วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2558

คนคุกคิมจงอิน.2


เกิดคำถามว่าทำไมชอบทำให้เป็นห่วง

คำตอบในใจก็แค่อยากให้ห่วง

 

 

 

คิมจงอิน.2

 

จงอินกำลังยืนอยู่ในบ้านหลังใหญ่โต พร้อมกับอีกหลายชีวิตที่อยู่รายล้อมกาย

“อายุเท่าไหร่?”คนที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันอยู่ตรงหน้าถามออกมา ขายาวใต้กางเกงยีนสีฟอกเดินวนไปมารอบตัวของจงอินพร้อมคำถามที่ดำเนินมาถึงสี่ห้าข้อแล้ว ตั้งแต่ชื่อ การศึกษา ญาติพี่น้อง อายุ นึกว่าเป็นการสัมภาษณ์งานเข้าทำงานบริษัทอสังหาริมทรัพย์สักแห่งในตำแหน่งการตลาด แต่จริงๆตอนนี้จงอินกำลังถูกสัมภาษณ์เพื่อจะเข้าทำงานตำแหน่งบอดี้การ์ดส่วนตัวของปีเตอร์ปาร์ค นักธุรกิจบวกเป็นผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งของเกาหลี ฉากเบื้องหน้าคือนักธุรกิจนำเข้าส่งออกอะไหล่เครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรม แต่ที่จริงคือพ่อค้ายาบ้ารายยักษ์

ปีเตอร์ปาร์คเคยทำธุรกิจร่วมกับฮวังชอนจีที่เพิ่งถูกจับเข้าคุกโดยการให้ปากคำจากคิมกอนโมถึงชื่อของคนที่หนุนหลังวงการค้ายาเสพติดอยู่

จงอินตอบคนที่ยังเดินสำรวจเขาไปว่าอายุ22 ก็ได้คำถามใหม่มาว่าเคยติดคุกคดีอะไรเพราะเขาบอกกับมันไปว่าเพิ่งออกจากคุกมา

“ขายยา”คนตรงหน้าพยักหน้า สายตาคมเข้มกราดมองทั้งตัวจงอินอย่างพิจารณา หน่วยก้านดี รูปร่างสูงใหญ่แต่ไม่เทอะทะเกินไป ถ้าประกบข้างให้ความระมัดระวังกับเจ้านายของจะคล่องตัวดี

“ใช้ปืนเป็นหรือเปล่า”มันถามอีกครั้งก่อนจะส่งกระบอกสีเงินมาให้ จุดสามแปดเป็นปืนที่ใช้ง่ายและใช้ได้เกลื่อนกลาด จงอินรับมันมาถือเอาไว้ ถึงจะเคยเรียนการใช้งานมาบ้างเขาก็อดจะรู้สึกหนักอึ้งทุกครั้งไม่ได้ที่จะต้องจับกระบอกปลิดชีพเอาไว้ เพียงพลาดเล็กน้อยไปโดนไกปืน อาจจะทำให้ชีวิตคนสักคนสูญเสียไปตลอดกาล

“จะให้ยิงใคร”คำถามของจงอินดูจะถูกใจคนตรงหน้าไม่น้อย มันหัวเราะหึพร้อมแสยะยิ้ม ชี้ไปที่ลิ่วล้ออีกสองสามคนที่ยืนอยู่ไกลๆ พวกมันแต่งตัวคล้ายกับคนตรงหน้าจงอินคือกางเกงยีนเสื้อเชิ้ต บอดี้การ์ดของจริงกับในหนังดูจะแตกต่างกันน่าดู ก็อย่างที่วิพากษ์วิจารณ์กันตอนดูหนังมาเฟียนั่นล่ะว่าถ้าบอดี้การ์ดใส่สูทดำยืนเรียงแถวกัน มันไม่เป็นที่น่าสงสัยเกินไปหรือไง การแต่งตัวแบบสามัญชนธรรมดาเขาแต่งกันน่าจะดีกว่า

“มีคนนึงชื่อฮงฮุน มึงเลือกยิงให้ถูกคนสิ”จงอินร้องเหอะขึ้นมา จากสามคน มีหนึ่งคนที่ชื่อฮงฮุนแล้วให้เขาเลือกยิงน่ะเหรอ? ไอ้ลิ่วล้อทั้งสามได้ยินคำสั่งก็หน้าเหวอ โดยเฉพาะคนที่อยู่ซ้ายมือมันหน้าซีดเผือด ไม่บอกก็ฉลาดพอจะรู้ว่ามันนั่นแหล่ะคือฮุนฮง ถึงจะฉลาดรู้ว่าใครคือฮุนฮง แต่จงอินก็ไม่โง่พอจะยิงไอ้ฮุนฮงตัวจริงหรอก เขากัดฟันยกกระบอกปืนขึ้นเล็งไปทางสามคนนั้น พวกมันจะขยับหนีแต่เสียงตวาดของคนที่อยู่ตรงหน้าจงอินก็บอกให้มันห้ามขยับไปไหน สีหน้าหวาดกลัวกับวิถีกระสุที่จะพุ่งออกจากปลายกระบอกปืนทำให้จงอินพูดคำว่าขอโทษอยู่ในใจ

ปัง! ปัง! ปัง!

 

เสียงปืนดังขึ้นสามนัด พร้อมกับเสียงร้องโอดโอยของคนสามคน จงอินลดกระบอกปืนที่ยังกรุ่นกลิ่นไหม้ของการเสียดสีจากแรงอัดของปืนกับกระสุนลง ลิ่วล้อสามคนลงไปนอนกับพื้น จงอินไม่ใช้คนที่แม่นปืน เขาเลือกพยายามจะยิงเข้าที่ขาของพวกมันเพราะการล็อกเป้าจะใหญ่กว่าที่แขน

เสียงปรบมือดังขึ้นทำให้จงอินต้องหันไปมอง คนที่สั่งให้เขายิงสามคนนั้นยิ้มกว้าง ปรบมือให้เขา

“เก่ง ฉลาดดีจริง”เพราะไม่รู้ว่าใครคือฮงฮุน แต่ทั้งหมดคือกลุ่มเป้าหมาย เพราะฉะนั้น หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นจริงๆจะมัวเลือกหาตัวคนที่ต้องการยิงไม่ได้ ทางที่ดีก็ให้ยิงทั้งหมดที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมาย ลูกน้องกระจอกๆหลายคนมาพาสามคนที่ถูกยิงออกไป คนตรงหน้าจงอินรับปืนไปเหน็บไว้ที่เอวตามเดิมก่อนที่มันจะเดินมาตบที่บ่ากว้าง

“ยินดีต้อนรับ หวังว่ามึงจะให้ความคุ้มครองนายด้วยชีวิต กูชื่อยุนโฮเป็นหัวหน้าการ์ดทั้งหมด”จงอินพยักหน้ารับ เขาเอ่ยขอบคุณที่รับเขาเข้าเป็นบอดี้การ์ดของปีเตอร์ปาร์ค ยุนโฮหัวเราะออกมาบอกว่าจงอินมีฝีมือ ขอแค่มีใจที่ภักดีไม่หักหลังกัน รับรองว่าจะสุขสบาย แต่ถ้าคิดจะหักหลังเขาและปีเตอร์ปาร์ค

“เห็นบ่อน้ำนั่นไหม?”นิ้วเรียวยาวชี้ไปทางแท๊งค์เก็บน้ำที่ดูเก่าคร่ำครึใกล้ๆกัน มันไม่น่าจะเป็นแท๊งค์น้ำที่ถูกใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคแน่ๆ แล้วจงอินก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอเมื่อยุนโฮพูดหน้าที่ของมันออกมาต่อจากนั้น

“คนที่ทรยศก็จะไปนอนเน่ารวมกันอยู่ที่นั่นยังไงล่ะ”

 

 

ค น คุ ก

 

 

จงอินกลับมาบ้านเพื่อจะเก็บของบางส่วนและย้ายไปอยู่กับปีเตอร์ปาร์คในฐานะบอดี้การ์ด วันนี้ลู่หานและผู้กองคริสจะบุกจับปาร์ตี้ไอซ์ ดูนาฬิกาแล้วก็อีกแค่ชั่วโมงเดียว ตอนนี้ลู่หานคงกำลังอยู่ในห้องของนักศึกษาพวกนั้นแล้ว รอเวลาให้ผู้กองคริสและตำรวจคนอื่นเข้าชาร์จ แต่ชายหนุ่มก็ต้องแปลกใจเมื่อเจอเซฮุนนั่งรออยู่ในบ้านกับจุนมยอน คนตัวขาวทั้งคู่มานั่งดูทีวีอยู่ด้วยกันพอเห็นจงอินมาจุนมยอนก็ลุกเข้าห้องของตัวเองไป

“ตัวมาทำไม วันนี้ผู้กองจับไอซ์ ไม่ได้เข้ามาที่นี่หรอกนะ”เขาถามแล้วเดินไปนั่งเก้าอี้ใกล้ๆเซฮุน คนตัวข่วเลิกสนใจรายการทีวีแล้วหันมายู่ปากใส่

“ไม่ได้มารอพี่คริส มาหาตัว”

“คิดถึงเค้าล่ะสิ”เซฮุนยู่ปากบอกว่าจงอินเพ้อเจ้อ

“จะไปอยู่ที่นั่นเหรอ?”คนตัวขาวถาม เดินตามจงอินเข้าไปในห้องเจ้าตัว แอบเบ้ปากเพราะกองเสื้อผ้าของร่างหนาที่ใส่แล้วยังกองอยู่ในตะกร้าไม่ยอมเอาไปซัก บ่นอุบอิบว่าหัวโล้นซกมก จงอินเก็บเสื้อผ้าไม่กี่ชิ้นใส่กระเป๋าเป้ใบขนาดกลางกับพวกเครื่องใช้ไม่กี่อย่าง

“ไปสามอาทิตย์ ก่อนถึงวันส่งของ ตัวอย่าคิดถึงกันล่ะ”จงอินว่า เดินเข้ามาใกล้เซฮุนแล้วยกมือวางบนหัวทุย เซฮุนเบะปาก ไม่อยากให้จงอินไปทำงานนี้ เขามีความรู้สึกไม่ดีเลยจริงๆ ไม่ใช่ว่าจงอินไม่เคยทำงานเสี่ยงอันตราย แต่ครั้งนี้มันรู้สึกต่างออกไป ทว่าโอเซฮุนก็ไม่อาจจะห้ามหน้าที่ของอีกคนได้ ทุกคนที่ภาระงานและหน้าที่ที่แตกต่างกัน จงอินต้องรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด

“ระวังตัวด้วยนะ”คนตัวขาวพูดได้แค่นี้ ก่อนจะเดินออกจากห้องของอีกคนไปนั่งจุ้มปุ๊กหน้าทีวีอีกครั้ง จงอินตามออกมา เขารู้ว่าเซฮุนเป็นห่วง ในใจเขาเต้นแรง อยากจะบอกกับเซฮุนว่าไม่ต้องห่วง เขาดูแลตัวเองได้

เขาจะไม่ปล่อยตัวเองตายหรอกถ้ายังไม่ได้บอกรักเซฮุน...

“ดีใจนะที่ตัวเป็นห่วง”จงอินพูด เขากระชับเป้ขึ้นสะพายก่อนบอกว่ามานานไม่ได้เพราะบอกกับยุนโฮไว้ว่าจะมาเอาแค่ของใช้เล็กน้อยแล้วจะรีบกลับไป

“ตัวรีบไปเหอะ เดี๋ยวโดนสงสัย”เซฮุนไล่ จงอินยิ้มก่อนจะขยี้หัวอีกคน เขาตั้งใจไว้ตั้งแต่ก่อนออกจากเรือนจำว่าถ้าออกมาจะบอกรักเซฮุน แต่ก็ยังไม่ได้บอกสักที ช่วงนี้หมอปาร์คก็ไม่ค่อยมายุ่งกับเซฮุน ถือเป็นโอกาสดี

จบงานนี้ ก่อนสอบตำรวจ...เขาจะบอกรักเซฮุนเสียที

เพราะเซฮุนเองเขาก็รู้ว่าคนตัวขาวมีใจ ถ้าใจเราตรงกัน...เราก็ควรจะทำให้มันชัดเจน

 

“อีกสามอาทิตย์เจอกันนะ”จงอินพูดก่อนจะเดินออกจากบ้านมา ทิ้งสายตาเป็นห่วงไว้ด้านหลัง

เขากลับไปหายุนโฮอีกครั้ง เห็นคนที่ถูกยิงจากกระบอกปืนยุนโฮที่อยู่ในมือของเขานอนซมเพราะไข้ขึ้นจากบาดแผล กระสุนถูกผ่าตัดออกไปแล้วอย่างลวกๆจากฝีมือพรรคพวกเดียวกันเอง เห็นมียาฆ่าเชื้อและยาแก้อักเสบอยู่เป็นกระปุก คงจะเกิดเหตุผลการณ์ถูกยิงหรือได้แผลกันบ่อยพอควร

“อยู่ห้องกะไอ้จงฮยอนไปแล้วกัน ส่วนนี่ปืน ติดตัวเอาไว้”ยุนโฮพูดบอกพร้อมส่งกระบอกสีเงินให้จงอิน ร่างหนารับปืนมาก่อนจะเหน็บเข้าที่ขอบกางเกง อีจงฮยอนคนที่ยุนโฮบอกว่าเขาต้องอยู่ร่วมห้องด้วยเป็นผู้ชายตัวสูงแต่ดูไม่หนาเทอะทะออกจะแบบบางไปเสียด้วย หมอนี่นำจงอินไปที่ห้อง เป็นห้องขนาดไม่กว้างมากแต่ก็ไม่ได้แคบเกินกว่าจะอยู่กันสองคน มีเตียงเดี่ยวสองเตียงเพราะบอดี้การ์ดของปีเตอร์ปาร์คก็มักจะอยู่กันสองคนต่อหนึ่งห้อง แต่จงฮยอนยังไม่มีเพื่อนร่วมห้องจึงอยู่คนเดียว

“คิดยังไงถึงมาเป็นบอดี้การ์ดนายวะ”จงฮยอนถามออกมา มันถอดเสื้อผ้าที่ใส่อยู่ลงตะกร้าแล้วเปลี่ยนเป็นเสื้อบอลกางเกงขาสั้นตัวเปื่อยๆบอกว่าช่วงนี้นายไม่ออกไปไหน เย็นๆแบบนี้ก็เปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำนอนกันได้แล้ว

“กูเพิ่งออกจากคุก มึงน่าจะคิดออกว่าสังคมคงต้อนรับกูดีมาก”จงอินพูด เอาเสื้อผ้าที่หยิบใส่กระเป๋ามาจากบ้านออกมากองและเลือกเสื้อตัวเก่งที่ใส่นอนบ่อยครั้งออกมา เขาไม่ได้จะแค่เปลี่ยนเสื้อผ้าแต่จะอาบน้ำด้วยเพราะเหนียวตัว

จงฮยอนหัวเราะ บอกว่าเข้าใจดีเลยล่ะเพราะเจ้าตัวก็เคยเข้าคุกเหมือนกัน จงอินอดถามไม่ได้ว่าคดีอะไรก็ได้เป็นยิ้มแผ่วเบาพร้อมกับคำตอบที่เหมือนเสียงกระซิบว่า

“ฆ่าคนตาย”

“ถ้ามึงไม่สะดวกจะพูดถึงมันกูก็ขอทาแล้วกัน”จงอินบอกออกมา เห็นว่าเพื่อนร่วมห้องมีสีหน้าที่แย่ลงที่ต้องพูดถึงเรื่องอดีต แต่จงฮยอนกลับส่ายหัว บอกว่าไม่เป็นไร เขาเล่าเรื่องนี้มามากกว่าสิบรอบแล้ว จงอินนั่งลงบนเตียงฟังที่เพื่อนร่วมห้องทมี่เพิ่งจะรู้จักกันเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟังว่าอีจงฮยอนทำไมจึงต้องฆ่าคนตาย

ในใจของจงอินสะท้อนเสียงแห่งความสงสารผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า...

จงฮยอนเล่าว่าคนที่มันฆ่า...คือแม่มันเอง...

แม่แท้ๆที่อาจจะไม่มีสมบัติของความเป็นแม่คนเลยสักนิด ถึงได้คิดขายลูกสาวตัวเองให้กับเสี่ยบ้ากามตัณหากลับ ขายลูกสาวให้ไปเป็นเครื่องระบายตัณหาทั้งที่อีจูฮยอนน้องสาวของจงฮยอนเพิ่งจะอายุได้แค่ 15 ปี จูฮยอนขัดขืนและถูกทุบตี น้ำเสียงของจงฮยอนสั่นขึ้นมาเมื่อพูดถึงใบหน้าแสนบอบช้ำของน้องสาว

“แม่ฟาดจูฮยอนที่หน้าด้วยรองเท้า...ตัวเธอเล็กนิดเดียว...และใบหน้าเธอจะบอบบาง...มึงรู้ไหม ตอนกูเข้าไปเจอ ผู้หญิงคนนั้นก็ทิ้งจูฮยอนนอนอยู่ที่พื้น...เธอกรามหลุด...และตาย”ถึงจุดนี้ในใจจงอินวูบวาบเพราะความอดสู

เพราะน้องสาวตาย จงฮยอนในตอนนั้นคงไม่มีสติจะตริตรองถึงเรื่องถูกผิด ชายหนุ่มตามหาตัวคนเป็นแม่จนพบ... การเล่าจบลงที่อีจงฮยอนเหวี่ยงแม่ตัวเองลงไปกลางถนนและปะทะกับรถกระบะที่กำลังขับมาด้วยความเร็ว

ไม่มีใคร...อยากเป็นคนเลว แต่เมื่อตกอยู่ในสถานะคนเลว...บางครั้งเราก็กลับไปอยู่ในสถานะคนดีไม่ได้อีก...

 

ค น คุ ก

 

ภายในหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา จงอินไม่เห็นว่าปีเตอร์ปาร์คจะไปไหน นักธุรกิจส่งออกอะไหล่รถเพียงแค่เข้าออกบริษัท ซึ่งยุนโฮจัดทีมบอดี้การ์ดเพียงหยิบมือเพื่อตามประกบ จงอินใช้เวลาในหลายๆวันนี้กับการซ้อมต่อสู้ ป้องกันตัวและฝึกยิงปืนบ้างในบางครั้ง ด้านหลังบ้านหลังโตเป็นสนามหญ้ากว้าง ลูกน้องของปีเตอร์ปาร์คใช้ที่นี่เป็นลานซ้อม กระบอกปืนคู่ตัวที่ได้มาจากยุนโฮถูกยกส่องและเล็งไปทางเป้าที่อยู่ห่างออกไป จงอินเริ่มชินมือกับปืนมากขึ้นจนยกมันเล็งได้อย่างไม่รู้สึกอะไร เสียงปืนดังหลายนัดก่อนกระสุนจะพุ่งตรงเข้าเป้าจำลองที่มีสีแดงจุดระบายเอาไว้

“พัฒนาดีนี่หว่า แค่อาทิตย์เดียว”จงฮยอนเอ่ยชม เขาก็อยู่ด้วยตอนที่จงอินมาสมัครเข้าเป็นบอดีการ์ดของนาย เห็นตอนที่ยุนโฮส่งปืนให้จงอินยิงฮุนฮง ยังนึกชื่นชมว่าจงอินฉลาดที่ยิงทั้งหมดที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมาย แต่ตอนนั้นท่าทางการใช้ปืนของจงอินยังดูติดขัดมากกว่านี้ ทว่าตอนนี้กลับดูเหมือนชำนาญเสียแล้ว

“ยังต้องฝึกอีกเยอะ จะให้การปกป้องนายทั้งคน แค่ยิงเข้าเป้ามันไม่ได้หรอก”จงอินเอ่ยบอก เขาต้องถ่อมตัวเอาไว้ตลอดเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา ให้หลายคนเอ็นดูในฐานะน้องใหม่ แม้แต่ฮงฮุนกับอีกสองคนที่เขายิงมันไปยังไม่ได้ถือทาโกรธเคือง พูดว่าเป็นเพราะคำสั่งของยุนโฮ อีกทั้งยังพูดชมจงอินอีกด้วยเรื่องการยิงทั้งสามคน เพราะเป็นวิถีที่ถูกต้องของบอดี้การ์ดที่พึงจะมีแล้ว

“อยู่กันมาอาทิตย์นอกจากชื่อแซ่กับเรื่องเล็กน้อย พวกกูยังไม่รู้เรื่องมึงเยอะเท่าไหร่เลย ครอบครัวมึงล่ะวะ หรือเหลือตัวคนเดียว”จงฮยอนถาม จงอินบอกไปว่าพ่อแม่ตายหมดแล้ว เขาไม่ได้โกหกสักนิดเมื่อมันเป็นความจริง

“ที่นี่ส่วนมากก็พ่อแม่ตาย กำพร้าไม่ก็เคยต้องคดีกันทั้งนั้น ยามั่ง ขโมยมั่ง ดีที่คุณปีเตอร์เขาเมตตาชุบเลี้ยง”

“...”

“ถึงมันจะเป็นธุรกิจที่ผิดกฎหมาย แต่ถ้ามันทำให้มีเงินเอาไปซื้อของกินให้ท้องอิ่มนอนหลับสบายได้...ก็ต้องทำละวะ”คิมมินจุนที่ดูจะมีอายุมากกว่าใครในบรรดาบอดี้การ์ดเอ่ยบอก จงอินยิ้มขื่นให้กับชะตาชีวิตของแต่ละคน ไม่มีใครหรอกใช่ไหมที่อยากจะทำผิดกฎหมายและหย่อนขาข้างหนึ่งเข้าไปในตาราง แต่โลกนี้ไม่ได้มีแค่สิ่งที่ดีงามและความสำเร็จในชีวิต คนเราเกิดมาไม่เหมือนกัน ไม่มีใครรู้หรอกว่าชีวิตจะเป็นแบบไหน ใครก็หวังจะสุขสบายทั้งนั้น

“งานอีกสองอาทิตย์ข้างหน้านี่เขาว่างานใหญ่เลยใช่ไหม? ยุนโฮบอกว่าส่งเยอะ”จงอินลองถามหยั่งเชิง แต่ละคนพยักหน้า

“ยิ่งของเยอะก็ยิ่งไม่ปลอดภัย ตำรวจเดี๋ยวนี้มันตามกลิ่นกันไวจะตาย ฮวังชอนจีก็เพิ่งจะเข้าคุกเพราะไอ้กอนโมมันเสือกให้การกับตำรวจ”ใครคนหนึ่งพูดขึ้นมา อีกคนก็สัมทับว่างานนี้ต้องเตรียมตัวให้ดี ถ้าเกิดตำรวจโผล่เข้ามาคงต้องมีปะทะ ของเยอะขนาดนี้ถ้าถูกจับได้นอกจากจะเข้าไปนอนนับซี่เหล็กในซังเตแล้วยังเสียหายอีกมูลค่าหลายสิบล้าน

“กูไม่ปล่อยให้ตัวเองโดนจับเด็ดขาด เมียกูที่อยู่ที่ปูซานกำลังท้อง อีกสองสามเดือนก็จะคลอดแล้ว”ฮงฮุนพูดขึ้นมา แววตาของมันอ่อนลงเมื่อพูดถึงลูกและเมีย จงอินเบือนหน้าหนี...เขานึกขอโทษพวกนี้ในใจ เพราะอย่างไรเสีย...แผนการล่อซื้อครั้งนี้ก็จะล่มไม่ได้ ทุกคนจะต้องถูกจับกุมและเข้าไปชดใช้ความผิดในคุก

 

ต่อให้มีเหตุผลในการทำผิดมากมายขนาดไหน แต่กฎหมายก็คือกฎหมาย ผู้พิพากษามีสิทธิ์ใจอ่อนกับผู้ต้องหา แต่ไม่มีสิทธิ์ใช้ความสงสารนั้นบิดเบือนโทษที่ผู้ต้องหาต้องได้รับตามมาตรากฎหมาย...

 

ค น คุ ก

 

ลู่หานมักจะใช้เบอร์ของมินซอกส่งข้อความไลน์มาหาจงอิน ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีกับเขาแต่เป็นเรื่องที่ผิดพลาดของเหล่าบอดี้การ์ดปีเตอร์ปาร์ค ที่นี่อยู่กันแบบไว้เนื้อเชื่อใจมากเกินไป ปักใจว่าคนนี้คือคนที่ไว้ใจได้ก็จะไม่ก้าวก่ายกันและกัน อย่างจงฮยอนที่นอนห้องเดียวกันก็ไม่เคยยุ่งเรื่องส่วนตัวของจงอิน การใช้โทรศัพท์ของจงอินจึงมีอิสระเต็มที่

ลู่หานและผู้กองคริสมักจะคอยบอกเรื่องความคืบหน้า อีกไม่กี่วันก็จะถึงการส่งมอบของแล้ว ตอนนี้ลู่หานถูกเทรนด์อย่างหนักเพื่อจะให้เป็นคู่ค้ากับปีเตอร์ปาร์คได้ ส่วนผู้กองคริสก็วิ่งเรื่องเอกสารการปลอมตัวของลู่หาน

จงอินถามว่ามินซอกสบายดีใช่ไหม คิดถึงเจ้าตัวเล็กที่แสนจะเอ็นดูอยู่เหมือนกัน ลู่หานบอกน้องว่าเขาได้ตั๋วเที่ยวทะเลจากลูกค้าคนหนึ่งที่มาเช่าซีดีเลยเดินทางมาพักผ่อน มันกะทันหันและไม่ได้บอกใคร กว่ามินซอกจะหายงอนได้ก็ปาเข้าไปอาทิตย์นึง น้องบ่นหงุงหงิงว่าไปไม่บอกกันก่อน แล้วยังบอกอีกว่าอยากไปเที่ยวทะเลบ้าง ไอ้ลู่หานเลยเสนอหน้าสัญญาว่าจะพาไปทันที

อีกคนที่ส่งข้อความมาบ่อยคือเซฮุน มักจะมีข้อความจากเบอร์ของตัวขาวเข้ามาในเวลากลางดึก เซฮุนกลัวว่าถ้าส่งมาช่วงกลางวันคนจะสงสัยและเป็นปัญหากับงานของจงอิน ทั้งที่เขาเองก็บอกคนตัวขาวแล้วว่าไม่เป็นอะไร ส่งมาได้

-ตัวนอนยัง-

ข้อความจากเซฮุนเด้งขึ้นมาอีกครั้งกลางดึก จงอินคว้าโทรศัพท์มาดูก่อนจะระบายยิ้มแล้วกดพิมพ์ข้อความตอบกลับไป

“นอนแล้ว”เซฮุนส่งสติ้กเกอร์กลับมาว่าขอโทษ จงอินบอกว่าไม่เป็นไร นอนไม่ค่อยหลับอยู่แล้ว แต่ถึงจะนอนหลับอยู่ ถ้าเซฮุนทักมาจงอินก็ต้องกระเสือกกระสนตื่นขึ้นมาตอบอยู่ดีนั่นล่ะ เซฮุนถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง เป็นข้อความที่เห็นบ่อยที่สุดในเกือบสามสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ แต่จงอินไม่ได้เบื่อที่จะเห็นมันสักนิด กลับปิติในใจที่เซฮุนเป็นห่วงอยู่ตลอดเวลา เขาพิมพ์ตอบไปว่าอีกสองวันก็ถึงวันส่งของจริงๆแล้ว ตอนนี้เลยฝึกยิงปืนบ่อยมาก

-ระวังด้วยนะ อย่าขึ้นไกเอาไว้ ห้ามเผลอเด็ดขาด-

ข้อความมาพร้อมสติ้กเกอร์เจ้าหมาทำหน้าดุๆ จงอินยิ้มกว้างท่ามกลางความมืดของห้องและเสียงกรนของอีจงฮยอน

“อีกสองวันเจอกันนะ เค้ามีอะไรจะบอกตัวด้วย”จงอินพิมพ์ตอบกลับไป เซฮุนก็พิมพ์กลับมาว่าจะบอกอะไร แต่จงอินก็ไม่บอก

...จะบอกว่ารักเซฮุน...

ร่างวหนาเบี่ยงประเด็นไปว่าง่วงนอนแล้ว บอกฝันดีกับเจ้าตัวขาวพร้อมสติ้กเกอร์หมีง่วงไปให้ เซอุนตอบกลับมาแต่จงอินไม่ได้สนใจจะอ่านอีกแล้ว กลัวว่ายิ่งอ่านจะยิ่งไม่อยากเลิกพิมพ์ข้อความตอบโต้กัน ชายหนุ่มล็อกหน้าจอแล้วสอดมือถือเข้าใต้หมอน ปล่อยให้ความเงียบ ความมืด และเสียงกรนเบาๆขับกล่อมให้ง่วงงุนและหลับลงในที่สุด

 

วันนี้ทั้งลูกน้องปลายแถวทั่วไป ทั้งบอดี้การ์ดของปีเตอร์ปาร์คต่างเตรียมตัวกันให้พร้อมสำหรับงานของวันพรุ่งนี้ ยาล็อตใหญ่มูลค่าหลายสิบล้านถูกลำเลียงขึ้นรถตู้ จงอินประเมินแล้วคงไม่ต่ำกว่าแสนเม็ด ไม่รู้ว่าผู้กองคริสวางแผนล่อซื้อปริมาณเท่าไหร่ แต่ประเมินดูแล้วยาล็อตนี้คงไม่ได้ถูกจำหน่ายให้กับการล่อซื้ออย่างเดียวแน่ๆ คงมีรายอื่นอีก

มาอยู่ได้เกือบสามสัปดาห์ จงอินมีโอกาสได้พบกับปีเตอร์ปาร์คไม่กี่ครั้ง ถึงจะเป็นบอดี้การ์ดแต่เพราะปีเตอร์ปาร์คไม่ค่อยไปไหนนอกจากบริษัท หน้าที่คุ้มกันจึงตกเป็นของบอดี้การ์ดรุ่นเก่าและหัวหน้าอย่างยุนโฮเสียมากกว่า

“ตื่นเต้นไหมล่ะมึง พรุ่งนี้งานแรกเลยสินะ”จงฮยอนถามออกมาขณะที่จงอินกำลังตรวจเช็คปืนอยู่ ร่างหนาพยักหน้าน้อยๆ บอกว่าต้องลงสนามจริงครั้งแรกให้เตรียมตัวขนาดไหนก็คงต้องตื่นเต้นเป็นธรรมดา

“ถ้างานพรุ่งนี้ผ่านไปได้ด้วยดีคงได้โบนัสจากนายอื้อซ่า กูว่าจะไปทำบุญให้จูฮยอนสักที น้องคงดีใจถ้ากูเอากุหลาบขาวที่เจ้าตัวชอบไปให้”ไอ้จงฮยอนพูดออกมาทำเอาจงอินถึงกับพูดไม่ออก ได้แต่ถอนหายใจออกมา

เขากำลังจะสอบเป็นตำรวจ แค่ตอนทำงานเป็นสายยังคิดใจอ่อนขนาดนี้ ถ้าหากเป็นผู้รักษากฎหมายจะมามัวแต่ใจอ่อนให้กับผู้ต้องหาคงไม่ได้ ดูเช่นคริสเป็นตัวอย่าง ต่อให้มันผิดต่อศีลธรรมแต่ถูกต่อกฎหมาย...ก็ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย คนทำผิดก็ต้องได้รับโทษทัณฑ์

“น้องมึงชอบกุหลาบขาวใช่ไหม?”จงอินเอ่ยถาม จงฮยอนยิ้มออกมา พยักหน้าตอบว่าใช่ จูฮยอนชอบดอกกุหลาบขาว ดอกไม้ที่กลีบแสนจะบอบบางและขาวสะอาด เหมือนกับตัวของจูฮยอนเอง บอบบาง ขาวสะอาด น่าทะนุถนอม

“มึงจะช่วยกูซื้อดอกไม้ให้น้องเหรอวะ”ชายหนุ่มถาม จงอินครางรับในลำคอ จงฮยอนยิ้มกว้างบอกว่าดีมาก จูฮยอนคงดีใจที่ได้ดอกกุหลาบขาวเยอะๆ จงอินนึกขอโทษต่ออีจูฮยอนในใจ ดอกกุหลาบของเขาให้ซื้อมามากมายเท่าไหร่คงไม่มีคุณค่าเท่าดอกกุหลาบจากพี่ชายของเธอ...

 

 

ค น คุ ก

 

 

จงอินถูกวางตัวให้นั่งคู่กับจงฮยอนที่รถนำหน้า ยุนโฮและมินจุนนั่งกับปีเตอร์ปาร์คบนรถตู้ที่ใช้ขนยา และด้านหลังมีรถของบอดีการ์ดอีกสองคันขับตามมาอีก คนขับรถคันของจงอินคือฮงฮุน หมอนี่เป็นคนเดียวในรถที่รู้ว่าจะไปส่งของที่ไหน จงอินปิดเครื่องโทรศัพท์ตัดการติดต่อกับทุกอย่างเพื่อทำหน้าที่ตามคำสั่งของยุนโฮว่าไม่ให้ใช้เครื่องมือสื่อสารใดๆ

จงอินคิดว่าอย่างหนึ่งคือการป้องกันการถูกสะกดรอยของตำรวจจากจีพีเอสมือถือ แต่คงช้าไปเมื่อจงอินแฝงตัวเข้ามาได้เรียบร้อยแล้ว

จากในเมืองมุ่งสู่นอกเมือง จากรถที่วิ่งกันขวักไขว่เริ่มเหลือเพียงถนนที่ว่างเปล่าและสุดท้ายก็มีเพียงรถสี่คันแล่นอยู่ท่ามกลางถนนสองเลน

“ถึงแล้วเหรอวะ”จงฮยอนถามออกมาเมื่อรถนำหน้าอย่างคันที่พวกเขานั่งหยุดลง ฮงฮุนบอกว่าใช่ ถึงที่นัดหมายเรียบร้อยแล้ว เป็นจังหวัดในเจตปริมณฑลใกล้ๆโซลนี่เอง รถตู้ของปีเตอร์ปาร์คที่ขับตามมาจอดใกล้ๆกัน จงฮยอนเดินไปเปิดประตูให้อย่างรู้หน้าที่ ชายวัยกลางคนในมาดนักธุรกิจก้าวลงจากรถพร้อมใช้สายตาสำรวจไปรอบๆ จงอินเองก็มองสำรวจเช่นกัน ที่นี่ไม่มีใครนอกจากรถพวกเขาสี่คัน แสดงว่าลู่หานยังมาไม่ถึง

แต่รออยู่เพียงไม่นาน รถสองคนก็โผล่เข้ามาในระยะสายตา บอดี้การ์ดของปีเตอร์ปาร์คต่างขยับเข้าใกล้เจ้านายของพวกมันมากขึ้น รถสองคันนั้นตั้งใจขับเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ แสดงว่าคงเป็นลู่หานแน่แท้ และในที่สุดรถทั้งสองคันก็หยุดลง บอดี้การ์ดบางส่วนเดินไปประจันที่หน้ารถเพื่อสำรวจ จงอินเองก็มองเข้าไปในรถแต่ฟิล์มที่ติดมืดสนิททำให้มองไม่เห็นเท่าไหร่นัก จนเมื่อบอดี้การ์ดของปีเตอร์ปาร์คแน่ใจแล้วว่าเป็นคู่ค้าของเจ้านาย ประตูรถฝั่งคนขับถึงเปิดออก คนที่ขับรถคันแรกมาจงอินไม่รู้จัก แต่คนขับรถคนที่สองนั้นคุ้นหน้ากันอยู่เพราะเคยทำงานร่วมกันมาบ้าง

คันแรกคงเป็นบอดี้การ์ด เพราะมีเพียงผู้ชายในชุดแจ๊คเก็ตทะมัดทะแมงอีกคนเท่านั้นที่ลงจากรถมา ไม่นานประตูรถคันที่สองด้านหลังก็ถูกเปิดโดยคันขับรถ รูปร่างสูงโปร่งของคนที่จงอินคุ้นเคยดีก้าวลงมาจากรถคันนั้น เนื้อตัวลู่หานประดับด้วยเสื้อผ้าราคาดี ยอมรับเลยว่าไอ้เพื่อควายของจงอินดูดีขึ้นมากในมาดนักธุรกิจแบบนี้

“สวัสดี ผมชื่อหลี่ชิวเหลียง”แม้แต่ท่าทางการพูดก็เปลี่ยนไปด้วย ดูสุขุมมากขึ้น ปีเตอร์คจับมือกับลู่หานเพื่อแสดงสัมพันธไมตรี จากนั้นกระเป๋าเงินใบใหญ่จากบอดี้การ์ดของลู่หานจึงถูกส่งให้กับทางยุนโฮเพื่อตรวจสอบ จนเมื่อยุนโฮพยักหน้าตอบรับว่าเงินครบตามจำนวน ลูกน้องที่ติดตามมาด้วยของปีเตอร์ปาร์คจึงช่วยกันขนของลงจากรถ

จงอินกับลู่หานมองหน้ากันอย่างรอเวลา ลู่หานมองนาฬิกาที่ข้อมือเล็กน้อย เหมือนกับว่าเวลาที่ผู้กองคริสจะเข้าชาร์จนั้นเลยไปเล็กน้อยแล้ว

“มึงมองฝั่งนั้นทำไมวะ”ไอ้จงฮยอนถามเรียกให้ยุนโฮซึ่งส่งกระเป๋าเงินให้กับปีเตอร์ปาร์คหันมามองด้วยความสนใจ จงอินสะดุ้งเล็กน้อยไม่คิดว่าจงฮยอนจะสังเกตตนอยู่ ร่างหนาบอกว่าไม่มีอะไร ก็แค่มองไปเรื่อย แต่คนที่เหมือนจะถูกจับผิดได้ ให้กลบเกลื่อนยังไงก็ต้องมีบางอย่างที่เป็นพิรุธ ยุนโฮขมวดคิ้วแน่น สัญชาตญาณของบอดี้การ์ดที่ไม่ไว้ใจใครนอกจากเจ้านายของตัวเองทำให้ร่างสูงควักปืนที่เหน็บอยู่ที่เอวขึ้นมาทันทีด้วยความไม่ไว้ใจในตัวลูกน้อง

ลู่หานเบิกตากว้าง ลูกน้องของปีเตอร์ปาร์คก็กำลังลำเลียงของใส่รถฝั่งตนเองอยู่ แต่เพื่อนที่กำลังจะถูกปืนจ่อหน้าก็ทำให้เป็นห่วง

จงฮยอนนึกตกใจที่หัวหน้าบอดี้การ์ดคว้าปืนจ่อหน้าจงอิน ไม่ทันได้ตั้งตัวเสียงปืนก็ดังขึ้นทันทีพร้อมเสียงร้องตะโกนของลู่หาน

“เหี้ยจงอินระวัง!!”ยุนโฮสบถอย่างหัวเสียที่ยิงพลาดไป ต้องการจะยิงที่ท้องแต่เพราะจงอินไหวตัวจึงถูกที่ชายโครงของชายหนุ่ม ยุนโฮกันตัวปีเตอร์ปาร์คเข้าไปในรถและขับออกไปในช่วงชุลมุน นายตำรวจที่ปลอมตัวมาเป็นบอดี้การ์ดยิงเข้าใส่บอดี้การ์ดของปีเตอร์ปาร์คจนหลายคนล้มลงไปก่อนที่จะทันหยิบปืนออกมา ลู่หานกระโดดเตะเข้าที่ท้องของบอดี้การ์ดคนหนึ่งของปีเตอร์ปาร์คแล้วคว้าปืนเอามาเหนี่ยวไกยิงทันที แรงอัดจากปืนทำเอามือสั่นและไม่ตรงเป้าแต่ก็ทำให้บอดี้การ์ดคนหนึ่งเจ็บและล้มลง

เสียงรถวิ่งกรูกันเข้ามา ลู่หานสบถด่าไอ้เหี้ยผู้กองคริสว่ามาถูกจังหวะสัดหมา รถของปีเตอร์ปาร์คที่เพิ่งขับออกไปถูกสกัดกั้นเอาไว้ มีเสียงปืนยิงตอบโต้กันดังสนั่น เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายกรูกันเข้ามาจับกุมบอดี้การ์ดของปีเตอร์ปาร์คที่ยังคงเหลืออยู่ ลู่หานวิ่งไปดูเพื่อนที่ถูกยิงชายโครงเลือดอาบเสื้อเชิ้ตที่มันใส่อยู่

“เป็นยังไงบ้างไอ้สัด”ลู่หานถามมัน จงอินยันกายเอาไว้กับพื้น ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วจนจับต้นชนปลายไม่ถูก เสียงทุ้มร้องซี้เพราะเจ็บเสียดจากที่กระสุนทะลุเข้าไปในร่าง ลู่หานบอกให้เพื่อนอย่าเพิ่งขยับเขาโบกมือให้ตำรวจพยาบาลเอาเปลหามมาทางนี้

สถานการณ์เริ่มปรกติ ตำรวจสามารถจับกุมลูกน้องทุกคนของปีเตอร์ปาร์คเอาไว้ได้ รวมถึงนักธุรกิจส่งออกคนนี้ด้วย แต่จากการปะทะกันทำให้บอดี้การ์ดของปีเตอร์ได้รับบาดเจ็บหนักหลายคน และมีสองคนที่เสียชีวิต

จงอินได้ฟังรายงานของผู้กองคริสก็วูบโหวงในใจ เขารู้จักบอดี้การ์ดทั้งหมดของปีเตอร์ปาร์คดี เลยไม่อยากจะถามสักนิดว่าคนที่เสียชีวิตคือใคร แต่ผู้กองคริสก็ต้องรายงานตามหน้าที่ วิยาทีที่ชื่อของบอดี้การ์ดสองคนซึ่งไม่มีลมหายใจอีกแล้วในตอนนี้หลุดออกจากปากของคริส จงอินก็กลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลลงมาไม่ได้เลย

 

เพราะมันเป็นชื่อของอีจงฮยอนและคิมมินจุน...

 

คนหนึ่งกำลังจะมีลูกที่น่ารัก...กำลังจะกลับไปหาลูกและเมียที่รออยู่ที่ปูซาน

อีกคนหนึ่ง...กำลังจะกลับไปทำบุญให้น้องสาวพร้อมสัญญาว่าจะซื้อดอกกุหลาบขาวที่น้องชอบไปให้

 

...ขอให้ไปสูสุขคติ...

 

คิมจงอินก็พูดได้แค่นั้น...

 

 

 

 

 

 

 

 

TBC.

 

 

 

 

 

 

 

แต่งนานมากกกกกกกกกกก และอุปสรรค์เยอะมาก ทั้งคีย์บอร์ดพัง ซื้อมาใหม่ก็ห่วยแตก สรุปจ่ายค่าคีย์บอร์ดธรรมดาๆไปห้าร้อยบาทถ้วย มาม่ายังไม่พอจะซื้อแดกเลยนะขรั่บงานนี้ ฮืออออออออออออออ

ปล. ไคฮุนอยู่ตรงไหน555555555555 อยู่ตอนหน้าไงแกกกกกกกกกกกกก น้องมินซอกก็จะคัมแบ็กละนะ ขออนุญาตยัดลู่หมินเข้าไปในพาร์ทน้องฮุนด้วยคงไม่ว่ากันเนาะ

 

ใครสนใจอยากได้ฟิคฟรีเชิญทางนี้เลยจ่ะ ประกวดทำปกพี่ลู่คนคุก

รักนะไม่นอกใจจจจจจจจจจจจจจจจจ

 

ปลล. เราทำงานหนักจริงๆ เหนื่อยจริงๆ ท้อแท้มากๆ แต่ก็อยากจะมาต่อให้นะ ไม่ได้ทิ้ง แต่ไม่มีเวลาจริงๆ กว่าจะถึงบ้าน นอนไม่ถึง 8 ชั่วโมงก็ต้องตื่นอีกแล้ว เห็นใจเราหน่อยนะ ขอกำลังใจกันบ้าง เม้นกันบ้าง ติดแท็กกันบ้าง T^T

 

 

ปลลล. หลี่ชิวเหลียงเป็นชื่อเจ้านายชาวสิงคโปร์ของเราเอง.....................ทั้งบริษัทมีแต่คนสิงคโปรืที่ใช้ภาจีนเป็นภาหลักค่ะ ...บอกเลยสนุก 55555555555555555555555555555555555555555555555555

 

 

#พี่ลู่คนคุก

 

 

 

แมลงจี่...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น