วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2557

คนคุก15.1

ชีวิตคนเรามีวัฏจักร ซึ่งเดินหมุนเป็นวงกลม
เมื่อถึงจุดสิ้นสุดก็จะเห็นจุดเริ่มต้นอีกครั้งหนึ่ง



บทที่15.1

สองวันแล้วที่มินซอกย้ายไปอยู่เรือนนอนหงส์ และลู่หานก็เหมือนหมาบ้าเข้าไปทุกๆ มองดีๆก็คล้ายควายตกมัน เวลาเข้าแถวตอนเช้าก็เอาแต่สอดส่ายสายตามอง กินข้าวก็ชะเง้อหา พอมองไม่เห็นมินซอกมันก็มาหงุดหงิดใส่คนอื่น กับไอ้แดฮยอนนี่วางมวยกันเกือบจะได้เลือดแต้มมุมปากถ้าเพื่อนไม่ห้ามเอาไว้ก่อน
“จุนมยอนแม่งเอามินซอกไปซุก เหี้ยเอ้ย ผู้คุมอินซูทำอะไรไม่ได้เลยหรือไงวะ”มันบ่นอีกครั้งของวันทั้งที่ยังจับเคียวดายหญ้าอยู่ในมือ จงอินตอบไปว่าถ้าทำได้คงทำไปแล้ว ก็บอกแล้วว่านางพญาถ้าจะใช้สิทธิ์ของการเป็นนางพญา แม้แต่ผู้คุมก็ไม่อาจจะขัด จุนมยอนพามินซอกหายหน้าหยตาไปเลยทีเดียว แต่จงอินก็เห็นบางครั้งที่สองคนนั้นลงมาอาบน้ำพร้อมกัน ข่าวลือว่าจุนมยอนดูแลมินซอกดีมาก นอนฟูกเดียวกันเสียด้วย ไอ้หมาบ้าที่ได้ยินแบบนั้นถุงกับหงุดหงิดไปนานสองนาน
“เป็นไงล่ะ อยากให้น้องอ้อนมึงต่อ อยากให้มินซอกมาทำตัวน่ารักใส่ สุดท้ายยังไม่ได้บอกรักเขาก็ไปจากมึงละ กูไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่ามึง”ด่าควายก็เสียควาย ด่าหมาก็เสียหมา ด่าแมลงสาบยังเสียไปถึงเผ่าพงศ์พวกมัน คนอย่างลู่หานนี่ไม่รู้จะด่าว่าอะไรดี
ลู่หานบอกกลับว่าถ้ารู้ว่าจุนมยอนจะเล่นอะไรแบบนี้เขาคงบอกรักน้องไปแล้ว ผิดหรือไงที่อยากจะตักตวงความน่ารักของมินซอกต่ออีกหน่อย อยากให้น้องมาทำให้รักจนถอนตัวไม่ขึ้น ก็มินซอกน่ารักขนาดนั้น ถ้าเขาเร่งบอกรักไป เด็กนั่นก็เขินอายหนักๆม้วนเดียวจบ ระเบิดตัวเป็นซาลาเปาไส้ลาวากันพอดี
“เหตุผลส่วนตีนสินะ ก็แล้วแต่มึงเถอะครับ ยังไงอีกห้าวันก็จะออกกันไปหมดนี่แล้ว ไอ้อินซูบอกมินซอกต้องอยู่ต่ออีกสองวันเพราะเรื่องช้านิดหน่อย”ลู่หานพยักหน้า ตวัดเคียวเข้ากับต้นหญ้าสูงรกให้เบาบางตาลง ก่อนที่จะเอาจอบดายหญ้ามาดายซ้ำเพื่อขุดเอารากของวัชพืชขึ้นมาจากดินให้มันตายสิ้นซากเสีย
“มึงว่าถ้ามินซอกรู้เรื่องทั้งหมด เด็กนั่นจะรู้สึกยังไงวะ?”ลู่หานถาม จงอินยักไหล่บอกว่าถ้าไม่ซึ้งใจจนร้องไห้ก็คงโกรธที่ปิดบังจนร้องไห้เหมือนกัน
“มึงไม่ต้องห่วงหรอก ผู้กองคริสจะเข้ามาพรุ่งนี้เพื่อคุยกับมินซอก กูขอให้เขาชวยคิดเหตุผลให้แล้วสำหรับการออกไปของทั้งกู มึง จุนมยอนและมินซอก เรื่องที่ทั้งหมดเป็นสายให้ตำรวจจะไม่มีใครพูดถึงอีก”ลู่หานถอนหายใจ
“กูอยากเจอมินซอก หลังจากไอ้เหี้ยผู้กองคริสเจอมินซอกแล้วกูจะเจอมินซอกได้ไหมวะ?”ถามลอยๆแต่จงอินส่ายหัว บอกว่าคงยากถ้าจุนมยอนจะยังติดมินซอกเหมือนเหาฉลามอยู่แบบนั้น นอกจากว่าจะดึงจุนมยอนออกจากมินซอกได้
“ผู้กองคริสไง มึงบอกให้เขาแยกจุนมยอนออกจากมินซอกสักครึ่งชั่วโมงสิ ถึงไอ้อินซูจะทำไม่ได้ แต่ผู้กองคริสน่ะ ทำได้อยู่แล้ว”ลู่หานหันมองหน้าเพื่อน ไม่ได้คิดเรื่องผู้กองคริสเหมือนกัน รอยยิ้มปรากฏที่ริมฝีปากบางเบา บอกขอบใจเพื่อนที่ชี้แนะแนวทางให้ จงอินอวยพรให้มันได้เจอมินซอกก็แล้วกัน
“บอกรักน้องด้วยล่ะไอ้สัด อย่าค้างคา”
“เออ คราวนี้กูไม่ปล่อยให้ยืดเยื้อแล้วว่ะ”ลู่หานบอก มันถึงเวลาแล้วที่จะจบเรื่องความลังเลของหัวใจที่ยืดเยื้อมานานแสนนาน ก็หวังไว้แค่ว่าไอ้ผู้กองคริสมันจะช่วยเหลือเขาก็เท่านั้น



ค น คุ ก



มินซอกกับจุนมยอนแยกกันอาบน้ำคนละห้อง จุนมยอนบอกว่าอันที่จริงเขาเองก็อาบน้ำรวมกับคนเรือนหงส์ มีบางครั้งที่เข้าไปอาบในห้องน้ำแยก ส่วนเหตุผลที่ต้องอาบแยกเขาไม่ได้บอกคนตัวเล็กว่าเป็นเพราะรอยรักมากมายที่กอนโมชอบฝากเอาไว้บนร่าง มันอาจจะไม่น่าอับอายสำหรับผู้ชายคนหนึ่งที่ใครก็รู้ดีว่านอนกับผู้ชายด้วยกัน แต่จุนมยอนก็ไม่หน้าหนาขนาดจะทนเปลือยกายที่เต็มไปด้วยรอยดูดเม้มต่อหน้าคนอื่นได้
จุนมยอนอดจะรู้สึกสะใจไม่ได้ที่เห็นลู่หานเกือบจะคลั่งเพราะมินซอกมาอยู่กับเขาได้สองวันแล้ว เขาไม่ให้มินซอกทำงานนอกจากคหกรรมที่เจ้าตัวเล็กบอกว่าชอบ เรียกว่าจุนมยอนกกมินซอกไว้ใต้ปีกไม่ให้ลูกเจี๊ยบตัวน้อยได้พบเจอใครเลยล่ะ
ช่วงกลางวันที่ทุกคนทำงานจุนมยอนจะพามินซอกไปนั่งเล่นห้องพักผู้คุม ตอนแรกมินซอกก็สงสัยว่าทำไมถึงมานั่งนอนเล่นที่นี่ได้แต่ก็คลายความสงสัยลงเมื่อบอกว่าเป็นสิทธิ์ที่นางพญาจะทำได้ คนตัวเล็กบ่นเพราะไม่ได้ทำงาน ถึงตอนอยู่เรือนนอนสิงห์พี่ๆจะไม่ให้เขาทำงานก็ยังได้เดินไปมาช่วยเหลือเล็กน้อย แต่นี่จุนมยอนให้เขาอยู่เฉยๆจนแทบจะเป็นง่อยตาย
“รู้ไหมว่าลู่หานนะหงุดหงิดมากเลยนะที่ไม่เจอมินซอก”จุนมยอนพูดบอก วางผ้าขนหนูผืนเล็กที่ตัวเองเอาไว้เช็ดหัวลงบนหัวของมินซอกให้เด็กน้อยใช้ซับน้ำที่มาจากการสระผม มินซอกถามว่าจริงหรือด้วยเสียงแผ่วเบาแล้วใบหน้ากลมๆก็แดงเรื่อขึ้นมา
“ดีใจล่ะสิ”จุนมยอนเย้าจนคนตัวเล็กเบะปากอย่างงอนๆ บอกว่าเปล่าเสียหน่อย แต่แก้มยุ้ยๆที่ขึ้นสีแดงนั่นก็บอกอยู่ทนโท่ว่ามินซอกโกหก
“อยากกลับไปหาหรือยัง?”จุนมยอนถาม มินซอกสลัดผ้าที่ใช้เช็ดหัวตากพาดไว้กับราวแล้วหันมาตอบว่าก็อยากอยู่ ที่จริงคนตัวเล็กใจอ่อนยวบยาบตั้งแต่พี่มาหาคืนนั้นแล้วโดนตีกลับไป แต่เพราะจุนมยอนรั้งเอาไว้เสียก่อน
“พนันได้เลยว่าถ้าเจอกันอีกครั้งหมอนั่นต้องพูดว่ารักนายซ้ำๆไปมาแน่ๆ”จุนมยอนบอกเรียกเอาใบหน้าที่แดงจางๆนั้นเริ่มจะเข้มขึ้น
“จะบอกซ้ำๆหรือพูดแค่ครั้งเดียว...ถ้าพี่เขารักผม...ผมก็ดีใจที่ได้ยินมันแล้วฮะ”ไม่จำเป็นที่จ้ะต้องพูดหลายรอบ แค่ลู่หานฮยอง...รักมินซอก มันก็พอแล้ว
จุนมยอนคล้องคอคนตัวเล็กให้ขึ้นเรือนนอนด้วยกัน ก่อนจะได้เดินเข้าไปล้มตัวนอนรวมกับคนอื่นๆที่ฟูกผู้คุมเรือนนอนก็บอกให้มินซอกไปหาผู้คุมอินซูด้วยช่วงเช้าหลังกินข้าวเสร็จ ถึงจะงงๆว่าทำไมถึงเรียกไปหาแต่มินซอกก็รับคำไป จุนมยอนบอกน้องว่าไม่มีอะไรหรอก มินซอกไม่ได้ทำผิดอะไร ผู้คุมไม่เรียกมินซอกไปลงโทษหรอก คนตัวเล็กครางอืมตอบในลำคอก่อนจะเอนหลังลงกับฟูก ดึงผ้าห่มมาคลุมร่างแล้วหลับตาลงทันทีที่ดวงไฟถูกดับลง
จุนมยอนลูบหัวน้องอย่างเอ็นดู พรุ่งนี้ผู้คุมอินซูคงเรียกไปคุยเรื่องที่มินซอกจะได้ออกจากเรือนจำ

เขาเองก็ด้วย...
เหลืออีกห้าวันเท่านั้น...ก็จะได้ออกไปจากที่นี่แล้ว


ค น คุ ก


ลู่หานเปิดประตูห้องพักผู้คุมพรวดเข้าไปไม่คิดจะขออนุญาต ทันทีที่ผู้คุมอินซุให้คนมาบอกว่าผู้กองคริสมาถึงแล้วเขาก็รีบรี่มาหาทันที ไม่ทักทายสักคำแต่ประโยคที่พูดกับผู้กองตัวสูงคือขอให้อีกคนช่วยอะไรนิดหน่อย จงอินที่ตามมันมาติดๆเดินไปคุ้ยขนมของผู้คุมอินซูกินเป็นของหวานหลังข้าวเช้า ก็ลู่หานรีบออกมาจนกินข้าวเกือบไม่เต็มกระเพาะ
“มึงนี่ขอให้กูช่วยอะไรเยอะแยะไปหมด เห็นกูเป็นพระเจ้าที่จะบันดาลทุกอย่างให้ได้เหรอ?”คำพูดกวนตีน แต่ลู่หานก็คิดว่าเวลานี้คริสก็ไม่ต่างไปจากพระเจ้าที่จะทำให้เขาได้เจอมินซอกอีกครั้ง
“ช่วยกูสักนิดก็ไม่ตายหรอกสัด”
“พูดกับกูดีๆก่อนสิ ไม่มีใครสอนมึงเหรอว่าจะขอร้องใครให้พูดจาเพราะๆ หน้าก็สวยดีแต่คำพูดคำจาหมาไม่แดก”คริสพูดบอก ลู่หานแยกเขี้ยวใส่ อยากจะซัดหน้าแม่งเพราะมาบอกว่าเขาหน้าตาสวยนี่ล่ะ
ลู่หานสูดลมหายใจเข้าออก บอกกับตัวเองว่าเพื่อมินซอก หลับตาลงและเปิดเปลือกตาขึ้นอีกครั้ง บังคับตัวเองให้พูดดีๆ เพราะๆ
“ช่วยหน่อยเถอะ...ครับ”

คริสยิ้มมุมปากเมื่ออีกคนยอมพูดออกมา แต่ดูก็รู้ว่าฝืนทนแค่ไหน เขาหัวเราะแล้วบอกว่าจะกันจุนมยอนไว้ให้ก็แล้วกัน
“เด็กคนนั้นโชคดีนะ ที่อย่างน้อยเขาก็มาเจอพวกนาย...โชคดีจริงๆ”พูดถึงมินซอก ถ้าไม่เจอลู่หานกับจงอิน ไม่รู้เด็กคนนั้นป่านนี้จะเป็นอย่างไร อ่อนแอ ปวกเปียก ไม่เคยสู้คน นึกสภาพครั้งแรกที่เจอมินซอก...จะเป็นแบบนั้นหรือเปล่า แผลเต็มใบหน้า ร่างกายซูบผอม ...หรือบางที อาจจะแหลกยับคามือพวกนักโทษที่เต็มไปด้วยกามารมณ์อันคุกรุ่น ไม่มีทางรู้ได้เลย
แต่อย่างไรเสีย มินซอกก็ไม่ได้มีชะตาที่เลวร้ายแบบนั้น มินซอกได้เจอกับจงอิน ได้เจอพี่ๆที่ดีซึ่งคอยเอ็นดู และในตอนนี้มินซอกมีลู่หาน
ลู่หานไม่มีทางจะปล่อยให้มินซอกเจอเรื่องที่เลวร้ายอีกแล้ว เขาจะพามินซอกออกไปแล้วเราจะเริ่มใหม่ด้วยกัน...
มินซอกยังเรียนไม่จบมอปลายแต่ติดยาเสียก่อน ลู่หานคิดว่าจะให้มินซอกเรียนเทียบให้จบมอปลาย จากนั้นค่อยคิดกันอีกทีว่าจะทำมาหากินอะไร ขอแค่เพียงเป็นอาชีพที่สุจริต ถามว่าลู่หานอยากกลับไปประกอบอาชีพทุจริตอีกหรือเปล่า เขาตอบได้เลยว่าถ้ามันทำให้เขามีกินมีใช้เขาก็จะทำ แต่หากคิดอีกที ตอนนี้ไม่มีแม่อีกแล้ว และมีมินซอกเพิ่มเข้ามาในชีวิตเขาอีกคน มันไม่คุ้มเลยกับการที่เขาจะต้องเสี่ยงโดนจับอีกครั้ง
เขาไม่ต้องการจะทิ้งให้น้องและมินซอกอยู่ลำพัง...

“ผู้คุมเรียกผมเหรอฮะ?”เสียงเคาะประตูครั้งสองครั้งดังขึ้นก่อนที่บานประตูจะถูกเปิดออก ใบหน้ากลมๆโผล่เข้ามาถาม ก่อนจะสะดุ้มน้อยๆไม่คิดว่าลู่หานกับจงอินจะอยู่ที่นี่ด้วย ไม่ได้เจอกันสองวันเองแต่เหมือนไม่เจอกันเสียเดือนสองเดือน ผู้คุมอินซูไล่จงอินกับลู่หานออกไปได้แล้วสองคนก็ยอมออกไปโดยดี  จุนมยอนที่ถูกผู้คุมเรียกคุยเล็กน้อยเดินตามมินซอกมาทีหลังเจอกับลู่หานและจงอินที่เดินออกจากประตูห้องพักสวนกับมินซอกพอดี จงอินยิ้มให้จุนมยอนซึ่งนางพญาคนสวยก็ยิ้มตอบ ส่วนลู่หานน่ะเหรอ ตีหน้าบึ้งจนตีนกาขึ้นยับใส่กัน จุนมยอนหมั่นไส้จนแทบจะเขวี้ยงรองเท้าแตะที่ใส่เข้าที่หัวของมัน
“เข้าไปสิมินซอก”จุนมยอนเลิกสนใจสองคนที่เดินไปแล้ว รุนหลังมินซอกให้เข้าไปในห้องพักผู้คุม คนตัวเล็กเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตัวประจำ เป็นคริสที่ลุกขึ้นจากที่นั่งเดิมมานั่งข้างหน้ามินซอก อินซูพยักหน้าบอกจุนมยอนให้ออกไปข้างนอกด้วยกันก่อน ซึ่งนางพญาก็เข้าใจดีและเดินตามออกไปทันที เสียงปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับเหลือแค่คริสและมินซอกในห้อง
คนตัวเล็กเคยเห็นผู้ชายคนนี้มาก่อนอยู่แล้ว เป็นญาติที่มาเยี่ยมลู่หาน และเป็นคนเดียวกันกับที่มีเรื่องกับลู่หานวันเยี่ยมญาติใกล้ชิด
“สวัสดีคิมมินซอก”คริสทักด้วยน้ำเสียงสบายๆ มินซอกค้อมหัวลงเพราะอีกคนอายุมากกว่าตน
“สงสัยหรือเปล่าว่าผมเรียกมินซอกมาทำไม?”คริสถาม ซึ่งมินซอกก็ตอบคำถามด้วยการส่ายหัวปฏิเสธ
“ผมทำผิดหรือเปล่าฮะ? แต่ผมไม่ได้ทำอะไรเลย”เสียงเล็กเสียงน้อยกล่าว คริสส่ายหัวบอกว่าเปล่า มินซอกไม่ได้ผิดอะไร แต่คริสเองที่อยากคุยอะไรบางอย่างกับคนตัวเล็ก คริสสืบความถามว่ามินซอกเข้าคุกมาได้อย่างไร คนตัวเล็กหน้าเจื่อนไปน้อยๆบอกว่าเสพยาเพราะอยากอ่านหนังสือหนักๆได้ แต่รู้ตัวอีกทีก็ติดยาไปแล้ว คริสนึกเห็นใจ ดูภายนอกก็เห็นว่ามินซอกเป็นเด็กน่ารัก เขาไม่คิดว่ามินซอกเองเหมาะกับที่แบบนี้ ถึงได้บอกว่าเด็กคนนี้โชคดีที่เจอลู่หานและจงอิน
“ถ้าออกไปจากที่นี่แล้วจะหันกลับไปใช้มันอีกไหม?”เขาลองถาม คนตัวเล็กเลยส่ายหน้าหวือ บอกว่าเข็ดแล้ว ยาเสพติดพรากทุกอย่างไปจากมินซอก เขาไม่มีวันจะกลับไปหามันอีกครั้ง เพราะรู้ว่ามันทำลายทุกอย่างให้พังได้ในพริบตาเดียว พริบตาเดียวที่มินซอกต้องเสียการเรียน เสียโอกาสในการเป็นหมออย่างที่ตั้งใจ และเสีย...คนที่รักที่สุดในชีวิตไปอย่างไม่มีวันกลับ
คริสชมว่าดีแล้ว คิดได้แบบนั้นก็ดี เขาเห็นมามาก คนที่เข้ามาในคุกเพราะเรื่องยาเสพติด หลายรายก็เลิกเด็ดขาดได้ แต่หลายรายก็กลับไปสู่วังวนเดิมๆ เหตุผลก็ด้วยปัจจัยต่างๆมากมาย เช่นสภาพแวดล้อม เพื่อนฝูงและสภาวะที่กดดัน
หากไม่เข้มแข็งพอ...
ก็จะกลับไปหลงมัวเมาในยาเสพติดอีกครั้ง
แต่เขาเชื่อวาเด็กคนนี้จะไม่เป็นอย่างนั้น เพราะอย่างน้อยก็มีลู่หาน หมอนั่นไม่ปล่อยให้มินซอกกลับไปหายาเสพติดอีกครั้งแน่ๆ
“คิมมินซอก...”เสียงทุ้มต่ำทอดเรียกเด็กน้อยที่นั่งมุดหน้าอยู่ข้างหน้าของเขา มินซอกเงยหน้าขึ้นมาเพราะเสียงเรียก คริสคลี่ยิ้มให้อีกคนด้วยรอยยิ้มที่เขาคิดว่าดูใจดีที่สุดแล้ว ก่อนจะขยับปากเอ่ย

...
..

“ยินดีด้วยกับอิสระของเรานะตัวเล็ก”


มินซอกกระพริบตาปริบๆ ยังคงไม่เข้าใจกับสิ่งที่ผู้กองตัวสูงบอก ผู้กองคริสพูดเรื่อยๆบอกว่ามินซอกกำลังจะได้เป็นอิสระและพ้นโทษ...มินซอกกำลังจะได้ออกจากเรือนจำแห่งนี้
พูดเป็นเล่นไปได้...
“มันจะเป็นไปได้ยังไงฮะ?”ไม่มีโอกาสจะเป็นจริงเลย โทษของมินซอกคือจำคุก 2 ปีฐานเสพยาเสพติด เหลืออีกตั้งปีกว่า กว่าที่จะพ้นโทษ
คริสวางมือลงบนบ่าแคบบอกว่านี่คือเรื่องจริง
“จะไม่เชื่อก็ได้ แต่ฉันเป็นตำรวจนะ ฉันไม่โกหกมินซอกหรอก”มินซอกมองหน้าผู้กองคริส ยังคงไม่เข้าใจอยู่ดี
“แล้วทำไม...ถึงเป็นผม”ถามกลับ ยังคงจับต้นชนปลายไม่ถูก คริสบอกว่ามินซอกเป็นนักโทษชั้นดี ไม่เคยก่อคดีอะไรตลอดเวลาที่อยู่ในเรือนจำ นักโทษชั้นดีพวกนี้จะมีการลดหย่อนโทษให้อยู่แล้ว แต่ในกรณีนี้ รัฐบาลได้รับการแจ้งว่าเรือนจำทั่วประเทศบรรจุนักโทษมากเกินไป ทำให้งบประมาณแผ่นดินนั้นไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายในส่วนอื่น จึงจำเป็นต้องมีการคัดคนออก
คริสบอกเสริมว่าการที่จะคัดคนออกต้องดูว่าเป็นนักโทษชั้นดี ไม่เคยก่อคดีขณะถูกคุมขัง และรายละเอียดอื่นปลีกย่อยอีกเยอะแยะซึ่งมินซอกจำไม่หมด สุดท้ายแล้วก็สรุปได้แค่ว่า มินซอกตรงคุณสมบัติกับบุคคลที่จะคัดออกพอดี
“ไม่ต้องห่วงหรอกนะ มีคนพ้นโทษพร้อมนายอีก 3 คน”ได้ยินแบบนั้นมินซอกก็เบิกตากว้าง ถามทันทีว่าใคร
“รู้แล้วอย่าตกใจล่ะ...”มินซอกพยักหน้า คริสจึงบอกว่าคือลู่หาน จงอิน และจุนมยอน
“จริงเหรอฮะ?”บอกว่าจะไม่ตกใจ แต่กลับเบิกตากว้างถามเสียงดัง มินซอกยิ้มกว้างกับสิ่งที่เพิ่งได้ยิน ถามย้ำซ้ำๆว่าไม่ได้หลอกกันใช่ไหม? จะได้พ้นโทษและลู่หาน จงอินกับจุนมยอนก็ด้วยใช่ไหม? คริสหวเราะเด็กที่ยิ้มแก้มตุ่ย ในตาของมินซอกพราวระยับไปด้วยความดีใจอย่างท่วมท้น จนในสุดท้ายก็ไม่อาจจะทนเก็บความดีใจเอาไว้ได้ มันจึงไหลหยดมาเป็นหยาดน้ำตา
คนตัวเล็กเริ่มสะอึกสะอื้นจนคริสต้องปลอบ บอกว่าเด็กขี้แยอย่าร้องไห้ มินซอกก็ยิ่งร้องหนักเข้าไปใหญ่
คริสเข้าใจอารมณ์ของมินซอกดี...
ไม่มีนักโทษคนไหนที่จะกลั้นน้ำตาได้ในวันที่รู้ว่าตัวเองจะได้ออกไปจากเรือนจำสักคน...


ค น คุ ก


ประตูห้องพักผู้คุมถูกเปิดออก จุนมยอนเห็นมินซอกเดินตาแดงออกมาก็รีบเข้าไปหาทันที ถามว่าเกิดอะไรขึ้น อีกคนก็ไม่ตอบ แต่กลับยิ้มตลอดเวลา มินซอกสวมกอดจุนมยอนแน่น
“พี่ฮะ...พี่รู้เรื่องแล้วใช่ไหมฮะ...เรากำลังจะได้ออกไป”มินซอกทำเสียงอู้อี้เพราะร้องไห้ จุนมยอนถึงบางอ้อว่าทำไมน้องถึงร้องไห้ เขายิ้มแล้วลูบหัวปลอบคนขี้แย โกหกว่าเพิ่งรู้เหมือนกัน มินซอกเงยหน้ามาจากอกจุนมยอนแล้วทำท่าเหมือนนึกอะไรได้ ก่อนจะปล่อยอ้อมกอดของนางพญาออกแล้ววิ่งออกไปอีกทางทันที จุนมยอนเหรอหรา จะวิ่งตามเด็กน้อยไปแต่กลับถูกคว้ามือไว้โดยใครบางคนที่ยืนสูงเป้นยักษ์ตัวโต คริสพยักเพยิดหน้าให้อินซูไปทำงานได้แล้ว แต่เขากลับลากจุนมยอนเข้าไปในห้องพักผู้คุมอีกครั้งตามคำขอร้องของลู่หานที่ให้กันจุนมยอนไว้ก่อน
จุนมยอนตีทุบแขนคนที่ลากตัวเองแรงๆบอกให้ปล่อยแต่คริสก็ไม่ยอม
“เจ็บนะ ทุบมาได้”เสียงทุ้มว่าก่อนจะดันจุนมยอนเข้าไปในห้องแล้วล็อคประตู ยืนขวางบานประตูเอาไว้อีกชั้นไม่ให้อีกคนออกไปได้
“ก็ทุบให้เจ็บนี่ ปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้เลย จะไปหามินซอก”ตวาดสั่งเสียงสูง คริสยกนิ้วขึ้นแหย่หูทำท่ากวนส้นเท้าบอกว่าไม่ปล่อยไปหรอก คุยกับมินซอกแล้วขอคุยกับนางพญาคนสวยของเรือนจำสักหน่อยไม่ได้หรือ ได้ยินแบบนั้นจุนมยอนยิ่งโมโห
“จะคุยอะไรไม่ทราบ แล้วก็กรุณาอย่าพูดว่าฉันสวยอีกนะ ไม่ชอบ”สุดท้ายแล้วก็ยอมกระแทกกายลงที่เก้าอี้ คริสขำตลกกับความดื้อน้อยๆของอีกคนที่ฉายออกมาผ่านทางแววตา รู้ว่าจุนมยอนไม่ค่อยชอบตัวเอง ต้องมาอยู่แบบนี้คงอึดอัดใจน่าดู เขาเองก็ไม่ได้มีอะไรจะพูดกับจุนมยอน แค่กันอีกคนไว้อย่างที่ลู่หานบอกเท่านั้นเอง
“ออกแล้วจะไปอยู่ไหน หาบ้านเช่าได้แล้วเหรอ?”เขาถาม จุนมยอนถอนหายใจออกมา วันนั้นก็ถามไปครั้งหนึ่ง ยังไม่ได้คำตอบไปหรือยังไงกัน
“อาจจะที่ที่ผู้คุมอินซูแนะนำ”เขาตอบปัดๆ ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะไปอยู่ที่ไหน ก็คงต้องไปเซอร์เวย์หาด้วยตัวเองก่อน คริสย่นคิ้ว เขาว่าเขาพูดแล้วว่าที่นั่นเป็นแหล่งมั่วสุมของพวกดูดกัญชา เขาไม่วางใจจะให้จุนมยอนไปอยู่ที่นั่นสักเท่าไหร่ อย่างที่บอกว่าสิ่งแวดล้อมมีผลต่อการกลับมาเสพยาของคนที่เคยติดยา ซึ่งจุดนี้ก็เป็นประเด็นที่คริสไม่เห็นด้วยที่จุนมยอนจะไปอยู่ที่นั่น
“ถ้าไม่มีที่ไปก็มาอยู่กับจงอินที่บ้านพักก่อนก็ได้”เขาหมายถึงบ้านพักที่ใช้เป็นที่ทำงาน เป็นที่พำนักของคิมจงอินอยู่ก่อนแล้ว บ้านหลังนั้นถูกใช้เป้นที่ที่คุยงานเรื่องคดีกับสายหลายๆคน แต่มีแค่จงอินที่อยู่ที่นั่น คงไม่เสียหายถ้าจุนมยอนจะไปอยู่ด้วยอีกคน แต่จุนมยอนกลับส่ายหน้าปฏิเสธ เขาบอกว่ามีปัญญาหาที่พักเองได้
คริสส่ายหน้ากับความดื้อของนางพญาคนสวย บอกว่าก็ตามใจ แต่ถ้าอยากจะมาพักก็มาได้เสมอ และถ้าไม่มีงานทำก็บอกเขาได้ เขามีอะไรที่ช่วยได้ก็อยากจะช่วย จุนมยอนนึกค่อนขอดในใจว่างานที่ว่าคงไม่ใช่ให้เขาไปนอนกับใครอีก

ค น คุ ก


มินซอกวิ่งมายังซ่อมบำรุง เขาถามผู้คุมได้ความว่าวันนี้เรือนนอนสิงห์ลงงานที่นี่ พี่ๆทักทายกันใหญ่ที่เห็นเขา บางคนก็ตรงมากอดมาขยี้หัวด้วยความคิดถึง มินซอกถามหาลู่หานกบจงอินเอากับมินโฮจึงได้ความว่าสองคนนั้นเอามอเตอร์ไซค์ไปลองขับทดสอบเครื่องเดี๋ยวก็กลับมา ยังไม่ทันจะขาดคำเสียงรถมอเตอร์ไซค์ก็วิ่งเข้ามาในช็อป ลู่หานยกยิ้มเมื่อเห็นว่ามินซอกมาอยู่ที่นี่ และไม่มีจุนมยอนตามมาด้วย ชายหนุ่มลงจากการซ้อนท้ายเพื่อน จะเข้าไปหาน้องแต่ช้ากว่ามินซอกที่โถมตัวเข้าหาพี่ทั้งสองคนจนเกือบล้มคว่ำ น้ำตาที่หยุดไหลไปแล้วไหลลงมาอีกครั้ง
พี่ๆที่รายล้อมต่างตกใจ เห็นมินซอกตาแดงๆอยู่แล้วตอนที่วิ่งเข้ามา แต่พอเจอลู่หานกับจงอินกลับร้องไห้จ้าเป็นเด็ก จงอินดึงน้องขึ้นมาแล้วบอกว่าเป็นอะไร ค่อยๆพูด มินซอกพยายามสูดหายใจเข้าไป รอยยิ้มยังมีไม่หุบแม้น้ำตาจะเกลื่อนเต็มใบหน้าก็ตามที
“พี่...พี่ฮะ...พี่รู้แล้วใช่ไหม? ที่เราจะได้ออกไปจากที่นี่”เสียงเล็กถามออกมา แค่อยากรู้ว่าพี่ชายสองคนที่จะพ้นโทษพร้อมกันรู้แล้วใช่ไหม? แต่คำถามนั้นกลับทำให้นักโทษเรือนนอนสิงห์ที่ยืนรายล้อมเกิดอาการเงียบกริบ
“มินซอกพูดว่าอะไรนะ”เป็นชินอูที่ง้างปากตัวเองออกได้คนแรก มินซอกเห็นพี่ๆเงียบไป ทุกคนมองมาที่มินซอก ลู่หานและจงอิน คนตัวเล็กหุบยิ้มลงทันทีที่เพิ่งคิดได้...
เขากำลังจะออกไป...แต่พวกพี่ๆ...ยังอยู่ในนี้เหมือนเดิม...
“ผม...”พูดอะไรไม่ออก ลู่หานเห็นแบบนั้นเลยดึงน้องมากอด บอกว่าเดี๋ยวจะอธิบายให้ฟังทั้งหมด สุดท้ายนักโทษเรือนนอนสิงห์ทุกคนเลยมาล้อมวงกันฟังสิ่งที่ลู่หาน จงอิน และมินซอกจะอธิบาย จงอินเปิดฉากพูดว่าพวกเขากำลังจะพ้นโทษ เป็นการพ้นโทษที่ได้รับการอนุญาตจากรัฐบาล มินซอกเลยบอกว่าที่ได้ยินมาคือนักโทษกำลังล้นคุกและต้องคัดนักโทษออก
...โชคดีคงมาตกที่พวกเขา
“กูอึ้งนิดหน่อยที่พวกมึงจะพ้นโทษ...”ไอ้ดงกอนพูดบอก
“แต่ไม่ใช่กูอิจฉาพวกมึงนะ มึงเป็นเพื่อนกู เห็นเพื่อนได้ดี กูก็ดีใจด้วย”ไอ้ชินอูเสริมขึ้นมา เห็นแววตาจริงใจในคำพูดของมัน มองที่คนอื่นๆก็เช่นกัน หลายคนเสริมว่าดีแล้วที่มินซอกออกไป น้องไม่เหมาะกับสถานที่แบบนี้ แต่ไอ้แดฮยอนโอดครวญว่าไม่ได้เจอมินซอกอีกมันคงเหงาน่าดู
“ก็แค่กลับไปวันเดิมๆก่อนที่สามคนนี้จะเข้ามา...ไม่แปลกเสียหน่อยมึง”ไอ้มินโฮตบหัวแดฮยอนไปที บอกอีกด้วยว่าทั้งลู่หาน จงอิน และมินซอกไม่ต้องคิดมาก พร้อมถามด้วยว่าจะพ้นโทษวันไหน เมื่อได้รู้ว่าอีกสี่วันข้างหน้าก็อดจะใจหายไม่ได้ เพราะมันดูเร็วเหลือเกิน
“แต่มินซอกไม่ได้ออกไปพร้อมกู ผู้กองบอกมินซอกแล้วใช่ไหมว่าออกหลังพวกพี่สองวัน”จงอินหันไปถามน้อง มินซอกพยักหน้ารับบอกว่ารู้แล้ว
“สองวันที่เหลือ...ดูแลมินซอกด้วยนะพวกมึง”ลู่หานฝากกับนักโทษเรือนนอนสิงห์ทุกคน แม้จะน่าใจหายที่จะต้องจากกัน แต่การที่เพื่อนจะไปได้ดี หลุดพ้นจากการจองจำที่แสนไม่น่าพิสมัย ได้รับอิสรภาพคืนมาอีกครั้ง พวกเขาก็ควรจะดีใจด้วย แต่ละคนขานรับว่าจะดูแลมินซอกอย่างดี
“โอกาสไม่ใช่ของพวกเรา แต่อีกไม่นานก็ได้พ้นโทษกันอยู่ดีนั่นล่ะ อีกปีสองปี ถ้ากูออกไปกูจะไปหามึงคนแรกเลยจงอิน ลู่หาน แล้วเลี้ยงเหล้ากูด้วยนะ อยู่ในนี้หลายปี ได้ออกไปกูจะฉลองให้เมาหยำเป”ไอ้อูฮยอนบอก ทุกคนเลยส่งเสียงเซ็งแซ่ว่าใช่ๆ จงอินหัวเราะ รับปากว่าใครพ้นทาแล้วไปหาจะเลี้ยงเหลาให้เมาเป็นหมาเลย ใครไม่เหมือนหมาจะกระทืบให้
นักโทษชายเรือนนอนสิงห์ล้อมวงกันหัวเราะ...
มินซอกเองก็หัวเราะไปกับพวกพี่ๆด้วย ตาที่แดงเพราะร้องไห้ปิดยิบหยีเพราะทั้งยิ้มทั้งหัวเราะจนเมื่อยแก้ม ลู่หานเอื้อมมือสะกิดน้องบอกว่ามีอะไรจะคุยด้วยก่อนจะจูงมือน้องลุกขึ้นเดินตามออกไป
แดฮยอนกระทุ้งศอกให้มินโฮมองลู่หานที่พาน้องแยกออกไป พี่ๆก็เลยมองตามกันหมด
“ถ้ากูไปบ้านไอ้ลู่หานกูต้องเจอมินซอกด้วยใช่ป่ะวะ?”ไอ้แดฮยอนถามออกมา เพื่อนๆเลยหัวเราะกันร่าเข้าใจในความหมายคำพูดนั้นดี



TBC.

ยาวนะ ยาวมากกกกกกกกกกกกก คือจะให้จบภายในตอนที่15 แล้วนี่15.1แล้วก็ยังไม่ได้ไปไหนนนนนนนนน 555555555555555555
เรื่องนี้มีสเปนะคะ จะเรียกสเปก็ไม่ถูก มันก็ต่อจากเนื้อเรื่องหลัก แค่เหตุการณ์ไม่ได้อยู่ในคุกแล้วเราจะไม่ใช้คำว่าคนคุก แต่เป็นสเปแทนซะ

ปล. เราทำงานหนักมาก งานใหม่เป็นงานบัญชี ซึ่งถ้าอ่านฟิคเรามาจะรู้ว่าเราไม่มีทางเรียนจบบัญชีมาแน่ๆ เราต้องปรับตัวอย่างหนัก มึนมาก งงมาก เลิกงาน5โมงกว่า กว่าจะถึงบ้านก็หกโมง นอนตายเลยทีเดียว ตื่นตีห้าทุกวันเพราะเข้างานแปดโมงเช้า
เพราะฉะนั้น แรงแต่งฟิคเราไม่ค่อยมีค่ะ มาแต่งได้ก็เย็นวันเสาร์(วันเสาร์ทำงานครึ่งวัน) หรือวันอาทิตย์ เพราะฉะนั้น รอหน่อยนะคะ ไม่ได้อยากจะดองจริงๆ
ปลล. เราต้องถอดซิมโทรศัพท์มาใส่แอร์การ์ด ซึ่งถือว่าบุญคุ้มมากเพราะซิมทรูใส่แอร์การ์ดดีแทคได้ แม้จะช้าหน่อยแต่ก็ถือว่าใช้อัพฟิคได้อยู่ ไม่ต้องซื้อซิมเน็ตใหม่ ร้องห้ายยยยยยย

ขอบคุณทุกเม้น ติดแท็ก และเฟวฟเวอร์ริทค่ะ ฟิคจะจบแล้วนะเธอ ใครยังไม่เม้นก็เม้นซะ

อีกอย่างนะเอ ใครสนใจรวมเล่มฟิคกรุณาตอบแบบสอบถามเลยแจ้ คาดว่าจะมี 2 เล่ม เล่มหลักกับสเป เพราะเล่มหลัก ลองจัดหน้าอย่างไม่เอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค ไม่เคาะเอ็นเทอร์เพลิน ไม่ย่อหน้าไปครึ่งกระดาษ ออกมาเกือบ300หน้าค่ะ เราพยายามจัดให้ดูไม่โกงกินและสวยงามนะ (ถ้าได้รวมจริงๆ)


คลิ๊กเลย >>


#พี่ลู่คนคุก




แมลงจี่...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น