วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2558

คนคุกโอเซฮุน.2


ไม่มีหรอกคำว่าตลอดไป มีแต่คำว่าปัจจุบัน

 

 

 

โอเซฮุน.2

 

“อาการโดยทั่วไปก็ดีขึ้น แผลไม่ค่อยอักเสบแล้ว อีกไม่นานก็คงกลับบ้านได้แล้วล่ะ”เสียงทุ้มต่ำของปาร์คชานยอลเอ่ยบอก จงอินแอบเบ้ปากเวลาหมอปาร์คพูด

ปาร์คชานยอลเป็นหมอ แน่นอนว่าเป็นหมอที่โรงพยาบาลตำรวจนี่ล่ะ เพราะฉะนั้นจึงได้รับหน้าที่ให้เข้าไปตามเรื่องเมื่อตอนอยู่ในคุกจากผู้กองคริส อันที่จริงหมอปาร์คจบจากมหาวิทยาลัยด้วยเกียติรนิยม มีโรงพยาบาลมากมายต้องการแพทย์หนุ่มไปประจำในโรงพยาบาล แต่คนที่พรั่งพร้อมด้วยรูปทรัพย์อยู่แล้วเลือกที่จะทำงานกับเพื่อนสนิทอย่างคริสมากกว่าราคาค่าตัวที่สูงลิบจากโรงพยาบาลอื่น

เพราะโรงพยาบาลตำรวจนั้นอยู่ได้โดยงบของรัฐ จึงมีแพทย์น้อยรายที่ต้องการประจำอยู่ที่นี่ โรงพยาบาลของรัฐแต่ละแห่งมักจะขาดแพทย์ฝีมือดีเสมอเพราะแต่ละคนถูกโรงพยาบาลใหญ่ๆซื้อตัวไปหมดแล้ว

“พี่หมอใกล้จะเลิกกะหรือยัง ผมจะชวนไปกินข้าว”เซฮุนที่วันนี้ก็มาเยี่ยมจงอินอีกครั้งถามเพื่อนพี่ชายที่ขีดเขียนอาการของคนที่นอนบนเตียงลงบนแผ่นชาร์ต หมอปาร์คยกนาฬิกาขึ้นดูบอกว่าอีกแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น อยากกินอะไรก็ให้เจ้าตัวแสบคิดเมนูได้เลย พี่หมอจะพาไปเลี้ยงเอง

“เยส! ผมอยากกินหม้อไฟ เราไปห้างกันนะ”เซฮุนยิ้มร่าด้วยความพอใจ พี่ชานยอลของเจ้าตัวไม่เคยขัดใจอะไรโอเซฮุนเลยจริงๆ

“ชวนพี่ซอนฮวาไปด้วยกันเนาะ ผมไม่เจอพี่เขามานานแล้วเหมือนกันนะเนี่ย พี่ซอนฮวาเข้ากะดึกตลอดเลย”คนตัวบางพูดถึงฮันซอนฮวา หญิงสาวเจ้าของเรือนร่างเล็กบาง คุณพยาบาลใจดีของโรงพยาบาลตำรวจแห่งนี้และที่สำคัญยังเป็นแฟนกับคุณหมอปาร์คคนดีอีกด้วย หญิงสาวมักจะอยู่เวรเข้ากะดึกช่วงนี้จึงไม่ค่อยได้เจอกันเสียเท่าไหร่นัก เห็นพี่หมอบอกว่าวันนี้หญิงสาวมาทำงานกะเช้าเลยอยากจะชวนคุยให้หายคิดถึง

จงอินขมุบขมิบปากพูดตามเซฮุนอย่างนึกหมั่นไส้ ยัยตัวขาวลืมไปหรือเปล่าว่ามีคิมจงอินนอนเป็นหมีอยู่ตรงนี้ คุยกันหนุงหนิงหนุงหนิง น่าหมั่นไส้!!

ลืมหรือเปล่าว่าตัวเองเป็นแฟนใครน่ะโอเซฮุน!!!

เออ ก็ยังไม่ได้เป็นทางการหรอก แต่วันนั้นที่ส่งข้อความไป ถ้าไม่ตอบกลับก็แสดงว่าตกลงใช่ไหมล่ะ คนอย่างคิมจงอินไม่ได้โมเม แต่มีหลักฐานยืนยัน ถึงเซฮุนจะเถียงหน้าดำหน้าแดงวันต่อมาว่าเผลอนั่งทับมือถือต่างหากไม่ได้ตั้งใจเปิดอ่านข้อความแต่จงอินถือว่าข้อความถูกอ่านแล้ว

“ซอนฮวานี่ใช่คุณพยาบาลที่น่ารักๆคนนั้นหรือเปล่าครับหมอ ผมว่าจะลองจีบเธออยู่เหมือนกันคนอะไร๊ข๊าวขาว ผมชอบคนขาวๆ”คนนอนเจ็บเบื่อจะฟังบทสนทนาของชานยอลกับเซฮุนขอร่วมพูดถึงฮันซอนฮวาบ้าง พอจะจำได้ว่าเธอเป็นผู้ชายน่ารัก ผิวขาวจัดเหมือนเซฮุนนี่ล่ะ

เซฮุนได้ยินไอ้หมีโง่พูดถึงว่าที่พี่สะใภ้แล้วรู้สึกคิ้วกระตุก หมายความว่าอะไรที่บอกจะจีบพี่ซอนฮวา? แล้วไอ้น้ำเสียงที่เน้นย้ำคำว่าชอบคนตัวขาวนั่นน่ะ อย่ามาพูดพร้อมสายตาวิบวับหน่อยเลย

“ต้องเสียใจแทนนายด้วยนะจงอิน พอดีซอนฮวาเธอมีเจ้าของแล้วน่ะ แถมจะขี้หวงเสียด้วย”ชานยอลยิ้มๆกับคำพูดของตัวเอง ไม่ได้รู้สึกหึงหวงที่จงอินพูดถึงซอนฮวาเชิงจะจีบ เพราะรู้ว่าอีกคนพูดออกมาโดยไม่ได้คิดจริงจัง คงแค่อยากจะเรียกร้องความสนใจจากไอ้เจ้าตัวแสบตรงหน้าเสียมากกว่า

“จริงเหรอ ใครได้เป็นแฟนเธอคงจะโชคดี”ไอ้คนตัวโตเป็นหมีพูดออกมา เซฮุนยู่ปากใส่อีกคนแล้วบอกว่าโชคดีแบบสุดๆ แถมคนๆนั้นยังเพอร์เฟคมากจนจงอินเทียบไม่ติด

ปาร์คชานยอลขยี้ผมน้องชายเพื่อนปรามว่าอย่าพูดแบบนั้นไป ไอ้ตัวดื้อก็ได้แต่ยู่ปาก บอกเสียงเบาว่าก็ให้ดูไอ้หมีนั่นสิ คิดจะจีบพี่ซอนฮวาคนสวยของโอเซฮุน ช้าไปสิบปี! ชานยอลหัวเราะน้อยๆ อยากถามว่าที่ไม่พอใจนี่เพราะแฟนของเขาจะถูกจีบหรือคนจีบเป็นคิมจงอินกันแน่

ชานยอลบอกให้จงอินนอนพักก่อนจะออกจากห้องพักผู้ป่วยมาแต่ไอ้ตัวดื้อก็ไม่ได้ออกมาด้วย ยืนหน้าหงิกปากเบะอยู่ข้างเตียงผู้ป่วยนั่นล่ะ หมอหนุ่มส่งยิ้มให้กับพยาบาลที่เดินสวนกันมา เขาถามไถ่เล็กน้อยถึงแฟนสาวที่วันนี้เข้ากะเช้าก็ได้ความว่าฮันซอนฮวาดูแลผู้ป่วยอยู่อีกชั้นหนึ่ง ชานยอลกับซอนฮวาคบหากันมาหลายปีแล้ว อยู่ด้วยกันแรกเริ่มในฐานะเพื่อนที่เข้าใจกัน สุดท้ายก็พัฒนากลายเป็นความรัก ชานยอลไม่เคยพูดบอกใครว่าซอนฮวาคือคนรัก รู้กันเฉพาะคนที่สนิทว่าหัวใจของหมอหนุ่มมีเจ้าของแล้ว ไม่แปลกเลยที่จงอินจะไม่รู้ว่าคู่แข่งที่ตัวเองบอกว่าน่ากลัวนั้นไม่ได้คิดกับเซฮุนมากกว่าน้องชายจอมดื้อเลยสักนิด

ทั้งคริสและชานยอลรู้ว่าจงอินและเซฮุนรู้สึกยังไงต่อกัน แต่เพื่อนของเขาก็เป็นห่วงน้องมากเกินไป จนเมื่อจงอินอยากจะสอบเข้าตำรวจนั่นล่ะ อู๋อี้ฟานถึงอ่อนลง ชานยอลเองก็เข้าใจความคิดของเพื่อน เขาเองก็รักเซฮุนเหมือนน้องแท้ๆ ถ้าจะฝากชีวิตของน้องชายไว้ที่ใครสักคน คนนั้นก็ต้องดูแลน้องชายของเขาได้

และจากการประเมิน...คิมจงอินสอบผ่านในสายตาของชานยอล

 

ค น คุ ก

 

“หน้างอกว่าตะขอเบ็ด”เสียงทุ้มเอ่ยรวนคนที่นั่งหน้างุ้มมองนาฬิกาว่าถึงเวลาออกกะของพี่หมอกับแฟนสาวหรือยัง โอเซฮุนมองคนที่นอนบนเตียงครั้งหนึ่งแล้วสนใจเข็มนาฬิกาที่กำลังเดินวนอีกครั้ง

“ตัว”คนเจ็บเห็นว่าอีกคนไม่สนใจก็เรียกอีกครั้ง ผลก็ยังเหมือนเดิม คนตัวขาวหันตัวหนีกันอีกเสียด้วยซ้ำ

“ตัว...”ลองเรียกอีกครั้ง ผลก็ยังเหมือนเดิม เซฮุนหันหลังให้จงอิน ปากบางเฉียบเบ้บึนยู่ยี่

“ตัว...หันมาหน่อยดิ่”เสียงทุ้มยังคงร้องเรียก เซฮุนย่นหัวคิ้วก่อนจะหันไปถามว่าจะเรียกทำไมนัก ก็เห็นคนที่นอนเจ็บยิ้มน้อยๆ

“เรียกแฟนไม่ได้เหรอ?”ถามคำถามที่ทำให้เซฮุนหน้าร้อน คนตัวขาวเถียงกลับว่าไม่ได้เป็นแฟนกันสียหน่อย ก็บอกอยู่ว่านั่งทับมือถือเลยทำให้ข้อความถูกเปิดอ่านไม่รู้ตัว ไอ้ที่ไม่พอใจที่ไอ้หมีโง่คิดจะจีบพี่ซอนฮวาหายหมดเหลือแต่หน้าร้อนๆ

ที่บอกว่านั่งทับมือถือนั่นโกหกสิ้นดี เซฮุนเปิดอ่านมันด้วยตัวเอง และที่ไม่ได้ตอบกลับมาก็เพราะมัวแต่เขินตัวบิด

“ไม่อยากเป็นแฟนเค้าก็บอกมาดิ่”จงอินพูดอย่างประชด และคงสะกิดใจคนฟังได้ดี โอเซฮุนเลยเบิกตาขึ้นน้อยๆ

“ก็ไม่ได้บอกว่าไม่อยากเป็นแฟนตัวนิ่”เสียงหวานตอบกลับ พร้อมกับหน้าที่ค่อยๆเข้มสีแดงขึ้น คนตัวขาวหันหน้าหนีอีกคนอีกรอบ ก้มหน้างุดๆ รู้สึกว่าฝ่ามือชื้นเหงื่อขึ้นมาทันทีที่พูดออกไป อยากจะตีปากตัวเองเพราะคำพูดมันออกมาโดยไม่ทันได้คิด แค่ได้ยินอีกคนประชดก็เลยพูดแย้งออกมาตามที่ใจคิด ไม่ได้คิดก่อนว่าจะทำให้ไอ้หมีโง่มันนอนยิ้มเผล่ด้วยความสมใจ

“ตัว...”เสียงทุ้มเอ่ยเรียกอีกครั้ง คราวนี้เซฮุนไม่หันไปเด็ดขาด คนตัวขาวเขิยบเข้าหาโซฟาที่วางกระเป๋าไว้ อยากจะเดินเลี่ยงออกไปเลยตอนนี้ แต่เสียงทุ้มก็ยังเรียกกันต่อเนื่อง

“ตัว...เซฮุนอา”คราวนี้มาเป็นชื่อ เซฮุนครางหงิงในลำคอ ร้องงื่อๆ คว้ากระเป๋าได้ก็แทบจะวิ่งออกไปจากห้องแต่ติดที่คนบนเตียงก็ยังเรียกกันเอาไว้อีกครั้ง แถมยังหยุดขาของเซฮุนได้อย่างดีเสียด้วย

“เค้าชอบตัวนะ ถ้าไม่ชอบกันก็บอก”เซฮุนหันไปมองคนที่นอนบนเตียงอีกครั้ง ใบหน้าของจงอินเหมือนจะดูซีเรียสกับคำพูดของตัวเอง แต่เซฮุนก็รู้ว่ามันแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์

...อยากให้เขาพูดมันออกมา...

ปากบางถูกขบด้วยฟันซี่เล็ก ไอ้หมีบ้าเอ้ย!

เซฮุนหันหน้าหนี กระชับกระเป๋าสะพายในมือ หน้าร้อนและแดงสุกจนอยู่ในห้องนี้ต่อไม่ได้แล้ว

 

“ก็ถ้าเค้าไม่ชอบแล้วจะมาอยู่ดูแลตัวทำไมล่ะไอ้โง่!!

 

ปัง!

สิ้นเสียงพูดตะโกนบานประตูห้องก็ถูกกระชากเปิดและปิดเสียงดัง คนตัวขาววิ่งหนีออกไปนอกห้องพร้อมหน้าที่แดงจัดกับคำพูดของตัวเอง ร้องครางงื่อๆเหมือนลูกหมา แทบจะชนกับหมอปาร์คที่เดินขนาบข้างกับหญิงสาวร่างเล็กบางอีกคน เพื่อนพี่ชายที่เพิ่งไปรับแฟนสาวจากอีกชั้นกำลังจะมาตามเจ้าตัวแสบไปกินข้าวอดจะยิ้มไม่ได้กับใบหน้าที่สีเหมือนลูกเชอร์รี่ ฮันซอนฮวาก็ด้วยอีกคน หญิงสาวทาบมือลงกับแก้มเซฮุนของเซฮุน เอ่ยแซวเสียงใสว่าผู้ป่วยถูกยิงคนนั้นแกล้งอะไรน้องชายของเธอกันนะถึงหน้าแดงแบบนี้

“พี่ซอนฮวาง่า”เสียงหวานเง้างอด บอกว่าไม่คุยแล้ว ไปหาของกินดีกว่า เซฮุนพูดชื่อร้านหม้อไฟตลอดทางเดินกลบเกลื่อนไอ้หน้าแดงๆของตัวเอง

เสียงข้อความโปรแกรมแชทดังขึ้น เซฮุนปล่อยแขนที่ควงพี่หมอไว้ข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งก็ควงแขนที่สาวคนสวย มือบางล้วงเข้าไปหยิบเอาเจ้าเครื่องมือสื่อสารขึ้นมา แล้วก็อยากจะระเบิดตัวเองออกเป็นเสี่ยงๆเมื่อกดอ่านข้อความนั้น

-จะถามอีกครั้งก็ได้ ถ้าวันนั้นไม่ได้เปิดดูจริงๆ-

-เป็นแฟนเค้านะ-

 

สติ้กเกอร์รูปหมีพร้อมจดหมายปิดผนึกด้วยหัวใจถูกส่งมาจากเบอร์คนที่นอนอยู่บนเตียงในห้องพักผู้ป่วย เซฮุนลูบนิ้วลงบนหน้าจอทัชสกรีนที่ข้อความนั้นที่บอกว่า ...เป็นแฟนเค้านะ

แตะลงบนช่องที่ใช้สำหรับพิมพ์ข้อความแล้วแป้นพิมพ์ก็เด้งขึ้นมา อ.อ่างถูกพิมพ์ลงไปตัวแรก และสระอือก็ตามมา แล้วก็ต้องกดลบข้อความออก เซฮุนส่ายหัวจนหญิงสาวที่เดินข้างกันแปลกใจ ฮันซอนฮวาหยุดเดินพาเอาคนรักอย่างชานยอลหยุดเดินด้วย และก็เห็นเจ้าตัวดื้อจดจ่ออยู่กับมือถือแบบนั้น

ชานยอลวางมือลงบนกลุ่มผมสีเข้มแล้วขยี้มันเล็กน้อยเรียกให้เซฮุนเงยหน้ามามอง ใบหน้าที่ขาวจัดนั้นแดงก่ำกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ เจ้าตัวอาจจะยังไม่รู้ ริมฝีปากก็ถูกขบจนปวมขึ้นมา

“มีอะไรในโทรศัพท์ล่ะหืม”เขาถามน้อง เซฮุนบอกเปล่า จะเก็บมือถือที่ยังไม่ได้กดพิมพ์ข้อความตอบกลับลงสู่กระเป๋าเหมือนเดิม แต่มือใหญ่ๆกลับคว้ามันเอาไว้เสียก่อน

“พี่หมอ ไม่เอานะ”เสียงหวานร้องท้วงเมื่อคุณหมอปาร์คกดปลดล็อคหน้าจอขึ้นมา ป็อปอัพหน้าต่างโปรแกรมแชทยังถูกเปิดค้าง เซฮุนหน้าร้อนฉ่าที่พี่หมออ่านข้อความนั้น ฮันซอนฮวาก็เห็นมันเช่นกัน เธอหัวเราะคิกและยิ้ม คว้าตัวเซฮุนมากอดและโยกไปมา

“ให้พี่พิมพ์ตอบให้ไหม?”ปาร์คชานยอลไม่ได้เอ่ยถามความคิดเห็น แต่นิ้วมือของหมอหนุ่มแตะลงที่ช่อพิมพ์ข้อความแล้ว เซฮุนจะแย่งมือถือของตัวเองกลับแต่พี่ชายก็ชูมันสูงขึ้น ถึงจะไม่ได้เตี้ยแต่คนตัวขาวก็เอื้อมไม่ถึงมือพี่อยู่ดี

ปาร์คชานยอลยิ้ม วางมือลงบนหัวน้อง

“อย่าลีลาเลยเซฮุน เราก็ชอบเขานี่นา”พี่หมอบอก เซฮุนร้องครางเครือ มันก็ใช่ที่เซฮุนชอบจงอิน หลงรักมาตั้งนาน แต่...จะให้พูดเลยก็กระไรอยู่

ก็มันอาย...

รับโทรศัพท์ที่พี่หมอส่งกลับมาถือเอาไว้ หมอปาร์คพยักหน้าให้เจ้าตัวแสบพิมพ์ข้อความตอบกลับไปได้แล้ว เซฮุนหันไปมองซอนฮวา เธอยิ้มและลูบบ่าน้อง เพราะรู้เช่นกันว่าเซฮุนและจงอินคิดต่อกันยังไงตามคำพูดเล่าเรื่อยๆจากชานยอล

เซฮุนก้มหน้างุดกับจอมือถือ ในใจมันเต้นแรงมากจริงๆที่ต้องแตะลงบนกล่องพิมพ์ข้อความนั้น คำพยางค์สั้นถูกพิมพ์ลงไป นิ้วเรียวแตะที่ปุ่มส่งก่อนจะเก็บมือถือลงกระเป๋าอย่างรวดเร็วๆ คล้องแขนพี่หมอและคนรักของพี่หมอไปหาร้านหม้อไฟอีกครั้งด้วยใจที่เต้นระส่ำกับสิ่งที่ตัวเองเพิ่งพิมพ์ตอบกลับไป

 

จงอินลูบหน้าจอที่มีข้อความของเขาส่งหาเบอร์ของตัวขาว มันถูกอ่านแล้ว หนุ่มร่างโตยิ้มและรอ...ข้อความตอบกลับจากอีกคน

หัวใจดวงเท่ากำปั้นใตหน้าอกแผ่นหน้าเต้นถี่ขึ้น

เสียงเตือนข้อความดังขึ้นพร้อมใจที่กระตุกวูบ จงอินไม่รอที่จะเปิดอ่าน นอยยิ้มของพ่อหมีปรากฏกว้าง ยิ้มให้หน้าจอมือถือเหมือนคนบ้า

ก็แค่ข้อความของเซฮุน...

 

-อืม เค้าก็ชอบตัว-

-เป็นแฟนกันนะ-

 

ค น คุ ก

 

“โอ้ยไอ้เหี้ย อย่างมึงนี่คงไม่ตายง่ายๆเพราะโดนยิง แต่จะตายเพราะเบาหวานแดกเสียมากกว่า มดนี่ก็ตอมกูยั๊วะเยี๊ยะไปหมด ไอ้สัด! เอาไบก้อนมาฉีดหน่อย!!”น้ำเสียงกวนส้นตีนแบบนี้คงเป็นใครไม่ได้นอกจากลู่หาน ติดอยู่ที่จงอินไม่สามารถจะลุกไปเตะมันให้คว่ำได้เลยได้แต่นอนส่งนิ้วกลางให้มันแบบนี้

ไม่น่าเล่าให้แม่งฟังหรอกว่าเขาและเซฮุนตกลงคบกันแล้ว ไอ้ปากหมาหน้าหวานนี่เลยล้อสนุกปาก จะว่าไปก็เหมือนกรรมตามสนอง เห็นลางๆว่าเคยทำแบบนี้กับมันในอดีต

“เงียบปากเสียทีเหอะมึงน่ะ ตัวไปเรียนเหอะ เดี๋ยวไอ้เหี้ยลู่หานก็เฝ้าเค้า”ด่าเพื่อนเสียงขรมก่อนจะหันไปบอกคนตัวขาวที่ขยับจากน้องชายเจ้านายมาเป็นแฟนแบบหมาดๆ เซฮุนพยักหน้าก่อนจะคว้ากระเป๋าไปเรียน วันนี้มีเรียนบ่าย ช่วงเช้าก็เลยมาอยู่เป็นเพื่อนคนเจ็บเสียก่อน ช่วงสายๆก็มีไอ้เพื่อนตัวดีมาเยี่ยม มันหอบเอาเสื้อผ้ามาให้ด้วยเพราะใกล้จะได้ออกจากโรงพยาบาลเต็มที แผลที่ถูกยิงเริ่มสมานกัน ไม่มีการอักเสบและติดเชื้อเพิ่ม รอให้แห้งสนิทกว่านี้ก็ออกจากโรงพยาบาลได้

“มึงไม่รู้สึกอยากอ้วกมั่งเหรอเวลาเรียกแทนตัวเองว่าเค้า นี่กูแค่ได้ยินยังคันหูยิบๆ”ลู่หานถาม มันก็ออกจะคิขุเกินไปหน่อยที่ไอ้คนตัวโตเป็นหมีควายเรียกแทนตัวเองว่าเค้าอย่างโน้นเค้าอย่างนี้ ลู่หานยังไม่เคยแทนตัวเองด้วยชื่ออาโนเนะแบบนั้นกับมินซอกเลย รู้สึกคลื่นไส้ยังไงชอบกล

“ไม่เสือกครับเพื่อน”คำตอบก็ไม่ต้องอธิบายอะไรดี ลู่หานขมุบขมิบปากตามดัดเสียงล้อคำพูดเพื่อนแล้วแจกอวัยวะเพศให้อีกดอก

“แล้วนี่มึงจะหายทันสอบตำรวจกับเขาหรือเปล่า ได้ข่าวว่าอีกเดือนเดียวนี่ ช่วงเดียวกับมินซอกสอบหมอพอดี แล้วมึงนอนเป็นมะเขียวยาวเผาไฟอยู่แบบนี้ สมองน้อยขดของมึงจะสู้คนอื่นได้เรอะ”ลู่หานถามถึงการสอบตำรวจที่จงอินจะสอบด้วย จงอินฟังข้ามคำค่อนแคะเรื่องความฉลาดของตัวเองไปแล้วบอกว่าคงหายทัน

“กูสอบข้อเขียน ยังไม่ได้ทดสอบร่างกาย กูไม่ได้เอาชายโครงไปจับปากกานี่ไอ้ควาย”ถือว่าจบกับคำถามนี่ ลู่หานยกเท้าเตะเตียงที่เพื่อนนอนอย่างหมั่นไส้ก่อนจะเปิดตู้เย็นเอาผลไม้ที่เซฮุนปอกแช่เย็นเอาไว้มากิน

“มึงก็ดูมินซอกหน่อยละกัน อย่าให้น้องมันโหมอ่านหนังสือหนัก เดี๋ยวจะไม่สบายเอา”จงอินบอกเพื่อน ลู่หานเองก็ห่วงเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน เพราะตอนนี้งานของลู่หานหลังจากจับกุมปีเตอร์ปาร์คก็ยังไม่มีงานอื่นเข้ามาเลย เลยได้ใช้เวลาอยู่กับมินซอกมากขึ้น แต่เจ้าตัวเล็กกลับขลุกอยู่กับหนังสือมากกว่า เลิกงานร้านป้านาบี เจ้าปั๋วเสียนมาส่งบ้านก็พุ่งเข้าหาหนังสือก่อนเพื่อน

“น้องเรียนถึงวันไหนนะ เห็นบอกจะจบมอปลายแล้ว”จงอินถามเพื่อนอีกครั้ง เห็นลู่หานเปรยๆว่ามินซอกจะเรียนเทียบจบแล้ว

“เหลือเรียนอีกอาทิตย์เดียว เสร็จแล้วก็รับใบรับรองได้เลย กูว่าจะให้น้องเลิกทำงาน อยากสอบหมอก็ให้ทุ่มเทด้านนี้ไปเลย ทำงานไปด้วยเตรียมสอบไปด้วย เดี๋ยวจะน็อค”จงอินบอกว่าก็ดีแล้ว อีกทั้งยังบอกด้วยว่าควรจะให้อี้ชิงเลิกทำงานที่บาร์ด้วย น้องชายลู่หานก็ใกล้จะเรียนจบแล้วเหมือนกัน ได้ยินว่าอยากเป็นตำรวจ ควรจะเริ่มอ่านหนังสือเสียตั้งแต่ตอนนี้ เตรียมตัวแต่เนิ่นๆ

“ขัดไม่ได้หรอกรายนั้น กูนะห่วงแทบตาย น้องกูดื้อเงียบ”เห็นน่ารักขี้อ้อนแม่เป็นเด็กดีมาตลอดแต่บางเรื่องก็ดื้อรั้นได้ใจ เหมือนจะมีแฟนด้วยล่ะมั้ง เห็นคุยโทรศัพท์บ่อยๆครั้ง ได้ยินเรียกชื่ออีกฝ่ายเป็นภาษาจีน ไม่รู้ไปถูกใจยัยหมวยที่ไหนเข้า

“แล้วมึงเองล่ะ ไม่คิดจะสอบตำรวจเหรอ? มึงคงไม่คิดจะทำงานเป็นสายให้ผู้กองไปตลอดหรอกใช่ไหม?”จงอินถาม ลู่หานถอนหายใจออกมาเมื่อพูดถึงงาน แน่นอนเขาไม่ต้องการทำอาชีพนี้ไปตลอดชีวิตหรอก แต่เพราะเขาหางานไม่ได้ ประวัติที่ด่างพร้อยไปแล้วทำให้น้อยคนจะหยิบยื่นโอกาสให้ ก็บอกแล้วว่าเขาไม่ได้โชคดีเจอคนดีๆที่ยอมรับเรื่องแบบนี้ได้เหมือนกับมินซอก

“กูไม่เอาชีวิตกูมาเสี่ยงแบบนี้ตลอดไปหรอก ถ้ามีโอกาสที่ดีกว่ากูก็จะไป”ใครอยากจะเอาชีวิตมาแขวนไว้บนเส้นด้าย งานของสายตำรวจบางครั้งก็ต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงเหมือนที่จงอินทำ เขาเป็นห่วงน้องกับมินซอก เมื่อไหร่ที่หางานใหม่ได้ เขาก็จะเลิก

“ยังไงมึงก็เอาเรื่องสอบตำรวจไปคิดแล้วกัน วุฒิมึงก็มีจนมอปลาย สอบได้ก็ดี จะทำไม่ทำนั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง”จงอินพูดบอก ลู่หานเก็บเอาคำเพื่อนมาคิด มันก็ดีเหมือนกัน ลองสอบดูเพื่อวัดความรู้ความสามารถของตัวเองก็ไม่ผิด

 

ค น คุ ก

 

ประตูห้องพักผู้ป่วยถูกเปิดออก ร่างสูงของผู้กองคริสแทรกตัวเข้ามาก่อนจะงับประตูปิดเหมือนเดิม เซฮุนโทรมาบอกว่าให้มารอที่ห้องพักของจงอิน เพื่อจะกลับบ้านพร้อมกัน คริสทักคนที่นอนดูทีวีอยู่ถามไถ่ถึงอาการโดยรวมก็ได้คำตอบว่าอีกสักพักก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว

“พอนายเจ็บ น้องชายฉันเลยมาที่นี่เสียบ่อยเชียว เห็นทุกทีเวลาให้มารอกลับบ้านที่นี่ล่ะบ่นอุบว่าเบื่อกลิ่นยาฆ่าเชื้อ”คริสยิ้มขำๆ นึกถึงหน้ายู่ๆเวลาบอกว่าต้องมาสอบปากคำคนที่ถูกทำร้ายร่างกายและถูกส่งตัวเข้ามาในโรงพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลไหนไอ้ดื้อก็จะบ่นว่าเหมือนยาฆ่าเชื้อตลอด

จงอินยิ้มแหยๆ บอกว่าเพราะรู้จักกันมานาน เซฮุนก็อาจจะห่วงตนเองเลยมาเยี่ยมบ่อยครั้ง ผู้กองคริสส่ายหัวกับคำพูดของลูกน้อง

“ฉันไม่ได้โง่ แล้วหลายคนก็มองออกว่านายกับเซฮุนคิดยังไงต่อกัน ได้ข่าวว่าเป็นแฟนกันแล้วด้วยไม่ใช่เหรอ? นี่พี่ชายของเซฮุนอย่างฉันยังไม่รู้เรื่องเลยนะเนี่ยถ้าไอ้หมอมันไม่บอก”น้ำเสียงเหมือนจะขำ แต่เพราะรู้ว่าคริสห่วงน้องชายอย่างกับอะไร คนที่เพิ่งเป็นแฟนกับน้องชายผู้กองตัวสูงเลยเสียววูบวาบ พึมพำว่าขอโทษที่ไม่ได้บอก

“ผมไม่รู้ว่าจะแก้ตัวอะไร แต่ก็ใช่ที่ผมชอบเซฮุน...ผมรักน้องชายผู้กอง และเซฮุนเองก็มีใจเหมือนกับผม”

“...”

“ผมรู้ว่าผู้กองหวงเซฮุน ไม่ไว้ใจใครนอกจากหมอปาร์ค...แต่ผมคิดว่าผมจะดูแลเซฮุนได้”

“...”

“ให้ผมดูแลเซฮุนเถอะนะครับ”

 

น้ำเสียงของจงอินไม่ดูเหมือนเล่นอยู่สักนิด แต่ละคำที่พูดออกมาดูหนักแน่น ผู้กองตัวสูงมองคนที่ทำงานให้กันมานาน

“นายแน่ใจนะว่าจะดูแลน้องชายของฉันได้ดี แน่ใจใช่ไหมว่าจะรักเซฮุนได้เหมือนที่ฉันรักและดูแลเขามา”เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถาม คนเจ็บขยับตัวน้อยๆก่อนจะขยับตัวขึ้นนั่งเอนหลังพิงกับตัวเตียงน้อยๆ จงอินมองเข้าไปในดวงตาของผู้กองคริสแล้วยืนยันหนักแน่น

“ผมจะดูแลให้ดีกว่าที่ผู้กองเคยทำ”

 

คริสระบายยิ้มออกมาเมื่อได้ยินแบบนั้น พี่ชายขี้หวงตบบ่าของลูกน้องตัวโตก่อนจะบีบแน่นๆเหมือนต้องการให้จงอินฟังคำพูดของตนให้ดีๆ

“คิมจงอิน...”

“...”

 

“ฉันฝากน้องชายให้นายดูแลด้วยนะ”

 

 

 

TBC.

 

 

#พี่ลู่คนคุก

 

 

 

แมลงจี่...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น