วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

คนขาย - 8

ลูกค้าบางคนชอบให้แต่งตัว

บทที่8..

หลังจากวันที่ไคมาพบจงแดไม่นาน คนตัวผอมก็ได้รับการติดต่อจากคุณจุนมยอนอีกครั้งพร้อมบอกว่าตอนนี้ถึงจีนเรียบร้อยแล้ว และรู้เรื่องทุกอย่างจากไคแล้วเหมือนกัน จงแดไม่ได้ร้อนตัวไปแต่คิดว่าคงหมายถึงเรื่องที่เขาขายตัวและเรื่องที่ไคซื้อบริการเขาด้วย
จงแดออกอาบน้ำแต่งตัวใหม่หลังจากบริการแขกคนหนึ่งแล้ว ส่วนคนที่ซื้อบริการเขานั้นออกไปก่อนจงแดออกจากห้องน้ำไม่นาน สังเกตได้จากเสียงปิดเปิดของประตูห้อง เขาสวมกี่เพ้าลายโบตั๋นเข้ากับตัว ดีที่ร่องรอยที่ป๋ายเสียนเป็นคนสร้างเอาไว้มันจางหายสนิทแล้ว จงแดเลยไม่ต้องใช้แป้งรองพื้นให้รู้สึกเหนอะหนะผิวอีก
วันนี้มีแขกเข้ามาบางตา คงเพราะเป็นช่วงปลายเดือนด้วยกระมัง พี่อี้ชิงดีดกีต้าร์ให้นักร้องหญิงคนเดิมขับขานเสียงเพลงเพื่อบรรเลงให้แขกที่มาได้ฟัง จงแดเดินเข้าหลังร้าน หยิบโทรศัพท์มือถือในล็อกเกอร์มาเพื่อจะพิมพ์ข้อความแชทคุยกับแม่ตามปรกติ แปลกใจที่เห็นข้อความจากคุณจุนมยอนส่งมา มือผอมบางเลื่อนหน้าจอทัชสกรีนเพื่ออ่านข้อความ
-ผมมาที่ร้านแล้ว ถ้าสะดวกมาพบผมที่หลังร้านที่เดิม หรือถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรครับ-
ข้อความถูกส่งมาเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อน จงแดถามกับการ์ดว่าเห็นเซฮุนบ้างไหมก็ได้ความว่าเห็นลงมาจากห้องเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วและหายไปทางหลังร้าน คงไปสูบบุหรี่ที่ประจำ จงแดได้ยินแบบนั้นก็วางใจคิดว่าคุณจุนมยอนคงได้พบกับเซฮุนแน่ๆ เขาคงช่วยชายหนุ่มได้เท่านี้ ส่วนเรื่องเซฮุนจะกลับไปกับพี่ชายไหมนั่นคงเป็นเรื่องของพี่น้องที่ต้องพูดคุยกันเอง
จงแดตอบข้อความของจุนมยอนว่าไม่สะดวกออกไปหา แต่ขอให้โน้มน้าวเซฮุนกลับเกาหลีสำเร็จ เขาพิมพ์ข้อความหาแม่ สนทนากันไม่กี่ประโยคก็เลิกเพราะที่เกาหลีดึกแล้ว พรุ่งนี้แม่ต้องไปส่งยัยจูจินแต่เช้า ตอนนี้ที่บ้านบ้านหลังใหม่เริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น พอมีพื้นที่เล็กน้อยให้ปลูกผักสวนครัวเอาไว้ทำอาหารกินด้วย แล้วยังมีชิงช้าไม้ผูกกับขื่อหน้าบ้านให้จูจินนั่งเล่นอีกต่างหาก
-รีบกลับมาได้แล้วนะจงแด มาแกว่งชิงช้าให้น้องหน่อย แม่เหนื่อย-
จงแดยิ้มกับข้อความของแม่ ส่งกลับไปว่ารออีกไม่นาน ไม่นานจริงๆ...

“จงต้า อยู่พอดี มาช่วยพี่ถือของหน่อยสิ”เหมยลี่อินเรียกคนตัวผอม จับมือจงแดลากไปด้านหลังร้าน ถามว่าให้ถืออะไรพี่สาวคนสวยของจงแดก็ยิ้มกริ่ม ชี้นิ้วไปที่รถมอเตอร์ไซค์แปะชื่อร้านพิซซ่าซึ่งจอดอยู่บริเวณที่จอดรถหลังร้าน หญิงสาวยิ้มกว้างรีบตรงไปหาแล้วรับกล่องพิซซ่าขนาดใหญ่มาถือ บอกให้จงแดหิ้วถุงใส่ปีกไก่กับพวกพาสต้ามา จงแดทำหน้าเหรอแต่ก็ยอมรับถุงจากพนักงานส่งพิซซ่ามาถือไว้
“พิซซ่า พิซซ่า พิซซ่า”เสียงหวานฮัมคำว่าพิซซ่าเป็นเพลงแล้วเดินเข้าประตูด้านหลังร้านไป จงแดยิ้มให้พนักงานส่งพิซซ่าก่อนจะเดินตามพี่ลี่อินเข้าร้าน

“ปล่อยกู!!”ยังไม่ทันได้ถึงประตู เสียงตวาดลั่นก็ดังขึ้น พี่ลี่อินเข้าร้านไปก่อนหน้าแล้วแต่จงแดยังไม่ได้เข้า เขาหันมองต้นเสียงทันทีด้วยความตกใจปนสงสัย แล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่าอาจจะเป็นคุณจุนมยอนที่มาหาเซฮุนวันนี้ เสียงนั้นก็คล้ายเซฮุนมาก คนตัวผอมเดินไปทางต้นเสียงที่ได้ยินเมื่อครู่ แม้จะบอกว่าเป็นเรื่องครอบครัว แต่ฟังจากเสียงเซฮุนแล้วคงทะเลาะกันแรงแน่ๆ เขาเป็นห่วงขึ้นมา
“คุณพ่อท่านป่วยมาก อยากเจอครอบครัวพร้อมหน้าอีกครั้งเท่านั้นเอง”เมื่อขยับเข้าใกล้ก็ยิ่งได้ยินเสียงชัดเจน เสียงของจุนมยอนดูสุขุมและใจเย็นแต่คนเป็นน้องชายกลับตวาดกลับว่าเป็นตายยังไงก็ไม่กลับไป ไคยืนอยู่ไม่ไกลพยายามจะจับแขนเซฮุนให้ใจเย็นลงแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะทั้งคู่เจ้านายลูกน้องถูกไล่ตะเพิดให้กลับอย่างไม่ไยดี พร้อมประกาศว่าถ้ายังไม่กลับไปจะเรียกการ์ดมาจัดการ
จงแดเห็นไคพาจุนมยอนขึ้นรถไปโดยที่คุณจุนมยอนย้ำกับน้องชายต่างแม่อีกครั้งว่าถ้าหากเปลี่ยนใจจะกลับเกาหลีไปหาบิดาสักครั้งก็ให้ติดต่อไปทางโรงแรมกวง หรือเบอร์มือถือเดิมของจุนมยอน
“ไม่จำเป็น”เซฮุนพูด เห็นสีหน้าเหนื่อยใจของจุนมยอนก่อนจะถูกไคดันให้เข้าไปในรถ เซฮุนยืนนิ่งจนรถเช่าโรงแรมกวงจากไป จงแดถอดหายใจออกมา เขารู้สึกได้ถึงสิ่งที่จุนมยอนรู้สึก คงจะหนักและเหนื่อยใจเอามากๆ เซฮุนก็ใจแข็งน่าดู ไม่คิดจะกลับไปหาพ่อทั้งที่อีกคนป่วยอยู่แท้ๆ
หากวันหนึ่งที่ท่านจากไป เซฮุนอาจจะต้องกลับมานั่งเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเองก็ได้...
จงแดยกถุงร้านพิซซ่าขึ้นดู ลืมพี่ลี่อินไปเสียสนิท ป่านนี้คงสงสัยแล้วว่าเขาหายไปไหน หมุนตัวเดินกลับไปในร้านทว่ากลับมีมือมาจับแขนเอาไว้ จงแดตกใจหันกลับไปมองอย่างรวดเร็ว
“เซฮุน”เรียกชื่ออีกคนเสียงเบา ไม่คิดว่าเซฮุนจะเห็นเขาได้เพราะตอนมองเซฮุนและจุนมยอนคุยกัน จงแดก็ไม่ได้แสดงตัวออกไป ทั้งยังยืนอยู่ตรงที่ลับสายตาของทั้งคู่แล้วแท้ๆ
“มาเสือกอะไรตรงนี้อีก”เสียงของเซฮุนแข็งกร้าวไม่พอใจ แรงที่จับแขนเอาไว้ก็ลงมาหนักหน่วง จงแดเบ้หน้าเพราะรู้สึกเจ็บ ปฏิเสธว่าไม่ได้มายุ่งอะไร แค่ออกมาเอาพิซซ่ากับพี่ลี่อินแล้วบังเอิญได้ยินเสียงคนทะเลาะกันเลยมาดูเท่านั้น
“แล้วมันต่างจากเสือกตรงไหน มึงมาดูก็เท่ากับมึงยุ่งเรื่องคนอื่นอยู่ดี”เซฮุนยิ้มเยาะ สะบัดแขนคนตัวเล็กกว่าออก แรงสะบัดทำให้พาสต้าในกล่องอุ่นอาหารถูกเหวี่ยงออกมากองในถุงหูหิ้ว จงแดพูดขอโทษ คราวหลังจะไม่ทำอีก เซฮุนหัวเราะในลำคอ บอกว่าให้ทำได้อย่างที่พูดก็แล้วกัน เพราะจากที่เห็นจงแดก็เข้ามายุ่งเรื่องของตนเองมากเกินไปแล้ว ทั้งเรื่องบ้าน และเรื่องจื่อเทา

“มีอะไรกัน...”ความรู้สึกน่าอึดอัดที่เริ่มก่อตัวขึ้นถูกขัดด้วยเสียงทุ้มต่ำที่จงแดคุ้นเคยดี จื่อเทาเดินหน้านิ่วตรงเข้ามาหา ในมือมีกุญแจรถ คงจะออกมาทำอะไรสักอย่างที่รถตัวเอง แต่เห็นเซฮุนยืนอยู่กับจงแดเสียก่อน คนเป็นพี่ดึงให้จงแดออกห่างจากเซฮุน ยกแขนขึ้นดูแล้วสบถกับรอยบีบที่พาดอยู่รอบแขน ถามว่าใครเป็นคนทำแต่สายตาปรายไปหาเซฮุนอย่างตัดสินได้อยู่แล้ว
“พี่จื่อเทาอย่า!!”จงแดห้ามเสียงหลง จื่อเทาตรงรี่เข้าหาเซฮุน จับคอเสื้อกระชากเข้ามาประชิด มืออีกข้างยกประเคนหมัดใส่สันกรามได้รูป จงแดทิ้งถุงของร้านพิซซ่าผวาตามรั้งเอาไว้ไม่ทัน ได้แต่พยายามดึงจื่อเทาให้ออกห่างเซฮุนที่ล้มลงไปกองกับพื้น คนถูกต่อยแตะมุมปาก เลือดซึมเพราะเผลอกัดกระพุ้งแก้มตอนถูกหมัดกระแทกเข้ามาเต็มแรง กลิ่นคาวคลุ้งอยู่ในปากจนต้องถ่มมันทิ้งไปพร้อมกับน้ำลาย เซฮุนร้องเหอะออกมา
ทว่าฉับพลันก็คลี่ยิ้ม...
“มึงชอบมันสินะ...”เดาได้จากท่าทีของจื่อเทาที่ชกเขาทันทีที่รู้ว่าเขาทำจงแดเจ็บตัว คราวที่แล้วก็หาเรื่องเขาเพราะแค่เขาเสนอให้จงแดใส่กี่เพ้า ลอกนึกย้อนไปอีกก็ดูจื่อเทาจะเดือดเนื้อร้อนใจกับเด็กคนนี้ในหลายๆเรื่อง คงไม่ได้เอ็นดูแค่น้องชายแล้วกระมัง จื่อเทากัดฟันกรอดจะเข้าไปประเคนหมัดใส่คนพูดอีกครั้งติดที่จงแดดึงรั้งเอาไว้
“อย่าครับพี่จื่อเทา คุณเซฮุนกลับเข้าไปด้านในเถอะครับ...เร็วๆสิ”จงแดบอกคนที่ยังนั่งกองอยู่ที่พื้น เห็นเลือดเปรอะที่มุมปากของอีกคน หมัดของจื่อเทาคงหนักไม่เบา ถ้าโดนอีกสักครั้งสองครั้งมีหวังหน้าคงแตกยับแน่ๆ เซฮุนประคองตัวลุกขึ้นยืน มือข้างหนึ่งคงครูดพื้นตอนล้มลงไปเลยเป็นแผลถลอกเลือดซิบ ส่งสายตารู้ทันให้จื่อเทาได้โมโหหัวเสียและยังทิ้งท้ายเอาไว้แบบที่จื่อเทาอยากจะตบปากบางๆนั้นให้เลือดท่วม
“วันหลังไม่ใช่แค่รอยบีบหรอก อาจจะเป็นรอยอื่นที่มึงจะโมโหมากกว่านี้อีก”จื่อเทาคำรามในคอ บอกให้จงแดปล่อยตัวเอง วันนี้คงได้ฆ่าคนปากดีให้ตายคามือ
“อย่าพี่เทา อย่าทำอะไรคุณเซฮุนอีก”จงแดห้าม เหมือนจะดึงอีกคนไว้ไม่อยู่ จื่อเทาถลันจะตามไปหาเรื่องเซฮุนอีกแม้ร่างสูงโปร่งจะเข้าหลังร้านไปเรียบร้อยแล้ว คนตัวผอมสอดแขนเข้าสวมกอดจื่อเทาจากด้านหลัง รอให้แน่ใจว่าเซฮุนกลับเข้าร้านและขึ้นไปบนห้องตนเองเรียบร้อยแล้วถึงคลายแรงรัดจื่อเทาออก
สีหน้าของคนเป็นพี่มีแต่ความหงุดหงิดในใจ ถามว่าทำไมจงแดต้องห้ามด้วย ทั้งที่เซฮุนทำคนตัวผอมเจ็บ ยกแขนน้องขึ้นดู ยิ่งเห็นรอยมือเริ่มคล้ำเป็นจ้ำสีม่วงยิ่งโมโหมากไปอีก
“ไม่เป็นไรครับ ผมหาเรื่องเอง เซฮุนไม่ผิดหรอก”จงแดผิดเองที่ยุ่งเรื่องของเซฮุน แม้มันจะมาจากความหวังดีก็ตาม แต่ถึงพูดแบบนั้นสีหน้าของจื่อเทาก็ไม่คลายอารมณ์กรุ่นโกรธลงสักนิด จนจงแดนึกกลัวขึ้นมา...กลัวว่าจื่อเทาจะตามไปทำร้ายเซฮุนอีก ไม่ว่าจะทำร้ายร่างกาย...หรือทำแบบวันนั้นที่จงแดเห็น
จื่อเทาและเซฮุนไม่ได้ลงรอยกัน จงแดสังเกตได้ และเซ็กส์วันนั้นที่เขาเห็น...แน่นอนมันคงไม่ได้เกิดจากการสมยอมอย่างแน่นอน
การถูกข่มขืน มันเลวร้ายมากที่สุดในชีวิตของคนๆหนึ่ง โดยเฉพาะคนที่เป็นผู้ชาย จงแดไม่เคยลืมเรื่องป๋ายเสียน เขายังผวาทุกครั้งที่นึกถึงมัน เพียงแค่ต้องทำเป็นลืมและใช้ชีวิตอย่างเดิมให้ได้ ร่ำร้องอุทธรณ์ไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร มันเสียเปล่า
เซฮุนเองก็คงเหมือนกัน...
“พี่เทาอย่าทำอะไรเขานะครับ...อย่าทำ”จับแขนจื่อเทาแล้วบีบอย่างขอร้อง จื่อเทามองหน้าจงแดด้วยความสงสัย ถามว่าที่พูดหมายความว่าอะไร คิดว่าเขาจะทำอะไรเซฮุน จงแดอึกอัก ไม่กล้าบอกว่าตนเองรู้เรื่องระหว่างจื่อเทาและเซฮุนแล้ว
“โอ้ยจงต้า อยู่นี่นี่เอง พี่รอตั้งนานจนต้องออกมาตาม”เสียงของเหมยลี่อินมาคั่นเวลาได้พอดี หญิงสาวถามว่ามายืนทำอะไรตรงนี้ แต่พอเห็นถุงใส่พาสต้าและไก่ปีกไก่คว่ำเละไม่เป็นท่าก็ร้องลั่น ถามว่าเกิดอะไรขึ้น จงแดรีบขอโทษขอโพยว่าไม่ทันระวังมันเลยหลุดมือร่วง เด็กหนุ่มชักชวนลี่อินกลับเข้าร้านบอกว่าจะชดใช้ค่าเสียหายให้เอง สบสายตากับจื่อเทาครั้งหนึ่ง คนอายุมากกว่ามองมาอย่างจับผิดทำให้จงแดต้องหลบตาวูบ


คนขาย


จื่อเทากัดปากอย่างครุ่นคิด เขาตะขิดตะขวงใจกับคำพูดของจงแด ที่เหมือนจงแดรู้อะไร...
ไม่น่ะ...
จงแดจะรู้ได้ยังไง เรื่องของเขากับโอเซฮุนไม่มีใครรู้นอกจากตัวเขา มัน และมาม่าซัง...แม้แต่คนในร้านก็ไม่มีใครได้รู้ทั้งนั้น จื่อเทากุมขมับ เขาเข้าใจดีว่าความลับไม่มีในโลก มันต้องมีสักครั้งที่ต้องมีคนเห็นว่าเขาทำอะไรเซฮุน อดคิดไม่ได้ว่าหนึ่งในนั้นจะเป็นจงแด
“มึงทำหน้าเหมือนปวดขี้”อี้ชิงทักคนที่หน้านิ่วคิ้วขมวด จื่อเทาส่ายหัวบอกไม่ได้เป็นอะไร แค่เผลอคิดอะไรนิดหน่อยเท่านั้น เห็นอี้ชิงเก็บกีต้าร์ลงซองเลยถามว่าพรุ่งนี้ลาเหรอ เพราะปรกติจะวางกีต้าร์ไว้บนขาตั้ง ถ้าหากหยุดอี้ชิงจะเก็บใส่ซอง เข็ดแล้วกับเวลามีคนเอาไปเล่นแล้วเสียงเพี้ยนหรือสายขาด
“เออ กูมีพรีเซ้นต์โปรเจ็คพอดี อาจจะมาส่งจงแดไม่ได้ มึงไปรับเด็กนั่นที่หอกูทีด้วยได้ไหม?”อี้ชิงถาม เพราะนักศึกษาปริญญาตรีมีเยอะมาก และเรียงคิวการนำเสนอโปรเจ็คแล้วเขาได้คิวที่สี่โมงครึ่งนู่น กว่าจะรอคนอื่นนำเสนอเสร็จและจบการนำเสนอของทุกกลุ่มก็ราวๆหกโมงครึ่ง หลังเสร็จการนำเสนออาจารย์ก็จะพาไปสังสรรค์ต่อ ซึ่งคงมาส่งจงแดไม่ทัน
จื่อเทาบอกว่ายังไงก็ได้ ยังไงก็เอ็นดูจงแดเหมือนน้องคนหนึ่ง อี้ชิงบอกขอบใจก่อนจะเห็นจงแดเดินเข้ามาหาพร้อมชวนกลับบ้าน จงแดไม่ได้มองมาทางจื่อเทาทั้งที่ชายหนุ่มจ้องมองคนที่เด็กกว่า การหลบสายตานี้ย้ำจื่อเทาว่าจงแดต้องรู้เรื่องอะไรสักอย่างที่ไม่พ้นเรื่องของเขากับเซฮุน

“พรุ่งนี้ไอ้เทาจะมารับนายไปทำงานนะ ฉันติดเรื่องโปรเจ็คคงกลับมาไม่ทัน”อี้ชิงบอกอีกคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามของโต๊ะร้านข้าวต้ม จงแดเงยหน้าจากชามข้าวมามอง บอกว่าไม่เป็นไรก็ได้ เขาไปเองได้ ที่จริงยังคงไม่อยากเข้าหน้าจื่อเทากลัวคนพี่จะรู้ว่าเขาล่วงรู้อะไร แต่พอเห็นสายตานิ่งๆของอี้ชิงแล้วจงแดก็ได้แต่เก็บปากเงียบเหมือนเคย ไม่กล้าจะแย้งอะไรต่อ
กินข้าวเสร็จอี้ชิงก็พากลับมาหอเหมือนปรกติ จงแดให้อี้ชิงใช้ห้องน้ำก่อนโดยที่เขาเอาบัญชีเงินฝากออกมาเช็ค ช่วงนี้เขาเช็คบัญชีบ่อย นั่งคำนวณจำนวนเงินและวันเวลาที่จะใช้ในประเทศจีนนับจากวันนี้ว่าควรไปสิ้นสุดวันไหน เขามีแผนแน่วแน่ในหัวว่าจะกลับเกาหลี เมื่อี้ชิงออกจากห้องน้ำจึงจำต้องเก็บสมุดบัญชีเงินฝากแล้วไปทำภารกิจส่วนตัวบ้าง ออกมาอีกทีอี้ชิงก็ชิงนอนหลับไปแล้วเพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นไปมหาวิทยาลัยแต่เช้า
จงแดเดินไปหยิบขนมที่ซื้อมาไว้กินชิ้นหนึ่ง อดยิ้มออกมาไม่ได้ที่จำนวนขมในห่อนั้นลดไปหนึ่งชิ้น และห่อย่อยของขนมชิ้นนั้นอยู่ในถังขยะ คนที่กินไปคงไม่ใช่ใครนอกจากคนที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียงของตัวเอง
...แค่นี้ในใจของจงแดฟูฟ่องขึ้นมาไม่มีสาเหตุ...

ตื่นเช้ามาคนที่นอนบนเตียงก็ลุกออกไปแล้ว จงแดบิดตัวเล็กน้อย มองนาฬิกาพบว่าเป็นเขาเองที่ตื่นสายกว่าปรกติ จงแดเก็บที่นอนให้เรียบร้อยแล้วล้างหน้าแปรงฟัน เก็บเสื้อผ้าที่เริ่มเต็มตะกร้ามาซัก ทั้งของตนเองและของคนร่วมห้องด้วย เสร็จอีกทีก็เกือบสิบเอ็ดโมงแล้ว แดดกำลังดี ไม่ถึงเย็บก็น่าจะแห้งสนิท แม่ส่งข้อความมาว่าวันนี้ที่โรงเรียนจูจินจัดงานและยัยตัวเล็กได้เต้นบัลเล่ต์เปิดงานกับกลุ่มเพื่อน บ่นว่าต้องซื้อชุดด้วยถึงจะสามารถขึ้นแสดงได้ ทางโรงเรียนเหนียวงบประมาณเกินไปเสียแล้ว จงแดยิ้มกับเด็กหญิงจูจินในชุดบัลเล่ต์สีชมพูฟูฟ่อง เท้าเล็กๆนั้นสวมรองเท้าบัลเล่ต์คู่ใหม่ บนหัวก็มีอะไรสักอย่างประดับอยู่ มองแล้วเหมือนนางฟ้าตัวน้อยๆไม่มีเพี้ยนผิด
-มีหนุ่มมาจีบยัยจูจินเราด้วยนะ เสน่ห์แรงเหมือนใครก็ไม่รู้สิ-
จงแดอ่านข้อความนั้นแล้วหัวเราะ ก็คงจะเหมือนแม่น่ะสิ จะเหมือนใครได้ จงแดเคยเห้นรูปแม่ตอนเป็นสาว หล่อนสวยสะพรั่งเชียวล่ะ แม้จะอายุเพิ่มขึ้นมากแต่ตอนนี้แม่ของจงแดก็ยังสวยอยู่ดี ริ้วรอยเหี่ยวย่นของคนกรำงานหนักไม่ได้ทำให้แม่สวยน้อยลงในสายตาของจงแดเลยสักนิด

จื่อเทามารับจงแดไปทำงานจริงๆอย่างที่พี่อี้ชิงบอกเอาไว้ จงแดแปลกใจที่ชายหนุ่มมาก่อนเวลาเกือบชั่วโมง เขายังไม่ได้เตรียมตัวเลยด้วยซ้ำ จงแดให้อีกคนเข้ามานั่งรอก่อนส่วนตนเองยังคงพับผ้าที่แห้งสนิทแยกเป็นกองๆเอาไว้
“ซักผ้าให้ไอ้อี้มันด้วยเหรอ?”จื่อเทาถามเมื่อเห็นว่าจงแดพับเสื้อของอี้ชิงแยกเอาไว้ จงแดตอบว่าใช่ พี่อี้ชิงยุ่งๆเขาอยู่ที่ห้องเฉยๆ ช่วยอะไรได้ก็ช่วยไป ได้ยินแบบนั้นคนแก่กว่าก็หัวเราะ ถามว่าไม่รู้สึกแปลกๆบ้างหรือไง จงแดเอียงคอสงสัย ไม่เห็นจะรู้สึกแปลกตรงไหนกับการซักผ้าให้กัน ตอนเด็กๆเขาก็ช่วยแม่ทำทุกอย่าง แม้แต่ซักชุดชั้นในของแม่เพราะรู้ว่าแม่เหนื่อยจากการทำงาน คิดแค่เขาต้องแบ่งเบาภาระท่านก็เท่านั้น
“มันไม่เหมือนผัวเมียเหรอ?”จื่อเทาถาม จงแดอ้าปากตกใจ ก็แค่การซักผ้าให้กันเท่านั้นมันบอกตรงไหนว่าเป็นการกระทำที่ผัวเมียพึงทำ จื่อเทายักไหล่บอกก็ไม่รู้สิ แค่รู้สึกก็เท่านั้น
“จงแด...”
“ครับ...”
“...”
จงแดเงยหน้ามองจื่อเทาที่เรียกชื่อเขาแล้วเงียบไป ถามว่ามีอะไรหรือเปล่า จื่อเทาถอนหายใจออกมา ถามว่าจำได้ไหมว่าเมื่อวานเราทั้งคู่คุยกันค้างบางเรื่องเอาไว้ จื่อเทาไม่ได้อ้อมค้อม เขาถามคนอ่อนกว่าว่ารู้อะไรเกี่ยวกับตัวเขาและเซฮุนใช่ไหม
คำถามตรงๆทำให้จงแดสะอึกไปเล็กน้อย จะปฏิเสธแต่สายตาที่จื่อเทามองมามันคาดคั้นและเต็มไปด้วยความรู้ทันทุกอย่าง จงแดเสหลบสายตาจื่อเทาแล้วบอกว่าใช่อย่างเลี่ยงไม่ได้ เท่านั้นเองจื่อเทาก็ถอดหายใจออกมา ถามว่ารู้มากแค่ไหน และรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ จงแดจำต้องบอกทุกอย่างตั้งแต่วันที่เขาบังเอิญเห็นจื่อเทาและเซฮุนมีเซ็กส์กันที่ที่จอดรถหลังร้าน
“วันนั้นสินะที่นายแปลกๆไป”จื่อเทาถามถึงวันที่เขาเองก็สงสัยว่าจงแดเป็นอะไร เพราะอีกคนหลีกเลี่ยงเขา จงแดพยักหน้าบอกว่าใช่
“พี่รู้สึกยังไงกับคุณเซฮุนอย่างนั้นเหรอครับ?”จงแดถาม แน่นอนว่าคำตอบมันก็คือไม่ได้รู้สึกอะไรทั้งนั้นนอกจากรังเกียจ จื่อเทาร้องเหอะ บอกให้จงแดรู้ว่าคนอย่างโอเซฮุนมันไม่ได้ดีเด่อะไร ก็แค่เด็กหนีออกจากบ้านมาหางานทำที่จีน แล้วสุดท้ายก็กลายเป็นแมงดา
“ผมรู้...”อาจจะรู้มากกว่าที่จื่อเทารู้เสียด้วยซ้ำ ถามว่าจื่อเทารู้บ้างไหมว่าทำไมเซฮุนถึงต้องหนีออกมาจากบ้าน คนตัวสูงส่ายหัวบอกไม่จำเป็นต้องรู้เสียนิดเดียวว่าเหตุผลอะไร ใจแตกล่ะมั้ง คนอย่างจื่อเทาไม่เคยมองเซฮุนในแง่ดีอยู่แล้ว ไม่ใจแตกมันคงไม่เสพยาหรอก
“เลิกพูดถึงมันเถอะ แล้วเรื่องที่นายรู้ก็อย่าไปบอกใครก็แล้วกัน ถือว่าพี่ขอร้อง”จื่อเทาตัดบท บอกให้จงแดเตรียมไปทำงานดีกว่า นั่งคุยกันจนเลยเวลาไปมากแล้ว จงแดยกกองผ้าของอี้ชิงขึ้นวางบนเตียงของเจ้าตัว ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดตัวเตรียมจะเข้าห้องน้ำ แต่สุดท้ายก็หยุดแล้วหันกลับมาหาจื่อเทาอีกครั้ง
“พี่จื่อเทาอย่าทำเรื่องแบบนั้นกับคุณเซฮุนอีกเลยนะครับ”เสียงแหลมเอ่ยบอก
“...”
“พี่นึกไม่ออกหรอกครับว่าคนที่ถูกข่มขืนที่จริงรู้สึกยังไง”
“...”
“ผมขอร้อง...”

คนขาย


 จื่อเทายืนพิงหลังกับเค้าเตอร์ มือถือแก้วเหล้าที่ให้บาร์เทนเดอร์ชงให้ มองใครบางคนที่กำลังนั่งอยู่ในวงล้อมของแขกเกือบสิบคน มีเสียงแหลมๆของเจียนจี้ฟางดังขึ้นเป็นระยะระยะ สีหน้าของโอเซฮุนเบื่อหน่ายเต็มทีที่ต้องนั่งฟังคนพวกนี้พูดพล่ามไปเรื่อยแต่ก็ต้องทนเพราะจี้ฟางขอเอาไว้ คนพวกนี้จะมาร่วมลงทุนขยายร้าน หล่อนเลยอยากให้เซฮุนมาร่วมพูดคุยด้วย
“แหม คุณซื่อชุนนี่จะว่าไปก็หน้าตาดีนะครับ ถึงว่ามาม่าซังถึงได้หลงนักหลงหนา”เสียงใครคนหนึ่งพูดขึ้นมา จื่อเทากระตุกมุมปาก ก็เพราะหน้าตามันนี่ไงถึงเป็นแมงดาเกาะน่าสาวเขาได้ ดวงตาเรียวรีหรี่ลงเมื่อคนที่พูดเมื่อครู่วางมือลงบนไหล่ลาด เซฮุนขมวดคิ้วไม่พอใจเช่นกัน มือเรียวปัดมืออีกคนออกขอตัวไปเข้าห้องน้ำสักครู่
“แหม ผมก็ปวดฉี่พอดี พาผมไปห้องน้ำด้วยสิครับ”ไอ้ห่ารากคนนั้นมันยังไม่หยุดกะลิ้มกะเหลี่ย จี้ฟางมองสถานการณ์ตรงหน้า บอกว่าเซฮุนจะไปเข้าห้องน้ำที่ห้องส่วนห้องน้ำแขกอยู่อีกทาง
“ให้คนของร้านพาไปก็ได้ค่ะ แกมาพาคุณเขาไปห้องน้ำสิเทา”จี้ฟางรีบกวักมือเรียกจื่อเทา จืบมือเซฮุนเบาๆบอกให้กลับห้องไปก่อนก็ได้ เข้าใจว่าอีกคนไม่ชอบที่มีผู้ชายมาทำแบบนี้ใส่ จื่อเทากระแทกแก้วลงกับเค้าเตอร์ เดินนำไปยังห้องน้ำ เหมือนแขกคนนั้นจะถอยไม่ได้จำเป็นต้องเดินตามจื่อเทาไปยังห้องน้ำ
“อ้าว เสร็จแล้วเหรอ?”จื่อเทาร้องทักจงแด เขาชี้ไปยังห้องน้ำแล้วให้แขกของมาม่าซังเดินไปเข้าเอง เห็นแววตาพราวระยับของแขกคนสำคัญมองมาที่จงแดคนอายุมากกว่าเลยดึงให้น้องออกมาห่าง ไม่ชอบใจไอ้ห่าแขกของมาม่าซังคนนี้เลยจริงๆ
“แขกแคนเซิลน่ะครับ แล้วคนนั้นใครเหรอ?”จงแดตอบ วันนี้อยู่ดีๆแขกก็ยกเลิกคิวจงแด เท่ากับว่าเขามาได้เงินฟรีๆ เพราะถ้าแขกเป็นคนยกเลิกเองมาม่าซังจะไม่คืนเงินให้เด็ดขาด พี่ชิงชิงกับพี่ลี่อินถามว่าจะรับแขกคนอื่นไหม พวกเธอหาแขกให้ได้นอกเหนือจากลิสต์ของมาม่าซัง แต่จงแดปฏิเสธ ได้พักบ้างก็ดี แล้วจงแดก็ไม่อยากรับงานอื่นนอกเหนือจากที่มาม่าซังหาให้ เพราะพี่อี้ชิงเคยพูดเอาไว้แล้ว
“แขกม่าน่ะ จะมาลงทุนขยายร้าน”จื่อเทาพูด บอกว่าจงแดไม่มีงานแล้วงั้นก็กลับหอได้เลยน่ะสิ เดี๋ยวเขาจะเป็นคนไปส่งจงแดที่หอเอง
“แค่สามทุ่มเอง ผมกลับเองได้ครับ พี่จื่อเทาอยู่ทำงานเถอะ เดี๋ยวมาม่าซังจะหาว่าอู้”จงแดปฏิเสธ บอกว่าเดี๋ยวหาอะไรกินแล้วก็จะโบกแท็กซี่กลับเอง
“ไม่ต้องเลย ให้พี่ไปส่งนั่นล่ะ ไอ้อี้รู้ว่านายกลับแท็กซี่คงมาด่าพี่หัวเปิดกันพอดี ไปเลยเดี๋ยวพี่เลี้ยงข้าวด้วย”เขาบอก ให้จงแดไปหยิบของในล็อกเกอร์มา คนตัวผอมขอเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน
“ไม่ต้องเปลี่ยนหรอก ชุดนี้ก็ได้”จื่อเทาบอก มองอีกคนหัวจรดเท้า วันนี้จงแดใส่กี่เพ้าสีแดงสดรูปทรงรัดรูปเหมือนของผู้หญิง ความยาวถึงเท้าแต่ไม่ได้ผ่าข้างขึ้นมา ไม่ได้ปักดิ้นทองหากแต่เนื้อผ้าเป็นลวดลายลูกไม้ถัก แขนเสื้อสั้นกว่าตัวที่เคยใส่ทั้งหมด ด้านหลังเปลือยเล็กน้อยโชว์เนื้อผิวสีขาวเป็นชุดที่ทางแขกที่จองตัวนั้นซื้อมาให้โดยเฉพาะ ข้อตกลงคือทั้งยกชุดให้และเพิ่มเงินให้อีกจำนวนหนึ่ง จงแดเลยรับเงื่อนไขนี้เพราะแค่แต่งตัวตามที่แขกบอกก็ได้เงินเพิ่มแล้ว สุดท้ายแขกคนนั้นก็ยกเลิกคิวไป
“จะดีเหรอครับ มันเป็นชุดผู้หญิง แล้ว...”
“เถอะน่า ไปเร็วพี่หิวข้าวว่ะ”จื่อเทาไม่สนใจที่คนเด็กกว่าแย้ง เขาดึงจงแดไปยังล็อกเกอร์ให้อีกคนหยิบของแล้วออกจากร้าน ไม่ลืมบอกการ์ดคนหนึ่งเอาไว้ว่าถ้ามาม่าซังถามหาตัวเองให้บอกว่าไปส่งจงแดที่บ้านเพราะเด็กนี่ไม่มีงานแล้ว
จงแดลูบแขนตัวเองเมื่อขึ้นนั่งบนรถของจื่อเทา เพราะไม่เคยใส่เสื้อแขนสั้นขนาดนี้ทั้งยังเป็นลายลูกไม้ อากาศวันนี้เลยดูจะหนาวไปสำหรับจงแด จื่อเทาเอื้อมหยิบเสื้อแจ๊กเก็ตหลังรถแล้วบอกให้จงแดใส่เอาไว้ แม้จะเสียดายที่แขนเสื้อของแจ๊คเก็ตนั้นทับปิดลายลูกไม้ของชุดจนมิดชิดก็ตาม
ก็ยอมรับล่ะว่าจงแดในชุดนี้ดูดีทีเดียว จื่อเทาเคยพูดเอาไว้แล้วว่าหากจงแดอยู่ในชุดกี่เพ้าสีแดงตัดกับสีเนื้อขาวๆมันคงน่าดูไม่น้อย แต่ไม่คิดว่าถ้าหากเป็นกี่เพ้าแบบผู้หญิงมันจะดูดีขนาดนี้ แม้หน้าอกจะแบนราบเรียบแต่ทรวดทรวงองค์เอวที่โค้งเว้าไปตามการตัดเย็บของชุดนั้นน่ามองกว่าผู้หญิงบางคนเสียอีก
ที่ไม่ให้ถอดออกก็พูดได้ว่าเพราะเขาชอบมัน...
“มันไม่แพงไปเหรอครับ”จงแดท้วงทันทีที่เห็นจื่อเทาเลี้ยวเข้าร้านอาหารมีชื่อระหว่างทางกลับหอ ที่จอดรถมีแต่รถหรูๆจอดกันทั้งนั้น จื่อเทาเปลี่ยนเสื้อจากเสื้อพนักงานบ้านดอกเหมยเป็นเสื้อกล้ามที่พกติดรถไว้ สวมทับด้วยแจ๊กเก็ตที่จงแดถอดส่งคืน เขาบอกให้จงแดลงมาเถอะ เขาพามาเลี้ยงไม่ได้ให้จงแดจ่ายเองเสียหน่อยแต่น้องก็ยังคงอิดออด มองเข้าไปในร้านมีคนเยอะแยะแต่จงแดกำลังแต่งตัวด้วยชุดกี่เพ้าสีแดงสด ที่สำคัญมันเป้นของผู้หญิง
“นายก็คล้ายผู้หญิงนี่ หน้าก็แต่ง ผมก็ยาวแถมจัดทรงมา มาเป็นคู่ควงกินข้าวกับพี่สักวันเหอะ”เขาบอก เห็นจงแดหน้ายุ่ง นึกไม่ชอบใจเสียแล้วที่แขกวันนี้ให้แต่งชุดผู้หญิงซ้ำพี่ลี่อินยังแต่งหน้าจัดผมให้ด้วย ส่งสายตาบอกจื่อเทาว่าเขาไม่อยากเข้าไปในร้านจริงๆแต่เหมือนอีกคนจะไม่เห็นใจกันสักนิด ร่างสูงโปร่งอ้อมมาเปิดประตูแล้วดึงให้จงแดออกมาจากรถจนสำเร็จก่อนจะลากกันหลุนๆโดยที่ไม่ทันจะตั้งตัว
บริกรมาโค้งต้อนรับ จงแดได้แต่โค้งกลับงกๆเงิ่นๆ ถูกจื่อเทาดึงไปนั่งที่โต๊ะตัวหนึ่ง ความยาวของกี่เพ้าทำให้ทำอะไรลำบากไปหมด ใบหน้าขาวซับซีแดงจางๆเมื่อบริกรคนดังกล่าวเลื่อนเก้าอี้ให้เขาเหมือนทำกับสุภาพสตรี
“เห็นไหมล่ะ มีคนเชื่อว่านายเป็นผู้หญิงด้วยนะ”จื่อเทาขำแต่จงแดไม่ขำด้วย มองไปรอบร้านอย่างตื่นเต้นเพราะไม่เคยกินอาหารในร้านแบบนี้มาก่อน จื่อเทาถามว่าจงแดอยากกินอะไรคนตัวผอมก็ยกหน้าที่เลือกเมนูให้จื่อเทาทั้งหมดเลยเพราะไม่เคยสั่งอาหารในร้านแบบนี้เช่นกัน ถ้ากับข้าวร้านข้าวต้มนั่นก็พอจะชำนิชำนาญอยู่บ้าง
จื่อเทามองเด็กที่กลอกสายตาไปทั่วๆแล้วยิ้มเอ็นดู ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าจงแดมีเสน่ห์มากๆ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น ยิ่งอยู่ในชุดนี้ยิ่งดูดี
สวย...ใช้คำนี้คงได้ เพราะขนาดบริกรยังคิดว่าจงแดเป็นผู้หญิง
อยู่ดีๆก็นึกถึงคำของเซฮุนขึ้นมาที่บอกว่าเขาชอบจงแด ตอนนั้นเด็กนี่คงเอาแต่รั้งเขาเลยไม่ได้ฟังชัดเจน แต่เข้าได้ยินมันถนัดถนี่ ก็คงจะจริงอย่างที่เซฮุนพูด เขาชอบจงแด หน้าตาจงแดน่ารักดี เนื้อตัวผอมแห้งแต่ขาวเนียน ยิ่งอยู่ในชุดกี่เพ้าที่เขาชอบ
แต่ถึงอย่างนั้นก็แค่ชอบ ไม่ใช่ชอบในความหมายของเซฮุนแน่ๆ หมอนั่นคิดว่าเขาคิดเกินเลยกับจงแดเพราะท่าทีที่ห่วงใยเด็กนี่ แต่เขาทำไปก็เพราะห่วงใยในฐานะพี่ชายคนหนึ่ง ตั้งแต่เกิดเรื่องอู๋อี้ฟานเขาก็ไม่อยากเห็นเด็กนี่เจ็บอีก เพราะเขายังจำภาพจงแดนอนจมกองเลือดได้ติดตา

กว่าจะกินข้าวเสร็จก็สี่ทุ่มครึ่งเข้าไปแล้ว จงแดถือถุงอาหารที่กินกันไม่หมดแล้วขอห่อกลับไว้ในมือ เดินลำบากลำบนเพราะความยาวของกี่เพ้า จื่อเทานอกจากไม่ช่วยแล้วยังหัวเราะกันด้วยซ้ำ
“ไอ้อี้มันยังไม่กลับอีกเหรอ?”จื่อเทาถามเมื่อขึ้นมาส่งอีกคนบนห้องแล้วยังเห็นว่าอี้ชิงยังไม่กลับ จงแดเองก็แปลกใจเพราะอี้ชิงบอกแค่มีเลี้ยงสังสรรค์กันเล็กน้อย ไม่แน่ว่าอาจจะไปต่อกันอีกหรือเปล่า
“งั้นพี่อยู่เป็นเพื่อนแล้วกัน”จื่อเทาว่า นั่งลงบนเตียงของอี้ชิง จงแดถามว่าไม่กลัวมาม่าซังบ่นหรือไงอีกคนก็ยักไหล่ บอกก็บ่นไปสิ ไม่มีตนช่วยเก็บร้านสักวันคงไม่แย่เท่าไหร่หรอก
“อภิสิทธิ์จังนะครับ”เย้าเบาๆแต่จื่อเทาใช่จะแคร์ จงแดหยิบโทนเนอร์ที่พี่ลี่อินบังคับซื้อติดเอาไว้จะเช็ดทำความสะอาดหน้า
“เดี๋ยวสิ อย่าเพิ่งลบ”จื่อเทาห้ามเมื่อเห็นว่าสำลีชุบโทนเนอร์กำลังจะแตะที่ใบหน้า ชายหนุ่มทรุดลงไปนั่งที่ฟูกซึ่งจงแดนั่งอยู่ จับก้อนลำสีออกจากมือคนเด็กกว่า บอกว่าอีกสักพักค่อยลบ จงแดถามว่าทำไม แค่นี้เขาก็อึดอัดจะแย่ ทั้งชุดเข้ารูปทั้งเครื่องสำอาง
“รู้ไหมจงแด วันนี้นายสวยมากนะ”ชมกันซึ่งๆหน้าทำเอาจงแดทำตัวไม่ถูก จื่อเทาวางมือลงบนกลุ่มผมที่ถูกจัดทรงอย่างดี ไล้ลงมายังกรอบใบหน้าที่เคลือบเครื่องสำอางบางเบา ถึงจะบอกว่าคิดกับจงแดแค่น้องชายคนหนึ่ง แต่จงแด...ไม่สิ
จินจงต้าที่อยู่ตรงหน้าของเขา...
สวยและถูกใจ จนอยากมองนานๆ อยากกดจูบลงไปบนริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีอ่อนนี้...
“อย่า...”จงแดดันคนที่ขยับเข้าหาออก ไม่ชอบใจท่าทีคุกคามนี้ของจื่อเทา มันทำให้นึกถึงเปี้ยนป๋ายเสียนขึ้นมา จื่อเทาจับมือที่ผลักใสขึ้นจูบ ตัวจงแดเต็มไปด้วยกลิ่นกุหลาบ เป็นกลิ่นเดียวกันกับลูกๆของมาม่าซังคนอื่นใช้แต่เมื่อมันประดับอยู่บนเรือนร่างเนื้อตัวของจงแดจื่อเทาคิดว่ามันหอมขึ้น
“จงแด...พี่ชอบเราตอนนี้มากเลยนะรู้ไหม?”จื่อเทาไม่ได้กินเหล้าเข้าไปมากขนาดจะทำให้สติสัมปชัญญะเลอะเลือน แต่ตอนนี้เขาเหมือนกับคนที่กำลังเมาไม่มีผิดเพี้ยน แรงต่อต้านของจงแดหดหายไปทันทีเมื่อมือที่จื่อเทาจูบเมื่อครู่ถูกส่งเข้าไปในโพรงปากแล้วดูดดุนอย่างอ่อนโยน
“อ่ะ...อย่า...ไม่เอา”พยายามดึงมือของตนเองออกจากโพรงปากอีกคนให้ได้แต่จื่อเทากลับยึดเอาไว้แน่น มืออีกข้างของร่างสูงลูบสะโพกใต้กี่เพ้าเข้ารูปอย่างชอบใจ ลากขึ้นไปยังลูกไม้ที่อยู่ตรงแขน เป็นส่วนที่เขาชอบมากที่สุดก็ว่าได้
จงแดอยากจะผลักอีกคนออก แต่ความรู้สึกชาดิกตั้งแต่หัวจรดปลายเท้านี้ทำให้ไม่สามารถทำได้อย่างใจคิด หลุดเสียงร้องออกมาตอนที่จื่อเทาผละปากออกจากมือและประจูบลงบนโคนขาที่ถูกเลิกชายกี่เพ้าขึ้นตอนไหนก็แทบจะไม่รู้สึกตัว คำพูดชมจากปากของจื่อเทาดังตลอดเวลา
สวย...หอม...สวยไปหมด...
แผ่นหลังสัมผัสฟูกนอนเมื่อจื่อเทาค่อยๆดันจงแดนาบลงไป กี่เพ้าที่สวมใส่ถูกเลิกขึ้นมากองที่เอว จงแดลืมการขัดขืนไปเพราะการกระทำอ่อนโยน ริมฝีปากที่ไล่จูบตั้งแต่น่องจนแตะด้านในขาอ่อน มือของคนเป็นพี่ลูบกางกายที่นอนนิ่งใต้ผืนผ้า สุดท้ายแล้วชั้นในก็ถูกถอดออก
มันคืออารมณ์ทางเพศ...
จงแดอ้าปากหอบกับสัมผัสที่ปรนเปรอ โพรงปากของจื่อเทาเข้าครอบครองและออรัลให้ จงแดบอกกับตัวเองว่ามันคืออารมณ์ทางเพศที่ทำให้เขายอมจื่อเทา และมันก็คืออารมณ์ทางเพศที่ทำให้จื่อเทาทำแบบนี้ ร่างเล็กแอ่นตัว ร่อนสะโพกไปมาเพราะความเสียวซ่านมันแล่นปราดไปทั่วร่าง จงแดเผลอยกมือขยุ้มผมของจื่อเทาแล้วแอ่นเอวเข้าหาอย่างไม่รู้ตัว ร่างกายที่ผ่านมือใครต่อใครมาแล้ว ไม่ว่าจะถูกจับถูกแตะตรงไหนก็ดูจะโอนอ่อนไปเสียหมด
จื่อเทาผละออกไปป้อนจูบที่ริมฝีปากแทน น้ำลายเฉอะแฉะปิดประทับและดูดดึง ลิ้นเข้าแทรกพัวพัน อยากจะดูดดุดยอดอกแต่ก็ติดที่ผืนผ้าที่ยังไม่ถอดออกจากร่าง จื่อเทากัดลงบนลูกไม้ตำแหน่งเดียวกับยอดอก แรงฟันสะเทือนถึงสิ่งที่ถูกปิดกั้นเอาไว้ จงแดส่งเสียงครางยกอกขึ้นสูง ขนอ่อนลุกเกรียวไปทั้งแขนเรียกเสียงหัวเราะน้อยๆจากจื่อเทาได้อย่างดี
เข็มขัดและกระดุมกางเกงยีนที่สวมใส่ถูกปลดออก จงแดขยับขึ้นจับมันและช่วยถอดออกอย่างที่เคยทำกับลูกค้าคนอื่นๆ จื่อเทาผิวปากหวือ ท่าทางของจงแดดูเชี่ยวเรื่องอย่างนี้เสียจนนึกไม่ถึงว่าเด็กคนนี้เป็นคนเดียวกับที่นอนจมกองเลือดในตอนนั้น
ไม่มีคิมจงแดที่ไม่ประสากับเรื่องอย่างว่าอีกต่อไป มีแต่คิมจงแดที่รู้ว่าจะต้องครางแบบไหนจึงจะถูกใจลูกค้า...
จื่อเทาห่อปากกับความเปียกชื้นรอบๆท่อนเนื้อกลางกาย เขาจับบ่าของจงแด ยิ่งปลายนิ้มสัมผัสลูกไม้ที่แขนกี่เพ้าที่จงแดสวมยิ่งรู้สึกว่าร่างกายรุ่มร้อนขึ้น เขาอาจจะเป็นพวกบ้าลูกไม้ไปแล้วแน่ๆ จงแดถูกผลักลงไปนอนกับฟูกอีกครั้งเมื่อจื่อเทาพอใจในความแข็งขืนนั้นแล้ว เรียวขาเพรียวขาวแยกออกกว้างอย่างรู้หน้าที่ดี ใบหน้าของจงแดตอนนี้แดงก่ำ ริมฝีปากเฉอะแฉะด้วยน้ำลาย ดวงตาปรือปรอยกำลังจ้องมองมา ฤทธิ์สารมึนเมาที่แรงกว่าสุราอย่างอารมณ์เบื้องต่ำกำลังสั่งให้จงแดพูดว่าให้จื่อเทาเข้าไปข้างในเสียที
เสียงกรีดร้องดังกระเส่า ความใหญ่โตชำแรกเข้าไปโดยไม่มีเจลหล่อลื่นและเครื่องป้องกันใดๆ จงแดกุมท้องน้อยตัวเองแน่น จุกไปหมด ทว่าไม่นานความจุกนั้นก็ผ่อนลง แรงเสียดสีขยับเข้าออกนั้นมาแทนที่ ชายกี่เพ้าถูกจับดึงทึ้งอย่างต้องการระบายอารมณ์ รู้สึกได้แม้กระทั่งเส้นเลือดปูดโปนของท่อนเนื้อที่แทรกเข้ามาซ้ำแล้วซ้ำอีก
จื่อเทาก้มลงจูบที่ลำคอขาวซึ่งเจ้าของมันเชิดหน้าเปิดทางให้ กระดุมของกี่เพ้าที่คอถูกปลดออก จื่อเทาซุกใบหน้าลงกับแอ่งเล็กๆระหว่างกระดูกไหปลาร้าทั้งสองข้าง มือข้างหนึ่งจับแก้มก้นแน่นตึงเอาไว้ ขยับสวนสะโพกเข้าไปในความหฤหรรษ์ไม่มีหยุด
ความต้องการของทั้งจื่อเทาและจงแดเหมือนเติมเต็มกันได้ดี มือของร่างสูงจับฝ่ามือเล็กที่จิกกำเนื้อผ้ากี่เพ้าขึ้นจูบ กลิ่นของกุหลาบที่ติดอยู่ที่ทั้งเนื้อผ้าและเนื้อผิวเหมือนสารกล่อมประสาท ยิ่งสูดดมยิ่งหลงมัวเมา ร่างของจงแดถูกพลิกคว่ำลง สะโพกถูกดึงรั้งจนลอยเด่น จื่อเทาม้วนชายกี่เพ้าลวกๆแล้วจับมันเอาไว้ ตรึ่งร่างของจงแดให้รองรับกายสอดแทรก เรียวขาที่แยกออกจื่อเทาบังคับให้มันแนบสนิท ช่อทางปิดตัวเล็กลงขณะกลืนกินตัวตนของเขาไป นั่นยิ่งทำให้จงแดหวีดเสียงสูง แรงเสียดสีที่มากขึ้นทำให้ปั่นป่วนไปทั่วท้องน้อย ท่อนเนื้อที่กลางกายแข็งขึ้นจะแทบจะระเบิดออกมา
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังอยู่ในห้องที่ไม่ได้กว้าง เสียงมันฟังชัดกว่าเสียงหอบหายใจของคนทั้งคู่ที่กำลังบรรเลงเพลงรังบนฟูกแคบๆ เสียงสบถของจื่อเทาดังลั่นผสานเสียงครวญครางไม่เป็นศัพท์ของอีกคน แรงกระแทกยิ่งถี่กระชั้นมากขึ้น จงแดหวีดเสียงสูงยามที่ตนเองปลดปล่อยออกมา แขนขาสั่นระริกเพราะอีกคนยังคงขยับโยกอยู่ในร่าง
“แตก!”เสียงทุ้มเอ่ยสั้น ถอนตัวออกจากร่างของจงแดอย่างรวดเร็ว ก้าวขึ้นคร่อมร่างที่ทรุดไปกองกับฟูกในทันที จ่อส่วนปลายที่กำลังคายน้ำรักอย่างทะลักทลายเข้ากับริมฝีปากสีสด กลีบปากบางประกบจูบไม่ยอมให้จงแดได้คายเมือกคาวนั้นออกมาจนในที่สุดก็ต้องจำใจกลืนมันลงคอไป จนเมื่อรสชาติหวานไม่เหลือในโพรงปากจื่อเทาจึงถอนจูบออกมา
เสียงหอบหายใจดังสะท้อน จงแดหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า ได้ยินเสียงกุกกักในห้องน้ำแต่เขาแทบจะไม่มีแรงสนใจ จนกระทั่งจื่อเทามาสะกิดเรียกให้ไปจัดการตัวเองนั่นล่ะ อีกคนออกจากห้องไปตอนที่จงแดอยู่ในห้องน้ำ แต่ก็ดีเหมือนกันเพราะเมื่อได้อาบน้ำล้างหน้าให้สดชื่นขึ้น ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีก็กลับมาเต็มเปี่ยม กระดากอายไม่น้อยที่จะต้องเผชิญหน้ากับจื่อเทาตอนที่สติสมบูรณ์ดี
ฟูกมีแต่คราบอย่างว่า จงแดดึงผ้าปูออกแล้วเปลี่ยนผืนใหม่เข้าไป พี่อี้ชิงยังไม่กลับซึ่งนั่นเป็นข้อดี จงแดนึกไม่ออกเลยว่าถ้าพี่เขารู้จะเป็นยังไง...
แค่เซ็กส์เพราะอารมณ์นำไปกับพี่ชายที่รู้จัก...แค่ปลดเปลื้องอารมณ์ครั้งเดียว...
เขาไม่พูด พี่จื่อเทาไม่พูด ก็ไม่มีใครรู้...

คนขาย

เสียงไขกุญแจดังในความมืด จงแดลืมตาขึ้นเมื่อทั้งห้องถูกเปิดไฟจนสว่างโร่ ภาพที่เห็นตรงหน้าทำเอาต้องส่ายหัว จางอี้ชิงในสภาพเมาจนยืนทรงตัวแทบไม่อยู่ถูกหิ้วปีกมาด้วยผู้ชายอีกคนที่จงแดไม่รู้จัก พอเห็นเขาผู้ชายคนนั้นก็รีบบอกให้ไปหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้อี้ชิงด้วยเพราะคนพี่เมาอ้วกมาตลอดทาง
“นี่กุญแจรถมัน ฉันไม่รู้จอดถูกที่ไหม ถ้ามันตื่นให้ลงไปดูอีกทีแล้วกัน”เขาคนนั้นพูด ดูท่าทางเหนื่อยน่าดู ก็แน่ล่ะต้องดูแลคนเมานี่นะ ยังดีที่รู้จักหอพักของอี้ชิง และกุญแจห้องก็อยู่ในกระเป๋ากางเกง ไม่งั้นคงไม่รู้จะลากกันไปที่ไหนดี เพราะถ้าขืนพาเพื่อนที่เมาแอ๋กลับบ้านตัวเองแล้วล่ะก็ เมียคงไล่ตะเพิดทั้งตัวเองทั้งเพื่อนออกข้างนอกบ้านแน่ๆ
“ขอบคุณนะครับ”จงแดเอ่ยขอบคุณเพื่อนของอี้ชิงแล้วตามไปปิดประตูล็อกกลอนทันทีที่อีกคนออกไป กลับมามองคนที่นอนบนเตียงอีกครั้งแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมา
ครั้งแรกเลยที่เห็นพี่อี้ชิงเมา ไม่คิดว่าจะเละเทะขนาดนี้...
จงแดเอาผ้าขนหนูผืนเล็กเข้าไปชุบน้ำมาเช็ดหน้าเช็ดตาให้ก่อน เห็นเพื่อนพี่อี้ชิงพูดว่าอีกคนอ้วกมาตลอดทาง เสื้อนักศึกษาและกางเกงที่อีกคนใส่อยู่ถูกถอดออก จงแดเช็ดตัวให้อีกคนรู้สึกสบายมากขึ้นก่อนจะดึงผ้าห่มคลุมร่างของอี้ชิงเอาไว้
“ฮือ”คนเมาไม่มีสติปัดผืนผ้าที่ทับอยู่ตรงหน้าอกออกด้วยความรำคาญ จงแดกลับจากซักผ้าขนหนูตากต้องส่ายตัวกับคนที่ดิ้นพลิกนอนตะแคง แล้วถีบเอาผ้าห่มไปกองปลายเท้า หมดมาดพี่ชายนิสัยนิ่งๆไปเสียสนิท จงแดดึงผ้าห่มขึ้นคลุมร่างของอีกคนอีกครั้งหนึ่ง มองนาฬิกาตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว เขาที่ถูกปลุกมาดูแลคนเมาก็รู้สึกง่วงเต็มที ดูให้แน่ใจแล้วว่าคนเมาจะไม่ถีบผ้าห่มออกอีกก็ปิดไฟแล้วล้มตัวลงนอนที่ฟูกของตัวเองบ้าง

เสียงครางในลำคอดังอยู่ท่ามกลางความมืดสนิทและเงียบงัน จงแดขมวดคิ้วมุ่น เขาเพิ่งเคลิ้มหลับได้สักครู่ก็ต้องตื่นอีกครั้งเพราะเสียงประหลาดๆดังมาจากเตียงของอี้ชิง คนตัวเล็กคิดว่าพี่ชายคงไม่สบายตัวแล้วถีบผ้าห่มอีกแน่ๆ จงแดเด้งตัวขึ้นมานั่งจุ้มปุ๊กบนฟูก มองเตียงที่อยู่ข้างๆกัน ความมืดทำให้การทำงานของสายตาลดความสามารถลงไปอีก
“พี่อี้ชิง...”เรียกชื่อของคนบนเตียง เพ่งมองนิ่ง เงาบนเตียงนั้นไม่ได้อยู่ในท่านอน ร่างสูงโปร่งกำลังนั่ง แขนข้างหนึ่งเท้ามาด้านหลัง ส่วนอีกข้างกำลังกอบกุมกลางลำตัว จงแดเบิกตาในความมืด ใบหน้าหล่อเหลานั้นเชิดขึ้น ริมฝีปากกำลังปิดสนิทแต่กลับมีเสียงครางอื้ออึงดังมาจากในลำคอ
จางอี้ชิงกำลังช่วยตัวเองอยู่บนเตียง...
เหมือนจะรับรู้ถึงการตื่นของจงแด อี้ชิงค่อยๆมองมาทางฟูกนอนด้านข้างเตียงของตนเอง ดวงตาในความมืดนั้นเป็นประกายวามวับอย่างที่จงแดไม่เคยเห็นมาก่อน คนตัวผอมลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น ตอนนี้พี่อี้ชิงไม่เหมือนพี่อี้ชิงคนเดิม ดวงหน้าขาวนั้นอัดแน่นไปด้วยอารมณ์อย่างว่า
“นายนั่นเอง...”เสียงทุ้มติดแหบ ได้ยินเสียงหัวเราะดังจากคนที่ยังคงถูกพิษจากฤทธิ์สุราเข้าครอบงำ อี้ชิงใช้มือสาวรูดแท่งเนื้อตรงกลายกายอีกครั้งเหมือนแค่รับรู้เท่านั้นว่าจงแดกำลังตื่นอยู่แต่ไม่มีความรู้สึกใดๆทั้งนั้น ไม่แม้แต่จะตกใจหรือละอายใจใดๆ
จงแดทำตัวไม่ถูก เขาก้มหน้าลง รู้สึกร้อนเห่อไปทั้งตัว เสียงครางเครือของอี้ชิงดังขึ้นอีกและเสียงรูดท่อนเนื้อนั้นกำลังสอดผสานได้อย่างลงตัว จงแดกัดริมฝีปาก เขากำลังมีอารมณ์
ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน จงแดรู้แค่ร่างกายกำลังมีปฏิกิริยาตามธรรมชาติที่ไม่อาจต้านทานได้ และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เป็นแบบนี้ ทั้งกับป๋ายเสียน ทั้งกับจื่อเทา เขาสามารถมีอารมณ์ร่วมด้วยได้อย่างง่ายดายเช่นเดียวกัน ร่างกายที่คุ้นชินกับเซ็กส์มันตอบสนองแทบจะทุกคนที่กระตุ้นเร้า
จงแดสูดลมหายใจเข้า บิดตัวจนเกร็งทันทีที่เสียงซี๊ดปากของอี้ชิงดังขึ้น ห้ามตัวเองไม่ให้จับต้องอะไรที่กำลังลุกชันที่หว่างขาแต่ก็ยากเกินจะทำได้ ดวงตาเรียวรีช้อนมองคนบนเตียงอีกครั้ง อี้ชิงเอนกายลงกึ่งนอน ขาสองข้างชันขึ้นตั้งฉากกับพื้นเตียง มือยังคงขยับรูดเร่งความเร็วไม่หยุด จงแดกัดปากแน่น นิ้วเรียวเกี่ยวขอบกางเกงที่ใส่ออกที่ละน้อย ในท้องเหมือนมีอะไรสักอย่างกำลังเบียดเสียดยัดเยียดกันอยู่และวิ่งวุ่นไปหมด
ส่วนปลายของแกนกายกำลังขย้อนน้ำเหนียวเป็นเมือกออกมา จงแดรู้ว่ามันยากแล้วที่จะหยุดความต้องการของตนเอง กางเกงที่ปกปิดผิวเนื้อไว้จึงถูกถอดออกไปจากเรียวขา อี้ชิงชะงักมือตัวเองอีกครั้งเมื่อจับสังเกตุได้ว่าข้างกายกำลังทำอะไร แววตาวาววับหันมามองกันอีกก่อนที่ร่างสูงโปร่งจะค่อยๆขยับลุกขึ้นยืน
จงแดมองอย่างไม่เข้าใจ แต่ความมึนงงสั่งให้เขาไม่ขยับไปไหน ปล่อยให้อี้ชิงลุกขึ้นยืนอยู่ตรงหน้า ส่วนนั้นที่ขยายจนใหญ่โตกำลังจดจ่ออยู่ที่ริมฝีปาก จงแดหน้าร้อนวาบเพราะไม่คิดว่าขนาดของอี้ชิงตอนที่ขยายเต็มที่จะใหญ่โตได้ถึงเพียงนี้ เขาจินตนาการไปไกลยามที่มันถูกใส่เข้าไปในร่างของผู้หญิงที่เคยนอนกับพี่เขา ผู้หญิงคนนั้นคงร้องครางกระเส่าไม่ได้เป็นภาษา
...และถ้ามันถูกสอดใส่เข้ามาในร่างของเขาเอง...
“อมสิ”เสียงทุ้มแหบนั้นเอ่ยบอก ในตาของคนพี่จ้องมองมา มือไล้จับที่ใบหน้าใช้หัวแม่โป้งคลึงเค้นที่ริมฝีปากบางก่อนจะชำแรกเข้าไปสัมผัสแอ่งน้ำบ่อน้อยด้านใน นิ้วของอี้ชิงลูบผ่านเรียวลิ้นนิ่มทำให้จงแดนั้นเผลออ้าปากกว้างในทันที สบโอกาสให้อี้ชิงดันท่อนเนื้อที่อยู่ตรงหน้าเข้าไป
กลิ่นสาบกายคลุ้งอยู่ในปาก จงแดร้องในลำคอ เหมือนจะได้สติจากแรงกระแทกที่เข้ามาจนสุดผนังลำคอตนเอง มันจุกและเจ็บ แต่น่าแปลกใจที่ไม่ได้รู้สึกเหมือนตอนที่ป๋ายเสียนยัดมันเข้ามาสักนิด เสียงซูดปากด้วยความเสียวซ่านของอี้ชิงกลับยิ่งทำให้สติที่ได้รับกลับคืนมามันสลายหายไปในพริบตา จงแดยกมือวางบนหน้าขาคนเป็นพี่ก่อนจะเป็นฝ่ายขยับศรีษะเลื่อนเข้าออกให้เอง กลิ่นสาบกายกลายเป็นกลิ่นคาวของเมือกที่หลังจากส่วนปลายออกมาเรื่อยๆ รสชาติในตอนนี้ขมคอแต่ไม่อยากคายออกทิ้ง
ท่อนเนื้อที่กลางกายถูกจับเอาไว้และรูดตามที่ใจตัวเองต้องการ ส่วนปากนั้นกำลังปรนเปรอให้อี้ชิงที่ยืนนิ่งเชิดหน้าร้องครางไม่ได้หยุด จงแดรู้ดีว่าตอนนี้อี้ชิงกำลังถูกเหล้าเข้าควบคุมสติสัมปชัญญะ ไม่แน่ว่าตอนนี้ร่างสูงโปร่งอาจจะไม่รู้ตัวเลยสักนิดด้วยซ้ำว่ากำลังทำอะไรอยู่ ตื่นเช้าขึ้นมาอีกคนอาจจะจำไม่ได้ว่าในคืนที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้น
เขาถึงใจกล้าดันอีกฝ่ายลงบนเตียงแล้วขยับขึ้นคร่อมแทน...
แกนกายเปื้อนน้ำลายถูกจับให้นิ่งแล้วถูกกลืนกินจนมิดสุดโคน จงแดขาไหวระริก ขนาดที่ใหญ่กว่าหลายๆครั้งที่เคยเจอทำให้จุกแน่นไปหมด จะขยับแต่ก็เสียดจนแสบผิดกับอี้ชิงที่นอนนิ่ง มือเรียวยึดหน้าขาของจงแดเอาไว้แน่น ยามที่คนตัวผอมค่อยๆยกสะโพกขึ้นแล้วกดลงไปอีกครั้ง
คนหนึ่งกำลังเมาเหล้า อีกคนหนึ่งก็เมาในกามารมณ์อีกเช่นกัน จังหวะการสอดประสานร่างเป็นไปเรื่อยๆตามสัญชาตญาณของมนุษย์ อี้ชิงพลิกให้คนเหนือร่างลงมานอนแผ่ กดขาเนื้อน้อยลงจนติดหน้าอกแล้วแทรกกายเข้าไปอย่างเมามึน
เสียงเนื้อต่อเนื้อปะทะกันในความมืดของห้อง สารคัดหลั่งจากธรรมชาติถูกขับออกมาช่วยให้อะไรที่เข้าออกอยู่ในร่างนั้นทำได้ง่ายมากขึ้น จงแดจับข้อมือที่กำลังขยำหน้าอกของเขาร่างกายไหวโยกคลอนไม่หยุด ขนาดท่อนเนื้อและความเร็วขนาดนี้ทำให้เขาสำลักความกระสันจนแทบบ้า ดวงตาเรียวรีมองใบหน้าของคนที่เขาใช้ชีวิตร่วมห้อง พี่อี้ชิงพริ้มตา กัดปาก ใบหน้าเครียดขึงเพราะใกล้จะถึงจุดสุดยอดในไม่ช้า
ความคิดหนึ่งก่อนที่น้ำรักร้อนๆจะฉีดพุ่งเข้ามาจนล้นเอ่อในร่าง...
คือพรุ่งนี้มันจะเป็นยังไง พี่อี้ชิงอาจจะเมาจนจำไม่ได้...
...หรือรู้ตัวอยู่ทุกการกระทำที่เกิดขึ้น

คนขาย

ยามเช้าของวันนี้ไม่ปลอดโปร่ง ฝนที่ไม่รู้ว่ามีเค้าตอนไหนตกมาแบบไม่ลืมหูลืมตา เป็นฝนหลงฤดูที่เลือกวันตกได้ดีเสียจริงสำหรับความคิดของจงแด
ร่างผอมนั่งคุดคู้อยู่บนฟูกของตัวเอง ท่อนล่างสวมกางเกงเรียบร้อยแล้ว บนเตียงของอี้ชิง เจ้าของมันกำลังนั่งอยู่เงียบๆ ดวงหน้าอิดโรยเช่นคนแฮ้งค์ทั่วไป ไร้เสื้อที่สวมใส่บนร่างกายและท่อนล่างมีเพียงผ้าเช็ดตัวพันเอาไว้
อากาศหนาวเพราะฝนตกทำให้จงแดขยับขาเข้ามาชิดอกมากขึ้น บรรยากาศที่เงียบแต่อึมครึมไม่จางลงตั้งแต่ตอนที่อี้ชิงตื่นขึ้นมา
ความปวดจี๊ดแล่นเข้าเล่นงานแทบจะทันทีที่ลืมตา อี้ชิงกวาดไล่มองก็พบจงแดนอนอยู่บนฟูกข้างเตียงเหมือนเดิม ร่างโปร่งก้มดูตัวเองในสภาพเปล่าเปลือยทั้งตัวสอดอยู่ใต้ผ้าห่ม ยกมือขึ้นเสยผมอย่างลวกๆ นวดขมับที่เต้นตุบก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาอย่างยอมรับในสภาพ
ว่าเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง...
เพราะเขาจำมันได้ทั้งหมด...

ตั้งแต่ตื่นขึ้นมากลางดึกพร้อมความต้องการ ช่วยตัวเองอยู่บนเตียงอย่างไม่คิดจะละอายเพราะความเมา เขารู้ตัวว่าทำอะไร แต่น้ำละลายอายที่กินเข้าไปมันสั่งให้เขาหน้าด้านอย่างไร้เหตุผล เขาจำได้แม้แต่ตอนที่ลุกขึ้นแล้วยัดท่อนเนื้อเข้าไปในปากของจงแด จนกระทั่งการขยับตัวครั้งสุดท้ายและฉีดน้ำกามเข้าไปในตัวเด็กหนุ่ม...
“ฉันขอโทษแล้วกัน เมื่อคืนเมามากจริงๆ”เป็นประโยคที่สองในเช้านี้ ประโยคแรกของอี้ชิงคือบอกว่าจำเรื่องเมื่อคืนได้ จงแดไม่รู้จะทำสีหน้ายังไง มันดูอิหลักอิเหลื่อไปหมด เพราะรู้แก่ใจว่าเมื่อคืนไม่ได้เป็นความผิดของอี้ชิงแม้แต่น้อย ถ้าเพียงเขาล้มตัวลงนอนต่อโดยที่ให้อี้ชิงได้ปลดปล่อยด้วยตัวเอง เรื่องเมื่อคืนมันจะไม่เกิดขึ้น
เพราะเขาย่ามใจคิดว่าอี้ชิงจะไม่รู้เรื่อง เพราะร่างกายงี่เง่าที่มันทรยศทุกอย่างแม้แต่ความถูกผิด เพราะความต้องการที่ถูกจุดติดง่ายเหมือนเชื้อเพลิงใกล้ไฟทำให้มันเลยเถิดไปหมดแบบนี้ จงแดซบหน้าลงกับเข่าที่ยกขึ้นมากอดเอาไว้ บอกว่าไม่เป็นไร เขาเองก็มีส่วนในเรื่องนี้ ถือว่าได้เสียเท่ากันทั้งคู่
อี้ชิงเสยผมตัวเองอีกครั้ง รู้สึกทำอะไรไม่ถูกกับสถานการณ์ตรงหน้า เพราะคนที่ปากบอกว่าไม่เป็นไรนั้นแสดงออกมาชัดเจนว่าเป็น เขาเข้าใจดีว่ามันยากจะจัดการความรู้สึกตัวเองหลังมีเซ็กส์อันเร่าร้อนกับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพี่ชาย แต่ทุกอย่างมันก็เกิดขึ้นแล้ว
“คิดเสียว่าฉันเป็นแขกคนหนึ่งของนายก็แล้วกัน”อี้ชิงรู้ว่าพูดแบบนี้ไม่ได้ทำให้มันดีขึ้น แต่วิธีที่ง่ายที่สุดให้เราอยู่ร่วมกันโดยไม่กระอักกระอ่วนใจก็คงต้องให้จงแดคิดแบบนี้ ถือเสียว่าเมื่อคืนเขาซื้อจงแด ครั้งเดียวก็จบ
“ครับ...”มีเพียงเสียงขานรับเบาๆจากคนที่ซุกหน้าอยู่กับเข่าเพียงเท่านั้น อี้ชิงบอกว่ารอให้ฝนซาเดี๋ยวจะพาไปกินข้าว ร่างโปร่งเดินเข้าห้องน้ำเพื่อชำระล้างคราบเหนียวของเหงื่อเจือกลิ่นแอลกอฮอล์ที่ร่างกายเริ่มขับออกมาทางผิวหนัง ส่วนจงแดยังคงนั่งคุดคู้อยู่เหมือนเดิม
ฟันแหลมกัดริมฝีปากที่มันสั่นระริก แค่ลำพังความอดสูกับสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะไม่สามารถควบคุมความต้องการทางเพศของตนเองได้ จงแดก็รู้สึกไม่ดี แต่คำพูดเมื่อกี้ของพี่อี้ชิงยิ่งตอกย้ำให้เจ็บแสนสาหัส
คิดเสียว่าเป็นการซื้อบริการ...จะได้ไม่ต้องคิดมาก...
เหมือนอย่างที่ทำกับคุณจุนมยอน เหมือนอย่างที่ทำกับพี่เทา เหมือนกันนั่นล่ะ
แค่ขายตัวให้นักธุรกิจคนนึงแลกกับรถมอเตอร์ไซค์ของแม่
แค่ขายตัวให้พี่ที่ทำงานแลกกับอาหารมื้อหรูๆที่เขาเลี้ยง
แค่ขายตัวให้พี่ชายที่นับถือและรู้สึกปลื้มแลกกับเซ็กส์ชั้นเลิศที่เติมเต็มในขณะที่ความอยากมันชนะทุกสิ่ง

น่าอดสูดีเหมือนกัน...
จงแดไม่เคยรู้สึกทุเรศตัวเองขนาดนี้มาก่อนเลย...




100 เปอร์เซ็นต์



TBC.

#ขายตัวออลเฉิน

(ปุกาด) เปิดโอน #ขายตัวออลเฉิน ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2558 คับ!!! รายละเอียด http://writer.dek-d.com/dekd/writer/viewlongc.php?id=1356187&chapter=6 ขอบคุณค่า
(ปุกาด) เปิดโอน #20ชฉ ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2558 คับ!!! รายละเอียด http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1407994&chapter=3 ขอบคุณค่าาาา

แมลงจี่




รักค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น