วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2557

คนคุก14.2

ทุกคนมีความฝัน แต่บางคนเท่านั้นที่ถึงฝั่งฝัน



บทที่14.1

ลู่หานดึงแขนของมินซอกเอาไว้...นี่มันอะไร เขางงไปหมด
“ไม่ให้ไป”เสียงเข้มใส่คนเป็นน้องที่ยืนคอหด จุนมยอนจับแขนมินซอกอยู่อีกข้างหนึ่งดึงคนตัวเล็กให้ไปอยู่ข้างตัวเอง
“อยากโดนดีเหรอลู่หาน เราจะเอามินซอกไปนอนด้วย”นางพญาเอ่ยเรียบ แอบสงสารคนตัวเล็กที่อยู่ระหว่างเขาทั้งสองคน แต่ก็ได้รู้อะไรดีๆขึ้นมาจากเหตุการณ์ทีเกิดขึ้น จุนมยอนมองออกทันทีเลยว่าลู่หานรักเด็กคนนี้เข้าเต็มตัวแถมหึงหวงจนออกนอกหน้า เพราะมีแค่ลู่หานที่เดือดร้อนนักหนากับการที่มินซอกต้องมาเป็นเด็กนางพญา จุนมยอนกระซิบให้น้องมองท่าทีหัวเสียของลู่หานตอนที่เขาพามินซอกออกมาหลังประกาศตำแหน่งเด็กนางพญาคนใหม่แล้ว
เห็นมินซอกพาดสีแดงที่แก้มอย่างน่าชัง จุนมยอนยังขยี้หัวน้องไปด้วยความเอ็นดู ขั้นต่อไปคือการพามินซอกไปอยู่ที่เรือนนอนหงส์ จุนมยอนอ้างว่าเพราะเป็นเด็กนางพญาแล้ว ไปอยู่กับนางพญาก็ไม่เห็นจะแปลก ทุกคนไม่อาจค้านได้ จงอินกอดอกยืนมองอยู่ไม่ห่างแต่ไม่ยุ่งด้วย เขาแอบหัวเราะด้วยซ้ำ เพราะจุนมยอนมาบอกแล้วว่านี่เป็นการดัดหลังลู่หานเรื่องมินซอก จุนมยอนบอกว่ามินซอกไปถามกับเจ้าตัวว่าทำยังไงให้ลู่หานรัก เพราะลู่หานโกหกว่าชอบจุนมยอน เห็นแบบนั้นนางพญาคนสวยเลยคิดแผนนี้ขึ้นมา ให้มินซอกไปเป็นเด็กนางพญา ให้มินซอกไปอยู่เรือนนอนหงส์ ลู่หานจะได้อกแตกตาย
จงอินอดจะเห็นด้วยกับจุนมยอนไม่ได้จริงๆ ถึงพี่ควายจะกลายร่างเป็นคนไปแล้ว แต่มันก็ไม่เคยบอกรักน้องสักที เห็นบอกแค่รู้สึกดีมีใจให้ แต่ไม่เคยได้ยินคำว่ารักออกจากปาก มีแต่ที่มันบอกให้น้องทำให้มันรักให้ได้ อยากจะถ่มน้ำลายใส่หน้ามินจริงๆ ก็เห็นๆกันอยู่ว่ามันทั้งรักทั้งหลงจนจะจับมินซอกกิน
ไม่ยอมพูดเสียที ให้จุนมยอนจัดการตามนี้ก็ดีเหมือนกัน ดูสิมันจะอมคำว่ารักไว้อีกนานไหม?
 “จุนมยอน...”ลู่หานกดเสียงต่ำไปอีก แต่เจ้าของชื่อกลับยืนเฉยไม่ปล่อยมินซอกกลับคืนมา ลู่หานหัวเสีย เขาจะยอมให้มินซอกไปอยู่เรือนนอนหงส์ได้ยังไงกัน
“มินซอกปฏิเสธไปสิ อยากเป็นเด็กนางพญาเหรอ?”เมื่อเอาความกับจุนมยอนไม่ได้ก็หันมาหาคนตัวเล็กที่ยืนก้มหน้างุดแทน ลู่หานหงุดหงิดใจเพิ่มเมื่อมินซอกไม่ตอบรับอะไร คนตัวเล็กค่อยๆเอื้อมมือมาปลดมือของลู่หานออกจากแขนแล้วขยับไปอยู่หลังจุนมยอน แม้จะสูงกว่ากันไม่มากแต่คนตัวขาวก็บังมินซอกได้พอดิบพอดี ลู่หานอ้าปากค้างกับการกระทำของน้อง แต่ไม่ทันจะคว้ามินซอกกลับมา จุนมยอนก็พามินซอกเดินลงเรือนนอนสิงห์ไปพร้อมกับของใช้มินซอกบางส่วน
“มึงหยุดก่อนเหี้ยหาน”จงอินรั้งเพื่อนไว้ มินโฮเองก็ดึงเอวลู่หานไม่ให้ถลาตามนางพญาและน้องเล็กของเรือนนอนสิงห์ไป ถึงจะงงกันไปหมดว่าทำไมอยู่ดีๆมินซอกถึงได้กลายเป็นเด็กนางพญา แต่พี่ๆก็ไม่อาจจะยุ่มย่ามได้ เมื่อนางพญาเลือกแล้วก็ถือเป็นเด็ดขาด ถึงแม้ไอ้แดฮยอนจะทำตาละห้อยตอนมินซอกเก็บของเดินลงเรือนนอนไปพร้อมจุนมยอนก็ตามที  
“มึงดูจุนมยอนมันทำสิ! บ้าอะไรขึ้นมาวะแม่ง”ชี้นิ้วตามคนที่เดินลงเรือนนอนไปตั้งนานแล้ว จงอินส่งสายตาให้มินโฮช่วยลากมันไปที่ที่นอนก่อนจะกดลู่หานให้นั่งลงบนฟูก
“มึงสงบก่อนได้ป่ะสัด มึงจะงัดกับจุนมยอนหรือไง ลืมไปหรือเปล่าว่านายนั่นเป็นนางพญา”จงอินเตือนสติเพื่อน ลู่หานตวัดสายตาใส่เพื่อนสนิท อย่าจะเถียงออกไปว่านางพญาแล้วยังไงเดี๋ยวอีกอาทิตย์นึงก็กลายเป็นคนธรรมดาเหมือนกันแล้วแต่ก็ต้องเงียบปากไว้เพราะเพื่อนคนอื่นอยู่กันเต็มเรือนนอน จะให้มารู้เรื่องก็ไม่ได้
“จุนมยอนไม่ทำอะไรมินซอกหรอกน่า”จงอินพูดบอก เพื่อนคนอื่นก็เสริมว่าสภาพนั้นอย่าได้คิดเรื่องอัปรีย์ที่ต่ำกว่าใต้สะดือเชียว มองยังไงก็ไปทางนั้นไม่ได้ ไอ้ชินอูเสริมให้ว่าจุนมยอนคงเอ็นดูมินซอก
“การเป็นเด็กนางพญาก็ใช่ว่าจะต้องไปเป็นผัวนางพญาอย่างเดียวนี่ พวกเรายังหลงมินซอกกัน แล้วทำไมคนอื่นจะหลงความน่ารักน้องไม่ได้วะ ดีเหมือนกันที่มินซอกไปเป็นเด็กนางพญา น้องจะได้ไม่ต้องมาเหนื่อยทำงานด้วย”อูฮยอนอธิบาย แต่ไม่ได้ทำให้ลู่หานหงุดหงิดใจน้อยลงเลย เพราะรู้อยู่ว่าอีกไม่นานตำแหน่งนางพญานั่นก็ไม่มีผลแล้ว มินซอกเองก็จะได้ออกจากคุกเหมือนกัน ไม่ใช่เหตุผลนี้ที่จุนมยอนเอามินซอกไปเป็นเด็กนางพญา
“มินซอกไม่ใช่ของๆมึงนะ แล้วน้องก็ไม่ได้ขัดขืนซักหน่อย เดินตามจุนมยอนไปต้อยๆ กูว่าน้องคงถอดใจเรื่องมึงแล้วล่ะ”
“แต่กูรักมินซอก”เถียงขึ้นมาทันควันที่เพื่อนพูดจบ ถอดใจบ้าบออะไร เขาเห็นอยู่ว่ามินซอกทำตัวน่ารักแค่ไหนตอนเขาคอยดูแลใกล้ๆ มันไม่ใช่อาการของคนถอดใจเสียหน่อย อีกอย่างเขารักมินซอก ลู่หานรักน้อง ไม่มีทางหรอก ไม่ว่าจุนมยอนจะบ้าอะไร แต่จุนมยอนไม่มีสิทธิ์จะพาคนที่ลู่หานรักไปจากเขา
“แล้วมึงเคยบอกว่ารักน้องเหรอ?”เป็นไอ้ดงกอนที่ถามออกมา ลู่หานพ่นลมหายใจฟืดฟาด
“ก็กูก็พูดอยู่นี่ไง”เขาหัวเสีย ป่านนี้มินซอกคงขึ้นไปอยู่บนเรือนนอนหงส์แล้ว แล้วเด็กคนนั้นจะนอนส่วนไหนของเรือนนอนก็ไม่รู้ ไม่ใช่ว่าไปนอนข้างใครเป็นหมอนข้างให้เขากอด น่าหงุดหงิดใจชะมัด
“กูหมายถึงต่อหน้าน้องต่างหาก พูดดูดีชิบหาย มีใจให้น้อง กูเห็นมึงหลงจนจะสิงร่างมินซอกแล้ว ทำไมไม่บอกน้องไปเสียที”ลู่หานคว่ำปาก บอกว่าอยากให้มินซอกทำตัวน่ารักกว่านี้
“ควาย”แดฮยอนสวนเข้าให้ ลู่หานยกเท้าถีบเพื่อนไปที แดฮยอนเองก็ใช่จะยอมมันถลันตัวจะเข้าไปประเคนตีนใส่เพื่อนอยู่เหมือนกันติดที่มินโฮคว้าคอเสื้อเอาไว้ได้ก่อน
“ไม่รีบบอกเดี๋ยวจะโดนคาบไปแดก จุนมยอนน่ะไม่ได้น่าห่วงหรอก ห่วงแต่ไอ้พวกเรือนนอนหงส์เถอะ กูเห็นบางคนสนใจมินซอกอยู่เหมือกันด้วย แต่ไม่กล้าแหยมเพราะน้องมีพวกเรา แต่นี่ไปอยู่เรือนนอนเดียวกันแบบนั้น...”จงอินทอดเสียงยาวเพื่อกระตุ้นลู่หานแล้วก็ได้ผลเพราะเพื่อนรักเด้งตัวขึ้นแล้ววิ่งลงเรือนนอนไปทันที ไม่สนแม้กระทั่งผู้คุมที่ตะโกนด่าตามหลังไปว่ากำลังจะปิดไฟแล้ว จงอินสะกิดผู้คุมว่าขอให้มันไปเถอะ ผู้คุมร่างใหญ่บอกว่าเห็นแก่ผู้กองคริสจะปล่อยไป แต่ถ้าไม่รีบกลับมาจะโดนลงโทษ พูดเสร็จก็ไล่สมาชิกเรือนนอนที่เหลือแยกย้ายกันไปประจำที่นอนของตัวเองก่อนที่ไฟจะถูกดับลงแต่ประตูซี่เหล็กนั้นยังไม่ลงกลอน รอลู่หานกลับมา
“ถ้าไม่บอกอีกกูจะเอาเลื่อยไฟฟ้ามาตัดเขาแม่ง ควายจริงๆ”จงอินพึมพำในความมืด...


ค น คุ ก


“มีอะไร คนละเรือนนอนห้ามขึ้นมา”เสียงผู้คุมเอะอะโวยวาย เพราะเรือนนอนนี้บรรจุนักโทษชั้นดีและนักโทษใกล้พ้นโทษเอาไว้มากเลยมีผู้คุมบางเบาเพียงหนึ่งคนเท่านั้น จุนมยอนสะกิดมินซอกให้มองไปที่ทางขึ้นเรือนนอน ร่างโปร่งของลู่หานยืนอยู่ตรงนั้น บอกกับผู้คุมว่าขอขึ้นมาหามินซอกเท่านั้น
“ตลกชะมัด เห็นไหมมินซอก ถ้าลู่หานไม่รักมินซอก หมอนั่นไม่เป็นขนาดนี้หรอก”มินซอกครางงื่อรับในลำคอ ยอมให้จุนมยอนลูบหัวอย่างเอ็นดู
มินซอกเพิ่งรู้ว่าจุนมยอนเป็นคนที่นิสัยดีคนหนึ่ง อคติในใจที่คนๆนี้เลือกลู่หานเป็นเด็กนางพญาหมดไปเสียแล้ว จากการที่ได้ใกล้ชิดกันแม้จะเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ทำให้รู้ได้ว่าจุนมยอนเป็นคนดี อีกทั้งยังสวยมากจริงๆ แววตาคู่นั้นมินซอกก็ชมในใจตลอดเวลาว่ามันช่างงดงามและน่าดึงดูด
“ตอนแรกคิดว่าจะนานกว่านี้นะเนี่ย ไม่คิดว่าลู่หานจะร้อนรนไวขนาดนี้”จุนมยอนขำเบาๆ มินกิเดินมาบอกว่าลู่หานโวยวายใหญ่แล้ว จะหามินซอกให้ได้เชียว คนตัวเล็กกัดปากชั่งใจก่อนจะมองหน้าจุนมยอนเพื่อขอความคิดเห็น จุนมยอนส่ายหน้าบอกว่าอย่าใจอ่อน
เสียงโวยวายของลู่หานยังดังผสมกับเสียงกร่นด่าของผู้คุม สมาชิกเรือนนอนหงส์เริ่มจะรำคาญกับเสียงโวยวายดังลั่นนี้ ผู้คุมตะโกนลั่นให้ลู่หานกลับไปไม่งั้นจะฟาดด้วยพลองไฟฟ้า
“โอ๊ย!”ยังไม่ทันขาดคำลู่หานก็ร้องเสียงหลง มินซอกเบิกตากว้างถลาลุกไปเกาะประตูรั้วเหล็กของเอนนอนดูทันที เห็นคนเป็นพี่ถูกตีด้วยพลองไฟฟ้าจนทรุดลงไปนั่งแต่ลู่หานก็ยังไม่ถอดใจ
“มินซอกลงมา...พี่ร่ะ อั่ก!”มันยังพยายามจะตะโกนจนผู้คุมต้องฟาดเข้าอีกครั้งที่ท้อง คราวนี้กระแสไฟหยุดคนที่เป็นเหมือนหมาบ้าได้ชะงัด ลู่หานเกร็งสั่นแล้วร่วงไปนอนกับพื้น ผู้คุมคนดังกล่าวถอนหายใจแล้วกวักมือเรียกคนเรือนนอนหงส์ที่บางคนมายืนมองอยู่ให้ช่วยกันหิ้วปีกไอ้คนต่างเรือนนอนกลับไปที่ของมันเสีย
มินซอกกัดปากมองตามร่างของลู่หานโดยหิ้วปีกไป จุนมยอนไม่ให้เขาตามไป ทั้งที่เขากำลังห่วงลู่หานมากในตอนนี้
นางพญาของเรือนจำส่ายหัวกับความใจอ่อนของมินซอก เพราะใจอ่อนแบบนี้ลู่หานถึงได้ได้ใจ เก็บงำไม่บอกรักน้องเสียที ตักตวงเอาความน่ารักไปฟินเล่นๆแล้วกั๊กคำว่ารักเอาไว้ เพราะมินซอกจะยอมแบบนี้ไง
“มานอนได้แล้ว โดนแค่พลองไฟฟ้าไม่เป็นไรหรอก ถ้าวุ่นวายมากพี่สั่งให้รุมกระทืบยังจะเจ็บกว่านี้”เขาพูดเรื่องจริง มินซอกมองพี่ชายคนใหม่ที่เพิ่งทำความรู้จักแบบจริงจัง ตัดพ้อทางสายตาว่าจะไม่ทำจริงๆใช่ไหม? จุนมยอนไม่ได้ตอบอะไร ดึงน้องลงนอนที่ฟูกของตัวเอง เพราะสิทธิ์ของนางพญา แม้จะไม่มีเตียงนอนแต่ก็ได้ฟูกอันใหญ่มาพอที่จะนอนได้ถึงสองคน
“ลู่หานฮยองเขารักผมจริงๆใช่ไหมฮะ?”มินซอกพูดถาม ดวงไฟของเรือนนอนหงส์ถูกดับลงเมื่อคนที่ไปส่งลู่หานกลับมาเรียบร้อยแล้ว จุนมยอนพาดมือลงที่เอวของน้องแล้วเอื้อมไปลูบหลังอีกคนเหมือนเด็กๆเวลาจะหลับ
เด็กหนอเด็ก กลัวว่าเขาจะแค่หลอกให้ดีใจ เพราะคำว่ารักไม่เคยได้ยินจากปากของพี่ชาย คงเพราะมินซอกยังทำให้ลู่หานหันมารักมินซอกไม่ได้ แต่คำพูดของจุนมยอนที่บอกว่าลู่หานรักเขาก็ทำให้มีความสุขขึ้นมาจนอดจะยิ้มไม่ได้ ท่าทีที่อีกคนเป็นเดือดเป็นร้อนตอนเขาได้เป็นเด็กนางพญานั่นอีก
จุนมยอนเกลี่ยก้านนิ้วขาวลงบนแก้มอวบนิ่ม บอกว่าหลับเถอะ
“รักสิ อีกไม่นานก็ได้ยินเองจากปากลู่หานแล้วล่ะ พี่รับประกัน”
จุนมยอนพูดบอก มินซอกคงหลับไปแล้วสังเกตได้จากเสียงหายใจที่สม่ำเสมอ จุนมยอนลูบหัวน้องอีกครั้ง เอ็นดูเด็กคนนี้มากจริง แม้ว่าเคยเห็นหลายครั้งแต่ก็ไม่เคยทำความรู้จักจริงจังเสียที ก็เด็กนี่ชอบลู่หานนี่นะ ใครจะอยากทำความรู้จักกับคนที่เป็นเหมือนศัตรูหัวใจล่ะ แต่พอได้มาอยู่ใกล้ๆก็เข้าใจทันทีว่าทำไมพวกเรือนนอนสิงห์ถึงได้โอ๋และเอ็นดูน้องขนาดนี้
ความจริงแล้วเด็กอย่างมินซอกไม่สมควรจะมาอยู่ในสถานที่แบบนี้เลยด้วยซ้ำ ได้ยินจากผู้คุมอินซูอยู่เหมือนกันว่าจงอินกับลู่หานจะพาน้องออกไปด้วย ผู้กองตัวสูงคนนั้นเดินเรื่องช่วยและน้องอาจจะได้ออกไปช้ากว่าพวกเขาเล็กน้อย ขุนมยอนนึกดีใจที่ยังไงก็ได้ออกไป เพราะหากไม่มีจงอินกับลู่หานแล้ว คนอื่นๆที่เหลืออาจจะปกป้องน้องได้แต่ก็ไม่ตลอดเวลา
 คำว่าปกป้องไม่ใช่การปกป้องจากใครที่จะมารังแก แต่เป็นการปกป้องให้เด็กคนนี้ยังจิตใจบริสุทธิ์แบบนี้ตลอดไป

ค น คุ ก

ตอนวิ่งออกไปไปอย่างคน เยี่ยงพระเอก นึกว่าทอมครูซ แต่ตอนกลับมานี่...เยี่ยงหมา

จงอินส่ายหน้า ตอนที่พวกเรือนนอนหงส์หามมันกลับมาส่งก็ทำอะไรไม่ได้แม้แต่ดูแผล แต่รู้ว่าลู่หานคงโดนพลองผู้คุมฟาดมา เพราะเรือนนอนถูกปิดไฟหมดแล้วเลยทำได้แค่หิ้วมันไปนอนที่ฟูก รู้ว่าลู่หานรู้สึกตัวแต่คงเพราะถูกพลองไฟฟ้าช็อตเรี่ยวแรงเลยไม่มี จงอินบอกให้มันนอนไปเหอะ อย่าเพิ่งทำพระเอกจะลุกขึ้นมา
พอตอนเช้าอาการของมันถึงดีขึ้น เรี่ยวแรงกลับมาเหมือนเดิมแล้วแต่ตามตัวก็ยังเคล็ดๆเสียวแปลบอยู่บ้าง
“น้องไม่ลงมาหากูเลย แล้วพอกูจะตะโกนบอกรักน้อง เชี่ยผู้คุมเสือกฟาดพลองใส่ สัดหมา”มันบ่น เรียกเสียงหัวเราะจากไอ้แดฮยอนได้แถมมันยังสมน้ำหน้าใส่ลู่หานอีกด้วย
“เนี่ยแหล่ะ น้องอยู่ข้างตัวมึงเสือกลีลา เป็นไงล่ะ ตอนบอกง่ายๆไม่บอก”ชินอูเสริมแดฮยอนเข้าไปอีก ลู่หานถอนหายใจออกมา ถึงกับจุนมยอนจะรู้จักกัน...เรียกว่าในระดับหนึ่ง แต่เพราะตำแหน่งของจุนมยอนที่ยังไม่หมดความอภิสิทธิ์ลงทำให้ยากที่เขาจะได้มินซอกกลับมา
“มึงว่าจุนมยอนทำอย่างนี้ทำไมวะ”ลู่หานถามความเห็นของจงอินเกี่ยวกับการที่จุนมยอนเอามินซอกไปเป็นเด็กนางพญาอีกครั้ง จงอินไหวไหล่ถึงจะรู้อยู่เต็มใจว่าจุนมยอนต้องการจะสั่งสอนไอ้คนปากแข็งก็ตามที พ่อหมีบอกว่าจุนมยอนก็คงแค่เอ็นดูน้อง
“มาเอ็นดูเหี้ยอะไรตอนจะออกแล้ว”บ่นอย่างไม่เข้าใจ จงอินตบลงบนบ่าเพื่อนบอกว่าก็รู้นี่ว่าอีกหกวันจะพ้นโทษ ก็ปล่อยให้มินซอกไปเป็นน้องเล็กเรือนนอนหงส์สักหกวันจะเป็ไร
“เป็นที่กูหวงไง”ตอบได้ตรงจนจงอินอยากจะเบ้หน้า
“ครับๆ งั้นก็แล้วแต่พี่เถอะครับจะทำยังไงให้น้องกลับมาสู่อ้อมอก กูช่วยอะไรไม่ได้หรอก จุนมยอนเป็นนางพญา แต่ก่อนอาจจะไม่เรียกร้องสิทธิ์มากมายแต่เขาก็มีสิทธิ์อยู่ดี”พูดเรืองจริง และอินซูก็ช่วยอะไรไม่ได้เช่นกัน นางพญาถ้าคิดจะใช้สิทธิ์ของการเป็นนางพญา ผู้คุมก็ไม่อาจจะค้านได้ เพราะไม่อย่างนั้นถ้าเรื่องหลุดไปถึงแดนอื่น พวกนักโทษรู้ว่านางพญาที่ตัวเองเทิดทูนมีปัญหา พวกนั้นอาจจะลุกฮือกันขึ้นมาแล้วเป็นปัญหาเกิดขึ้นกับเรือนจำได้
“แล้ววันนี้มินซอกลงงานกับพวกนั้นใช่ไหม?”ถามเบี่ยงไปประเด็นงานวันนี้ มินซอกอยู่ติดกับจุนมยอนตลอดเวลา ตอนนี้ก็ไปกินข้าวด้วยกันกับเรือนนอนหงส์ คงต้องลงงานด้วยกันสินะ มินโฮบอกว่าคงเป็นอย่างนั้น วันนี้เรือนนอนหงส์ไปลงคหกรรมอบขนม ส่วนเรือนนอนสิงห์วันนี้งานชล งานชลที่ว่านานๆทีถึงจะได้ลงงานกัน หน้าที่สุดพิเศษที่นานๆจะมีผู้ได้รับหน้าทีปฏิบัติ
“ลอกคูน้ำตรงแปลงเกษตร”มินโฮเฉลยออกมาเมื่อแดฮยอนถามว่างานชลคืออะไร พอได้ยินเพื่อนบอกความหมายแท้จริงของหน้าที่ แดฮยอนทำหน้าแหยขึ้นมาทันที ก็คูน้ำตรงแปลงเกษตรนั่นตื้นเขินไปหมดแล้ว คงไมได้ลอกมานาน
“งานหนัก งานช้าง งานดินถล่ม”มันบ่นพึมพำจนทุกคนส่ายหัว
“ไม่อยากเหนื่อยก็คอยเอาน้ำบริการกูนะตุ๊ด”จงอินว่าเย้า แดฮยอนหันมาแยกเขี้ยวใส่บอกว่าบ่นไปงั้นแหล่ะ งานแมนต้องมา เรื่องแค่นี้สบายอยู่แล้ว ลู่หานขมวดคิ้ว เพราะงานวันนี้หนัก...ที่คิดไว้ว่าจะไปหามินซอกที่ช็อปคหกรรมคงทำไม่ได้สินะ

มินซอกคลี่ยิ้มอยู่ท่ามกลางคนของเรือนนอนสิงห์ แต่ละคนเป็นนักโทษชั้นดีและนักโทษใกล้พ้นโทษทั้งนั้น คนของเรือนนอนสิงห์จึงประกอบด้วยนักทาที่เป็นวัยกลางคนเสียส่วนมาก อย่างนัมแทคอุนนี่อายุ32ปีแล้ว แถมยังเก่งเรื่องการทำคุกกี้เสียด้วย
“นวดแป้งเก่งนี่”แทคอุนเอ่ยชมคนตัวเล็กยิ่งยิ้มใหญ่ บอกว่าถนัดลงงานคหกรรมที่สุด ตอนอยู่เรือนจำศาลมีคนที่รู้จักก็ทำขนมเก่งเหมือนกัน ได้สูตรจากคนนั้นมาเพียบ
“ออกไปคงทำขนมขายได้เลยสิ”แทคอุนว่า เตรียมช็อกโกแลตด้วยการละลายช็อกโกแลตบาร์เพื่อจะนำไปผสมแป้งทำคุกกี้ช็อกโกแลตชิพขายในสหกรณ์ มินซอกหุบยิ้มลง บอกว่าก็อีกตั้งปีกว่าเชียว
“ติดแค่สองปีเอง เวลามันเดินผ่านไปเร็วจะตาย พี่ติดมาหกปีแล้ว โดนทั้งเสพทั้งขาย เข้าๆออกๆหลายรอบจนเขาไม่ปราณีลดโทษให้”แทคอุนขำกับเรื่องของตัวเอง ปรกติหากเป็นความผิดครั้งแรกหรือครั้งที่สอง ถ้ามีคนยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวก็จะถูกส่งไปตาม่ายทหารเป็นส่วนมาก เป็นโรงเรียนวิวัฒน์พลเมือง คืนคนดีกลับสู่สังคม แต่ถ้าความผิดซ้ำซ้อน ก็จะถูกลิดรอนสิทธิ์การยื่นหลักทรัพย์และติดคุกอย่างเดียวไม่มีลดหย่อนโทษ เว้นแต่จะทำตัวเป็นนักโทษชั้นดีก็จะมีการพิจารณาลดหย่อนตามเห็นสมควร
“พี่จะพ้นโทษตอนไหนล่ะฮะ”มินซอกตาม ทุบซีเรียลในกล่องอาหารเช้าให้พอแหลกเอามาผสมคุกกี้ด้วย แทคอุนบอกว่าอีกเดือนหนึ่งเท่านั้น มินซอกดีใจกับผู้ชายวัยกลางคนคนนี้ด้วย
“พี่เองออกไปก็คิดว่าอยากจะทำร้านเบเกอรี่ ไอ้พวกนั้นจะไปสมัครเป็นลูกน้อง”บุ้ยปากไปทางนักโทษของเรือนนอนหงส์อีกหลายคนที่ขะมักเขม้นกับการร่อนแป้งอยู่
“มินซอกอยากทำร้านเบเกอรี่บ้างเหรอ?”จุนมยอนถามออกมา เขานั่งตอกไข่และแยกไข่แดงออกจากไข่ขาวอยู่ข้างๆได้ยินที่มินซอกคุยกับแทคอุนทุกอย่าง มินซอกก้มหน้าลงอ้อมแอ้มบอกว่าทำขนมก็สนุกดี วิชาที่ได้จากในคุกนี่ก็เห็นจะมีคหกรรมที่พอจะเอาไปทำมาหากินได้ แต่คงไม่มีทุนจะเปิดร้านเบเกอรี่ของตัวเองหรอก
“ไปอยู่กับแทคอุนไง ได้ไหมพี่? น้องมันก็เก่ง มีเชฟฝีมือดีๆรับรองร้านมีคนเข้ามาซื้อเยอะแนะ”จุนมยอนถามคนที่เทช็อกโกแลตผสมแป้งคุกกี้แล้วใส่ซีเรียลลงไปผสมด้วย แทคอุนหัวเราะบอกว่าได้อยู่แล้ว แต่คงต้องรอหน่อยกว่าจะมีร้านเป็นของตัวเอง ยังไงออกไปได้ก็คงต้องหางานทำเพื่อเก็บทุนสักก้อนก่อนอยู่ดี
เนื้อแป้งคุกกี้ถูกบีบลงในถาด มินซอกเตรียมช็อกโกแลตชิพไว้โรยหน้าแล้วปล่อยให้แทคอุนเอาถาดคุกกี้เข้าเตาอบไป
“ไม่ว่าใครน่ะ ถ้าออกจากคุกไปแล้ว ถ้าพี่มีงานทำ มีร้านของตัวเอง อยากมาทำกับพี่ก็มาเถอะ คนที่ออกไปจากคุก...ที่ยืนในสังคมมีไม่มากหรอก พี่เคยหลายรอบแล้วเข้าใจซึ้งดีเลย หลายที่ก็เปิดโอกาสให้แต่บางที่ก็ไม่ เพราะฉะนั้นคนที่อยู่ในคุกมาจึงเข้าใจจุดนี้ดี
“ขอให้คิดแลกลับตัวได้ พร้อมจะเริ่มชีวิตใหม่แล้วจริงๆก็พอ”





TBC.

สั้นหน่อยนะคะ หายไปหน้าเอสี่กว่าๆ เมื่อคืนน้อคอีกแล้ว - -* แต่งไว้ กดเซฟตื่นขึ้นมาจะแต่งต่อปรากฏว่าเนื้อหาหายไปครึ่งหน้า....................... (อาจจะดูน้อยแต่ถ้าสำหรับเรากว่าจะคิดออกมาได้มันยากจริงๆ)
จะร้องไห้ๆๆๆๆๆๆๆ


ใครสนใจรวมเล่มไปกรอกแบบสอบถามกันได้จ่ะ คิดว่าไม่รวมเร็วๆนี้ แน่นอน...ถามไว้ก่อนดูจำนวนคน


รักจริงไม่นอกจรัยยยยยยย รักมากที่สุดในจักรยานนนนนนนนน





#พี่ลู่คนคุก




แมลงจี่...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น