การเริ่มต้นใหม่
เราอาจะเดินมาถึงทางแยกเดิมที่เคยเดินผิด
จากนี้เราจะเลือกเดินทางไหน
ชีวิตใหม่…
มินซอกพลิกหน้ากระดาษในมือไปมา
มองหน้ากระดาษที่อุดมด้วยตัวอักษรจากหมึกพิมพ์แล้วส่ายหัวเบาๆ
เพราะตัวเองเป็นคนชอบจดชอบโน้ต มองหนังสือสอบตำรวจของคนรักที่โล่งสะอาดเลยรู้สึกแปลกๆ
มองนาฬิกาที่โทรศัพท์มือถือของตัวเอง
ลู่หานฮยองกับพี่จงอินสอบอยู่ในห้องชั้นบนสุดของตึก ซึ่งมินซอกไม่สามารถขึ้นไปได้
มีคุณตำรวจหลายนายเฝ้าเพื่อกันการทุจริตที่อาจจะเกิดขึ้น
“อ่ะ
น้ำกับขนมปัง”อี้ชิงวางถุงร้านสะดวกซื้อลงบนโต๊ะพร้อมกับหย่อนตัวนั่ง
ตามด้วยผู้กองคริสที่เดินไปซื้อของกินเป็นเพื่อนอี้ชิง
ผู้กองหนุ่มอุตส่าห์มานั่งรอลูกน้องทั้งคู่สอบเป็นเพื่อนมินซอกกับอี้ชิง
มินซอกยิ้มก่อนจะหยิบขนมปังมาแกะกิน ถามผู้กองตัวสูงกับน้องชายคนรักด้วยว่ากินด้วยกันไหมแต่อีกสองคนก็ปฏิเสธบอกว่าจัดการเรียบร้อยตั้งแต่หน้าร้านสะดวกซื้อแล้ว
“สอบเสร็จก็คงบ่ายแก่ๆ
มินซอกอยากจะกินอะไรไหม?
ฉันว่าจะพาคนเก่งไปเลี้ยงที่สอบหมอสักหน่อย”คริสเอ่ยถามคนที่เคี้ยวขนมปังแก้มพอง
มินซอกส่ายหน้าบกว่ายังไม่ประกาศผลเสียหน่อย
แล้ววันนั้นก็กินเนื้อย่างจนพุงกางฉลองไปแล้ว
มาฉลองบ่อยๆมันจะเป็นลางไม่ดีเอาเสียมากกว่า
“ถ้างั้นก็ถือซะว่าเลี้ยงฉลองการสอบที่ผ่านไปได้ด้วยดีของจงอินกับลู่หานเป็นไง?”ผู้กองหนุ่มยังคงตั้งใจจะเลี้ยงให้
เห็นมินซอกปฏิเสธก็ยกสองคนที่ยังอยู่ในห้องสอบมาอ้างเอา
อี้ชิงขำน้อยๆบอกว่าแน่ใจได้ยังไงว่าการสอบนั้นผ่านไปได้ด้วยดี
เห็นเมื่อเช้าพี่ลู่หานยังบ่นอยู่เลยว่าลืมข้อสอบที่ผู้กองติวให้ไปหลายข้อแล้ว
“ว่าแต่เราเถอะอี้
เลิกทำงานที่นั่นได้หรือยัง ช่วงนี้พี่ก็ไม่ค่อยว่างไปรับ ไอ้เด็กนั่นมาส่งเราเหมือนเดิมหรือเปล่า”ผู้กองคริสเบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่น
เห็นเด็กมินซอกนี่ตั้งท่าจะปฏิเสธการเลี้ยงฉลองจากเขา อี้ชิงส่ายหัวเป็นการตอบ
บอกว่ายังทำอยู่
“จงแดมาส่งตลอดล่ะฮะ
ห้ามได้ที่ไหนกัน”พูดถึงไอ้เด็กจอมแสบที่ออกมาส่งอี้ชิงกลับบ้านแทบทุกวัน
บอกว่ากลัวเขาโดนฉุด คริสได้ฟังก็หัวเราะ เคยเห็นเด็กคิมจงแดบ่อยครั้ง
แรกๆที่เจอหน้ากันไอ้เด็กนั่นตั้งท่ารังเกียจเขาด้วยซ้ำ คิดว่าเขาเป็นแฟนกับอี้ชิง
พอรู้ว่าเขาเอ็นดูคนตัวขาวเหมือนน้องชาย
คิมจงแดก็ค่อยคลายความมึนตึงเวลาเห็นหน้ากันลงหน่อย
“เลิกทำได้แล้วนะ
ถ้าขัดสนเรื่องเงินก็บอกกัน พี่ช่วยได้ก็จะช่วย
แล้วดูมหาวิทยาลัยไว้หรือยัง?”บอกกับอีกคน
อี้ชิงยิ้มอ่อนๆบอกว่าสมัครสอบมหาวิทยาลัยหนึ่งไว้แล้ว
เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านศิลปะ คริสบอกว่าดีแล้ว
เขาไม่อยากให้อี้ชิงเรียนตำรวจเหมือนกัน
เพราะรู้ว่ากว่าจะเป็นตำรวจได้ต้องฝึกหนักขนาดไหน
“ถ้าสอบติดก็คิดไว้ว่าจะเลิกทำงานกลางคืนเหมือนกัน
อี้ก็ไม่อยากให้พี่กับผู้กองมาห่วงเท่าไหร่”ผู้กองตัวสูงได้ยินคนอ่อนกว่าพูดแบบนั้นก็ยิ้มเอ็นดูแล้วขยี้หัวอี้ชิงเบาๆ
อวยพรว่าให้สอบติด รวมทั้งมินซอกด้วย
“ให้พี่จงอินกับพี่หานติดด้วย”อี้ชิงพูดต่อแล้วยิ้ม
“ให้สอบติดกันทุกคนเลยแล้วกัน”มินซอกว่าแล้วยิ้มกว้าง
แอบอธิฐานในใจให้สอบได้กันทุกคน เพราะตั้งใจกันขนาดนี้แล้ว
พระเจ้าคงไม่ใจร้ายกับพวกเรามากจนเกินไปแน่ๆ
ค น คุ ก
สภาพตอนที่ลู่หานและจงอินลงจากตึกที่สอบมาก็คล้ายกับมินซอกตอนออกจากห้องสอบ
คุณพ่อหมีบ่นน้อยๆว่าข้ามไปข้อสองข้อ
ยอมรับเลยว่าข้อสอบคัดคนเข้าทำงานราชการเทือกนี้นี่ยากจริงๆ
โดยเฉพาะงานที่ต้องใช้ความซื่อสัตย์สุจริตและยุติธรรมสูง
ส่วนลู่หานลงจากตึกมาก็เงียบไปพักใหญ่คงเบลอๆ
“ที่มึงเจอยังน้อยๆ”คริสหัวเราะเยาะไอ้คนที่ไม่ตอบโต้อะไรกลับมา
มินซอกเองก็ขำพรืด คนรักเหมือนซอมบี้ไร้วิญญาณจริงๆ
ผู้กองตบหลังจงอินเป็นกำลังใจก่อนจะถามว่าจะไปฉลองสอบเสร็จกันที่ไหนดี
งานนี้รุ่นพี่ว่าที่ตำรวจอาสาจะออกค่าของกินให้ไม่อั้น
“พ่อพระฉิบหาย”เหมือนไอ้คนมึนเพราะข้อสอบมันจะเริ่มดึงสติกลับมาได้
หมาในปากเลยเริ่มทำงานตามปรกติ คริสยักไหล่ถามย้ำว่าจะให้เลี้ยงที่ไหนดี
แต่คงต้องรอเซฮุนเลิกเรียนก่อน
“ถ้าอย่างนั้นเรากินกันที่บ้านดีไหมฮะ?
จะได้นั่งได้ยาวๆด้วย
พรุ่งนี้ผู้กองมีเข้าเวรหรือเปล่า?”มินซอกเสนอและดูเหมือนหลายคนจะเห็นด้วย
จงอินยิ้มร่าบอกถ้ากินที่บ้านก็ดวดเบียร์ได้ไม่อั้นด้วยหรือเปล่า กินให้เมาแล้วคลานเข้าห้องง่ายดี
“ไม่หรอก
ช่วงนี้คดีไม่เยอะ”คงเป็นเพราะหลังจากล่อซื้อและจับพวกค้ายารายใหญ่ๆได้ รายอื่นก็เลยเก็บตัวไม่เพ่นพ่านกันสักเท่าไหร่
“ถ้างั้นก็ดีเลย
งั้นไปกินกันที่สำนักงานเลย จุนมยอนจะได้มาฉลองกับเราด้วย
ผู้กองกระเป๋าแบนแน่ๆเลยงานนี้ ฮะๆ”จงอินเสนอแล้วยังจัดแจงโทรถามเวลาออกเวรของจุนมยอนที่โรงพยาบาลตำรวจเรียบร้อย
ฝากพยาบาลเวรบอกว่าถ้าเลิกงานให้รีบกลับเลย
“มีเตาย่างกับหม้อสุกี้อยู่ในห้องเก็บของ
ใครจะไปซื้อของก็มากับฉันแล้วกัน ส่วนพวกที่เหลือก็ไปรอที่สำนักงาน”ผู้กองคริสบอก
เลยได้อี้ชิงที่ขันอาสาจะไปช่วยซื้อของเอง
ตอนแรกมินซอกจะไปด้วยแต่อี้ชิงก็ไล่ให้พาจงอินกับลู่หานกลับสำนักงานดีกว่า
แค่ของทำสุกี้กับปิ้งย่างแค่นี้ อี้ชิงกับผู้กองซื้อได้
“อย่าลืมเบียร์นะครับผู้กอง”จงอินไม่ว่าพูดย้ำพร้อมรอยยิ้มเผล่
คริสไล่ให้ทั้งสามคนขึ้นรถแท็กซี่ไปเสียทีเถอะ เขากับอี้ชิงจะได้ไปหาซื้อของเสียที
ค น คุ ก
จุนมยอนแปลกใจที่พี่จีวอนบอกกับเขาว่ามีคนชื่อจงอินโทรมาบอกให้รีบกลับบ้านถ้าเลิกงานแล้ว
คนตัวขาวโทรกลับหาอีกคนก็ได้คำตอบว่าผู้กองคริสเลี้ยงฉลองการสอบตำรวจของลู่หานกับจงอิน
งานนี้กินฟรีไม่อั้นเพราะฉะนั้นให้จุนมยอนรีบๆกลับมาเลย
“ฉันกะจะแวะร้านดูหนังสือสักหน่อยน่ะ
กินกันไปเลยก็ได้”เขาบอก ตั้งใจจะหาซื้อหนังสือประวัติศาสตร์สักเล่มมาอ่านก่อนนอนเพราะช่วงนี้มักจะนอนไม่ค่อยหลับเสียเท่าไหร่
อาจจะมาจากการเหนื่อยล้าในการทำงาน
เพราะช่วงนี้โรงพยาบาลตำรวจได้สั่งเวชภัณฑ์มาจำนวนมาก
ในฐานะที่เป็นผู้ชายไม่กี่คนซึ่งไม่ใช่แพทย์
จุนมยอนเลยถูกไหว้วานไปช่วยขนย้ายและเก็บเข้าห้องเก็บของ
จงอินบอกผ่านสายโทรศัพท์ว่ายังไงก็รีบกลับแล้วกัน
จะเหลือของกินกับเบียร์ไว้ให้ จุนมยอนบอกอีกคนว่าเชิญตามสบายเถอะ
ถ้าดื่มเบียร์คืนนี้ พรุ่งนี้มีหวังไปนั่งปวดหัวตอนทำงานกันพอดี
“ถ้าจะเอาอะไรให้ฉันซื้อเข้าไปก็โทรมานะ”บอกก่อนจะวางสายจากจงอิน
จุนมยอนเอ่ยลาทุกคนแล้วสะพายกระเป๋าขึ้นบ่า
เพราะเตรียมมาใส่หนังสือกลับเลยเลือกจะสะพายกระเป๋าเป้มาด้วย
หนังสือประวิศาสตร์ไม่ใช่แนวที่จุนมยอนชอบเท่าไหร่ แต่ตัวหนังสือยึกยืออัดแน่นเต็มแผ่นกระดาษนั้นคงทำให้ง่วงนอนได้บ้าง
หยิบจับหนังสือที่ชั้นวางอยู่หลายเล่มกว่าจะได้เล่มที่ถูกใจ
เป็นประวัติศาตร์การช่วงชิงอำนาจในประเทศจีน
เรื่องราวยาวนานถูกสรุปรวมให้อยู่ในหนังสือที่มีจำนวนหน้าไม่ต่ำกว่าสี่ร้อยหน้า
จุนมยอนใส่หนังสือลงในเป้
เพิ่งจะหยิบโทรศัพท์มือถือมากดดูเวลาเลยเพิ่งจะรู้ว่าเลือกหนังสืออยู่กว่าสองชั่วโมงแล้ว
ลืมไปเสียสนิทว่าจงอินบอกให้รีบกลับไปร่วมฉลองด้วยกัน
ป่านนี้ไม่กระดกเบียร์กันจนเลื้อยแล้วใช่ไหม?
“อ้าวพี่จุนมยอน
มาพอดีเลย”เปิดประตูเข้าไปคนที่ทักคนแรกคือมินซอก
จุนมยอนยกมือขยี้ผมอีกคนอย่างเอ็นดู ถามว่าเห็นไปสอบหมอมาเป็นยังไงบ้าง
“ก็ดีฮะ
แต่กว่าผลจะออกก็เดือนหน้านู่น”จุนมยอนยิ้มน้อยๆ บอกว่ายังไงมินซอกก็ทำได้อยู่แล้ว
เพราะมินซอกเก่ง
คนตัวเล็กยิ้มร่าบอกว่าใครๆก็พูดแบบนี้จนตัวเองชักจะเหลิงกันไปใหญ่
ถ้าสอบไม่ได้นี่ผิดหวังแบบสุดๆแน่เลย
“แล้วกินอะไรมาหรือยังฮะ?
พี่มาช้า เลยเหลือแค่สุกี้ พวกปิ้งย่างหมดแล้ว”มินซอกถาม
จูงแขนอีกคนไปนั่งลงที่หน้าทีวีซึ่งเคลื่อนโซฟาออกนั่งเป็นวงล้อมหม้อสุกี้
ขวดเบียร์ตั้งเป็นแถวอยู่ไม่ไกล
“เมาแล้วป่ะเนี่ย?”ถามลู่หานที่นั่งพิงโซฟาอยู่
อีกคนยิ้มร่าบอกว่าไม่ได้เมาอีกทั้งยังตักสุกี้ใส่ถ้วยให้จุนมยอนด้วย
มือขาวรับถ้วยมาคีบผักใส่ปาก ชมว่าอร่อยดีเลยรู้ว่าสุกี้หม้อนี้จงอินเป็นคนปรุง
“แล้วจงอินไปไหนล่ะ?
เห็นอี้ชิงกับผู้กองก็มาไม่ใช่เหรอ?”ถามถึงคนที่โทรไปชวนเขา
ลู่หานบุ้ยปากไปทางห้องนอนเจ้าตัว บอกเบียร์ที่เห็นนี่ฝีมือเพื่อนหมีทั้งนั้น
มันกะจะเอากระเป๋าไอ้เหี้ยผู้กองคริสแบนจริงๆ พอหมดก็ออกไปซื้อมาเพิ่ม
ไปไปมามาเลยซัดไปเป็นสิบ
“เซฮุนเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้อยู่น่ะฮะ
ไม่ต้องเป็นห่วง”จุนมยอนขำบอกว่าไม่ได้เป็นห่วงเลยสักนิด ดีเหมือนกันที่เซฮุนอยู่
เพราะถ้ามีแค่เขากับจงอินอยู่ในบ้านเหมือนทุกๆวันก็อย่าหวังว่าจุนมยอนจะไปช่วยเช็ดตัวคนเมาเชียว
เมาเองก็เหนอะหนะตัวเองไปเถอะ
“แล้วอี้ชิงกับผู้กองล่ะ?”ถามถึงอีกสองคน
ลู่หานบอกว่าผู้กองคริสไปส่งอี้ชิงทำงาน
วันนี้น้องชายของลู่หานขอเข้างานสายเพื่อมาฉลองกับพี่โดยเฉพาะเลยทีเดียว พอพูดถึงน้องชานลู่หานก็สงสัยว่าไอ้ผู้กองตัวสูงมันหายไปไหนหลังจากที่ส่งอี้ชิงถึงร้านแล้วหรือเปล่า
เพราะมันไปส่งน้องตั้งแต่ไอ้จงอินยังไม่เรื้อนนู่น
“กลับบ้านไปแล้วหรือเปล่า”จุนมยอนออกความเห็น
ลู่หานก็แย้งว่าเซฮุนยังอยู่ที่นี่ เมื่อวันก่อนก็มาค้างที่นี่แล้ว วันนี้พี่ชายขี้หวงอย่างไอ้เหี้ยผู้กองคงไม่ปล่อยให้เซฮุนนอนที่นี่หรอก
“เดี๋ยวก็คงมาล่ะมั้ง
ถ้าบอกว่ายังไงก็ต้องมารับเซฮุนกลับ นายรีบกลับบ้านหรือเปล่า
เดี๋ยวเรากินเสร็จแล้วเก็บของเองก็ได้นะ”จุนมยอนพูดบอก
เห็นว่าบ้านของลู่หานไม่มีคนอยู่ อีกอย่างก็เริ่มดึกมากแล้วเหมือนกัน
เดี๋ยวจะกลับกันลำบาก ลู่หานส่ายหัวบอกไม่ได้ห่วงอะไรที่บ้าน
ห่วงอย่างเดียวคือคนตัวเล็กที่ตักนู่นตักนี่จากหม้อสุกี้ใส่ชามจุนมยอนมากกว่า
เพราะเห็นน้องตาปรือน้อยๆแล้ว
ต้องตื่นแต่เช้าแล้วไปนั่งรอเขาสอบทั้งวัน
คงอยากจะนอนแล้ว
“ไม่เป็นไรฮะ
ไม่ง่วงเท่าไหร่
เดี๋ยวช่วยล้างจานก่อนก็ได้”ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ไม่กี่อึดใจต่อมาปากจุ๋มจิ๋มก็หาววอด
จุนมยอนยิ้มขำ บอกว่าไม่ต้องช่วยหรอก กลับบ้านไปนอนดีกว่า
ถ้าผู้กองคริสกลับมาเดี๋ยวก็มีลูกมือช่วยเก็บข้าวของและล้างจานอยู่ดี
อีกทั้งยังมีเซฮุนอีกคนหนึ่งด้วย
“งั้นพาเด็กน้อยไปนอนก่อนแล้วกัน
นายเองก็อย่านอนดึกมากล่ะ พรุ่งนี้ต้องทำงานอีกนิ่”ลู่หานบอก
สะกิดมินซอกให้กลับบ้านได้แล้ว
คนตัวเล็กอิดออดอยากช่วยจุนมยอนทำความสะอาดก่อนแต่คนตัวขาวยืนยันจะให้กลับเลยทำอะไรไม่ได้นอกจากโบกมือหยอยๆแล้วเดินตามลู่หานออกไป
จุนมยอนตักสุกี้ที่เหลือใส่ชามแล้วยกหม้อกับเตาย่างไปแช่ไว้ในชิ้งค์ล้าง
เวลาขัดจะได้ออกง่ายๆ แล้วกลับมานั่งกินสุกี้ที่ในชามต่อ เปิดทีวีดูละครไปด้วย
ทว่าสักพักเสียงรถยนต์ก็ดังและเงียบลงตรงหน้าบ้าน
ให้เดาคงเป็นผู้กองคริสที่กลับมาจากการไปส่งอี้ชิง
ร่างสูงทักทายจุนมยอนน้อยๆก่อนจะบ่นว่าหิวเพราะดูเหมือนปิ้งย่างที่กินแค่นิดหน่อยก่อนไปส่งอี้ชิงจะย่อยหมดแล้ว
“เหลือแค่สุกี้ชามเดียว
ถ้าไม่รังเกียจก็กินได้นะ”บอกพร้อมยื่นไปตรงหน้า
ไม่คิดหรอกว่าอีกคนจะกินจริงๆแต่ก็ต้องตกใจเมื่อคริสคว้าชามสุกี้ไปแล้วคีบกินจริงๆ
“เห้ย! ฉันแค่ล้อเล่น”ร้องเสียหลง
จะแย่งชามกลับก็ไม่ทันแล้วเมื่อผู้กองตัวสูงโกยเอาโกยเอา
ไม่ทันจะได้หายใจก็หมดชามเสียแล้ว
จุนมยอนอ้าปากค้างมองดูชามที่ว่างเปล่าของตัวเองสลับกับคนที่นั่งลูบท้องไปมา
แล้วก็ถอนหายใจออกมาก่อนจะส่ายหัวช้าๆ
ท่าทางจะหิวจริงๆ
“ถ้าอิ่มแล้วก็มาช่วยกันล้างจานด้วยนะ
ลู่หานกับมินซอกกลับไปแล้ว
เหลือแค่นายกับฉันแล้วก็เซฮุน”ว่าพลางลุกขึ้นเอาชามไปกองรวมกับใบอื่นๆที่ต้องล้าง
คริสบอกให้รอก่อน ขอไปดูเซฮุนก่อนแต่จุนมยอนก็ไม่ได้สนใจ มือขาวเนียนจับชามล้างน้ำก่อนเพื่อชะเศษอาหารก่อนเอาแช่ในกะละมังขนาดกลางที่บรรจุน้ำผสมน้ำยาล้างจาน
ค น คุ ก
ภาพตรงหน้าทำเอาคิ้วเส้นหนาขมวดพรึ่บ
ใต้ตากระตุกถี่ๆ
บอกตัวเองว่านั่นคือคนรักของน้องชายแต่ไอ้อาการหวงน้องก็ไม่หายเลยหงุดหงิดขึ้นมาเมื่อเห็นว่าคิมจงอินกำลังนอนกอดกับเซฮุนอยู่
อีกคนเมา
แต่อีกคนไม่ได้กินเบียร์เลยสักหยด คริสไม่ได้ห้ามแต่เป็นจงอินต่างหาก
เห็นบอกไม่อยากให้เซฮุนเมา แต่ถึงไม่ได้เมา ไอ้ตัวดื้อก็คงหลับไปเพราะความอิ่ม
เล่นกินสุกี้เข้าไปเต็มท้องแบบนั้น เห็นเป็นฝีมือคนรักตัวเองทำเลยกินไปยิ้มไป
มีความสุขจนแก้มนุ่มๆนั่นอูมเปล่งเพราะปากวาดรอยยิ้มตลอดเวลา
คริสยิ้มให้กับน้องชายที่อยู่ในอ้อมกอดของอีกคน...เขาตัดสินใจไม่ผิดจริงๆสินะ
ถอยฉากออกมาและงับประตูห้องปิดเหมือนเดิม
คิดว่าวันนี้คงต้องปล่อยให้เซฮุนนอนที่นี่อีกสักคืน
ปลุกขึ้นมาคงบ่นหงุงหงิงหน้าบูดเป็นตูดลิงแน่ๆ
“เซฮุนล่ะ?”จุนมยอนถามคนที่บอกว่าจะไปดูเซฮุนแต่ดันกลับมาคนเดียว
คริสบอกว่าน้องชายหลับไปแล้ว คงต้องปล่อยให้นอนที่นี่อีกคืน จุนมยอนพยักหน้าเข้าใจ
ส่งชามที่เพิ่งใช้ฟองน้ำถูจนฟองจับให้กับผู้กองร่างสูงไปล้างน้ำสะอาดแล้วคว่ำตาก
“ถ้านายจะนอนที่นี่ก็ได้นะ
เช้าก็พาเซฮุนกลับไปด้วยได้เลย นี่ก็ดึกแล้วเหมือนกัน”คนตัวขาวพูด
เห็นว่าอีกคนก็ดื่มไปพอสมควร
ทั้งยังไม่มีใครนั่งรถกลับเป็นเพื่อนกลัวจะเกิดอุบัติเหตุเอาได้
“จะให้นอนที่ไหนล่ะ?
อย่าบอกนะที่โซฟา...”ถามอีกคนแล้วแค่นหัวเราะเมื่อจุนมยอนมีสีหน้าแปลกๆ
คงจะคิดให้นอนที่โซฟาจริงๆ คนตัวขาวกัดปากตัวเอง
หันมามองหน้ากันแล้วบอกให้ไปนอนในห้องก็ได้ เดี๋ยวตัวเองจะมานอนโซฟาเอง
เพราะเป็นแค่คนอาศัย
“ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น
ก็นอนเตียงเดียวกันนั่นล่ะ ฉันเองก็มึนๆอยู่
ตอนขับรถไปส่งอี้ชิงต้องแวะพักอยู่นานสองนาน”ได้ยินอีกคนพูดแบบนี้
จุนมยอนรีบปฏิเสธว่าไม่เป็นไร เขารู้สึกไม่อยากนอนติดกับผู้ชายคนอื่น โดยเฉพาะคนที่รูปร่างสูงใหญ่เหมือนคริส
แม้จะรู้ว่าอีกคนไม่คิดจะทำอะไรแต่ก็ไม่วายระแวงกลัว
“โอเค โอเค
ฉันเข้าใจ ถ้างั้นนายก็นอนในห้องไปเถอะ เดี๋ยวฉันมานอนโซฟาเอง
ฉันยกห้องนั้นให้นายไปแล้ว นายก็เป็นเจ้าของ”คริสยอมแพ้
คิดว่าทำไมอีกคนถึงไม่นอนกับตัวเองก็เข้าใจดี
หม้อสุกี้ถูกคว่ำตากเป็นอย่างสุดท้าย
คริสจำได้ว่ามีเสื้อผ้าเอาไว้ค้างคืนตามโรงแรมเวลาออกทำงานนอกสถานที่อยู่ในรถ
เขาบอกให้จุนมยอนอาบน้ำก่อนได้เลย จะออกไปเอาเสื้อผ้าก่อน
เมื่อกลับมาก็ยังไม่เห็นว่าคนตัวขาวจะเข้าไปอาบน้ำ
แต่อีกคนกำลังเก็บขวดเบียร์ใส่ถุงอยู่
“มีเหลืออีกสี่ขวดน่ะ
ให้แช่ในตู้ไหม?”ถามแล้วชี้ไปยังขวดที่ยังไม่ได้เปิดสี่ขวดซึ่งจับแยกเอาไว้
คริสส่ายหน้าบอกว่ากินให้หมดไปเลยดีกว่า เบียร์ยี่ห้อนี้เป็นเบียร์หมักพื้นบ้าน ถ้าวันหลังไม่มีใครเอาออกมากินมันจะเสียรส
“แต่ฉันไม่กินนะ
พรุ่งนี้ยังต้องทำงาน”ปฏิเสธทันทีเลยได้ยินอีกคนพูดเบาๆว่าดีแล้วที่ขยันทำงาน
ไม่เสียแรงที่ฝากให้
“เดี๋ยวฉันกินเอง
นายไปอาบน้ำเถอะ
ขวดแค่นี้แป๊บเดียวก็หมดแล้ว”บอกให้อีกคนไปอาบน้ำอีกครั้งก่อนจะงัดฝาขวดเบียร์ออกทุกขวด
ดีที่เบียร์เกาหลียี่ห้อนี้เป็นเบียร์ขวดเล็กๆ กระดกแค่สามอึกก็หมดขวดอย่างง่ายดาย
แต่ถึงจะน้อย ทว่าปริมาณที่ได้รับก่อนหน้า
แต่ปริมาณสี่ขวดที่เติมเข้าไปก็เล่นเอาคริสมึนไม่หยอก
รู้สึกหัวเต้นตุบๆทันทีที่วางขวดสุดท้ายลง
หัวดูจะหนักขึ้นจนร่างสูงต้องพิงตัวเองและเอนหัวทาบไปกับโซฟา
อยากนอนเต็มแก่แล้วตอนนี้ ได้ยินเสียงใครที่ดังบอกให้ไปใช้ห้องน้ำในห้องต่อได้แล้ว
คริสเพ่งตามองก็เห็นจุนมยอนยื่นผ้าเช็ดตัวผืนใหม่มาให้
“ไปอาบน้ำสิ”ได้ยินเสียงอีกคนบอก
คริสสะบัดหัว ไปอาบน้ำคงจะสร่างขึ้น ครีมอาบน้ำของจุนมยอนเป็นกลิ่นเมนทอล
เขาแอบหัวเราะเพราะไม่คิดว่าอีกคนจะใช้กลิ่นผู้ชายขนาดนี้ เนื้อตัวขาวๆนิ่มๆติดกลิ่นพีชหรือแอบเปิ้ลคงจะเข้ากันมากกว่า
เมื่อาบน้ำเสร็จ
ความมึนเมาที่มีก็ลดระดับลงจริงๆ คริสบิดประตูห้องน้ำ
เดินใช้ผ้าขนหนูขยี้ผมที่กรุ่นกลิ่นแชมพูของจุนมยอน มองที่เตียงนอนพบร่างคนที่เป็นเจ้าของห้องตอนนี้ทอดกายอยู่
บนหน้าอกที่หนังสือเล่มหนาวางไว้ คงหลับไปตอนอ่านหนังสือเล่มนั้น
คริสเดินไปหยิบหนังสือเล่มนั้นออกจากตัวของจุนมยอนก่อนจะวางไว้ที่หัวเตียง
เห็นอีกคนหลับตาสนิท ผ่อนลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ
ริมฝีปากบางสีสดเผยอยื่นขึ้นน่ามอง
...จนเผลอมองอยู่ครู่หนึ่ง...
จุนมยอนสวยจริงๆ
การที่ใส่แว่นกรอบหนาบดบังแววตาทรงเสน่ห์นั้นอาจจะช่วยได้ในระดับหนึ่ง
แต่เมื่อถอดแว่นตาออก
จุนมยอนก็ยังคงมีเสน่ห์น่าหลงใหลและดึงดูดเพศเดียวกันได้อย่างมาก คริสหัวเราะเพราะความคิดบางอย่างเกิดขึ้นในสมอง...
เขาชื่นชมในความสวยของจุนมยอน
แต่ไม่เคยเลยที่จะรู้สึกว่าตัวเองหลงใหลในความสวยงามของคนๆนี้
ริมฝีปากที่เผยออยู่ตรงหน้ากับความคิดที่บ้าบอทำให้คริสตัดสินใจโน้มกายลงหาคนที่นอนหลับอยู่
กลีบปากหยักลึกกดแผ่วเบาลงกับความนุ่นนิ่มสีสด
อึ่ก...
เสียงกลืนน้ำลายลงในคอดังจนคริสยังต้องตกใจตัวเอง
ความนิ่มเย้ายวนให้ต้องกดแนบริมฝีปากลงไปอีก มือหนาเลื่อนแตะปลายคาย
รั้งให้จุนมยอนเผยอริมฝีปากมากกว่าเดิมก่อนจะส่งเกลียวลิ้นเข้าไปด้านในโพรงปากซึ่งขังเอ่อด้วยน้ำบ่อน้อย
“อือ”เหมือนคนที่โดนขโมยจูบยามนิทราจะรู้สึกตัว
คริสละปากออกมาอย่างเสียดาย
ข้างในโพรงปากตนเองยังเต็มไปด้วยรสมิ้นต์จากยาสีฟันที่จุนมยอนใช้แปรง
ความระแวงจุนมยอนจะตื่น ผู้กองตัวสูงสาวเท้าออกจากห้องนอนของจุนมยอนทันที
แต่ก็อดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองเรือนร่างขาวผ่องที่บิดพลิกตัว
ปลีขาขาวขยับย้ายชันขึ้นจนกางเกงนอนขาสั้นร่นลง
คริสลอบกลืนน้ำลายอีกครั้ง...
เขาพิสูจน์แล้วว่าตัวเองก็ไม่ต่างจากคนอื่น
อาจจะเพราะไม่ได้สนใจ เพียงมองว่าจุนมยอนนั้นสวย...หารู้ไม่ว่าพอลองได้สัมผัส...
...คิดว่าคงต้องการอย่างไม่รู้จักพอ...
ค น คุ ก
จุนมยอนพลิกตัวเมื่อรู้สึกว่านอนไม่สบาย
อึดอัดมาสักพักใหญ่ เหมือนถูกโอบล้อมแต่ก็เปล่า ลืมตาขึ้นเชื่องช้า มองไปรอบกายพบว่าทั้งห้องเปิดไฟสว่างจ้า
หนังสือประวัติศาสตร์ที่อ่านช่างเป็นตัวช่วยที่ดี
แค่ไล่สายตาอ่านไม่กี่บรรทัดก็หลับแล้ว
จุนมยอนลุกไปเข้าห้องน้ำเพราะปวดฉี่
แต่คอที่แห้งก็สั่งให้ต้องเดินออกไปหาน้ำดื่มแก้กระหายด้วยในคราวเดียวแล้วค่อยมานอนต่อ
ทว่าเพียงย่างก้าวออกจากห้องนอนมา ดวงตากลมโตก็เบิกน้อยๆด้วยความตกใจ
เกือบจะอุทานออกไปกับเงาร่างสูงใหญ่ที่ยังนั่งอยู่บนโซฟาและหันหลังให้กัน
คิดว่าไปนอนแล้วเสียอีก
“ฮา...”เสียงแปลกๆดังขึ้นท่ามกลางความมืดมิดและเงียบสนิท
จุนมยอนตัวแข็งอยู่กับที่ ก้าวขาไม่ออก แค่ฟังก็รู้ว่าเสียงอะไร
คนตัวขาวหน้าชาวาบไปหมด ไม่คิดว่าจะออกมาเห็นผู้กองคริสช่วยตัวเองอยู่บนโซฟาหน้าทีวี
ตั้งใจจะเดินเลี่ยงกลับเข้าห้องนอนอีกครั้ง
เข้าใจว่าเวลาดึกๆบางทีก็อารมณ์เปลี่ยวได้ง่าย เขาเองก็ผู้ชายเหมือนกันเลยรู้
อีกอย่างนี่ก็บ้านผู้กองเอง จะทำอะไรยังไงก็เชิญตามแต่สะดวกสบายจะดีกว่า
ถอยหลังเข้าห้อง คิดจะปิดประตูให้เบาทีสุด แต่เพราะความมืดเลยมองไม่เห็น
แผ่นหลังบางเลยชนกับขอบประตูดังปึ่ก
จุนมยอนเบิกตาขึ้นแต่ไม่เท่ากับใครที่นั่งอยู่บนโซฟา
เสียงกระเส่าน้อยๆที่ดังขึ้นต้องหยุดกึก
แผ่นมือใหญ่ที่กำลังกอบกุมรอบความใหญ่โตแล้วสาวรั้งกระตุกจนพาเอากลางกายจุกไปด้วย
คริสหันขวับมามองคนที่ยืนอยู่ด้านหลังแทบจะทันที
แสงไฟจากในห้องส่องสว่างทาบแผ่นหลังและทำให้มองเห็นหน้าอีกคนได้ชัดเจน
คิมจุนมยอน!
รีบเก็บส่วนน่าอาบกลับเข้ากางเกง
คริสหน้าชาดิก ลุกพรวดขึ้นยืนแล้วขอตัวไปเข้าห้องน้ำ
นั่นเองทำให้จุนมยอนรู้สึกตัวหลังจากตกใจที่ทำให้คนที่กำลังตกอยู่ในห้วงกามารมณ์รู้ตัวว่ามีเขามองเห็นอยู่ตรงนี้
จุนมยอนเรียกชื่ออีกคนเสียงดังบอกว่าไม่ต้องอายหรอก เชิญทำธุระตามสบาย
เขาแค่ออกมาหาน้ำกินเท่านั้นเอง
แต่คนที่อับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนคงไม่ได้ฟัง
คริสหายเข้าไปในห้องน้ำพักใหญ่ถึงออกมา คิดว่าคนตัวขาวจะกลับเข้าห้องนอนตัวเองไปแล้ว
...แต่ก็เปล่า
คิมจุนมยอนยังยืนอยู่ข้างนอกท่ามกลางความมืดสนิท
“ฉันทำให้นายหมดอารมณ์หรือเปล่า”ถามด้วยความสงสัย
เห็นอีกคนหน้านิ่งเพราะความกระดากอายที่ถูกพบตอนช่วยตัวเองยิ่งรู้สึกผิดน้อยๆ
“ให้ช่วยก็ได้นะ
ปั่นมาตั้งนาน หดกลับไปแบบนั้นคงรู้สึกแย่”พูดเสียงค่อย
แต่ก็แอบขำในใจที่เห็นสีหน้าซีดเผือดของผู้กองคริส
“ไม่เป็นไร”กว่าจะควานหาเสียงได้ก็นิ่งเงียบเสียนาน
คริสรู้สึกว่าหน้าร้อนวูบ
ทั้งที่ความจริงการช่วยตัวเองสำหรับผู้ชายด้วยกันมันไม่ได้น่าอับอายสักนิด
แต่ที่ตกใจสุดขีดคงเพราะคนที่มาเห็นตอนเขากำลังนำพาตัวเองขึ้นแตะสวรรค์...เป็นคนเดียวกับในจินตนาการ...
ยอมรับอย่างหน้าไม่อายว่าเขากำลังช่วยตัวเองและนึกภาพจุนมยอนไปด้วย! รสจุบหอมหวานจากริมฝีปากนิ่มกวนใจคริสตลอดเวลา
ความต้องการจะจูบอีกคนพุ่งทะยาน หนักกว่านั้นคืออยากจะจับต้องส่วนอื่น
เนื้อเนียนขาว ปลีขาอ่อน...อยากสัมผัสไปหมด
ราวกับต้องมนต์...
“ให้ช่วยเถอะ...ถือเสียว่าเป็นการขอโทษที่ออกจากห้องมาไม่ดูเวล่ำเวลาแล้วกัน”พูดแล้วสาวเท้าเข้าหาร่างสูงที่ยังยืนนิ่ง
คริสยกมือห้ามบอกไม่ต้อง เขาไม่เป็นอะไร กลัวว่ายิ่งใกล้
จะยิ่งต้องการจุนมยอนมากกว่าเดิม...จนห้ามตัวเองไม่ได้
“ไม่อยากกลับไปทำอย่างว่ากับผู้ชายไม่ใช่หรือไง”ลั่นคำถามที่ทำให้จุนมยอนชะงักเท้าได้
แต่แล้วไหล่บางก็ไหวขึ้น บอกว่าไม่เป็นไร แค่ใช้มือให้ ไม่ได้สอดใส่เข้ามา
คิดเสียว่าช่วยให้คริสเสร็จๆไปเพราะรู้สึกผิด อุตส่าห์รูดรั้งจนมันใกล้จะระเบิดกลับต้องอารมณ์สะดุด
เป็นเขาคงหงุดหงิดน่าดู แล้วจะปลุกปั่นมันขึ้นมาอีกด้วยตัวเองก็ยากอยู่
“นั่งอยู่เฉยๆ
เดี๋ยวทำให้”คว้ามืออีกคนให้มานั่งที่โซฟาเหมือนเดิม จุนมยอนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
ถึงจะบอกว่าแค่ช่วยให้อีกคนเสร็จไปแต่เอาเข้าจริง การที่มือนิ่มได้กอบกุมแกนกายผู้ชายอื่นอีกครั้ง
จุนมยอนก็รู้สึกผะอืดผะอมเสียแล้ว หลับตาลง รูดกางเกงผู้กองตัวสูงไปกองที่ข้อเท้า
เสียงทุ้มลั่นจะห้ามแต่เพียงนิ้วเรียวยาวแตะสัมผัสเสียงร้องห้ามก็เงียบหาย
จุนมยอนเงยหน้ามองใบหน้าคมเข้ม คริสหลับตาเอนหลังไปกับโซฟา ริมฝีปากหยักสวยถูกฟันซี่คมขบ
อารมณ์หวามที่หดกลับไปแล่นปราดอย่างรวดเร็ว
คริสกัดปากแน่น มือของจุมยอนนิ่มมาก มากจนเขาไม่อาจจะต่อต้านได้
เพราะความต้องการมันตรึงร่างเขาให้แข็งสนิท
แม้กระทั่งถูกจูงมือมานั่งแล้วรูดกางเกงลงก็ยอมโดยดี
“จุนมยอน”ครางเรียกชื่ออีกคนเพราะมือเล็กๆนั้นกอปรอบความใหญ่โตที่เริ่มขยายพองขึ้นมาอีกหน
ปลายเล็บข่วนเบาๆไม่ได้เจ็บแต่กลับจุกแน่น คริสกำลังคิดว่าเขากำลังจะตาย
แค่มือของจุนมยอนจับต้องก็แทบจะแตกระเบิดออกมา
“ปาก...ใช้ปาก”เสียงพร่าสั่นอย่างควบคุมไม่ได้
ต้องการอะไรที่มากกว่ามือ อะไรก็ตามที่นุ่มนิ่มกว่านั้น สติขาดผึ้ง
ความชขั่วดีแยกแยะไม่ได้
ที่เคยเห็นใจว่าจุนมยอนจะรู้สึกแย่ขนาดไหนที่ต้องมีเซ็กส์กับผู้ชายด้วยกันนั้นลบเลือนไปหมดแล้ว
มีแต่ความต้องการ
อยาก...จะให้ความอุ่นร้อนทั้งยังนิ่มนวลโอบรอบ...
จุนมยอนผงะออกเมื่อได้ยินแบบนั้น
ส่ายหน้าดิกบอกว่าไม่เอา แค่มือก็พอแล้ว
อดจะตกใจไม่ได้ที่แกนกายอีกฝ่ายขยายพองเร็วขนาดนี้แค่จับรูดไม่กี่ครั้ง
“ไม่เอา!”ร้องลั่นถอยกรูดหนีมือใหญ่ที่คว้าหัวเอาไว้
คิดผิดที่จะช่วยให้อีกคนปลดปล่อย ลืมไปว่าตัวเองมีแรงดึงดูดกับเพศเดียวกันขนาดไหน
เพราะคริสไม่ได้มองตัวเองเชิงนั้นเลยคิดว่าคงไม่เป็นไร
จุนมยอนจะหวีดร้องแต่ท่อนเนื้อยาวกลับสอดเข้ามาในโพรงปากโดนไม่ทันตั้งตัว
ความยาวของมันทำให้ให้ปลายเข้าไปกระแทกที่ผนังลำคอ ขนาดที่ใหญ่โตทำให้ปากคับแน่น
เรือนกายขาวถูกผลักลงไปนอนกับพื้น คริสโผจากโซฟาลงมาคร่อมอีกคนเอาไว้
ตรึงแขนขาวที่ป่ายจะหนีให้นิ่งสนิทกระแทกกายลงเน้นยังให้จุนมยอนสำลักไอ
ใบหน้าหวานเป็นสีแดงจัด ดิ้นจะให้หลุดให้ได้
น้ำตาไหลลงมาเพราะทั้งเจ็บที่ตัวและเจ็บที่ใจ ไว้ใจว่าคริสจะต่างออกไป
สุดท้ายก็เหมือนกับคนอื่น
...ที่มองเขาเป็นแค่ตัวอะไรเอาไว้ปลดเปลื้อง...
“แตกแล้ว”เสียงทุ้มครางสั่น
สาวกายเข้ามาอีกแค่ทีเดียวก็กระตุกสั่นคายน้ำขาวขุ่นออกมาเต็มในปากของจุนมยอน
บางส่วนไหลลงคอไปอย่างรวดเร็วไม่ทันได้ตั้งตัว กลิ่นคาวน่าคลื่นเหียนชวนอาเจียน
จุนมยอนปล่อยน้ำตาให้รินไหล ไอค่อกแค่กเมื่อคริสถอนตัวออกไป
กายขาวขดเข้าหากันก่อนจะปล่อยเสียงโฮออกมาลั่น
ความรู้สึกแตกพังเหมือนแก้วที่ถูกปาลงที่พื้น
ภาพที่ตัวเองตกอยู่ใต้ร่างผู้ชายแต่ละคนวนเวียนตีรื้นมาเป็นฉากๆ
ทั้งที่หลังจากออกจากคุกมาก็เริ่มจะลืมเลือนมันไปบ้างแล้วแท้ๆ
ตั้งใจจะเริ่มใหม่และทิ้งความทรงจำเลวร้ายนั้นไป...
“เก็บมันไว้เป็นบทเรียนแล้วเรามาเริ่มกันใหม่ไหม?
...ฉันกลับไปแก้อดีตไม่ได้ นายก็เหมือนกัน ...เริ่มใหม่นะ...ถ้ามันหนักหนาเกินไป...”
.
.
“ฉันจะช่วยนายเอง”
ไม่มีใครช่วยจุนมยอนได้...
ไม่มี...
TBC.
ดราม่าสิ...
ไม่ดราม่าหรอก
รอตอนต่อไปแล้วกัน...
ใกล้จะจบแล้วจะมาดราม่าได้ไง
ว้อะ 555555555555555555555555555555
#พี่ลู่คนคุก
แมลงจี่...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น