ลูกค้าคนนี้ชอบเล่นของเล่น
บทที่6.
เสียงบ่นระงมจากผู้หญิงตรงหน้าไม่ได้ทำให้ต้องหงุดหงิดใจทว่ากลับกันจงแดนั้นยิ่งยิ้มกว้างตอนที่พี่อี้ชิงถูกตีป้าบเข้าที่แขนโทษฐานมาหาไม่บอกกล่าว
ดีที่วันนี้จางเหม่ยกุ้ยเป็นรอบเดือนเลยลางานมาวันหนึ่ง นางไม่อยากไปปวดท้องจนไม่เป็นอันทำงานทำการ
“ยังไม่วัยทองอีกเหรอแม่”คำพูดน่าตีปากให้บวมเจ่อ
จางเหม่ยกุ้ยด่าโล้งเร้ง บอกว่าถ้าจะมาหาแล้วด่ากูแก่ก็กลับไปเสียดีกว่า
“ดูอ้วนขึ้นเยอะเชียวเฉินเอ้ย
อี้มันขุนดีนะเนี่ย”หล่อนจับเนื้อตัวเด็กที่เอ็นดูพลิกไปมา ดูดีกว่าแต่ก่อนเยอะ
แต่ให้ดีก็ควรอ้วนกว่านี้อีก
“แล้วลุงหยางชิงไปไหนล่ะครับ?”จงแดถาม
ป้าเหม่ยกุ้ยบอกว่ารายนั้นน่ะบ้าทำงาน
เห็นลูกชายใกล้จะเรียนจบต้องใช้เงินมากก็ยิ่งไม่อยากรบกวน
ป่านนี้ทำงานเหงื่อท่วมจนเหม็นเปรี้ยวไปแล้วกระมัง สมน้ำหน้าเลยอดเจอลูกชายเสียเลย
ยิ่งถ้ารู้ว่าจงแดมาเยี่ยมหาคงจะบ่นไปสามวันแปดวันที่ไม่ได้เจอ
ชักชวนให้อยู่จนรอพ่อกลับเจ้าลูกชายก็บอกปฏิเสธ เดี๋ยวต้องไปทำงานต่อกันทั้งคู่
“ขี่รถมาง่วงว่ะ ไปนอนแป้บนะแม่”ชายหนุ่มบิดตัว
ตื่นเช้าแล้วยังต้องกำคันเร่งนานๆเลยล้าไปหมด เหม่ยกุ้ยบอกให้ไปนอนตามสบาย หมอนมุ้งก็เก็บไว้ที่เดิม
ส่วนหล่อนชักชวนจงแดกินข้าว
เปิดถุงดูของที่เด็กตรงหน้าซื้อมาฝากแล้วบอกว่าทีหลังไม่จำเป็นต้องซื้อมาเลย
แค่กลับมาเยี่ยมเยียนกันก็ดีแล้ว ดีที่ไม่ลืมกัน
ชมเปราะว่าเป็นเด็กดีอย่างไรก็เป็นอยู่แบบนั้นและขอให้เป็นแบบนี้ตลอดไป
“นิสัยเอ็งไปไหนก็เจริญ จำไว้นะเฉิน”หล่อนบอก
ลูบบ่าลูบไหล่เล็กราวให้พร จงแดยิ้ม
นึกรู้สึกผิดในใจตอนที่เห็นป้าเหม่ยกุ้ยชื่นชมเขาเสียขนาดนี้
ถ้าหากป้าแกรู้ว่าจงแดไม่ได้เป็นเด็กดีอะไรขนาดนั้น
ถ้ารู้ว่าตัวเขาเองเอาศักดิ์ศรีไปโยนทิ้งแลกกับเงินตรา
ป้าคงไม่ชื่นชมเขาแบบนี้หรอก
พอกินข้าวเรียบร้อย
จงแดช่วยป้าเหม่ยกุ้ยทำงานในบ้านอยู่หลายอย่าง
แกบ่นปวดท้องเพราะรอบเดือนจงแดก็อาสาจะซักผ้าให้เอง
จนเมื่อขึ้นราวตากหมดก็บ่ายมากแล้ว พี่อี้ชิงยังนอนอยู่เหมือนเดิม
เห็นแค่ขายาวโผล่ออกมาจากผ้าห่ม จางเหม่ยกุ้ยบอกถ้าจะรีบกลับไปทำงานก็ไปเรียกให้อี้ชิงลุกได้แล้ว
เย็นย่ำมากไปมันจะไม่ดี
ปลุกคนที่จมหน้าในหมอนอยู่นานกว่าจะลุกขึ้นมาทำหน้ามึนๆได้
อี้ชิงครางรับฮึมตอนที่จงแดบอกว่าใกล้เย็นแล้ว
คนขาย
จงแดยิ้มให้กับลูกค้าที่ยืนตรงหน้า
แม้ว่าอีกคนจะโงนเงนไปมาก็ตามที ตามจริงมาม่าซังจะไม่ให้รับแขกคนนี้เพราะอีกคนเมาจัดแต่จงแดบอกว่าไม่เป็นไร
เขารู้จักคนตรงหน้าเพราะเป็นลูกค้าเก่า
“ไหวไหมคุณ?”เขาถามตอนดันตัวให้อีกคนมานั่งที่เตียงดีๆ
กลิ่นเหล้าโชยหึ่ง คงเมามาตั้งแต่นอกร้านแล้ว
“คุณซิ่วหมิน”จงแดเรียกชื่ออีกคนซ้ำ
ซิ่วหมินครางรับ เพ่งตามองหน้าของจงแดแล้วหัวเราะ เรียกชื่อของเขาซ้ำไปมา
จงแดไม่รู้ว่าอีกคนไปกลุ้มใจอะไรมาถึงได้เมาขนาดนี้
แต่คิดว่าที่จองคิวของเขาในคืนนี้คงอยากระบายแบบตอนนั้น
คุณซิ่วหมินก็แค่อยากได้ใครสักคนระบายความในใจ
“คุณ...”คนเมาเรียกเสียงยานก่อนจะทิ้งตัวลงไปนอนกับเตียง
“เธอกลับมา...เธอกลับมาแล้วผมจะทำยังไงดี”พูดแล้วฝ่ามือเล็กก็ยกขึ้นปิดหน้า
ซิ่วหมินขดกายนอนตะแคงพูดซ้ำๆว่าเธอกลับมาเพื่อขอคืนดี
ให้เดาคงเป็นแฟนสาวที่เคยทิ้งซิ่วหมินไป คนที่ทำให้เขาเมาเป็นบ้าเมื่อครั้งที่แล้ว
“เธอกลับมา...แล้วคุณจะยกโทษให้เธอไหม?”จงแดนั่งลงบนเตียง
ทาบมือกับไหล่ของซิ่วหมินที่สั่นระริก ใบหน้าที่ถูกฝ่ามือปิดบังส่ายสะบัด
“ไม่รู้...ผมรักเธอมากแต่เธอก็ทิ้งไป
ตอนนี้แฟนใหม่เธอมีคนอื่น เธอก็จะกลับมา”คงจะเป็นเวรกรรม เธอนอกใจไปจากซิ่วหมิน
และแฟนใหม่เธอก็นอกใจเธอ ซิ่วหมินพูดว่าเขาแช่งให้ทั้งคู่เลิกกันทุกวัน
ให้เธอกลับมาหาเขา แต่พอมันเป็นความจริงในวันนี้
เขากลับคิดไม่ออกเลยว่าเขาจะสามารถรับคนที่ทิ้งเขาไปอย่างไม่ไยดีกลับเข้ามาในชีวิตได้ยังไง
“ผมเสียสติไปหลายวัน งานการพังไม่เป็นท่า
กว่าจะอ้อนวอนขอเจ้านายพรีเซ้นต์งานใหม่จนมันผ่าน ผมต้องคุกเข่าอยู่เป็นอาทิตย์”คนเมาเริ่มระบายสิ่งที่อยู่ในใจออกมา
จงแดบีบบ่าของอีกคน บอกว่าเล่าออกมาให้หมด เขายินดีจะรับฟังทุกอย่างเอง
“ผมควรจะให้อภัยแล้วกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกน่ะเหรอ
ถ้าเธอเจอคนที่มีเงินทองให้เธอเธอก็จะไปจากผมอีกใช่ไหม?”ซิ่วหมินถาม จงแดไม่เคยมีคนรัก
ไม่รู้หรอกว่าจะตอบว่าอะไร ถ้าเจ็บก็ควรจำ
แต่ถ้ารัก...ถ้ารักแล้วก็คงยอมได้ทุกอย่าง
“ผมอยากลืมเธอ...”น้ำเสียงของซิ่วหมินสั่นเครือ
ความคิดทำงานหนักเพราะทั้งรักทั้งเจ็บ
อยากจะผลักไสออกไปให้ไกลๆแล้วหัวเราะเยาะสมน้ำหน้าเธอแต่ก็อยากจะคว้าเธอมากอดแล้วบอกให้เราเป็นเหมือนเดิม
คงจะดีถ้าลืมไปได้ ลืมว่าเคยรักมากขนาดไหน
ใบหน้าเปื้อนน้ำตาละออกจากฝ่ามือที่ปิดกั้น
สบกับสายตาของจงแดที่มองมา จงแดพูดว่าให้ทำตามที่ซิ่วหมินต้องการ
เขาอยู่ตรงนี้และจะฟังที่ซิ่วหมินอยากระบาย รวมถึงรอฟังการตัดสินใจของชายหนุ่ม
“ฮึ...เพื่อนผมทุกคนบอกให้กลับไปหาเธอ
แล้วนอกใจเธอเสียบ้าง
แต่ผมทำไม่ได้”ซิ่วหมินไม่ใช่คนดีแต่ก็ไม่ถึงกับเลวจนทำร้ายคนที่เคยรักมากได้
ถึงจะทำได้จริงๆก็คงเป็นเขาเองที่ต้องเจ็บปวดเพราะต้องเลิกรากับเธออีกครั้ง
สู้ไม่ต้องกลับมาเลยเสียคงจะดีกว่า ติดที่ก็ยังรักเธอ ใจอ่อนยวบแค่เธอร้องไห้อ้อนวอน
“คุณ...”ซิ่วหมินเรียกเสียงพร่า
มือที่เปื้อนเปรอะด้วยน้ำตาเลื่อนมาจับมือของจงแดที่วางบนบ่าแล้วบีบมันทับลงไป
“...”
“ทำให้ผมลืมเธอทีสิ”เขาขอร้องออกมา
ดวงตาที่ประดับด้วยแพขนตาบางนั้นคลอเครือด้วยหยดน้ำตา จงแดกะพริบตา
ถามว่าเขาจะช่วยได้ยังไงกัน
การจะลืมใครสักคนมันต้องอยู่ที่ตัวของซิ่วหมินเองเสียมากกว่า
ซิ่วหมินขยับลุกขึ้นคว้าเอาตัวคนที่ยอมรับฟังเขาระบายในตอนนี้เข้ามากอด
จงแดลูบหลังอีกคน พูดว่าเขาคงช่วยอะไรไม่ได้นอกจากรับฟัง
เพราะนอกเหนือจากนั้นก็คงมีแค่เซ็กส์ที่เขาสามารถบริการได้ ซึ่งซิ่วหมินก็คงไม่ต้องการมันอยู่ดี
“บางที...ผมอาจจะต้องการมันก็ได้”ซิ่วหมินพูดเสียงเบา
การมีเซ็กส์กับผู้ชายสักคนคงไม่ผิดอะไรแล้วในตอนนี้
บางทีการเปิดใจรับอะไรใหม่ๆอาจจะทำให้เขาลืมเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น
หรือบางทีถ้าเขาเป็นเกย์ไปเสียเลยก็คงจะดี
มองที่ใบหน้าของคนที่เขาจ่ายเงินซื้อชั่วโมงเวลา จงแดก็น่ารัก
เนื้อตัวไม่ได้สูงใหญ่บึกบึนเหมือนผู้ชายวัยฉกรรจ์คนอื่น
“เดี๋ยว...”จงแดร้องค้านตอนที่อีกคนโน้มกายเข้าหา
ริมฝีปากคลอเคลียอยู่ที่ข้างแก้ม แต่ทว่าริมฝีปากที่คลอเคลียนั้นกลับวกลงประกบปิดกั้นเสียงอุทธรณ์ใดๆเอาไว้
กลีบเนื้อนิ่มบดคลึงแผ่วเบานุ่มนวล
ฉวยโอกาสตอนที่โพรงปากเปิดขึ้นเล็กน้อยส่งลิ้นนิ่มหยุ่นเข้าไปพัวกับอีกของอีกคน
เรือนกายของจงแดหอมด้วยกลิ่นกุหลาบ
ซิ่วหมินไม่แปลกใจที่คนตรงหน้าเขาจะมีผู้ชายมาต่อคิวรอซื้อตัว
มือคลึงเคล้นไปทั่วเนื้อนิ่มใต้ร่มผ้า
รู้สึกไม่ต่างไปจากกายจับต้องเนื้อหนังของหญิงสาว
แม้จะไม่นิ่มนวลเท่าแต่ก็ไม่ได้แข็งกระด้าง
“ช่วยให้ผมลืมเธอ”เสียงของซิ่วหมินกระซิบรินรดใบหน้ายามที่ถอนจูบออกมาแล้ว
ค่อยๆปลดเปลื้องกี่เพ้าสีแดงสดที่จงแดนั้นสวมใส่อยู่ออก ประโคมจูบลงทับที่ริมฝีปากของอีกคนหลายๆครั้งเหมือนยังไม่พอแก่ใจกับเนื้ออ่อนนุ่มซึ่งกำลังเต่งตึงจากแรงบดเบียด
ถ้าให้พูดตามตรงซิ่วหมินก็คงต้องบอกว่าเขาเองกระดากอายไม่น้อยยามที่ชั้นในผืนบางถูกถอดออก
สิ่งที่เผยตรงหน้ามันเหมือนเขากำลังมองดูตัวเองเปลือย
แม้เนื้อนิ่มมือจะกระตุ้นเร้าได้บ้างแต่เรือนร่างที่เป็นชายยังไงก็เป็นผู้ชาย
เขาเลือกจะมองข้ามไปแล้วประกบจูบเอาความหอมหวานจากเนื้อหยุ่นนิ่มอีกครั้ง
ขนอ่อนลุกตั้งยามที่จงแดขยับมือมากอบกุมความเป็นชายของตนเองเอาไว้
มือเล็กกระตุ้นมันผ่านกางเกงที่ยังสวมใส่ น่าแปลกใจที่มันเริ่มแข็งสู้มือจนอึดอัดในเวลาอันรวดเร็ว
คงเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่อยู่ในกระแสเลือดกับกลิ่นกายหอมๆของคนที่ซิ่วหมินกับบดเบียดริมฝีปากด้วยอยู่กระมัง
จงแดเป็นคนปลดกระดุมกางเกงและรูดซิบลงให้
ซิ่วหมินห่อปากตอนที่กางเกงถูกปลดออกไปโดยคนที่ตัวผอมบาง
ความอึดอัดคับแน่นได้เป็นอิสระ รู้สึกวูบวาบไปทั่วทั้งท้องน้อยเพราะจงแดเกี่ยวเอาชั้นในออกแล้วครอบปากลงไปบนส่วนปลาย
โพรงปากนั้นนุ่มนิ่มไม่ต่างจากผู้หญิง
เขาไม่รู้หรอกว่าผู้ชายคนอื่นจะปากนิ่มแบบนี้ไหม
แต่จงแดนั้นนิ่มมากเสียจนรู้สึกว่าท่อนเนื้อนั้นมันพร้อมใช้งานอย่างรวดเร็ว
ซิ่วหมินมองคนที่หยิบถุงยางอนามัยและเจลหล่อลื่นออกมาจากลิ้นชักข้างเตียง
จงแดถามว่าจะให้ใส่ถุงยางให้ไหม
ยังไม่รอฟังคำตอบซองสี่เหลี่ยมก็ถูกฉีกแล้วหยิบเอายางที่ม้วนเป็นห่วงกลมออกมาคลี่ครอบบนท่อนเนื้อ
ทุกอย่างดำเนินไปอย่างรวดเร็วแม้ตอนที่จงแดใช้เจลหล่อลื่นป้ายที่ร่องก้น
“เดี๋ยว...”ซิ่วหมินร้องท้วงตอนจงแดดันให้เขานอนราบแล้วพาเรือนร่างผอมบางขึ้นมานั่งคร่อม
ความเฉอะแฉะของเจลหล่อลื่นประทับลงที่หน้าท้อง
ส่วนกลางกายของอีกคนแข็งตึงไม่ต่างจากซิ่วหมินเลยสักนิด
จงแดชะงักตอนจะกดกายลงบนท่อนเนื้อแข็ง
ซิ่วหมินมีสีหน้ายุ่งยาก ในหัวกำลังคิดต่อต้านเพราะอีกฝ่ายเป็นผู้ชาย
“อึ่ก...”เสียงร้องในลำคอหลุดดังออกมา
ซิ่วหมินหลับตาแน่น
มือจิกดึงผ้าปูเตียงเพราะท่อนเนื้อกลางกายถูกกลืนกินโดยร่างของจงแด
ส่วนหัวผลุบหายเข้าไปในกายผอมบางตอนที่เขามัวแต่คิดไม่ตก รอบๆบีบรัดจนเขาแทบบ้า
โยนความคิดที่ว่าคนตรงหน้าคือผู้ชายทิ้งหายไปหมด
สะโพกเด้งสวนขึ้นไปเรียกเสียงครางเร้าจากอีกคนแทบจะทันที
“ฮา...”ความรู้สึกที่โอบล้อมอยู่รอบกายมันดีเอามากๆ
เขาสาบานได้ว่ามันไม่ต่างจากผู้หญิงสักนิด ทั้งยังรู้สึกว่ารัดแน่นกว่าเสียด้วยซ้ำ
คนที่กำลังยกตัวขึ้นลงตรงหว่างขาไม่ได้เป็นระดับมือโปรเหมือนแฟนสาวที่เพิ่งทิ้งซิ่วหมินไป
แต่ท่าทางเงอะงะเล็กน้อยนั้นก็ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังหยอกเอินกับลูกกวางขี้กลัวหาใช่แม่เสือสาวที่คุ้นชิน
ซิ่วหมินลูบขาเรียวเล็กที่วางขนาบข้างลำตัวของเขาทั้งที่จงแดยังไม่ได้หยุดส่งเสียงครางออกจากปากและสะโพกยังกลืนกินร่างกายของเขาตลอดเวลา
น่าแปลกที่ตอนนี้เขาสามารถโยนเรื่องผู้หญิงคนนั้นทิ้งไปได้และมีความสุข
เสพเซ็กส์ที่กำลังเกิดกับผู้ชายด้วยกันเองอย่างที่ตัวของเขาเองก็ไม่คิดมาก่อนว่ามันจะเกิดขึ้นได้...
คนขาย
ซิ่วหมินหลับสนิทอยู่บนเตียง
ทั้งเมาทั้งเหนื่อยจากกิจกรรมรักที่เพิ่งจบลงไป จงแดจัดการกับตัวเองแล้วออกมาข้างนอกปล่อยให้อีกคนในห้องได้พักผ่อน
เจอมาม่าซังนั่งอยู่ตรงเค้าท์เตอร์กับโอเซฮุน
เจียนจี้ฟางบอกว่าวันนี้หล่อนรับคิวไว้ให้แค่คนเดียว พูกปะเหลาะว่ากลัวจงแดจะเหนื่อยแต่ที่จริงคือแต่ละคนเสนอเงินมาไม่ถึงเป้าที่หล่อนคิด
ของดีๆก็ต้องจ่ายแพงๆ จะสึกหรอทั้งทีหล่อนไม่ส่งจงแดไปแลกกับเงินหยิบมือเสียหรอก
เผลอมองคนที่อยู่ข้างกายมาม่าซัง
เซฮุนเองก็เหมือนจะรู้ตัวว่าถูกมองถึงได้หันมาประสานสายตา
จงแดคิดถึงคุณจุนมยอนขึ้นมา เพราะอีกคนบอกว่าเป็นพี่ชายของเซฮุน
บางทีจงแดควรบอกเรื่องเซฮุนกับคุณจุนมยอน
“มองหน้าฉันมีอะไรหรือเปล่า”เสียงของเซฮุนถามห้วนเมื่อจงแดยังคงจ้องตากับตนเองอยู่
พอถูกถามแบบนั้นคนคิดเพลินเลยได้สติปฏิเสธว่าไม่มีอะไร
เจียนจี้ฟางส่งเสียงหัวเราะแหลม ลูบแขนลูบไหล่ผู้ชายของหล่อนให้ใจเย็น
“เซฮุนของฉันหล่อ จงต้าจะมองก็ไม่แปลกนี่นา”จูบซับที่ข้างแก้มของร่างสูงโปร่งแล้วหันมาบอกให้จงแดไปพักผ่อนเสีย
ส่วนหล่อนก็ลุกควงแขนเซฮุนทางห้องพักตัวเอง จงแดปล่อยลมยาวออกจากปาก
เขาเข้าใจดีว่าทำไมเซฮุนต้องเสียงห้วนแบบนั้น
เพราะเขากำลังกุมความลับของคนๆนั้นอยู่ ความลับระหว่างเซฮุนกับพี่จื่อเทา...
แล้วเรื่องนี้...เขาควรบอกให้คุณจุนมยอนรู้ด้วยหรือเปล่า?
จงแดหยิบโทรศัพท์ที่เก็บเอาไว้ในล็อกเกอร์เก็บของพนักงานมากดไล่รายชื่อผู้ติดต่อ
ชั่งใจเล็กน้อยแต่ก็กดโทรหาเบอร์ที่คุณจุนมยอนให้ไว้และเคยคุยข้ามแดนกันไม่กี่ครั้ง
รอสายเพียงไม่นานอีกฝ่ายก็รับสาย เสียงของนักธุรกิจชาวเกาหลีดูจะดีใจที่จงแดโทรมาหา
ถามสารทุกข์สุขดิบเสียยกใหญ่
“ผมสบายดีครับ...แล้วคุณจุนมยอนล่ะ”จงแดถาม
อีกคนพ่นลมหายใจยาวๆบอกว่าร่างกายสบายดีแต่จิตใจนี่ค่อนข้างป่วย
-คุณพ่อท่านป่วยน่ะครับ ความดันผิดปรกติ
ต้องแอดมิทที่โรงพยาบาลดูอาการเพราะจะช็อคอยู่ตลอด-
เสียงของคุณจุนมยอนดูหนักใจขึ้นมาเมื่อพูดถึงอาการของคนเป็นพ่อ
เสียงนุ่มเอ่ยบอกว่าเขาพะวงเรื่องบิดาจนไม่เป็นอันทำการทำงาน
แต่ก็เข้าใจว่าบิดานั้นชรามากแล้ว อีกทั้งยังมีโรคความดันเป็นโรคประจำตัว
-อ้อ
ผมอยากจะถามคุณจงแดอยู่เรื่องหนึ่ง...คุณพอจะเจอเซฮุนบ้างไหมครับ
ผมกลัวคุณพ่อจะเป็นอะไรไป อยากให้น้องกลับมาดูใจท่าน-
จุนมยอนพูดถาม จงแดนิ่วหน้า
บอกว่าที่โทรมาหาก็เพื่อจะพูดเรื่องนี้ คนตัวเล็กหลบพนักงานของร้านหลายคนที่เดินไปมาแล้วออกไปหามุมคุยโทรศัพท์ที่หลังร้านแทน
ระหว่างเดินก็ค่อยๆเล่าให้พี่ชายของเซฮุนฟังว่าเขาเจอน้องชายของอีกคนแล้ว
และตอนนี้เซฮุนกำลังอยู่ในฐานะอะไร เป็นอะไรกับเจ้าของบ้านดอกเหมย
“คุณจุนมยอนครับ”เรียกปลายสายที่เงียบไป
-ครับ
ยังอยู่ครับ...ผมแค่คิดไม่ถึงว่าเซฮุน...จะทำแบบนั้น-
คงหมายถึงการเกาะผู้หญิงกิน
จุนมยอนบอกว่าเซฮุนพูดว่าทำงานที่บ้านดอกเหมย เขาคิดว่าคงเป็นพนักงานเสิร์ฟ
จงแดกัดปาก
ชั่งใจว่าจะบอกเรื่องของเซฮุนกับพี่จื่อเทาดีไหม
ทว่าปลายสายก็รีบแทรกพูดขึ้นมาเสียก่อนว่าจะรีบเคลียร์งานที่เกาหลีแล้วบินมาตามตัวน้องชายอีกครั้ง
คนตัวผอมเลยงับเก็บเรื่องพี่จื่อเทาเอาไว้ก่อน เดี๋ยวค่อยบอกคงไม่เป็นไร อีกฝ่ายพูดขอบคุณจงแดที่โทรมาบอกเรื่องน้อยชาย
ก่อนจะขอวางสายไป พูดทิ้งท้ายแค่เจอกันที่จีน ถ้าหากมาถึงแล้วเจ้าตัวจะโทรมาหา
จงแดกำโทรศัพท์ไว้ในมือ
เพราะกี่เพ้าที่ใส่ไม่มีกระเป๋า
รู้สึกโล่งใจที่ได้บอกเรื่องเซฮุนให้กับคุณจุนมยอนทราบ
ทว่าตอนที่จะหันหลังกลับเข้าร้านก็ต้องตกใจ
มือเผลอปล่อยโทรศัพท์ที่ถือไว้ลงไปกระแทกพื้นปูนจนฝาหลังหลุดกระเด็นออกมา
แบตเตอร์รี่ลิเทียมก้อนบางกระเด็นออกไปอีกทางหนึ่ง
“ตกใจอะไรขนาดนั้น”เสียงติดทุ้มเอ่ยถาม
จงแดก้มลงเก็บโทรศัพท์กับชิ้นส่วนขึ้นมา
อ้อมแอ้มตอบอีกคนว่าไม่คิดว่าจะมีใครมายืนข้างหลังแบบนี้
โอเซฮุนหัวเราะหึ
ขยับเข้าหาคนที่ตัวเล็กกว่าก่อนจะจับแขนที่เหมือนไม่มีเนื้อแรงๆ
“เป็นคนของพี่จุนมยอนหรือไง!”กดเสียงต่ำเอ่ยถามยามที่ยื่นหน้าเข้าไปใกล้คนที่หดคอหนี
ทั้งแขนยังเจ็บเพราะเซฮุนไม่ยอมเบาแรงในการจับเลยสักนิด
ที่สำคัญคือความตกใจที่เซฮุนรู้ว่าเขาติดต่อกับคุณจุนมยอน คนตัวเล็กส่ายหัวบอกว่าไม่ใช่
“ไม่ใช่ก็ไม่ต้องมายุ่งเรื่องคนอื่น!”เซฮุนสะบัดแขนผอมบางออกจนจงแดเซไป
เขาออกมาหาที่สูบบุหรี่อย่างเคยเพราะจี้ฟางไปต้อนรับแขก
แต่ไม่คิดว่าจะมาได้ยินคิมจงแดกำลังคุยโทรศัพท์กับพี่ชายตัวเอง
ชื่อจุนมยอนที่อีกคนเรียกนั้นชัดเจน
เขากัดฟันกรอดตอนที่จงแดเล่าเรื่องของเขาให้พี่ชายต่างแม่ฟังจนหมดเปลือก
เสือก!
แต่ยังดีที่คนตัวเล็กไม่ได้พูดเรื่องที่เห็นในวันนั้น
ถ้าหากหมอนี่คิดจะพูด เซฮุนคิดว่าเขาคงไม่ทนรอฟังจนบทสนทนานั้นสิ้นสุด
ไอ้เรื่องเหี้ยๆแบบนั้น...
จะให้ใครรู้ไม่ได้...
จะไม่ให้ใครรู้ว่าเขาถูกไอ้ฮวังจื่อเทานั่นทำอะไรบ้าง
มันเป็นความลับระหว่างเขากับมัน
และถ้าคนที่บังเอิญมารับรู้อย่างคิมจงแดคิดจะบอกใคร...เขาจะไม่ปล่อยเด็กนี่เอาไว้เด็ดขาด...
“ผมแค่คิดว่าคุณควรกลับไปหาคุณพ่อของคุณบ้าง”จงแดบอก
จับแขนที่ถูกบีบจนเจ็บเอาไว้ ไม่กล้าสบตากับอีกคนที่ก้าวเข้ามาประชิดอีกรอบ
เซฮุนหัวเราะ ใช้นิ้วจิ้มไปบนหน้าผากของจงแดแรงๆ
“คนอย่างมึงมีสิทธิ์อะไรมาเสือกเรื่องครอบครัวกู”เซฮุนถาม
จงแดได้แต่ส่ายหน้า จริงอยู่ที่เขาไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่าย
แต่อย่างน้อยๆตอนนี้คุณพ่อของเซฮุนก็กำลังป่วยอยู่ไม่ใช่เหรอ? ถ้าเป็นเขาน่ะ
ถ้าเป็นจงแดแล้วล่ะก็ เขากลับไปไม่ลังเล
...ไม่สิ ถ้าเขาเป็นเซฮุน ไม่ว่าจะเหตุผลอะไร
เขาจะไม่ทิ้งครอบครัวแล้วหนีมา
“ผมไม่มีสิทธิ์อะไร แต่ถ้าคนๆนั้นเป็นพ่อของผม
ผมจะกลับไป...”จงแดเอ่ยบอก เซฮุนหัวเราะในลำคอ ในตาของร่างสูงโปรงไหวชั่ววูบก่อนมันจะจางหายไป
มีเพียงสายตานิ่งเรียบมองเข้ามาในตาของจงแด
“ขอโทษนะ...แต่เขาไม่ใช่พ่อของมึง...”
คนขาย
จงแดหมุนโทรศัพท์ในมือไปมา
พอเปิดไม่ติดก็เหมือนแค่วัตถุไร้ค่าที่ถือไว้ให้หนักเล่นๆ
พี่อี้ชิงถามว่าไปทำอีท่าไหนเข้ามือถือถึงหล่นมากระแทกพื้นพัง
จงแดหัวเราะแห้งบอกว่าเขาซื่อบื้อเอง นึกว่ากี่เพ้าที่สวมมีกระเป๋า
ท่าทางพี่อี้ชิงไม่เชื่อแต่ก็ไม่ได้ซักไซ้อะไรต่อ
คนแก่กว่าบอกว่าเดี๋ยวจะพาไปซื้อแต่จงแดปฏิเสธ เพราะวันนี้เป็นวันหยุดของเขาพอดี
พี่อี้ชิงไปเรียนแล้วจะเลยไปทำงานเลยก็ได้ เดี๋ยวเขานั่งรถเมล์ไปห้างเอง
“เดี๋ยวก็หลง”คนพี่พูด
จงแดส่ายหัวบอกว่าไม่หลงหรอก เขาจำได้ว่ารถเมล์สายไหนวิ่งผ่านบ้าง
หรือถ้าเกิดหลงจริงๆก็จะนั่งแท็กซี่กลับ เพราะไม่อยากรบกวนพี่อี้ชิง
ใกล้สอบแล้วพี่อี้ชิงทั้งต้องเรียน ทำโปรเจ็คและอ่านหนังสือสอบ
เรื่องเล็กๆน้อยๆจงแดก็ไม่อยากให้เป็นภาระ
“ก็แล้วแต่นายแล้วกัน
ถ้ายังไงฉันฝากซื้อยาสีฟันด้วย”อี้ชิงบอกพร้อมยื่นเงินให้ จงแดยิ้มน้อยๆ
ผลักมือเรียวออกบอกว่าเดี๋ยวเขาซื้อมาให้เอง
อี้ชิงจะอ้าปากพูดอีกครั้งแต่จงแดก็ลุกขึ้นบอกรีบไปก่อนจะสายแล้วคนจะเยอะดีกว่าทำให้อี้ชิงจำต้องเก็บเงินที่ถือเข้ากระเป๋าเหมือนเดิม
จงแดกำสายสะพายของกระเป๋าแน่น
แอบพ่นลมออกจากปากอย่างเบาใจ เขารู้ว่าพี่อี้ชิงกำลังจะพูดอะไร
รีบชิงหนีออกมาคงจะดีกว่าฟังคำที่ทำให้ต้องรู้สึกเจ็บ
ก็แค่อยากจะช่วยอะไรเล็กๆน้อยๆ
ลำพังช่วยจ่ายค่าน้ำค่าไฟอย่างเดียวเขารู้สึกว่ามันน้อยเกินไป ของใช้เล็กๆน้อยๆก็อยากจะช่วยออกช่วยซื้อ
แต่พี่อี้ชิงก็จะพูดคำเดิม...ว่าเก็บเงินที่ได้จากน้ำพักน้ำแรงของเขาไว้เสียเถอะ...
จงแดไปร้านขายโทรศัพท์ก่อนเป็นอันดับแรก
เลือกรุ่นที่คล้ายเครื่องเก่าเพราะใช้งานได้คล่องมือ
ให้พนักงานที่ร้านลงโปรแกรมและเปิดใช้งานเครื่องให้เรียบร้อย
แปลกตากับภาพพักหน้าจอและระบบปฏิบัติการที่ไม่เหมือนกับเครื่องเดิมเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่
เสียดายคือภาพจูจินที่อุตส่าห์เซฟเก็บเอาไว้
เขาโง่เองที่เซฟเก็บไว้ในความจำของเครื่องแทนเมมโมรี่การ์ด
จงแดหยิบตะกร้าใส่ของเพื่อเลือกซื้อของใช้จำเป็นที่เริ่มหมด
มียาสีฟันของพี่อี้ชิงที่สำคัญ นอกนั้นก็พวกสบู่และโฟมล้างหน้า หยิบขนมจากชั้นวางมาสามสี่กล่องเอาไว้กินตอนเช้าๆ
“...นาย”เสียงรียกมาพร้อมกับแรงจับที่บ่า
จงแดหันไปมองคนที่เรียกเขา
“คุณดีโอ”
“ยังจำชื่อกันได้ด้วยสินะ”ดีโอเอ่ยออกมา
ค่อนข้างแปลกใจที่คนซึ่งเขาเคยซื้อบริการจะจำชื่อของเขาได้
พอมาเจอกันอีกครั้งในที่ซึ่งไม่ใช่สถานบริการทำให้ดีโอได้สังเกตุอีกคนมากขึ้น
ใบหน้าที่ไม่ได้เคลือบเครื่องสำอางบางเบานั้นดูขาวติดซูบซีดกว่าตอนแต่งเสียอีก
“มาซื้อของเหรอครับ?”จงแดเอ่ยถาม
เห็นอีกคนไม่ได้ถือตะกร้าในมือ ท่าทางเหมือนมาเดินรับแอร์เย็นๆเสียมากกว่า
ดีโอบอกว่าพี่สาวกับพี่เขยมาซื้อของ
ส่วนเขาถูกพี่สาวบังคับมาหาของกินมื้อกลางวันกันที่นี่
“ชิ่งจู...มาช่วยพี่เลือก อ้าว!เจอเพื่อนเหรอ?”หญิงสาวรูปร่างบอบบางเรียกคนที่ยืนอยู่กับจงแดเสียงดังแต่พอเห็นว่าน้องชายคุยอยู่กับคนอื่นเลยเบาเสียงลง
เธอยิ้มให้จงแดเล็กน้อย เรียกดีโอด้วยชื่อชิ่งจูที่คงเป็นชื่อภาษาจีนของอีกคน
บอกว่าถ้าเจอเพื่อนก็ชวนกันไปทานข้าวด้วยกันสิ
“ไม่เป็นไรครับ ผมมาซื้อของนิดเดียว”จงแดปฏิเสธ
เขาจะขอตัวแต่ดีโอกลับจับแขนเอาไว้ก่อน
“ไปด้วยกันเถอะ...คนท้องนึกอยากกินอาหารเกาหลี
ถ้านายไปช่วยคิดเมนูคงดี”เขาบอก
พอหญิงสาวได้ยินว่าเพื่อนของน้องชายเป็นคนเกาหลีก็ยิ้มกว้างบอกว่าดีเลย
เธอนึกอยากทานอาหารเกาหลีแต่ไม่สันทัด
“ไปทานด้วยกันเถอะค่ะ”เธอชวนอีกครั้งพร้อมรอยยิ้มหวาน
จงแดอึกอัก มองดีโอที่ยืนข้างๆอีกคนก็พยักหน้าให้เออออไป
จงแดเองเลยต้องพยักหน้าลงอย่างจำยอม
เพียงครู่เดียวสามีของพี่สาวดีโอก็เข็นรถเข็นมาสมทบ
เธอกอดแขนชายหนุ่มแล้วบอกว่ามื้อนี้มีคนร่วมโต๊ะอาหารเพิ่มหนึ่งคน
“ผมชื่อจง...จงต้าครับ”จงแดไม่แน่ใจที่จะบอกชื่อจริง
ในเมื่อดีโอรู้จักเขาในชื่อจงต้าอยู่แล้วก็เลือกจะบอกชื่อนี้ออกไปอีกครั้ง
“ฉันชื่อฉีฟ่าง เป็นพี่สาวของชิ่งจู
แล้วนี่ป๋ายเสียนสามีของฉันจ้ะ”เธอบอกพร้อมรอยยิ้มกว้าง
จงแดไม่ได้ตั้งใจเห็นแต่ก็เห็นว่าดีโอเสตาหลบไปมองทางอื่นเหมือนไม่อยากจะมองภาพตรงหน้าเท่าไหร่นัก
จงแดยิ้มให้ทั้งคุณฉีฟ่างและคุณป๋ายเสียน
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ”มือเรียวถูกยื่นมาตรงหน้าเพื่อจะจับทักทาย
จงแดจับมือกับป๋ายเสียนเล็กน้อยก่อนผละออก
ฉีฟ่างบอกว่าอยากได้นมอีกสักแกลลอนเป็นอย่างสุดท้ายก่อนจะไปทานอาหารมื้อกลางวันกัน
เธอจับแขนสามีเชิงให้เข็นรถไปแผนกนมสดด้วยกัน
มื้อกลางวันนั้นผ่านไปได้ด้วยดี
พี่สาวของดีโอบอกว่าเธอท้อง เพิ่งรู้เมื่อไม่กี่วันมานี้เอง
แล้วพอรู้ว่าท้องก็เหมือนอุปมาอยากกินนู่นนี่นั่นไปหมด จงแดยินดีด้วยกับคนทั้งคู่และดีโอที่กำลังจะมีหลาน
“ขอบคุณนะจ๊ะ”ฉีฟ่างยิ้มหวาน
เธอจับมือสามีของเธอเอาไว้และยิ้มให้กัน จงแดอดยิ้มตามไม่ได้ มีเพียงดีโอที่นั่งกินอาหารไม่ได้สนใจ
คนขาย
“ไม่เป็นไรก็ได้ครับ
ผมไม่ลำบากอะไร”จงแดปฏิเสธความหวังดีของตู้ฉีฟ่างที่บอกให้สามีของเธอแวะส่งจงแดที่หอพักก่อนเพราะเป็นทางผ่านไปบริษัท
เมื่อครู่เลขาโทรมาบอกให้เข้าไปดูงานส่วนการผลิตด่วนเนื่องจากมีเครื่องจักชำรุด
พอดีกับที่จงแดจะกลับ
ถามไถ่ว่าหอพักอยู่ตรงไหนเลยให้ป๋ายเสียนแวะส่งเสียทีเดียวจะได้ไม่ต้องเบียดเสียดคนขึ้นรถเมล์
“ให้พี่เขยไปที่บริษัทเลยก็ได้นี่ครับ
แล้วเราก็ไปส่งจงต้า”ดีโอเอ่ยบอก
ฉีฟ่างตีแขนน้องชายบอกว่าทางกลับบ้านตนเองกับหอของจงแดนั้นอยู่ตรงข้ามกันเลยก็ว่าได้
“ไปกับป๋ายเถอะนะคะ
ป๋ายไม่ลำบากที่จะส่งจงต้าที่หอก่อนใช่ไหมคะ?”เธอพูดกับจงแดก่อนหันไปถามสามีซึ่งชายหนุ่มก็ไม่ได้ปฏิเสธ
จงแดอึกอักสุดท้ายก็ปฏิเสธอีกครั้ง ยืนยันว่าตนเองขอกลับรถเมล์ดีกว่า
ตู้ฉีฟ่างหน้างอน้อยๆที่คนตัวเล็กไม่รับน้ำใจของเธอ
“ ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้นะครับ”จงแดโค้งขอบคุณ
ยิ้มให้เล็กน้อยก่อนจะแยกตัวเดินออกมานั่งรอรถเมล์ที่ด้านหน้าของห้าง
ไม่นานสายที่ผ่านหอก็ผ่านมา กว่าจะถึงหอใช้เวลาเกือบชั่วโมงเต็ม
จงแดเอาของที่ซื้อมาไปเก็บให้เรียบร้อย
ยาสีฟันของพี่อี้ชิงถูกวางไว้ในตะกร้าของใช้ในห้องน้ำ และของใช้อื่นๆก็ถูกวางไว้ในที่ของมัน
ก็อกๆ
เสียงเคาะประตูห้องทำให้จงแดละความสนใจจากการดูขนมที่ซื้อมา
ถามว่าใครคนที่หน้าบานประตูก็ไม่ตอบ อาจจะเป็นเจ๊เว่ยเจียงเจ้าของหอ
ทว่าพอเปิดประตูกลับไม่ใช่เจ้าของหอร่างท้วมแต่เป็นผู้ชายที่เขาเพิ่งรู้จักเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา
“มีอะไรหรือเปล่าครับ?
แล้วคุณมาที่นี่ได้ยังไง”จงแดถาม
เปี้ยนป๋ายเสียนมองลอดเข้าไปในห้องทำให้จงแดต้องปิดประตูลง
“เราไปคุยกันในห้องไม่ดีกว่าเหรอ?”เขาถาม
น้ำเสียงดูกรุ้มกริ่มผิดแผกจากตอนเจอกันเมื่อชั่วโมงที่แล้ว ท่าทางแบบนี้จงแดนึกไม่ไว้ใจอีกคน
ถามว่ามีธุระอะไรกับตน เปี้ยนป๋ายเสียงจุ๊ปากพูดว่าอย่าเสียงดังดีกว่า
แล้วเข้าไปคุยกันในห้อง
“อย่าดีกว่าครับ
ถ้าคุณไม่มีธุระผมขอตัวก่อน”จงแดตัดบท
เข้าห้องแล้วตั้งใจจะล็อกประตูทว่ายังไม่ทันทีบานประตูจะงับสนิทกลับถูกเปิดออกอย่างแรง
คนที่ไม่ได้ออกแรงดึงประตูไว้ปล่อยให้บานไม้ถูกยื้อออกและร่างโปร่งแทรกเข้ามา
“เข้ามาทำไมครับ?”จงแดถามเสียงแข็ง
เปี้ยนป๋ายเสียนยกยิ้ม ปิดประตูลงแล้วล็อกกลอน
กวาดสายตามองดูรอบๆห้องแล้วจุ๊ปากเบาๆ
“ลำบากเหมือนกันนะ ให้ฉันเลี้ยงไหมล่ะจินจงต้า
มีเงินใช้สบาย
ได้อยู่บ้านหลังใหญ่ๆ...แล้วไม่ต้องขายตัวให้ผู้ชายไม่ซ้ำหน้าด้วยนะ”น้ำเสียงของคนพูดเรื่อยเอื่อยแต่ฟังดูแคลน
ที่สำคัญคือเขารู้จักจงแด เขารู้ว่าจงแดเป็นใคร
“ออกไป ไม่งั้นผมจะเรียกคนอื่น”จงแดพูด
หยิบโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาทำท่าจะกดโทรออกจริงๆ
ป๋ายเสียนเห็นอีกแบบนั้นจึงเข้าประชิดตัวอาศัยว่ามือไวหยิบโทรศัพท์ในมืออีกคนมาถือเอาไว้
สายตาของผู้บริหารหนุ่มมองปราดไปทั่วตัวของคนตรงหน้า
“รู้ตัวไหมว่านายมีเสน่ห์ดึงดูดเอามากๆ”ถึงจะดูผอมไปนิด
ซีดไปหน่อยแต่ก็มีเสน่ห์ของเชื้อสายเกาหลี ดวงตาสองชั้นกลมโต
ผิวพรรณขาวเนียนแม้มันจะไม่ได้นุ่มนิ่มไปเสียเลยแต่ก็อ่อนนิ่มกว่าเด็กผู้ชายหลายคนที่เขาเลยลองลิ้ม
เปี้ยนป๋ายเสียนหัวเราะชอบใจ เดินไล่ให้จงแดไปเรื่อยๆ
ห้องแคบแค่นี้ไม่กี่ก้าวคนที่ถอยหนีก็ไปชนขอบเตียง
“ผมไม่รู้ว่าคุณต้องการอะไร
แต่วันนี้ผมไม่ได้ทำงาน
เชิญคุณออกไปได้แล้ว”แม้จะไม่ไว้ใจแต่ก็ยังใจกล้าพูดไล่อีกคน
ทว่านอกจากเปี้ยนป๋ายเสียนจะไม่สนใจคำพูดของจงแดแล้ว เขายังวางกระเป๋าใบย่อมที่ถือหิ้วอยู่ลงกับพื้น
“ฉันไปที่บ้านดอกเหมยบ่อยนะ เคยถามมาม่าซัง
คิวนายก็ไม่เคยมีว่างจนฉันขี้เกียจจะจองคิว
ไม่คิดเลยว่าฉันไม่จองคิวนายแต่น้องเมียของฉันกลับไปลองกินนายเสียแล้ว...”สายตาของป๋ายเสียนวาวระยับยามพูดถึงน้องเมีย
ทว่าจงแดกลับตกใจ คนตรงหน้าเขารู้...ว่าดีโอเคยซื้อบริการเขา
“ออกไป”จงแดเสียงสั่นเพราะอีกคนขยับเข้ามาเรื่อยๆ
แม้จะความสูงไม่ได้ต่างกันมากแต่ถ้าหากต่อสู้ก็คงไม่อาจจะชนะอยู่ดี
จงแดไม่ได้มีเรี่ยวแรงขนาดนั้นแน่นอน เขาไม่เคยจะสู้ใครได้อยู่แล้ว...
มือเรียววาดลูบลงมาที่ใบหน้า จงแดย่นคอหนี
ได้ยินเสียงหัวเราะหึในลำคอก่อนที่จะต้องร้องอย่างตกใจเมื่อมือนั้นคว้าลำคอของเขาแล้วออกแรงบีบ
จงแดตาเบิกโพลงเห็นใบหน้าของเปี้ยนป๋ายเสียนกำลังขยับยิ้ม
ดวงตาแวววาวระยับเหมือนถูกใจทั้งที่ยังกดแรงลงกับลำคอของจงแดอยู่
ร้องไม่ออกแล้ว...เพราะเส้นเสียงถูกบีบแม้แต่หายใจยังลำบาก
มือผอมบางยกขึ้นขีดข่วนทำร้ายทั้งมือที่บีบอยู่ที่คอและแขนของอีกคน
น้ำตาไหลลงที่ปลายหางตายามที่รู้สึกเหมือนกำลังจะหมดอากาศหายใจ
แต่คนตรงหน้าก็ยังแย้มยิ้มกว้าง
...โรคจิต...
“อั่ก!”เสียงหลุดออกมาจากลำคอเพราะถูกผลักลงไปกระแทกที่พื้นเตียงของพี่อี้ชิง
ลำคอเป็นอิสระและจมูกกับปากก็รีบโกยอากาศเข้าร่างกายอย่างอัตโนมัติ แสบคอไปหมด
น้ำตาก็ยังไม่หยุดไหล แต่ไม่ทันจะได้ตั้งตัวก็ถูกกระชากขาอย่างแรง
กางเกงสามส่วนที่ใส่ถูกปลดซิปและดึงออกจากขาอย่างรวดเร็วจนจงแดทำอะไรไม่ถูก
อยากจะกรีดร้องแต่ลำก็เจ็บร้าวระบม ข้อมือถูกจับตรึงและกระแทกแรงๆกับที่นอน
“รู้ไหมจินจงต้า ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรหรอกนะที่ฉันไม่ได้กินนาย...”เสียงของเปี้ยนป๋ายเสียนแหบลงยามกดกระซิบข้างๆหู
จงแดเบือนหน้าหนี หลับตาแน่นตอนที่ลิ้นลากๆไล้เลียที่ใบหน้าข้างแก้ม
“แต่ฉันไม่ชอบใจที่นายมายุ่งกับของของฉัน!”จบคำกล่าวแรงบีบหนักๆที่คอก็กลับคืนมาอีกหน
จนแดส่งเสียงอึ่กอั่กในลำคอ ดีดดิ้นไปมาแต่ก็ถูกป๋ายเสียนจับแขนเอาไว้
มือหนักๆทุบเข้าที่ท้องจนจุกเจ็บ ลำคอถูกบีบรัด
จงแดไม่เข้าใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นตอนนี้ อะไรคือของของผู้ชายคนนี้
...ดีโอ...
“ทำหน้าเหมือนงง...จะบอกอะไรให้นะ
ตู้ชิ่งจูเป็นของฉัน!! ถึงนายจะเป็นไอ้ตัวที่เด็กนั่นซื้อได้ด้วยเงินแต่นายไม่มีสิทธิ์ไปเอากับชิ่งจู!”เสียงตวาดของป๋ายเสียนดังลั่น
เขาออกแรงบีบคอคนในอาณัติราวอยากจะให้ตายคามือ
ยอมรับว่าแรกเริ่มเขาถูกใจจินจงต้าจากบ้านดอกเหมยเอามากๆ
เด็กหนุ่มที่เห็นไม่บ่อยในร้านเพราะต้องรับแขกทุกวัน
แต่ป๋ายเสียนก็ชอบในรูปร่างท่าทางของคนเกาหลีคนนี้
เขาเคยจองคิวจงต้าแต่ไม่เคยได้คิวเลยสักครั้ง
จึงถอดใจไปในที่สุด
ไม่คิด...ไม่คิดเลยจริงๆว่าชิ่งจูจะเป็นหนึ่งในคิวที่ยาวเหยียดของคนๆนี้
ถามว่าเขารู้ได้ยังไงน่ะเหรอ? ก็เพราะเขาตามน้องเขยคนนี้ตลอด
เขาเหมือนคนบ้าที่ต้องเห็นตู้ชิ่งจูในสายตาตลอดเวลา แม้ไม่ได้ตามติดด้วยตัวเองก็ต้องส่งคนตามน้องเมียคนนี้เสมอ
เขาอยากรู้ว่าชิ่งจูไปไหน ทำอะไร
มีใครเข้ามาในชีวิตบ้าง ซึ่งจากเวลาที่รู้จักกันมาเด็กคนนั้นคบผู้หญิงสองสามคน
และผู้หญิงพวกนั้นก็หายไปจากชีวิตของชิ่งจูด้วยฝีมือของเขา...
ที่จริงก็เกือบจะลืมเรื่องเด็กขายที่บ้านดอกเหมยไปแล้วเชียว
ทั้งเรื่องภรรยากำลังตั้งครรภ์
และเรื่องที่เขาเริ่มรุกเร้าชิ่งจูได้จากการกุมความลับที่อีกคนไปซื้อบริการผู้ชายทำให้เขาไม่มีเวลาสนใจเรื่องจินจงต้านัก
ผิดเองที่เด็กนี่กลับเข้ามาในชีวิตของชิ่งจู...แม้จะบังเอิญแต่เขาก็ไม่ชอบใจ...
“รู้ไหมคนสุดท้ายที่เด็กนั่นนอนด้วยสภาพเป็นยังไง?”ถามกลั้วหัวเราะ จงแดบดเปลือกตาแน่น ริมฝีปากระริกสั่น
มือของป๋ายเสียนคลายออกจากคอให้หายใจสะดวกขึ้นแต่ก็เจ็บร้าวไปหมด
อยากจะดิ้นหนีทว่าเนื้อตัวก็ถูกทุบตีจนจุก
จงแดปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาตอนที่กรามถูกบีบให้อ้าริมฝีปากออก ดวงตาที่ปิดสนิทเบิกโพลง
อะไรบางอย่างถูกดันเข้ามาในปากกระแทกไปสุดผนังลำคอ
“อื้อ!”จงแดร้องในคอเสียงหลง
ตาที่เบิกอยู่เห็นชัดว่าเปี้ยนป๋ายเสียนกำลังดันบางอย่างเข้ามาในปากเขา...
ดิลโด้...
กลิ่นยางพาราจากแท่งอวัยวะเพศปลอมคลุ้งไปทั่วปาก
จงแดสำลักหน้าแดง ยิ่งเจ็บช่วงท้องมากขึ้นแต่คนที่ขยับแท่งดิลโด้ไปมาก็ไม่มีการหยุด
เสียงของป๋ายเสียนน่าขยักแขยง เสียงที่ถามเรื่องเบื้องต่ำที่ข้างหู
“ใหญ่ดีไหมล่ะ?
ของชิ่งจูน่ะจะใหญ่ถึงใจนายแบบนี้ได้ไหม?”
ทุเรศ!
จงแดด่าอยู่ในใจ รังเกียจสัมผัสที่ไล่ไปตามตัว
หน้าอกถูกบีบคั้นแล้วบดขยี้ที่ยอดปลาย กางเกงชั้นในถูกดึงออกไปทางปลายเท้า
เขาไม่มีแรงแม้จะขยับขาปกปิดส่วนน่าอายเอาไว้
ทั้งสิ่งที่ถูกดันเข้ามาในปากจนกระแทกผนังลำคอให้จุกเจ็บและความบอบช้ำทางร่างกายจากการถูกทุบตีทำให้จงแดได้แต่ปล่อยให้ขาทั้งสองข้างถูกแหวกออก
มองเห็นเปี้ยนป๋ายเสียนหยิบกระเป๋าที่เจ้าตัวถือติดตัวมาในตอนแรก
สายยาวสีสันสดใสถูกนำออกมา วัตถุทรงรีเชื่อมต่อกับสายนั้น
จงแดสะดุ้งเฮือกตอนที่ป๋ายเสียนกดสวิตช์เพื่อเปิดการทำงานของมัน
เซ็กส์ทอย...มันคือเซ็กส์ทอย
“อื้อ!”ร้องในคอเพราะอีกคนจับอุปกรณ์สนองความใคร่นั้นมาสัมผัสที่บริเวณรอยจีบด้านหลัง
จงแดส่ายหน้าระรัว มือยกจับแขนของป๋ายเสียนแน่นขอร้องไม่ให้ดันมันเข้ามาในร่าง
ดิ้ลโด้ในปากถูกดึงออกไปทำให้ต้องไอโขลกสำลักน้ำลาย จงแดจับแขนของอีกคนแน่น
เสียงแหบแห้งและเจ็บคอเหมือนโดนของมีคมบากลึก แต่ก็ยังฝืนพูดร้องขอ
“อย่าทำ...”ขอร้อง...ทั้งน้ำตา เรียกรอยยิ้มมุมปากของคนที่อยู่เหนือกว่าได้เป็นอย่างดี
ป๋ายเสียนหัวเราะ บอกว่าไม่เอาเข้าไปข้างในหรอก
“...ฉันไม่ให้ของเล่นของฉันเปรอะของโสมมที่อยู่ในตัวนายหรอก
ไม่ต้องห่วง...”ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ของเล่นชิ้นเล็กก็ยังคงดุดดันอยู่ตรงรอยจีบนั้น
จงแดกัดปากแน่น ไม่อยากจะยอมรับว่าแรงสั่นของมันทำให้รู้สึกตื่นตัว
แกนกายที่สงบนิ่งชูชันขึ้นด้วยสัญชาตญาณที่ไม่อาจจะห้ามปรามได้
ได้ยินป๋ายเสียนหัวเราะอีกครั้ง ตามด้วยเสียงครางอย่างห้ามไม่อยู่ของตัวเขาเอง
...น่ารังเกียจ...
น่ารังเกียจ ทั้งที่เขาด่าอีกคนว่าทุเรศ
แต่ตอนนี้จงแดกำลังมีอารมณ์ร่วมไปกับการกระทำน่าทุเรศนี้...
เกลียดร่างกายที่ตอบสนองความต้องการของอารมณ์...
เกลียดตัวเอง...ที่มันรู้สึกต้องการอะไรเข้ามาในร่างเหมือนทุกครั้ง...
“อยากให้ฉันเอามันเข้าไปหรือไง?”อีกคนกระซิบถามที่ข้างหู
ขบเม้มติ่งเนื้อบางเรียกเสียงครางให้ดังขึ้นอีกครั้งจงแดส่ายหน้า
ปฏิเสธทั้งที่ความจริงแล้วต้องการมากขนาดไหน
ดิลโด้อันเดิมถูกใช้ดุนดันที่ปากทางเข้า
แรงดันถี่ๆแต่ไม่เข้าไปด้านในทำให้บิดมวนไปทั่วท้องน้อย
จงแดยกมือกุมท้องเพราะมันเจ็บจากการบิดเกร็ง
“ห่าเอ้ย!”เสียงสบถดัง จงแดถูกบีบที่กรามอีกครั้งแต่คราวนี้กลับเป็นเนื้อนิ่มแทรกพรวดเข้ามาในปาก
อะไรที่ดันอยู่ตรงจีบด้านหลังถูกละทิ้ง เปี้ยนป๋ายเสียนร่นกางเกงที่ใส่ลง
ขยับขึ้นคร่อมร่างที่นอนไร้การขัดขืนบนเตียง ท่อนเนื้อกลางกายถูกชักเข้าออกในโพลงปากจนจงแดสำลักไอ
ขาของป๋ายเสียนกดทับที่หน้าอกและช่วงแขนทำให้คนที่ขยับไม่ไหวยิ่งทำอะไรไม่ได้สักอย่าง
อารมร์หวามเมื่อครู่ถูกกระชากออกจากร่างอย่างรุนแรงเหลือเพียงความคับแน่นในโพลงปาก
กลิ่นสาบกายปนกับน้ำลายไหลลงคออย่างช่วยไม่ได้
น้ำตาที่หยุดไหลไปได้พักใหญ่รินลงมาจากหางตาอีกครั้ง
อึดอัด หายใจไม่ออก
ท่อนเนื้อในโปรงปากขยายออกจนแข็งตึง ส่วนปลายกระแทกเข้ามาจนจุก
เสียงของป๋ายเสียนครางฮึมในลำคอ
มือเรียวเอื้อมวกไปด้านหลังแล้วกำรูดส่วนกลางลำตัวของจงแดให้ มันอ่อนตัวลงไปไม่มาก
พอรูดรั้งให้จังหวะแก่มันก็แข็งขืนขึ้นมาโดยเร็ว จงแดร้องอื้อลากยาว ขนอ่อนลุกชันไปทั่วตัวเมื่อมือของเปี้ยป๋ายเสียนดึงรั้งกายเขาจนจุกแน่น
ขยี้ส่วนปลายละเลงน้ำเมือกใสๆที่ไหลออกมาไปทั่ว กดย้ำส่วนหัวด้วยปลายนิ้วซ้ำๆ
“ดี...ฉันจะออกแล้ว”ป๋ายเสียนครางพร่า
ขยับร่างเข้าออกให้เร็ว เสียงกระทบของท่อนเนื้อกับน้ำลายดังน่าเฉอะแฉะ
จงแดหลับตาแน่น มือป่ายไปที่ท่อนขาของป๋ายเสียนให้ออกไปจากตัว
อยากดีดดิ้นหนีคนที่กำลังจะปลดปล่อยทั้งที่ยังคาส่วนนั้นอยู่ในปาก
“ฮือ...อึ่ก!”ร่างของจงแดกระตุกเร้า
เรียวขากระตุกบิดเพราะสำลัก ป๋ายเสียนจับใบหน้าของอีกคนตรึงแน่น ปล่อยเสียงครางยาว
แอ่นกระตุกสะโพกพ่นฉีดรีดน้ำกามออกมาใส่ช่องปากที่รองรับ
ดันเข้าไปให้ลึกไม่สนใจคนที่สำลักจนดิ้นปัด
“อ่อก! แค่ก!”เสียงไอโขลกดังขึ้นทันทีที่เปี้ยนป๋ายเสียนลุกออกไปจากตัว
จงแดรู้สึกแสบร้อนไปทั้งโพลงจมูก กลิ่วคาวตลบอบอวลจนแทบอยากจะอ้วกออกมา
น้ำมูกและน้ำตาไหลออกมาจนแสบไปทั้งหน้า บิดตัวนอนตะแคงซบหน้าลงกับที่นอนแล้วปล่อยเสียงไอดัง
“ไม่...”เสียงแหบพร่าจนไม่ได้ยินเอ่ยออกมาเบาจนจับใจความแทบไม่ได้
ลำตัวถูกจับพลิกให้นอนหงาย จงแดถดกายจะหนีแต่อีกคนก็จับตรึงไว้
“ฉันจะช่วยไอ้ตรงนี้ให้”ป๋ายเสียนพูด
กำรอบท่อนเนื้อที่แข็งตึง เพียงสัมผัสอาการต่อต้านก็อ่อนยวบ ความเย็นวาบล้อมรอบกายจนต้องส่งเสียงครางเครือ
เปี้ยนป๋ายเสียนยิ้มน้อยๆ
อยากจะลองเข้าไปในตัวของคนที่นอนแผ่ตรงหน้าแต่เพราะอีกคนไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน
เขาไม่คิดจะเข้าไปให้เลอะเทอะ แต่ก็พูดได้เลยว่าใบหน้าขาวที่แดงจัดในตอนนี้
จมูกปากมีแต่น้ำกามของเขาเปรอะเปื้อน แกนกายสีอ่อนที่แข็งตึงจัดจับสัมผัสทีก็บิดกายเย้ายั่ว
จินจงต้ามีเสน่ห์ดึงดูดมาก...
มองกระเป๋าใส่ของเล่นของตัวเอง...เปี้ยนป๋ายเสียนไม่เคยบอกใครว่าเขามีรสนิยมแบบไหน
แต่คู่ขาของเขารู้ดี เด็กคนนั้นเป็นลูกชายยามที่บริษัท มาเฝ้าพ่อทำงานบ่อยครั้ง
เขาซื้อบริการจากเด็กคนนั้นแลกกับเงินไม่มาก
แต่จะให้เพิ่ม...หากยอมให้เล่นของเล่นพวกนี้ด้วย
ซึ่งแน่นอน เด็กคนนั้นไม่ปฏิเสธ...
ของเล่นของเขามีตั้งแต่ไวเบรเตอร์ธรรมดาจนถึงแส้และกุญแจมือ
อยู่ที่จะเลือกอันไหน
จินจงต้าควรขอบคุณเขาเสียด้วยที่ไม่คิดเอาของเล่นหนักๆมาใช้กับเจ้าตัว
อวัยวะเพศหญิงเทียมถูกหยิบขึ้นมาใช้ครอบลงบนแกนกายของจงแด
เจลหล่อลื่นที่ชโลมลงไปก่อนหน้าทำให้ไม่รู้สึกติดขัด
ความบีบรัดของสองข้ามแคมเทียมสร้างความรู้สึกแปลกใหม่ที่จงแดไม่เคยพบมาก่อน
เขาไม่เคยมีเซ็กส์ ไม่เคยสัมผัสว่าการแทรกสอดเข้าไปในร่างผู้หญิงรู้สึกอย่างไร
ดี...
ดีมากจนต้องร้องคราง
แต่เสียงที่แหบซ่านนั้นช่างเบา มือจิกผ้าปูที่นอนของอี้ชิงแน่น ลำตัวบิดเร้าเกินจะควบคุม
จงแดนิ่วหน้า บดเปลือกตาแน่น เสียงเจลหล่อลื่นตีกับล่างท้องน้อยดังเป็นจังหวะ
หูของจงแดร้อนฉ่า กรีดลากเสียงยาว ทึ้งผ้าปูจนแทบจะขาดคามือมา
หยาดหยดขาวขุ่นพุ่งฉีดออกจากร่าง
ลำตัวของจงแดกระตุกไหวแล้วแน่นิ่ง
เปลือกตาที่บดแน่นคลายออกแต่ยังปิดคลุมดวงตาเอาไว้สนิท ร่างผอมบางหายใจสม่ำเสมอ
บอกให้ทราบว่าร่างกายนี้คงเหนื่อยและเพลียจนสลบไปแล้ว
ป๋ายเสียนมองคนที่หลับไปก่อนจะโยนอวัยวะเพศเทียมในมือใส่ร่างที่นิ่งสนิท เขาไม่คิดจะเก็บกลับไป
รวมถึงดิลโด้และไวเบรเตอร์ที่ใช้ครั้งนี้ด้วย
เงินปึกหนาถูกหยิบออกมาจากกระเป๋าเงินยามที่ชายหนุ่มดึงกางเกงขึ้นมาสวมให้เรียบร้อยแล้ว
กระดาษโน้ตถูกฉีกออกมาเขียนข้อความเอาไว้
‘เงินค่าตัวนาย
ใช้มันให้พอจนไม่ต้องไปขายตัวให้น้องเมียฉันอีก ไม่เช่นนั้นมันจะไม่จบแค่นี้...’
ธนบัตรแนบกระดาษโน้ตถูกโยนใส่หน้า กระดาษที่มีค่าบางแผ่นนั้นปลิวไปเปรอะเปื้อนน้ำกามที่เปรอะอยู่ตามเนื้อตัว
ป๋ายเสียนฉวยเอากระเป๋าของตัวเองแล้วเดินออกจากห้องไป ตวัดสายตามองเจ้าของหอที่เขาติดสินบนเรื่องเลขห้องพักจงแดกำชับให้ปิดปากให้สนิท
เว่ยเจียงพยักหน้า
มือรับเงินมาอีกหลายใบแล้วยิ้มกริ่ม นึกอิจฉาไอ้เด็กที่พักอยู่กับอี้ชิง
คราวก่อนโน้นก็รถโรงแรมกวง
คราวนี้ก็นักธุรกิจที่หล่อนเคยเห็นหน้าครั้งสองครั้งตามหนังสือพิมพ์
เงินเป็นฟ่อนๆขนาดนี้ ไอ้เด็กนี่คงสบายไปเป็นชาติ
ถ้าหล่อนไม่แก่และอ้วนแบบนี้คงอยากจะทำอาชีพแบบนั้นบ้าง
...ก็ถ้าเงินมันหามาง่ายๆแค่นอนบนเตียงแบบนั้น...
คนขาย
ปวดหัว...ปวดไปหมดทั้งตัว จงแดอยากร้องออกมาแต่ลำคอก็เจ็บร้าว
เปิดเปลือกตายากเหมือนมีอะไรมาถ่วงเอาไว้ รู้สึกจุกไปทั่วท้อง
กว่าจะลืมตาขึ้นได้ก็ใช้เวลาอยู่นาน พยายามรวบรวมสติของตัวเอง
เมื่อจำได้ว่าอะไรเกิดขึ้นกับตัวเองขอบตาก็ร้อนผ่าว
เขา...ถูกผู้ชายคนนั้นข่มขืน...
แม้จะไม่ได้สอดใส่เข้ามา
แต่เปี้ยนป๋ายเสียนก็ใช้กำลังจนสามารถสำเร็จความใคร่กับเขาได้
น้ำตารินไหลลงมา
ยิ่งมองเห็นของเล่นต่างๆที่อีกคนใช้มันกับเขา จงแดยิ่งสะอื้นหนัก
มือผอมปัดของพวกนั้นออกไปอย่างรังเกียจ เงินสดปึกหนึ่งกระจายอยู่บนตัวและที่นอน
ข้อความบนกระดาษโน้ตทำให้แน่ใจว่าที่เปี้ยนป๋ายเสียนทำร้ายเขาเพราะน้องเมียตัวเอง...
ผู้ชายคนนั้นบอกว่าดีโอเป็นของตน...
จงแดไม่รู้ว่าระหว่างป๋ายเสียนและดีโอเป็นยังไง
แต่เขาผิดอะไร...ผิดอะไรที่ขายบริการให้กับดีโอ...
เขาผิดอะไร ทำไม...ต้องทำร้ายเขา...
ที่น่าสมเพชไปกว่านั้นคือตัวของเขาเอง...
ตัวของจงแดเองที่มีอารมณ์ร่วมไปกับการกระทำที่ตัวเองพูดว่ามันคือการทำร้าย
มันคือการข่มขืน...
น่าทุเรศที่การข่มขืนในครั้งนี้มันเหมือนการสมยอมที่น่าสังเวช...
จงแดน่าสมเพช...
แกร็ก...
เสียงประตูห้องเปิดออกทำให้จงแดสะดุ้งเฮือก
มือคว้าเอาผ้าห่มมาปิดร่างกายอย่างอัตโนมัติ
ตระหนกใจที่ใครสักคนกำลังจะเปิดประตูเข้ามา น้ำตาหยุดไหลอัตโนมัติ
ในใจเต้นระรัวยามที่บานประตูนั้นเปิดออก ริมฝีปากซีดและแตกเผยออ้าออก
ระยะทางจากประตูถึงเตียงของอี้ชิงนั้นไม่ได้ห่างกันมาก
ภาพที่เห็นจากการมองอยู่ที่ประตูนั้นชัดเจนจนไม่ต้องอธิบายอะไร ทั้งสภาพเตียงที่ดูไม่ได้
คราบขาวที่เลอะเป็นดวง คนร่วมห้องที่เนื้อตัวเปล่าเปลือย
รวมถึงของเล่นในการร่วมรักสองสามชิ้น...
ที่เด็ดกว่านั้นคงเป็นธนบัตรที่โปรยอยู่บนตัวของเด็กหนุ่ม...
“...พี่...อี้ชิง”
เสียงของจงแดแทบฟังไม่ได้ยิน
พี่อี้ชิงยืนอยู่ตรงนั้น...ที่หน้าประตูห้อง...มองสภาพของจงแดที่ไม่เหลือชิ้นดี...
“...”มีเพียงความเงียบตอบกลับมา ครู่ใหญ่กว่าบานประตูห้องจะถูกปิดลงและจางอี้ชิงก้าวเท้าออกจากห้องไปพร้อมทิ้งท้ายด้วยถ้อยคำที่แสนเจ็บปวด
“...”
“...หวังว่ากลับมาจะไม่เห็นร่องรอยของลูกค้านายในห้องนี้นะคิมจงแด”
TBC.
#ขายตัวออลเฉิน
รักค่ะ
แมลงจี่
โอ๊ย พี่อี้คะ น้องไม่ได้อยากทำอย่างนั้นนะคะ ฮือ เราก็ไม่คิดป๋ายจะจิตขนาดนี้ สงสารจงแดจังเลย
ตอบลบสู้นะคุณแมลงจี่