ดีแค่ไหนที่ไม่เสียไป
ดีแค่ไหนที่คิดได้เสียก่อน
บทที่13.2…
“กูว่าต้มไส้ผักกาดดองก็ไม่ได้หวานนะ
แต่มดแม่งขึ้นโต๊ะขึ้นถาดหลุมกูเต็มไปหมด โอ๊ะไอ้เหี้ย
ไส้หมูในหลุมกูเป็นสีชมพูด้วย”น้ำเสียงกวนตีนแบบนี้คงมีแต่คิมจงอินเพียงเท่านั้น ลู่หานเงยหน้าจากถาดข้าวตัวเองไปมองมัน
ไอ้เหี้ยหมีขยับปากน่าหมั่นเท้า ทำมุบมิบมุบมิบนินทาเขากับมินซอก
เด็กที่อยู่ตรงข้ามเขาก็ได้แต่เอาหน้าก้มติดถาดกินข้าวเอากินข้าวเอาไม่เงยหน้าขึ้นมาสักนิด
คงกำลังเขิน
“เงียบปากไปเหอะสัดหมา”เป็นลู่หานที่รำคาญปากเพื่อนด่ากลับไป
ไอ้จงอินพยักเพยิดหน้ากับพวกไอ้อูฮยอนที่หัวเราะกันลั่นโต๊ะ
มินโฮที่อยู่ข้างมินซอกยกแขนขึ้นเท้าบ่าคนเป็นน้องแล้วลดข้อมือลงมาขยี้หัวคนตัวเล็กเพราะเห็นท่าทางน้องช่างแสนอาย
ลู่หานคิ้วกระตุกน้อยๆไม่ค่อยพอใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากหยิบส้มที่เป็นของหวานของวันนี้ใส่ถาดหลุมของมินซอกเพราะเห็นว่าน้องปอกของตัวเองกินเกือบหมดลูกแล้ว
“เออ
ผู้คุมอินซูเรียกมึงสองคนเข้าหาไปตอนกินข้าวเสร็จด้วยนะ เขาฝากกูมา
เกือบลืมบอก”ไอ้ชินอูบอกจงอินกับลู่หาน
“เมื่อไหร่ผู้คุมแกจะเลิกเรียกพวกมึงวะ
นี่กูเกือบจะคิดละนะว่ามึงไปสามพีกันในห้องพักผู้คุม”ไอ้แดฮยอนพูดตลกแต่จงอินนั้นต้องเบ้หน้า
ให้ไปเอากับไอ้จางอินซู เอากระปู๋ไปถูเสายังจะฟินกว่าไหม?
“มึงเลิกคิดเรื่องจัญไรแบบนั้นไปได้เลย
ถ้าไอ้เหี้ยลู่กับไอ้ห่าผู้คุมอินซูนี่ยังพอมีหวัง เห็นเข้าข้างหลังมันตลอด
ไม่รู้โดนล่อตูดบานไปหรือยัง”ใส่ความเพื่อนหน้าเหี้ยๆแบบนี้ใช่งานของคิมจงอินไหม? มินซอกเงยหน้าจากผลส้มมามองด้วยตาโตๆ
เพื่อนคนอื่นหัวเราะกันท้องจะแข็งเป็นตะคริว
ลู่หานสบถใส่หน้าเพื่อนรักก่อนอธิบายว่าไอ้เพื่อนหมีแค่พูดเล่น
ใครจะไปบ้ารสนิยมซาดิสม์เอากับเจ้าของรองเท้าคอมแบทที่จ้องจะประทับที่ลำตัวตลอดเวลากัน
มินซอกกระพริบตาปริบๆแล้วสนใจส้มในมือต่อ แต่หน้ากลมๆก็แดงลามไปยันใบหูไปแล้ว
“คิดอะไรทะลึ่งอยู่หรือเปล่า?”ลู่หานถามน้อง
เด็กนี่คงไม่เอาไปจินตนาการระหว่างเขากับจางอินซูต่อหรอกใช่ไหม?
“เปล่าสักหน่อย”ตอบเสียงอ้อมแอ้ม
ลู่หานหรี่ตามอง เห็นว่าน้องงุดๆงับส้มแล้วมันน่ารักจนเลิกจะจับผิด
เขาเอื้อมมือไปฝั่งตรงข้ามแล้วยีหัวน้องด้วยความหมั่นไส้
ใครใช้ให้คิมมินซอกน่ารักแบบนี้กัน ยิ่งนานวันยิ่งน่ารักไปกันใหญ่
...น่ารักจนเขา...รักไปแล้ว
“นี่มินซอกเริ่มแล้วใช่ไหม?”คนเป็นพี่ถามน้อง
แต่เหมือนมินซอกจะไม่เข้าใจที่ลู่หานถาม รวมถึงคนอื่นที่นั่งกินข้าวด้วยกันด้วย
“เริ่มอะไรล่ะฮะ”ถามอย่างซื่อๆ
ลู่หานยกยิ้ม ขยับตัวลุกขึ้นยืนแล้วโน้มตัวข้ามไปอีกฝั่ง ใกล้เฉียดแก้มกลมเพียงกดจูบลงได้แต่พี่ชายกลับหยุดริมฝีปากที่ข้างใบหูเล็ก
“ก็เริ่มทำให้พี่รักเราไง...มินซอกน่ารัก”พูดเสร็จก็โน้มตัวกลับทรุดลงนั่งที่เดิม
ปล่อยให้คนได้ฟังนั่งหน้าชากับประโยคที่เพิ่งได้ยิน
แล้วแก้มกลมๆก็เห่อแดงเหมือนหมั่นโถวแต้มสีในซึ้งนึ่ง
กว่าจะรู้ตัวเองมินซอกก็ลุกพรวดคว้าถาดหลุมไปล้างคว่ำตากเสียแล้ว
พี่ๆทั้งโต๊ะมองตามน้องแก้มกลมแดงปลั่งไปล้างถาดแล้วหันกลับมามองไอ้ตัวการที่นั่งยิ้มแก้มปริ
หน้าตาที่เจ้าเล่ห์อย่างหาที่สุดไม่ได้
ยอมรับเลยว่าตั้งแต่มันรู้ตัวและเปิดใจเรื่องความรู้สึกที่มีต่อมินซอกแล้ว
มันก็แค่ผู้ชายคนหนึ่งที่พร้อมจะรุกคนที่ชอบอย่างเต็มที่
งานนี้คิมมินซอกคงได้ตายคาแอ่งคำหวานของมันสามเวลาหลังอาหารแน่ๆ
“หมั่นไส้ไอ้สัด”ไอ้แดฮยอนโพล่งขึ้นมา
ถึงเพื่อนร่วมเรือนนอนคนนี้จะไม่ทำน้องน้อยมันเสียใจแต่มันก็หมั่นไส้อีกคนเพราะน้องมีใจให้
พี่ชายขี้โอ๋ที่อยากจะให้มินซอกมารักเหมือนกันตีหน้าบูดจนอูฮยอนอดไม่ได้จะเอาช้อนเขวี้ยงใส่มัน
“ตุ๊ด
ไอ้สัด”ยิ่งโดนด่ายิ่งเบะปากเหมือนกะเทยควาย แต่ละคนส่ายหน้ากับไอ้แดฮยอน
ลุกขึ้นทีละคนสองคนไปล้างถาดอาหารคว่ำตากก่อนจะเดินตามมินซอกที่ลิ่วๆไปแผนกซ่อมบำรุงก่อนแล้ว
“ปล่อยให้เคลียร์กันไม่กี่ชั่วโมง
ลากน้องมานอนที่เดิมสำเร็จแล้วยังป้อใส่หน้าด้านๆได้อีก
กูนี่อยากรู้จริงๆว่ามึงพูดกับมินซอกยังไงวะ”เมื่อคืนตั้งใจจะถามน้องติ๋มคนดีแต่ขึ้นเรือนนอนไปก็เห็นเจ้าตัวมานอนหลับสนิทที่ที่นอนเดิมระหว่างจงอินกับลู่หานเสียแล้ว
คราวนี้จงอินอดไม่ไหวที่จะต้องคะยั้ยคะยอถามเพื่อนอีกสักหน ลู่หานคลี่ยิ้ม
“กูบอกแล้วว่าน้องน่ารัก”ไม่ใช่คำตอบสำหรับจงอิน
เพื่อนหมียกนิ้วกลางให้เพื่อนควายแล้วบอกให้มันพูดภาษาคนไม่ใช่ภาษาควายที่เข้าใจยากเย็น
ลู่หานเอาถาดหลุมเคาะนิ้วกลางของเพื่อนที่ยังส่งให้เขาจนนิ้วเพรียวๆยาวๆเกือบจะหักกร๊อบ
“กูแค่พูดว่ากูก็มีใจให้น้อง...”
แค่หายโง่...แค่รู้ใจตัวเอง
แต่เหตุผลที่ทำให้เขาได้มินซอกกลับมานอนข้างกัน
ได้คนตัวเล็กกลับมาดูแลไม่ใช่แค่เพราะคำพูดของเขาเอง
แต่เพราะเหตุผลที่บอกจงอินไปมากกว่า เพราะมินซอกน่ารัก
ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นก็ระแวง
เพราะมินซอกคิดว่าเขาจะใช้น้องเป็นตัวสำรอง แค่เข้ามาให้ความหวังให้มินซอกดีใจ
ทั้งๆที่น้องก็คิดแบบนั้น แต่พอเขาพูดว่ามีใจ เขาขอโอกาสจากมินซอก
ให้มินซอกช่วยทำให้ใจเขามีแต่น้อง...เด็กนั่นก็ยอมง่ายดาย ยอมย้ายกลับมานอนด้วยกัน
ทำตัวน่ารักเหมือนตอนครั้งก่อน
มินซอก...น่ารัก...
ค น คุ ก
ผู้กองคริสแวะเข้ามาหาบ่อย
และบางครั้งก็พาอี้ชิงมาเยี่ยมลู่หานด้วย เหมือนวันนี้ที่ลู่หานไปพบอี้ชิงที่ห้องเยี่ยมญาติ
จงอินยังลงงานอยู่กับกลุ่มเรือนนอนสิงห์ที่ช็อปคหกรรม
ส่วนจุนมยอนก็มานั่งอยู่ในห้องพักผู้คุมฟังผู้คุมอินซูกับผู้กองตัวสูงคุยกัน
บางครั้งก็เข้าใจแต่บางครั้งก็ไม่เข้าใจ แต่ก็ดีกว่าไปอยู่กับเพื่อนจากเรือนนอนหงส์
ตั้งแต่กอนโมถูกย้ายออกไป
จุนมยอนคิดว่าเขารู้สึกแย่ที่จะอยู่รวมกับคนอื่น
ยกเว้นตอนที่นอนหรือลงงานในบางครั้ง
เขาได้ยินบ่อยๆว่ากอนโมถูกย้ายก็เพราะเขาเองเป็นต้นเหตุ ซึ่งก็ไม่อาจจะเถียงได้
ในมุมมองคนที่ไม่รู้ไม่เห็นกับข้อเสนอจากผู้กองคริส ก็ต้องมองว่ากอนโมทะเลาะกับลู่หานเพราะแย่งเขาอยู่แล้ว
บางครั้งจุนมยอนก็มาขลุกอยู่ห้องพยาบาล
บางครั้งก็มานั่งกินขนมที่ห้องพักผู้คุม แอบนอนกลางวันตอนผู้คุมอินซูไม่อยู่
แต่วันนี้แอบนอนไม่ได้เพราะนอกจากผู้คุมตัวสูงจะอยู่ยังมีผู้กองตัวสูงด้วยอีกคน
“ฮวังชอนจี
เป็นนักธุรกิจค้าอัญมณี เห็นว่าส่งเครื่องประดับขายให้กับฝั่งจีนและญี่ปุ่น
แต่นอกจากธุรกิจเครื่องประดับอัญมณีแล้วก็มีธุรกิจทุจริตอีกเยอะแยะไปหมด”ผู้กองคริสกล่าวถึงชื่อของใครบางคนที่คิมกอนโมเป็นคนคายออกมา
ฮวังชอนจี จุนมยอนเองก็เคยได้ยินชื่อมาบ้าง ขึ้นปกนิตยสารก็บ่อยในฐานะผู้บริหารคนเก่ง
เจ้าของธุรกิจเครื่องประดับอัญมณีรายใหญ่
ไม่คิดว่าคนๆนี้เองที่คอยหนุนหลังการค้ายาเสพติด
“มีบ่อนที่ต่างจังหวัดสามแห่ง
คาสิโนที่มาเก๊าที่หนึ่ง แล้วก็ซ่องอีกเพียบ เผลอๆมีขายผู้หญิงให้ฝรั่งด้วย”จางอินซูไล่ดูเอกสารในมือที่คริสเอามา
ผู้กองตัวสูงส่งเรื่องฮวังชอนจีรายงานกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เรียบร้อย
รวมถึงชื่อของหัวหน้าแก๊งค์ค้ายาเจ้านายเก่าคิมกอนโมอย่างชเวดงอุคด้วย
คาดว่าคงมีหมายศาลเรียกตัวทั้งสองคนในอีกไม่ช้า
งานครั้งนี้ของคริสจะสิ้นสุดลงก็ต่อเมื่อทั้งสองคนถูกตัดสินโทษ
แต่งานของคนอื่นๆที่เป็นสายในแผนปลอกกล้วยนั้นสิ้นสุดลงแล้ว
ดวงตาคมมองคนที่นั่งฟังเขาคุยกับอินซู
“อีกสองอาทิตย์เรื่องนายกับลู่หานก็คงเสร็จ
ฉันเร่งเรื่องให้ เผื่อนายอยากจะออกไปไวๆ”เขาพูดด้วยหวังดี จุนมยอนพยักหน้า
“ขอบใจ”พูดตอบกลับเพียงสั้นๆ
ถ้าไม่มีจางอินซูอยู่ด้วยตอนนี้ระหว่างจุนมยอนกับคริสคงน่าอึดอัดพอดู
ถึงแม้คริสจะทำให้เขาออกจากคุกได้
แต่เขาก็ไม่ลืมว่าการที่เข้าได้ออกไปสู่อิสรภาพนั้นแลกมาด้วยอะไร...สิ่งที่เขารังเกียจ
การที่ต้องให้ผู้ชายมาเชยชมเรือนร่าง และเรื่องเหล่านั้น
อู๋อี้ฟานเป็นคนกำหนดให้เขาทำมัน
“แล้วออกไปจะไปอยู่ไหน?
ได้ข่าวว่าพ่อแม่ก็ประกาศตัดลูกแล้วไม่ใช่เหรอ?”ไม่ได้ถามเพราะต้องการจะซ้ำเติม
แต่คริสถามด้วยความเป็นห่วง จุนมยอนกัดริมฝีปาก
ผู้ชายคนนี้มีดีแต่ย้ำจุดที่เป็นแผลของเขาให้มันระบมมากขึ้นหรือยังไง?
“ไม่รู้
คงหาเช่าห้องเล็กๆ”บอกตรงๆว่าจุนมยอนไม่ได้อยากจะเสวนากับผู้ชายคนนี้เลย ผู้คุมอินซูเห็นว่าจุนมยอนคิดจะหาที่อยู่เลยแนะนำย่านที่เขาเคยอยู่
แออัดเล็กน้อยแต่ไม่ถึงกับเป็นสลัม ค่าเช่าห้องก็ถูกดี คริสขมวดคิ้ว
“ที่นั่นมันเป็นแหล่งซ่องสุมพวกพี้ยาไม่ใช่เหรอ?
เด็กวัยรุ่นเมากัญชากันให้เกลื่อน
เดี๋ยวก็ได้ซ้ำรอยเดิม”พูดเพราะเป็นห่วงอีกนั่นล่ะแต่ก็ย้ำแผลจุนมยอนได้ดีอีกเช่นเคย
คนตัวขาวกัดปากจนห้อเลือด รู้สึกแสบจมูกขึ้นมาเหมือนอยากจะร้องไห้
ผู้ชายคนนี้กำลังทำเขารู้สึกด้อยค่ากับชีวิต เป็นแค่เครื่องระบายความใคร่ให้ผู้ชาย
ถูกพ่อแม่ทิ้ง แถมยังเป็นอดีตขี้ยาติดกัญชา
“ขอบใจในความหวังดี
แต่ถ้าฉันจะกลับไปเล่นยาอีก
จะไม่ให้โดนจับได้เป็นครั้งที่สองแล้วกัน”พูดด้วยเสียงสั่นแต่พยายามจะเก็บอาการ
จุนมยอนลุกขึ้นบอกลาผู้คุมอินซูขอตัวไปช่วยเพื่อนลงงานที่แปลงเกษตร
แต่ไม่แม้แต่ชายตาแลไปยังคริสแม้แต่น้อย
คนได้รับความเมินเฉยใส่เกาหัวแกร็กด้วยความงง
ถามอินซูว่าตัวเองทำอะไรผิด
ผู้คุมร่างสูงได้แต่ยิ้มแหยไม่กล้าพูดบอกคนตำแหน่งสูงกว่าว่าผิดทุกอย่างที่พูดออกมา
คริส...หรืออู๋อี้ฟาน
นายตำรวจยศสูง ได้ติดยศผู้กองตั้งแต่ยังหนุ่มยังแน่น
ทำงานเถรตรงไม่มีการรับสินบนจากฝ่ายไหนเลยเป็นที่รักใคร่ของเบื้องบนนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่อยู่หลายคน
เพราะเหตุนี้เองเลยทำให้เรื่องการช่วยลู่หาน จุนมยอน
และกรณีแถมอย่างมินซอกออกจากคุกเป็นเรื่องที่ไม่ยากนัก แต่ก็ไม่ง่ายในทีเดียว
ทั้งสามคนที่ออกไปต้องแลกด้วยความเชื่อใจจากคริสเองต่อนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายคน
คริสมีน้องชายอยู่คนหนึ่งคือโอเซฮุน
แซ่คนละแซ่แถมคนละเชื้อชาติเพราะไม่ใช่พี่น้องกันแท้ๆโดยกำเนิดแต่คริสก็รักน้องชายคนนี้กว่าอะไรแถมหวงเข้าไส้
มีคนเดียวที่ไว้ใจให้ดูแลน้องคอเพื่อนหมออย่างปาร์คชานยอล
อินซูรู้จักผู้กองคนนี้มาเป็นเวลานาน
หลายๆครั้งที่คริสเข้ามาตรวจตราเยี่ยมเยียนในเรือนจำ คริสเป็นคนดีแล้วยังมีเมตตา
ทว่าหน้าที่ความรับผิดชอบในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ก็ต้องมาก่อน
อย่างเช่นกรณีของลู่หาน ไม่ว่าลู่หานจะขายยาเพราะเหตุผลอะไร
หน้าที่ของตำรวจก็คือจับตัวลู่หานมารับโทษเพราะอีกคนทำผิดกฏหมายแม้ส่วนหนึ่งจะมาจากแรงหมิ่นจากคนอื่นที่เขาไม่สามารถจะจับลู่หานได้ในหลายๆครั้งก็ตาม
เขาเลยพยายามจับกุมมันให้ได้ในที่สุด
คริสคอยดูครอบครัวนี้ตลอดตั้งแต่ลู่หานโดนจับ
เมื่อแม่ของลู่หานเสียชีวิต อี้ชิงที่เหลือตัวคนเดียวนั้นคริสก็ช่วยดูแลเพราะความสงสาร
เห็นกันมาก็บ่อยซ้ำแม่ของเด็กคนนี้ยังฝากฟังเขาไว้เพราะอี้ชิงอยากเป็นตำรวจ คริสเลยคอยช่วยเหลือดูแลอี้ชิงตั้งแต่นั้นมาเป็นธุระให้ในหลายๆเรื่องจนอี้ชิงแทบจะเทิดทูนเขา
เด็กนั่นพูดบ่อยๆว่าเขาเป็นคนดีทั้งที่เขาก็เป็นส่วนหนึ่งให้แม่ของเด็กคนนี้จากไปอย่างไม่มีวันกลับแท้ๆ
อาจจะเพราะว่าอี้ชิงเป็นเด็กดีมาก
เขาเลยยิ่งเอ็นดูเด็กคนนี้เข้าไปใหญ่ เด็กอายุยังไม่บรรลุนิติภาวะที่เพิ่งสูญเสียแม้และพี่ชายถูกจับ
ค่าเทอมที่ยังไม่ได้จ่าย รายจ่ายของบ้านที่แบกรับ
อี้ชิงทำงานในผับในบาร์ทุกคืนจนเขาเป็นห่วงจะหยิบยื่นค่าเล่าเรียนให้แต่คนตัวขาวก็ปฏิเสธ
เห็นเด็กดีๆแบบนี้ต้องลำบาก คริสเลยอยากจะช่วย
...นั่นคือเหตุผลหนึ่งว่าทำไมจึงเลือกลู่หาน...
แรกเริ่มของแผนคิดจะให้จงอินเป็นคนรับบทเด็กนางพญา
แต่เพราะอยากช่วยลู่หานออกมาด้วยสั่วนหนึ่ง
และไอ้น้องชายที่แสดงมาเอาอกเอาใจขอแสดงเป็นน้องชายจงอินนั้นดูจะหงอยไปแถมยังฟึดฟัดไม่ค่อยพอใจเมื่อรู้ว่าจงอินต้องเป็นเด็กนางพญา
คริสเลยเลือกลู่หานมาแทนได้อย่างไม่ต้องคิดอะไรมาก
นึกถึงไอ้เจ้าน้องชายที่แสนหวงแสนรักก็พาให้ต้องยิ้มออกมา
คริสไม่ใช่ไม่รู้ว่าน้องชายของตนกำลังมีความรัก
แต่เพราะเขาไม่ไว้ใจใครหน้าไหนนอกจากปาร์คชานยอล
ต่อให้ไอ้หมอมันมองเซฮุนเป็นแค่น้องชายก็ตาม สำหรับคนที่เซฮุนชอบพออย่างจงอินเขาเองก็รู้จักมานาน
แต่ไม่นานพอจะฝากน้องชายที่เขารักเอาไว้ได้
...รอให้คิมจงอินสร้างผลงานมากกว่านี้สักหน่อย
ขยับจากสายตำรวจแล้วเลือกจะสอบเข้าบรนจุเป็นนายตำรวจได้...บางครั้งเขาอาจจะไว้ใจฝากชีวิตน้องชายไว้กับคนนั้นจงอินก็ได้
ก็รู้อยู่ว่างานสายตำรวจเป็นงานที่เสี่ยง
หลายครั้งที่จงอินต้องเสี่ยงอันตรายปลอมตัวเข้าไปในแก้งค์ค้ายารายใหญ่ๆเกือบโดนสั่งเก็บก็หลายรอบ
แล้วเขาจะไว้ใจให้เซฮุนไปเป็นของคนที่แขวนชีวิตไว้บนเส้นด้ายได้ยังไงล่ะ จริงไหม?
ค น คุ ก
จุนมยอนกัดริมฝีปากแน่นเดินย่ำเท้าหนักๆลงส้นจนพื้นรองเท้าจะสึก
นึกถึงคนที่ทำให้เขาต้องคอยกรอกตาขึ้นฟ้าเพื่อกลั้นน้ำตาอยู่แบบนี้แล้วอยากจะชกหน้าหล่อๆนั่นให้หงายหลัง
ผู้คุมอินซูเคยบอกกับจุนมยอนว่าไอ้ผู้กองบ้านี่เป็นคนพูดค่อยข้างตรง
เป็นคนเถรทั้งในหน้าที่และชีวิตจริง อาจจะพูดจาแย่ๆหน่อยเช่นหยิบยื่นข้อเสนอให้เขานอนกับผู้ชายแลกการมีอิสระ
หรือแบบเมื่อครู่ที่เจอมานั่น...เพราะฉะนั้นให้จุนมยอนอย่าใส่ใจกับคำพูดพวกนั้นมาก
แต่จะไม่ให้ใส่ใจเลยก็กระไรอยู่
ชีวิตที่ล้มเหลวผิดพลาดที่ไม่อยากจะรื้อฟื้นแต่ก็ยังจะมาพูดซ้ำตอกย้ำเข้ากันเข้าไป
ขอบตาจุนมยอนนี่ร้อนผ่าวจนแทบร้องไห้ออกมาด้วยทั้งโมโหและเสียใจ
“อ้าว
นายจะไปไหน”เสียงคุ้นหูทักตอนจุนมยอนลงส้นเท้ากระทืบดืนกระทืบหน้าระบายอารมณ์
เงยหน้ามองก็พบลู่หานเดินมาพร้อมผู้คุมคนหนึ่ง จุนมยอนส่ายหน้า
ที่จริงจะไปช่วยพวกเรือนนอนหงส์ลงแปลงเกษตร แต่อารมณ์แบบนี้คงไม่ดี
อาจจะถอนผักกาดขาวขึ้นมาฟาดแหลกทั้งแปลกเสียเปล่าๆ
“เพิ่งมาจากห้องผู้คุมอินซูน่ะ
นายจะไปลงงานกับเพื่อนเหรอ?
น้องมาเยี่ยมเป็นยังไงมั่ง”ถามถึงอี้ชิงที่มาเยี่ยมพร้อมผู้กองคริส
ลู่หานยิ้มบอกว่าน้องสบายดี นี่มาซื้อขนมตุนไว้ในชื่อลู่หานด้วย
อยากกินเมื่อไหร่ก็ไปเบิกมากิน แถมยังบอกให้แบ่งเพื่อนๆกินด้วย
“น้องนายรู้หรือยังว่านายจำกลังจะได้ออกไป”จุนมยอนถามอีกคน
ผู้คุมที่เดินมาพร้อมลู่หานแยกตัวไปแล้วบอกมีงานต้องทำ
คุยเสร็จก็ให้ลู่หานรีบไปช่วยเพื่อน ลู่หานส่ายหน้าบอกว่ายังไม่ได้บอก ให้บอกก็คงไม่เป็นการดี
รอถึงวันที่ได้ปล่อยตัวเลยให้รู้วันนั้นดีกว่า
“ดีนะ
ออกไปก็มีน้องชาย เราอยากมีใครรอเราออกไปเหมือนกัน”คิดถึงพ่อกับแม่ขึ้นมา
ถ้าวันที่ได้ก้าวเท้าออกจากเรือนจำแห่งนี้ไป มีพ่อกับแม่มายืนรอรับเขา
ได้โผกอดเข้าสู่อ้อมกอดของพ่อ แล้วบอกซ้ำๆว่าขอโทษ...คงจะดี
ลู่หานตบบ่าให้กำลังใจเพื่อนก่อนจะขอตัวแยกไปช่วยงานเพื่อน
ป่านนี้คงวุ่นวายไอ้แดฮยอนกับไอ้อูฮยอนคงโขมยขนมกินไปหลายชิ้นแล้ว
จุนมยอนโบกมือลาอีกคน ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆ
อารมณ์ดีขึ้นมาเล็กน้อยจนคิดว่าคงไปช่วยเพื่อนเรือนนอนหงส์ที่แปลงเกษตรกรรมได้แล้ว
ที่จริงแล้วนางพญาไม่จำเป็นต้องทำอะไรแบบนี้
แต่จุนมยอนก็ไม่เคยเกี่ยงงาน แม้บางครั้งจะใช้สิทธิ์ของนางพญาไม่ทำบ้าง
แต่บางทีก็สนุกกับการลงงานดีเหมือนกัน
อย่างเช่นวันนี้ลูกคะน้ากับหัวผักกาดขาวบางส่วนเริ่มเก็บได้แล้ว
พวกเขาจะเก็บผักที่สามารถกินได้ไปไว้ปรุงอาหารสำหรับมื้อเย็น
อีกกลุ่มหนึ่งแยกไปฟันดินพื้นที่ปลูกข้าวโพดเก่าแปลงย่อมๆ โรยปุ๋ยคอกแล้วฟันดินทับ
จากนั้นก็พักดินไว้สักสามวันก่อนให้กลุ่มต่อไปมาปลูกถั่วเหลือง
เห็นว่าไอเดียปลูกถั่วเหลืองแทนข้าวโพดเป็นของพวกเรือนนอนสิงห์
หลายคนจึงเห็นด้วยเพราะนอกจากเป็นการปรับปรุงคุณภาพดินจากการใช้ปลูกพืชซ้ำซากแล้ว
การปลูกพืชตระกูลถั่วยังเป็นการช่วยเพิ่มธาตุไนโตรเจนให้แก่ดินอีกด้วย
ผลผลิตก็ได้ดีเพราะดอกของถั่วเป็นดอกของพืชแบบผสมตัวเอง
มีโอกาสติดฝีกและเมล็ดสูงกว่าข้าวโพดที่หากปลูกน้อยๆก็ได้ข้าวโพดฟันหลอแบบเดิม
“ถั่วเหลืองนี่มันเอามาทำอะไรได้นอกจากส่งโรงงานซอสกับทำเต้าเจี้ยววะ?”มีคนหนึ่งถาม
มินกิเลยตอบไปว่าที่ปลูกเป็นถั่วเหลืองฝักสด ไว้กินตอนเป็นฝักสดสีเขียวๆ
ไม่ใช่รอให้เมล็ดแก่จนเป็นสีเหลืองแล้ว
“เอามาต้มกิน
รสชาติเหมือนถั่วแระ”มินกิบอก ชาวเรือนนอนหงส์เลยตื่นเต้นกันใหญ่
เพิ่งจะรู้ว่าถั่วเหลืองเมล็ดอวบอ้วนที่เห็น เมื่อตอนเป็นผักสดเมล็ดยังอ่อนๆจะคล้ายกับถั่วแระที่ขายอยู่ในห้าง
กินแล้วมันๆ อร่อยปากดี
“หมดคาบถั่วเหลืองปลูกถั่วอย่างอื่นบ้างได้ป่ะวะ
ถั่วลิสง ถั่วลันเตา ถั่วเขียว อันหลังเอามาต้มน้ำตาลใส่ไข่ เมียกูเคยทำ
อร่อยดี”จางอูฮยอกบอกเสนอออกมา ทุกคนก็เออออบอกถั่วเขียวก็ดี หุงผสมข้าวก็ได้
อร่อยไปอีกแบบ ต้มน้ำตาลหม้อใหญ่ก็กินกันได้ทั้งแดน
“แต่กูอยากกินผักทองเหมือนกันนะ
ผู้คุมมันจะว่ามั๊ยถ้าจะปลูกเหี้ยห่าอะไรเยอะขนาดนี้”อีกคนเสนอขึ้นมา
คนอื่นก็สนับสนุนว่าปลูกฟักทองก็ดี เอามาต้มราดกะทิ หรือจะเชื่อมก็ได้
เอาไปฝานเป็นอผ่นบางๆทอดขายก็ยังได้
“ผู้คุมแม่งไม่ว่าหรอก
แต่พวกมึงบางคนจะได้อยู่ปลูกเหรอฟักทองน่ะ
ดูอย่างไอ้มินฮยอกเดี๋ยวมันก็พ้นโทษแล้ว”ชเวยงนัมพูดแล้วหัวเราะ
ทุกคนเลยนึกขึ้นตามได้
เพราะเรือนนอนหงส์มักจะบรรจุนักโทษที่ใกล้พ้นทาเต็มแก่เอาไว้
หลายคนก็จะได้ออกจากคุกไปในอีกไม่กี่เดือนหรือบางคนอีกไม่กี่วันเท่านั้น
จุนมยอนมองเพื่อนร่วมเรือนนอนที่หัวเราะกับคำพูดของยงนัม...
ตัวเขาเองก็คงไม่มีโอกาสได้ปลูกฟักทองกับเพื่อนสินะ...
TBC.
คิดว่าพาร์ทนี้ได้อะไรเยอะ
55555555555555555555555555555555555555
เรื่องพี่คริสกระจ่างกันไหม?
บางคนเกลียดแก แอร๊ยยยย อย่าเกลียดแกเลยยยยยย
คาแร็คเตอร์พี่คริสคือคนที่พูดจากกำปั้นทุบดิน ตรงๆ
จนบางครั้งก็กลายเป็นมะนาวไม่มีน้ำ ดูอย่างตอนพี่แกยื่นข้อเสนอให้พี่ลู่
(ย้อนกลับไปกี่ตอนล่ะนั่น)
พยายามกลับไปอ่านตอนเดิมเพราะกลัวปะติดปะต่อเรื่องไม่ตรงกัน
5555555555555555555 ใครอ่านแล้วคิดว่า เอ๊ มันไม่ต่อกับตอนนั้นเลยนะ บอกเราได้นะ
เราอาจจะเช็คไม่แน่ใจ เพราะเนื้อหามันค่อนข้างจะยาวและความจำเรามันสั้น
ปล.
ไม่ใช่คริสเลย์นะคะ... มีใครผิดหวังไหม? พี่คริสเอ็นดู ค่ะ
ที่บอกเต็มใจจะดูแลเพราะแกเอ็นดูอี้ชิง T^T
รักนะคะคนดีของฉัน
♥
#พี่ลู่คนคุก
แมลงจี่...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น