วันพุธที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2558

คนคุกมีกัน

เธอกับฉัน



มีกัน

ลู่หานและจงอินเข้าไปรายงานตัวกับโรงเรียนตำรวจเพื่อเข้ารับการฝึกซึ่งจะเริ่มขึ้นในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ระหว่างนี้ลูห่านก็สมัครงานร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์แถวบ้านเป็นการหารายได้เล็กๆน้อยๆ ผู้กองคริสบอกว่าเข้าไปฝึกแล้วจะมีงานบริการให้ช่วย ตรงส่วนนั้นจะสามารถหาเงินพอไว้กินขนมเล่นได้ ส่วนค่ากินอยู่ทางรัฐบาลมีงบให้กึ่งหนึ่งและพวกเขาต้องออกเองด้วยเหมือนนักเรียนตำรวจปรกติ ซึ่งผู้กองตัวสูงก็บอกไม่ต้องเป็นห่วง เขายินดีจะช่วยเหลือเรื่องทุนต่างๆ แต่ก็ต้องรักษาทุนกันเอาเอง ประพฤติในกรอบและระเบียบ มีผลการฝึกที่อยู่ในระดับสูงและคงที่ ไม่เช่นนั้นทุนก็ลอยหายเหมือนกัน
มินซอกกลับไปทำงานที่ร้านป้านาบี เห็นป้าแกต้องไปเฝ้าลูกชายที่โรงพยาบาลเพราะไอ้เด็กนั่นซิ่งรถแต่พลาดล้มหัวครูดพื้นถนนเป็นทางแขนขาถลอกปอกเปิก ปั๋วเสียนคนเดียวดูร้านก็ไม่ไหว จะปิดร้านก็เสียดายรายได้ ไหนจะค่ารักษาพยาบาลลูกชายตัวเองอีก ลู่หานไปเยี่ยมเด็กนั่นมาครั้งหนึ่ง อาการก็หนักพอตัวแต่คงจะหายซ่าไปอีกนาน
“ตั้งใจทำงานนะฮะ”เสียงใสว่าก่อนจะโบกมือให้คนรัก ลู่หานบอกให้รีบไปช่วยป้านาบีเปิดร้านก่อน เป็นห่วงคนที่ทั้งเฝ้าคนป่วยทั้งทำงานหนักจะเป็นลมเป็นแล้ง กำชับให้มินซอกบอกให้ป้าแกกินข้าวเสียบ้าง

“ว่าไงล่ะเจ๊ก กว่าจะลาเมียมาช่วยงานกูได้ ไปนู่นเลย เวฟแดงอีนังกระแตแต้แวดลูกตาลุงจุนฮยัง แม่งใช้ยังไงหัวเทียนพังมาสามรอบแล้ว”คิมมินจองเจ้าของร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์อีกทั้งยังเป็นลูกค้าเก่าทักขึ้นมาทันทีที่เห็นเขาเดินเข้าร้าน ดีที่เรื่องเขาเป็นสายให้ตำรวจและสอบตำรวจได้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะคนที่สนิท มินจองเลยไม่คิดเอะใจ เห็นว่าเขาเพิ่งออกจากคุกมาก็ให้มาทำงานด้วย
ลู่หานส่ายหัวกับชื่อเรียกว่าเจ๊กที่อีกคนใช้เรียก คนจีนไม่ชอบนักหรอกที่มาจิกหัวเรียกแบบนี้ แต่ก็เข้าใจว่ามันเป็นอาการหนึ่งอย่างของคนที่เสพยา
ยานรกนั่นมอมเมาคนจนไม่สามารถแยกแยะได้หรอกว่าอันไหนดีอันไหนชั่ว ไอ้ข่าวลูกฆ่าพ่อฆ่าแม่เพราะติดยานั่นก็มีให้ดูออกบ่อยไป อยากแจ้งตำรวจมาจับๆมันเข้าคุกไปซะแต่ก็สงสารเมียมันที่ท้องแก่ใกล้จะคลอดเต็มทน อย่างน้อยก็รอให้โบมีคลอดเสียก่อน ให้มันได้เห็นหน้าลูก
เวลาเข้าไปอยู่ในคุกจะได้มีกำลังใจที่อยากจะออกมา...
“มึงไม่มียาจริงๆเหรอไอ้เจ๊ก”มินจองเดินมาถาม ใบหน้าของมันดูอิดโรยคงเป็นเพราะขาดยา เขาส่ายหัวบอกว่าไม่มีหรอก ก็รู้ๆอยู่ว่าเพิ่งออกจากคุกมาไม่นาน จะให้กลับไปส่งยาอีกงั้นเหรอ?
“มึงเองก็ควรจะเลิกนะ เห็นแก่เมียแก่ลูกบ้าง ยัยหนูจะต้องลืมตามามองพ่อขี้ยาแบบมึง...มึงภูมิใจมากเหรอ?”พูดหวังให้มันคิดได้บ้าง เผื่อว่าจะได้ไม่ต้องเข้าไปอยู่ในคุก และมาสำนึกผิดคิดได้ตอนที่สายไป
“มึงพูดง่ายๆ มึงน่าจะรู้ว่าเวลาลงแดงมันหนักขนาดไหน กูแทบจะตาย”มันพูด แลบลิ้นมาเลียริมฝีปากเพราะรู้สึกว่าปากแห้งแตกไปหมด เป็นอาการอยากยาอย่างหนึ่ง ลู่หานตบบ่ามัน ชี้ให้ดูที่หญิงสาวซึ่งหน้าท้องนูนป่อง โบมีนอนเอนหลังอยู่ในเปลผ้าใบที่ผูกสองด้านไว้กับเสาสองต้น มือเล็กบางลูบหน้าท้องอย่างแสนรักและมีรอยยิ้มประดับที่ริมฝีปากตลอดเวลา
“มึงดูโบมีสิ...นั่นเมียมึง และที่กำลังจะเกิดมาคือลูกของมึง มึงไม่รักสองคนนั้นเหรอ”
“...”
“มินจอง...กูลองมาแล้ว การที่ไปอยู่ในนั้นถึงจะไม่ได้ลำบากจนต้องไปกราบตีนขอข้าวใครแดก...แต่การที่มึงจะได้อยู่กับคนที่มึงรัก ได้กอดได้หอมลูกมึง...มันไม่มีหรอกนะ”เป็นห่วงว่าคนข้างนอกจะเป็นยังไง จะอยู่ยังไง ยิ่งมันเองเป็นหัวหน้าครอบครัว เห็นหลายคนในคุกที่ต้องจากลูกจากเมียเข้าไปอยู่ในนั้น ได้แต่พกรูปลูกไว้ดูต่างหน้าแทนการมองเห็นตัวจริง ทำได้แค่ลูบกระดาษสากๆแทนแก้มนิ่มๆของเด็กน้อย
“มึงคิดดูนะ”ทิ้งท้ายเอาไว้แล้วเดินไปจัดการเวฟร้อยคันสีแดงของยัยมินคยองที่ชอบส่งเสียงแหลมๆเหมือนนกกระแตแต้แว้ดอย่างที่ไอ้มินจองมันว่า ถอดหัวเทียนที่มีปัญหาออกมาเจอแต่คราบสกปรกเกาะอยู่ นี่ไงถึงได้พังบ่อยๆ คราบโคลนเกาะเต็มบังโคลนหน้าและยังสาดไปถูกหัวเทียน พอสกปรกเข้าหน่อยก็เริ่มสตาร์ทไม่ติดงอแงแล้ว ยิ่งเป็นรุ่นเก่าอายุคุณปู่แบบนี้ด้วย
ลู่หานเข็นมอเตอร์ไซค์คันสีแดงไปตรงสายยางแล้วเปิดน้ำฉีดล้างคราบสกปรกออก ฉีดอัดเข้าตรงบังโคลนแล้วล้อเน้นย้ำ ต้องบอกยัยมินคยองบ้างว่าให้ล้างรถบ่อยๆ สักแต่ว่าขับไม่ถนอมไม่บำรุงดูแลแบบนี้รถก็อยู่ให้ใช้งานไม่นานกันพอดี
“แล้วยัยมินคยองจะมาเอารถตอนไหนวะ”เช็ดมือที่เปียกจากการล้างรถเข้ากับกางเกง มองเวฟสีแดงจอดล้อแดดรอให้แห้งถามไอ้จินยองลูกมือคนเดียวของจองมิน
“พรุ่งนี้นู่นล่ะพี่ เห็นเอาไอ้แดงมาทิ้งไว้แล้วก็ซ้อนท้ายแฟนไป คงไม่กลับบ้านหรอก สงสารพ่อแม่ฉิบหาย ลูกแรดสัด”ลู่หานหัวเราะ แซวมันไปว่าเห็นแต่ก่อนบอกแอบชอบอยู่ไม่ใช่หรือไง จินยองส่ายหัวดิก บอกว่าหลงผิดไปจริงๆ เห็นหน้าเรียบร้อยนึกว่าจะน่ารักหงิมๆ ที่ไหนได้ เพิ่งเลิกกับแฟนเก่าก็เอาคนใหม่มาเสียบแล้ว แถวบ้านเรียกแรด
“งั้นไอ้แดงก็จอดไว้นี่ดิ่ ถ้ากูจะเอาไปใช้สักคืนได้ป่ะวะ เดี๋ยวเติมน้ำมันคืนให้”ถามออกมาเพราะกำลังคิดอยู่ว่าจะไปรับอี้ชิงที่ที่ทำงานวันนี้ อี้ชิงลาออกจากที่บาร์แล้วเพราะติดคณะศิลปกรรม มหาลัยศิลปะที่เจ้าตัวอยากเข้า เลยต้องอยู่ดึกกว่าเดิมเพื่อเคลียเรื่องเงินเดือนหลังงานเลิก “เอาไปดิ่พี่ พี่จองมินแม่งชอบจอดไว้ข้างนอกร้าน กลัวคนจะสอยไปแดกเหมือนกัน”บอกแล้วพยักเพยิดหน้าให้ดูมอเตอร์ไซค์ลูกค้าที่จอดเรียงกันสามสี่คัน พอได้ยาเข้าไปก็เคลิ้มมึนไม่รู้เรื่องปิดร้านไม่เอารถลูกค้าเขาหลายรอบแล้ว ถ้าหายไปไม่รู้จะมีปัญญาใช้คืนเขาหรือเปล่า
“มึงก็ดูๆมันหน่อยแล้วกัน แล้วก็อย่าไปลองเองด้วยล่ะ”เตือนจินยองด้วยอีกคน เห็นมันเป็นเด็กขยันทำงาน กลัวจะไปลองเข้าแล้วจะเสียอนาคต

ค น คุ ก
“มาแล้วมาแล้ว”เสียงน้องชายดังมาก่อนตัว ลู่หานเห็นเด็กจงแดยืนโบกมือหยอยๆหน้าละห้อยอยู่ไม่ไกล เหมือนหมาโดนทิ้ง...
“ลาเด็กนั่นหรือยัง”ถามถึงไอ้เด็กตัวเตี้ยที่ยังไม่ไปไหน อี้ชิงโบกมือไล่ให้กลับร้านไปได้แล้วเดี๋ยวเสี่ยก็เป็นห่วง ลู่หานแซวน้องว่าทำไมไม่คบกับเด็กนั่นไปเสียที เห็นมองเมื่อกี้แล้วสงสาร ท่าทางจะชอบอี้ชิงเอามากๆ
“ไอเป็นเสียงคุก คุก คุกเลยนะพี่หาน จะไปประกันตัวอี้เหรอ?”ขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์ที่วันนี้พี่ขับมารับ ถามว่ารถใครพี่ชายเลยบอกเอามาจากร้าน พรุ่งนี้ก็เอาไปคืนเจ้าของเขา
“แล้วรายงานตัววันไหน ให้พี่ไปเป็นเพื่อนหรือเปล่า”
“วันมะรืน อี้ไปเองได้แค่นี้เอง”จะหาดูงานพาร์ทไทม์แถวๆมหาวิทยาลัยด้วย แต่ไม่ทำงานกลางคืนแล้ว จะหาร้านนมร้านไอศกรีมหน้ามอดูว่ารับสมัครพนักงานไหม ผู้กองคริสบอกว่าถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอก แต่ไม่อยากจะพึ่งพามากเกินไป แค่ที่ผ่านมาก็ช่วยเหลืออี้ชิงกับลู่หานมากพอแล้ว
“พี่อยู่ในโรงเรียนตำรวจไม่ใช้เงินหรอก ถ้ามีงานบริการแล้วได้เงินแล้วจะเอามาให้น้องด้วย อี้ชิงไม่ลืมท้วงถึงค่าเทอมของมินซอก เรียนหมอค่าเทอมแพงไหนจะตำรี้ตำราอีกมากมาย
“แต่ก็ไม่ต้องเลิกฝึกมาทำงานหาเงินส่งอี้กับมินซอกนะพี่ ไม่ต้องคิดเลย”พูดดักไว้ก่อนกลัวอีกคนจะทำจริงๆ ถึงจะขัดสนแต่พยายามปันเงินใช้ก็ต้องอยู่ได้อยู่แล้ว เห็นมินซอกก็คล้ายจะขอทุนการศึกษาด้วยถ้าสอบติดหมอ ได้ทุนตรงนี้มาก็ผ่อนปรนไปได้เยอะ บวกกับทุนโรงเรียนตำรวจที่ผู้กองคริสเป็นธุระจัดหาให้ลู่หาน ก็เหลือแค่ค่ากินค่าใช้กับค่าเทอมอี้ชิงซึ่งผู้กองจะช่วยออกถ้าไม่พอ
อี้ชิงคล้องเอวพี่ชายแล้วซบหน้าลงบนแผ่นหลัง
“แม่จะต้องภูมิใจแน่ๆกับนายตำรวจลู่หาน เป็นตำรวจให้ได้นะฮะ”ลู่หานยิ้มน้อยๆ กระชับมือน้องให้กอดเอวตัวเองให้แน่นก่อนจะบิดคันเร่งออกรถ
ถ้าไม่มีเงินพอจะจ่ายค่าเทอมน้องชายและคนรัก ลู่หานก็พร้อมจะสละสิทธิ์ในการฝึกฝนการเป็นตำรวจจริงๆนั่นล่ะ เขาบอกไว้แล้วว่าสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อนแม่เพื่อน้อง ตอนนี้ก็เพื่อมินซอกด้วยอีกคน แต่เห็นทั้งคนรักทั้งน้องชายดีใจกับการจะได้เป็นตำรวจของเขา
...ไม่เลิกเด็ดขาด...
อาจจะขัดสนก็ประหยัดเอา ตั้งใจฝึกไม่ให้ทุนที่คริสหาให้หลุดมือ กัดฟันทนกันไป แค่สามปี...ถ้าผ่านการฝึกก็ได้เป็นนายตำรวจ ส่งอี้ชิงอีกปีน้องก็เรียนจบ เหลือแต่ว่าที่คุณหมอที่ต้องเรียนมากกว่าใคร ถึงตอนนั้นก็ส่งมินซอกเรียนสบายๆแล้ว
ลู่หานบอกตัวเองว่าชีวิตมันก็ลำบากแบบนี้ ถ้าอยากสบายๆ งานง่ายๆเงินดีๆก็มีอยู่ไม่กี่อย่างหรอก ไม่ผิดกฎหมายก็ผิดศีลธรรม
“อย่าเพิ่งหลับนะอี้”บอกน้องที่เงียบเสียงไปแล้ว อี้ชิงครางงึมงำคงเหนื่อยมากเพราะเลิกดึกกว่าเดิม ลู่หานปล่อยมือข้างหนึ่งมากุมมือน้องเอาไว้ กลัวอี้ชิงจะหลับจนเผลอปล่อยมือออกจากเอวกัน เวลากลางคืนดึกสงัดขับมอเตอร์ไซค์ปล่อยมือก็ไม่ได้อันตรายมาก ชลอความเร็วลงเล็กน้อยไม่ให้อยู่ดีๆน้องก็หงายหลังหล่นไป
มือพี่ชายกุมมือน้องไปจนถึงบ้าน ส่งอี้ชิงเข้าไปนอนในห้องแล้วก็เตรียมอาบน้ำนอน มินซอกกลับมานานแล้วและคงหลับไปแล้ว ลู่หานทิ้งตัวที่กรุ่นกลิ่นสบู่ลงที่ฟูกก่อนสอดแขนเข้ารั้งตัวมินซอกเข้ามากอดเหมือนเคย
สงสัยต้องหัดนอนโดยไม่กอดมินซอกเสียบ้าง เพราะสามปีข้างหน้าคืนที่จะได้นอนกอดมินซอกมีแค่หนึ่งวันในสัปดาห์เท่านั้นเอง
...ขาดใจตายกันพอดี...

ค น คุ ก

โอเซฮุนกระแทกก้นลงกับโซฟาแล้วเอนกายลงนอนเสียงดัง ไม่สนใจแม้แต่จะถอดกระเป๋าสะพายออกจากหลัง จงอินส่งน้ำผลไม้กระป๋องเย็นๆให้แต่ยัยตัวขาวก็ไม่สนใจจะรับ สีหน้าดูอิดโรยเล็กน้อย ถามว่าเรียนเหนื่อยมากเหรอก็ตอบแค่งึมงำกลับมา
“ตัวอาบน้ำเลยไหมจะได้สบายตัว เค้าหยิบเสื้อผ้าให้”ใช้มือแตะใบหน้าคนรักเบาๆ ถ้าได้อาบน้ำคงสดชื่นขึ้น หรืออยากนอนมากกว่า ถ้าอยากนอนก็ไปนอนในห้อง วันนี้ผู้กองไปส่งจุนมยอนที่บ้านพ่อแม่คงกลับดึกเลยอนุญาตให้ไอ้ดื้อนอนที่สำนักงานกับแฟนได้
“นอนอ่ะ”ว่าทั้งที่ไม่ลืมตาขึ้น วันนี้เรียนแอคติ้งฉากต่อสู้ ปวดเมื่อยไปหมดทั้งตัว แถมยังผิดคิวกันบ่อยจนต้องเริ่มใหม่บ่อยครั้ง เลยล้าไปหมดเลย
“ขี่หลังตัวเข้าห้องได้ไหม?”ลืมตาขึ้นมาถาม ขี้เกียจจะย้ายตัวเองไปในห้องด้วยการเดิน ไม่อยากจะทำอะไรสักอย่างเดียว จงอินดีดหน้าผากอีกคนไปทีบอกว่าตัวหนักจะตายแต่ก็ยอมลดตัวลงนั่งข้างๆโซฟาให้คนตัวขาวเลื้อยมาขี่หลังอยู่ดี
“เค้าไปซื้อกับข้าวนะ เดี๋ยวปลุก นอนไปก่อน”จงอินลูบหัวทุย เซฮุนครางรับแล้วซุกหน้าเข้ากับหมอนหนุน ขยับยุกยิกหามุมสบายก่อนจะปล่อยให้สติล่องลอยหายไป จงอินคว้าธนบัตรสองสามใบไปซื้อกับข้าวอย่างถึงสองอย่าง กลับมายังเห็นเซฮุนหลับอยู่จึงเลี่ยงไปเทกับข้าวใส่จานก่อนปลุกคนรักขึ้นมากินเสียเดี๋ยวจะเย็นชืด
“ไม่อาบน้ำนอนได้มั้ย”พอหนังท้องตึงหนังตาจากหย่อนอยู่แล้วก็เลยหย่อนมาก เซฮุนทำหน้าอ้อน ไถหัวที่ไหล่หนาอย่างเอาใจ เพลียมากจนไม่อยากอาบน้ำ กลัวว่าถ้าอาบน้ำแล้วจะตาสว่างขึ้นมาอีก อยากนอนเต็มทนแล้ว
“ตัวเหม็น ไปอาบก่อน อย่าเพิ่งหลับนะไอ้ดื้อ!”เรียกอีกคนเสียงดังเพราะเซฮุนไม่คิดจะฟังกัน ไอ้ตัวขาวทำเป็นนั่งตาปรือเห็นแล้วหมั่นเขี้ยว จงอินเก็บจานไปกองที่ซิ้งค์แล้วมาหิ้วปีกคนขี้เกียจพาไปห้องน้ำ ได้ยินเสียงงอแงว่าไม่อาบไม่อาบ ถ้าถีบขาเป็นเด็กได้คงจะทำ
“ตัวจะตัวเหม็นก็ได้นะ แต่เค้าไม่นอนด้วย”ยื่นคำขาดให้นอนที่โซฟาไปเลยถ้าไม่อาบน้ำ เซฮุนจิ๊ปากขัดใจ ยอมให้หิ้วปีกเข้าห้องน้ำในห้องนอนจงอิน ร่างหนาสั่งให้คนตัวบางถอดเสื้อถอดแสงเสีย แล้วอาบให้ไวอย่าอิดออด เดี๋ยวจะหยิบชุดมาให้ เซฮุนยู่ปากร้องบู่วๆๆแต่ก็ยอมหมุนถอดเสื้อผ้าแล้วอาบน้ำโดยดี
พออาบน้ำแล้วก็โดนจับปะแป้งเต็มหน้า จงอินบอกให้นอนก่อนเลยตนจะไปอาบน้ำบ้างแล้วจะตามมานอน หรือถ้าตาสว่างก็รอแป๊บเดียว อาบน้ำเสร็จจะมากล่อม
“ไม่ใช่เด็กแล้วเหอะ”ย่นจมูกใส่ทำให้จงอินต้องหัวเราะ ขยี้ผมนิ่มๆติดกลิ่นแชมพูท้อ บอกว่าเด็กสิ เด็กตัวขาวจอมดื้อ ดื้อขนาดนี้ไม่รู้ว่าแฟนรักเข้าไปได้ไง ถ้าดื้อมากๆเดี๋ยวจะจับส่งคืนพี่ชายซะ
“ไม่ดื้อก็ได้เหอะ ตัวอ่ะแหละเหม็น ไปอาบน้ำเลย”ปัดมือหนาออกแล้วไล่ให้ไปอาบน้ำเสียที เซฮุนล้มตัวลงนอนคว้าหมอนของจงอินมาหนุนแล้วกอดหมอนของตัวเองเอาไว้ซุกหน้าลงกับปลอกหมอนลายสไปเดอร์แมน ไอ้หมีโง่เลือกให้กันโดยเฉพาะบอกอย่างโคตรเสี่ยวว่าสไปเดอร์ก็เหมือนเซฮุน เพราะสไปเดอร์แมนมีใย เซฮุนก็มีเยื่อใย เกือบอ้วกด้วยซ้ำตอนได้ยิน
“อาบน้ำหรือวิ่งผ่านน้ำกันแน่?”ถามคนที่เข้าห้องน้ำไปแค่สอบนาที จงอินไหวไล่บอกว่าไม่ได้สกปรกอะไรมากมาย ผู้ชายก็อาบน้ำเร็วอยู่แล้ว ไอ้พวกที่เข้าไปเป็นชั่วโมงน่ะไปทำอย่างอื่นเสียมากกว่า
“นอนได้แล้ว”โยนผ้าเช็ดตัวไปลงตะกร้าผ้าแล้วเดินไปปิดไฟ จงอินทิ้งตัวลงข้างๆคนตัวขาว แม้จะปิดไฟจนมิดก็ยังเห็นเนื้อเนียนกระจ่าง เซฮุนยังไม่หลับตาและจงอินก็เช่นกัน ดวงตาสองคู่จ้องประสานกันในความมืดมิดของห้องนอน
“จูบได้ไหม?”ถามแผ่วเบาแต่ได้ยินชัดเจน ไม่ใช่จูบแรกที่เกิดขึ้นตั้งแต่คบกันมาแต่ก็อดจะหน้าร้อนไม่ได้เมื่ออีกคนขอกันตรงๆแบบนี้ เซฮุนยื่นหน้าเข้าไปหาคนที่ร้องขอจูบก่อนจะประจูบริมฝีปากที่กลีบปากหยัก จงอินยกมือประคองใบหน้าของคนรักเอาไว้ ก่อนจะพลิกขยับตัวดันให้เซฮุนนอนราบไปกับเตียงแทน ไล้ลิ้นที่กลีบปากฉ่ำอย่างขออนุญาตแล้วจึงล่วงเกินเข้าไปข้างใน รสจูบไหนก็หอมหวานได้แต่รสจูบของคนที่เขารักหอมหวานยิ่งกว่า
เกลียวลิ้นที่แทรกอยู่ในโพรงปากของเซฮุนพลิกตวัดอย่างชำนาญ มือหนาประคองใบหน้าขาวกระจ่างไม่ยอมห่าง ผละออกมาแล้วจูบกลับใหม่ซ้ำๆ ดูดดึงกลีบปากหวานจนเริ่มจะบวมตึง
“เมื่อไหร่จะมากกว่านี้”คนตัวขาวเอ่ยถามเมื่อจงอินละปากออกไป แต่คนถูกถามกลับยิ้มจางๆ จุ๊บริมฝีปากบวมตึงอีกครั้งเบาๆ
“คิดว่าเค้าไม่อยากเหรอ?”คิมจงอินก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูนที่ไหน นอนกอดกัน ได้จูบกันกับคนที่ตัวเองรักก็อยากจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ อยากจะสัมผัสให้มากกว่าที่เคย แต่สัญญากับพี่ชายเขาไว้ว่าจะดูแลให้ดี เลยยังไม่ใช่ตอนนี้ ไม่ถึงเวลา ยิ่งกว่านั้นก็กลัวอีกคนจะเจ็บ  
“ตัวกับเค้ารักกันนะ ตัวไม่ได้รักกับพี่คริสนี่ ทำไมต้องแคร์พี่คริสมากมายด้วย”เสียงหวานเอ่ยออกมา ก่อนจูบข้างแก้มสากครั้งหนึ่ง
“เค้ารักตัว ตัวรักเค้า เรารักกัน...เรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องปรกติที่คนรักกันเขาจะทำไม่ใช่เหรอ?”ถามว่ารู้สึกดีไหมที่จงอินทะนุถนอม ใช่ มันก็ดี แต่เซฮุนไม่ใช่คนอ่อนเดียงสา ไม่ใช่ผ้าผืนสีขาวเหมือนมินซอก เขารู้จักเซ็กส์ถึงจะไม่เคยลองแต่เซฮุนก็เหมือนจงอิน ที่อยู่กับคนที่รักก็อยากจะทำอะไรให้มากกว่าการหอม จูบ ลูบคลำแล้วก็กอดกันหลับไป ตัวเป็นของเซฮุน ใจเป็นของเซฮุน เขาเป็นคนที่มีสิทธิ์ตัดสินใจว่าจะรักใคร ว่าจะมอบทั้งใจและร่างกายให้กับใคร คิมจงอินควรเลิกเกรงใจพี่ชายของเขาได้แล้ว
“รักเค้าเสียทีเถอะ”พูดเบาราวเสียงกระซิบ จงอินมองใบหน้าหวานที่ห่างกันไม่ถึงคืบ แววตาของเซฮุนนั้นพราวระยับบอกว่าไม่ได้พูดเล่นแต่อย่างใด
“แน่ใจเหรอ ตัวอาจจะเจ็บ”ยังคำนึงถึงข้อนี้ไม่หาย เซฮุนไม่เคยมีอะไรกับผู้ชาย...เขาก็ด้วย เราทั้งคู่ไม่มีประสบการณ์กับทางนั้น นึกไม่ออกเลยว่าถ้าเขาดันตัวตนเข้าไปเซฮุนจะเจ็บมากขนาดไหน โอเซฮุนส่ายหัว หยัดตัวขึ้นจูบปากของคนรัก พูดว่าถึงมันจะเจ้บแต่ถ้าเป้นคนที่เรารักทำ ยังไงก็ทนได้ น้ำคำไพเราะจนจงอินต้องก้มลงไปหอมแก้มนิ่มนั่นหลายที
“ถ้าตัวร้องให้หยุดเค้าก็จะไม่หยุดนะ รู้ใช่ไหม?”ถามอีกครั้งว่าแน่ใจใช่ไหม? จะไม่เสียใจทีหลังใช่หรือเปล่า เซฮุนไม่ได้พูดตอบแต่ใช้มือแหวกคอเสื้อยืดที่จงอินสวมแล้วจูบเบาๆที่ไหปลาร้าสวย จงอินลูบหัวรัก ช้อนใบหน้าหวานให้เงยขึ้นมารับจูบกันอีกหน ขยับขึ้นนั่งคร่อมลำตัวบางแล้วป้อนจูบให้ไม่หยุด มือเลื้อยวกลงไล้ลำตัวแบบบาง ก่อนจะเลิ่กเสื้อนอนที่เซฮุนใส่ขึ้นไปกองเหนืออก เนื้อถันนูนของผู้หญิงที่เคยจับต้องขยำขยี้นั้นไม่มี คงเป็นเพียงติ่งไตสีสดตัดกับเนื้อตัวขาวกระจ่าง ยิ่งในความมืดแบบนี้ยิ่งสว่างราวหลอดนีออน
“อื้อ”เซฮุนส่งเสียงในลำคอเมื่อจงอินสัมผัสเบาๆที่ยอดอกทั้งสองข้างซึ่งถือว่าเป็นจุดไวความรู้สึกมากๆจุดหนึ่งของร่างกายผู้ชาย จงอินรู้ดีเพราะมีร่างกายเหมือนกัน ถึงได้เข้าใจว่าควรจะจับต้องตรงไหนถึงจะดี พลิกลิ้นตวัดจนชุ่มฉ่ำ พาให้แผ่นอกบางแอ่นเอนอย่างสะท้าน เสียงหวานร้องฮือไม่หยุดปาก
“ให้เค้าดูนะ”เสียงทุ้มกระซิบบอกแล้วเลื้อยไล่มือต่ำลงไปเกาะแกะที่ขอบยางยืด
กางเกงนอนผ้านิ่มถูกถอดออก จงอินยกยิ้มเพราะเซฮุนไม่ได้ใส่ชั้นในนอน เขาเองก็เช่นกัน เวลานอนเป็นเวลาที่ควรปล่อยส่วนนั้นให้เป็นอิสระจึงไม่ได้ใส่ เงยหน้ามองใบหน้าขาวใสตอนนี้ขึ้นสีแดงจัด เซฮุนหนีบขาเข้าหากัน อดจะอายไม่ได้ ถึงจะพร้อมใจให้อีกคนได้เห็นก็ตามทีเถอะ
“ให้ทำให้ก่อนไหม?”ถามคำถามที่ทำให้เซฮุนต้องหน้าแดงมากกว่าเดิม มือบางตีเผียะที่ไหล่ของจงอิน บอกว่าจะทำอะไรก็ทำเถอะ จงอินยิ้มมุมปาก บอกว่าให้ทำแต่เบียดขาเข้าหากันแบบนี้เนี่ยเหรอ
“อ้าขาออกสิ...เซฮุนอา”กระซิบสั่งเสียงเบาที่ข้างหู เซฮุนหลับตาปี๋คลายแรงเกร็งที่ขาปล่อยให้มือหนาที่เอื้อมไปแตะนั้นแหวกปลีขาขาวออกจากกันอย่างง่ายดาย ปลายนิ้วแข็งลากผ่านเนื้ออ่อนด้านในโคนขาพาให้ส่วนกลางกายรู้สึกตื่นตัวขึ้นมา ขนอ่อนทุกเส้นลุกชันขึ้น จงอินหัวเราะเบาๆ มองหน้าแดงจัดอีกครั้งแล้วค่อยๆประคองส่วนอ่อนไหวของคนรักจับเอาไว้
ไม่ได้รังเกียจที่จะเอาปลายลิ้นแตะลงตรงส่วนปลาย เซฮุนหวีดเสียงขึ้นมาทันทีที่ปลายลิ้นชุ่มน้ำลายสัมผัสความอ่อนนุ่ม ไล้เลียเหมือนเวลาถูกผู้หญิงทำให้ไปจนสุดความยาว กระเซ้าเย้าแหย่ตรงซอกตรงมุมที่คิดว่าจะต้องรู้สึกแปลบปลาบถ้าถูกสัมผัส แล้วก็เป็นจริงเพราะหน้าที่แดงจัดลามไล้มายังคอและแผ่นอก แม้ในความมืดก็เห็นได้ชัดเจน ตัวขาวจัดบิดเกร็ง ท่อนเนื้อที่จงอินใช้มือจับประคองเริ่มแข็งขืนขึ้นมา
มือหนาขยับรูดตามความยาวที่ยืดออกจากเดิมอยู่โข ผิวปากหวือเมื่อมันขยายเกือบเต็มที่แล้วก็ไม่ถือว่าเล็ก ถามคนที่ซบใบหน้าแดงจัดไว้กับหมอนว่าดีไหมแต่เซฮุนไม่ตอบเอาแต่สงเสียงครางเร้าทำเอาคนที่ปรนเปรอให้ก็รู้สึกอะไรขึ้นมาบ้าง
คนรักร่างเปลือยเปล่านอนบิดไปมาส่งเสียงครางอื้ออึง ใครจะไปทนไหวกัน...
จงอินจูบทิ้งท้ายที่ท่อนเนื้อขยายตึงแล้วถอดเสื้อของตัวเองออกตามด้วยกางเกง แตะท้องแขนขาวของเซฮุนเชิงให้อีกคนลุกขึ้นมาช่วยกันบ้าง ส่วนกลางกายมันเริ่มจะแข็งขืนแต่ก็ต้องกระตุ้นเพิ่มถึงจะพร้อมใช้งาน เซฮุนลุกขึ้นค่อยๆลุกขึ้นนั่งเห็นในความมืดว่าอีกคนถอดเสื้อผ้าออกหมดแล้ว กล้ามเนื้อตึงแน่นไปทุกสัดส่วนทำหน้าร้อนจนจะไหม้ จงอินเอนหลังลงเผยกลางกายที่ชูชันแล้วให้เซฮุนได้เห็น
“ทำให้เค้าบ้างสิ”เรียกร้องการปรนเปรอจากคนรักบ้าง เซฮุนครางฮือ ถึงจะชอบผู้ชายด้วยกันแต่เป็นครั้งแรกที่ได้สัมผัสส่วนนั้นของผู้ชายคนอื่น เพียงจับต้องท่อนเนื้อยาวก็ขยับผงกต้อนรับ จงอินพริ้มตาหลับปล่อยให้มือนิ่มๆกำรอบกลางกายขยับขึ้นลงช้าๆสักพักก็เปลี่ยนเป็นโพรงปากครอบที่ส่วนปลายส่งความชื้นแฉะของน้ำลายเป็นตัวกระตุ้นให้ขยับมือได้ลื่นขึ้น
“ดี”เอ่ยชมพร้อมรั้งให้อีกคนก้มลงมาหาแล้วป้อนจูบให้ มือของเซฮุนไม่ได้หยุดขยับจังหวะยิ่งหนักหน่วงตามเกลียวลิ้นที่พัวพันกัน ร่างสูงอดใจจะซี๊ดปากไม่ได้ทันทีที่เซฮุนกลับไปครอบครองแท่งเนื้อด้วยริมฝีปากอีกครั้ง ขยับหัวขึ้นลงปรนเปรอจนมันขยายใหญ่คับปาก อาการที่บอกว่ามันพร้อมรบเต็มที่สั่งให้จงอินหยุดการกระทำของเซฮุนก่อนที่จะแตกคาปากอีกคน จูบปากคนรักอีกครั้งเป็นรางวัล ถามกันอีกหนว่าคิดดีแล้วจริงๆนะ
“ถ้าเค้าจะเข้าไปตรงนี้”แตะนิ้วกลางลงที่รอยจีบด้านหลัง แค่สัมผัสโดนก็หดเกร็งขนาดนี้แล้วจะสอดใส่เข้าไปได้ยังไงกัน บอกให้อีกคนผ่อนคลาย เคยศึกษาวิธีมาบ้างให้ใช้นิ้วนวดคลึงเบาๆ นอกจากจะช่วยให้ผ่อนปรนอาการเกร็งยังปลุกเร้าเพิ่มขึ้น
จงอินกดเซฮุนให้นอนราบลงไป แหวกขาขาวออกและดันสะโพกเล็กให้ลอย ตั้งใจจะจรดลิ้นลงบนรอบจีบนั้นแต่กลับถูกห้ามเอาไว้ เซฮุนร้องลั่นไม่ให้ทำ ตรงนั้นมันสกปรกเกินกว่าจะใช้ลิ้นเหมือนที่จงอินทำให้ผู้หญิง
“ไม่สกปรกหรอก...เซฮุนเพิ่งอาบน้ำเอง”ยิ้มอ่อนให้คนรัก จรดปลายลิ้นลงตรงส่วนนั้นไม่ฟังเสียงค้าน เซฮุนหวีดเสียงสูงเสียววูบวาบไปทั้งตัว จับมือของจงอินที่ใช้แยกปลีขาตัวเองแน่น ร้องไม่ได้ศัพท์ตามจังหวะการพลิกลิ้นของคนรัก นึกค่อนขอดในใจว่าคงจะชำนาญมาจากผู้หญิงคนอื่นสิท่า
ขาข้างหนึ่งถูกปล่อยวางลงนาบกับเตียง จงอินส่งนิ้วกลางและนิ้วชี้ไปนวดคลึงปากทางที่ฉ่ำน้ำลายอีกครั้งแล้วค่อยๆดันนิ้วเข้าไปทีละน้อยเป็นการเบิกทาง กลัวก็กลัวว่าคนรักจะเจ็บ พร่ำบอกให้อีกคนพูดออกมาถ้าเจ็บ จะผ่อนแรงให้...
“ไม่เกร็งนะคนดี”กดจูบลงด้านในขาอ่อนเป็นการปลอบขวัญ นิ้วกลางเข้าไปได้กึ่งหนึ่งผนังรอบด้านก็บีบตัวแน่น เซฮุนหอบหายใจถี่ ร้องว่าจุกแปลกๆ ถามว่าเจ็บไหมด้านแดงจัดก็ส่ายสนิท ยังร้องขอให้ดันเข้ามาอีกเพราะตอนที่นิ้วยาวเสียดสีกับผนังเนื้อนั้น...รู้สึกดี
“อ่า อ่ะ”หลุดเสียงครางเป็นจังหวะที่จงอินขยับนิ้วไปมา ความเกร็งแน่นเริ่มจะคลายออกส่งให้นิ้วกลางที่ดันเข้าไปได้จนสุดนั่นสาวดึงเข้าออกได้ง่ายขึ้น โคนขาด้านในถูกขบเม้มไปพลางระหว่างที่นิ้วยาวเปิดขยายช่องทางเพื่อรองรับท่อนเนื้อที่มีขนาดใหญ่กว่านิ้วมาก
“ถ้าเจ็บบอกเค้านะ รู้ไหม”บอกย้ำอีกครั้ง จงอินรูดรั้งแกนกายตัวเองให้ตั้งตัว แหวกขาของเซฮุนออกกว้างอีกครั้งแล้วจ่อจดเอาความต้องการไปที่ปากทาง ค่อยๆกดความเป็นตัวเองเข้าไป มองใบหน้าของคนรักบิดเบ้ เซฮุนร้องเบาๆแต่ไม่ได้อุทธรณ์ว่าเจ็บ ความคับแน่นบีบระรัวจนจงอินแทบเป็นบ้า สูดปากไม่หยุด พาดเรียวขาขาวไว้ที่ข้อพับทั้งสองข้างแล้วส่งมือลูบที่หน้าท้องแบนราบ ถามว่าจุกไหม เพราะตัวเขาเองนั้นจุกแทบบ้า
“จุกอ่ะ ฮื่อ แต่ดี”ร้องขอให้เข้ามาให้ลึกอีก ห่อปากส่งเสียงครางหวานไม่หยุดเพราะแกนเนื้อเสียดสีกับผนังนุ่ม จงอินขยับกายจนเข้าไปได้สุดแต่ก็ยังไม่สุดลำ เซฮุนปรือยปรอยตามองเพราะเห็นว่าคนรักหยุดนิ่งค้างไว้ให้ช่องทางนั่นชินกับขนาด
“เสียวอ่ะ”คำพูดตรงๆที่เมื่อพูดแล้วก็เบนหน้าซบหมอนในทันที จงอินยกยิ้มใช้มือจับหน้าคนรักให้หันมามองกัน ถามว่าเสียวจริงๆหรือเปล่า ยังไม่ทันที่เซฮุนจะตอบสะโพกหนาก็ขยับค่อยๆเข้าออกตามความยาวของท่อนเนื้อเรียกเสียงครางให้ดังแทนคำตอบว่าเสียวจริงหรือเปล่า?
จากความฝืดเคือง การขยับกายเริ่มเป็นไปอย่างงายดาย สารคัดหลั่งตามธรรมชาติหลังออกมาเพื่อให้จงอินขยับได้สะดวกมากขึ้น เซฮุนบิดตัวไปมาร้องขอให้ขยับมากกว่านี้ จับมือหนามาวางที่หน้าอกปรนเปรอยอดถันที่ชูชันและแข็งเป็นไต เพียงบดขยี้ก็แปลบปลาบไปทั้งตัว
จงอินจูบที่ข้างแก้มแดงจัดส่วนที่ผลุบเข้าผลุบออกในร่างของคนรักปวดหนึบบอกให้รู้ว่าต้องการความเร็วที่มากขึ้น กลัวว่าเซฮุนจะเจ็บแต่ความต้องการก็เร่งเร้า เสียงทุ้มปลดปล่อยออกมาผสานกับโทนเสียงหวาน สะโพกสอบขยับเร็วขึ้น ค่อยๆเร็วและแรงตามความต้องการที่มากขึ้นเรื่อยๆ เสียงครางดังระงม เนื้อต่อเนื้อทาบทับกันจนแน่นสนิทแล้วผละออกเร็วเกิดเสียงดังพั่บๆ
อารมณ์หวามก่อร่างสร้างตัวจนล้นและใกล้จะระเบิดออกมาเต็มทน จงอินจับที่กลางกายของเซฮุนขยับมือรูดให้อีกคนเพื่อที่จะได้เสร็จไปพร้อมกัน ทั้งด้านหน้าและด้านหลังที่ถูกปรนเปรอทำให้เซฮุนสุขสมจนแทบคลั่ง ริมฝีปากบางฉียบเอาแต่กรีดร้องเสียงครางอย่างหยุดไม่ได้
“จะแตก”เซฮุนหวีดเสียงขึ้นมา ท่อนเนื้อในมือของจงอินขยายใหญ่ เสียววูบวาบไปหมดจนในที่สุดก็ถึงจุดปลดปล่อย ร่างแบบบางกระตุกเกร็ง รูที่ส่วนปลายคายคราบขาวขุ่นออกมาเปรอะเปื้อนที่หน้าท้อง จงอินหัวเราะ แซวคนรักว่าครั้งสุดท้ายที่ช่วยตัวเองคือตอนไหนกัน เพราะน้ำรักอีกคนขุ่นขลั่กแบบนี้
“อย่า...อ่า...อย่าแซว”ตีหน้าท้องที่ยังไม่หยุดขยับเคลื่อนไหว จงอินเลื่อนมือยึดเอวบางเอาไว้แน่น ส่งตัวตนเข้าไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความต้องการสุมทุมจนทนไม่ไหว ฟันคมกัดกันแน่นตอนที่ระเบิดทะลักออกมา ฉีดธารอุ่นเข้าไปในตัวของเซฮุน กระตุกสะโพกอีกสองสามครั้งสุดท้ายรีดทุกหยาดหยดฝากเอาไว้ในกายของคนรัก
จงอินทิ้งตัวลงทับคนที่นอนอยู่ด้านหลัง เสียงหอบหายใจสะท้านทั้งสองคน ริมฝีปากถูกป้อนจูบอีกครั้งหนึ่งเป็นการปิดท้ายก่อนที่จงอินจะถอนกายออกมา ความวูบโหวงปรากฏแค่เพียงคู่แล้วนิ้วยาวก็แทรกเข้าไปในช่องทางรักอีกครั้ง กวาดต้อนเอาน้ำรักที่ฉีดใส่ไว้เมื่อครู่เอาออกมา ไม่งั้นคงไม่สบายตัว เคยอ่านเจอว่าจะทำให้ปวดท้องด้วย
กลิ่นคาวที่ลอยคลุ้งไม่ใช่แค่กลิ่นของอสุจิ แต่มันมีกลิ่นคาวเลือดผสมอยู่ จงอินกระซิบถามคนที่นอนหอบหายใจรวยรินว่าเจ็บหรือเปล่า ทำอีกคนเลือดออกจนได้
เซฮุนส่ายหน้า บอกว่าไม่เจ็บเท่าไหร่ ไม่เป็นไร
“รักนะ”บอกด้วยเสียงที่แหกผากอาจจะเพราะใช้ร้องครางไปเสียหมดแล้ว จงอินกดจูบที่หน้าผากมน บอกให้หลับถ้าเหนื่อย
“เค้าก็รักตัว...จงอินก็รักเซฮุน”






TBC.






ระยะเวลาในการโอนฟิคถึง 28 นะคะ ย้ำอีกครั้ง ใครคิดว่าโอนไม่ทันสามารถบอกก่อนได้ จะช่องทางไหนก็ตามแต่ที่จะติดต่อเราได้ ไม่ว่าจะเม้น หรือทวิตเตอร์

รักนะคะคนดีของฉัน

#พี่ลู่คนคุก




แมลงจี่...

คนคุกสองเรา

จับมือกันไว้แน่นๆ ก็อุ่นใจ



สองเรา

“ไอ้สัด เขยิบไปห่างๆกูได้ไหมล่ะมึงอ่ะ”จงอินเอ่ยปากไล่ไอ้เพื่อนตัวดีที่เขยิบมาจนชิด นี่สิงกูเลยไหม? ถ้าจะโน้มตัวมาชิดขนาดนี้ ถ้าเป็นแม่สาวทรงโตคงจะฟิน นี่เป็นไอ้เหี้ยลู่หาน จงอินเบ้หน้ากับเนื้อหนังแข็งอย่างกับกระดานของมัน
“ก็กูอยากรู้ผลสอบเหมือนกันนี่ มึงนั่นแหล่ะตัวโตเป็นหมีควายบังจออยู่ได้ไอ้เหี้ย”ลู่หานก็ใช่จะยอม มือเรียวผลักหัวเพื่อนออกแล้วชะโงกหน้าไปดูหน้าจอคอมพิวเตอร์เครื่องเก่าที่ลู่หานซื้อส่วนประกอบมาซ่อมให้มินซอกใช้ทำรายงานตอนเรียน
ไฟล์พีดีเอฟถูกเปิดหลา จงอินใช้สายตาไล่รายชื่อคนสอบผ่านทีละบรรทัดอย่างใจจดจ่อ เพราะไม่สามารถใช้เครื่องมือค้นหาได้ แต่ก็ดีเหมือนกันจะได้ลุ้นมากๆหน่อย มินซอกยิ้มขำกับสองเพื่อนซี้ที่แย่งกันดูรายชื่อ อดจะตื่นเต้นไม่ได้เหมือนกัน ภาวนาให้มีทั้งชื่อลู่หานและจงอิน
“ไอ้เหี้ย!! เจอแล้ว!!”เสียงร้องดังลั่น จงอินดีดตัวออกจากหน้าคอมคว้าโทรศัพท์ไปกดหาเซฮุนทันที ลู่หานยิ้มกับเพื่อน มีชื่อคิมจงอินอยู่ในรายชื่อที่สอบผ่านจริงๆ คราวนี้ก็ลุ้นชื่อตัวเองต่อ ใจเต้นตุบๆเพราะตั้งแต่ไล่ดูมากว่าสามร้อยชื่อยังไม่มีแววจะเจอชื่อตัวเองเลย มินซอกเดินมานั่งข้างๆแล้วจับบ่าคนรักบีบ บอกว่าค่อยๆหา ไล่สายตาดีๆ เดี๋ยวก็เจอ
“ไม่มีอ่ะมินซอก”พูดออกมาเสียงอ่อย เมื่อเลื่อนจนจะสุดหน้าแล้วก็ยังไม่เจอ ตัดใจไม่อยากจะดูต่อแล้ว คิดว่ายังไงก็ไม่มีชื่อตัวเองแน่ๆ
“เดี๋ยวผมดูให้นะ”มินซอกคว้าเม้าส์มาจับไว้เอง เลื่อนนิ้วไปมาที่ลูกกลิ้งกลม ค่อยๆไล่สายตาไปทีละบรรทัด ส่วนลู่หานทิ้งตัวนอนแผ่หมดหวังไปแล้ว ได้ยินเสียงไอ้จงอินโทรศัพท์คุยกับเซฮุนอวดว่ามันสอบติดแล้ว จากนี้ก็ฝึกเหมือนนักเรียนตำรวจทุกอย่าง อีกสามปีก็จะได้เป็นนายตำรวจเท่ๆเหมือนที่เซฮุนชมพี่ชาย
คิดไว้อยู่เหมือนกันถ้าสอบไม่ติดว่าจะลองสมัครร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์แถวนี้ดู เจ้าของร้านก็สนิทกันระดับหนึ่ง แต่ที่ไม่คิดจะทำงานที่นี่เพราะเคยเป็นคนค้าขายกันมาก่อน ไม่อยากจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดแล้ว
“ลู่หานฮยองฮะ”เสียงมินซอกที่เรียกทำให้ลู่หานเด้งตัวขึ้นมานั่ง คนรักของเขายิ้มกว้างบอกให้ดูหน้าจอคอมสิ
อันอับที่ 333 – ลู่หาน
“เฮ้ย!”ร้องออกมาอย่างตกใจและดีใจ มองหน้ามินซอกเห็นน้อยยิ้มให้ก็คว้าคนตัวเล็กมากอดแล้วโยกไปมา ชื่อของเขาอยู่ท้ายสุดของรายชื่อทั้งหมดที่สอบผ่า 333 คน
“ไหน มึงก็สอบผ่านเหรอไอ้สัด”จงอินที่ได้ยินเสียงร้องอย่างดีใจของเพื่อนเข้ามาดู ผลักหัวไอ้ห่าลู่หานไปที ทำเป็นตัดพ้อว่าสอบไม่ติดเสือกไม่เลื่อนดูให้หมดก่อน
“ฉลอง! กูว่าเราต้องฉลองอ่ะ!”จงอินบอก ยกโทรศัพท์ที่ยังไม่วางสายคุยกับเซฮุนว่าฉลองกันดีไหม เพราะทั้งจงอินและลู่หานสอบผ่านหมดเลย ได้ยินปลายสายพูดว่าฉลองอีกแล้ว เดี๋ยวก็เมาเป็นหมีเน่าอีก จงอินยิ้มหวานหยอดเสียงอ่อยว่าไม่เมาแล้วคราวนี้ ถึงเมาก็ไม่เมามาก ถ้าเมามากก็จะไม่เป็นภาระให้แฟนเลย
“ผมอยากกินพิซซ่าฮะ เราสั่งพิซซ่ามาฉลองกันได้ไหม?”มินซอกเสนอความเห็น ลู่หานคิดว่าก็ดีเหมือนกัน เบื่อจะฉลองหม้อไฟปิ้งย่างเต็มทน กินฟ้าสต์ฟู๊ดไร้สารอาหารบ้างก็ดี บอกให้เซฮุนมาหาที่บ้านของลู่หานเลย ลู่หานผละออกไปโทรหาอี้ชิงบอกข่าวดีด้วย น้องชายที่วันนี้ไปรับเอกสารเกรดเฉลี่ยตัวจริงที่โรงเรียนได้ฟังก็ร้องไชโยลั่น ไม่เห็นก็รู้ว่าอาอี้ยิ้มกว้างขนาดไหน
“ถ้าเสร็จแล้วกลับมาบ้านนะ วันนี้กินพิซซ่ากัน อยากกินหน้าอะไรพี่ให้เราเลือก”ถามน้องอย่างเอาใจ น้องชายตัวขาวทำเสียงงึมงำนึกอยู่นานก็บอกอยากกินชิคเก้นทรีโอ้กับมีตเดอลุกซ์สองอย่างเลย
“อย่างเดียวก็พอไอ้อ้วน ให้คนอื่นสั่งบ้าง”ว่าน้องเย้าๆ อี้ชิงโวยวายตามสายมาว่าไม่อ้วนเสียหน่อย หุ่นดีจะตาย
-เอาชิคเก้นก็ได้ อี้ขอไก่กรอบด้วยนะพี่ อี้อยากกินอ่ะ-
คนไม่อ้วนร้องขอเมนูเพิ่มเติมจากพิซซ่า ลู่หานหัวเราะบอกเดี๋ยวจะจัดการให้ รีบกลับมาก็แล้วกัน ไม่งั้นเสร็จไอ้จงอินหมดไม่รู้ด้วย อี้ชิงบอกให้ยั้งพี่จงอินเอาไว้อย่าให้กินไก่กรอบของเจ้าตัวหมดเชียว เดี๋ยวจะรีบกลับ
“ตกลงเอาหน้าอะไรฮะ ผมจะได้โทรสั่ง”มินซอกถาม เตรียมกดเบอร์ร้านพิซซ่ารอ ลู่หานบอกสั่งชิคเก้นทรีโอ้ให้อี้ชิง อีกถาดก็ให้มินซอกเลือกเอา ไม่ต้องถามไอ้จงอินเพราะไอ้ห่านั่นอะไรก็แดกได้หมด มินซอกนึกอยู่นานก่อนจะตัดสินใจสั่งหน้าดับเบิ้ลชีสไป ชอบกินชีสยืดๆ แม้ว่าคนรักจะล้อว่าคนชอบกินชีสยื่นๆจะมีพุงยื่นๆก็ตามทีเถอะ
“เห็นปั๋วเสียนไลน์มาบอกว่าวันนี้ไม่ไปทำงาน นอนกลิ้งอยู่บ้าน ชวนน้องมากินด้วยได้ไหมฮะ”พูดถึงเด็กชาวจีนที่หมู่นี้ไม่ค่อยได้เจอหน้ากันเท่าไหร่ หลังจากที่มินซอกเลิกทำงานร้านป้านาบีก็ไม่ค่อยได้พบกับปั๋วเสียนเลย แต่ก็แชทคุยกันบ่อยๆ ลู่หานบอกก็ตามใจมินซอกเลย คนตัวเล็กเลยจัดแจงโทรหาคนที่บอกนอนกลิ้งอยู่บ้านให้มากินพิซซ่าด้วยกัน
หลังจากวางสายไม่กี่นาทีไอ้เจ้าปั๋วเสียนก็มาโผล่อยู่ที่หน้าบ้าน ถามหาพิซซ่าตาวาววับ ลู่หานเขกหัวมันไปทีบอกไปนั่งรอก่อนหรือถ้าจะทำให้เป็นประโยชน์ก็ขี่รถไปซื้อโคล่ามาซะ
“โห นี่ชวนมากินหรือชวนมาใช้งานเนี่ย”ไม่วายจะบ่น ลู่หานผลักหัวปั๋วเสียนอีกสักที ยัดเงินใส่มือบอกไปซื้อโคล่ามาซะ เดี๋ยวพิซซ่าก็มาถึง
“แล้วตัวขาวมึงอยู่ไหนแล้วล่ะ?”ถามถึงเซฮุนที่กำลังเดินทางมา จงอินบอกว่าเซฮุนรอผู้กองคริสให้ไปรับที่มหาวิทยาลัยอยู่ เดี๋ยวจะมาพร้อมกันเลย แต่จุนมยอนยังไม่เลิกงานคงมาไม่ได้ ถ้าพิซซ่ามาก็ให้แบ่งใส่ทับเปอร์แวร์เอาไว้ให้จุนมยอนสักชิ้นก็ได้
“รู้สึกว่าช่วงนี้เราจะฉลองกันบ่อยจัง น้ำหนักผมขึ้นด้วย”มินซอกว่า จับก้อนเนื้อตรงหน้าท้องพบว่ามันหยุ่นนุ่มขึ้นเยอะ ทั้งเนื้อย่าง สุกี้ พิซซ่า กะจะขุนเขาให้กลมจนกลิ้งได้กันแน่ๆ จงอินหัวเราะคล้องคอน้องมากอด บอกตัวกลมๆน่าฟัดจะตาย น่านอนกอด อิจฉาไอ้เพื่อนตัวดีได้นอนกอดมินซอกตลอดเลย อยากจะกลับไปนอนกอดมินซอกอีกเหมือนตอนอยู่ในคุก
“กอดตีนกูไหมครับ”ขัดเพื่อนได้ชะงัดแถมด้วยนิ้วง่ามตีนหนีบขาแล้วบิดแรงๆจนจงอินต้องร้องโอดโอยปล่อยเหี้ยมาวิ่งไล่เพื่อนไปสามสี่ตัวนู่น
“เดี๋ยววันประกาศผลสอบของมินซอกเราก็ได้ฉลองกันอีก เชื่อสิ”ลูบหัวน้องอย่างเอ็นดู บอกถ้ามินซอกติดหมอเดี๋ยวจะให้ลู่หานพากินซีฟู๊ด คนตัวเล็กเลยเบะปากบอกกะจะขุนกันจริงๆสินะ ซีฟู๊ดน่ะตัวอ้วนเลย คลอเลสตอรอลสูงจะตายชัก
“แล้วกินไหมล่ะ?”ลู่หานถามคนที่อยู่ในอ้อมกอดจงอิน มินซอกยู่ปาก งึมงำว่าถึงจะอ้วนแต่กุ้งก็อร่อยไม่ใช่เหรอ
“ไอ้เด็กอ้วนเอ้ย!”อดไม่ได้จะยื่นมือไปขยี้หัวน้อง ได้ไอ้เพื่อนหมีช่วยแกล้งอีกแรง มินซอกเลยได้แต่ดิ้นพราดๆเพราะจั๊กจี้ที่จงอินเอาอุ้งตีนหมีจี๋เอวน้อง กว่าจะยอมหยุดแกล้งก็ตอนที่ปั๋วเสียนกลับมาพร้อมโคล่าสามขวดใหญ่นั่นล่ะ มินซอกผมเผ้าชี้ฟูครางหงิงๆ น้ำตาเล็ดที่ปลายหางตาน่าสงสาร เหมือนลูกหมาโดนเกาพุง
“เหมือนพิซซ่าจะมาส่งแล้วเลย ใครจ่ายอ่ะครับ?”เด็กจีนตัวเล็กถามแล้วชี้ไปที่ประตู ได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์มาจอด คิดว่าคงเป็นพิซซ่าที่สั่ง ลู่หานควักเงินให้คนตัวเล็กไปมินซอกก็ขันอาสาไปช่วยเพื่อนถือพิซซ่าเข้าบ้านด้วย
อี้ชิงกับเซฮุนและคริสมาถึงในเวลาไล่เลี่ยกัน น้องชายตัวขาวโผเข้ากอดลู่หานแน่นแล้วกระโดดขี่หลังจนพี่ชายแทบลงไปทรุด ชมลู่หานยกใหญ่ว่าพี่ชายของอี้เก่งที่สุด ถ้าแม่ยังมีชีวิตอยู่ แม่ต้องภูมิใจในตัวพี่มากแน่ๆ
“มันจะดีกว่านี้ถ้าแม่อยู่กับเราในวันที่เราประสบความสำเร็จนะ”คนเป็นพี่ยิ้มน้อยๆ คิดว่าถ้าแม่อยู่ด้วยตอนนี้คงจะดี แต่สุดท้ายแล้วก็ทำไม่ได้ อดีตก็คืออดีต มันผ่านมาแล้ว เชื่อว่าแม่ก็ต้องดีใจและภูมิใจ ที่ลูกชายเลวๆคนนี้กลับเนื้อกลับตัวได้และเลือกเดินในทางที่ดีงาม
“พ่อก็ต้องภูมิใจในตัวมินซอกเหมือนกันรู้ไหม?”จงอินคว้าน้องชายตัวเล็กที่ยืนยิ้มกับภาพพี่น้องกอดกันกลม
“กินกันเถอะฮะ ผู้กองหิวไหม?”อี้ชิงผละจากพี่ชายมา เอ่ยถามผู้กองตัวสูงที่ยืนอมยิ้มอยู่ข้างๆเจ้าปั๋วเสียน คริสบอกไม่มาก แต่ก็ยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้า พิซซ่าสองกล่องถูกเปิดออก ปั๋วเสียนหยิบชิ้นแรกเข้าปากไม่รอใครเลยโดนลู่หานตบหน้าผากเล็กๆนั่นไปทีโทษฐานไม่มีมารยาท ไอ้เด็กนี่เลยเถียงว่าหิวจนจะแย่ ใช้งานไปซื้อโคล่าแล้วก็ขอกินก่อนนิดเดียวเอง
“เออๆ ค่อยๆกิน เดี๋ยวติดคอ”ว่ายังไม่ทันจะขาดคำมันก็ไอค่อกแค่กร้องเรียกหาน้ำแล้ว เดือนร้อนมินซอกต้องจัดแจงรินโคล่าให้อีก
“แล้วรู้หรือยังว่าต้องไปฝึกในโรงเรียนตำรวจนะ อาจจะต้องไปพักในนั้นด้วย”คริสถาม เพราะต้องได้รับการฝึกเหมือนนักเรียนตำรวจทุกอย่าง ยิ่งเป็นคนนอกที่ไม่ได้เรียนพวกเตรียมตำรวจมายิ่งต้องเข้มงวดให้มาก การฝึกก็เข้าขั้นโหดพอควร เป็นบทชี้วัดว่าคนที่สอบเข้ามาได้มีความสามารถพอที่จะเป็นนายตำรวจหรือไม่
“แค่ความรู้มันไม่พอหรอก มันต้องบวกประสบการณ์และไหวพริบ ความสามารถเฉพาะตัวเยอะแยะ เพราะฉะนั้นนายสองคนอาจจะเหนื่อยหน่อย โดยเฉพาะมึงน่ะไอ้ลู่หาน”เพราะจงอินทำงานกับตำรวจมานานจึงมีความสามารถและทักษะหลายอย่าง แต่ลู่หานอ่อนประสบการณ์คงต้องถูกฝึกหนักกว่าพวก
“เหนื่อยไม่กลัวหรอก กลัวจะขาดใจตายไม่เจอแฟนมากกว่า”แซวคนตัวเล็กข้างๆปั๋วเสียนจนน้องต้องก้มหน้างุด ไอ้จงอินพึมพำด่าคนที่เสี่ยวฉิบหาย บอกว่าวันอาทิตย์เขาก็ให้กลับบ้านหรอกไอ้โง่ ใครที่ไม่อยากกลับก็อยู่ในโรงเรียนได้ ใครอยากจะกลับก็กลับไป เช้าวันจันทร์ก็กลับมาฝึกต่อ

พิซซ่าจากสองถาดร่อยหลอลงจนในที่สุดก็หมดลง ปั๋วเสียนลากท้องที่เต็มไปด้วยแป้งกลับบ้านตัวเองไปแล้ว จงอินนอนเอกเขนกอยู่กับเซฮุนที่หน้าทีวี ส่วนคริสไปส่งอี้ชิงทำงานและเลยไปรับจุนมยอนที่โรงพยาบาลตำรวจเพราะได้เวลาอีกคนเลิกงานแล้ว ลู่หานแซวไอ้ผู้กองว่ายังไงยังไงกับจุนมยอนอยู่นะ จะปิ๊งปั๊งกันจริงอย่างไอ้จงอินกับเซฮุนจับคู่ให้หรือเปล่า
“เพ้อเจ้อแล้วไอ้สัด”
ถือว่าเป็นคำด่าที่มุมิ แม้เสียงที่เปล่งออกมาจะทุ้มใหญ่แต่ไอ้อาการหลุกหลิกนั่นปิดไม่มิดหรอก ลู่หานบอกตามสบาย แต่ยังไงก็ช่วยดูแลจุนมยอนด้วยแล้วกัน
“จะกินเบียร์กันต่อเหรอฮะ?”มินซอกเดินมาถามหลังจากเอากล่องพิซซ่าไปทิ้งแล้ว เห็นจงอินพร่ำๆว่าอยากดื่มเบียร์ มินซอกไม่ได้ห้ามแต่คิดว่าจะดื่มบ่อยไปหรือเปล่าช่วงนี้ ลู่หานบอกไม่เป้นไรหรอก ไม่มีงานเสียหน่อย อุตส่าห์มีวันดีๆทั้งทีก็ฉลองกันให้เต็มที่ ถือว่าส่งท้ายก่อนเข้าฝึกด้วย วันอาทิตย์กลับมาก็อยากจะนอนกอดมินซอก ไอ้จงอินก็คงแล่นไปหาเซฮุน คงร้างเครื่องดื่มพวกนี้ไปอีกนาน
“อย่าให้พี่จงอินเมานะฮะ ไม่งั้นลำบากแน่ๆ”ถ้าเมาเหมือนครั้งที่แล้วใครจะลากกลับได้ เหนื่อยเซฮุนอีกแน่ๆ จะให้นอนที่บ้านลู่หานก็ไม่มีห้องหับเหลือ มานอนข้างนอกยุงได้ห้ามจนตัวแดงเป็นจ้ำๆชัวร์เลย
“ไม่ให้มันเมาขนาดนั้นหรอก มินซอกไปอาบน้ำก่อนเลยก็ได้นะ จะเข้าห้องไปอ่านแฮร์รี่ต่อก็ได้ พวกพี่กินกันไม่ดึกมากหรอก”บอกน้องแบบนั้น มินซอกพยักหน้า ถามอีกคนว่าจะไปซื้อเบียร์ตอนไหน ให้ไปช่วยถือหรือเปล่า
“ไม่เป็นไร ไปอาบน้ำได้แล้ว ถ้าง่วงก็นอนเลยนะ”มินซอกได้ยินก็พยักหน้ารับ เดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำอย่างที่พี่บอก ลู่หานเรียกให้จงอินไปช่วยหิ้วเบียร์ วันนี้ไม่อยากจะเมามากเลยซื้อมาแค่สามขวดเอาแค่หายเปรี้ยวปากแล้วก็แยกย้าย

ส่งเพื่อนกับแฟนเพื่อนกลับไปแล้วลู่หานจึงเข้าไปดูมินซอกในห้องนอน คนตัวเล็กยังนั่งอยู่ที่โต๊ะญี่ปุ่นของเจ้าตัว เปิดหนังสือนวนิยายเรื่องโปรดอ่าน เห็นว่าลู่หานเข้ามาก็ถามเสียงใสว่าจงอินกลับไปแล้วเหรอ
“อืม กลับไปแล้ว มินซอกยังไม่ง่วงเหรอ?”เห็นอีกคนนั่งอ่านหนังสือตาแป๋ว มินซอกยิ้ม บอกว่าไม่ง่วงเลย คงเพราะกินโคล่ามากไป ลู่หานยีหัวน้องไม่เชื่อหรอกว่ามินซอกจะยังไม่ง่วง กินพิซซ่าไปตั้งสามชิ้น เดี๋ยวก็ตาปรือปรอย
“ไปอาบน้ำเถอะฮะ”ไล่อีกคนไปอาบน้ำ ถึงจะกินกันไม่มากแต่กลิ่นเบียร์ก็เหม็นหึ่ง ลู่หานบอกต้องรอให้เหงื่อออกอีกสักพัก ขับกลิ่นเบียร์ออกมา ไม่อย่างนั้นถึงจะอาบน้ำแล้วก็ยังเหม็นอยู่ดี มินซอกไล่ให้ไปวิ่งรอบบ้านสักรอบจะได้เหงื่อออกเยอะๆ
“ไม่เอาอ่ะ ทำอย่างอื่นก็เหงื่อออกได้นะ”พูดสองแง่สองหง่ามแถมยังยกยิ้มเจ้าเล่ห์ เห็นน้องหน้าเปื้อนสีแดงแล้วก็ชอบอกชอบใจ ทำให้มินซอกเขินคงเป็นงานอดิเรกของลู่หาน แล้วไอ้ที่บอกทำอย่างอื่นก็เหงื่อออกได้แล้วมาทำสายตาเจ้าเล่ห์นั่นมันอะไรกันล่ะ
“ถ้าจะทำผมก็ไม่เคยห้ามเลยนี่ฮะ”บอกกับคนรักแล้วช้อนสายตามอง แต่ลู่หานกลับขยี้หัวทุย บอกว่าเลิกพูดเรื่องนี้เถอะ มินซอกปิดหนังสือลง หันมาเผชิญหน้ากับคนรักแบบตรงๆ ถามว่าเพราะอะไร ลู่หานไม่ยอมทำเพราะกลัวเขาจะบอบช้ำเหรอ? หรือกลัวจะเจ็บ มินซอกบอกแล้วว่าเต็มใจ แต่นับจากวันนั้นในห้องน้ำที่ลู่หานจู่โจมมา คนรักก็ไม่แตะต้องมินซอกมากกว่าหอมและจูบอีกเลย
ถ้าอย่างนั้นก็อดจะคิดไม่ได้ว่ามินซอกไม่มีน่ากอดงั้นใช่ไหม?
หรือ...พี่ยังคงชอบร่างกายของผู้หญิง สัดส่วนที่โค้งเว้าน่าจับต้อง หน้าอกที่นูนใหญ่จับเต็มไม้เต็มมือ...
“คิดอะไรอยู่”เหมือนรู้ทันว่าสมองก้อนน้อยๆกำลังคิดเองเออเองไปไกล ลู่หานโยกหัวน้องไปมาบอกว่าเลิกคิดเดี๋ยวนี้ กำลังคิดน้อยใจอะไรอยู่
“มินซอกคิดว่าที่พี่ต้องการจากมินซอกคืออะไร เซ็กส์เหรอ?”ถามน้องที่หลุบตาไปมองมือตัวเอง ลู่หานเชยคางให้มินซอกมองหน้ากันอีกครั้ง
“พี่ดูแลของพี่มา พี่รักของพี่...เซ็กส์มันอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคู่แต่มันก็ไม่ใช่ทั้งหมด...พี่อยากให้มินซอก เป็นมินซอกที่น่ารัก ใสสะอาดแบบนี้”
“...”
“ไม่ใช่ว่าพี่ไม่อยากนอนกับเรา ถึงจะเพิ่งเคยชอบผู้ชายสักคนพี่ก็ไม่รังเกียจจะมีอะไรด้วยหรอกนะ...ยิ่งถ้าเป็นคนที่พี่รัก แน่นอนว่าพี่อยากเอาใจจะขาด”บอกพร้อมจ้องในตาน้อง คำว่าอยากเอาใจจะขาดทำให้ริ้วแดงพาดที่แก้มกลมอย่างน่าเอ็นดู แบบนี้ต่างหากที่ลู่หานต้องการ มินซอกที่น่ารัก คนที่เขินอายกับการกระทำของเขา คนที่บริสุทธิ์เป็นผ้าผืนสีขาว ผ้าผืนนี้ที่เขาซักจนสะอาดด้วยมือของตัวเอง
“เข้าใจที่พี่พูดหรือเปล่า”ใช้หัวแม่มือเกลี่ยแก้มใส่แผ่วเบา มินซอกก้มหน้างุดคนเป็นพี่เลยดันตัวน้องมาปะทะอกแล้วกอดเอาไว้ มินซอกส่งเสียงงื่อ ซุกหน้าเข้ากับอกของอีกคน มือยกกำเสื้อลู่หานแน่น เอ่ยคำว่ารักให้อีกคนฟัง
“ผมรักฮยองนะ”ลู่หานยิ้มกว้าง กดจูบลงบนกลุ่มผมหอม บอกว่ารักเหมือนกัน ไม่รักมินซอกแล้วจะให้ไปรักใคร แค่นี้ก็หลงจนไม่รู้จะยังไงแล้ว ไม่ต้องมีเซ็กส์ไม่เห็นจะเป็นไร หรือถ้ามินซอกเกิดอาการอยากเรื่องอย่างว่าก็บอก เขาพร้อมจะช่วย
“งื่อ ลามกฮะ”ดันตัวออกจากอีกคน ยู่หน้าว่าเสียงใส ลู่หานใช้นิ้วจิ้มแก้มกลมที่ป่องออก แซวยัยหน้าแดงว่าหรือไม่จริง ถามคนรักว่าครั้งนั้นน่ะเพิ่งเคยเสร็จครั้งแรกใช่ไหม? แล้วตั้งแต่ครั้งนั้นก็ไม่เคยช่วยตัวเองอีกเลยสิท่า คนเป็นน้อยอ้าปากเหวอตีอกไอ้คนพี่แรงๆ บอกว่าเพ้อเจ้อใหญ่แล้ว ถึงจะเป็นเรื่องจริงก็ตามเถอะ
“ผมไม่ได้ลามกนี่ฮะ ทำไมต้องทำเรื่องแบบนั้นบ่อยๆด้วยล่ะ”ว่าแล้วลุกหนีพี่ไปทิ้งตัวลงนอนที่ฟูก ไม่วายไล่ให้ลู่หานไปอาบน้ำได้แล้ว เหม็นเหงื่อคนกินเบียร์
ลู่หานหัวเราะ ยกยิ้มกับใบหน้าแดงจัดของยัยแก้มแดงของเขา...
เห็นไหมว่ามินซอกแบบนี้น่ารักขนาดไหน...

แล้วจะให้เขาทำเรื่องอย่างว่ากับอีกคนได้ยังไง...คนที่ไม่แม้แต่จะประสีประสาเลยสักนิด ช่วยตัวเองก็ยังไม่เคย เด็กคนนี้บริสุทธิ์เกินกว่าเขาจะทำให้แปดเปื้อนได้จริงๆ ให้เลวแค่ไหนลู่หานก็ไม่กล้า
แต่ถึงอย่างนั้น การที่อีกคนไม่มีประสบการณ์ด้านเพศเลยก็ไม่ใช่เรื่องดี มินซอกโตมากแล้ว อย่างน้อยก็ควรรู้จักการปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศ
...ซึ่งเขาไม่คิดจะสอนคนรักในตอนนี้หรอกนะ...
“ยังไม่ไปอาบน้ำอีกเหรอฮะ ง่วงแล้วนะ”เห็นว่าลู่หานยังไม่ไปอาบน้ำเสียที คนที่แก้มยังแดงปลั่งเลยผงกหัวจากหมอนขึ้นมาถาม ลู่หานร้องบอกว่าจะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ ส่ายหัวเพราะรู้ว่าคนตัวเล็กน่ะง่วงแล้วล่ะสิ ไหนนะเด็กน้อยที่บอกว่ายังไม่ง่วง ไอ้อาการงอแงแบบนี้คืออะไรกัน
หลังอาบน้ำลองดมกลิ่นตัวก็ดูสะอาดดี อาจจะมีกลิ่นเหม็นน้อยๆช่วงที่เหงื่อออกมาอีก แต่ก็ไม่มากเกินจะทนไม่ไหวหรอก ลู่หานขยี้ผมที่เปียกชื้นแล้วพาดผ้าขนหนูเอาไว้ มองที่ที่นอนคนตัวเล็กหลับไปแล้ว นี่ไงล่ะคนไม่ง่วง หลับปุ๋ยสบายเชียว
มือเรียวตบสวิตช์ไฟลงก่อนจะแทรกตัวเข้าไปนอนกับมินซอก โอบคนรักเอาไว้แล้วทรุกหน้าลงที่กลุ่มผมนิ่มที่ยาวมากแล้วแต่มินซอกยังไม่ได้ไปตัด ซึ่งลู่หานก็ไม่ได้บอกให้อีกคนตัดเช่นกัน ผมยาวๆนิ่มๆเหมือนขนแมว เขาชอบที่จะกดจูบลงไปหรือนอนทรุกไซร้แบบนี้

ไม่ต้องมีเซ็กส์ ไม่ต้องมีเรื่องความต้องการทางเพศ...
แค่ได้นอนกอดทุกคืนก็พอแล้ว...
ไม่ต้องมีเรื่องพวกนั้นมาเกี่ยวเลยจริงๆ

ค น คุ ก

จงอินส่งจูบให้เซฮุนที่เดินไปขึ้นรถผู้กองคริส ยัยตัวขาวคว้าจูบที่แฟนส่งให้มาปาลงพื้นแล้วแลบลิ้นใส่น่าหมั่นไส้ ปากแดงๆนั่นก็น่าตีให้เจ่อเลย ยู่อยู่ได้ ไม่รู้หรือไงว่าน่ารักมาก!!
“เซฮุนนี่น่ารักจังเนาะ”จุนมยอนเอ่ยขึ้นด้านหลัง ในมือของคนตัวขาวมีพิซซ่าที่จงอินปันใส่ทับเปอร์แวร์กลับมาด้วย
“เดี๋ยวนี้ผู้กองเขาไปรับไปส่งเลยนะ ไหนบอกไม่มีอะไรไง”จงอินถาม คิดว่าเรื่องเมื่อคืนนั้นคงลงเอยด้วยดี ระหว่างผู้กองกับจุนมยอนก็ดูปรกติดี ติดที่ผู้กองคล้ายจะดูแลอีกคนดีมากขึ้น ไปรับไปส่ง พาไปบ้านพ่อแม่วันหยุด แล้วพ่อแม่ของจุนมยอนก็ต้อนรับผู้กองหนุ่มดีเสียด้วย
“อย่างกับคนรักกัน”พูดตามที่เห็น จุนมยอนเบิกตากว้าง ส่ายหัวดิก
“หยุดพูดไปเลย”ยัดพิซซ่าคำสุดท้ายใส่ปากก่อนจะปัดมือที่เปรอะเปื้อนแล้วเดินไปหาน้ำกิน จงอินหัวเราะบอกว่าก็พูดไปตามที่เห็น ผู้กองก็ไม่ได้แย่ตรงไหน หน้าที่การงานก็ดี หน้าตาก็โคตรรดี
“เปิดใจมั่งเถอะจุนมยอน...ให้ฉันพูดตรงๆไหมว่านายไม่มีทางกลับไปเป็นผู้ชายที่มีชีวิตปรกติ มีเมียมีลูกได้อีกแล้วล่ะ สิ่งที่นายมองว่าเป็นตราบาปมันเกาะกุมใจนายอยู่ไม่รู้เหรอ”
“...”
“ยอมรับผู้ชายดีๆสักคนเข้ามาในหัวใจนายดูนะ...”จงอินตบบ่าเพื่อนก่อนจะแยกเข้าห้องตัวเองไป จุนมยอนมองตามอีกคน เก็บคำพูดของจงอินมาคิด
ถูก...
แม้จะบอกว่าออกจากคุกก็อยากเป็นแค่ผู้ชายปรกติธรรมดา มีเมียสักคน มีอาชีพที่มั่นคง แต่ความจริงคือเขาก็ยังคิดถึงเรื่องที่เดิมๆอยู่ มันคือตราบาปอย่างที่จงอินว่า ทำให้เขาไม่มีหน้าไปมองผู้หญิงคนไหน และกับผู้ชายด้วยกันก็หวาดหวั่น
เปิดใจ...
จงอินหมายถึงเขาควรจะเปิดใจให้กับใครสักคน...ผู้ชายสักคนใช่ไหม?
หัวเราะขื่นๆ ถ้ามีผู้ชายสักคนที่ไม่มองเขาเป็นแค่ตัวอะไรสักอย่างที่มีแรงดึงดูดต่อเพศเดียวกันอย่างมหาศาล ไม่มองเขาที่แค่ใบหน้ารูปร่างที่น่าหลงใหล
ใครสักคนที่สามารถไม่แตะต้องและสร้างบาดแผลในใจ แค่อยู่เป็นเพื่อนใจข้างๆกันได้...
ถ้ามีคนแบบนั้นเขาก็คงเปิดใจรับ...

“ฉันจะช่วยนายเอง...ครั้งนี้ฉันพูดจริงๆ มันจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบเมื่อคืนอีก...ฉันจะไม่มองนายเป็นแค่วัตถุทางเพศ”
“...”
“และจะไม่ให้คนอื่นมองนายอย่างนั้น”
“...”
“เรามาเริ่มใหม่กันอีกครั้งนะ...”

รอยยิ้มน้อยๆจุดที่มุมปากก่อนมันจะจางหายไป...
อยู่ดีๆก็คิดถึงคำพูดของใครบางคนขึ้นมา...






TBC.



มันน้อยนะ เอาจริงๆ ยอมรับเลย ขอโทษจริงๆค่ะ ปั่นสุดๆแล้ว ร่างกำลังจะสลาย ขอโดเนทกาแฟด้วยนะ ไปทำงานเหมือนซอมบี้ละ
เหลืออีก3-4ตอนค่ะ
ปล. ปิดโอนฟิควันที่28นะ แจ้งโอนได้ถึง30 ใครยังไม่มีเงินอยากจองไว้ก่อนแล้วโอนทีหลังสามารถบอกกันได้ จะในบทความหรือเมนชั่นทวิตเตอร์ก็ได้

ขอบคุณนะคะ


ไม่ได้พูดคำนี้นานเลย...


รักนะ


#พี่ลู่คนคุก




แมลงจี่...