมือนเสียงกระซิบว่า
“ฆ่าคนตาย”
“ถ้ามึงไม่สะดวกจะพูดถึงมันกูก็ขอทาแล้วกัน”จงอินบอกออกมา
เห็นว่าเพื่อนร่วมห้องมีสีหน้าที่แย่ลงที่ต้องพูดถึงเรื่องอดีต
แต่จงฮยอนกลับส่ายหัว บอกว่าไม่เป็นไร เขาเล่าเรื่องนี้มามากกว่าสิบรอบแล้ว
จงอินนั่งลงบนเตียงฟังที่เพื่อนร่วมห้องทมี่เพิ่งจะรู้จักกันเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟังว่าอีจงฮยอนทำไมจึงต้องฆ่าคนตาย
ในใจของจงอินสะท้อนเสียงแห่งความสงสารผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า...
จงฮยอนเล่าว่าคนที่มันฆ่า...คือแม่มันเอง...
แม่แท้ๆที่อาจจะไม่มีสมบัติของความเป็นแม่คนเลยสักนิด
ถึงได้คิดขายลูกสาวตัวเองให้กับเสี่ยบ้ากามตัณหากลับ ขายลูกสาวให้ไปเป็นเครื่องระบายตัณหาทั้งที่อีจูฮยอนน้องสาวของจงฮยอนเพิ่งจะอายุได้แค่
15 ปี จูฮยอนขัดขืนและถูกทุบตี
น้ำเสียงของจงฮยอนสั่นขึ้นมาเมื่อพูดถึงใบหน้าแสนบอบช้ำของน้องสาว
“แม่ฟาดจูฮยอนที่หน้าด้วยรองเท้า...ตัวเธอเล็กนิดเดียว...และใบหน้าเธอจะบอบบาง...มึงรู้ไหม
ตอนกูเข้าไปเจอ
ผู้หญิงคนนั้นก็ทิ้งจูฮยอนนอนอยู่ที่พื้น...เธอกรามหลุด...และตาย”ถึงจุดนี้ในใจจงอินวูบวาบเพราะความอดสู
เพราะน้องสาวตาย
จงฮยอนในตอนนั้นคงไม่มีสติจะตริตรองถึงเรื่องถูกผิด
ชายหนุ่มตามหาตัวคนเป็นแม่จนพบ... การเล่าจบลงที่อีจงฮยอนเหวี่ยงแม่ตัวเองลงไปกลางถนนและปะทะกับรถกระบะที่กำลังขับมาด้วยความเร็ว
ไม่มีใคร...อยากเป็นคนเลว
แต่เมื่อตกอยู่ในสถานะคนเลว...บางครั้งเราก็กลับไปอยู่ในสถานะคนดีไม่ได้อีก...
ค น คุ ก
ภายในหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา
จงอินไม่เห็นว่าปีเตอร์ปาร์คจะไปไหน นักธุรกิจส่งออกอะไหล่รถเพียงแค่เข้าออกบริษัท
ซึ่งยุนโฮจัดทีมบอดี้การ์ดเพียงหยิบมือเพื่อตามประกบ
จงอินใช้เวลาในหลายๆวันนี้กับการซ้อมต่อสู้ ป้องกันตัวและฝึกยิงปืนบ้างในบางครั้ง
ด้านหลังบ้านหลังโตเป็นสนามหญ้ากว้าง ลูกน้องของปีเตอร์ปาร์คใช้ที่นี่เป็นลานซ้อม
กระบอกปืนคู่ตัวที่ได้มาจากยุนโฮถูกยกส่องและเล็งไปทางเป้าที่อยู่ห่างออกไป
จงอินเริ่มชินมือกับปืนมากขึ้นจนยกมันเล็งได้อย่างไม่รู้สึกอะไร
เสียงปืนดังหลายนัดก่อนกระสุนจะพุ่งตรงเข้าเป้าจำลองที่มีสีแดงจุดระบายเอาไว้
“พัฒนาดีนี่หว่า
แค่อาทิตย์เดียว”จงฮยอนเอ่ยชม เขาก็อยู่ด้วยตอนที่จงอินมาสมัครเข้าเป็นบอดีการ์ดของนาย
เห็นตอนที่ยุนโฮส่งปืนให้จงอินยิงฮุนฮง
ยังนึกชื่นชมว่าจงอินฉลาดที่ยิงทั้งหมดที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมาย
แต่ตอนนั้นท่าทางการใช้ปืนของจงอินยังดูติดขัดมากกว่านี้
ทว่าตอนนี้กลับดูเหมือนชำนาญเสียแล้ว
“ยังต้องฝึกอีกเยอะ
จะให้การปกป้องนายทั้งคน แค่ยิงเข้าเป้ามันไม่ได้หรอก”จงอินเอ่ยบอก เขาต้องถ่อมตัวเอาไว้ตลอดเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา
ให้หลายคนเอ็นดูในฐานะน้องใหม่ แม้แต่ฮงฮุนกับอีกสองคนที่เขายิงมันไปยังไม่ได้ถือทาโกรธเคือง
พูดว่าเป็นเพราะคำสั่งของยุนโฮ อีกทั้งยังพูดชมจงอินอีกด้วยเรื่องการยิงทั้งสามคน
เพราะเป็นวิถีที่ถูกต้องของบอดี้การ์ดที่พึงจะมีแล้ว
“อยู่กันมาอาทิตย์นอกจากชื่อแซ่กับเรื่องเล็กน้อย
พวกกูยังไม่รู้เรื่องมึงเยอะเท่าไหร่เลย ครอบครัวมึงล่ะวะ หรือเหลือตัวคนเดียว”จงฮยอนถาม
จงอินบอกไปว่าพ่อแม่ตายหมดแล้ว เขาไม่ได้โกหกสักนิดเมื่อมันเป็นความจริง
“ที่นี่ส่วนมากก็พ่อแม่ตาย
กำพร้าไม่ก็เคยต้องคดีกันทั้งนั้น ยามั่ง ขโมยมั่ง
ดีที่คุณปีเตอร์เขาเมตตาชุบเลี้ยง”
“...”
“ถึงมันจะเป็นธุรกิจที่ผิดกฎหมาย
แต่ถ้ามันทำให้มีเงินเอาไปซื้อของกินให้ท้องอิ่มนอนหลับสบายได้...ก็ต้องทำละวะ”คิมมินจุนที่ดูจะมีอายุมากกว่าใครในบรรดาบอดี้การ์ดเอ่ยบอก
จงอินยิ้มขื่นให้กับชะตาชีวิตของแต่ละคน
ไม่มีใครหรอกใช่ไหมที่อยากจะทำผิดกฎหมายและหย่อนขาข้างหนึ่งเข้าไปในตาราง
แต่โลกนี้ไม่ได้มีแค่สิ่งที่ดีงามและความสำเร็จในชีวิต คนเราเกิดมาไม่เหมือนกัน
ไม่มีใครรู้หรอกว่าชีวิตจะเป็นแบบไหน ใครก็หวังจะสุขสบายทั้งนั้น
“งานอีกสองอาทิตย์ข้างหน้านี่เขาว่างานใหญ่เลยใช่ไหม?
ยุนโฮบอกว่าส่งเยอะ”จงอินลองถามหยั่งเชิง แต่ละคนพยักหน้า
“ยิ่งของเยอะก็ยิ่งไม่ปลอดภัย
ตำรวจเดี๋ยวนี้มันตามกลิ่นกันไวจะตาย
ฮวังชอนจีก็เพิ่งจะเข้าคุกเพราะไอ้กอนโมมันเสือกให้การกับตำรวจ”ใครคนหนึ่งพูดขึ้นมา
อีกคนก็สัมทับว่างานนี้ต้องเตรียมตัวให้ดี ถ้าเกิดตำรวจโผล่เข้ามาคงต้องมีปะทะ
ของเยอะขนาดนี้ถ้าถูกจับได้นอกจากจะเข้าไปนอนนับซี่เหล็กในซังเตแล้วยังเสียหายอีกมูลค่าหลายสิบล้าน
“กูไม่ปล่อยให้ตัวเองโดนจับเด็ดขาด
เมียกูที่อยู่ที่ปูซานกำลังท้อง อีกสองสามเดือนก็จะคลอดแล้ว”ฮงฮุนพูดขึ้นมา
แววตาของมันอ่อนลงเมื่อพูดถึงลูกและเมีย
จงอินเบือนหน้าหนี...เขานึกขอโทษพวกนี้ในใจ
เพราะอย่างไรเสีย...แผนการล่อซื้อครั้งนี้ก็จะล่มไม่ได้
ทุกคนจะต้องถูกจับกุมและเข้าไปชดใช้ความผิดในคุก
ต่อให้มีเหตุผลในการทำผิดมากมายขนาดไหน
แต่กฎหมายก็คือกฎหมาย ผู้พิพากษามีสิทธิ์ใจอ่อนกับผู้ต้องหา
แต่ไม่มีสิทธิ์ใช้ความสงสารนั้นบิดเบือนโทษที่ผู้ต้องหาต้องได้รับตามมาตรากฎหมาย...
ค น คุ ก
ลู่หานมักจะใช้เบอร์ของมินซอกส่งข้อความไลน์มาหาจงอิน
ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีกับเขาแต่เป็นเรื่องที่ผิดพลาดของเหล่าบอดี้การ์ดปีเตอร์ปาร์ค
ที่นี่อยู่กันแบบไว้เนื้อเชื่อใจมากเกินไป
ปักใจว่าคนนี้คือคนที่ไว้ใจได้ก็จะไม่ก้าวก่ายกันและกัน
อย่างจงฮยอนที่นอนห้องเดียวกันก็ไม่เคยยุ่งเรื่องส่วนตัวของจงอิน
การใช้โทรศัพท์ของจงอินจึงมีอิสระเต็มที่
ลู่หานและผู้กองคริสมักจะคอยบอกเรื่องความคืบหน้า
อีกไม่กี่วันก็จะถึงการส่งมอบของแล้ว
ตอนนี้ลู่หานถูกเทรนด์อย่างหนักเพื่อจะให้เป็นคู่ค้ากับปีเตอร์ปาร์คได้
ส่วนผู้กองคริสก็วิ่งเรื่องเอกสารการปลอมตัวของลู่หาน
จงอินถามว่ามินซอกสบายดีใช่ไหม
คิดถึงเจ้าตัวเล็กที่แสนจะเอ็นดูอยู่เหมือนกัน ลู่หานบอกน้องว่าเขาได้ตั๋วเที่ยวทะเลจากลูกค้าคนหนึ่งที่มาเช่าซีดีเลยเดินทางมาพักผ่อน
มันกะทันหันและไม่ได้บอกใคร กว่ามินซอกจะหายงอนได้ก็ปาเข้าไปอาทิตย์นึง
น้องบ่นหงุงหงิงว่าไปไม่บอกกันก่อน แล้วยังบอกอีกว่าอยากไปเที่ยวทะเลบ้าง
ไอ้ลู่หานเลยเสนอหน้าสัญญาว่าจะพาไปทันที
อีกคนที่ส่งข้อความมาบ่อยคือเซฮุน
มักจะมีข้อความจากเบอร์ของตัวขาวเข้ามาในเวลากลางดึก
เซฮุนกลัวว่าถ้าส่งมาช่วงกลางวันคนจะสงสัยและเป็นปัญหากับงานของจงอิน
ทั้งที่เขาเองก็บอกคนตัวขาวแล้วว่าไม่เป็นอะไร ส่งมาได้
-ตัวนอนยัง-
ข้อความจากเซฮุนเด้งขึ้นมาอีกครั้งกลางดึก
จงอินคว้าโทรศัพท์มาดูก่อนจะระบายยิ้มแล้วกดพิมพ์ข้อความตอบกลับไป
“นอนแล้ว”เซฮุนส่งสติ้กเกอร์กลับมาว่าขอโทษ
จงอินบอกว่าไม่เป็นไร นอนไม่ค่อยหลับอยู่แล้ว แต่ถึงจะนอนหลับอยู่
ถ้าเซฮุนทักมาจงอินก็ต้องกระเสือกกระสนตื่นขึ้นมาตอบอยู่ดีนั่นล่ะ เซฮุนถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง
เป็นข้อความที่เห็นบ่อยที่สุดในเกือบสามสัปดาห์ที่ผ่านมานี้
แต่จงอินไม่ได้เบื่อที่จะเห็นมันสักนิด กลับปิติในใจที่เซฮุนเป็นห่วงอยู่ตลอดเวลา
เขาพิมพ์ตอบไปว่าอีกสองวันก็ถึงวันส่งของจริงๆแล้ว ตอนนี้เลยฝึกยิงปืนบ่อยมาก
-ระวังด้วยนะ
อย่าขึ้นไกเอาไว้ ห้ามเผลอเด็ดขาด-
ข้อความมาพร้อมสติ้กเกอร์เจ้าหมาทำหน้าดุๆ
จงอินยิ้มกว้างท่ามกลางความมืดของห้องและเสียงกรนของอีจงฮยอน
“อีกสองวันเจอกันนะ
เค้ามีอะไรจะบอกตัวด้วย”จงอินพิมพ์ตอบกลับไป เซฮุนก็พิมพ์กลับมาว่าจะบอกอะไร
แต่จงอินก็ไม่บอก
...จะบอกว่ารักเซฮุน...
ร่างวหนาเบี่ยงประเด็นไปว่าง่วงนอนแล้ว
บอกฝันดีกับเจ้าตัวขาวพร้อมสติ้กเกอร์หมีง่วงไปให้
เซอุนตอบกลับมาแต่จงอินไม่ได้สนใจจะอ่านอีกแล้ว
กลัวว่ายิ่งอ่านจะยิ่งไม่อยากเลิกพิมพ์ข้อความตอบโต้กัน
ชายหนุ่มล็อกหน้าจอแล้วสอดมือถือเข้าใต้หมอน ปล่อยให้ความเงียบ ความมืด และเสียงกรนเบาๆขับกล่อมให้ง่วงงุนและหลับลงในที่สุด
วันนี้ทั้งลูกน้องปลายแถวทั่วไป
ทั้งบอดี้การ์ดของปีเตอร์ปาร์คต่างเตรียมตัวกันให้พร้อมสำหรับงานของวันพรุ่งนี้
ยาล็อตใหญ่มูลค่าหลายสิบล้านถูกลำเลียงขึ้นรถตู้
จงอินประเมินแล้วคงไม่ต่ำกว่าแสนเม็ด ไม่รู้ว่าผู้กองคริสวางแผนล่อซื้อปริมาณเท่าไหร่
แต่ประเมินดูแล้วยาล็อตนี้คงไม่ได้ถูกจำหน่ายให้กับการล่อซื้ออย่างเดียวแน่ๆ
คงมีรายอื่นอีก
มาอยู่ได้เกือบสามสัปดาห์
จงอินมีโอกาสได้พบกับปีเตอร์ปาร์คไม่กี่ครั้ง
ถึงจะเป็นบอดี้การ์ดแต่เพราะปีเตอร์ปาร์คไม่ค่อยไปไหนนอกจากบริษัท หน้าที่คุ้มกันจึงตกเป็นของบอดี้การ์ดรุ่นเก่าและหัวหน้าอย่างยุนโฮเสียมากกว่า
“ตื่นเต้นไหมล่ะมึง
พรุ่งนี้งานแรกเลยสินะ”จงฮยอนถามออกมาขณะที่จงอินกำลังตรวจเช็คปืนอยู่
ร่างหนาพยักหน้าน้อยๆ
บอกว่าต้องลงสนามจริงครั้งแรกให้เตรียมตัวขนาดไหนก็คงต้องตื่นเต้นเป็นธรรมดา
“ถ้างานพรุ่งนี้ผ่านไปได้ด้วยดีคงได้โบนัสจากนายอื้อซ่า
กูว่าจะไปทำบุญให้จูฮยอนสักที
น้องคงดีใจถ้ากูเอากุหลาบขาวที่เจ้าตัวชอบไปให้”ไอ้จงฮยอนพูดออกมาทำเอาจงอินถึงกับพูดไม่ออก
ได้แต่ถอนหายใจออกมา
เขากำลังจะสอบเป็นตำรวจ
แค่ตอนทำงานเป็นสายยังคิดใจอ่อนขนาดนี้ ถ้าหากเป็นผู้รักษากฎหมายจะมามัวแต่ใจอ่อนให้กับผู้ต้องหาคงไม่ได้
ดูเช่นคริสเป็นตัวอย่าง
ต่อให้มันผิดต่อศีลธรรมแต่ถูกต่อกฎหมาย...ก็ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย
คนทำผิดก็ต้องได้รับโทษทัณฑ์
“น้องมึงชอบกุหลาบขาวใช่ไหม?”จงอินเอ่ยถาม
จงฮยอนยิ้มออกมา พยักหน้าตอบว่าใช่ จูฮยอนชอบดอกกุหลาบขาว
ดอกไม้ที่กลีบแสนจะบอบบางและขาวสะอาด เหมือนกับตัวของจูฮยอนเอง บอบบาง ขาวสะอาด
น่าทะนุถนอม
“มึงจะช่วยกูซื้อดอกไม้ให้น้องเหรอวะ”ชายหนุ่มถาม
จงอินครางรับในลำคอ จงฮยอนยิ้มกว้างบอกว่าดีมาก
จูฮยอนคงดีใจที่ได้ดอกกุหลาบขาวเยอะๆ จงอินนึกขอโทษต่ออีจูฮยอนในใจ
ดอกกุหลาบของเขาให้ซื้อมามากมายเท่าไหร่คงไม่มีคุณค่าเท่าดอกกุหลาบจากพี่ชายของเธอ...
ค น คุ ก
จงอินถูกวางตัวให้นั่งคู่กับจงฮยอนที่รถนำหน้า
ยุนโฮและมินจุนนั่งกับปีเตอร์ปาร์คบนรถตู้ที่ใช้ขนยา
และด้านหลังมีรถของบอดีการ์ดอีกสองคันขับตามมาอีก คนขับรถคันของจงอินคือฮงฮุน
หมอนี่เป็นคนเดียวในรถที่รู้ว่าจะไปส่งของที่ไหน
จงอินปิดเครื่องโทรศัพท์ตัดการติดต่อกับทุกอย่างเพื่อทำหน้าที่ตามคำสั่งของยุนโฮว่าไม่ให้ใช้เครื่องมือสื่อสารใดๆ
จงอินคิดว่าอย่างหนึ่งคือการป้องกันการถูกสะกดรอยของตำรวจจากจีพีเอสมือถือ
แต่คงช้าไปเมื่อจงอินแฝงตัวเข้ามาได้เรียบร้อยแล้ว
จากในเมืองมุ่งสู่นอกเมือง
จากรถที่วิ่งกันขวักไขว่เริ่มเหลือเพียงถนนที่ว่างเปล่าและสุดท้ายก็มีเพียงรถสี่คันแล่นอยู่ท่ามกลางถนนสองเลน
“ถึงแล้วเหรอวะ”จงฮยอนถามออกมาเมื่อรถนำหน้าอย่างคันที่พวกเขานั่งหยุดลง
ฮงฮุนบอกว่าใช่ ถึงที่นัดหมายเรียบร้อยแล้ว เป็นจังหวัดในเจตปริมณฑลใกล้ๆโซลนี่เอง
รถตู้ของปีเตอร์ปาร์คที่ขับตามมาจอดใกล้ๆกัน
จงฮยอนเดินไปเปิดประตูให้อย่างรู้หน้าที่
ชายวัยกลางคนในมาดนักธุรกิจก้าวลงจากรถพร้อมใช้สายตาสำรวจไปรอบๆ
จงอินเองก็มองสำรวจเช่นกัน ที่นี่ไม่มีใครนอกจากรถพวกเขาสี่คัน
แสดงว่าลู่หานยังมาไม่ถึง
แต่รออยู่เพียงไม่นาน
รถสองคนก็โผล่เข้ามาในระยะสายตา
บอดี้การ์ดของปีเตอร์ปาร์คต่างขยับเข้าใกล้เจ้านายของพวกมันมากขึ้น
รถสองคันนั้นตั้งใจขับเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ แสดงว่าคงเป็นลู่หานแน่แท้
และในที่สุดรถทั้งสองคันก็หยุดลง
บอดี้การ์ดบางส่วนเดินไปประจันที่หน้ารถเพื่อสำรวจ
จงอินเองก็มองเข้าไปในรถแต่ฟิล์มที่ติดมืดสนิททำให้มองไม่เห็นเท่าไหร่นัก
จนเมื่อบอดี้การ์ดของปีเตอร์ปาร์คแน่ใจแล้วว่าเป็นคู่ค้าของเจ้านาย
ประตูรถฝั่งคนขับถึงเปิดออก คนที่ขับรถคันแรกมาจงอินไม่รู้จัก
แต่คนขับรถคนที่สองนั้นคุ้นหน้ากันอยู่เพราะเคยทำงานร่วมกันมาบ้าง
คันแรกคงเป็นบอดี้การ์ด
เพราะมีเพียงผู้ชายในชุดแจ๊คเก็ตทะมัดทะแมงอีกคนเท่านั้นที่ลงจากรถมา
ไม่นานประตูรถคันที่สองด้านหลังก็ถูกเปิดโดยคันขับรถ
รูปร่างสูงโปร่งของคนที่จงอินคุ้นเคยดีก้าวลงมาจากรถคันนั้น
เนื้อตัวลู่หานประดับด้วยเสื้อผ้าราคาดี
ยอมรับเลยว่าไอ้เพื่อควายของจงอินดูดีขึ้นมากในมาดนักธุรกิจแบบนี้
“สวัสดี
ผมชื่อหลี่ชิวเหลียง”แม้แต่ท่าทางการพูดก็เปลี่ยนไปด้วย ดูสุขุมมากขึ้น
ปีเตอร์คจับมือกับลู่หานเพื่อแสดงสัมพันธไมตรี จากนั้นกระเป๋าเงินใบใหญ่จากบอดี้การ์ดของลู่หานจึงถูกส่งให้กับทางยุนโฮเพื่อตรวจสอบ
จนเมื่อยุนโฮพยักหน้าตอบรับว่าเงินครบตามจำนวน
ลูกน้องที่ติดตามมาด้วยของปีเตอร์ปาร์คจึงช่วยกันขนของลงจากรถ
จงอินกับลู่หานมองหน้ากันอย่างรอเวลา
ลู่หานมองนาฬิกาที่ข้อมือเล็กน้อย เหมือนกับว่าเวลาที่ผู้กองคริสจะเข้าชาร์จนั้นเลยไปเล็กน้อยแล้ว
“มึงมองฝั่งนั้นทำไมวะ”ไอ้จงฮยอนถามเรียกให้ยุนโฮซึ่งส่งกระเป๋าเงินให้กับปีเตอร์ปาร์คหันมามองด้วยความสนใจ
จงอินสะดุ้งเล็กน้อยไม่คิดว่าจงฮยอนจะสังเกตตนอยู่ ร่างหนาบอกว่าไม่มีอะไร
ก็แค่มองไปเรื่อย แต่คนที่เหมือนจะถูกจับผิดได้
ให้กลบเกลื่อนยังไงก็ต้องมีบางอย่างที่เป็นพิรุธ ยุนโฮขมวดคิ้วแน่น
สัญชาตญาณของบอดี้การ์ดที่ไม่ไว้ใจใครนอกจากเจ้านายของตัวเองทำให้ร่างสูงควักปืนที่เหน็บอยู่ที่เอวขึ้นมาทันทีด้วยความไม่ไว้ใจในตัวลูกน้อง
ลู่หานเบิกตากว้าง
ลูกน้องของปีเตอร์ปาร์คก็กำลังลำเลียงของใส่รถฝั่งตนเองอยู่
แต่เพื่อนที่กำลังจะถูกปืนจ่อหน้าก็ทำให้เป็นห่วง
จงฮยอนนึกตกใจที่หัวหน้าบอดี้การ์ดคว้าปืนจ่อหน้าจงอิน
ไม่ทันได้ตั้งตัวเสียงปืนก็ดังขึ้นทันทีพร้อมเสียงร้องตะโกนของลู่หาน
“เหี้ยจงอินระวัง!!”ยุนโฮสบถอย่างหัวเสียที่ยิงพลาดไป
ต้องการจะยิงที่ท้องแต่เพราะจงอินไหวตัวจึงถูกที่ชายโครงของชายหนุ่ม
ยุนโฮกันตัวปีเตอร์ปาร์คเข้าไปในรถและขับออกไปในช่วงชุลมุน
นายตำรวจที่ปลอมตัวมาเป็นบอดี้การ์ดยิงเข้าใส่บอดี้การ์ดของปีเตอร์ปาร์คจนหลายคนล้มลงไปก่อนที่จะทันหยิบปืนออกมา
ลู่หานกระโดดเตะเข้าที่ท้องของบอดี้การ์ดคนหนึ่งของปีเตอร์ปาร์คแล้วคว้าปืนเอามาเหนี่ยวไกยิงทันที
แรงอัดจากปืนทำเอามือสั่นและไม่ตรงเป้าแต่ก็ทำให้บอดี้การ์ดคนหนึ่งเจ็บและล้มลง
เสียงรถวิ่งกรูกันเข้ามา
ลู่หานสบถด่าไอ้เหี้ยผู้กองคริสว่ามาถูกจังหวะสัดหมา
รถของปีเตอร์ปาร์คที่เพิ่งขับออกไปถูกสกัดกั้นเอาไว้
มีเสียงปืนยิงตอบโต้กันดังสนั่น
เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายกรูกันเข้ามาจับกุมบอดี้การ์ดของปีเตอร์ปาร์คที่ยังคงเหลืออยู่
ลู่หานวิ่งไปดูเพื่อนที่ถูกยิงชายโครงเลือดอาบเสื้อเชิ้ตที่มันใส่อยู่
“เป็นยังไงบ้างไอ้สัด”ลู่หานถามมัน
จงอินยันกายเอาไว้กับพื้น ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วจนจับต้นชนปลายไม่ถูก
เสียงทุ้มร้องซี้เพราะเจ็บเสียดจากที่กระสุนทะลุเข้าไปในร่าง
ลู่หานบอกให้เพื่อนอย่าเพิ่งขยับเขาโบกมือให้ตำรวจพยาบาลเอาเปลหามมาทางนี้
สถานการณ์เริ่มปรกติ
ตำรวจสามารถจับกุมลูกน้องทุกคนของปีเตอร์ปาร์คเอาไว้ได้ รวมถึงนักธุรกิจส่งออกคนนี้ด้วย
แต่จากการปะทะกันทำให้บอดี้การ์ดของปีเตอร์ได้รับบาดเจ็บหนักหลายคน
และมีสองคนที่เสียชีวิต
จงอินได้ฟังรายงานของผู้กองคริสก็วูบโหวงในใจ
เขารู้จักบอดี้การ์ดทั้งหมดของปีเตอร์ปาร์คดี
เลยไม่อยากจะถามสักนิดว่าคนที่เสียชีวิตคือใคร แต่ผู้กองคริสก็ต้องรายงานตามหน้าที่
วิยาทีที่ชื่อของบอดี้การ์ดสองคนซึ่งไม่มีลมหายใจอีกแล้วในตอนนี้หลุดออกจากปากของคริส
จงอินก็กลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลลงมาไม่ได้เลย
เพราะมันเป็นชื่อของอีจงฮยอนและคิมมินจุน...
คนหนึ่งกำลังจะมีลูกที่น่ารัก...กำลังจะกลับไปหาลูกและเมียที่รออยู่ที่ปูซาน
อีกคนหนึ่ง...กำลังจะกลับไปทำบุญให้น้องสาวพร้อมสัญญาว่าจะซื้อดอกกุหลาบขาวที่น้องชอบไปให้
...ขอให้ไปสูสุขคติ...
คิมจงอินก็พูดได้แค่นั้น...
TBC.
แต่งนานมากกกกกกกกกกก
และอุปสรรค์เยอะมาก ทั้งคีย์บอร์ดพัง ซื้อมาใหม่ก็ห่วยแตก
สรุปจ่ายค่าคีย์บอร์ดธรรมดาๆไปห้าร้อยบาทถ้วย
มาม่ายังไม่พอจะซื้อแดกเลยนะขรั่บงานนี้ ฮืออออออออออออออ
ปล.
ไคฮุนอยู่ตรงไหน555555555555 อยู่ตอนหน้าไงแกกกกกกกกกกกกก
น้องมินซอกก็จะคัมแบ็กละนะ
ขออนุญาตยัดลู่หมินเข้าไปในพาร์ทน้องฮุนด้วยคงไม่ว่ากันเนาะ
รักนะไม่นอกใจจจจจจจจจจจจจจจจจ
ปลล.
เราทำงานหนักจริงๆ เหนื่อยจริงๆ ท้อแท้มากๆ แต่ก็อยากจะมาต่อให้นะ ไม่ได้ทิ้ง
แต่ไม่มีเวลาจริงๆ กว่าจะถึงบ้าน นอนไม่ถึง 8 ชั่วโมงก็ต้องตื่นอีกแล้ว
เห็นใจเราหน่อยนะ ขอกำลังใจกันบ้าง เม้นกันบ้าง ติดแท็กกันบ้าง T^T
ปลลล.
หลี่ชิวเหลียงเป็นชื่อเจ้านายชาวสิงคโปร์ของเราเอง.....................ทั้งบริษัทมีแต่คนสิงคโปรืที่ใช้ภาจีนเป็นภาหลักค่ะ
...บอกเลยสนุก 55555555555555555555555555555555555555555555555555
#พี่ลู่คนคุก
แมลงจี่...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น