วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

คนขาย - 9

ลูกค้าคนนี้รักครอบครัว

บทที่9..

แม้ฝนจะหยุดตกไปแล้วแต่ความรู้สึกของจงแดยังคงขมุกขมัวอยู่เหมือนเดิม ความรู้สึกแย่ๆที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าดูท่าจะยากกว่าจะเหือดหายไปจากความคิดได้ จงแดไม่อยากมาทำงาน เขารู้สึกไม่อยากนอนกับผู้ชายคนไหน นึกถึงภาพเมื่อวานที่เกิดขึ้น เพียงแค่พี่จื่อเทากระตุ้นนิดหน่อย เพียงแค่ได้ยินเสียงครางกับภาพที่พี่อี้ชิงช่วยตัวเอง เขาเกลียดที่ร่างกายของเขามันตอบสนองต่อสิ่งเร่งเร้าพวกนั้นจนเลยเถิด
 “อ้าว มาแล้วเหรอจงต้า ไปอาบน้ำก่อนเลย แขกรอหนูอยู่น่ะลูก”เสียงของมาม่าซังเอ่ยทักทันทีที่จงแดเปิดประตูหลังร้านเข้าไป จงแดขานรับ เก็บของเข้าตู้ล็อคเกอร์แล้วเดินไปยังห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกายตามที่มาม่าซังสั่ง จงแดซับหยดน้ำที่เกาะตามร่างกายก่อนจะหยิบเสื้อผ้ามาสวมใส่ จัดให้เข้าที่เข้าทาง กี่เพ้าสีแดงลายมังกรสีทองด้วยดิ้นไหมชั้นดีขับให้ทั้งร่างดูนวลผ่อง มองตัวเองในกระจกครั้งหนึ่งก่อนจะเสไปมองที่อื่น
ทำไมยิ่งมองก็ยิ่งเห็นถึงความสกปรกของตัวเอง ดมกลิ่นกายที่หอมจากสบู่กลิ่นกุหลาบแต่กลับได้กลิ่นคลื่นเหียนชวนอ้วก...

ทำไม...ถึงได้สกปรกแบบนี้นะคิมจงแด

 “ไปแต่งหน้าเถอะจงต้า”พี่ชิงชิงบอกพลางจับแขนให้จงแดไปห้องแต่งตัว จงแดนั่งให้ทั้งชิงชิงและลี่อินแต่งแต้มเครื่องสำอางลงบนใบหน้าให้ หญิงสาวหลายคนเริ่มทยอยลุกออกจากห้องแต่งตัวเพราะถึงเวลาที่บ้านดอกเหมยจะเปิดทำการแล้ว มาม่าซังบอกให้จงแดเข้าไปหาแขกในห้องได้เลย คนตัวผอมจึงต้องแยกกับพี่ลี่อินที่ไปบริการบนโซนวีไอพี
ห้องเดิมที่คุ้นเคยมีผู้ชายร่างท้วมนั่งรออยู่ ใบหน้ายับย่นด้วยริ้วรอยของผู้ชายอายุราวสีสิบห้าฉีกยิ้มกว้างทันทีที่เห็นจงแดเดินเข้ามาด้านในของห้อง เขากวักมือให้ไปหาแล้วลูบไล้ไปทั่วตัว ปากก็ส่งเสียงซี๊ดซ๊าดน่ารังเกียจไปพร้อมกัน จงแดนอนลงตามแรงดันของแขกในวันนี้ ดวงตาจับจ้องที่พื้นเพดาน ปล่อยให้กี่เพ้าที่สวมใส่ถูกถอดออกด้วยฝีมือชายวัยกลางคน
เรียวขาถูกแยกออกกว้าง เสียงครางอย่างพอใจจากผู้ซื้อบริการดังตลอดเวลา จงแดกัดปากฉับเมื่อลิ้นชื้นแตะลงที่รอยจีบด้านหลังและละเลงน้ำลายเอาไว้จนชุ่ม ขนอ่อนทั้งร่างลุกฮือขึ้นอย่างห้ามไม่ได้ ฝ่ามือเล็กคว้าเอาผ้าปูเตียงขยำในตอนที่ก้านนิ้วแข็งแทรกเข้ามาในร่าง
“ฮา...”กลีบปากแดงเผยออ้าออกอัตโนมัติ แรงเสียดสีของนิ้วกับผนังอ่อนนุ่มนั้นกำลังสร้างความรัญจวนให้ ท่อนเนื้อด้านหน้าค่อยๆแข็งตัวทั้งที่ไม่ได้จับต้องมันสักนิดเดียว จงแดหวีดเสียงสูงยามที่นิ้วถูกถอนออกแล้วอะไรที่ใหญ่กว่านั้นชำแรกเข้ามาแทน
ทั้งที่บอกว่าไม่อยากจะมีเซ็กส์กับผู้ชายคนไหนในวันนี้ แต่แค่เพียงถูกแตะต้อง ร่างกายก็พลันทรยศทุกอย่าง อ้าขาออกกว้างกว่าเดิมอย่างไม่มียางอาย ยอมให้ชายร่างท้วมสอดใส่โยกขยับเข้ามาซ้ำยังกรีดร้องด้วยความพึงพอใจตอนที่อีกคนเน้นกายหนักหน่วง
จงแดขึ้นคร่อมลูกค้าของตนเอง ขยับร่างขึ้นลง มือเท้าหน้าท้องเต็มไปด้วยไขมันนิ่มมือเอาไว้ เสียงของชายวัยกลางคนร้องซี๊ดขึ้นมา มือหยาบลูบไล้ท่อนขาเปลือยเปล่ายิ่งเพิ่มความกระสันให้จงแด ลำคอเนียนขาวเชิดขึ้นสูง ในสมองขาวโพลนมีแค่ความรู้สึกต้องการให้ท่อนเนื้อนี่แทรกเข้ามาเสียดสีไม่รู้จักจบสิ้น
น้ำตาหยดหนึ่งไหลลงที่หางตา...
ทั้งที่พูดว่าไม่อยากทำ...
แต่จงแดไม่คิดว่าจะหยุดสะโพกที่ร่อนขึ้นลงนี้ได้เลย...


คนขาย

อี้ชิงเงียบตลอดเวลาตั้งแต่เลิกงาน นั่งกินข้าว จนถึงห้องพัก นั่นเพราะจงแดเองก็เงียบด้วย คนเป็นน้องนั่งกินข้าวไปนิ่งๆ เขาเลยไม่รู้จะเริ่มบทสนทนาอะไร เพราะการคุยกันครั้งสุดท้ายก็คือเมื่อเช้า จนเมื่อถึงห้องแล้วมองใบหน้าของเด็กที่อยู่ร่วมห้องยังดูนิ่งเหมือนเดิม
อี้ชิงทิ้งผ้าขนหนูที่ใช้เช็ดผมลงบนเตียงก่อนจะหย่อนตัวลงนั่ง ยกมือขึ้นมาเสยผมตัวเองครั้งหนึ่ง เขารู้สึกว่าบรรยากาศรอบตัวตนเองกับจงแดดูแย่กว่าเมื่อเช้าเสียอีก มือหนานวดขมับเมื่อรู้สึกว่าปวดหัวหนึบขึ้นมา ไม่ใช่เพราะเมาค้างแบบเมื่อเช้า แต่เพราะคิดมากจนมันปวด
ถึงจงแดจะเป็นคนพูดเองว่าไม่เป็นไร เด็กนั่นพูดว่าเขาไม่ผิด เขาเมา เด็กนั่นก็ต้องการ ถือว่าเซ็กส์เมื่อคืนเราทั้งคู่ได้เสียเท่ากัน เขาเองก็พยายามไม่คิดถึงมันอีก แต่อาการของจงแดตั้งแต่เมื่อเช้าจนถึงตอนนี้ก็กวนใจเขาตลอดเวลา มีความคิดหนึ่งที่บอกว่าเขาควรรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นแต่อีกความคิดก็บอกว่ามันไม่ได้เสียหายเมื่อเด็กนั่นไม่เอาความ อีกทั้งก็เป็นเรื่องน่าชินของจงแดอยู่แล้ว
แค่เซ็กส์เท่านั้น ยังไงเด็กนั้นก็มีทุกวันอยู่แล้วนี่...ก็แค่ขายให้อี้ชิงเพิ่มอีกสักคน...
อี้ชิงรู้ว่าความคิดเขามันแย่ แต่ถ้ามันสบายใจกว่ากัน ก็ไม่ผิดที่จะคิดแบบนี้

จงแดออกจากห้องน้ำมาพร้อมผ้าขนหนูซับน้ำที่ผม อี้ชิงมองคนเด็กกว่าทรุดตัวลงนั่งที่ฟูกและเช็ดผมจนหมาดเขาถามว่าจงแดจะนอนเลยไหม ถือเป็นบทสนทนาแรกนับจากเมื่อเช้า จงแดมองมาก่อนจะโต้ตอบบทสนทนาด้วยการถามกลับว่าอี้ชิงจะนอนแล้วเหรอ?
“ปิดไฟเลยก็ได้นะครับ ผมรอผมแห้งอีกสักพัก”คนตัวผอมบอก อี้ชิงส่ายหน้า บอกให้จงแดเช็ดผมให้เสร็จเถอะ ตัวเขาเองก็รอผมแห้งเหมือนกัน นอนทั้งผมชื้นๆมีหวังรังแค่ขึ้นกันพอดี
“ขนมนั่นยังเหลืออยู่ไหม?”อี้ชิงถามถึงขนมที่จงแดซื้อมาตุนเอาไว้ และเขาก็หยิบมันกินบ่อยๆ จงแดเลิกคิ้วน้อยๆ ก่อนจะลุกขึ้นไปดูในถุงขนมของตนเอง พบว่าขนมที่พี่อี้ชิงชอบหยิบกินมันหมดจริงๆ จำได้ว่าเมื่อวานยังเหลืออยู่แท้ๆ เขาบอกคนแก่กว่าว่ามันหมดแล้ว มีอีกยี่ห้อหนึ่งอร่อยเหมือนกัน อี้ชิงอยากจะกินไหม? จงแดชูห่อขนมชนิดเดียวกันแต่คนละยี่ห้อขึ้น อี้ชิงพยักหน้าแล้วรับขนมห่อนั้นมาฉีกกิน มองเจ้าของขนมนั่งลงบนฟูกอีกครั้ง
“จงแด...”เขาเรียกชื่อของคนเป็นน้อง จงแดขานรับ แล้วมองมาเพื่อถามว่าอี้ชิงเรียกตนเองทำไม อี้ชิงอึกอักเล็กน้อย เขาถามว่าจงแดยังคิดเรื่องเมื่อคืนอยู่หรือเปล่า
“รู้ไหมว่าสภาพนายตอนนี้มันแย่มาก เหมือนนายอมเรื่องอะไรเอาไว้ตลอดเวลา”อี้ชิงพูดถึงใบหน้าที่นิ่งผิดปรกติของอีกฝ่าย แม้ปรกติแล้วจงแดจะไม่ใช่คนร่าเริงมากมายติดจะเงียบและไม่มีปากเสียงด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่ได้เป็นแบบนี้ เขาพูดออกไปตรงๆว่าเห็นจงแดเป็นแบบนี้แล้วเขารู้สึกแย่ไปด้วย เพราะไม่แคล้วสาเหตุมันก็มาจากตัวอี้ชิงเหมือนกัน
“ผม...ผมไม่ได้คิดเรื่องนั้น พี่ไม่ต้องรู้สึกผิดอะไรหรอกครับ”จงแดส่ายหน้าเบาๆเป็นการย้ำคำตอบ เขาไม่ได้ลืมเรื่องเมื่อคืน แต่พยายามไม่จำมันอย่างที่พี่อี้ชิงบอกว่าให้คิดว่าเป็นการบริการแขกไป เหมือนกับพี่จื่อเทาเขาก็พยายามไม่จำมันเช่นกัน
“ไม่เป็นไรจริงๆครับ”จงแดย้ำอีกครั้งหนึ่ง แต่คนที่ฟังไม่มีทางเชื่อ คนที่พูดว่าไม่เป็นไรทั้งที่พยายามยิ้มโง่ๆน่ะ ร้อยทั้งร้อยมันก็แค่การโกหก อี้ชิงถอนหายใจอย่างจนใจ ถ้าอีกคนบอกยืนยันแบบนั้น
ต่อให้สาเหตุมันไม่ได้มาจากตัวอี้ชิง ต่อให้เรื่องเมื่อคืนไม่ได้เกิดขึ้น คนที่เอาแต่พูดว่าไม่เป็นไรมาตลอดก็จะยังพูดว่าไม่เป็นไรอยู่ดี เพราะจงแดจะไม่ต้องการจะเป็นภาระของใครจึงพูดแต่ไม่เป็นไรตลอด
เพราะจงแดไม่ยอมรักตัวเองเสียบ้าง...

จงแดทิ้งหัวลงกับหมอนเมื่อผมแห้งสนิทดีแล้ว อี้ชิงเป็นคนปิดไฟ ก่อนที่ทุกอย่างจะมืดและเงียบสนิท เขาซุกหน้าลงกับหมอน รู้ตัวเองดีว่าสภาพของตนเองนั้นเป็นยังไง แต่มันยากที่จะทำให้เหมือนไม่รู้สึกแย่ทั้งที่ความรู้สึกตอนนั้นมันแย่สุดๆ
ไม่ใช่เรื่องอี้ชิง ไม่ใช่เรื่องนั้น...บอกแล้วว่าพยายามจะไม่คิดไม่จำมันได้ เขาก็แค่...
เขาแค่รู้สึกแย่กับตัวเอง...
หลังบริการแขกเสร็จ จงแดไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้ชายคนนั้นออกไปตอนไหน เขาสลบไม่เป็นท่า วินาทีที่ลืมตาขึ้นมา เขามองเห็นตัวเองนอนแยกขาอวดส่วนน่าอายอย่างไม่มีเหลือความอาย ได้กลิ่นคาวของน้ำอสุจิคลุ้งไปหมดถึงได้รู้ว่าที่มาของกลิ่นนั้นอยู่บนใบหน้าตนเอง แล้วก็ตระหนักได้ว่าเขายอมให้ลูกค้าปล่อยลงบนหน้า ทั้งที่เวลาทำงานเขาจะไม่ให้ลูกค้าทำแบบนั้น แต่เพราะมัวเมาอยู่ในกามารมณ์ ถึงได้ยอมทุกอย่าง
ภาพในกระจกห้องน้ำในห้องรับรองแขกสะท้อนภาพเด็กผู้ชายอายุย่างสิบเจ็ดปีเรือนร่างเปลือยเปล่า ใบหน้าซูบซีดเพราะเครื่องสำอางลบหายไปแต่แทนที่ด้วยคราบเมือกเหนียวสีขาวขุ่นที่ปลดปล่อยออกมาจากตัวผู้ชายที่จ่ายเงินซื้อตัว
จงแดรู้สึกรังเกียจตัวเอง...
เขาเกลียดที่ตัวเองต้องการร่วมเพศกับลูกค้าคนนั้นอย่างบ้าคลั่ง เกลียดที่แค่ถูกกระตุ้นเร้าก็ต้องการเซ็กส์จากใครก็ได้ ขอแค่ให้ไอ้นั่นสอดใส่เข้ามาในร่างก็พอ
สายน้ำที่ไหลจากฝักบัวรินรดชโลมตั้งแต่หัวจนถึงปลายเท้า แชมพูและสบู่กลิ่นกุหลาบอาจจะหอมติดจมูกสำหรับคนอื่น แต่สำหรับจงแดตอนนี้กลิ่นที่ติดจมูกของเขาได้ดีคือกลิ่นน้ำกามของแขกคนนั้น...

คนขาย

เช้าต่อมาฝนไม่ได้ตก อากาศแจ่มใสดี จงแดรู้สึกสดชื่นกับแสงแดดบางเบาขณะออกไปยืนที่ระเบียง พอได้พักสักคืนแล้วเขารู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อย อย่างน้อยก็ไม่รู้สึกแย่เท่าเมื่อวาน
วันนี้อี้ชิงตื่นสายเพราะโปรเจ็คจบนั้นปิดลงไปแล้ว ตอนนี้เหลือแค่สอบอีกไม่กี่วิชาก็จะจบปีการศึกษาและเรียนจบปริญญาเสียที จงแดอดปลื้มใจแทนป้าเหม่ยกุ้ยไม่ได้ สำหรับตัวของจงแดเองก็อยากเรียนสูงๆเหมือนกันนะ แม่คงภูมิใจไม่น้อยถ้าหากเขาได้สวมชุดครุยสักครั้งในชีวิต แต่ไม่เป็นไรหรอก เพราะยังมีจูจินอีกคน น้องสาวของเขาจะเป็นตัวแทนคว้าใบปริญญามาให้แม่ภูมิใจจนได้ เขาเชื่อแบบนั้น
 “ไปห้างกันไหม”คนที่เพิ่งตื่นมาล้างหน้าแปรงฟันถาม จงแดไม่ได้อยากได้อะไรเพราะของใช้ต่างๆยังไม่หมด แต่ถ้าพี่อี้ชิงอยากไปเขาก็ไปได้ พอเห็นอีกคนไม่ขัดข้องอะไรอี้ชิงก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวนั้น บอกว่าไปหาอะไรกินกันที่ห้างเลยก็ดี เบื่อข้าวร้านเดิมแล้ว ใช้เงินกับอาหารแพงๆสักมื้อก็ดีเหมือนกัน
“ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นหรอก ฉันเลี้ยงก็ได้”อี้ชิงพูดเมื่อเห็นรจงแดหน้าเจื่อนไป ถึงจะมีเงินมากขึ้น สามารถซื้อของกินของใช้ตามใจนึกได้แต่เรื่องอาหารแพงๆนี่จงแดก็ยังคงไม่ยอมเปลืองเงินในจุดนี้ ในเมื่ออาหารข้างทางรสชาติและคุณภาพเท่ากันทำไมต้องกินในร้านแพงๆหรูๆด้วย
“ไม่เป็นไรครับ”จงแดปฏิเสธ บอกว่าถ้าสักครั้งในชีวิตยอมจ่ายก็ได้ เพราะพี่อี้ชิงต้องเก็บเงินไว้ช่วงรับปริญญา ไหนจะค่าชุดครุย ไหนจะค่าจิปาถะ แล้วยังต้องให้พ่อกับแม่อีก ยกเหตุผลมาสารพัดสารเพจนอี้ชิงต้องถอนหายใจออกมาอย่างยอมแพ้
“เป็นบ้างก็ได้นะจงแด...”อี้ชิงวางมือลงบนบ่าเล็กแล้วบีบเบาๆ เขาอยากให้อีกคนพูดว่าขอบคุณมากกว่าคำว่าไม่เป็นไรที่เจ้าตัวชอบพูดจริงๆ อยากให้จงแดลองเห็นแก่ตัวเสียบ้าง ทำเพื่อตัวเองบ้างและรักตัวเองให้เป็น
 มือเรียวเลื่อนไปวางบนกลุ่มผมสีน้ำตาลเข้มแล้วขยี้มันเล็กน้อย จงแดมีท่าทีแปลกใจเพราะแทบจะนับครั้งได้ที่อี้ชิงมีท่าทางเอ็นดูและอ่อนโยนแบบนี้ มือของพี่ชายที่วางบนหัวให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนเวลาแม่ทำตอนเขาเด็กๆ เหมือนเวลาป้าเหม่ยกุ้ยลูบหัวปลอบใจตอนตกงาน เหมือนสัมผัสของครอบครัว...
ความรู้สึกฟูฟ่องในใจของจงแดตอนนี้เขาไม่สามารถจะอธิบายมันได้ รู้แค่รู้สึกดีกับมืออุ่นๆข้างนี้จนอยากให้อี้ชิงวางมันบนหัวบ่อยๆ
“ขอบคุณครับพี่อี้ชิง”จงแดพูดพร้อมยิ้มเล็กๆที่มุมปาก ไม่ใช่ยิ้มที่พยายามจนดูเหมือนยิ้มโง่ๆเมื่อวาน อี้ชิงบอกให้อีกคนไปเปลี่ยนกางเกงจากกางเกงขาสั้นอยู่บ้านให้ดูดีกว่านี้สักหน่อย จงแดก้มมองเห็นกางเกงขาสั้นตัวเก่าที่ใส่ก็รีบกระวีกระวาดเอากางเกงเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำทันที อี้ชิงมองภาพเด็กที่ออกจากห้องน้ำมาพร้อมสีหน้าที่สดใสขึ้นเพราะรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปากนั้นยังไม่เลือนหายไป
แบบนี้สิ ค่อยเหมือนคิมจงแดคนเดิมขึ้นมาหน่อย...
บรรยากาศของเช้าเมื่อวานกับวันนี้ดูต่างกันลิบลับ เรื่องระหว่างทั้งสองคนก็ถือเป็นการซื้อบริการครั้งหนึ่งอย่างที่อี้ชิงว่า จงแดไม่ได้ลืมว่าคืนนั้นเขากับอี้ชิงทำอะไรกัน แต่แค่ไม่พยายามจำมันเท่านั้น คล้ายกับเรื่องของป๋ายเสียน จงแดก็ไม่ได้ลืมว่าเกิดอะไรขึ้น แค่หมอนั่นไม่ได้กลับมาทำร้ายกันอีกครั้ง เขาก็ไม่พยายามจำและใช้ชีวิตให้เหมือนปรกติไปเท่านั้นเอง

คนขาย
สรุปแล้วการไปห้างของอี้ชิงและจงแดลงเอยด้วยการที่หิ้วถุงขนมกลับห้อง อี้ชิงดูท่าจะชอบขนมอันนี้มากเพราะจงแดเห็นอีกคนซื้อมาถึงสามห่อใหญ่ เกทอบจะได้เวลาไปทำงานจงแดถึงได้ปลุกอี้ชิงที่กลับไปนอนอีกรอบให้ลุกขึ้นมาเตรียมตัว คนพี่บ่นอุบว่าอยากนอนต่ออีกสักหน่อย นานแล้วที่ไม่ได้นอนยาวๆแบบนี้ เพราะวุ่นวายแต่กับโปรเจ็คจบตลอดเวลา
พอลงจากรถมอเตอร์ไซค์ ความรู้สึกที่ไม่อยากทำงานเหมือนเมื่อวานก็เกิดขึ้นอีกครั้ง แต่มันก็ถูกลบหายไปด้วยชื่อของจูจิน พอจงแดคิดว่าทำเพื่อเงิน ทำเพื่อจะได้กลับบ้านก็พอมีแรงใจขึ้นมาบ้าง
“รอแขกในห้องก่อนนะลูก แขกมาช้าหน่อย”มาม่าซังเอ่ยบอกตอนที่พี่สาวหลายๆคนทยอยออกจากห้องแต่งตัวไปเริ่มทำงาน จงแดพยักหน้ารับ เข้าไปนั่งรอในห้องตามที่เจียนจี้ฟางบอก ไม่นานเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น จงแดมองคนที่เข้ามาใหม่จะพูดทักทายเพราะคิดว่าเป็นแขกแต่ทว่ากลับไม่ใช่ เป็นจื่อเทาที่ยืนอยู่หน้าประตูพร้อมอุปกรณ์เล็กน้อยในมือ
“อ้าว”คนมาใหม่อุทานขึ้นมา จื่อเทาถามว่าจงแดใช้ห้องนี้อยู่งั้นหรือ
“ฝักบัวมันเสียนะ พี่จะมาซ่อม แขกยังไม่มาใช่ไหม?”เสียงทุ้มเอ่ยถาม จงแดแค่พยักหน้าตอบคนตัวสูงก็เดินเข้าห้องน้ำไปซ่อมฝักบัว ไม่มีบทสนทาเกิดขึ้นอีก นี่เป็นครั้งแรกนับจากคืนวานที่พวกเขามีอะไรกัน ท่าทางของจื่อเทาดูปรกติดีเมื่อเจอจงแด แต่จงแดกลับค่อนข้างทำตัวไม่ถูก ตอนที่คนเป็นพี่ถามก็ควานหาเสียงตอบไม่ได้เลยทำได้แค่พยักหน้าเท่านั้น
เสียงก๊อกแก็กดังอยู่ไม่นาน คนที่มาซ่อมฝักบัวในห้องน้ำก็ออกมาพร้อมกับเครื่องมือ คงเสร็จเรียบร้อยแล้ว จื่อเทาเช็ดมือที่เปียกกับเสื้อ ระหว่างทั้งคู่มีแต่ความเงียบทั้งที่ปรกติแล้วจื่อเทามักจะชวนคุยก่อนเสมอ
“ฮึ่ม...”เสียงกระแอมเบาๆของจื่อเทาดังขึ้นเมื่อเห็นว่าระหว่างทั้งคู่ดูน่าอึดอัดพิกล ร่างสูงโปร่งเอนตัวพิงขอบประตูห้องน้ำก่อนจะหัวเราะออกมาน้อยๆ
“โอ้ย ทำตัวไม่ถูกว่ะ”จื่อเทาขยี้ผมตัวเอง ถอนหายใจออกมาเสียงดังแล้วเดินมาใช้มือสองข้างจับใบหน้าของจงแดเอาไว้ คนถูกทำแบบนั้นตกใจแต่ก่อนจะได้ถามว่าเป็นอะไรหัวที่ปกคลุมด้วยผมเส้นนิ่มก็ไหวโยกด้วยแรงจากมือหนาเสียก่อน
“ลืมไป ลืมไป ลืมไปให้หมด”เสียงทุ้มพูดมือยังไม่หยุดโยกหัวสวยไปมา จงแดจับมือที่โยกหัวตัวเองแล้วยื้อให้หยุด อาการเวียนหัวเข้าเล่นงานจนมึนไปหมด
“ปล่อยผมนะพี่เทา ปล่อย!! พอแล้ว!!”ร้องบอกเสียงสูง มือยื้ออีกคนสุดแรง ข่วนจิกเล็บลงบนเนื้อหนังคนตัวโตจนจื่อเทาต้องร้องลั่นละมือออกจากหัวคนเป็นน้องแทบจะทันที จงแดหัวหมุน หรี่ตาลงอย่างเวียนหัวก่อนจะร่วงลงไปนอนกับพื้นเตียง กุมหัวแน่นด้วยความมึนงง
“พี่เล่นอะไรเนี่ย”โอดครวญทั้งที่ยังคงไม่หายมึน พยายามลุกขึ้นมานั่งจนสำเร็จแต่ต้องเท้ามือกับพื้นเตียงไม่ให้พับลงไปอีกหน ดวงตาเรียวรีจ้องมองจื่อเทา อีกคนขยี้ผมเผ้าไม่เป็นทรง แต่เห็นว่าคนน้องทำหน้ายุ่งก็เข้ามาให้ จงแดหันหัวหนีมือที่ขยับวางบนกลุ่มผม แต่คราวนี้จื่อเทาไม่ได้โยกหัวของตนเองแรงๆแล้ว กลับลูบมันแล้วปากก็เอ่ยขอโทษ
“พี่ไม่รู้จะทำไงว่ะ บอกตรงๆยิ่งเห็นเรายิ่งคิดถึงคืนนั้น ห่าเอ้ย!!”ร่างสูงโวยวายเสียงดัง ยกมือขึ้นนวดขมับ ยอมรับว่าเปิดประตูมาเจอจงแดเขาก็ตกใจอยู่เหมือนกัน พยายามทำตัวปรกติแต่มันดูไม่ค่อยปรกติเท่าไหร่ ยิ่งเห็นคนตัวผอมยิ่งจำคืนนั้นได้แม่นยำ เขาไม่รู้จะมองหน้าเด็กนี่ยังไง ขนาดในคืนนั้นยังฉวยโอกาสออกมาจากห้องอี้ชิงตอนที่จงแดอยู่ในห้องน้ำเลย ไม่กล้าสู้หน้าจงแดเสียเท่าไหร่ เมื่อวานเขาก็ไม่หลบไม่เจอจงแด คงเพราะละอายเกินกว่าจะเจอหน้าเด็กนี่ได้
เขาพูดว่าเขารักจงแดเหมือนน้องชายคนหนึ่งแต่กลับทำเรื่องพรรค์นั้นกับเด็กนี่ แค่เพราะชุดที่จงแดใส่ มันยั่วจนอารมณ์เขาเตลิดเปิดเปิง แล้วยิ่งอีกคนไม่ได้ต่อต้านกลับให้ความร่วมมืออย่างดี จื่อเทาเลยไม่คิดจะหยุดตัวเองเลยในตอนนั้น
จงแดบอกว่าถ้าเป็นเรื่องคืนนั้นไม่ต้องคิดมากหรอก เพราะตนเองก็ต้องการเหมือนกัน ทั้งที่จะต่อต้านก็ย่อมได้แต่กลับโอนอ่อนเอง
“ได้ไงวะ พี่ก็รู้สึกผิดอยู่ดีล่ะ มันไม่ควรจะเกิดขึ้นเลย”จื่อเทาสบถ นึกเกลียดความชอบส่วนบุคคลแปลกๆอย่างหลงใหลในการแต่งกายด้วยกี่เพ้าสวยๆโดยเฉพาะลายลูกไม้ที่ตัวเองมี ตอนนั้นจงแดเองก็สวยมากจนเขาห้ามตัวเองไม่อยู่ อยากกอด อยากจูบอีกคนทั้งที่อีกคนเป็นน้องชาย
“ถ้าอย่างนั้นก็คิดว่าพี่ซื้อผมก็ได้ครับ ถือเป็นค่าอาหารมื้อนั้น มันออกจะแพง”จงแดเอาคำอี้ชิงมาพูดบอก แม้คำพูดว่าขายตัวแลกค่าอาหารนี้มันจะดูน่าสมเพชแค่ไหนก็ตามที และจื่อเทาก็คงรู้สึกเช่นกัน ชายหนุ่มถอนหายใจออกมา วางมือบนหัวของจงแดไว้แบบนั้น เขาเกือบพูดว่าอยากรับผิดชอบแต่ก็ไม่ได้พูด เพราะจงแดไม่ใช่ผู้หญิง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของเด็กหนุ่ม และเราก็ยินยอมทั้งสองฝ่าย เขาไม่ได้ข่มขืนจงแด ไม่จำเป็นต้องมารู้สึกเหมือนพรากบริสุทธิ์หญิงสาวแบบนี้ก็ได้
ขนาดคนที่เขาลงมือข่มขืนเขายังไม่เคยรู้สึกผิดต่อมันเลย...
“ให้มันผ่านมาแล้วก็ผ่านไปเถอะครับ จำไปก็รู้สึกแย่”จงแดพูด เห็นคนตัวเล็กท่าทีสบายๆจื่อเทาก็ว่าเอาแบบนั้นก็ได้ แต่จงแดไม่ต้องคิดว่าตัวเองขายตัวแลกอาหารมื้อแพง ไม่ต้องลดคุณค่าตัวเองลงด้วยความคิดแบบนั้น คิดเสียว่าฝันไปก็พอ
“นึกว่าเป็นฝันที่เหมือนจริงมากๆ ตอนนี้ตื่นละ ลืมละ โอเคไหมไอ้น้องชาย”จื่อเทาขยี้ผมคนน้องจนยุ่ง ได้ยินจงแดร้องอุทธรณ์ว่าผมเสียทรงไปหมดแล้ว เดี๋ยวลูกค้าก็ไม่ชอบใจกันพอดี จื่อเทาหัวเราะ ดึงแก้มตอบๆนั่นอย่างหมั่นไส้ บอกว่าใครๆก็เอ็นดูจงแดทั้งนั้นล่ะ ผมยุ่งๆนี่สิเซ็กซี่ดี จงแดไล่อีกคนออกจากห้องได้แล้ว มือเล็กสางผมเผ้าให้เข้าที่เข้าทาง จื่อเทาหยิบเครื่องมือของตน ไม่ลืมขยี้ผมน้องครั้งสุดท้ายก่อนออกจากห้อง หัวเราะลั่นที่จงแดแหวขึ้นมาเสียงสูง
เขาถอนหายใจก่อนจะยิ้มออกมาเมื่ออยู่หน้าประตูห้อง รู้สึกดีที่ระหว่างตนเองกับจงแดนั้นไม่มีอะไรค้างคาอีกต่อไป  เราควรจะลืมมันไปถ้าไม่อยากให้รู้สึกอึดอัดใจเวลาเจอกันอย่างที่จงแดว่านั่นล่ะ

คนขาย


จงแดลดมือที่จัดทรงผมตัวเองให้เข้าที่เข้าทางลง คนตัวผอมทิ้งตัวนอนราบไปกับพื้นเตียงแล้วหลับตา พรูลมหายใจออกมาหนักๆ เขารู้สึกเหนื่อยอย่างบอกไม่ถูก เหนื่อยกับเรื่องที่เกิดขึ้นและการที่ต้องมาจัดการความรู้สึกของตนเองรวมถึงของคนอื่นด้วย
เสียงประตูเปิดออกอีกครั้งทำให้คนที่นอนหลับตาอยู่กำมือเข้าหากันแน่น จงแดบอกตัวเองว่าทำงานได้แล้ว งานของเขามาจ่ออยู่ตรงหน้า เพื่อจูจิน เพื่อแม่ เพียงคิดแบบนั้นดวงตาก็ลืมขึ้นแล้วลุกนั่งได้อัตโนมัติ ชายหนุ่มที่ก้าวเข้ามาในห้องรูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาคมคายแต่บางมุมก็ดูนิ่มนวลอ่อนหวาน มีเสน่ห์ที่ดวงตากลมๆที่ดูเหมือนจะโตมากเกินไปนั่น จงแดลุกขึ้นยืนอย่างรู้งาน เขารับสูทที่อีกคนสวมอยู่ไปห้อยแขวนให้ ถามว่าจะอาบน้ำก่อนไหม หรือต้องการจะทำเลย
“ทำเลย แต่แค่อมให้ผมพอ”เขาบอก มือกว้างนั้นปลดเข็มขัดแล้วกางเกงสแล็คที่สวมอยู่อย่างรีบเร่ง จงแดงงเล็กน้อยแต่ก็ลดตัวลงนั่งคุกเข่าที่พื้นตามแรงที่ดันหัวลงแล้วอ้าปากรับส่วนนั้นเข้ามา กลิ่นเหงื่อคนที่ทำงานมาทั้งวันทำให้จงแดรู้สึกเหม็นแต่ก็ต้องยอมใช้ลิ้นกระหวัดเลียท่อนเนื้อนั้น
น้ำลายชโลมจนทั่วลำ แต่ไม่ว่าจะดูดดุนยังไงอวัยวะเพศของผู้ชายตรงหน้าก็ดูจะไม่มีปฏิกิริยาเลยสักนิด จงแดละปากออกมา ถามว่าใช้มือช่วยได้ไหม?
“ทำยังไงก็ได้ให้มันแข็ง”เขาบอก จงแดยืนขึ้น ผายมือเชิญให้อีกคนนอนลงที่เตียงจะสะดวกกว่า คนตัวผอมก้าวขึ้นไปคร่อมทับขาทั้งสองข้างของแขกตัวสูงเอาไว้ มือจับที่ท่อนเนื้อแล้วขยับรูด ลิ้นจรดลงที่ส่วนปลายที่น่าจะไวความรู้สึกกว่าที่อื่นๆ ขยับมือเน้นๆหลายครั้งแต่อะไรๆก็ไม่มีทีท่าจะแข็งขืนขึ้นสักนิดราวกับมันตายด้านไปแล้วอย่างนั้นล่ะ
“คุณชื่ออะไรครับ?”ถามเพื่อจะใช้เรียกชื่อของลูกค้าอย่างเอาใจ เสียงทุ้มตอบกลับมาว่าชื่อชานเลี่ย เรียกเขาว่าพู่ชานเลี่ยก็ได้ จงแดได้ยินแบบนั้นเสียงหวานจึงเรียกชื่ออีกคนเบาๆพร้อมพรมจูบไปที่เนื้อนิ่มซึ่งไม่มีทีท่าจะแข็งขืนขึ้นเลยสักนิด หรือว่าลูกค้าคนนี้มีจุดอื่นที่ต้องกระตุ้นเร้าจงแดก็ไม่อาจจะรู้ได้ เพราะอีกคนไม่แม้แต่จะคลายไทที่อยู่ตรงคอออก เพียงแค่เปลื้องกางเกงและให้จงแดจัดการเท่านั้น
การจะถามว่าอีกคนมีจุดกระสันที่ตรงไหนก็ดูเป็นการน่าเกลียด เขาขายตัว แน่ล่ะ ว่าเขาต้องรู้อยู่แล้วว่าจุดกระสันผู้ชายมันอยู่ตรงไหน ไม่หัวนมก็ตรงส่วนปลาย แต่นี้แม้จะเล่นกับส่วนปลายของอวัยวะเพศของชานเลี่ยยังไม่มันก็ไม่คิดจะต่อสู้เลยสักนิด และถ้ามันอยู่ที่หัวนม ชานเลี่ยก็ต้องปลดเสื้อออกเพื่อให้ส่วนนั้นถูกกระตุ้น คำตอบเดียวของเรื่องนี้คงเป็นตัวของชานเลี่ยเองที่ไม่มีอารมณ์ทางเพศ
ในทางกลับกัน เป็นจงแดเองที่เริ่มรู้สึกว่าอะไรที่กลางกายมันกำลังเปลี่ยนขนาดและรูปร่าง เขากำลังมีอารมณ์ แม้ชานเลี่ยจะไม่ได้รู้สึกอะไรเลยก็ตาม ความจุกแน่นแล่นขึ้นมาจากส่วนไวสัมผัสจนหยุดที่ท้องน้อย รู้สึกเหมือนอะไรบิดเกร็งอยู่ด้านใน จงละมือและปากออกมาแล้วถอดชุดที่สวมอยู่เชื่องช้า ยิ่งเนื้อผ้าเสียดสีจงแดยิ่งรู้สึกว่าขนเขากำลังลุกชัน
เนื้อตัวเปล่าเปลือยนั่งทับท่อนขายาวอีกครั้ง จงแดเกี่ยวกางเกงในออกจากสะโพก จงใจบดเบียดร่องระหว่างแก้มก้นทั้งสองไปบนเจ้าตัวน้อยที่ยังคงหลับสนิท ชานเลี่ยนอนหลับตา เขานิ่วหน้าเกร็ง รู้แก่ใจว่าเนื้อที่เบียดอยู่ตรงหน้าขานั้นทำให้รู้สึกดีแบบสุดๆ แต่กระนั้นมันก็ไม่อาจจะทำให้เขามีอารมณ์อย่างว่าขึ้นมาเลยสักนิดเดียว
“มันไม่แข็งตัวเลยใช่ไหมล่ะ?”เสียงทุ้มเอ่ยถาม ชานเลี่ยลืมตาขึ้นมา ผลักให้คนที่เขาซื้อบริการครั้งนี้ออกห่าง ใบหน้าหล่อเหลานั้นมีความหงุดหงิดปนอยู่ จงแดส่ายหัว เขาพยายามแล้วแต่มันก็ไม่แข็งเอาจริงๆอย่างที่ชานเลี่ยว่านั่นล่ะ คนตัวสูงพ่นลมหายใจออกมา ยกมือปิดหน้าตนเองอย่างจนปัญญาแล้วจริงๆ
“ผมเป็นโรคอีดี”ชานเลี่ยเอ่ย จงแดไม่เข้าใจว่าโรคที่ว่าเป็นอย่างไรแต่คิดว่าคงเป็นโรคที่ทำให้ส่วนนั้นไม่แข็งตัว เด็กหนุ่มเห็นใจคนที่มีสีหน้าย่ำแย่ ชานเลี่ยดูเครียดมากที่ไม่สามารถทำให้อวัยวะที่เคยขยันขันแข็งนั่นทำงานได้เหมือนเดิม
“คุณนี่น่าอิจฉานะ ทำให้ผมแท้ๆกลับตั้งเอง”คนตัวสูงว่า ยิ้มเยาะตัวเองที่ไอ้นั่นมันไม่เอาอย่างของคนตัวเล็กบ้าง ทว่าคนที่ฟังกลับไม่คิดแบบนั้นเลย คนตัวเล็กส่ายหัวพั่บ บอกว่าไม่จริงหรอก มันไม่ได้ดีอย่างที่ชานเลี่ยว่า เพราะจงแดรู้ดี ตอนนี้เขากำลังร้อนไปทั้งตัว จงแดพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆแต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย มือหนาของลูกค้าวันนี้จับลงที่แขนบอกว่าตนเองจะเป็นคนช่วยจงแดเอง ใบหน้าหล่อเหลานั่นยื่นมาใกล้เพียงลมหายใจชิดกันแต่เขากลับไม่ได้จูบ ชานเลี่ยเพียงผลักจงแดลงไปนอนกับพื้นเตียง ดึงชั้นในออกจากสิ่งที่กำลังดุนดันเหมือนอยากจะออกมานอกผืนผ้าเสียเต็มที
“ผมแต่งงานกับภรรยามาได้สองปีแล้ว แรกๆที่มีเซ็กส์กันผมไม่แปลกใจหรอกทำไมถึงหลั่งน้อย ใครมันจะไปสนใจว่าตัวเองแตกน้อยแตกมากกัน”ชานเลี่ยเปิดปากเล่าเรื่องของตัวเอง ในขณะที่มือของร่างสูงกำลังเขี่ยเจ้าแท่งเนื้อของจงแดไปมาอย่างนึกอิจฉาที่มันแข็งตัวได้ดี ชานเลี่ยไม่ได้สนใจหรอกว่าจงแดฟังเขาอยู่หรือเปล่า เขาแค่อยากระบายสิ่งที่ตัวเองกำลังเผชิญให้ใครสักคนฟัง
ชานเลี่ยเพิ่งรู้ตัวเองว่าเป็นโรคอีดี หรือโรคสมรรถภาพทางเพศเสื่อม หมอวินิจฉัยว่าเพราะปัญหาของหลอดเลือด มันส่งผลทำให้หลั่งได้น้อยมานานแล้ว จากนั้นก็เริ่มไม่แข็งตัว และสุดท้ายก็ไม่ตอบสนองอะไรเลย ชานเลี่ยไม่กล้าบอกภรรยา เห็นหล่อนมีความต้องการเขาก็ไม่สามารถตอบสนองหญิงสาวได้ ยิ่งได้ยินว่าเธออยากมีลูกเขายิ่งรู้สึกแย่ ความเครียดและกดดันทับถมทำให้อาการนกเขาไม่ขันที่เป็นมันแย่ลงทุกที
หมอแนะนำให้เขาเปลี่ยนบรรยากาศ ลองหาเซ็กส์แบบใหม่ที่น่าจะเร้าใจ ถ้าหากไม่สำเร็จอาจจะต้องพึ่งพาการผ่าตัดหรือใช้ยาช่วย แน่นอนว่าเขาไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น ถ้าผ่าตัดทุกคนจะรู้ว่าเขาเซ็กส์เสื่อม เพราะฉะนั้นการหาเซ็กส์ที่แปลกใหม่จึงเป็นวิธีที่เขาต้องลองทำ
...เช่นเซ็กส์กับผู้ชาย
มันไม่ได้แย่ เขารู้สึกดีไปกับมัน คนที่เขาซื้อบริการเป็นคนตัวเล็กสะอาดสะอ้านดี สัมผัสจากจินจงต้าแห่งบ้านดอกเหมยที่เลื่องชื่อก็นิ่มนวลแต่มันไม่ปลุกเร้าเขาสักนิดเดียว ชานเลี่ยได้แต่กุมขมับเมื่อสุดท้ายแล้วอาการโรคอีดีของเขามันคงไม่สามารถจะเยียวยาได้ คงต้องพึ่งการแพทย์เพียงเท่านั้น
“ฮ่ะ...”เสียงหวานๆของคนที่นอนแผ่ราบกับเตียงดังขึ้นเมื่อชานเลี่ยเร่งมือให้เร็วไปอีก เขาไม่ได้รังเกียจการมีอะไรกับผู้ชาย เขาเคยลองมาแล้วด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้เขาไม่แม้แต่จะนอกใจได้เพราะละอายต่อภรรยา เขาพยายามเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี ทำงานเก็บเงินเพื่อวันหนึ่งเราจะมีลูกสักสองคนให้พ่อกับแม่ได้อุ้มชูก่อนท่านเสีย แต่ทุกอย่างก็ชะงักไปหมดเพราะโรคบ้าๆที่เกิดกับตัวของชานเลี่ย
“เร็วอีกหน่อยได้ไหม”จงแดเอ่ยร้องขอ ซึ่งคนที่กำลังปรนเปรอให้ก็ตามใจด้วยกันสาวท่อนเนื้อนั้นเร็วขึ้นไปอีก ไม่นานเสียงกรีดร้องก็ดังลั่นและคราบขาวขุ่นนั้นทะลักออกมาเต็มมือของชานเลี่ย ร่างสูงมองดูปริมาณที่จงแดปลดปล่อยออกมาแล้วยิ่งรู้สึกแย่ เขาไม่เคยปล่อยได้มากขนาดนี้ด้วยซ้ำไป
“ขอบคุณสำหรับวันนี้แล้วกัน ฉันคงต้องพึ่งยาตามที่หมอแนะนำต่อไป”คนตัวสูงลงจากเตียง เข้าไปล้างมือในห้องน้ำแล้วออกมาคว้าชั้นในและกางเกงใส่ คนที่เขาซื้อบริการแต่กลับต้องมาบริการคนนั้นเสียเองยังนอนตาปรืออยู่บนเตียง ความเครียดเรื่องที่หมดสมรรถภาพทางเพศมันทำให้เขาไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าสายตาที่ปรือปรอยของจงแดนั้นกำลังเรียกร้องต้องการอะไรต่อไปจากนี้ ชานเลี่ยสวมสูททับลงบนร่าง เอ่ยลาแล้วออกจากห้องไป ทิ้งให้จงดีที่พยุงตัวขึ้นมานั่งนั้นมองตามตาวาววาม
มือเล็กแตะลงบนจุดน้ำรักที่หยดเกลื่อนบนหน้าท้อง ขยับแยกขาออกกว้างก่อนใช้นิ้วเปื้อนคราบเหนียวนั้นสอดเข้าไปในร่างของตัวเองเหมือนคนไม่ได้สติ จากหนึ่งเป็นสอง และจากสองเป็นสาม ตอนนี้เด็กหนุ่มแค่อยากมีอะไรก็ตามยัดเข้ามา ขยับเข้าออกอยู่ในก้นของตัวเอง เสียดสีผนังสองข้างให้ร้อนระอุ พยายามบอกตัวเองว่าอย่า อย่าทำแบบนี้...
ไม่อยากกลายเป็นคิมจงแดที่กระหายร่านเซ็กส์เหมือนครั้งที่แล้วๆมา...
“ฮ๊า!!!”จงแดกรีดร้องเสียงลั่น กระชากนิ้วทั้งสามที่อยู่ในตัวออกมา มืออีกข้างจิกทึ้งผ้าปูเตียงแน่นจนแทบขาด ส่วนมือที่เปรอะเปื้อนไปด้วยสารคัดหลังซึ่งร่างกายขับออกมาจากความต้องการทางเพศนั้นถูกยกขึ้นทึ้งผมตัวเองแรงๆ คนตัวเล็กยันตัวเองขึ้นจากเตียงอย่างยากลำบาก เขาไม่รู้ว่าทำไมมันถึงไม่พอ ปลดปล่อยแล้วแต่มันยังไม่พอ เขาต้องการมากกว่าแค่นั้น อยากได้มากกว่านั้น
“อ่ะ!”ขาทั้งสองข้างมันสั่นระริกพอๆกับช่องทาด้านหลังของตัวเองที่เต้นตุบๆ จงแดกัดปากแน่น พยายามลงจากเตียงไปเข้าห้องน้ำ หวังจะให้น้ำเย็นๆดับอารมณ์ร้อนวูบวาบที่กำลังเกิดขึ้น มือบางหมุนบิดวาลว์ให้น้ำเย็นจัดไหลลงปะทะใบหน้า ไหลลงตามร่างกายที่ร้อนรุ่มในตอนนี้ จงแดทรุดตัวลงบนพื้นกระเบื้องยางเปียกๆ ปล่อยให้สายตาไหลลงมาใส่หัว กัดฟันข่มความต้องการเอาไว้
สายน้ำเย็นๆช่วยให้ความต้องการนั้นลดลงอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แค่ทีละน้อยเท่านั้น ทว่ามันก็ยังดีกว่าการที่จงแดมีอาการต้องการพุ่งสูงแบบนั้น เขามีแค่ความรู้สึกอยากได้ไอ้นั่นของใครสักคนเข้ามาใจจะขาด โชคดีที่จื่อเทามาซ่อมฝักบัวในห้องน้ำเสียก่อน ไม่อย่างนั้นเขาไม่อยากจะคิดว่าตัวเองจะเป็นสภาพแบบไหน
น้ำตาร้อนๆไหลลงจากหางตาปะปนไปกับน้ำจากฝักบัว จงแดชักขาขึ้นมากอดติดกับหน้าอก ซบหน้าลงบนเข่าของตัวเองแล้วปล่อยเสียงสะอื้นออกมาในที่สุด
เขาเกลียดตัวเองอีกแล้ว เขาเกลียดที่เป็นแบบนี้ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไมถึงต้องการขนาดนี้...
เสียงน้ำกระทบกระเบื้องยางมันไม่ได้ดังมากมายแต่จงแดกลับรู้สึกว่าหูเขากำลังอื้อ  กระบอกตานั้นร้อนผ่าวแล้วส่งหยดน้ำใสไหลลงมาเรื่อยๆ ที่ช่องทางด้านหลังยังคงเต้นตุบแม้จะเบาลงแล้วก็ตามที ความปวดจี๊ดอยู่ดีๆก็แล่นมาที่หัว จงแดยกมือกุมหัวตัวเองแน่น ยิ่งร้องไห้สะอึกสะอื้นมากเท่าไหร่ก็ยิ่งจะปวดมากขึ้นเท่านั้น คนตัวเล็กล้มตัวลงนอนบนพื้นกระเบื้องยาง คุดคู้ตัวเหมือนหนอนในดักแด้ ดึงทึ้งผมไม่หยุด แม้มันจะทำให้ยิ่งปวดจี๊ดที่กลางหน้าผากก็ตามที เพราะมันดีที่อย่างน้องเขาก็ลืมความต้องการทางเพศของตัวเองไปจนหมดสิ้นในเวลานี้

คนขาย

ไม่บ่อยนักที่เซฮุนจะมาเดินเพ่นพ่านส่วนห้องรับรองแขก เขาไม่อยากเจอกับหลานชายของเจียนจี้ฟางสักเท่าไหร่ แม้จะแปลกใจที่สองสามวันนี้จื่อเทาไม่มาหาเรื่องกันอีกเลย หมอนั่นไม่แม้จะชายตามามองที่เซฮุน แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เขาก็ไม่อยากจะเห็นมันในสายตาเหมือนกันนั่นล่ะ
ห้องรับรองแขกของบ้านดอกเหมยมีหลายห้อง ลูกๆของมาม่าซังจะใช้ห้องไหนก็ได้ แต่ถ้าเป็นพวกที่มีแขกประจำๆก็มักจะใช้ห้องเดิมๆซ้ำๆเพื่อสะดวกในการรอแขกหรือให้แขกมารอ เซฮุนไล่มองห้องที่เรียงรายเพื่อหาห้องว่างสำหรับรับรองแขกคนสำคัญ จะเป็นใครไปเสียอีกนอกจากคนที่จะมาร่วมหุ้นขยายร้านกับเจียนจี้ฟาง วันนี้มาแค่คนเดียว เซฮุนคิดว่าโชคดีแล้วถ้าหากไอ้คนที่มองเขากะลิ้มกะเหลี่ยมันมาอีกเขาคงไม่มีทางมานั่งฟังจี้ฟางคุยกับพวกมันแน่ๆ
น่าแปลกใจที่มีห้องหนึ่งประตูไม่ได้ปิดสนิท เขาเห็นแสงไฟในห้องลอดออกมาจากรอยแง้มของบานประตู ถ้าจำไม่ผิดห้องนี้เป็นห้องที่ไอ้เด็กเกาหลีนั่นจะใช้ประจำ เซฮุนไม่แน่ใจว่าเด็กนั่นบริการแขกเสร็จแล้วหรือกำลังให้การบริการอยู่ แต่เมื่อขยับเข้าใกล้บานประตูก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรที่บอกว่าเด็กนั่นทำงานอยู่สักนิด
เขาผลักบานประตูเข้าไปเมื่อแน่ใจว่าจงแดไม่ได้รับแขกอยู่ สภาพด้านในปรกติดี มีเตียงที่ดูรู้ว่าผ่านการทำอะไรบนนั้นมา เซฮุนขมวดคิ้วฉับ หยิบกี่เพ้าสีแดงสดที่วางอยู่บนพื้นขึ้นมาดู ทรวดทรงของกี่เพ้าตัวนี้ทำให้รู้ว่าเป็นของจงแดอย่างไม่ต้องสงสัย เสียงน้ำจากในห้องน้ำบอกได้ว่ามีคนอยู่ในนั้น และนอนว่าต้องเป็นจงแดแน่ๆ เพราะไม่มีเสื้อผ้าหรือของอย่างอื่นของแขกหลงเหลืออยู่เลย เซฮุนวางกี่เพ้าสีแดงสดลงบนเตียงที่ยับยู่ เขาเดินออกไปบอกให้การ์ดเรียกคนมาทำความสะอาดห้องนี้เพื่อรองรับแขกของมาม่าซัง อีกสิบนาทีจงแดก็คงออกจากห้องน้ำ
“แต่แขกห้องนั้นออกไปตั้งนานแล้วนะ ปรกติจงต้าจะไม่อยู่ในห้องหลังแขกออกไปนานขนาดนี้หรอก”การ์ดร่างสูงใหญ่บอก เห็นแขกออกจากห้องไปกับตา ปรกติแล้วจินจงต้าจะออกจากห้องก่อนหรือหลังแขกไม่นาน แต่วันนี้ล่ะที่ยังไม่เห็นเด็กผู้ชายตัวเล็กๆนั่นออกมาจากห้องเสียที เซฮุนบอกให้การ์ดคนนั้นไปเรียกคนมาทำความสะอาดเถอะ เดี๋ยวเขาจะเข้าไปดูเด็กนั่นเอง ไม่แน่อาจจะเพลียจนนอนพักนานไปหน่อยก็ได้
เสียงน้ำในห้องน้ำยังคงดังอยู่ น่าแปลกใจที่มันดังเป็นจังหวะเดียว เหมือนน้ำจากฝักบัวแค่ร่วงลงมากระทบพื้น ไม่มีใครเคลื่อนไหวอยู่ใต้สายน้ำนั้น
“คิมจงแด”เขาลองเรียกดูแต่ไม่มีใครตอบกลับมา เซฮุนขมวดคิ้วมุ่น ลองเรียกอีกครั้งก็ยังเป็นเหมือนเดิม ทั้งที่เด็กนั่นน่าจะลุกลี้ลุกลนตอบรับแท้ๆ ในใจของเซฮุนเริ่มรู้สึกไม่ดี ถึงจะไม่ได้ชอบจงแดเท่าไหร่เพราะอีกคนมาวุ่นวายกับชีวิตของเขาแต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเกิดอุบัติเหตุอยู่ในห้องน้ำไปแล้วหรือ?
มือเรียวจับลูกบิดประตูห้องน้ำดูพบว่ามันไม่ได้ถูกล็อกเอาไว้ เขาเปิดเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว ทว่าเพียงเห็นภาพตรงหน้าก็ต้องอุทานเรียกชื่อของจงแดดังลั่น
“เฮ้ย! คิมจงแด เป็นอะไรไป!”เซฮุนเรียกอีกฝ่ายที่แน่นิ่งอยู่ที่พื้น เนื้อตัวของจงแดเปล่าเปลือย ดวงตาทั้งสองข้างปิดสนิท คิมจงแดไม่มีสติหลงเหลือตอนที่เซฮุนถลันเข้าไปหาและเขย่าเรียก ความเย็นชืดจากร่างกายสีซีดเพราะแช่อยู่ในน้ำมานานทำให้เซฮุนใจหายวาบ พยายามเขย่าเรียกสติแต่ดูทีท่าว่าจะไม่ได้เรื่องเลยสักนิด
เขาวิ่งออกไปคว้าผ้าห่มบนเตียงมาคลุมร่างเปียกโชกเอาไว้ พอดีกับการ์ดที่ไปตามคนทำความสะอาดกลับมาพอดี ร่างสูงใหญ่ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เนื้อตัวเซฮุนเปียกพอๆกับคนที่เจ้าตัวอุ้มออกมาจากห้องน้ำ เซฮุนไม่บอกอะไรนอกจากให้ไปหยิบกุญแจรถของเขาที่ห้องจี้ฟางมา เขาจะพาจงแดไปหาหมอ ดูอาการถ้าแค่ปฐมพยาบาลเองคงไม่รอด เพราะเขาแทบไม่เห็นหน้าอกบางๆนี่ขยับขึ้นลงตามจังหวะหายใจเลยสักนิด
ทุกคนที่เห็นเซฮุนอุ้มจงแดออกมาจากห้องดูตกใจ รวมถึงมาม่าซังด้วย หล่อนไม่ทันจะได้ถามอะไรแต่เซฮุนก็พาจงแดออกทางหลังร้านไปแล้ว จะตามไปก็ไม่ได้เมื่อแขกของหล่อนคว้าแขนเอาไว้แล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้น อี้ชิงวิ่งลงจากเวทีมาแต่ไม่ทัน เห็นแค่ไฟท้ายของรถเซฮุนที่ขับออกไปเท่านั้น
“เกิดอะไรขึ้นวะ”จื่อเทาถาม ชายหนุ่มออกมาสูบบุหรี่ เห็นเซฮุนอุ้มจงแดออกมา เขาจะเข้าไปถามแต่ก็ไม่ทัน พอไฟท้ายรถคันสวยลับไปทุกคนก็กรูกันออกมาแบบนี้ อี้ชิงส่ายหัวเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เห็นทุกคนแตกตื่นและคนที่อยู่ในอ้อมแขนคือจงแดเท่านั้น
“จงต้าสลบอยู่ในห้องน้ำครับ คุณซื่อชุนไปเห็น ตอนนี้คงกำลังไปโรงพยาบาล”การ์ดร่างสูงที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดบอก ได้ยินแบบนั้นจื่อเทาเลยจะตามไปที่โรงพยาบาล อี้ชิงเองก็ด้วย มาม่าซังที่เพิ่งจะเคลียกับแขกและลูกค้าคนอื่นๆที่เห็นทุกอย่างได้ออกมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น พอรู้ว่าปัญหาเกิดกับจงแดอีกแล้วหล่อนก็แทบอยากจะทิ้งตัวลงสลบไปด้วยคน
“แล้วนี่จื่อเทากับอาอี้ตามไปดูเหรอ?”จี้ฟางถาม ดึงพัดจีนอันเล็กที่เหน็บอยู่ข้างกี่เพ้าตัวสวยขึ้นมาโบกลมใส่หน้า บอกว่าถ้ามีคนตามไปดูแล้วก็กลับไปทำงานตามปรกติ แล้วก็ดูแลลูกค้าที่ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดด้วย ส่วนหล่อนจะไปพักสักครึ่งชั่วโมง การเจรจากับว่าที่ผู้ร่วมลงทุนวันนี้ก็ค่อนข้างไม่ราบรื่น อีกฝ่ายพูดทำนองว่าอยากขอมีปฏิสัมพันธ์กับเซฮุนให้มากกว่านี้ ทำไมจี้ฟางจะไม่เข้าใจคำพูดนั้น หล่อนก็เห็นว่ามีคนหนึ่งที่สนใจในตัวเซฮุน แล้วหล่อนจะทำยังไงได้ล่ะ นั่นเป็นผู้ชายของหล่อนเอง ถึงจะไม่ใช่ เซฮุนก็ไม่มีทางสนใจผู้ชายด้วยกันเองหรอก หล่อนรู้ดี
ยังจำแววตาที่มองจื่อเทาด้วยความจงเกลียดจงชังได้ดี สภาพของเซฮุนในตอนนั้นพูดได้คำเดียวว่าเละ จี้ฟางหวีดเสียงลั่นตอนเห็นเซฮุนนอนหมดสภาพอยู่หลังร้านพร้อมตัวการอย่างจื่อเทาที่สูบบุหรี่อยู่ไม่ไกล หล่อนถามหลานชายว่ามันเกิดอะไรขึ้น จื่อเทายักไหล่ ท่าทางไม่แยแสกับสิ่งที่ตัวเองทำด้วยซ้ำ หลานชายของเขาบอกว่าเห็นเซฮุนเล่นยา พอเขาบอกว่าจะฟ้องมาม่าซังไอ้คนเกาหลีก็จะทำร้ายร่างกายกัน อารมณ์คนเมา หลานชายของจี้ฟางบอกว่าสติไม่มี คิดแค่จะสั่งสอนคนที่แว้งกัดเอาให้หนักๆ สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการข่มขืนโอเซฮุนจนยับเยินแบบนั้น
จากนั้นมาเซฮุนก็แทบจะเหมือนศัตรูกับจื่อเทา การที่จี้ฟางให้เด็กเกาหลีคนนี้มาเป็นผู้ชายของหล่อนทีแรกก็แค่รู้สึกผิดแทนหลานชาย เพราะจื่อเทาไม่มีความคิดที่จะสำนึกในสิ่งที่ทำเลยสักนิด ไอ้หลานบ้านั่นคิดแค่เพราะเซฮุนทำตัวเอง ถ้าไม่คิดจะทำร้ายก่อนก็ไม่ถูกทำร้ายกลับ แต่พอมีเซฮุนอยู่ข้างๆกายแล้วจี้ฟางก็รู้สึกสบายใจดี อีกคนคอยรับฟังเวลาหล่อนมีปัญหาต่างๆ เซ็กส์ของเซฮุนก็เติมเต็มให้ได้ มาม่าซังคนนี้ไม่คิดว่าการที่เซฮุนนั่งกินนอนกินใช้เงินของหล่อนเป็นนิสัยของแมงดาอย่างที่จื่อเทาว่า หล่อนมองแค่ว่าหล่อนจ่ายเงินซื้อความสุขทางกายและใจจากเซฮุน
...ฟังแล้วไม่ต่างจากการขายตัวเลยนะ...
เห็นทีว่าการขยับขยายร้านในครั้งนี้คงมีปัญหาเพราะจี้ฟางต้องขาดผู้ร่วมลงทุนรายใหญ่ไปเสียแล้ว แต่ก็ไม่เป็นไร การที่หล่อนจะต้องเลือกระหว่างเสียผลประโยชน์ที่มันหาใหม่จากที่ไหนก็ได้ กับเสียโอเซฮุน หล่อนเลือกที่จะเสียผลประโยชน์พวกนั้นและเก็บโอเซฮุนเอาไว้...

คนขาย

อี้ชิงมองร่างผอมบางที่นอนอยู่บนเตียงของโรงพยาบาล ตอนนี้จงแดสวมชุดคนไข้สีขาวยิ่งทำให้ใบหน้าซูบซีดนั้นไร้สีสัน จื่อเทานั่งอยู่ที่โซฟาส่วนเซฮุนพอพาจงแดมาส่งโรงพยาบาลแล้วก็กลับไป อี้ชิงถามหมอถึงอาการของจงแดแล้ว ได้รับคำตอบว่าอาการของจงแดมีไข้และมีอาการปอดชื้นเพราะแช่ในน้ำเป็นเวลานาน ส่วนคนป่วยยังคงไม่ฟื้น
“แล้วไอ้นั่นมันบอกมึงไหมว่าจงแดเป็นอะไร”จื่อเทาถาม ใช้สรรพนามไอ้นั่นหมายถึงเซฮุน อี้ชิงส่ายหน้า เซฮุนบอกแค่เจอจงแดนอนเปลือนอยู่ในห้องน้ำหลังจากรับแขก ดูจากผิวที่ซีดขาวก็เดาได้ว่านอนแบบนั้นมาหลายชั่วโมงแล้วแน่ๆ ยังดีที่ไม่เกิดอาการช็อค แต่ก็ไม่แน่ใจถ้าเซฮุนเข้าไปเจอช้ากว่านี้จงแดจะเป็นยังไง
“ฮึ่..”เสียงเบาๆจากเตียงคนไข้ดังขึ้น อี้ชิงเดินไปดูคนที่ขยับตัวน้อยๆ มือเรียวจับแขนผอมบาง เรียกชื่อจงแดซ้ำๆหลายๆครั้ง จื่อเทาเห็นคนเป็นน้องขยับตัวก็ลุกขึ้นไปตามหมอทันที
“จงแด ได้ยินฉันไหม?”อี้ชิงถาม เห็นเปลือกตาสีซีดขยับแล้วค่อยๆลืมขึ้นช้าๆ ใบหน้าของจงแดดูเหยเก ดวงตาเรียวรีมองไปทางซ้ายและเลื่อนมาทางขวาเหมือนกำลังสงสัยว่าที่นี่เป็นที่ไหน อี้ชิงจับมือน้องบอกว่าที่นี่โรงพยาบาล จงแดสลบไปในห้องน้ำ
“ไม่ต้องพูดมาก นอนไปก่อน ไอ้เทามันไปตามหมอเดี๋ยวก็คงมาดูอาการให้”อี้ชิงเอ่ยบอก รอไม่นานหมอก็มาถึงพร้อมจื่อเทา แพทย์สูงวัยตรวจอาการแล้วถามว่าตอนนี้จงแดรู้สึกยังไง คนตัวเล็กบอกแค่เจ็บคอ ปวดเนื้อปวดตัวและเจ็บหน้าอกเล็กน้อย อาการไม่มีอะไรผิดปรกติ พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสักสองถึงสามวันเพื่อรอดูอาการจากนั้นก็คงกลับบ้านได้
“เล่ามาได้หรือเปล่าว่าเกิดอะไรขึ้น”อี้ชิงถามเมื่อหมอออกจากห้องไปแล้ว จื่อเทาขยับมายืนที่ข้างเตียงด้วยอีกคน เหมือนเป็นการกดดันให้จงแดพูดออกมา คนตัวเล็กก้มหน้าลง ส่ายหัวไม่อยากเล่ามันออกมา นึกสมเพชตัวเองกับอาการของคนมีความต้องการทางเพศที่สูงและรุนแรงนี้ มันมากขึ้นทุกทีจนแทบไม่รู้ว่าจะหยุดมันได้ยังไง
“นายกำลังสร้างภาระให้ฉัน ให้ทุกคน ฉันไม่คิดว่าแค่บริการแขกคนเดียวจะทำให้สลบได้หรอก รู้ไหมว่ามาม่าซังเดือดร้อนเพราะแขกตกใจกันทั้งร้าน จื่อเทากับฉันต้องมานั่งเฝ้านายแบบนี้ พนักงานคนอื่นก็เป็นห่วงนายกันไปหมด...”อี้ชิงพูดไม่สนใจว่าอีกคนจะคิดมากกับคำพูดจาตรงๆแรงๆของเขา เขาเบื่อกับการที่จงแดไม่เคยรักตัวเองเต็มทน เด็กนี่ควรพูดออกมาบ้างว่าตัวเองเป็นอะไร ไม่ใช่เก็บปัญหาเอาไว้กับตัวแบบนี้
จื่อเทาแตะบ่าเพื่อนให้เย็นลงก่อน เห็นจงแดไหล่ไหว น้ำตาร่วงเผาะลงมาข้างแก้มก็นึกสงสาร แต่ก็จริงอย่างที่อี้ชิงพูดนั่นล่ะ ชายหนุ่มจับมือของจงแดเอาไว้ ถามซ้ำคำถามเดิมของอี้ชิงว่าเล่ามาได้หรือเปล่า เกิดอะไรขึ้นกับจงแด
“เล่าให้พี่ฟังเถอะจงแด”จื่อเทาพูด เสียงของคนเป็นพี่นั้นดูเป็นห่วงอย่างฟังได้ชัดเจน จงแดเงยหน้านองน้ำตาขึ้นมามองพี่ชายทั้งสองคน แม้อี้ชิงจะมีสีหน้าหงุดหงิดใจแต่จงแดก็รู้ว่าอีกคนก็เป็นห่วงเขาเช่นกัน มือที่จับกับมือของจื่อเทาบีบแน่น ก่อนที่จะกล้ำกลืนพูดมันออกมา
“พี่ครับ...ผมเป็นอะไรก็ไม่รู้”จงแดเสียงสั่น เขารู้ตัวเองดี น้ำตาร้อนๆยังคงไหลลงมา รสเค็มปร่าของมันสัมผัสที่ริมฝีปาก ภาพที่ต้องเองมีความต้องการจนดันนิ้วมือเข้าไปในร่างเพื่อช่วยตัวเองไหลย้อนเข้ามาในสมอง คนตัวเล็กสะอื้นฮั่ก ภาพที่โยกขย่มอยู่บนร่างของแขกตอกย้ำทำให้ยิ่งเกลียดตัวเอง ภาพที่มีอะไรกับจื่อเทาและอี้ชิงยิ่งโถมทับความน่าอดสูแก่จงแดจนแทบจะไม่มีพื้นที่ให้หายใจได้ เจ็บปวดที่สุดคือการที่ร้องเร่าๆทั้งที่โดนเปี้ยนป๋ายเสียนใช้กำลังข่มขืน
ร่างกายน่าสมเพชนี้มันตอบสนองและต้องการเซ็กส์อย่างไม่รู้จักพอ...
จื่อเทาโอบคนที่สั่นทั้งตัวเอาไว้ เสียงร้องไห้ของจงแดดังท่ามกลางความเงียบของทั้งจื่อเทาและอี้ชิง ริมฝีปากสีสดค่อยๆขยับเล่าทั้งที่เสียงนั้นฟังแทบไม่รู้เรื่อง
“เขาข่มขืน...วันนั้นผมโดนข่มขืน”จงแดพูดประโยคที่จื่อเทาไม่เข้าใจความหมายสักนิด แต่อี้ชิงรู้มันแก่ใจ จงแดบอกว่าวันนั้นในห้อง เขาไม่ได้พาใครมา มือเล็กจิกเล็บเข้ากับมือของจื่อเทาเมื่อพูดมันออกมา เล่า...ว่าเปี้ยนป๋ายเสียนข่มขืนตนเอง พูดว่าท่อนเนื้อกระแทกเข้ามาในคอจนเจ็บ จงแดจิกเล็บแน่นเข้าไปอีก เขากลัว เขาเจ็บ เขาไม่มีทางหนี แต่ที่น่าสมเพชคือเขามีอารมณ์ไปกับมัน
อี้ชิงมีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาจำได้ดีว่าวันนั้นเขาไม่ได้รับฟังว่าจงแดมีคำอธิบายยังไง เขาคิดว่าเด็กคนนี้พาแขกมาซื้อบริการที่ห้องพัก ความจริงที่ออกมาจากปากของจงแดเหมือนมีดปลายแหลมที่พุ่งเข้าปักตรงกลางหน้าอกของชายหนุ่ม เสียงร้องไห้ของจงแดเหมือนมือที่กำด้ามมีดแล้วดันมันให้ลึกลงไปกับสิ่งที่อี้ชิงเพิ่งประจักษ์
“จากนั้นมาก็เป็นอะไรไม่รู้ ผมอยากทำมัน ผมยอมทุกอย่างแค่ได้เอาไอ้นั่นเข้ามาในตัวเอง ผมยอมนอนกับใครก็ได้แม้แต่พวกพี่เอง ผม...ผมเป็นอะไร อ๊าก!!”เสียงเจือสะอื้นนั้นพรั่งพรูทุกสิ่งที่อยู่ในใจออกมา มืออีกข้างที่ไม่ได้จับกับจื่อเทายกขึ้นมาจิกผมตัวเองแน่น อี้ชิงตกใจเบิกตากว้างจับให้คนที่ร้องโวยวายลงนอนกับเตียงคนไข้ จื่อเทาช่วยตรึงเอาไว้อีกแรง แต่ดูเหมือนคนที่เข้าอาการคุ้มคลั่งจะมีแรงมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หมอและพยายาบาลกรูเข้ามาในห้องเพราะเสียงโวยวาย แพทย์สูงวัยสั่งให้พยาบาลสาวเตรียมยานอนหลับสำหรับฉีดให้ในทันที
บุรุษพยาบาลเข้ามาจับตัวของจงแดเอาไว้ทั้งที่ร่างผอมบางดิ้นปัดไม่ยินยอม เสียงกรีดร้องเหมือนคนบ้าดังสนั่น อี้ชิงและจื่อเทาขยับถอยออกมาตามแรงกั้นของพยาบาล ทั้งคู่มองดูภาพที่จงแดดิ้นทุรนทุรายอยู่บนเตียง หมอและพยาบาลพยามจับตรึงร่างเล็กเอาไว้และฉีดานอนหลับเข้าไปที่แขน ไม่นานร่างที่ดิ้นรนก็เริ่มอ่อนเปลี่ยและสงบลง เปลือกตาของจงแดค่อยๆปิดลงทีละน้อย แม้กำลังจะหลับไปเสียงสะอื้นก็ยังคงดังอยู่ และน้ำตานั้นไหลลงมาแม้ดวงตานั้นจะถูกเปลือกตาทาบทับจนสนิทแล้วก็ตาม...
จื่อเทามองเพื่อนที่ยืนอยู่ไม่ไกล เขาได้ยินที่จงแดพูด ชายหนุ่มเรียกชื่อเพื่อนสนิทก่อนจะเอ่ยถามออกมา...

“มึงก็นอนกับจงแดเหมือนกันใช่ไหม...”


คนขาย


“ลักษณะอาการคล้ายนีมโฟมาเนียครับ เป็นโรคที่ผู้ป่วยมีความต้องการทางเพศสูง อาจจะเกิดจากการทำงานผิดปรกติของสมอง แต่ถ้าพวกคุณบอกว่าเขาไม่เคยมีอาการแบบนี้มาก่อนไม่แน่อาจจะไม่ได้เป็นโรคนีมโฟมาเนีย แต่อาจเกิดความผิดปรกติทางจิตก็ได้”หมอที่เข้ามาตรวจดูอาการของจงแดเอ่ยบอกหลังจากที่อี้ชิงสอบถามถึงอาการของคนตัวเล็ก แพทย์สูงวัยขยายความถึงการได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจจากการมีเซ็กส์ประมาณนั้น อาจส่งผลให้คนไข้มีความคิดที่แปลกๆ อย่างเช่นอยากจะมีเซ็กส์บ่อยขึ้น หรือเกิดอารมณ์ทางเพศได้ง่ายมากขึ้น
“เขาจะหายไหม?”อี้ชิงถาม มองคนที่ยังไม่ฟื้นจากยานอนหลับแล้วได้แต่หนักใจ เขาไม่คิดว่าจงแดจะมีอาการแบบนี้ เด็กนี้เหมือนปรกติทุกอย่าง อาจจะเพราะว่าปรกติเกินไป เพราะจงแดไม่เคยบอก
...หรือบางทีเด็กนั่นก็ไม่มีโอกาสบอก...
อี้ชิงถามตัวเองว่าถ้าเขาถามเอาคำอธิบายเรื่องวันนั้นกับจงแด ให้เด็กนั่นได้พูดระบายออกมา มันจะลงเอยเหมือนตอนนี้หรือเปล่า ไม่อาจจะรู้ได้เลย...
“คงต้องดูอาการให้แน่ชัดว่าเป็นเพราะอะไรถึงจะให้คำตอบได้น่ะ หมอขอตัวก่อนนะครับ”แพทย์สูงวัยบอกก่อนเดินออกจากห้องไป อี้ชิงยกมือขึ้นลูบหน้า ตอนนี้จื่อเทากลับร้านไปแล้ว มีแค่เขาคนเดียวที่เฝ้าจงแด อี้ชิงไม่ได้พูดเรื่องที่จงแดมีอะไรกับจื่อเทา เขาคิดว่ามันคงเหมือนเหตุการณ์ระหว่างเขากับเด็กนั่น จงแดเป็นโรค และไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ อย่างที่คนตัวเล็กบอกว่าจงแดเองยอมนอนกับใครก็ได้ แม้แต่พวกเขาเอง...
เมื่อแน่ใจว่าจงแดจะหลับถึงเช้าตามคำบอกของนางพยาบาลอี้ชิงก็กลับหอเพื่อพักผ่อน และกลับมาอีกทีในช่วงเช้า เขาถามกับพยาบาลว่าจงแดตื่นขึ้นมาบ้างหรือยังเธอก็ตอบว่าคนไข้ฟื้นแล้วและตอนนี้ก็ยังตื่นอยู่ อี้ชิงขอบคุณเธอแล้วบิดประตูห้องพักผู้ป่วยเข้าไป บนเตียงคนไข้มีร่างผอมบางนอนอยู่ เสียงทีวีในห้องถูกเปิดเอาไว้ อี้ชิงค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ ในใจก็กลัวว่าจงแดถ้าเห็นเขาจะมีอาการแบบเมื่อวานหรือเปล่า แต่ก็ไม่มี
คิมจงแดทำเพียงจ้องมองไปยังทีวีที่เปิดเอาไว้ เมื่อเขาไปยืนที่ข้างเตียงเด็กนั่นถึงรับรู้การมาของอี้ชิง จงแดหันมามองถามว่ามาแล้วเหรอ? เขาครางตอบในลำคอ ถามว่าจงแดกินข้าวหรือยังเด็กหนุ่มก็ตอบว่ากินแล้ว เป็นการถามคำตอบคำที่น่าอึดอัดดี
“จงแด...เรื่องวันนั้นน่ะ”อี้ชิงพูด หมายถึงเรื่องวันที่จงแดบอกว่าถูกข่มขืน เขาเห็นคนตัวเล็กหลบสายตาวูบ พูดว่าช่างมันเถอะ ไม่อยากจะรื้อฟื้นแล้ว ยิ่งได้ยินแบบนั้นอี้ชิงยิ่งรู้สึกผิดบาปในใจ ชายหนุ่มวางมือลงบนหัวของน้อง พูดคำว่าขอโทษออกมา ขอโทษจริงๆ ไม่บ่อยครั้งที่อี้ชิงจะพูดคำนี้กับจงแด เป็นจงแดเสียอีกที่พร่ำพูดเสมอตอนที่รู้ว่าตัวเองเป็นภาระของอีกคน ฝ่ามืออุ่นๆที่วางบนหัว จงแดมองหน้าพี่ชายร่วมห้อง ดวงตาเรียวรีวาววามด้วยน้ำตาที่มาคลออีกแล้ว
“ผมกอดพี่ได้ไหม?”ถามเสียงเบาอย่างไม่มั่นใจ อยากกอดคนที่เป็นเหมือนพี่ชายสักครั้งหนึ่ง อยากได้สัมผัสอบอุ่นของครอบครัวในตอนที่ทั้งร่างกายและจิตใจมันย่ำแย่ ไม่ใช่ไม่รู้ตัวว่าเมื่อวานตัวเองเป็นอะไร เขาแค่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ตอนที่ทุกอย่างมันประดังประเดเข้ามา เรื่องที่อุตส่าห์ทำเป็นลืมแต่สุดท้ายก็ต้องเอาออกมาไขให้คนอื่นรับรู้ ยิ่งพูดออกมายิ่งคิดถึงการกระทำของเปี้ยนป๋ายเสียน จากนั้นทุกเรื่องที่เป็นผลพวงก็โถมเข้ามาจนจงแดสติแตกในที่สุด
อี้ชิงไม่ได้ตอบอะไร เขาแค่อ้าแขนออก เพียงแค่จงแดเห็น น้ำตาที่ใกล้จวนจะไหลก็หยดลงมาจริงๆ คนตัวเล็กโถมเข้าหาอ้อมกอดของอี้ชิงแล้วซบหน้าลงบนหน้าอกพี่ชาย ปล่อยน้ำตาให้ไหลลงมาช้าๆ
“ผมไม่เคยโกรธพี่เลยไม่ว่าเรื่องอะไร ยังไงก็ไม่มีทางโกรธพี่เลย”เพราะเป็นอี้ชิง เป็นพี่ชายคนนี้ ถ้าไม่มีอี้ชิงตอนนี้จงแดก็ยังเป็นไอ้เด็กตัวผอมที่ถูกเจ้าของร้านต่างๆทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำอีก ถ้าไม่มีอี้ชิงเขาคงไม่ได้กินข้าวครบทั้งสามมื้อ ไม่ได้นอนบนฟูกดีๆมีผ้าห่มอุ่นๆ ถ้าหากไม่มีอี้ชิง...
เขาก็ไม่มีใครที่ไหนในประเทศที่กว้างใหญ่นี้แล้ว...
อี้ชิงลูบหัวของคนในอ้อมกอด เขาบอกว่าให้จงแดพักเสีย จื่อเทาคงมาเยี่ยมในไม่ช้า ชายหนุ่มไม่พูดถึงเรื่องระหว่างเขากับจื่อเทาอีก เพราะแคนี้ก็ดูจะเป็นปัญหาที่ทำร้ายจิตใจจงแดมากเกินพอแล้ว
“ส่วนเรื่องงานก็ไม่ต้องทำแล้วนะ...อาการนายตอนนี้ทำงานประเภทนั้นไม่ได้หรอก”เขาพูดแต่ไม่ได้บอกว่าจงแดเป็นโรคอะไร จงแดได้แต่พยักหน้าเพราะไม่อยากทำเช่นกัน หากแต่ถ้าไม่ทำจะหาเงินที่ไหน จงแดต้องการเงินอีกให้พอ ถ้าคำนวณดูแล้ว
...อีกแค่ห้าหมื่นก็คงพอแล้วแท้ๆ
“จงแด...ถึงขนาดนี้แล้ว นายยังไม่ยอมรักตัวเองเลย”อี้ชิงเอ่ยออกมา เขามองคนที่หลับไปอีกครั้งคงเพราะเพลีย ยิ่งร้องไห้ไข้ก็เหมือนจะยิ่งตีกลับ มือเรียววางบนหน้าผากอุ่นๆของคนป่วยก่อนจะลูบมันเบาๆ...



100 เปอร์เซ็นต์


เดี๋ยว เราขอพักก่อน ถ้าต่อเราอาจจะตาย ตอนนี้รู้สึกแย่กับตัวเองแทนแล้ว...
มีคนเดาถูกด้วย อาการของจงแดไม่รู้จะเรียกว่านิมโฟมาเนียไหม เราก็ไม่ได้รู้เรื่องจิตเวชนัก แต่อาการของจงแดตามความคิดเราคือด้วยปัจจัยหลายอย่าง ทั้งงานที่ต้องทำ โอเคว่าจงแดอาจจะยินดีทำเอง แต่ก็การที่ต้องนอนกับผู้ชายทุกวันมันทำให้เกิดการชิน ไม่แปลกที่จงแดจะมีอารมณ์ร่วมกับป๋ายเสียนเพราะร่างกายของจงแดมันชิน โดนกระตุ้นเร้าเข้าสารในสมองก็สั่งให้ผลิตฮอร์โมนมากระตุ้นอารมณ์ทางเพศแล้ว พอรู้ว่าตัวเองมีอารมณ์แม้จะถูกข่มขืนอยู่ ก็เกิดการมโน ภาษาทางการใช้ว่าอะไรไม่รู้ แต่เป็นความคิดว่า ฉันมีอารมณ์กับมัน ฉันต้องการมัน ยิ่งได้ยิ่งต้องการมัน การที่รู้สึกแย่กับตัวเองที่มีความต้องการทางเพศสูงยิ่งเป็นตัวกระตุ้นให้จงแดมีความต้องการทางเพศมากขึ้นค่ะ เหมือนคนที่ปากห้อยแล้วโดนล้อก็จะยิ่งกัดปากตัวเองแล้วมันก็ยิ่งห้อยนั่นล่ะ
มาถึงจุดที่ทำให้จงแดมีอาการเหมือนคนบ้า ช่วงเวลานี้ขอใช้คำว่าเก็บกดค่ะ คนเราต่อให้ทำเป็นลืมแต่เชื่อเถอะว่าลึกๆมันลืมไม่ได้หรอก กุญแจบ้านหายเข้าบ้านไม่ได้ตอนป.3 เลยมาเป็นสิบปีตอนนี้ยังนึกถึงมันอยู่เลยใช่ไหมล่ะ คนที่คิดอยู่ตลอดเวลาว่าฉันมีความต้องการสูง จบด้วยการนอนกับใครก็ได้ ความรู้สึกแย่ๆในใจยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ บอกใครก็ไม่ได้ เพราะต้องทำเป็นลืมไปให้ใช้ชีวิตร่วมกันได้เหมือนปรกติ แต่อย่างที่บอก เราไม่ลืมมันหรอก มันหลอกหลอนเราตลอดเวลา บวกกับคนนิสัยแบบจงแด...เก็บกด กดดัน รู้สึกแย่กับตัวเอง บู้ม ระเบิดเป็นโกโก้ครันซ์

บอกตรงๆว่าเขียนไปกดดันตัวเองไป แต่ไม่รู้คนที่อ่านจะรู้สึกได้ไหม ยากจังค่ะ ฮึ่กๆๆๆๆๆ

เหลืออีกสองตอน เราบอกแล้วว่าเรื่องนี้จบไม่แฮปปี้ เดาทางกันได้เลยใช่ไหมล่ะ หึ...



TBC.

#ขายตัวออลเฉิน


1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ28 มกราคม 2565 เวลา 01:58

    Casino Site Review: Best Online Casinos 2021 - ChoegoCasino.com
    Casino site review - Casino site review & unbiased list of casino websites 카지노 in 메리트 카지노 쿠폰 2021 ➜ Get Exclusive Bonuses and 샌즈카지노 Free Spins the site has been rated #1 and #12 of the

    ตอบลบ