เสียงเปียโนดังลอดออกมาจากบานประตูที่ถูกเปิดแง้มเอาไว้
ชานยอลไม่ใช่คนที่จะมีความสุนทรียะในตัวเสียเท่าไหร่
เครื่องดนตรีที่เขาเคยเล่นคงมีแต่ทรัมเป็ต
แต่นั่นมันก็เมื่อสี่ถึงห้าปีที่ผ่านมาแล้ว
เขาชอบเพลงร็อคหรือเฮฟวี่ร็อคมากกว่าดนตรีที่แสนจะคลาสิคละเมียดละไม
แต่ยอมรับจากใจเลยว่าเสียงเปียโนที่ได้ยินนี่ช่างไพเราะจริงๆ
อยากรู้นักว่าหน้าตาของคนที่บรรจงบรรเลงเสียงเพลงนี้เป็นเช่นไร
เพราะประตูที่ไม่ได้ปิดสนิททำให้ชานยอลใช้เรียวนิ้วยาวเกี่ยวเอาบานประตูให้แง้มออกกว้างมากขึ้นได้
ห้องดนตรีของมหาวิทยาลัยเป็นที่รวบรวมเครื่องดนตรีเกือบทุกชนิดเอาไว้
แต่ที่เด่นเป็นสง่ามากี่สุดคงเป็นแกรนด์เปียโนหลังสีขาวกลางห้อง
...ซึ่งบัดนี้มันถูกจับจองด้วยใครสักคน...
แผ่นหลังดูบอบบางเพราะเนื้อผ้าบางเบาที่แนบกายอยู่
ผมสีน้ำตาลเข้มยาวระเพียงที่ต้นคอสีละมุน แขนเพรียวขยับตามจังหวะของการยกมือ
เรียวขาที่ซ่อนใต้กางเกงยีนสีซีดซ้ำยังมีรอยขาดแหว่งไปทั่วถูกยกไขว่ห้าง
ดูท่วงท่าแล้วประกอบกับแกรนด์เปียโนหลังงามด้านหน้าคนๆนี้ช่างภาพที่น่ามอง
ชานยอลไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขายืนมองภาพนี้อยู่นานกว่าสองนาที
จนเมื่อเพลงที่บรรเลงนั้นหยุดลงชานยอลถึงได้ดึงสติกลับมาอยู่กับตัวเองได้
คนที่นั่งเล่นเปียโนเมื่อครู่ลุกขึ้นก่อนจะคว้าเอากระเป๋าผ้าใบเล็กที่วางอยู่ข้างกายแล้วเดินออกมา
ชานยอลรีบหลบฉากอยู่หลังซอกบานประตูพับ
เหมือนคนที่ถูกแอบมองไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิด
ชานยอลลอบกลืนน้ำลายลงคอเมื่อคนที่เล่นเปียโนเดินผ่านเขาออกจากห้องไป
ช่องเล็กๆของบานประตูที่พับทำให้เห็นเสี้ยวหน้าของคนๆนั้น
...งดงาม...
ดวงตาไม่ได้กลมโตทว่ากลับเรียวรีชวนมอง
ริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงสด ตัดกับแก้มสีขาวจัด
...ใครกันนะ...
หวังว่าจะได้เจอกันอีกครั้ง...
เป็นอีกวันที่ชานยอลเดินผ่านห้องดนตรีแล้วได้ยินเสียงเปียโน
ชายหนุ่มคิดว่าตัวเองเหมือนพวกโรคจิตถ้ำมองเข้าไปทุกที
แล้วประตูบานนี้ก็เป็นใจไม่เคยงับสนิทเลยสักครั้ง
คนตัวขาวที่กำลังบรรจงกรีดกรายข้อนิ้วลงบนคีย์ต่างๆไม่เคยรับรู้การมาถึงของชานยอล
ร่างสูงเหมือนจะได้ใจ
เท้าใต้รองเท้าผ้าใบยี่ห้อดังขยับล่วงล้ำอาณาเขต
ยิ่งเข้าไปในห้องเสียงเปียโนยิ่งชัดเจน มันหวานละมุนด้วยกลิ่นไอของเพลงยุคเก่าซึ่ง
ชานยอลไม่รู้ว่ามันชื่อเพลงอะไร แต่ฟังๆไปก็เพลินดี
แม้จะเดินไปหยุดช้อนหลังอีกคนแต่คนที่เล่นเปียโนอย่างตั้งใจก็เหมือนจะยังไม่รู้ตัว
แต่ทว่าเมื่อชานยอลหัวเราะเบาๆ มือเรียวที่กำลังกดโน้ตอยู่นั้นกลับหยุดชะงัก
นักเปียโนคนงามหันขวับมามองด้านหลังอย่างตกใจ อารามผวาทำเอาแทบจะร่วงจากเก้าอี้
...ผู้ชายคนนี้เป็นใคร...
รู้สึกไม่ปลอดภัยในท่าทางคุกคามของคนที่ยืนประชิด
ร่างเล็กกว่าลุกพรวดจากแกรนด์เปียโนหลังสวยความเอาเป้แล้วทำท่าจะออกจากห้องไปให้เร็วที่สุด
แต่ก็ไม่ทันมือหนาที่คว้าหมับเข้าที่แขนอย่างทันท่วงที
“จะรีบไปไหนล่ะ?”เสียงทุ้มเอ่ยถาม
ดูจากการแต่งตัวแล้ว คนๆนี้ไม่ใช่นักศึกษาที่นี่แน่ๆ
เพราะไม่มีทางที่ยามจะยอมให้นักศึกษาแต่งกายไม่สุภาพขึ้นบนตึก แต่กับคนตรงหน้า
เสื้อเนื้อบาง กางเกงยีนส์ตัวเก่า มันผิดระเบียบทั้งนั้น
อาจจะรู้จักกับอาจารย์ที่นี่กระมัง
“ทำไมไม่ตอบล่ะ”ถามเย้าอีกหนเมื่อคนตรงหน้าไม่คิดจะตอบอะไร
แต่กลับย่นคอหนีใบหน้าของชานยอลที่ยื่นไปรุกราน ดวงหน้าขาวส่ายพั่บ
พยายามจะแกะเอามือหนาออกให้ได้นั่นยิ่งทำให้ชานยอลจับแขนอีกคนแน่นขึ้นอีก
พละกำลังที่มีมากกว่าทำให้ดันอีกคนไปชิดผนังห้องดนตรีได้ไม่ยาก
แนบกายลงไปชิดจนอีกคนมีสีหน้าผวา
ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร
แล้วทำไมต้องมาทำท่าทางน่าหวาดกลัวแบบนี้ แต่ถึงจะอยากหลบหนีแต่ก็ไม่พ้น
เป็นผู้ชายเหมือนกันแต่ว่าคนตัวบางอ่อนแอมาตั้งแต่เด็ก
อีกทั้งยังมีโรคประจำกายอีกด้วย
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมจงแดถึงไม่รู้เลยว่าชานยอลเดินเข้ามาประชิดตัวแบบนั้น...
“จงแด...อืม
ชื่อเพราะนะ”ถือวิสาสะอ่านชื่ออีกคนที่มีติดไว้ที่กระเป๋าเป้พร้อมเบอร์โทรติดต่อผู้ปกครอง
ดวงหน้าหวานๆนี่ทำให้ชานยอลพอใจไม่น้อยเชียว
บอกได้เลยว่ามาแอบดูคนๆนี้เล่นเปียโนแค่ครั้งสองครั้ง
เขาก็รู้สึกได้...ว่าเขากำลังชอบ...อยากได้...คนๆนี้
ติดอยู่อย่างเดียวที่คนในการกักขังไม่พูดอะไรเลย
หรือเป็นใบ้??
“เป็นใบ้หรอ?”เขาถามอย่างไม่เกรงใจ แล้วจงแดก็ส่ายหน้าปฏิเสธ
เรียวปากงามๆน่ากดจูบเผยออ้าก่อนจะขยับเปล่งคำพูดแต่มีเพียงเสียงเบาๆตอบกลับมา
นี่ล่ะ...โรคประจำตัวของจงแด...
เขาเป็นนักดนตรีที่มีพรสวรรค์
ทว่ากลับน่าเสียดาย
ที่หูทั้งสองข้างและกล่องเสียงเพียงหนึ่งเดียวนั้นทำงานผิดปรกติ จงแดจึงได้ยินเสียงเพียงแผ่วเบา
และพูดได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“ผม...พูด...ได้เบาๆ”พยายามจะแค่นเสียงตอบ ชานยอลเองก็พยายามจะฟัง
แต่เมื่อได้ยินอีกคนพูดมาอย่างนั้น ร่างสูงโปร่งก็ปล่อยอีกคนออกด้วยความตกใจ
ไม่คิดว่าอีกคนจะมีความผิดปรกติจริงๆ
“เอ่อ...ฉันขอโทษละกัน”เขาเอ่ยขอโทษ
แต่เหมือนอีกคนจะไม่ค่อยได้ยิน คงมีความผิดปรกติทางหูด้วย
ดวงตาเรียวรีมองไปรอบๆกาย แล้วมองบานประตูเหมือนจะถามว่าออกไปได้หรือยัง
สายตาที่ช้อนมองด้วยคำถามแบบนั้น...อีกคนคงไม่รู้ว่ามันเป็นเหมือนยากระตุ้นชั้นดี
ลูกปัดกลมใสนั่นดูบริสุทธิ์งดงาม
...ชานยอลเห็นใจอีกคนนะ ทั้งที่ไม่ค่อยได้ยินและพูดไม่ค่อยได้...แต่ขอเถอะ...
เรียกชานยอลว่าคนเลวก็ได้
แต่เขา...
อยากจะครอบครองคนตรงหน้าชะมัด...
จงแดเบิกตากว้างเมื่อคนที่ถอยห่างไปแล้วพุ่งตัวเข้าใส่กันอีกหน
จะกรีดร้องก็มีเพียงเสียงแหบๆหลุดลอดออกมา
พละกำลังที่เหนือกว่ากดร่างเล็กลงกับพื้นห้อง กระเป๋าเป้ถูกดึงออกโยนไปอีกทาง
เหมือนกับเสื้อเนื้อบางที่จงแดสวมใส่
ชานยอลอาศัยจังหวะที่อีกคนมัวแต่สนใจร่างกายที่กำลังเปลือยส่วนบนวิ่งไปล็อกประตูไว้ก่อนกันผิดพลาดใครเข้ามาเห็น
ความกักขฬะหยาบโลนตรึงแขนเล็กกระแทกเข้ากับพื้นแล้วตะโบมจูบไปทั่วใบหน้าขาวใส
ยิ่งอีกคนร้องอุทธรณ์ไม่ได้ก็ยิ่งได้ใจ
เรี่ยวแรงที่มากกว่าบังคับถอดเปลื้องเสื้อผ้าอีกคนจนได้
ทุกการกระทำเป็นไปด้วยความรุนแรงและดุดัน
น้ำตาของจงแดไหลพรากออกมาด้วยความเจ็บไปหมด
ทั้งตัวถูกบดขยี้ ลิ้นร้อนๆไล้เลียแล้วทิ้งรอยกัดเอาไว้ที่ลำคอ
มือบีบขยำไปทั่วทั้งแขน ขา และเนื้อเอว ขงแดพยายามส่งเสียงแหบๆกรีดร้องออกมา
ส่ายหน้าเป็นพัลวันเมื่อขาทั้งสองข้างถูกแยกออกกว้าง คนตัวสูงที่จงแดไม่แม้แต่จะรู้จักชื่อปลดเข็มขัดและกระดุมกางเกงสแล็คก่อนจะรูดซิปลงแล้วคว้าเอาอะไรที่ตื่นตัวอยู่ใต้นั้นออกมา
ความยาวของมันไม่ใช่เล่นๆ
จงแดผวาสั่น ดิ้นปัดจะให้หลุดไปให้ได้ แต่ก็สู้แรงคนด้านบนไม่ได้เลย
ขาที่แยกออกกว้าถูกดันออกห่างอีกเท่าตัว
รู้สึกว่าอะไรกำลังดุนดันอยู่ที่ปากทางด้านหลัง จงแดขอร้องทั้งน้ำตาผ่านแววตาคู่ใส
แต่คนร่างสูงก็ไม่สนใจสักนิด
ชานยอลดันความต้องการเข้าไปในร่างที่อยู่ใต้อาณัติ
ได้ยินเสียงอึ่กอั่กในลำคอของจงแด
แม้จะไม่มีเสียงหวานๆให้ได้ฟังแต่เส้นทางที่สดใหม่แน่นคับไปหมดนั้นก็ทำให้ชานยอลรู้สึกดีได้
ร่างสูงโยกตัวเข้าออกให้ชิน ไม่นานก็ขยับรุนแรงยังให้ร่างคนที่นอนสะอื้นสั่นไหว
ทุกการเคลื่อนกายเป็นไปด้วยความหนักหน่วง มือหนาคว้าตัวคนตัวเล็กกว่ามากอดทั้งที่ด้านล่างยังซอยเข้าออกไปหยุด
จูบปลอบที่หางตาเปื้อนน้ำใส
จงแดนิ่วหน้า
มันเจ็บ เจ็บไปหมด แต่บางครั้งก็เจ็บแปลกๆ มันวี๊ดขึ้นมาตามไขสันหลัง จนจงแดเผลอตัวส่งเสื่อ
“ฮื่อ” ออกมา
จังหวะการขยับกายกระแทกกระทั้นและรุนแรงมากกว่าเดิม
ทว่าก็ไม่มีเสียงอะไรเล็ดลอดจากริมฝีปากสวย จงแดทำได้เพียงส่ายหน้าไปมาด้วยความเจ็บระคนเสียวแปลบปลาบ
ร้องไห้ให้ตายผู้ชายคนนี้ก็คงไม่สนใจ จึงทำได้แค่นอนเฉยๆ ทั้งที่เจ็บจะตายอยูแล้ว
“จงแด...”เสียงทุ้มกระซิบอยู่ข้างหนู จงแดเปล่าไม่ได้ยิน
ทั้งที่หูของเขาควรรับรู้ถึงเสียงนั้นได้เบากว่านี้แต่ทว่ามันกลับเดนชัดในโสต
ใบหน้าที่จงแดเพิ่งสังเกตดีๆว่าหล่อเหลาเหมือนรูปสลักนั้นบิดเบี้ยวน้อยๆ
มือหนาจับสะโพกจงแดไว้แน่นยามที่แทรกกายเข้ามาเร็วกว่าเคย
เสียงทุ้มครางอื้ออึงในลำคอ
สวนกระแทกกายเข้ามาเร็วๆหลายครั้งก่อนจะรีบชักกายออกแล้วน้ำสีขาวขุ่นก็พุ่งจากส่วนปลายรินรดกายของจงแดที่รองรับอยู่เบื้องล่าง
ธารคาวฉีดลงบนเนื้อหน้าท้อง
เปื้อนกระเซ็นไปที่พื้นอีกด้วย ชานยอลหายใจหอบแล้วทิ้งตัวทับอีกคนที่นอนนิ่งอยู่ด้านล่าง...
แน่น คับ สด
ซิง...
จงแดทำให้ชานยอลมีความสุขมาก
มือหนาลูบผมอีกคนอย่างเอ็นดู สงสารเหมือนกันที่เห็นน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาอีกคนอีกแล้ว
แต่ชานยอลไม่ใช่ว่าจะฟันแล้วทิ้งหรอกนะ
บอกแล้วว่าชอบ...อยากได้...
แล้วที่ทำไปก็จะรับผิดชอบ...
ถึงตอนนี้ยังเป็นแค่คนแปลกหน้า
รู้จักเพียงแค่ชื่อของอีกคน ไม่รู้เลยว่าอีกคนเป็นลูกเต้าเหล่าใคร
บางที...อาจเป็นลูกชายอาจารย์สักคนบนอาคารเรียนแห่งนี้ แต่ชานยอลไม่สนหรอก...เขาได้ครอบครองคนตรงหน้าแล้ว
ครั้งแรกของจงแดเป็นของเขา
...ยังไง...เขาก็จะเอาจงแดให้ได้
.
.
“ฉันชอบนาย...จงแด.”
(ปุกาด) เปิดโอน #ขายตัวออลเฉิน ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2558 คับ!!! รายละเอียด http://writer.dek-d.com/dekd/writer/viewlongc.php?id=1356187&chapter=6 ขอบคุณค่า
(ปุกาด) เปิดโอน #20ชฉ ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2558 คับ!!! รายละเอียด http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1407994&chapter=3 ขอบคุณค่าาาา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น