ทุกคนมีความฝัน
แต่บางคนเท่านั้นที่ถึงฝั่งฝัน
บทที่14.1…
ลู่หานดึงแขนของมินซอกเอาไว้...นี่มันอะไร
เขางงไปหมด
“ไม่ให้ไป”เสียงเข้มใส่คนเป็นน้องที่ยืนคอหด
จุนมยอนจับแขนมินซอกอยู่อีกข้างหนึ่งดึงคนตัวเล็กให้ไปอยู่ข้างตัวเอง
“อยากโดนดีเหรอลู่หาน
เราจะเอามินซอกไปนอนด้วย”นางพญาเอ่ยเรียบ
แอบสงสารคนตัวเล็กที่อยู่ระหว่างเขาทั้งสองคน
แต่ก็ได้รู้อะไรดีๆขึ้นมาจากเหตุการณ์ทีเกิดขึ้น
จุนมยอนมองออกทันทีเลยว่าลู่หานรักเด็กคนนี้เข้าเต็มตัวแถมหึงหวงจนออกนอกหน้า
เพราะมีแค่ลู่หานที่เดือดร้อนนักหนากับการที่มินซอกต้องมาเป็นเด็กนางพญา
จุนมยอนกระซิบให้น้องมองท่าทีหัวเสียของลู่หานตอนที่เขาพามินซอกออกมาหลังประกาศตำแหน่งเด็กนางพญาคนใหม่แล้ว
เห็นมินซอกพาดสีแดงที่แก้มอย่างน่าชัง
จุนมยอนยังขยี้หัวน้องไปด้วยความเอ็นดู
ขั้นต่อไปคือการพามินซอกไปอยู่ที่เรือนนอนหงส์ จุนมยอนอ้างว่าเพราะเป็นเด็กนางพญาแล้ว
ไปอยู่กับนางพญาก็ไม่เห็นจะแปลก ทุกคนไม่อาจค้านได้ จงอินกอดอกยืนมองอยู่ไม่ห่างแต่ไม่ยุ่งด้วย
เขาแอบหัวเราะด้วยซ้ำ
เพราะจุนมยอนมาบอกแล้วว่านี่เป็นการดัดหลังลู่หานเรื่องมินซอก
จุนมยอนบอกว่ามินซอกไปถามกับเจ้าตัวว่าทำยังไงให้ลู่หานรัก เพราะลู่หานโกหกว่าชอบจุนมยอน
เห็นแบบนั้นนางพญาคนสวยเลยคิดแผนนี้ขึ้นมา ให้มินซอกไปเป็นเด็กนางพญา
ให้มินซอกไปอยู่เรือนนอนหงส์ ลู่หานจะได้อกแตกตาย
จงอินอดจะเห็นด้วยกับจุนมยอนไม่ได้จริงๆ
ถึงพี่ควายจะกลายร่างเป็นคนไปแล้ว แต่มันก็ไม่เคยบอกรักน้องสักที
เห็นบอกแค่รู้สึกดีมีใจให้ แต่ไม่เคยได้ยินคำว่ารักออกจากปาก
มีแต่ที่มันบอกให้น้องทำให้มันรักให้ได้ อยากจะถ่มน้ำลายใส่หน้ามินจริงๆ
ก็เห็นๆกันอยู่ว่ามันทั้งรักทั้งหลงจนจะจับมินซอกกิน
ไม่ยอมพูดเสียที
ให้จุนมยอนจัดการตามนี้ก็ดีเหมือนกัน ดูสิมันจะอมคำว่ารักไว้อีกนานไหม?
“จุนมยอน...”ลู่หานกดเสียงต่ำไปอีก
แต่เจ้าของชื่อกลับยืนเฉยไม่ปล่อยมินซอกกลับคืนมา ลู่หานหัวเสีย
เขาจะยอมให้มินซอกไปอยู่เรือนนอนหงส์ได้ยังไงกัน
“มินซอกปฏิเสธไปสิ
อยากเป็นเด็กนางพญาเหรอ?”เมื่อเอาความกับจุนมยอนไม่ได้ก็หันมาหาคนตัวเล็กที่ยืนก้มหน้างุดแทน
ลู่หานหงุดหงิดใจเพิ่มเมื่อมินซอกไม่ตอบรับอะไร
คนตัวเล็กค่อยๆเอื้อมมือมาปลดมือของลู่หานออกจากแขนแล้วขยับไปอยู่หลังจุนมยอน
แม้จะสูงกว่ากันไม่มากแต่คนตัวขาวก็บังมินซอกได้พอดิบพอดี
ลู่หานอ้าปากค้างกับการกระทำของน้อง แต่ไม่ทันจะคว้ามินซอกกลับมา
จุนมยอนก็พามินซอกเดินลงเรือนนอนสิงห์ไปพร้อมกับของใช้มินซอกบางส่วน
“มึงหยุดก่อนเหี้ยหาน”จงอินรั้งเพื่อนไว้
มินโฮเองก็ดึงเอวลู่หานไม่ให้ถลาตามนางพญาและน้องเล็กของเรือนนอนสิงห์ไป
ถึงจะงงกันไปหมดว่าทำไมอยู่ดีๆมินซอกถึงได้กลายเป็นเด็กนางพญา
แต่พี่ๆก็ไม่อาจจะยุ่มย่ามได้ เมื่อนางพญาเลือกแล้วก็ถือเป็นเด็ดขาด
ถึงแม้ไอ้แดฮยอนจะทำตาละห้อยตอนมินซอกเก็บของเดินลงเรือนนอนไปพร้อมจุนมยอนก็ตามที
“มึงดูจุนมยอนมันทำสิ! บ้าอะไรขึ้นมาวะแม่ง”ชี้นิ้วตามคนที่เดินลงเรือนนอนไปตั้งนานแล้ว
จงอินส่งสายตาให้มินโฮช่วยลากมันไปที่ที่นอนก่อนจะกดลู่หานให้นั่งลงบนฟูก
“มึงสงบก่อนได้ป่ะสัด
มึงจะงัดกับจุนมยอนหรือไง ลืมไปหรือเปล่าว่านายนั่นเป็นนางพญา”จงอินเตือนสติเพื่อน
ลู่หานตวัดสายตาใส่เพื่อนสนิท
อย่าจะเถียงออกไปว่านางพญาแล้วยังไงเดี๋ยวอีกอาทิตย์นึงก็กลายเป็นคนธรรมดาเหมือนกันแล้วแต่ก็ต้องเงียบปากไว้เพราะเพื่อนคนอื่นอยู่กันเต็มเรือนนอน
จะให้มารู้เรื่องก็ไม่ได้
“จุนมยอนไม่ทำอะไรมินซอกหรอกน่า”จงอินพูดบอก
เพื่อนคนอื่นก็เสริมว่าสภาพนั้นอย่าได้คิดเรื่องอัปรีย์ที่ต่ำกว่าใต้สะดือเชียว
มองยังไงก็ไปทางนั้นไม่ได้ ไอ้ชินอูเสริมให้ว่าจุนมยอนคงเอ็นดูมินซอก
“การเป็นเด็กนางพญาก็ใช่ว่าจะต้องไปเป็นผัวนางพญาอย่างเดียวนี่
พวกเรายังหลงมินซอกกัน แล้วทำไมคนอื่นจะหลงความน่ารักน้องไม่ได้วะ
ดีเหมือนกันที่มินซอกไปเป็นเด็กนางพญา
น้องจะได้ไม่ต้องมาเหนื่อยทำงานด้วย”อูฮยอนอธิบาย
แต่ไม่ได้ทำให้ลู่หานหงุดหงิดใจน้อยลงเลย เพราะรู้อยู่ว่าอีกไม่นานตำแหน่งนางพญานั่นก็ไม่มีผลแล้ว
มินซอกเองก็จะได้ออกจากคุกเหมือนกัน
ไม่ใช่เหตุผลนี้ที่จุนมยอนเอามินซอกไปเป็นเด็กนางพญา
“มินซอกไม่ใช่ของๆมึงนะ
แล้วน้องก็ไม่ได้ขัดขืนซักหน่อย เดินตามจุนมยอนไปต้อยๆ
กูว่าน้องคงถอดใจเรื่องมึงแล้วล่ะ”
“แต่กูรักมินซอก”เถียงขึ้นมาทันควันที่เพื่อนพูดจบ
ถอดใจบ้าบออะไร เขาเห็นอยู่ว่ามินซอกทำตัวน่ารักแค่ไหนตอนเขาคอยดูแลใกล้ๆ
มันไม่ใช่อาการของคนถอดใจเสียหน่อย อีกอย่างเขารักมินซอก ลู่หานรักน้อง
ไม่มีทางหรอก ไม่ว่าจุนมยอนจะบ้าอะไร
แต่จุนมยอนไม่มีสิทธิ์จะพาคนที่ลู่หานรักไปจากเขา
“แล้วมึงเคยบอกว่ารักน้องเหรอ?”เป็นไอ้ดงกอนที่ถามออกมา
ลู่หานพ่นลมหายใจฟืดฟาด
“ก็กูก็พูดอยู่นี่ไง”เขาหัวเสีย
ป่านนี้มินซอกคงขึ้นไปอยู่บนเรือนนอนหงส์แล้ว
แล้วเด็กคนนั้นจะนอนส่วนไหนของเรือนนอนก็ไม่รู้
ไม่ใช่ว่าไปนอนข้างใครเป็นหมอนข้างให้เขากอด น่าหงุดหงิดใจชะมัด
“กูหมายถึงต่อหน้าน้องต่างหาก
พูดดูดีชิบหาย มีใจให้น้อง กูเห็นมึงหลงจนจะสิงร่างมินซอกแล้ว
ทำไมไม่บอกน้องไปเสียที”ลู่หานคว่ำปาก บอกว่าอยากให้มินซอกทำตัวน่ารักกว่านี้
“ควาย”แดฮยอนสวนเข้าให้
ลู่หานยกเท้าถีบเพื่อนไปที
แดฮยอนเองก็ใช่จะยอมมันถลันตัวจะเข้าไปประเคนตีนใส่เพื่อนอยู่เหมือนกันติดที่มินโฮคว้าคอเสื้อเอาไว้ได้ก่อน
“ไม่รีบบอกเดี๋ยวจะโดนคาบไปแดก
จุนมยอนน่ะไม่ได้น่าห่วงหรอก ห่วงแต่ไอ้พวกเรือนนอนหงส์เถอะ กูเห็นบางคนสนใจมินซอกอยู่เหมือกันด้วย
แต่ไม่กล้าแหยมเพราะน้องมีพวกเรา แต่นี่ไปอยู่เรือนนอนเดียวกันแบบนั้น...”จงอินทอดเสียงยาวเพื่อกระตุ้นลู่หานแล้วก็ได้ผลเพราะเพื่อนรักเด้งตัวขึ้นแล้ววิ่งลงเรือนนอนไปทันที
ไม่สนแม้กระทั่งผู้คุมที่ตะโกนด่าตามหลังไปว่ากำลังจะปิดไฟแล้ว
จงอินสะกิดผู้คุมว่าขอให้มันไปเถอะ
ผู้คุมร่างใหญ่บอกว่าเห็นแก่ผู้กองคริสจะปล่อยไป แต่ถ้าไม่รีบกลับมาจะโดนลงโทษ
พูดเสร็จก็ไล่สมาชิกเรือนนอนที่เหลือแยกย้ายกันไปประจำที่นอนของตัวเองก่อนที่ไฟจะถูกดับลงแต่ประตูซี่เหล็กนั้นยังไม่ลงกลอน
รอลู่หานกลับมา
“ถ้าไม่บอกอีกกูจะเอาเลื่อยไฟฟ้ามาตัดเขาแม่ง
ควายจริงๆ”จงอินพึมพำในความมืด...
ค น คุ ก
“มีอะไร คนละเรือนนอนห้ามขึ้นมา”เสียงผู้คุมเอะอะโวยวาย
เพราะเรือนนอนนี้บรรจุนักโทษชั้นดีและนักโทษใกล้พ้นโทษเอาไว้มากเลยมีผู้คุมบางเบาเพียงหนึ่งคนเท่านั้น
จุนมยอนสะกิดมินซอกให้มองไปที่ทางขึ้นเรือนนอน ร่างโปร่งของลู่หานยืนอยู่ตรงนั้น
บอกกับผู้คุมว่าขอขึ้นมาหามินซอกเท่านั้น
“ตลกชะมัด
เห็นไหมมินซอก ถ้าลู่หานไม่รักมินซอก
หมอนั่นไม่เป็นขนาดนี้หรอก”มินซอกครางงื่อรับในลำคอ
ยอมให้จุนมยอนลูบหัวอย่างเอ็นดู
มินซอกเพิ่งรู้ว่าจุนมยอนเป็นคนที่นิสัยดีคนหนึ่ง
อคติในใจที่คนๆนี้เลือกลู่หานเป็นเด็กนางพญาหมดไปเสียแล้ว จากการที่ได้ใกล้ชิดกันแม้จะเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ทำให้รู้ได้ว่าจุนมยอนเป็นคนดี
อีกทั้งยังสวยมากจริงๆ
แววตาคู่นั้นมินซอกก็ชมในใจตลอดเวลาว่ามันช่างงดงามและน่าดึงดูด
“ตอนแรกคิดว่าจะนานกว่านี้นะเนี่ย
ไม่คิดว่าลู่หานจะร้อนรนไวขนาดนี้”จุนมยอนขำเบาๆ มินกิเดินมาบอกว่าลู่หานโวยวายใหญ่แล้ว
จะหามินซอกให้ได้เชียว
คนตัวเล็กกัดปากชั่งใจก่อนจะมองหน้าจุนมยอนเพื่อขอความคิดเห็น จุนมยอนส่ายหน้าบอกว่าอย่าใจอ่อน
เสียงโวยวายของลู่หานยังดังผสมกับเสียงกร่นด่าของผู้คุม
สมาชิกเรือนนอนหงส์เริ่มจะรำคาญกับเสียงโวยวายดังลั่นนี้
ผู้คุมตะโกนลั่นให้ลู่หานกลับไปไม่งั้นจะฟาดด้วยพลองไฟฟ้า
“โอ๊ย!”ยังไม่ทันขาดคำลู่หานก็ร้องเสียงหลง
มินซอกเบิกตากว้างถลาลุกไปเกาะประตูรั้วเหล็กของเอนนอนดูทันที
เห็นคนเป็นพี่ถูกตีด้วยพลองไฟฟ้าจนทรุดลงไปนั่งแต่ลู่หานก็ยังไม่ถอดใจ
“มินซอกลงมา...พี่ร่ะ
อั่ก!”มันยังพยายามจะตะโกนจนผู้คุมต้องฟาดเข้าอีกครั้งที่ท้อง
คราวนี้กระแสไฟหยุดคนที่เป็นเหมือนหมาบ้าได้ชะงัด
ลู่หานเกร็งสั่นแล้วร่วงไปนอนกับพื้น
ผู้คุมคนดังกล่าวถอนหายใจแล้วกวักมือเรียกคนเรือนนอนหงส์ที่บางคนมายืนมองอยู่ให้ช่วยกันหิ้วปีกไอ้คนต่างเรือนนอนกลับไปที่ของมันเสีย
มินซอกกัดปากมองตามร่างของลู่หานโดยหิ้วปีกไป
จุนมยอนไม่ให้เขาตามไป ทั้งที่เขากำลังห่วงลู่หานมากในตอนนี้
นางพญาของเรือนจำส่ายหัวกับความใจอ่อนของมินซอก
เพราะใจอ่อนแบบนี้ลู่หานถึงได้ได้ใจ เก็บงำไม่บอกรักน้องเสียที
ตักตวงเอาความน่ารักไปฟินเล่นๆแล้วกั๊กคำว่ารักเอาไว้ เพราะมินซอกจะยอมแบบนี้ไง
“มานอนได้แล้ว
โดนแค่พลองไฟฟ้าไม่เป็นไรหรอก
ถ้าวุ่นวายมากพี่สั่งให้รุมกระทืบยังจะเจ็บกว่านี้”เขาพูดเรื่องจริง
มินซอกมองพี่ชายคนใหม่ที่เพิ่งทำความรู้จักแบบจริงจัง
ตัดพ้อทางสายตาว่าจะไม่ทำจริงๆใช่ไหม? จุนมยอนไม่ได้ตอบอะไร
ดึงน้องลงนอนที่ฟูกของตัวเอง เพราะสิทธิ์ของนางพญา
แม้จะไม่มีเตียงนอนแต่ก็ได้ฟูกอันใหญ่มาพอที่จะนอนได้ถึงสองคน
“ลู่หานฮยองเขารักผมจริงๆใช่ไหมฮะ?”มินซอกพูดถาม
ดวงไฟของเรือนนอนหงส์ถูกดับลงเมื่อคนที่ไปส่งลู่หานกลับมาเรียบร้อยแล้ว
จุนมยอนพาดมือลงที่เอวของน้องแล้วเอื้อมไปลูบหลังอีกคนเหมือนเด็กๆเวลาจะหลับ
เด็กหนอเด็ก
กลัวว่าเขาจะแค่หลอกให้ดีใจ เพราะคำว่ารักไม่เคยได้ยินจากปากของพี่ชาย
คงเพราะมินซอกยังทำให้ลู่หานหันมารักมินซอกไม่ได้
แต่คำพูดของจุนมยอนที่บอกว่าลู่หานรักเขาก็ทำให้มีความสุขขึ้นมาจนอดจะยิ้มไม่ได้
ท่าทีที่อีกคนเป็นเดือดเป็นร้อนตอนเขาได้เป็นเด็กนางพญานั่นอีก
จุนมยอนเกลี่ยก้านนิ้วขาวลงบนแก้มอวบนิ่ม
บอกว่าหลับเถอะ
“รักสิ
อีกไม่นานก็ได้ยินเองจากปากลู่หานแล้วล่ะ พี่รับประกัน”
จุนมยอนพูดบอก
มินซอกคงหลับไปแล้วสังเกตได้จากเสียงหายใจที่สม่ำเสมอ จุนมยอนลูบหัวน้องอีกครั้ง
เอ็นดูเด็กคนนี้มากจริง
แม้ว่าเคยเห็นหลายครั้งแต่ก็ไม่เคยทำความรู้จักจริงจังเสียที
ก็เด็กนี่ชอบลู่หานนี่นะ ใครจะอยากทำความรู้จักกับคนที่เป็นเหมือนศัตรูหัวใจล่ะ
แต่พอได้มาอยู่ใกล้ๆก็เข้าใจทันทีว่าทำไมพวกเรือนนอนสิงห์ถึงได้โอ๋และเอ็นดูน้องขนาดนี้
ความจริงแล้วเด็กอย่างมินซอกไม่สมควรจะมาอยู่ในสถานที่แบบนี้เลยด้วยซ้ำ
ได้ยินจากผู้คุมอินซูอยู่เหมือนกันว่าจงอินกับลู่หานจะพาน้องออกไปด้วย
ผู้กองตัวสูงคนนั้นเดินเรื่องช่วยและน้องอาจจะได้ออกไปช้ากว่าพวกเขาเล็กน้อย
ขุนมยอนนึกดีใจที่ยังไงก็ได้ออกไป เพราะหากไม่มีจงอินกับลู่หานแล้ว คนอื่นๆที่เหลืออาจจะปกป้องน้องได้แต่ก็ไม่ตลอดเวลา
คำว่าปกป้องไม่ใช่การปกป้องจากใครที่จะมารังแก
แต่เป็นการปกป้องให้เด็กคนนี้ยังจิตใจบริสุทธิ์แบบนี้ตลอดไป
ค น คุ ก
ตอนวิ่งออกไปไปอย่างคน
เยี่ยงพระเอก นึกว่าทอมครูซ แต่ตอนกลับมานี่...เยี่ยงหมา
จงอินส่ายหน้า
ตอนที่พวกเรือนนอนหงส์หามมันกลับมาส่งก็ทำอะไรไม่ได้แม้แต่ดูแผล
แต่รู้ว่าลู่หานคงโดนพลองผู้คุมฟาดมา
เพราะเรือนนอนถูกปิดไฟหมดแล้วเลยทำได้แค่หิ้วมันไปนอนที่ฟูก
รู้ว่าลู่หานรู้สึกตัวแต่คงเพราะถูกพลองไฟฟ้าช็อตเรี่ยวแรงเลยไม่มี
จงอินบอกให้มันนอนไปเหอะ อย่าเพิ่งทำพระเอกจะลุกขึ้นมา
พอตอนเช้าอาการของมันถึงดีขึ้น
เรี่ยวแรงกลับมาเหมือนเดิมแล้วแต่ตามตัวก็ยังเคล็ดๆเสียวแปลบอยู่บ้าง
“น้องไม่ลงมาหากูเลย
แล้วพอกูจะตะโกนบอกรักน้อง เชี่ยผู้คุมเสือกฟาดพลองใส่ สัดหมา”มันบ่น
เรียกเสียงหัวเราะจากไอ้แดฮยอนได้แถมมันยังสมน้ำหน้าใส่ลู่หานอีกด้วย
“เนี่ยแหล่ะ
น้องอยู่ข้างตัวมึงเสือกลีลา เป็นไงล่ะ
ตอนบอกง่ายๆไม่บอก”ชินอูเสริมแดฮยอนเข้าไปอีก ลู่หานถอนหายใจออกมา
ถึงกับจุนมยอนจะรู้จักกัน...เรียกว่าในระดับหนึ่ง
แต่เพราะตำแหน่งของจุนมยอนที่ยังไม่หมดความอภิสิทธิ์ลงทำให้ยากที่เขาจะได้มินซอกกลับมา
“มึงว่าจุนมยอนทำอย่างนี้ทำไมวะ”ลู่หานถามความเห็นของจงอินเกี่ยวกับการที่จุนมยอนเอามินซอกไปเป็นเด็กนางพญาอีกครั้ง
จงอินไหวไหล่ถึงจะรู้อยู่เต็มใจว่าจุนมยอนต้องการจะสั่งสอนไอ้คนปากแข็งก็ตามที
พ่อหมีบอกว่าจุนมยอนก็คงแค่เอ็นดูน้อง
“มาเอ็นดูเหี้ยอะไรตอนจะออกแล้ว”บ่นอย่างไม่เข้าใจ
จงอินตบลงบนบ่าเพื่อนบอกว่าก็รู้นี่ว่าอีกหกวันจะพ้นโทษ
ก็ปล่อยให้มินซอกไปเป็นน้องเล็กเรือนนอนหงส์สักหกวันจะเป็ไร
“เป็นที่กูหวงไง”ตอบได้ตรงจนจงอินอยากจะเบ้หน้า
“ครับๆ
งั้นก็แล้วแต่พี่เถอะครับจะทำยังไงให้น้องกลับมาสู่อ้อมอก กูช่วยอะไรไม่ได้หรอก
จุนมยอนเป็นนางพญา
แต่ก่อนอาจจะไม่เรียกร้องสิทธิ์มากมายแต่เขาก็มีสิทธิ์อยู่ดี”พูดเรืองจริง
และอินซูก็ช่วยอะไรไม่ได้เช่นกัน นางพญาถ้าคิดจะใช้สิทธิ์ของการเป็นนางพญา
ผู้คุมก็ไม่อาจจะค้านได้ เพราะไม่อย่างนั้นถ้าเรื่องหลุดไปถึงแดนอื่น
พวกนักโทษรู้ว่านางพญาที่ตัวเองเทิดทูนมีปัญหา
พวกนั้นอาจจะลุกฮือกันขึ้นมาแล้วเป็นปัญหาเกิดขึ้นกับเรือนจำได้
“แล้ววันนี้มินซอกลงงานกับพวกนั้นใช่ไหม?”ถามเบี่ยงไปประเด็นงานวันนี้
มินซอกอยู่ติดกับจุนมยอนตลอดเวลา ตอนนี้ก็ไปกินข้าวด้วยกันกับเรือนนอนหงส์
คงต้องลงงานด้วยกันสินะ มินโฮบอกว่าคงเป็นอย่างนั้น
วันนี้เรือนนอนหงส์ไปลงคหกรรมอบขนม ส่วนเรือนนอนสิงห์วันนี้งานชล
งานชลที่ว่านานๆทีถึงจะได้ลงงานกัน
หน้าที่สุดพิเศษที่นานๆจะมีผู้ได้รับหน้าทีปฏิบัติ
“ลอกคูน้ำตรงแปลงเกษตร”มินโฮเฉลยออกมาเมื่อแดฮยอนถามว่างานชลคืออะไร
พอได้ยินเพื่อนบอกความหมายแท้จริงของหน้าที่ แดฮยอนทำหน้าแหยขึ้นมาทันที
ก็คูน้ำตรงแปลงเกษตรนั่นตื้นเขินไปหมดแล้ว คงไมได้ลอกมานาน
“งานหนัก
งานช้าง งานดินถล่ม”มันบ่นพึมพำจนทุกคนส่ายหัว
“ไม่อยากเหนื่อยก็คอยเอาน้ำบริการกูนะตุ๊ด”จงอินว่าเย้า
แดฮยอนหันมาแยกเขี้ยวใส่บอกว่าบ่นไปงั้นแหล่ะ งานแมนต้องมา
เรื่องแค่นี้สบายอยู่แล้ว ลู่หานขมวดคิ้ว
เพราะงานวันนี้หนัก...ที่คิดไว้ว่าจะไปหามินซอกที่ช็อปคหกรรมคงทำไม่ได้สินะ
มินซอกคลี่ยิ้มอยู่ท่ามกลางคนของเรือนนอนสิงห์
แต่ละคนเป็นนักโทษชั้นดีและนักโทษใกล้พ้นโทษทั้งนั้น
คนของเรือนนอนสิงห์จึงประกอบด้วยนักทาที่เป็นวัยกลางคนเสียส่วนมาก
อย่างนัมแทคอุนนี่อายุ32ปีแล้ว แถมยังเก่งเรื่องการทำคุกกี้เสียด้วย
“นวดแป้งเก่งนี่”แทคอุนเอ่ยชมคนตัวเล็กยิ่งยิ้มใหญ่
บอกว่าถนัดลงงานคหกรรมที่สุด ตอนอยู่เรือนจำศาลมีคนที่รู้จักก็ทำขนมเก่งเหมือนกัน
ได้สูตรจากคนนั้นมาเพียบ
“ออกไปคงทำขนมขายได้เลยสิ”แทคอุนว่า
เตรียมช็อกโกแลตด้วยการละลายช็อกโกแลตบาร์เพื่อจะนำไปผสมแป้งทำคุกกี้ช็อกโกแลตชิพขายในสหกรณ์
มินซอกหุบยิ้มลง บอกว่าก็อีกตั้งปีกว่าเชียว
“ติดแค่สองปีเอง
เวลามันเดินผ่านไปเร็วจะตาย พี่ติดมาหกปีแล้ว โดนทั้งเสพทั้งขาย เข้าๆออกๆหลายรอบจนเขาไม่ปราณีลดโทษให้”แทคอุนขำกับเรื่องของตัวเอง
ปรกติหากเป็นความผิดครั้งแรกหรือครั้งที่สอง
ถ้ามีคนยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวก็จะถูกส่งไปตาม่ายทหารเป็นส่วนมาก
เป็นโรงเรียนวิวัฒน์พลเมือง คืนคนดีกลับสู่สังคม แต่ถ้าความผิดซ้ำซ้อน
ก็จะถูกลิดรอนสิทธิ์การยื่นหลักทรัพย์และติดคุกอย่างเดียวไม่มีลดหย่อนโทษ
เว้นแต่จะทำตัวเป็นนักโทษชั้นดีก็จะมีการพิจารณาลดหย่อนตามเห็นสมควร
“พี่จะพ้นโทษตอนไหนล่ะฮะ”มินซอกตาม
ทุบซีเรียลในกล่องอาหารเช้าให้พอแหลกเอามาผสมคุกกี้ด้วย
แทคอุนบอกว่าอีกเดือนหนึ่งเท่านั้น มินซอกดีใจกับผู้ชายวัยกลางคนคนนี้ด้วย
“พี่เองออกไปก็คิดว่าอยากจะทำร้านเบเกอรี่
ไอ้พวกนั้นจะไปสมัครเป็นลูกน้อง”บุ้ยปากไปทางนักโทษของเรือนนอนหงส์อีกหลายคนที่ขะมักเขม้นกับการร่อนแป้งอยู่
“มินซอกอยากทำร้านเบเกอรี่บ้างเหรอ?”จุนมยอนถามออกมา
เขานั่งตอกไข่และแยกไข่แดงออกจากไข่ขาวอยู่ข้างๆได้ยินที่มินซอกคุยกับแทคอุนทุกอย่าง
มินซอกก้มหน้าลงอ้อมแอ้มบอกว่าทำขนมก็สนุกดี
วิชาที่ได้จากในคุกนี่ก็เห็นจะมีคหกรรมที่พอจะเอาไปทำมาหากินได้ แต่คงไม่มีทุนจะเปิดร้านเบเกอรี่ของตัวเองหรอก
“ไปอยู่กับแทคอุนไง
ได้ไหมพี่? น้องมันก็เก่ง
มีเชฟฝีมือดีๆรับรองร้านมีคนเข้ามาซื้อเยอะแนะ”จุนมยอนถามคนที่เทช็อกโกแลตผสมแป้งคุกกี้แล้วใส่ซีเรียลลงไปผสมด้วย
แทคอุนหัวเราะบอกว่าได้อยู่แล้ว แต่คงต้องรอหน่อยกว่าจะมีร้านเป็นของตัวเอง
ยังไงออกไปได้ก็คงต้องหางานทำเพื่อเก็บทุนสักก้อนก่อนอยู่ดี
เนื้อแป้งคุกกี้ถูกบีบลงในถาด
มินซอกเตรียมช็อกโกแลตชิพไว้โรยหน้าแล้วปล่อยให้แทคอุนเอาถาดคุกกี้เข้าเตาอบไป
“ไม่ว่าใครน่ะ
ถ้าออกจากคุกไปแล้ว ถ้าพี่มีงานทำ มีร้านของตัวเอง อยากมาทำกับพี่ก็มาเถอะ
คนที่ออกไปจากคุก...ที่ยืนในสังคมมีไม่มากหรอก พี่เคยหลายรอบแล้วเข้าใจซึ้งดีเลย
หลายที่ก็เปิดโอกาสให้แต่บางที่ก็ไม่
เพราะฉะนั้นคนที่อยู่ในคุกมาจึงเข้าใจจุดนี้ดี
“ขอให้คิดแลกลับตัวได้
พร้อมจะเริ่มชีวิตใหม่แล้วจริงๆก็พอ”
TBC.
สั้นหน่อยนะคะ
หายไปหน้าเอสี่กว่าๆ เมื่อคืนน้อคอีกแล้ว - -* แต่งไว้ กดเซฟตื่นขึ้นมาจะแต่งต่อปรากฏว่าเนื้อหาหายไปครึ่งหน้า.......................
(อาจจะดูน้อยแต่ถ้าสำหรับเรากว่าจะคิดออกมาได้มันยากจริงๆ)
จะร้องไห้ๆๆๆๆๆๆๆ
ใครสนใจรวมเล่มไปกรอกแบบสอบถามกันได้จ่ะ
คิดว่าไม่รวมเร็วๆนี้ แน่นอน...ถามไว้ก่อนดูจำนวนคน
รักจริงไม่นอกจรัยยยยยยย
รักมากที่สุดในจักรยานนนนนนนนน
#พี่ลู่คนคุก
แมลงจี่...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น