วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

คนขาย - 6

ลูกค้าคนนี้ชอบเล่นของเล่น

บทที่6.

เสียงบ่นระงมจากผู้หญิงตรงหน้าไม่ได้ทำให้ต้องหงุดหงิดใจทว่ากลับกันจงแดนั้นยิ่งยิ้มกว้างตอนที่พี่อี้ชิงถูกตีป้าบเข้าที่แขนโทษฐานมาหาไม่บอกกล่าว ดีที่วันนี้จางเหม่ยกุ้ยเป็นรอบเดือนเลยลางานมาวันหนึ่ง นางไม่อยากไปปวดท้องจนไม่เป็นอันทำงานทำการ
“ยังไม่วัยทองอีกเหรอแม่”คำพูดน่าตีปากให้บวมเจ่อ จางเหม่ยกุ้ยด่าโล้งเร้ง บอกว่าถ้าจะมาหาแล้วด่ากูแก่ก็กลับไปเสียดีกว่า
“ดูอ้วนขึ้นเยอะเชียวเฉินเอ้ย อี้มันขุนดีนะเนี่ย”หล่อนจับเนื้อตัวเด็กที่เอ็นดูพลิกไปมา ดูดีกว่าแต่ก่อนเยอะ แต่ให้ดีก็ควรอ้วนกว่านี้อีก
“แล้วลุงหยางชิงไปไหนล่ะครับ?”จงแดถาม ป้าเหม่ยกุ้ยบอกว่ารายนั้นน่ะบ้าทำงาน เห็นลูกชายใกล้จะเรียนจบต้องใช้เงินมากก็ยิ่งไม่อยากรบกวน ป่านนี้ทำงานเหงื่อท่วมจนเหม็นเปรี้ยวไปแล้วกระมัง สมน้ำหน้าเลยอดเจอลูกชายเสียเลย ยิ่งถ้ารู้ว่าจงแดมาเยี่ยมหาคงจะบ่นไปสามวันแปดวันที่ไม่ได้เจอ ชักชวนให้อยู่จนรอพ่อกลับเจ้าลูกชายก็บอกปฏิเสธ เดี๋ยวต้องไปทำงานต่อกันทั้งคู่
“ขี่รถมาง่วงว่ะ ไปนอนแป้บนะแม่”ชายหนุ่มบิดตัว ตื่นเช้าแล้วยังต้องกำคันเร่งนานๆเลยล้าไปหมด เหม่ยกุ้ยบอกให้ไปนอนตามสบาย หมอนมุ้งก็เก็บไว้ที่เดิม ส่วนหล่อนชักชวนจงแดกินข้าว เปิดถุงดูของที่เด็กตรงหน้าซื้อมาฝากแล้วบอกว่าทีหลังไม่จำเป็นต้องซื้อมาเลย แค่กลับมาเยี่ยมเยียนกันก็ดีแล้ว ดีที่ไม่ลืมกัน ชมเปราะว่าเป็นเด็กดีอย่างไรก็เป็นอยู่แบบนั้นและขอให้เป็นแบบนี้ตลอดไป
“นิสัยเอ็งไปไหนก็เจริญ จำไว้นะเฉิน”หล่อนบอก ลูบบ่าลูบไหล่เล็กราวให้พร จงแดยิ้ม นึกรู้สึกผิดในใจตอนที่เห็นป้าเหม่ยกุ้ยชื่นชมเขาเสียขนาดนี้ ถ้าหากป้าแกรู้ว่าจงแดไม่ได้เป็นเด็กดีอะไรขนาดนั้น ถ้ารู้ว่าตัวเขาเองเอาศักดิ์ศรีไปโยนทิ้งแลกกับเงินตรา ป้าคงไม่ชื่นชมเขาแบบนี้หรอก
พอกินข้าวเรียบร้อย จงแดช่วยป้าเหม่ยกุ้ยทำงานในบ้านอยู่หลายอย่าง แกบ่นปวดท้องเพราะรอบเดือนจงแดก็อาสาจะซักผ้าให้เอง จนเมื่อขึ้นราวตากหมดก็บ่ายมากแล้ว พี่อี้ชิงยังนอนอยู่เหมือนเดิม เห็นแค่ขายาวโผล่ออกมาจากผ้าห่ม จางเหม่ยกุ้ยบอกถ้าจะรีบกลับไปทำงานก็ไปเรียกให้อี้ชิงลุกได้แล้ว เย็นย่ำมากไปมันจะไม่ดี
ปลุกคนที่จมหน้าในหมอนอยู่นานกว่าจะลุกขึ้นมาทำหน้ามึนๆได้ อี้ชิงครางรับฮึมตอนที่จงแดบอกว่าใกล้เย็นแล้ว

คนขาย


จงแดยิ้มให้กับลูกค้าที่ยืนตรงหน้า แม้ว่าอีกคนจะโงนเงนไปมาก็ตามที ตามจริงมาม่าซังจะไม่ให้รับแขกคนนี้เพราะอีกคนเมาจัดแต่จงแดบอกว่าไม่เป็นไร เขารู้จักคนตรงหน้าเพราะเป็นลูกค้าเก่า  
“ไหวไหมคุณ?”เขาถามตอนดันตัวให้อีกคนมานั่งที่เตียงดีๆ กลิ่นเหล้าโชยหึ่ง คงเมามาตั้งแต่นอกร้านแล้ว
“คุณซิ่วหมิน”จงแดเรียกชื่ออีกคนซ้ำ ซิ่วหมินครางรับ เพ่งตามองหน้าของจงแดแล้วหัวเราะ เรียกชื่อของเขาซ้ำไปมา จงแดไม่รู้ว่าอีกคนไปกลุ้มใจอะไรมาถึงได้เมาขนาดนี้ แต่คิดว่าที่จองคิวของเขาในคืนนี้คงอยากระบายแบบตอนนั้น คุณซิ่วหมินก็แค่อยากได้ใครสักคนระบายความในใจ
“คุณ...”คนเมาเรียกเสียงยานก่อนจะทิ้งตัวลงไปนอนกับเตียง
“เธอกลับมา...เธอกลับมาแล้วผมจะทำยังไงดี”พูดแล้วฝ่ามือเล็กก็ยกขึ้นปิดหน้า ซิ่วหมินขดกายนอนตะแคงพูดซ้ำๆว่าเธอกลับมาเพื่อขอคืนดี ให้เดาคงเป็นแฟนสาวที่เคยทิ้งซิ่วหมินไป คนที่ทำให้เขาเมาเป็นบ้าเมื่อครั้งที่แล้ว
“เธอกลับมา...แล้วคุณจะยกโทษให้เธอไหม?”จงแดนั่งลงบนเตียง ทาบมือกับไหล่ของซิ่วหมินที่สั่นระริก ใบหน้าที่ถูกฝ่ามือปิดบังส่ายสะบัด
“ไม่รู้...ผมรักเธอมากแต่เธอก็ทิ้งไป ตอนนี้แฟนใหม่เธอมีคนอื่น เธอก็จะกลับมา”คงจะเป็นเวรกรรม เธอนอกใจไปจากซิ่วหมิน และแฟนใหม่เธอก็นอกใจเธอ ซิ่วหมินพูดว่าเขาแช่งให้ทั้งคู่เลิกกันทุกวัน ให้เธอกลับมาหาเขา แต่พอมันเป็นความจริงในวันนี้ เขากลับคิดไม่ออกเลยว่าเขาจะสามารถรับคนที่ทิ้งเขาไปอย่างไม่ไยดีกลับเข้ามาในชีวิตได้ยังไง
“ผมเสียสติไปหลายวัน งานการพังไม่เป็นท่า กว่าจะอ้อนวอนขอเจ้านายพรีเซ้นต์งานใหม่จนมันผ่าน ผมต้องคุกเข่าอยู่เป็นอาทิตย์”คนเมาเริ่มระบายสิ่งที่อยู่ในใจออกมา จงแดบีบบ่าของอีกคน บอกว่าเล่าออกมาให้หมด เขายินดีจะรับฟังทุกอย่างเอง
“ผมควรจะให้อภัยแล้วกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกน่ะเหรอ ถ้าเธอเจอคนที่มีเงินทองให้เธอเธอก็จะไปจากผมอีกใช่ไหม?”ซิ่วหมินถาม จงแดไม่เคยมีคนรัก ไม่รู้หรอกว่าจะตอบว่าอะไร ถ้าเจ็บก็ควรจำ แต่ถ้ารัก...ถ้ารักแล้วก็คงยอมได้ทุกอย่าง
“ผมอยากลืมเธอ...”น้ำเสียงของซิ่วหมินสั่นเครือ ความคิดทำงานหนักเพราะทั้งรักทั้งเจ็บ อยากจะผลักไสออกไปให้ไกลๆแล้วหัวเราะเยาะสมน้ำหน้าเธอแต่ก็อยากจะคว้าเธอมากอดแล้วบอกให้เราเป็นเหมือนเดิม คงจะดีถ้าลืมไปได้ ลืมว่าเคยรักมากขนาดไหน
ใบหน้าเปื้อนน้ำตาละออกจากฝ่ามือที่ปิดกั้น สบกับสายตาของจงแดที่มองมา จงแดพูดว่าให้ทำตามที่ซิ่วหมินต้องการ เขาอยู่ตรงนี้และจะฟังที่ซิ่วหมินอยากระบาย รวมถึงรอฟังการตัดสินใจของชายหนุ่ม
“ฮึ...เพื่อนผมทุกคนบอกให้กลับไปหาเธอ แล้วนอกใจเธอเสียบ้าง แต่ผมทำไม่ได้”ซิ่วหมินไม่ใช่คนดีแต่ก็ไม่ถึงกับเลวจนทำร้ายคนที่เคยรักมากได้ ถึงจะทำได้จริงๆก็คงเป็นเขาเองที่ต้องเจ็บปวดเพราะต้องเลิกรากับเธออีกครั้ง สู้ไม่ต้องกลับมาเลยเสียคงจะดีกว่า ติดที่ก็ยังรักเธอ ใจอ่อนยวบแค่เธอร้องไห้อ้อนวอน
“คุณ...”ซิ่วหมินเรียกเสียงพร่า มือที่เปื้อนเปรอะด้วยน้ำตาเลื่อนมาจับมือของจงแดที่วางบนบ่าแล้วบีบมันทับลงไป
“...”
“ทำให้ผมลืมเธอทีสิ”เขาขอร้องออกมา ดวงตาที่ประดับด้วยแพขนตาบางนั้นคลอเครือด้วยหยดน้ำตา จงแดกะพริบตา ถามว่าเขาจะช่วยได้ยังไงกัน การจะลืมใครสักคนมันต้องอยู่ที่ตัวของซิ่วหมินเองเสียมากกว่า
ซิ่วหมินขยับลุกขึ้นคว้าเอาตัวคนที่ยอมรับฟังเขาระบายในตอนนี้เข้ามากอด จงแดลูบหลังอีกคน พูดว่าเขาคงช่วยอะไรไม่ได้นอกจากรับฟัง เพราะนอกเหนือจากนั้นก็คงมีแค่เซ็กส์ที่เขาสามารถบริการได้ ซึ่งซิ่วหมินก็คงไม่ต้องการมันอยู่ดี
“บางที...ผมอาจจะต้องการมันก็ได้”ซิ่วหมินพูดเสียงเบา การมีเซ็กส์กับผู้ชายสักคนคงไม่ผิดอะไรแล้วในตอนนี้ บางทีการเปิดใจรับอะไรใหม่ๆอาจจะทำให้เขาลืมเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น หรือบางทีถ้าเขาเป็นเกย์ไปเสียเลยก็คงจะดี มองที่ใบหน้าของคนที่เขาจ่ายเงินซื้อชั่วโมงเวลา จงแดก็น่ารัก เนื้อตัวไม่ได้สูงใหญ่บึกบึนเหมือนผู้ชายวัยฉกรรจ์คนอื่น
“เดี๋ยว...”จงแดร้องค้านตอนที่อีกคนโน้มกายเข้าหา ริมฝีปากคลอเคลียอยู่ที่ข้างแก้ม แต่ทว่าริมฝีปากที่คลอเคลียนั้นกลับวกลงประกบปิดกั้นเสียงอุทธรณ์ใดๆเอาไว้ กลีบเนื้อนิ่มบดคลึงแผ่วเบานุ่มนวล ฉวยโอกาสตอนที่โพรงปากเปิดขึ้นเล็กน้อยส่งลิ้นนิ่มหยุ่นเข้าไปพัวกับอีกของอีกคน
เรือนกายของจงแดหอมด้วยกลิ่นกุหลาบ ซิ่วหมินไม่แปลกใจที่คนตรงหน้าเขาจะมีผู้ชายมาต่อคิวรอซื้อตัว มือคลึงเคล้นไปทั่วเนื้อนิ่มใต้ร่มผ้า รู้สึกไม่ต่างไปจากกายจับต้องเนื้อหนังของหญิงสาว แม้จะไม่นิ่มนวลเท่าแต่ก็ไม่ได้แข็งกระด้าง
“ช่วยให้ผมลืมเธอ”เสียงของซิ่วหมินกระซิบรินรดใบหน้ายามที่ถอนจูบออกมาแล้ว ค่อยๆปลดเปลื้องกี่เพ้าสีแดงสดที่จงแดนั้นสวมใส่อยู่ออก ประโคมจูบลงทับที่ริมฝีปากของอีกคนหลายๆครั้งเหมือนยังไม่พอแก่ใจกับเนื้ออ่อนนุ่มซึ่งกำลังเต่งตึงจากแรงบดเบียด
ถ้าให้พูดตามตรงซิ่วหมินก็คงต้องบอกว่าเขาเองกระดากอายไม่น้อยยามที่ชั้นในผืนบางถูกถอดออก สิ่งที่เผยตรงหน้ามันเหมือนเขากำลังมองดูตัวเองเปลือย แม้เนื้อนิ่มมือจะกระตุ้นเร้าได้บ้างแต่เรือนร่างที่เป็นชายยังไงก็เป็นผู้ชาย เขาเลือกจะมองข้ามไปแล้วประกบจูบเอาความหอมหวานจากเนื้อหยุ่นนิ่มอีกครั้ง ขนอ่อนลุกตั้งยามที่จงแดขยับมือมากอบกุมความเป็นชายของตนเองเอาไว้ มือเล็กกระตุ้นมันผ่านกางเกงที่ยังสวมใส่ น่าแปลกใจที่มันเริ่มแข็งสู้มือจนอึดอัดในเวลาอันรวดเร็ว คงเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่อยู่ในกระแสเลือดกับกลิ่นกายหอมๆของคนที่ซิ่วหมินกับบดเบียดริมฝีปากด้วยอยู่กระมัง
จงแดเป็นคนปลดกระดุมกางเกงและรูดซิบลงให้ ซิ่วหมินห่อปากตอนที่กางเกงถูกปลดออกไปโดยคนที่ตัวผอมบาง ความอึดอัดคับแน่นได้เป็นอิสระ รู้สึกวูบวาบไปทั่วทั้งท้องน้อยเพราะจงแดเกี่ยวเอาชั้นในออกแล้วครอบปากลงไปบนส่วนปลาย โพรงปากนั้นนุ่มนิ่มไม่ต่างจากผู้หญิง เขาไม่รู้หรอกว่าผู้ชายคนอื่นจะปากนิ่มแบบนี้ไหม แต่จงแดนั้นนิ่มมากเสียจนรู้สึกว่าท่อนเนื้อนั้นมันพร้อมใช้งานอย่างรวดเร็ว
ซิ่วหมินมองคนที่หยิบถุงยางอนามัยและเจลหล่อลื่นออกมาจากลิ้นชักข้างเตียง จงแดถามว่าจะให้ใส่ถุงยางให้ไหม ยังไม่รอฟังคำตอบซองสี่เหลี่ยมก็ถูกฉีกแล้วหยิบเอายางที่ม้วนเป็นห่วงกลมออกมาคลี่ครอบบนท่อนเนื้อ ทุกอย่างดำเนินไปอย่างรวดเร็วแม้ตอนที่จงแดใช้เจลหล่อลื่นป้ายที่ร่องก้น
“เดี๋ยว...”ซิ่วหมินร้องท้วงตอนจงแดดันให้เขานอนราบแล้วพาเรือนร่างผอมบางขึ้นมานั่งคร่อม ความเฉอะแฉะของเจลหล่อลื่นประทับลงที่หน้าท้อง ส่วนกลางกายของอีกคนแข็งตึงไม่ต่างจากซิ่วหมินเลยสักนิด
จงแดชะงักตอนจะกดกายลงบนท่อนเนื้อแข็ง ซิ่วหมินมีสีหน้ายุ่งยาก ในหัวกำลังคิดต่อต้านเพราะอีกฝ่ายเป็นผู้ชาย
“อึ่ก...”เสียงร้องในลำคอหลุดดังออกมา ซิ่วหมินหลับตาแน่น มือจิกดึงผ้าปูเตียงเพราะท่อนเนื้อกลางกายถูกกลืนกินโดยร่างของจงแด ส่วนหัวผลุบหายเข้าไปในกายผอมบางตอนที่เขามัวแต่คิดไม่ตก รอบๆบีบรัดจนเขาแทบบ้า โยนความคิดที่ว่าคนตรงหน้าคือผู้ชายทิ้งหายไปหมด สะโพกเด้งสวนขึ้นไปเรียกเสียงครางเร้าจากอีกคนแทบจะทันที
“ฮา...”ความรู้สึกที่โอบล้อมอยู่รอบกายมันดีเอามากๆ เขาสาบานได้ว่ามันไม่ต่างจากผู้หญิงสักนิด ทั้งยังรู้สึกว่ารัดแน่นกว่าเสียด้วยซ้ำ คนที่กำลังยกตัวขึ้นลงตรงหว่างขาไม่ได้เป็นระดับมือโปรเหมือนแฟนสาวที่เพิ่งทิ้งซิ่วหมินไป แต่ท่าทางเงอะงะเล็กน้อยนั้นก็ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังหยอกเอินกับลูกกวางขี้กลัวหาใช่แม่เสือสาวที่คุ้นชิน
ซิ่วหมินลูบขาเรียวเล็กที่วางขนาบข้างลำตัวของเขาทั้งที่จงแดยังไม่ได้หยุดส่งเสียงครางออกจากปากและสะโพกยังกลืนกินร่างกายของเขาตลอดเวลา น่าแปลกที่ตอนนี้เขาสามารถโยนเรื่องผู้หญิงคนนั้นทิ้งไปได้และมีความสุข เสพเซ็กส์ที่กำลังเกิดกับผู้ชายด้วยกันเองอย่างที่ตัวของเขาเองก็ไม่คิดมาก่อนว่ามันจะเกิดขึ้นได้...


คนขาย

ซิ่วหมินหลับสนิทอยู่บนเตียง ทั้งเมาทั้งเหนื่อยจากกิจกรรมรักที่เพิ่งจบลงไป จงแดจัดการกับตัวเองแล้วออกมาข้างนอกปล่อยให้อีกคนในห้องได้พักผ่อน เจอมาม่าซังนั่งอยู่ตรงเค้าท์เตอร์กับโอเซฮุน เจียนจี้ฟางบอกว่าวันนี้หล่อนรับคิวไว้ให้แค่คนเดียว พูกปะเหลาะว่ากลัวจงแดจะเหนื่อยแต่ที่จริงคือแต่ละคนเสนอเงินมาไม่ถึงเป้าที่หล่อนคิด ของดีๆก็ต้องจ่ายแพงๆ จะสึกหรอทั้งทีหล่อนไม่ส่งจงแดไปแลกกับเงินหยิบมือเสียหรอก
เผลอมองคนที่อยู่ข้างกายมาม่าซัง เซฮุนเองก็เหมือนจะรู้ตัวว่าถูกมองถึงได้หันมาประสานสายตา จงแดคิดถึงคุณจุนมยอนขึ้นมา เพราะอีกคนบอกว่าเป็นพี่ชายของเซฮุน บางทีจงแดควรบอกเรื่องเซฮุนกับคุณจุนมยอน
“มองหน้าฉันมีอะไรหรือเปล่า”เสียงของเซฮุนถามห้วนเมื่อจงแดยังคงจ้องตากับตนเองอยู่ พอถูกถามแบบนั้นคนคิดเพลินเลยได้สติปฏิเสธว่าไม่มีอะไร เจียนจี้ฟางส่งเสียงหัวเราะแหลม ลูบแขนลูบไหล่ผู้ชายของหล่อนให้ใจเย็น
“เซฮุนของฉันหล่อ จงต้าจะมองก็ไม่แปลกนี่นา”จูบซับที่ข้างแก้มของร่างสูงโปร่งแล้วหันมาบอกให้จงแดไปพักผ่อนเสีย ส่วนหล่อนก็ลุกควงแขนเซฮุนทางห้องพักตัวเอง จงแดปล่อยลมยาวออกจากปาก เขาเข้าใจดีว่าทำไมเซฮุนต้องเสียงห้วนแบบนั้น เพราะเขากำลังกุมความลับของคนๆนั้นอยู่ ความลับระหว่างเซฮุนกับพี่จื่อเทา...
แล้วเรื่องนี้...เขาควรบอกให้คุณจุนมยอนรู้ด้วยหรือเปล่า?
จงแดหยิบโทรศัพท์ที่เก็บเอาไว้ในล็อกเกอร์เก็บของพนักงานมากดไล่รายชื่อผู้ติดต่อ ชั่งใจเล็กน้อยแต่ก็กดโทรหาเบอร์ที่คุณจุนมยอนให้ไว้และเคยคุยข้ามแดนกันไม่กี่ครั้ง รอสายเพียงไม่นานอีกฝ่ายก็รับสาย เสียงของนักธุรกิจชาวเกาหลีดูจะดีใจที่จงแดโทรมาหา ถามสารทุกข์สุขดิบเสียยกใหญ่
“ผมสบายดีครับ...แล้วคุณจุนมยอนล่ะ”จงแดถาม อีกคนพ่นลมหายใจยาวๆบอกว่าร่างกายสบายดีแต่จิตใจนี่ค่อนข้างป่วย

-คุณพ่อท่านป่วยน่ะครับ ความดันผิดปรกติ ต้องแอดมิทที่โรงพยาบาลดูอาการเพราะจะช็อคอยู่ตลอด-

เสียงของคุณจุนมยอนดูหนักใจขึ้นมาเมื่อพูดถึงอาการของคนเป็นพ่อ เสียงนุ่มเอ่ยบอกว่าเขาพะวงเรื่องบิดาจนไม่เป็นอันทำการทำงาน แต่ก็เข้าใจว่าบิดานั้นชรามากแล้ว อีกทั้งยังมีโรคความดันเป็นโรคประจำตัว

-อ้อ ผมอยากจะถามคุณจงแดอยู่เรื่องหนึ่ง...คุณพอจะเจอเซฮุนบ้างไหมครับ ผมกลัวคุณพ่อจะเป็นอะไรไป อยากให้น้องกลับมาดูใจท่าน-
จุนมยอนพูดถาม จงแดนิ่วหน้า บอกว่าที่โทรมาหาก็เพื่อจะพูดเรื่องนี้ คนตัวเล็กหลบพนักงานของร้านหลายคนที่เดินไปมาแล้วออกไปหามุมคุยโทรศัพท์ที่หลังร้านแทน ระหว่างเดินก็ค่อยๆเล่าให้พี่ชายของเซฮุนฟังว่าเขาเจอน้องชายของอีกคนแล้ว และตอนนี้เซฮุนกำลังอยู่ในฐานะอะไร เป็นอะไรกับเจ้าของบ้านดอกเหมย
“คุณจุนมยอนครับ”เรียกปลายสายที่เงียบไป

-ครับ ยังอยู่ครับ...ผมแค่คิดไม่ถึงว่าเซฮุน...จะทำแบบนั้น-
คงหมายถึงการเกาะผู้หญิงกิน จุนมยอนบอกว่าเซฮุนพูดว่าทำงานที่บ้านดอกเหมย เขาคิดว่าคงเป็นพนักงานเสิร์ฟ
จงแดกัดปาก ชั่งใจว่าจะบอกเรื่องของเซฮุนกับพี่จื่อเทาดีไหม ทว่าปลายสายก็รีบแทรกพูดขึ้นมาเสียก่อนว่าจะรีบเคลียร์งานที่เกาหลีแล้วบินมาตามตัวน้องชายอีกครั้ง คนตัวผอมเลยงับเก็บเรื่องพี่จื่อเทาเอาไว้ก่อน เดี๋ยวค่อยบอกคงไม่เป็นไร อีกฝ่ายพูดขอบคุณจงแดที่โทรมาบอกเรื่องน้อยชาย ก่อนจะขอวางสายไป พูดทิ้งท้ายแค่เจอกันที่จีน ถ้าหากมาถึงแล้วเจ้าตัวจะโทรมาหา
จงแดกำโทรศัพท์ไว้ในมือ เพราะกี่เพ้าที่ใส่ไม่มีกระเป๋า รู้สึกโล่งใจที่ได้บอกเรื่องเซฮุนให้กับคุณจุนมยอนทราบ ทว่าตอนที่จะหันหลังกลับเข้าร้านก็ต้องตกใจ มือเผลอปล่อยโทรศัพท์ที่ถือไว้ลงไปกระแทกพื้นปูนจนฝาหลังหลุดกระเด็นออกมา แบตเตอร์รี่ลิเทียมก้อนบางกระเด็นออกไปอีกทางหนึ่ง
“ตกใจอะไรขนาดนั้น”เสียงติดทุ้มเอ่ยถาม จงแดก้มลงเก็บโทรศัพท์กับชิ้นส่วนขึ้นมา อ้อมแอ้มตอบอีกคนว่าไม่คิดว่าจะมีใครมายืนข้างหลังแบบนี้
โอเซฮุนหัวเราะหึ ขยับเข้าหาคนที่ตัวเล็กกว่าก่อนจะจับแขนที่เหมือนไม่มีเนื้อแรงๆ
“เป็นคนของพี่จุนมยอนหรือไง!”กดเสียงต่ำเอ่ยถามยามที่ยื่นหน้าเข้าไปใกล้คนที่หดคอหนี ทั้งแขนยังเจ็บเพราะเซฮุนไม่ยอมเบาแรงในการจับเลยสักนิด ที่สำคัญคือความตกใจที่เซฮุนรู้ว่าเขาติดต่อกับคุณจุนมยอน คนตัวเล็กส่ายหัวบอกว่าไม่ใช่
“ไม่ใช่ก็ไม่ต้องมายุ่งเรื่องคนอื่น!”เซฮุนสะบัดแขนผอมบางออกจนจงแดเซไป เขาออกมาหาที่สูบบุหรี่อย่างเคยเพราะจี้ฟางไปต้อนรับแขก แต่ไม่คิดว่าจะมาได้ยินคิมจงแดกำลังคุยโทรศัพท์กับพี่ชายตัวเอง ชื่อจุนมยอนที่อีกคนเรียกนั้นชัดเจน เขากัดฟันกรอดตอนที่จงแดเล่าเรื่องของเขาให้พี่ชายต่างแม่ฟังจนหมดเปลือก
เสือก!
แต่ยังดีที่คนตัวเล็กไม่ได้พูดเรื่องที่เห็นในวันนั้น ถ้าหากหมอนี่คิดจะพูด เซฮุนคิดว่าเขาคงไม่ทนรอฟังจนบทสนทนานั้นสิ้นสุด
ไอ้เรื่องเหี้ยๆแบบนั้น...
จะให้ใครรู้ไม่ได้...
จะไม่ให้ใครรู้ว่าเขาถูกไอ้ฮวังจื่อเทานั่นทำอะไรบ้าง มันเป็นความลับระหว่างเขากับมัน และถ้าคนที่บังเอิญมารับรู้อย่างคิมจงแดคิดจะบอกใคร...เขาจะไม่ปล่อยเด็กนี่เอาไว้เด็ดขาด...

“ผมแค่คิดว่าคุณควรกลับไปหาคุณพ่อของคุณบ้าง”จงแดบอก จับแขนที่ถูกบีบจนเจ็บเอาไว้ ไม่กล้าสบตากับอีกคนที่ก้าวเข้ามาประชิดอีกรอบ เซฮุนหัวเราะ ใช้นิ้วจิ้มไปบนหน้าผากของจงแดแรงๆ
“คนอย่างมึงมีสิทธิ์อะไรมาเสือกเรื่องครอบครัวกู”เซฮุนถาม จงแดได้แต่ส่ายหน้า จริงอยู่ที่เขาไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่าย แต่อย่างน้อยๆตอนนี้คุณพ่อของเซฮุนก็กำลังป่วยอยู่ไม่ใช่เหรอ? ถ้าเป็นเขาน่ะ ถ้าเป็นจงแดแล้วล่ะก็ เขากลับไปไม่ลังเล
...ไม่สิ ถ้าเขาเป็นเซฮุน ไม่ว่าจะเหตุผลอะไร เขาจะไม่ทิ้งครอบครัวแล้วหนีมา
“ผมไม่มีสิทธิ์อะไร แต่ถ้าคนๆนั้นเป็นพ่อของผม ผมจะกลับไป...”จงแดเอ่ยบอก เซฮุนหัวเราะในลำคอ ในตาของร่างสูงโปรงไหวชั่ววูบก่อนมันจะจางหายไป มีเพียงสายตานิ่งเรียบมองเข้ามาในตาของจงแด
“ขอโทษนะ...แต่เขาไม่ใช่พ่อของมึง...”


คนขาย


จงแดหมุนโทรศัพท์ในมือไปมา พอเปิดไม่ติดก็เหมือนแค่วัตถุไร้ค่าที่ถือไว้ให้หนักเล่นๆ พี่อี้ชิงถามว่าไปทำอีท่าไหนเข้ามือถือถึงหล่นมากระแทกพื้นพัง จงแดหัวเราะแห้งบอกว่าเขาซื่อบื้อเอง นึกว่ากี่เพ้าที่สวมมีกระเป๋า ท่าทางพี่อี้ชิงไม่เชื่อแต่ก็ไม่ได้ซักไซ้อะไรต่อ คนแก่กว่าบอกว่าเดี๋ยวจะพาไปซื้อแต่จงแดปฏิเสธ เพราะวันนี้เป็นวันหยุดของเขาพอดี พี่อี้ชิงไปเรียนแล้วจะเลยไปทำงานเลยก็ได้ เดี๋ยวเขานั่งรถเมล์ไปห้างเอง
“เดี๋ยวก็หลง”คนพี่พูด จงแดส่ายหัวบอกว่าไม่หลงหรอก เขาจำได้ว่ารถเมล์สายไหนวิ่งผ่านบ้าง หรือถ้าเกิดหลงจริงๆก็จะนั่งแท็กซี่กลับ เพราะไม่อยากรบกวนพี่อี้ชิง ใกล้สอบแล้วพี่อี้ชิงทั้งต้องเรียน ทำโปรเจ็คและอ่านหนังสือสอบ เรื่องเล็กๆน้อยๆจงแดก็ไม่อยากให้เป็นภาระ
“ก็แล้วแต่นายแล้วกัน ถ้ายังไงฉันฝากซื้อยาสีฟันด้วย”อี้ชิงบอกพร้อมยื่นเงินให้ จงแดยิ้มน้อยๆ ผลักมือเรียวออกบอกว่าเดี๋ยวเขาซื้อมาให้เอง อี้ชิงจะอ้าปากพูดอีกครั้งแต่จงแดก็ลุกขึ้นบอกรีบไปก่อนจะสายแล้วคนจะเยอะดีกว่าทำให้อี้ชิงจำต้องเก็บเงินที่ถือเข้ากระเป๋าเหมือนเดิม
จงแดกำสายสะพายของกระเป๋าแน่น แอบพ่นลมออกจากปากอย่างเบาใจ เขารู้ว่าพี่อี้ชิงกำลังจะพูดอะไร รีบชิงหนีออกมาคงจะดีกว่าฟังคำที่ทำให้ต้องรู้สึกเจ็บ
ก็แค่อยากจะช่วยอะไรเล็กๆน้อยๆ ลำพังช่วยจ่ายค่าน้ำค่าไฟอย่างเดียวเขารู้สึกว่ามันน้อยเกินไป ของใช้เล็กๆน้อยๆก็อยากจะช่วยออกช่วยซื้อ แต่พี่อี้ชิงก็จะพูดคำเดิม...ว่าเก็บเงินที่ได้จากน้ำพักน้ำแรงของเขาไว้เสียเถอะ...

จงแดไปร้านขายโทรศัพท์ก่อนเป็นอันดับแรก เลือกรุ่นที่คล้ายเครื่องเก่าเพราะใช้งานได้คล่องมือ ให้พนักงานที่ร้านลงโปรแกรมและเปิดใช้งานเครื่องให้เรียบร้อย แปลกตากับภาพพักหน้าจอและระบบปฏิบัติการที่ไม่เหมือนกับเครื่องเดิมเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่ เสียดายคือภาพจูจินที่อุตส่าห์เซฟเก็บเอาไว้ เขาโง่เองที่เซฟเก็บไว้ในความจำของเครื่องแทนเมมโมรี่การ์ด
จงแดหยิบตะกร้าใส่ของเพื่อเลือกซื้อของใช้จำเป็นที่เริ่มหมด มียาสีฟันของพี่อี้ชิงที่สำคัญ นอกนั้นก็พวกสบู่และโฟมล้างหน้า หยิบขนมจากชั้นวางมาสามสี่กล่องเอาไว้กินตอนเช้าๆ
“...นาย”เสียงรียกมาพร้อมกับแรงจับที่บ่า จงแดหันไปมองคนที่เรียกเขา
“คุณดีโอ”
“ยังจำชื่อกันได้ด้วยสินะ”ดีโอเอ่ยออกมา ค่อนข้างแปลกใจที่คนซึ่งเขาเคยซื้อบริการจะจำชื่อของเขาได้ พอมาเจอกันอีกครั้งในที่ซึ่งไม่ใช่สถานบริการทำให้ดีโอได้สังเกตุอีกคนมากขึ้น ใบหน้าที่ไม่ได้เคลือบเครื่องสำอางบางเบานั้นดูขาวติดซูบซีดกว่าตอนแต่งเสียอีก
“มาซื้อของเหรอครับ?”จงแดเอ่ยถาม เห็นอีกคนไม่ได้ถือตะกร้าในมือ ท่าทางเหมือนมาเดินรับแอร์เย็นๆเสียมากกว่า ดีโอบอกว่าพี่สาวกับพี่เขยมาซื้อของ ส่วนเขาถูกพี่สาวบังคับมาหาของกินมื้อกลางวันกันที่นี่
“ชิ่งจู...มาช่วยพี่เลือก อ้าว!เจอเพื่อนเหรอ?”หญิงสาวรูปร่างบอบบางเรียกคนที่ยืนอยู่กับจงแดเสียงดังแต่พอเห็นว่าน้องชายคุยอยู่กับคนอื่นเลยเบาเสียงลง เธอยิ้มให้จงแดเล็กน้อย เรียกดีโอด้วยชื่อชิ่งจูที่คงเป็นชื่อภาษาจีนของอีกคน บอกว่าถ้าเจอเพื่อนก็ชวนกันไปทานข้าวด้วยกันสิ
“ไม่เป็นไรครับ ผมมาซื้อของนิดเดียว”จงแดปฏิเสธ เขาจะขอตัวแต่ดีโอกลับจับแขนเอาไว้ก่อน
“ไปด้วยกันเถอะ...คนท้องนึกอยากกินอาหารเกาหลี ถ้านายไปช่วยคิดเมนูคงดี”เขาบอก พอหญิงสาวได้ยินว่าเพื่อนของน้องชายเป็นคนเกาหลีก็ยิ้มกว้างบอกว่าดีเลย เธอนึกอยากทานอาหารเกาหลีแต่ไม่สันทัด
“ไปทานด้วยกันเถอะค่ะ”เธอชวนอีกครั้งพร้อมรอยยิ้มหวาน จงแดอึกอัก มองดีโอที่ยืนข้างๆอีกคนก็พยักหน้าให้เออออไป จงแดเองเลยต้องพยักหน้าลงอย่างจำยอม
 เพียงครู่เดียวสามีของพี่สาวดีโอก็เข็นรถเข็นมาสมทบ เธอกอดแขนชายหนุ่มแล้วบอกว่ามื้อนี้มีคนร่วมโต๊ะอาหารเพิ่มหนึ่งคน
“ผมชื่อจง...จงต้าครับ”จงแดไม่แน่ใจที่จะบอกชื่อจริง ในเมื่อดีโอรู้จักเขาในชื่อจงต้าอยู่แล้วก็เลือกจะบอกชื่อนี้ออกไปอีกครั้ง
“ฉันชื่อฉีฟ่าง เป็นพี่สาวของชิ่งจู แล้วนี่ป๋ายเสียนสามีของฉันจ้ะ”เธอบอกพร้อมรอยยิ้มกว้าง จงแดไม่ได้ตั้งใจเห็นแต่ก็เห็นว่าดีโอเสตาหลบไปมองทางอื่นเหมือนไม่อยากจะมองภาพตรงหน้าเท่าไหร่นัก จงแดยิ้มให้ทั้งคุณฉีฟ่างและคุณป๋ายเสียน
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ”มือเรียวถูกยื่นมาตรงหน้าเพื่อจะจับทักทาย จงแดจับมือกับป๋ายเสียนเล็กน้อยก่อนผละออก ฉีฟ่างบอกว่าอยากได้นมอีกสักแกลลอนเป็นอย่างสุดท้ายก่อนจะไปทานอาหารมื้อกลางวันกัน เธอจับแขนสามีเชิงให้เข็นรถไปแผนกนมสดด้วยกัน
มื้อกลางวันนั้นผ่านไปได้ด้วยดี พี่สาวของดีโอบอกว่าเธอท้อง เพิ่งรู้เมื่อไม่กี่วันมานี้เอง แล้วพอรู้ว่าท้องก็เหมือนอุปมาอยากกินนู่นนี่นั่นไปหมด จงแดยินดีด้วยกับคนทั้งคู่และดีโอที่กำลังจะมีหลาน
“ขอบคุณนะจ๊ะ”ฉีฟ่างยิ้มหวาน เธอจับมือสามีของเธอเอาไว้และยิ้มให้กัน จงแดอดยิ้มตามไม่ได้ มีเพียงดีโอที่นั่งกินอาหารไม่ได้สนใจ

คนขาย

“ไม่เป็นไรก็ได้ครับ ผมไม่ลำบากอะไร”จงแดปฏิเสธความหวังดีของตู้ฉีฟ่างที่บอกให้สามีของเธอแวะส่งจงแดที่หอพักก่อนเพราะเป็นทางผ่านไปบริษัท เมื่อครู่เลขาโทรมาบอกให้เข้าไปดูงานส่วนการผลิตด่วนเนื่องจากมีเครื่องจักชำรุด พอดีกับที่จงแดจะกลับ ถามไถ่ว่าหอพักอยู่ตรงไหนเลยให้ป๋ายเสียนแวะส่งเสียทีเดียวจะได้ไม่ต้องเบียดเสียดคนขึ้นรถเมล์
“ให้พี่เขยไปที่บริษัทเลยก็ได้นี่ครับ แล้วเราก็ไปส่งจงต้า”ดีโอเอ่ยบอก ฉีฟ่างตีแขนน้องชายบอกว่าทางกลับบ้านตนเองกับหอของจงแดนั้นอยู่ตรงข้ามกันเลยก็ว่าได้
“ไปกับป๋ายเถอะนะคะ ป๋ายไม่ลำบากที่จะส่งจงต้าที่หอก่อนใช่ไหมคะ?”เธอพูดกับจงแดก่อนหันไปถามสามีซึ่งชายหนุ่มก็ไม่ได้ปฏิเสธ จงแดอึกอักสุดท้ายก็ปฏิเสธอีกครั้ง ยืนยันว่าตนเองขอกลับรถเมล์ดีกว่า ตู้ฉีฟ่างหน้างอน้อยๆที่คนตัวเล็กไม่รับน้ำใจของเธอ
“ ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้นะครับ”จงแดโค้งขอบคุณ ยิ้มให้เล็กน้อยก่อนจะแยกตัวเดินออกมานั่งรอรถเมล์ที่ด้านหน้าของห้าง ไม่นานสายที่ผ่านหอก็ผ่านมา กว่าจะถึงหอใช้เวลาเกือบชั่วโมงเต็ม จงแดเอาของที่ซื้อมาไปเก็บให้เรียบร้อย ยาสีฟันของพี่อี้ชิงถูกวางไว้ในตะกร้าของใช้ในห้องน้ำ และของใช้อื่นๆก็ถูกวางไว้ในที่ของมัน

ก็อกๆ
เสียงเคาะประตูห้องทำให้จงแดละความสนใจจากการดูขนมที่ซื้อมา ถามว่าใครคนที่หน้าบานประตูก็ไม่ตอบ อาจจะเป็นเจ๊เว่ยเจียงเจ้าของหอ ทว่าพอเปิดประตูกลับไม่ใช่เจ้าของหอร่างท้วมแต่เป็นผู้ชายที่เขาเพิ่งรู้จักเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา
“มีอะไรหรือเปล่าครับ? แล้วคุณมาที่นี่ได้ยังไง”จงแดถาม เปี้ยนป๋ายเสียนมองลอดเข้าไปในห้องทำให้จงแดต้องปิดประตูลง
“เราไปคุยกันในห้องไม่ดีกว่าเหรอ?”เขาถาม น้ำเสียงดูกรุ้มกริ่มผิดแผกจากตอนเจอกันเมื่อชั่วโมงที่แล้ว ท่าทางแบบนี้จงแดนึกไม่ไว้ใจอีกคน ถามว่ามีธุระอะไรกับตน เปี้ยนป๋ายเสียงจุ๊ปากพูดว่าอย่าเสียงดังดีกว่า แล้วเข้าไปคุยกันในห้อง
“อย่าดีกว่าครับ ถ้าคุณไม่มีธุระผมขอตัวก่อน”จงแดตัดบท เข้าห้องแล้วตั้งใจจะล็อกประตูทว่ายังไม่ทันทีบานประตูจะงับสนิทกลับถูกเปิดออกอย่างแรง คนที่ไม่ได้ออกแรงดึงประตูไว้ปล่อยให้บานไม้ถูกยื้อออกและร่างโปร่งแทรกเข้ามา
“เข้ามาทำไมครับ?”จงแดถามเสียงแข็ง เปี้ยนป๋ายเสียนยกยิ้ม ปิดประตูลงแล้วล็อกกลอน กวาดสายตามองดูรอบๆห้องแล้วจุ๊ปากเบาๆ
“ลำบากเหมือนกันนะ ให้ฉันเลี้ยงไหมล่ะจินจงต้า มีเงินใช้สบาย ได้อยู่บ้านหลังใหญ่ๆ...แล้วไม่ต้องขายตัวให้ผู้ชายไม่ซ้ำหน้าด้วยนะ”น้ำเสียงของคนพูดเรื่อยเอื่อยแต่ฟังดูแคลน ที่สำคัญคือเขารู้จักจงแด เขารู้ว่าจงแดเป็นใคร
“ออกไป ไม่งั้นผมจะเรียกคนอื่น”จงแดพูด หยิบโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาทำท่าจะกดโทรออกจริงๆ ป๋ายเสียนเห็นอีกแบบนั้นจึงเข้าประชิดตัวอาศัยว่ามือไวหยิบโทรศัพท์ในมืออีกคนมาถือเอาไว้ สายตาของผู้บริหารหนุ่มมองปราดไปทั่วตัวของคนตรงหน้า
“รู้ตัวไหมว่านายมีเสน่ห์ดึงดูดเอามากๆ”ถึงจะดูผอมไปนิด ซีดไปหน่อยแต่ก็มีเสน่ห์ของเชื้อสายเกาหลี ดวงตาสองชั้นกลมโต ผิวพรรณขาวเนียนแม้มันจะไม่ได้นุ่มนิ่มไปเสียเลยแต่ก็อ่อนนิ่มกว่าเด็กผู้ชายหลายคนที่เขาเลยลองลิ้ม เปี้ยนป๋ายเสียนหัวเราะชอบใจ เดินไล่ให้จงแดไปเรื่อยๆ ห้องแคบแค่นี้ไม่กี่ก้าวคนที่ถอยหนีก็ไปชนขอบเตียง
“ผมไม่รู้ว่าคุณต้องการอะไร แต่วันนี้ผมไม่ได้ทำงาน เชิญคุณออกไปได้แล้ว”แม้จะไม่ไว้ใจแต่ก็ยังใจกล้าพูดไล่อีกคน ทว่านอกจากเปี้ยนป๋ายเสียนจะไม่สนใจคำพูดของจงแดแล้ว เขายังวางกระเป๋าใบย่อมที่ถือหิ้วอยู่ลงกับพื้น
“ฉันไปที่บ้านดอกเหมยบ่อยนะ เคยถามมาม่าซัง คิวนายก็ไม่เคยมีว่างจนฉันขี้เกียจจะจองคิว ไม่คิดเลยว่าฉันไม่จองคิวนายแต่น้องเมียของฉันกลับไปลองกินนายเสียแล้ว...”สายตาของป๋ายเสียนวาวระยับยามพูดถึงน้องเมีย ทว่าจงแดกลับตกใจ คนตรงหน้าเขารู้...ว่าดีโอเคยซื้อบริการเขา
“ออกไป”จงแดเสียงสั่นเพราะอีกคนขยับเข้ามาเรื่อยๆ แม้จะความสูงไม่ได้ต่างกันมากแต่ถ้าหากต่อสู้ก็คงไม่อาจจะชนะอยู่ดี จงแดไม่ได้มีเรี่ยวแรงขนาดนั้นแน่นอน เขาไม่เคยจะสู้ใครได้อยู่แล้ว...
มือเรียววาดลูบลงมาที่ใบหน้า จงแดย่นคอหนี ได้ยินเสียงหัวเราะหึในลำคอก่อนที่จะต้องร้องอย่างตกใจเมื่อมือนั้นคว้าลำคอของเขาแล้วออกแรงบีบ จงแดตาเบิกโพลงเห็นใบหน้าของเปี้ยนป๋ายเสียนกำลังขยับยิ้ม ดวงตาแวววาวระยับเหมือนถูกใจทั้งที่ยังกดแรงลงกับลำคอของจงแดอยู่
ร้องไม่ออกแล้ว...เพราะเส้นเสียงถูกบีบแม้แต่หายใจยังลำบาก มือผอมบางยกขึ้นขีดข่วนทำร้ายทั้งมือที่บีบอยู่ที่คอและแขนของอีกคน น้ำตาไหลลงที่ปลายหางตายามที่รู้สึกเหมือนกำลังจะหมดอากาศหายใจ แต่คนตรงหน้าก็ยังแย้มยิ้มกว้าง
...โรคจิต...
“อั่ก!”เสียงหลุดออกมาจากลำคอเพราะถูกผลักลงไปกระแทกที่พื้นเตียงของพี่อี้ชิง ลำคอเป็นอิสระและจมูกกับปากก็รีบโกยอากาศเข้าร่างกายอย่างอัตโนมัติ แสบคอไปหมด น้ำตาก็ยังไม่หยุดไหล แต่ไม่ทันจะได้ตั้งตัวก็ถูกกระชากขาอย่างแรง กางเกงสามส่วนที่ใส่ถูกปลดซิปและดึงออกจากขาอย่างรวดเร็วจนจงแดทำอะไรไม่ถูก อยากจะกรีดร้องแต่ลำก็เจ็บร้าวระบม ข้อมือถูกจับตรึงและกระแทกแรงๆกับที่นอน
“รู้ไหมจินจงต้า ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรหรอกนะที่ฉันไม่ได้กินนาย...”เสียงของเปี้ยนป๋ายเสียนแหบลงยามกดกระซิบข้างๆหู จงแดเบือนหน้าหนี หลับตาแน่นตอนที่ลิ้นลากๆไล้เลียที่ใบหน้าข้างแก้ม
“แต่ฉันไม่ชอบใจที่นายมายุ่งกับของของฉัน!”จบคำกล่าวแรงบีบหนักๆที่คอก็กลับคืนมาอีกหน จนแดส่งเสียงอึ่กอั่กในลำคอ ดีดดิ้นไปมาแต่ก็ถูกป๋ายเสียนจับแขนเอาไว้ มือหนักๆทุบเข้าที่ท้องจนจุกเจ็บ ลำคอถูกบีบรัด จงแดไม่เข้าใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นตอนนี้ อะไรคือของของผู้ชายคนนี้
...ดีโอ...
“ทำหน้าเหมือนงง...จะบอกอะไรให้นะ ตู้ชิ่งจูเป็นของฉัน!! ถึงนายจะเป็นไอ้ตัวที่เด็กนั่นซื้อได้ด้วยเงินแต่นายไม่มีสิทธิ์ไปเอากับชิ่งจู!”เสียงตวาดของป๋ายเสียนดังลั่น เขาออกแรงบีบคอคนในอาณัติราวอยากจะให้ตายคามือ ยอมรับว่าแรกเริ่มเขาถูกใจจินจงต้าจากบ้านดอกเหมยเอามากๆ เด็กหนุ่มที่เห็นไม่บ่อยในร้านเพราะต้องรับแขกทุกวัน แต่ป๋ายเสียนก็ชอบในรูปร่างท่าทางของคนเกาหลีคนนี้
เขาเคยจองคิวจงต้าแต่ไม่เคยได้คิวเลยสักครั้ง จึงถอดใจไปในที่สุด ไม่คิด...ไม่คิดเลยจริงๆว่าชิ่งจูจะเป็นหนึ่งในคิวที่ยาวเหยียดของคนๆนี้ ถามว่าเขารู้ได้ยังไงน่ะเหรอ? ก็เพราะเขาตามน้องเขยคนนี้ตลอด เขาเหมือนคนบ้าที่ต้องเห็นตู้ชิ่งจูในสายตาตลอดเวลา แม้ไม่ได้ตามติดด้วยตัวเองก็ต้องส่งคนตามน้องเมียคนนี้เสมอ
เขาอยากรู้ว่าชิ่งจูไปไหน ทำอะไร มีใครเข้ามาในชีวิตบ้าง ซึ่งจากเวลาที่รู้จักกันมาเด็กคนนั้นคบผู้หญิงสองสามคน และผู้หญิงพวกนั้นก็หายไปจากชีวิตของชิ่งจูด้วยฝีมือของเขา...
ที่จริงก็เกือบจะลืมเรื่องเด็กขายที่บ้านดอกเหมยไปแล้วเชียว ทั้งเรื่องภรรยากำลังตั้งครรภ์ และเรื่องที่เขาเริ่มรุกเร้าชิ่งจูได้จากการกุมความลับที่อีกคนไปซื้อบริการผู้ชายทำให้เขาไม่มีเวลาสนใจเรื่องจินจงต้านัก ผิดเองที่เด็กนี่กลับเข้ามาในชีวิตของชิ่งจู...แม้จะบังเอิญแต่เขาก็ไม่ชอบใจ...
“รู้ไหมคนสุดท้ายที่เด็กนั่นนอนด้วยสภาพเป็นยังไง?”ถามกลั้วหัวเราะ จงแดบดเปลือกตาแน่น ริมฝีปากระริกสั่น มือของป๋ายเสียนคลายออกจากคอให้หายใจสะดวกขึ้นแต่ก็เจ็บร้าวไปหมด อยากจะดิ้นหนีทว่าเนื้อตัวก็ถูกทุบตีจนจุก จงแดปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาตอนที่กรามถูกบีบให้อ้าริมฝีปากออก ดวงตาที่ปิดสนิทเบิกโพลง อะไรบางอย่างถูกดันเข้ามาในปากกระแทกไปสุดผนังลำคอ
“อื้อ!”จงแดร้องในคอเสียงหลง ตาที่เบิกอยู่เห็นชัดว่าเปี้ยนป๋ายเสียนกำลังดันบางอย่างเข้ามาในปากเขา...
ดิลโด้...
กลิ่นยางพาราจากแท่งอวัยวะเพศปลอมคลุ้งไปทั่วปาก จงแดสำลักหน้าแดง ยิ่งเจ็บช่วงท้องมากขึ้นแต่คนที่ขยับแท่งดิลโด้ไปมาก็ไม่มีการหยุด เสียงของป๋ายเสียนน่าขยักแขยง เสียงที่ถามเรื่องเบื้องต่ำที่ข้างหู
“ใหญ่ดีไหมล่ะ? ของชิ่งจูน่ะจะใหญ่ถึงใจนายแบบนี้ได้ไหม?”

ทุเรศ!
จงแดด่าอยู่ในใจ รังเกียจสัมผัสที่ไล่ไปตามตัว หน้าอกถูกบีบคั้นแล้วบดขยี้ที่ยอดปลาย กางเกงชั้นในถูกดึงออกไปทางปลายเท้า เขาไม่มีแรงแม้จะขยับขาปกปิดส่วนน่าอายเอาไว้ ทั้งสิ่งที่ถูกดันเข้ามาในปากจนกระแทกผนังลำคอให้จุกเจ็บและความบอบช้ำทางร่างกายจากการถูกทุบตีทำให้จงแดได้แต่ปล่อยให้ขาทั้งสองข้างถูกแหวกออก มองเห็นเปี้ยนป๋ายเสียนหยิบกระเป๋าที่เจ้าตัวถือติดตัวมาในตอนแรก สายยาวสีสันสดใสถูกนำออกมา วัตถุทรงรีเชื่อมต่อกับสายนั้น จงแดสะดุ้งเฮือกตอนที่ป๋ายเสียนกดสวิตช์เพื่อเปิดการทำงานของมัน
เซ็กส์ทอย...มันคือเซ็กส์ทอย
“อื้อ!”ร้องในคอเพราะอีกคนจับอุปกรณ์สนองความใคร่นั้นมาสัมผัสที่บริเวณรอยจีบด้านหลัง จงแดส่ายหน้าระรัว มือยกจับแขนของป๋ายเสียนแน่นขอร้องไม่ให้ดันมันเข้ามาในร่าง ดิ้ลโด้ในปากถูกดึงออกไปทำให้ต้องไอโขลกสำลักน้ำลาย จงแดจับแขนของอีกคนแน่น เสียงแหบแห้งและเจ็บคอเหมือนโดนของมีคมบากลึก แต่ก็ยังฝืนพูดร้องขอ
“อย่าทำ...”ขอร้อง...ทั้งน้ำตา เรียกรอยยิ้มมุมปากของคนที่อยู่เหนือกว่าได้เป็นอย่างดี ป๋ายเสียนหัวเราะ บอกว่าไม่เอาเข้าไปข้างในหรอก
“...ฉันไม่ให้ของเล่นของฉันเปรอะของโสมมที่อยู่ในตัวนายหรอก ไม่ต้องห่วง...”ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ของเล่นชิ้นเล็กก็ยังคงดุดดันอยู่ตรงรอยจีบนั้น จงแดกัดปากแน่น ไม่อยากจะยอมรับว่าแรงสั่นของมันทำให้รู้สึกตื่นตัว แกนกายที่สงบนิ่งชูชันขึ้นด้วยสัญชาตญาณที่ไม่อาจจะห้ามปรามได้ ได้ยินป๋ายเสียนหัวเราะอีกครั้ง ตามด้วยเสียงครางอย่างห้ามไม่อยู่ของตัวเขาเอง
...น่ารังเกียจ...
น่ารังเกียจ ทั้งที่เขาด่าอีกคนว่าทุเรศ แต่ตอนนี้จงแดกำลังมีอารมณ์ร่วมไปกับการกระทำน่าทุเรศนี้...
เกลียดร่างกายที่ตอบสนองความต้องการของอารมณ์...
เกลียดตัวเอง...ที่มันรู้สึกต้องการอะไรเข้ามาในร่างเหมือนทุกครั้ง...

“อยากให้ฉันเอามันเข้าไปหรือไง?”อีกคนกระซิบถามที่ข้างหู ขบเม้มติ่งเนื้อบางเรียกเสียงครางให้ดังขึ้นอีกครั้งจงแดส่ายหน้า ปฏิเสธทั้งที่ความจริงแล้วต้องการมากขนาดไหน
ดิลโด้อันเดิมถูกใช้ดุนดันที่ปากทางเข้า แรงดันถี่ๆแต่ไม่เข้าไปด้านในทำให้บิดมวนไปทั่วท้องน้อย จงแดยกมือกุมท้องเพราะมันเจ็บจากการบิดเกร็ง
“ห่าเอ้ย!”เสียงสบถดัง จงแดถูกบีบที่กรามอีกครั้งแต่คราวนี้กลับเป็นเนื้อนิ่มแทรกพรวดเข้ามาในปาก อะไรที่ดันอยู่ตรงจีบด้านหลังถูกละทิ้ง เปี้ยนป๋ายเสียนร่นกางเกงที่ใส่ลง ขยับขึ้นคร่อมร่างที่นอนไร้การขัดขืนบนเตียง ท่อนเนื้อกลางกายถูกชักเข้าออกในโพลงปากจนจงแดสำลักไอ ขาของป๋ายเสียนกดทับที่หน้าอกและช่วงแขนทำให้คนที่ขยับไม่ไหวยิ่งทำอะไรไม่ได้สักอย่าง อารมร์หวามเมื่อครู่ถูกกระชากออกจากร่างอย่างรุนแรงเหลือเพียงความคับแน่นในโพลงปาก กลิ่นสาบกายปนกับน้ำลายไหลลงคออย่างช่วยไม่ได้ น้ำตาที่หยุดไหลไปได้พักใหญ่รินลงมาจากหางตาอีกครั้ง
อึดอัด หายใจไม่ออก ท่อนเนื้อในโปรงปากขยายออกจนแข็งตึง ส่วนปลายกระแทกเข้ามาจนจุก เสียงของป๋ายเสียนครางฮึมในลำคอ มือเรียวเอื้อมวกไปด้านหลังแล้วกำรูดส่วนกลางลำตัวของจงแดให้ มันอ่อนตัวลงไปไม่มาก พอรูดรั้งให้จังหวะแก่มันก็แข็งขืนขึ้นมาโดยเร็ว จงแดร้องอื้อลากยาว ขนอ่อนลุกชันไปทั่วตัวเมื่อมือของเปี้ยป๋ายเสียนดึงรั้งกายเขาจนจุกแน่น ขยี้ส่วนปลายละเลงน้ำเมือกใสๆที่ไหลออกมาไปทั่ว กดย้ำส่วนหัวด้วยปลายนิ้วซ้ำๆ
“ดี...ฉันจะออกแล้ว”ป๋ายเสียนครางพร่า ขยับร่างเข้าออกให้เร็ว เสียงกระทบของท่อนเนื้อกับน้ำลายดังน่าเฉอะแฉะ จงแดหลับตาแน่น มือป่ายไปที่ท่อนขาของป๋ายเสียนให้ออกไปจากตัว อยากดีดดิ้นหนีคนที่กำลังจะปลดปล่อยทั้งที่ยังคาส่วนนั้นอยู่ในปาก
“ฮือ...อึ่ก!”ร่างของจงแดกระตุกเร้า เรียวขากระตุกบิดเพราะสำลัก ป๋ายเสียนจับใบหน้าของอีกคนตรึงแน่น ปล่อยเสียงครางยาว แอ่นกระตุกสะโพกพ่นฉีดรีดน้ำกามออกมาใส่ช่องปากที่รองรับ ดันเข้าไปให้ลึกไม่สนใจคนที่สำลักจนดิ้นปัด
“อ่อก! แค่ก!”เสียงไอโขลกดังขึ้นทันทีที่เปี้ยนป๋ายเสียนลุกออกไปจากตัว จงแดรู้สึกแสบร้อนไปทั้งโพลงจมูก กลิ่วคาวตลบอบอวลจนแทบอยากจะอ้วกออกมา น้ำมูกและน้ำตาไหลออกมาจนแสบไปทั้งหน้า บิดตัวนอนตะแคงซบหน้าลงกับที่นอนแล้วปล่อยเสียงไอดัง
“ไม่...”เสียงแหบพร่าจนไม่ได้ยินเอ่ยออกมาเบาจนจับใจความแทบไม่ได้ ลำตัวถูกจับพลิกให้นอนหงาย จงแดถดกายจะหนีแต่อีกคนก็จับตรึงไว้
“ฉันจะช่วยไอ้ตรงนี้ให้”ป๋ายเสียนพูด กำรอบท่อนเนื้อที่แข็งตึง เพียงสัมผัสอาการต่อต้านก็อ่อนยวบ ความเย็นวาบล้อมรอบกายจนต้องส่งเสียงครางเครือ เปี้ยนป๋ายเสียนยิ้มน้อยๆ อยากจะลองเข้าไปในตัวของคนที่นอนแผ่ตรงหน้าแต่เพราะอีกคนไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน เขาไม่คิดจะเข้าไปให้เลอะเทอะ แต่ก็พูดได้เลยว่าใบหน้าขาวที่แดงจัดในตอนนี้ จมูกปากมีแต่น้ำกามของเขาเปรอะเปื้อน แกนกายสีอ่อนที่แข็งตึงจัดจับสัมผัสทีก็บิดกายเย้ายั่ว
จินจงต้ามีเสน่ห์ดึงดูดมาก...
มองกระเป๋าใส่ของเล่นของตัวเอง...เปี้ยนป๋ายเสียนไม่เคยบอกใครว่าเขามีรสนิยมแบบไหน แต่คู่ขาของเขารู้ดี เด็กคนนั้นเป็นลูกชายยามที่บริษัท มาเฝ้าพ่อทำงานบ่อยครั้ง เขาซื้อบริการจากเด็กคนนั้นแลกกับเงินไม่มาก แต่จะให้เพิ่ม...หากยอมให้เล่นของเล่นพวกนี้ด้วย
ซึ่งแน่นอน เด็กคนนั้นไม่ปฏิเสธ...
ของเล่นของเขามีตั้งแต่ไวเบรเตอร์ธรรมดาจนถึงแส้และกุญแจมือ อยู่ที่จะเลือกอันไหน จินจงต้าควรขอบคุณเขาเสียด้วยที่ไม่คิดเอาของเล่นหนักๆมาใช้กับเจ้าตัว
อวัยวะเพศหญิงเทียมถูกหยิบขึ้นมาใช้ครอบลงบนแกนกายของจงแด เจลหล่อลื่นที่ชโลมลงไปก่อนหน้าทำให้ไม่รู้สึกติดขัด ความบีบรัดของสองข้ามแคมเทียมสร้างความรู้สึกแปลกใหม่ที่จงแดไม่เคยพบมาก่อน เขาไม่เคยมีเซ็กส์ ไม่เคยสัมผัสว่าการแทรกสอดเข้าไปในร่างผู้หญิงรู้สึกอย่างไร
ดี...
ดีมากจนต้องร้องคราง แต่เสียงที่แหบซ่านนั้นช่างเบา มือจิกผ้าปูที่นอนของอี้ชิงแน่น ลำตัวบิดเร้าเกินจะควบคุม จงแดนิ่วหน้า บดเปลือกตาแน่น เสียงเจลหล่อลื่นตีกับล่างท้องน้อยดังเป็นจังหวะ หูของจงแดร้อนฉ่า กรีดลากเสียงยาว ทึ้งผ้าปูจนแทบจะขาดคามือมา
หยาดหยดขาวขุ่นพุ่งฉีดออกจากร่าง ลำตัวของจงแดกระตุกไหวแล้วแน่นิ่ง เปลือกตาที่บดแน่นคลายออกแต่ยังปิดคลุมดวงตาเอาไว้สนิท ร่างผอมบางหายใจสม่ำเสมอ บอกให้ทราบว่าร่างกายนี้คงเหนื่อยและเพลียจนสลบไปแล้ว ป๋ายเสียนมองคนที่หลับไปก่อนจะโยนอวัยวะเพศเทียมในมือใส่ร่างที่นิ่งสนิท เขาไม่คิดจะเก็บกลับไป รวมถึงดิลโด้และไวเบรเตอร์ที่ใช้ครั้งนี้ด้วย
เงินปึกหนาถูกหยิบออกมาจากกระเป๋าเงินยามที่ชายหนุ่มดึงกางเกงขึ้นมาสวมให้เรียบร้อยแล้ว กระดาษโน้ตถูกฉีกออกมาเขียนข้อความเอาไว้
เงินค่าตัวนาย ใช้มันให้พอจนไม่ต้องไปขายตัวให้น้องเมียฉันอีก ไม่เช่นนั้นมันจะไม่จบแค่นี้...

ธนบัตรแนบกระดาษโน้ตถูกโยนใส่หน้า กระดาษที่มีค่าบางแผ่นนั้นปลิวไปเปรอะเปื้อนน้ำกามที่เปรอะอยู่ตามเนื้อตัว ป๋ายเสียนฉวยเอากระเป๋าของตัวเองแล้วเดินออกจากห้องไป ตวัดสายตามองเจ้าของหอที่เขาติดสินบนเรื่องเลขห้องพักจงแดกำชับให้ปิดปากให้สนิท
เว่ยเจียงพยักหน้า มือรับเงินมาอีกหลายใบแล้วยิ้มกริ่ม นึกอิจฉาไอ้เด็กที่พักอยู่กับอี้ชิง คราวก่อนโน้นก็รถโรงแรมกวง คราวนี้ก็นักธุรกิจที่หล่อนเคยเห็นหน้าครั้งสองครั้งตามหนังสือพิมพ์ เงินเป็นฟ่อนๆขนาดนี้ ไอ้เด็กนี่คงสบายไปเป็นชาติ ถ้าหล่อนไม่แก่และอ้วนแบบนี้คงอยากจะทำอาชีพแบบนั้นบ้าง
...ก็ถ้าเงินมันหามาง่ายๆแค่นอนบนเตียงแบบนั้น...

คนขาย

ปวดหัว...ปวดไปหมดทั้งตัว จงแดอยากร้องออกมาแต่ลำคอก็เจ็บร้าว เปิดเปลือกตายากเหมือนมีอะไรมาถ่วงเอาไว้ รู้สึกจุกไปทั่วท้อง กว่าจะลืมตาขึ้นได้ก็ใช้เวลาอยู่นาน พยายามรวบรวมสติของตัวเอง เมื่อจำได้ว่าอะไรเกิดขึ้นกับตัวเองขอบตาก็ร้อนผ่าว
เขา...ถูกผู้ชายคนนั้นข่มขืน...
แม้จะไม่ได้สอดใส่เข้ามา แต่เปี้ยนป๋ายเสียนก็ใช้กำลังจนสามารถสำเร็จความใคร่กับเขาได้
น้ำตารินไหลลงมา ยิ่งมองเห็นของเล่นต่างๆที่อีกคนใช้มันกับเขา จงแดยิ่งสะอื้นหนัก มือผอมปัดของพวกนั้นออกไปอย่างรังเกียจ เงินสดปึกหนึ่งกระจายอยู่บนตัวและที่นอน ข้อความบนกระดาษโน้ตทำให้แน่ใจว่าที่เปี้ยนป๋ายเสียนทำร้ายเขาเพราะน้องเมียตัวเอง...
ผู้ชายคนนั้นบอกว่าดีโอเป็นของตน...
จงแดไม่รู้ว่าระหว่างป๋ายเสียนและดีโอเป็นยังไง แต่เขาผิดอะไร...ผิดอะไรที่ขายบริการให้กับดีโอ...
เขาผิดอะไร ทำไม...ต้องทำร้ายเขา...

ที่น่าสมเพชไปกว่านั้นคือตัวของเขาเอง...
ตัวของจงแดเองที่มีอารมณ์ร่วมไปกับการกระทำที่ตัวเองพูดว่ามันคือการทำร้าย มันคือการข่มขืน...
น่าทุเรศที่การข่มขืนในครั้งนี้มันเหมือนการสมยอมที่น่าสังเวช...
จงแดน่าสมเพช...

แกร็ก...
เสียงประตูห้องเปิดออกทำให้จงแดสะดุ้งเฮือก มือคว้าเอาผ้าห่มมาปิดร่างกายอย่างอัตโนมัติ ตระหนกใจที่ใครสักคนกำลังจะเปิดประตูเข้ามา น้ำตาหยุดไหลอัตโนมัติ ในใจเต้นระรัวยามที่บานประตูนั้นเปิดออก ริมฝีปากซีดและแตกเผยออ้าออก
ระยะทางจากประตูถึงเตียงของอี้ชิงนั้นไม่ได้ห่างกันมาก ภาพที่เห็นจากการมองอยู่ที่ประตูนั้นชัดเจนจนไม่ต้องอธิบายอะไร ทั้งสภาพเตียงที่ดูไม่ได้ คราบขาวที่เลอะเป็นดวง คนร่วมห้องที่เนื้อตัวเปล่าเปลือย รวมถึงของเล่นในการร่วมรักสองสามชิ้น...
ที่เด็ดกว่านั้นคงเป็นธนบัตรที่โปรยอยู่บนตัวของเด็กหนุ่ม...

“...พี่...อี้ชิง”
เสียงของจงแดแทบฟังไม่ได้ยิน พี่อี้ชิงยืนอยู่ตรงนั้น...ที่หน้าประตูห้อง...มองสภาพของจงแดที่ไม่เหลือชิ้นดี...
“...”มีเพียงความเงียบตอบกลับมา ครู่ใหญ่กว่าบานประตูห้องจะถูกปิดลงและจางอี้ชิงก้าวเท้าออกจากห้องไปพร้อมทิ้งท้ายด้วยถ้อยคำที่แสนเจ็บปวด

“...”
“...หวังว่ากลับมาจะไม่เห็นร่องรอยของลูกค้านายในห้องนี้นะคิมจงแด”








TBC.


#ขายตัวออลเฉิน

รักค่ะ
แมลงจี่



1 ความคิดเห็น:

  1. โอ๊ย พี่อี้คะ น้องไม่ได้อยากทำอย่างนั้นนะคะ ฮือ เราก็ไม่คิดป๋ายจะจิตขนาดนี้ สงสารจงแดจังเลย

    สู้นะคุณแมลงจี่

    ตอบลบ