ไม่ใช่แค่เราที่มีเรื่องที่เลวร้ายในชีวิต คนอื่นก็เช่นกัน
ถ้ามองให้ดี เรื่องของเราที่ว่าแย่ก็เป็นแค่บาดแผลที่เกิดจากมดกัด...
บทที่12.1…
ในชีวิตของคุณ คุณเคยทำอะไรที่ผิดพลาดไหม?....
ไม่เลย คิมจุนมยอนไม่เคยผิดพลาดในเรื่องใดๆมาก่อน เขาเกิดในครอบครัวระดับกลาง พอมีพอใช้ในระดับหนึ่ง ชีวิตราบรื่นปรกติเหมือนเด็กผู้ชายทั่วไปจนเข้าวัยมหาวิทยาลัย นั่นล่ะมั้ง...ความผิดพลาดแรกของคิมจุนมยอนที่เปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล
การเรียนวิชาเกี่ยวกับตัวเลขอย่างบัญชีไม่ใช่ทางของเขาเลยสักนิด เขาชอบที่จะใช้จินตนาการมากกว่าความคิด แต่เพราะความต้องการของตลาดแรงงานที่มุ่งเน้นด้านบัญชี ก็เลยต้องกระเสือกกระสนเรียนให้ได้ เพื่อให้ตรงความต้องการของสังคม จบแล้วจะได้มีงานรองรับ ไม่ต้องเกาะพ่อแม่ไปจนตาย
ปีแรกที่เรียน จุนมยอนคบแต่เพื่อนผู้หญิงที่สนใจเรียนเป็นหลักจนหลายคนมองว่าเขาไม่ใช่ผู้ชาย บางคนเข้ามาขอหลับนอนกับเขาทั้งที่คนๆนั้นเป็นผู้ชายร่างสูงใหญ่
“หน้าก็สวย ขาวก็ขาว ตางี้มองแล้วหลงเชียว แถมยังอยู่แต่กับผู้หญิง...ไม่ให้กูมองมึงเป็นกระเทยแล้วจะมองเป็นอะไร”คิมจุนมยอนจำได้ดีเชียวกับคำปรามาสของผู้ชายที่เข้ามาขอนอนกับเขา มันถึงขั้นเสนอเงินก้อนใหญ่แลกกับการที่เขาต้องร้องครวญครางใต้ร่างมัน วันนั้นคิมจุนมยอนที่ถูกมองเป็นกระเทยก็ได้อัดหน้าผู้ชายใจหมาไปคนหนึ่ง
จากคำดูถูกเปลี่ยนเป็นแรงผลักให้คิมจุนมยอน เขาเลิกคบกับพวกผู้หญิงพวกนั้นแล้วเข้ากลุ่มกับเพื่อนผู้ชายที่ชอบเที่ยวเสเพลเพื่อให้ตัวเองดูแมนขึ้นในสายตาคนอื่น เงินที่พ่อแม่ส่งให้เรียนถูกละลายไปกับค่าเหล้าของแต่ละวัน บ้างครั้งเมาหนักก็ไม่ลุกไปเรียน จนได้เอฟมาในที่สุด แต่กระนั้นก็ยังไม่อาจจะฉุดความคิดเรื่องถูกผิดของจุนมยอนกลับมาได้ เพื่อนกรอกหูว่ามีเวลาอีกนาน โควตานักศึกษามีถึง 8 ปีก็ใช้ไปให้คุ้ม เขาได้แต่เออออกับมันโดยไม่ได้คิดเลยสักนิดว่าเงินที่ส่งมาให้เขาใช้สอยมาจากน้ำพักน้ำแรงของทางบ้าน ชายหนุ่มยังคงทำตัวเสเพลเรื่อยไป อัพเกรดความเป็นผู้ชายให้ตัวเองด้วยการฟันหญิงไปเรื่อย บางครั้งก็ร่วมวงแจมของเพื่อนอย่างน่าทุเรศ ผู้หญิงพวกนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะถูกพามาให้ผู้ชายทั้งฝูงรุมทึ้ง เธอกรีดร้องโวยวายแต่แรงผู้ชายก็จับเธอขึงกับเตียงแล้วเสือกไสร่างกายเข้าไปในตัวของเธอได้อยู่ดี
ไม่มีใครกล้าปริปากเพราะกลัวจะเสียหน้า พวกเขาเลยไม่กลัวจะมีปัญหาอะไร
ชีวิตแสนเสเพลดำเนินมาจนถึงในที่สุด จากบุหรี่มวนเรียวยาวถูกสอดไส้ด้วยสารอื่นที่มีกลิ่นหอมหวานชวนหลงใหลและมึนเมา และในตอนสุดท้าย...วันที่เสียงโวยวายดังไปทั่วหอพัก เจ้าหน้าที่รักษากฎหมายกรูเข้ามาจับกุมทุกคนที่อยู่ในห้องพักซึ่งพ่อกับแม่จ่ายค่าเช่าให้เขาทุกเดือน คิมจุนมยอนถูกคุมตัวเข้าห้องขังไปรวมกับเพื่อนทั้งที่ยังเมากัญชาอยู่ รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนได้สติแล้วคอแห้งแทบเป็นผง
ลูกกรงที่กั้นระหว่างโลกภายนอกกับด้านในทำให้จุนมยอนตื่นตระหนกจนน้ำตาไหล วินาทีนั้นคนที่คิดถึงก่อนใครมีเพียงพ่อกับแม่ ทว่าความจริงช่างเลวร้าย เพียงแค่เห็นหน้า คิมจุนมยอนก็โดนกร่นด่าด้วยถ้อยคำหยาบคายจากบุพการี ตามด้วยการตัดสัมพันธ์ฉันท์พ่อลูก โลกเหมือนถล่มลงมาตรงหน้า ความเสเพล ความชั่วที่เคยทำมาตลอดไหลย้อนเหมือนม้วนฟิล์ม จนถามตัวเองว่าทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้
ชีวิตที่เรียบง่ายเสมอมา ควรจะเป็นแบบเดิมตลอดไปจนเรียนจบ หางานทำ โตเป็นผู้ใหญ่ไม่ใช่หรือ?
ไม่มีญาติยื่นประกันตัว ไม่มีการใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน คิมจุนมยอนถูกส่งเข้าเรือนจำไม่กี่วันหลังถูกจับ แล้วนรกของจริงก็มาเยือนเขาทันทีที่เหยียบเข้าในเรือนจำ หน้าตาที่สวยสะ เรือนกายที่ขาวผ่อง ดวงตาที่เย้ายวน ทุกอย่างดึงดูดให้นักโทษเข้าหาเขา
ผู้ชายร่างใหญ่โตสี่คนรุมทึ้งเขาเหมือนเนื้อก้อนเละๆในส้วมโสโครกเหม็นน่าสะอิดสะเอียนของเรือนนอนตั้งแต่คืนแรกที่ใช้ชีวิตในเรือนจำของศาลระหว่างรอย้ายเรือนจำ ผู้คุมได้ยินเสียงแต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร น้ำตาของจุนมยอนไหลมาไม่หยุด แขนขาถูกจับตรึงเหมือนตอนเขารุมโทรมผู้หญิงคนนั้น เสียงกรีดร้องด้วยความทรมานเหมือนกัน แต่ครั้งนี้ไม่ใช่เสียงเล็กแหลมของเด็กสาว แต่เป็นเสียง...ของเขาเอง
บรรยากาศระหว่างคนสองคนดูอึดอัด จุนมยอนขยับขาขึ้นมากอดเข่า ไม่วางสายตาที่ตรงไหนสักที่แต่แน่นอนว่าไม่เฉียดไปมองคนที่อยู่ร่วมกันในห้องพักผู้คุม
“มองหน้าฉันมันจะตายหรือไง หรือเอียนหน้าผู้ชายเต็มทน”น้ำเสียงกวนประสาท จุนมยอนตวัดสายตาไปมองเพียงเล็กน้อยแล้วหันกลับไปทางที่เดิม นั่นทำให้อู๋อี้ฟานหัวเราะกับความดื้อรั้นของอีกฝ่าย
มองเรือนร่างขาวผ่องที่ถูกจับจองมานับไม่ถ้วน อย่างน้อยๆก็มีผู้ชาย 5 คนที่ได้ชมเชยเรือนร่างนี้ไปแล้ว คริสเจอจุนมยอนครั้งแรกตอนเข้าไปตรวจเยี่ยมที่เรือนจำของศาล เพียงก้าวขาขึ้นเรือนนอน หัวคิ้วก็กระตุกหนึบ และพบกับร่างที่นอนจับไข้อยู่หน้าส้วมในสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ยมีแต่กางเกงขาสั้นใส่ปิดร่างกาย
กว่าจะรักษาทั้งบาดแผลที่โดนข่มขืนและอาการทางจิตใจที่ผวาเวลาผู้ชายเข้าใกล้ก็ใช้เวลานานอยู่เหมือนกัน คริสเองก็ไม่ค่อยเจอเคสแบบนี้ที่เข้าเรือนจำวันแรกถูกข่มขืนยับ ส่วนใหญ่ก็กระทืบกันมันๆเพื่อรับน้อง น้อยรายจะเกิดแบบนี้ขึ้น เรียกว่าเปอร์เซ็นต์มีอยู่เพียง0.01ด้วยซ้ำ แล้วที่สงสัยก็คลายเมื่อเห็นใบหน้าและดวงตาของจุนมยอนชัดๆ ผู้ชายคนนี้จัดว่าสวยและมีความดึงดูดอย่างน่าประหลาด มองแล้วพาให้หลงใหลในดวงตาคู่นั้น
งานที่กำลังดำเนินการต้องการคนแบบนี้อยู่พอดี คนที่จะทำให้คนหลงใหลได้อย่างง่ายดาย...เพื่อไปกล่อมให้คิมกอนโมยอมคายชื่อแบ้คอัพรายใหญ่ออกมา...ข้อเสนอจึงถูกยื่นให้คิมจุนมยอน
ข้อเสนอที่น่าสนใจ...แต่แลกกับความเจ็บปวดในจิตใจที่ยากจะเยียวยา...
ข้อเสนอที่บอกให้เขานอนกับผู้ชายคนหนึ่ง ทำให้มันหลงใหล สุดท้ายก็ล้วงความลับมาให้ได้...คนที่ผ่านการถูกผู้ชาย 4 คนรุมโทรมเหมือนตุ๊กตายางไร้ชีวิตผวาสั่นกับข้อเสนอล่อใจ แต่คำพูดของผู้กองตัวสูงก็โน้มน้าวจิตใจจุนมยอนได้ดี
เพียงทำสำเร็จ...ก็ได้ออกจากคุกไป ถ้าไม่ตกลงก็กลับไปอยู่ที่เรือนจำเหมือนเดิม...และเสี่ยงกับการที่จะเกิดเหตุการณ์เหมือนเดิม เพราะจุนมยอนคงไม่มีทางพ้นมือของนักโทษพวกนั้นแน่นอน
แล้วเลือกได้อีกเหรอ? จุนมยอนตอบตกลงทั้งน้ำตา และในวันรุ่งขึ้นก็ถูกส่งตัวเข้าสถานที่ที่เรียกว่าทัณฑสถานวัยหนุ่มกลางทันที การทำให้คิมกอนโมสนใจในตัวจุนมยอนไม่ใช่เรื่องยาก เพียงช้อนสายตามองก็แทบจะถลันเข้ามาหา เซ็กส์ระหว่างกอนโมกับจุนมยอนครั้งแรกเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งที่เจอกันไม่กี่วัน แม้จะต้องทนผะอืดผะอมกับการดิ้นเร่าใต้ร่างผู้ชายคนนี้ก็ตามที ภาพที่โดนข่มขืนมันฉายขึ้นมาชัด แต่สุดท้ายก็ค่อยๆหายไปกลายเป็นความชาชิน คุ้นเคยกับการที่จ้ะร้องครางตอนที่ถูกยึดเอวไว้แล้วขยับกายเข้ามาในร่าง
ดวงตาที่สร้างความหลงใหลได้แม้แรกพบถูกเจ้าของของมันปั้นแต่งเพิ่มความทรงเสน่ห์เข้าไปอีกเท่าตัวเวลาใช้มอง...ไหล่เล็กที่เคยยืดตรงตามปรกติถูกเชิดให้สูงขึ้นเล็กน้อยทำให้ตัวเองดูสง่างามมากขึ้น ร
เท่านี้ก็เป็นคนที่ทำงานได้แสนจะเหมาะสมกับตำแหน่งอันทรงค่าในคุก...
นางพญา...
ค น คุ ก
“มากันครบก็ดี นึกว่าต้องรอไปอีก”คริสพูดขึ้นเมื่อลู่หานและจงอินก้าวเข้าห้องพักผู้คุมมาทำลายบรรยากาศอึดอัดระหว่างเขากับจุนมยอน แต่ก็เข้าใจล่ะ เขาเป็นคนทำให้จุนมยอนต้องกลับไปมีเซ็กส์กับผู้ชายอีกครั้ง อีกฝ่ายจะมึนตึงกันมันก็ไม่แปลก เขาก็ชินแล้วกับอาการแบบนี้เวลาอยู่ด้วยกัน
“ได้ชื่อคนๆนั้นแล้วใช่ไหม?”จงอินถามแล้วก็ได้คำตอบเป็นการพยักหน้า จางอินซูบอกเขาเรียบร้อยแล้ว ที่เข้ามาในเรือนจำวันนี้ก็เพื่อจะบอกถึงเรื่องข้อเสนอที่ตกลงกันไว้สำหรับจุนมยอนและลู่หาน
“อีกเดือนนึงเรื่องที่ฉันทำถึงจะได้รับอนุมัติ นายสองคนก็จะออกจากที่นี่ไปได้ แต่ไม่ใช่ออกไปด้วยประวัติที่ใสสะอาด สถานะของพวกนายคือนักโทษได้รับการอภัยโทษ”ลู่หานเข้าใจจุดนี้ดี มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่ประวัติเขาจะใสสะอาด
ผ้าที่มันเปื้อนไปแล้วมันจะขาวเท่าเดิมเป็นไปไม่ได้หรอก อย่างน้อยก็ต้องมีรอยด่างดวงที่ฟ้องให้เห็นอยู่ดี
“ตอนนี้ก็ใช้ชีวิตปรกติไปก่อน คิมกอนโมจะถูกขังแยกที่ห้องขังเดี่ยว อีกสามวันจะถูกย้ายไปขังเดี่ยวที่เรือนจำใหญ่”คริสพูดบอก เพราะกลัวว่าจะเกิดการฆ่าตัดตอนขึ้นจริงๆเลยต้องย้ายตัวกอนโมไปก่อนที่จะดำเนินการสืบและจับกุมแบ้คอัพนักธุรกิจคนนี้ เพื่อที่จะได้ใช้อำนาจเงินตามหาตัวคิมกอนโมไม่ได้
“กูจะขออะไรสักอย่าง”ลู่หานเรียกคริสเอาไว้เมื่อเห็นว่าร่างสูงลุกขึ้นยืนและจะออกจากห้องไปเพราะคุยธุระเสร็จแล้ว ใบหน้าหล่อเหลายกหางคิ้วขึ้นเชืองถาม ดูเท่จนลู่หานอดหมั่นไส้ไม่ได้แต่ก็ห้ามใจไม่ให้เบ้ปากออก จงอินตบบ่าเพื่อนให้พูดเรื่องของมินซอกเสียที
“กูขอเอาคนออกไปพร้อมกูคนหนึ่งได้หรือเปล่า?”ถามออกไปแล้วพาให้คริสตีหน้างง
“ใคร?”เสียงทุ้มถามกลับ จงอินเลยบอกว่าเป็นเด็กคนหนึ่งที่ถูกจับมาพร้อมกัน เป็นคนที่พวกเขารักเหมือนน้องชายและห่วงเรื่องการใช้ชีวิตในคุกต่อไป เพราะถึงจะมีพวกมินโฮแต่ก็ไม่ประกันได้ว่ามินซอกจะไม่ถูกใครรังแก
“มึงคิดว่ากูเป็นองค์กรการกุศลช่วยเหลือหมาจรจัดเหรอ?”เปรียบเปรยได้สุดเหี้ย ลู่หานเกือบอดใจไม่ไหววางมวยกับมันถ้าจงอินไม่รั้งเอาไว้ก่อน
“แค่คนๆนึงช่วยไม่ได้หรือไง ไอ้สัด! เนี่ยนะที่น้องกูชมมึงนักหนาว่าดีแสนดี ควาย มึงแม่งไร้น้ำใจ เด็กอายุไม่ถึง20ที่อยู่โดยมีพวกกูมาตลอดจะปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวงั้นเหรอ? ใจมึงนี่เหี้ยเหมือนนิสัยเลยนะ”คริสกัดฟันกรอดแทบจะยกเท้าถีบไอ้ปากกล้าเข้าให้
“สำหรับอี้ชิงกูดีเสมอต้นเสมอปลายนั่นแหล่ะไม่ต้องห่วง แล้วกูก็ดีกับน้องมึงเท่านั้น ไม่จำเป็นที่กูต้องไปดีกับเด็กของมึงหรือใครหน้าไหน กูเป็นตำรวจ มีหน้าที่จับคนเหี้ยๆทำผิดกฎหมายอย่างพวกมึงเข้ามา ไม่ใช่พาออกไปจากคุก”คริสพูดเรื่องจริงที่เถียงไม่ได้ จงอินเดินไปวางมือบนบ่าของผู้หองตัวสูงแล้วขอร้องด้วยอีกแรงหนึ่งบอกว่าเด็กคนนี้เป็นเด็กดี แค่หลงผิดมาตกในวังวนอัปลักษณ์ของยาเสพติดเท่านั้น ผู้กองคริสมีสีหน้าลำบากใจ ขมวดคิ้วมุ่น เงียบใช้ความคิดอยู่นาน
จงอินก็ทำงานกับเขามานานมาก ทำคดีหลายคดีให้ปิดตัวลงได้อย่างง่ายดาย พูดตามตรงเขาเกรงใจเพื่อนร่วมงานคนนี้อยู่ลึกๆ เมื่อจงอินพูดขนาดนี้เขาเลยต้องชั่งใจคิดอีกพักใหญ่
“ชื่ออะไร”คริสถาม ลู่หานกับจงอินถึงกับคลายยิ้มออกมา เพราะคริสถามแบบนี้คงต้องให้มินซอกออกไปด้วยแน่ๆ
“มินซอก คิมมินซอก...”เป็นลู่หานที่ตอบออกไป คริสพยักหน้ารับรู้บอกว่าจะลองดูให้ ยังไม่รับปากว่าจะพาออกไปได้ เพราะลำพังแค่จุนมยอนกับลู่หานก็ยากแล้ว ได้ยินแบบนั้นก็ชื้นใจขึ้นมา ดีกว่าถูกปฏิเสธไปเลย คริสโบกมือลาจะออกจากห้องพักผู้คุมอีกครั้ง ทว่าคราวนี้ลู่หานกลับคว้าแขนของผู้กองตัวสูงเอาไว้ก่อน คริสหันกลับมามองด้วยความสงสัย มือที่เล็กกว่าถึงคลายแขนอีกคนออก ลู่หานเม้มปาก กระดากที่ต้องพูดดีๆกับอีกคนเต็มแก่ แต่ก็ขยับปากพูดมันออกมา
“ฝากดูแลอี้ชิงด้วย แล้วก็ขอบคุณที่มึงช่วยเหลืออาอี้ตลอดมา”อู๋อี้ฟานได้ยินแล้วก็ยกยิ้มมุมปาก ท่าทางหล่อจนน่าหมั่นไส้หลายๆครั้ง
“กูเต็มใจ...”
ค น คุ ก
จุนมยอนยิ้มกับตัวเอง
...มันจบลงแล้ว...
หน้าที่ที่รับผิดชอบ สิ้นสุดลงแล้ว อีกหนึ่งเดือนก็จะได้เป็นอิสระจากที่นี่ ได้พ้นจากลูกกรงที่กักขังทั้งร่างกายและวิญญาณเอาไว้ อีกหนึ่งเดือนจะได้เห็นบรรยากาศของโลกภายนอกอีกครั้งหนึ่ง สิ่งที่อยากจะทำเมื่อพ้นโทษไปมีหลายอย่างจนเรียบเรียงมันไม่ถูก อยากกลับไปหาพ่อกับแม่ ถึงจะถูกเกลียดก็ตามที อยากจะกราบขอโทษที่ทำตัวไม่ดี แล้วพ่อจะยังคิดว่าลูกคนนี้เป็นลูกอยู่หรือตัดกันจริงๆอย่างที่ว่าไว้ก็ตามแต่ใจของคนเป็นพ่อ
จากนั้นคงไปหางานทำ อาจจะเป็นร้านอาหาร หรือตามผับบาร์ แต่อย่างหลังก็ไม่อย่างจะเสี่ยงเพราะรู้ตัวดีว่าตัวเองดึงดูดผู้ชายแค่ไหน หากทำงานกลางคืนก็คงไม่พ้นถูกมองเป็นเด็กขาย
ถึงแม้จะมีอะไรกับผู้ชาย ร่างกายจะถูกผู้ชายสัมผัสมากี่ครั้ง จุนมยอนก็เป็นแค่ผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่งที่ต้องการจะมีผู้หญิงสักคนที่เคียงข้างเขาไปตลอดชีวิต ไม่ต้องเป็นผู้หญิงที่ดีเลิศเลอ แค่ขอให้รักเขาและยอมรับข้อผิดพลาดที่เขาเคยทำเอาไว้ได้ก็พอ เราจะแต่งงานและมีลูกกันสักหนึ่งคน
“คุยได้แค่ข้างนอกนะ เข้าไปข้างในไม่น่าไว้ใจ มันคลั่งนายแน่ๆ”จางอินซูบอกกับจุนมยอน นางพญาชั่วคราวพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปหยุดหน้าห้องขังเดี่ยวซึ่งมีนักโทษชายคนหนึ่งอยู่ข้างในนั้น และกำลังจะถูกย้ายไปขังที่เรือนจำใหญ่เพื่อเป็นการป้องกันพยาน จุนมยอนมองผ่านซี่เหล็กของช่องเล็กๆหน้าประตูห้องขังเข้าไป ด้านในค่อนข้างทึมเพราะผนังทั้งสี่ปิดสนิทมีเพียงช่องเล็กๆไว้ให้อากาศถ่ายเทและแสงเข้าเล็กน้อย
“กอนโม”จุนมยอนเรียกอีกคนที่นั่งอยู่ในห้องขังนั้น แผ่นหลังใหญ่ชัดริมกำแพงหันหน้าเข้ากำแพงอีกฝั่ง ทว่าเพียงได้ยินเสียงที่จำได้สนิทใจ ร่างใหญ่ที่เริ่มซูบซีดผ่ายผอมลงเพราะกินข้าวไม่ลงเท่าไหร่ก็พรวดพราดลุกขึ้นมาหน้าตาตื่น ทั้งตัวถลันเข้ามาหาจุนมยอนที่ยืนอยู่ด้านนอกประตูห้องขัง
เห็นแค่เพียงใบหน้าของคนที่ตนหลงใหลสุดหัวใจ กอนโมยิ้มยกมือจะจับต้องอีกคนแต่ก็มีซีเหล็กหนาและมุ้งลวดกั้นเอาไว้
“มาหาฉันแล้วเหรอ? นายเลิกยุ่งกับไอ้เหี้ยลู่หานแล้วใช่ไหม? มันไปจากแดนนี้แล้วใช่ไหม?”ยิงรัวถามคำถามอีกคนพร้อมรอยยิ้ม คิดเอาเองว่าผู้คุมอินซูจัดการทุกอย่างเร็วทันใจดีจริง จุนมยอนกำลังจะกลับมาเป็นของมัน อยาก...จะสัมผัสคนตรงหน้า โหยหาร่างกายที่เคยกอดเกย ริมฝีปากที่เคยกดจูบลงไปและเนื้อหนังที่มือสากๆเคยลูบไล้ไปทั่วสรรพางค์
จุนมยอนรู้อยู่แล้วว่าผู้คุมอินซูใช้ข้อเสนออะไรกับการแลกชื่อแบ๊คอัพคนนั้นมา เขาพยักหน้า บอกว่าลู่หานถูกย้ายไปแดนสี่เป็นนักโทษชั้นเกือบเลวแล้ว
“เดี๋ยวนายก็ให้ฉันเป็นเด็กนางพญาเลยนะ แล้วเราขอเตียงจากผู้คุม มันต้องให้นายอยู่แล้ว เราขึ้นไปนอนบนเตียงกันสบายๆ ฉันเห็นนายนอนฟูกนั่นแล้วเนื้อตัวเป็นรอยไปหมด”คิมกอนโมพูดพร้อมรอยยิ้ม ฟูกเนื้อแข็งแต่คิมจุนมยอนบอบบาง ผิวขาวๆที่เขาเชยชมมักมีรอยจากเหลี่ยมฟูกกระแทกจนเขียวช้ำเสมอ
จุนมยอนกลืนน้ำลายลงคอ รู้สึกขึ้นมาว่าคนเลวอย่างคิมกอนโมก็มีมุมที่น่าสงสารอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะตอนที่โดนความรักและความหลงใหลเล่นงานจนหน้ามืดตามัว ฝืนใจพยักหน้าตอบพร้อมเสียงอื้อในลำคอทั้งที่อีกสามวันคิมกอนโมก็จะถูกย้ายไปเรือนจำใหญ่แล้ว ส่วนเขาอีกหนึ่งเดือนก็จะไปจากที่นี่เช่นกัน
หมดแล้วหน้าที่นางพญาที่ได้รับ ไม่มีแล้วเด็กนางพญาผู้ได้รับอภิสิทธิ์เหนือใคร มันจบแล้ว...
“รักเราหรือเปล่า...”กอนโมทำงงเมื่อได้ยินคำถามนี้จากจุนมยอน เขาทาบมือลงบนใบหน้าขาวผ่านซี่เหล็ก มองเข้าไปในดวงตาที่แสนจะทรงเสน่ห์คู่นั้น คนโง่ที่ตกเป็นเหยื่อของความรู้สึกในหัวใจตอบคำถามออกมา
“ฉันไม่เคยบอกว่ารักนายสักนิด...มันก็แค่เซ็กส์ที่เกิดขึ้นง่ายๆ มันก็แค่ร่างกายของนายที่ยั่วเย้าจนไอ้นั่นมันตั้ง...”
“...”จุนมยอนสลดลงน้อยๆ นึกน้อยใจกับร่างกายของตัวเอง สุดท้ายก็เป็นเพียงผู้ชายที่ถูกมองเปนที่ระบายความใคร่งั้นสินะ? ทว่าคิมกอนโมที่เงียบๆหลังพูดเสร็จขยับยิ้ม จ้องมองมาในดวงตาของเขาลึกซึ้งขึ้นเล็กน้อย
“ถึงจะไม่ได้พูดว่ารัก แต่ฉันก็ต้องการแค่นาย...และไม่ต้องการให้นายไปเป็นของใคร ฉันต้องการนาย...จุนมยอน”
TBC.
#พี่ลู่คนคุก
พาร์ทนี้น้อยอ่ะ วันเสาร์เราไปเอสพลานาดมาค่ะ วันอาทิตย์ไปงานซ้อมรับปริญญาเพื่อนที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เลยไม่มีเวลาแต่ง มาปั่นเช้าก่อนไปทำงานนะเนี่ย T^T ไม่อยากทิ้งให้รอนาน
พาร์ทนี้พี่จุนมาเต็ม ดึงเอาบางจุดออกมาสำหรับพี่จุนกับคิมกอนโม..คนอ่านคิดว่าไง เรื่องของสองคนนี้ เราไม่สรุปนะว่ากอนโมรักไหม? เพราะคำว่าหลง กับรักมันมีเส้นบางๆกั้นอยู่นิดเดียวเอง แต่สำหรับพี่จุน นางไม่ได้รักอยู่แล้ว
เรื่องของกอนโมคงจบแล้ว บางคนสงสัยว่านางจะเล่นตุกติก 5555555555 เราขอไม่ซับซ้อนขนาดนั้นค่ะ อาจจะมองว่ามันเกินไปไหม เลวมาตลอดจะมายอมง่ายๆเพราะผู้ชายคนเดียว มันเป็นไปได้ค่ะ มันคือจุดๆหนึ่งที่ทุกอย่างกดดันให้เราทำอะไรสักอย่างลงไป ในส่วนของกอนโมคือความรู้สึกที่อยู่ในใจ การหลงใหลและอยากครอบครอง การยึดมั่นในความเป็นเจ้าของ
ทอล์คยาวมหาศาล แต่อยากให้เข้าใจกัน ฟิคเราเข้าใจยากด้วย เราคิดว่านะ...เราไม่เก่งพอจะทำให้คนเข้าใจง่ายๆแน่ๆ
ปล. ขอบคุณสำหรับคอมเม้น แฮชแท็กในทวิตเตอร์และจำนวนเฟวฟเวอริทค่ะ ขอบคุณที่บอกว่ามันเป็นฟิคที่ดี (เขินเลยไง) และขอบคุณที่เข้าใจว่าเราแฝงอะไร ต้องการจะสื่ออะไรจากฟิคนี้ คุณคือผู้พิชิตค่ะ (อะไร)
รักนะตุ๊บตั๊บ (?)
แมลงจี่...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น