วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2558

Dinning Room

อาหารสำเร็จรูปถูกแกะแล้วนำเข้าเตาไมโครเวฟ รอไม่นานก็ได้อาหารกลิ่นหอมหน้าตาน่ารับประทานในจานใบสวย จงแดนำจานอาหารแต่ละอย่างไปวางบนโต๊ะ หน้าที่วันนี้ของเขาได้เสร็จสิ้นลงแล้ว
ปลดผ้ากันเปื้อนออกแขวนไว้กับราวในครัวแล้วล้างมือเล็กน้อย เดินไปหยิบกระเป๋าสะพายใบโปรดจะออกจากห้องไปทว่ากลัวต้องชะงักเพียงเปิดประตูห้องออก

ร่างสูงโปร่งของปาร์คชานยอลยืนค้ำเป็นยักษ์วัดแจ้งอยู่ตรงหน้า
จงแดถอยมาหนึ่งก้าวด้วยความตกใจ แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งโหยงเมื่อร่างสูงตรงหน้าคว้าข้อมือเขาเอาไว้ น้ำเสียงทุ้มลึกกับแววตาเจ้าเล่ห์ของคนคนนี้เป็นสิ่งที่คิมจงแดไม่ชอบเลยจริงๆ ฟังแล้วเหมือนจะต้องตกเป็นทาสอย่างไรอย่างนั้น
 “จะกลับแล้วเหรอคุณแม่บ้าน”ชานยอลถามออกมา ดวงตาคมเข้มจ้องเพียงดวงหน้าหวานที่เสหลบไปไม่ยอมมองกัน นึกขำในใจที่จงแดเป็นแบบนี้เสมอ ถึงได้ถูกเขาแกล้งเป็นประจำ
...การได้แกล้งคุณแม่บ้านจำเป็นนี่ถือเป็นเรื่องสนุกสำหรับเขาเลยทีเดียว...
ไม่ว่าใบหน้าที่แดงเข้ม ฟันขาวที่ขบกลีบปากเบาๆด้วยความประหม่า ดวงตาเรียวรีที่ไม่ยอมมองที่กัน...ลูกชายของคิมยองฮาน่ากลั่นแกล้งที่สุด

จงแดมาทำหน้าที่แทนแม่ตัวเองที่ป่วยผ่าตัดไส้ติ่งนอนเพียบอยู่ที่โรงพยาบาล กลางวันมาทำความสะอาดห้อง ตอนเย็นเตรียมอาหารให้ เพราะเขากลับจากที่ทำงานไม่มีเวลาแม้แต่จะเตรียมอาหารเอง คิมยองฮาเป็นคนที่กะเวลาเขากลับจากทำงานได้และอุ่นอาหารไว้รอโดยเสมอ พอยองฮาป่วยลูกชายอย่างจงแดถึงมาทำแทนช่วงเวลาที่แม่พักรักษาตัว
 “หลบหน่อยครับ ผมเตรียมอาหารไว้แล้ว แล้วกำลังจะกลับแล้วด้วย”เสียงหวานๆ ฟังแล้วลื่นหูดีจริง จงแดคงได้โทนเสียงมาจากแม่เป็นแน่ เพราะเสียงของยองฮาก็ไพเราะเหมือนกัน ชานยอลได้ยินที่อีกคนพูดแต่ไม่ขยับออกจากประตู ซ้ำยังเดินเข้าหาคนที่เดินถอยหลังหนีอีกด้วย ประตูถูกแง้มปิดลงพร้อมเสียงล็อกกลอน เจ้าสมันน้อยตรงหน้าหลุกหลิกไปมาชวนให้ราชสีห์หนุ่มขบขันในใจ

...กลัว...
จำได้ดีทีเดียวว่าวันแรกที่มาทำหน้าที่แทนแม่ ผู้ชายร่างสูงตรงหน้าทำอะไรกับเขา...แค่คิดใบหน้าก็เห่อร้อนขึ้นมา สัมผัสนุ่มนิ่มหอมหวานที่กดทับบดคลึงที่ริมฝีปากนั้นยังอยู่ในมโนจิต

...คนบ้าอะไรมาปล้นจูบกันตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอหน้า
“กลัวเหรอ?”ถามพร้อมหัวเราะเบาๆ ดูสิ ถอยร่นไปจนจะถึงโซฟากลางห้องแล้ว มือเล็กเลื่อนกำสายสะพายของกระเป๋าแน่นเชียว
 “ป...เปล่า...”เอ่ยอย่างเกร็งๆ ชานยอลหัวเราะกับท่าทางแบบนั้น ชายหนุ่มถอดเสื้อตัวนอกที่ใส่กันอากาศที่ค่อนข้างหนาวเดินไปพาดไว้กับโซฟา แน่นอนว่าเมื่อจงแดเห็นเขาเข้าใกล้ก็ถอยหนีเขาไปจนถึงหน้าทีวีจอแบนเครื่องยักษ์
 “ฉันไม่ทำอะไรนายหรอกน่า แหม แค่หยอกเล่นแค่นี้เอง”ถึงจะบอกอย่างนั้นแต่ก็ไม่น่าไว้ใจอยู่ดีไม่ใช่เหรอ?

 “ผมกลับบ้านได้หรือยัง??”ถามอีกรอบ แต่คนตัวสูงที่ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตอย่างใจเย็นก็ดูเหมือนไม่สนใจกันเท่าไหร่ แต่พอจงแดตัดใจเองที่จะก้าวเท้าตรงดิ่งไปยังประตู เสียงทุ้มต่ำนั่นกลับเรียกเอาไว้ทำเอาเขาหยุดเท้าแทบไม่ทัน
 “ช่วยจัดซีดีกับดีวีดีหนังให้ฉันหน่อยสิก่อนกลับ ถือว่าขอร้อง ฉันหิวมากเลย ขอกินข้าวก่อนนะ”


มือเรียวหยิบกล่องซีดีและดีวีดีมากมายมาเลือกแยกก่อนจะค่อยๆเรียงมันกลับเข้าไปในชั้นเช่นเดิม มองเวลาที่ข้อมือพบว่ามันดึกพอควรแล้ว ไอ้หนังพวกนี้ก็เรียงยากเหลือเกิน กล่องมันเหมือนกันไปหมด ต้องอ่านรายละเอียดด้านหลังดูว่าเป็นซีดีหรือดีวีดี รู้งี้ขอมาเรียงพรุ่งนี้ดีกว่า
“จงแด เข้ามาหาฉันในครัวหน่อยสิ”เสียงทุ้มต่ำเรียกมาจากด้านในส่วนครัว คิ้วเรียวสวยขมวดเป็นปมเพราะวุ่นวายกับกล่องในแผ่นกลมๆตรงหน้า อารมณ์เสียพาลให้หงุดหงิด แต่ก็ลุกเดินเข้าไปหาร่างสูงในครัวอยู่ดี ทว่าก็ยังเว้นระยะห่างจากปาร์คชานยอลอยู่ดีเพราะไม่ไว้ใจ
...เกิดกระชากเขาไปจูบอีกจะทำยังไงล่ะ...

“ช่วยเก็บจานพวกนี้ล้างทีสิ พรุ่งนี้นายจะได้ไม่ต้องมา ฉันมีงานสังสรรค์ดึก อาหารก็ไม่จำเป็นต้องเตรียม”ปาร์คชานยอลบอกแล้วเลื่อนเก้าอี้ลุกพร้อมลูบท้องไปมา จงแดเบ้หน้า ไอ้คำว่าช่วยหน่อยนั่นก็หมายถึงใช้เขานั่นแหละง่ายๆ

เรียงซีดียังไม่เสร็จต้องมาล้างจานอีกเหรอ?
แต่ก็ดี พรุ่งนี้ไม่ต้องมา ไม่เจอหน้าปาร์คชานยอลหนึ่งวัน ไม่ต้องมาระแวดระวังกลัว รู้สึกเหมือนจะโดนลวนลามตลอดเวลาแบบนี้

ร่างสูงโย่งของชานยอลเดินเข้าไปในห้องน้ำ จงแดรีบเก็บกวาดบนโต๊ะอาหารอย่างรวดเร็ว เอาจานชามมาล้างแล้วคว่ำลงบนตะแกรง ขะมักเขม้นกับการเช็ดโต๊ะอาหารที่ยังเปรอะเปื้อนโดยหันหลังให้กับประตู...

...รู้ตัวอีกทีทั้งร่างก็ถูกกอดรัดเอาไว้...
อารามตกใจทำให้เบิกตากว้าง เสียงร้องหลุดออกมาเพียงนิดก่อนที่ริมฝีปากจะถูกกดทับด้วยมือหนา ลำแขนนุ่มนิ่มขยับเสียดสีกับคนที่รวบกอดตนเอาไว้  ใบหน้านวลขึ้นสีแดงแปร๊ดอย่างช่วยไม่ได้เมื่อรู้ได้ว่าปาร์คชานยอลไม่ได้สวมเสื้อ เนื้อต่อเนื้อแนบชิดจนจงแดรู้ได้ว่าชานยอลเป็นคนตัวอุ่นขนาดไหน ตัดกับความเย็นเฉียบของร่างกายเขาเองเสียเหลือเกิน
ลมร้อนเป่ารดที่ซอกคอ จงแดย่นคอเพราะความจั๊กจี้ พยายามจะดิ้นให้หลุดจากคนฉวยโอกาสแต่ก็เปล่า ผ้าที่ใช้เช็ดโต๊ะเมื่อครู่ตกไปอยู่ที่พื้นทันทีที่ทั้งร่างถูกพลิกให้หันไปเผชิญหน้ากับคนเจ้าเล่ห์ที่ยิ้มยั่วอยู่ จงแดไม่ทันตั้งตัว ร่างทั้งร่างถูกยกอุ้มขึ้นนั่งบนโต๊ะอาหารที่เพิ่งถูกเช็ดไปเมื่อครู่ ริมฝีปากถูกปล่อยให้เป็นอิสระ กำลังจะร้องโวยวายแต่ก็ต้องกลืนทุกอย่างลงลำคอไปเมื่อมือใหญ่ๆของชานยอลตะปบเข้าที่ส่วนสงวนอย่างจัง บีบเค้นมันลงน้ำหนักมือแน่นหนัก

จงแดอ้าปากค้าง จุกไปหมด แต่เหนือกว่านั้นคือร่างกายที่ไม่ค่อยได้ถูกโลมเล้าจากใคร อีกทั้งไม่ชินสันทัดเรื่องกามกิจมันดันตื่นตัวขึ้นมา ขนเส้นอ่อนๆสีน้ำตาลลุกชันไปทั่วทั้งแขน และคงอีกมากมายใต้ร่มผ้า
 “ฮ้า...”เสียงครางหลุดออกมาทันทีที่มือของชานยอลปล่อยให้จงแดน้อยเป็นอิสระ ใต้กางเกงยีนมันนูนโป่งพองอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าหวานแดงก่ำจนเหมือนจะช้ำเลือดเสียมากกว่า ทั้งอาย ทั้งโกรธ โมโห อีกทั้งยังมีอารมณ์อีกด้วย
 “ฉันชอบนายจัง...ริมฝีปากนี้ ดวงหน้านี้ เนื้อตัวของนาย...น่าแกล้ง น่าทำให้มันแปดเปื้อน...”ชานยอลก้มลงมากระซิบข้างหู จงแดเพิ่งตั้งสติมองดู ชายหนุ่มสวมเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียว หยดน้ำไม่มีเกาะที่ลำตัวบอกได้ว่าชานยอลยังไม่ได้อาบน้ำ เพียงผลัดเอาผ้าขนหนูห่อร่าง แล้วมาฉวยโอกาสกับจงแด
 “คุณบ้าไปแล้วอ่ะ ปล่อยผมนะ”ดันมือที่ยุ่มย่ามกับร่างกายออก แต่มือร้อนๆก็สอดเข้าใต้เสื้อยืดตัวเก่งไปลูบไล้แผ่นอกนิ่มมือ ปัดผ่านยอดอกที่ดูท่าว่าจะไวต่อความรู้สึกมากกว่าที่ใด
จงแดเป็นคนผอมแห้ง แต่เนื้อหนังนุ่มนิ่มเหมือนคนไม่เคยทำอะไร จับแล้วเนียนลื่นมือ นั่นยิ่งทำให้ชานยอลได้ใจ ต่อให้แรงต้านมากขนาดไหน เขาก็ยังทุรังจะฟอนเฟ้นเนื้อบางให้ได้ทุกสัดส่วน เอวที่แม้ไม่คอดบางแต่ก็จับพอดิบพอดีมือ หากได้ตรึงเอาไว้ตอนโถมกายใส่ของรู้สึกดีพิลึก
 “ฉันไม่ได้บ้า...นายน่ารักนะจงแด รู้ตัวไหม? หืม?”ยังไม่ทันจะได้อ้าปากตอบ ริมฝีปากของชานยอลก็บดทับลงมาไม่ให้ตั้งตัว จงแดหลับตาแน่น ปิดปากเอาไว้ไม่ยอมให้อีกคนได้รุกล้ำ จนเมื่อแนวกรามถูกบีบลงแรงนั่นเองความเจ็บปวดถึงสั่งให้ต้องจำใจอ้าปากออก ทันทีที่เผยอปากขึ้น ลิ้นชิ้นแฉะก็เข้ามารุกล้ำข้างใน จงแดหายใจไม่ออก เหมือนมีสิ่งแปลกปลอม...รู้สึกเหมือนตัวอะไรที่มีชีวิตมาดิ้นอยู่ในปาก ดูดดึงลิ้นเขาราวของเล่น

ได้แต่ครางอื้ออึงในลำคอ จงแดสู้อะไรไม่ได้เลย
ที่เป้ากางเกงโดนลูบไล้อีกครั้ง จงแดเสียววูบวาบไปทั้งร่าง หลับตาลงอย่างยอมในชะตากรรม...เขาสู้อะไรชานยอลไม่ได้เลย อีกทั้งยังเกิดความต้องการขนาดนี้

ทว่าก่อนที่กระดุมกางเกงยีนจะถูกปลด ปาร์คชานยอลต้องสบถด้วยความไม่พอใจเมื่อหน้าห้องมีเสียงเคาะประตูรัวๆเกิดขึ้น เคาะถี่ๆเสียจนคิดว่ามีใครตายหรือไง
จงแดลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว ใช้ทีเผลอผลักชานยอลออกไป ร่างสูงเซเล็กน้อยแต่ก็เกิดช่องว่าให้คนตัวเล็กกว่าแทรกกายหนี เอื้อมคว้าแขนไว้ก็ไม่ทัน จงแดเหยียบกล่องซีดีที่วางระเกะระกะด้วยยังเก็บเรียงไม่เสร็จดี คว้ากระเป๋าเป้คู่ใจแล้วบิดประตูวิ่งออกไปทันที สภาพรุ่ยร่ายของร่างกายถูกมือเล็กจับดึงให้เข้าที่เข้าทางไปด้วย ดวงหน้าหวานยังคงแดงก่ำ และตอนนี้ก็เอ่อคลอด้วยน้ำตาอีกด้วย
แท็กซี่ถูกโบกอย่างรวดเร็ว ชานยอลเองก็ไม่ได้ตามมาเพราะสภาพการแต่งกายไม่พร้อมและยังติดที่ร่างสูงโปร่งของใครบางคนที่มาเคาะประตูอย่างเอาเป็นเอาตายนั่นด้วย


อยากประเคยตีนงามๆให้เพื่อนรักสักที...
ปาร์คชานยอลคิดแบบนั้นจริงๆ

“เฮ้ มึงทำหน้าเครียดไปได้ ห่า มานั่งนี่มึง กูได้แผ่นแจ่มๆมาเพียบ มายูเอย นางาซาวะเอย นี่เด็ดสุด มิโอริจัง”ไอ้เพื่อนตัวดีแม่งยังลอยหน้าลอยตา เลือกดีวีดีในคอลเล็กชั่นใหม่ใส่ลงเครื่องเล่น เร่งเสียงให้ดังสุดแล้วเอนกายที่โซฟาสบาย ไม่สนใจสักนิดว่าตอนนี้ปาร์คชานยอลทำหน้ายังไง
 “เหี้ยคริสครับ...มาเคาะห้องกูเอาเป็นเอาตายเพราะจะดูเอวีเนี่ยนะสัดเพื่อน”ด่าไปใช่ว่าอีกคนจะรู้ร้อนรู้หนาว สายตาคมกริบจ้องแต่เรืองร่างสะโอดสะองในจอเท่านั้น นิ้วเรียวยาวยกขึ้นมากัดพรางส่งเสียงซี๊ดซ๊าด เสียวไส้แทนน้องมิโอริจัง ที่ผู้ชายหุ่นหมีนั่นกำลังกลืนกินหล่อนอย่างหิวกระหาย แถมยังเด็ดสะแด่วตรงใจนางเสียด้วย
ชานยอลส่ายหัว ทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งลงข้างไอ้เพื่อนตัวดี น้องชายที่ตื่นขึ้นมาเล็กๆเมื่อกี้ถูกลูบวนไปมา...เอาวะ โอกาสหน้าค่อยหาโอกาสเคลมจงแดอีกครั้ง

...ยังไงเสียเขาจะต้องรุกล้ำจงแดให้มากกว่านี้ให้ได้...
ไม่รู้สินะ...อาจจะเพราะเขาเริ่มจะถูกใจลูกชายคุณแม่บ้านคนนี้เข้าเสียจริงๆ...
...จงแดน่ะน่ารัก... บอกแล้วใช่ไหมว่าน่าแกล้งขนาดไหน
...น่าแกล้งให้ดีดดิ้นอยู่ใต้ร่าง...
.
.
อืม...หื่นไป...

แต่ก็นะ...
ปาร์คชานยอลคิดแบบนั้นแหละ...

จงแดปิดประตูบ้านเสียงดัง วิ่งเข้าห้องตัวเองก่อนจะมุดตัวลงผ้าห่ม ตอนอยู่ในแท็กซี่แม้คนขับจะเร่งแอร์จนหนาว แต่จงแดกลับรู้สึกว่าเขาร้อนเกินไป เหงื่อมากมายไหลท่วมร่าง จ่ายเงินให้แท็กซี่ไม่คิดจะรอตังค์ทอน เขากลัวทนไม่ไหวแสดงปฏิกิริยาอะไรแปลกๆออกไป
ใบหน้าสีเข้มเห่อร้อน กลางกายมันนูนพองเกินไป มันอึดอัดทรมาน แม้จะไม่ช่ำชองเรื่องพวกนี้ใช่ว่าจงแดจะไม่เคย ผู้ชายหน้าไหนก็ต้องเคยช่วยตัวเองมาทั้งนั้น ร่างในผืนผ้าห่มขยับปลดกระดุมกางเกง รูดซิบลงก่อนถอดเอาร่างออกมาจากความน่าอึดอัดคับแน่น ชั้นในสีขาวเปียกชื้นเล็กน้อย เจ้าจงแดน้อยแออัดพับยัดอยู่ในผืนผ้าสีขาวสะอาดยี่ห้อดี

จงแดเกี่ยวขอบกางเกงชั้นในลงไปม้วนกองที่ข้อเท้า แตะนิ้วลงเบาๆก็ตื่นตัวสู้อย่างรวดเร็ว มือเรียวบางกำรอบความต้องการของตนเอง ค่อยๆขยับ เชื่องช้า...แผ่วเบา นิ่มนวล แต่แล้วตบะก็แตกเมื่อความต้องการมันสูงเกินจะต้านทานไหว มือเล็กเริ่มขยับเร็วขึ้นอีก เร็วขึ้น เร็วขึ้น เสียงครวญครางจากในลำคอก็ดังลอดริมฝีปากออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ มันหวานหูชนิดที่ว่าหากปาร์คชานยอลมาได้ยินคงคลั่ง
“ฮื่อ...อ่ะ...อ่ะ...”ลำตัวกระตุกเกร็ง ไม่นานน้ำขาวขุ่นก็ทะลักออกมา มันมากจนเปรอะผ้าห่มผืนหนาไปหมด กลิ่นคาวเอียนจมูกทำให้จงแดต้องตะกายหน้าออกมาจากผ้าห่ม หอบหายใจหนักๆเพื่อรับอากาศเข้าไป เหงื่อเกาะชื้นที่ใบหน้าและคอเพรียว ริมฝีปากแดงจัดพอกับพวงแก้ม

นึกโกรธในใจไม่หาย...ปาร์คชานยอล คนฉวยโอกาส...
ถ้าจะขัดยืนหรือทำร้ายร่างสูงไปไม่พ้นว่าแม่ของจงแดคงเดือดร้อน...
แม่นะแม่...เมื่อไหร่จะหายดีเสียที คอยดูเถอะ จะไม่มีวันไปเหยียบที่นั่นอีกเลยถ้าหมดหน้าที่ของจงแดแล้ว...คนเจ้าเล่ห์ชอบฉวยโอกาสเอากับร่างกายจงแดแบบนั้น...

.
.

ไม่อยากเจอแล้ว...คนบ้าเอ้ย!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น