วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

คนขาย - 10

ลูกค้าบางคนก็รู้สึกไม่ต่างกัน

บทที่10..

ใช้เวลาพักฟื้นที่โรงพยาบาลสามวัน สุดท้ายจงแดก็ได้กลับไปพักต่อที่ห้อง อี้ชิงยังคงปรึกษาเรื่องอาการความต้องการทางเพศสูงกับหมอด้านจิตวิทยาคนหนึ่งที่แนะนำให้จงแดพักผ่อนเยอะๆ ไม่เครียด และงดการมีเพศสัมพันธ์หรือเร้าอารมณ์ทางเพศผู้ป่วยเพื่อรอดูอาการ หากไม่กระตุ้นเร้าแล้วยังมีอาการอยู่แสดงว่าต้องเกิดจากการทำงานผิดปรกติของสมองมากกว่าจิตใจ
มาม่าซังมาเยี่ยมที่โรงพยาบาลครั้งหนึ่ง ไม่เชิงเยี่ยมเสียทีเดียว หล่อนมาบ่นแกมด่าเสียมากกว่า ยิ่งรู้ว่าจงแดไม่สามารถทำงานได้เจียนจี้ฟางยิ่งใส่อารมณ์จนน่ากลัว แต่มีอี้ชิงและจื่อเทาออกโรงพูดให้ มาม่าซังเลยทำอะไรไม่ได้นอกจากจะเรียกเก็บค่าเสียหายในการยกเลิกคิวอีกเกือบสิบคิวที่จองเอาไว้จากจงแด
“มันก็จะไม่เคี่ยวไปเหรอม่า ก็เห็นว่าเป็นเหตุสุดวิสัยแท้ๆ”อี้ชิงถาม เห็นหน้าจงแดเจื่อนไปพอรู้ว่าต้องเสียเงิน เจียนจี้ฟางพ่นลมหายใจออกมา ยกมือเท้าเอวแล้วบอกว่าหล่อนเสียหายกับจงแดเยอะมากแค่ไหนกัน เสียเงินน่ะไม่เท่าไหร่ แต่มันเสียเครดิต
“ถึงจงต้าจะทำรายได้ดี แต่ที่ม่าเสียไปก็ไม่ใช่น้อย ไม่ใช่ไม่เห็นใจนะ ก็เห็นอยู่ว่ามีอะไรม่าก็ช่วยเหลือ ถือว่าช่วยเหลือม่าบ้าง”จี้ฟางพูด ไม่ใช่หล่อนใจจืดใจดำ แต่คำนวณดูค่าเสียหายจากตัวจงแดมันไม่ใช่น้อยๆ เรื่องสงสารก็ส่วนสงสาร แต่เรื่องขาดทุนก็เป็นอีกเรื่อง เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง หล่อนไม่เอากระดูกที่จงแดคายเอาไว้มาแขวนคอตัวเองเด็ดขาด
จงแดจำใจต้องยอมให้มาม่าซังหักเงินเดือนเดือนนี้กึ่งหนึ่ง นี่ถือว่าใจดีแล้วสำหรับเจียนจี้ฟางเพราะรู้ว่าค่าเสียหายมันมากกว่านั้น ไม่รวมถึงค่าชุดที่หล่อนตัดให้จงแดใส่ฟรีๆเพื่อเรียกลูกค้าอีกตั้งหลายชุด วันที่จงแดออกจากโรงพยาบาลพวกพี่สาวก็มาเยี่ยมหาด้วย เหมยชิงชิงและเหมยลี่อินมีสีหน้าผิดหวังเมื่อรู้ว่าจงแดจะเลิกทำงานนี้แล้ว พวกเธอคงคิดถึงน้องชายคนนี้น่าดู

 “พี่อี้ชิง ผมว่าผมจะกลับเกาหลีแล้วล่ะ...”จงแดเอ่ยขึ้นตอนที่อี้ชิงขนผ้าที่แห้งแล้วจากราวที่ระเบียงเข้ามาด้านในในจงแดช่วยพับ อี้ชิงชะงักไปเล็กน้อยถามว่าจงแดคิดดีแล้วงั้นหรือ เห็นว่ายังเก็บเงินไม่ได้ที่ต้องการ ถ้าอยากทำงานต่อเขาก็จะช่วยหางานให้ แต่จงแดกลับปฏิเสธ
“งานง่ายๆได้เงินมากๆมันมีไม่มากหรอกครับ ผมลองคิดดูแล้ว กลับไปหางานทำที่นั่นต่อกับอยู่ที่นี่คงไม่ต่างกัน”เพราะจงแดอายุจะสิบเจ็ดปีแล้ว คงหางานได้ไม่ยากเท่าไหร่ ส่วนเรื่องบ้านที่อยากจะซื้อก็เก็บไว้สักพักก็ได้ เช่าอยู่ไปก่อน สิ่งที่ทำให้อยากกลับไปคงเป็นแม่และจูจิน จงแดคิดถึงทั้งสองคน อยากกลับไปกอดแม่ให้แน่นๆ อยากหอมแก้มน้องสาวแรงๆ อยากบอกกับแม่ว่าจงแดกลับมาแล้ว กลับมาบ้านแล้ว...
“แล้วอาการของนาย...”อี้ชิงถามถึงเรื่องความต้องการทางเพศที่หมอกำลังดูอาการอยู่ อี้ชิงคุยเรื่องโรคนี้กับจงแดแล้ว หมออธิบายอย่างละเอียดให้คนตัวเล็กเข้าใจมัน ตอนที่จงแดรู้ครั้งแรกก็ตกใจจนหน้าซีดมือปากสั่น คนตัวเล็กจับมืออี้ชิงแน่น เขย่าถามว่าตนเองจะหายไหม ไม่อยากจะเป็นแบบนั้นอีกแล้ว ไม่อยากจะนอนกับใครก็ได้ แม้จะถูกข่มขืนก็ยังยอมเหมือนคนร่าน อี้ชิงในตอนนั้นรั้งคนร้องไห้ผวาสั่นเข้ามากอด ปลอบประโลมว่ามันจะหาย มันมีทางรักษา
“ผมไม่มีอาการแบบนั้นเลย”อาจจะเพราะวันๆจงแดอยู่แต่ในห้อง มีออกไปกินข้าวข้างนอกบ้างหลังอี้ชิงกลับมาจากทำงานแล้ว ไม่มีสิ่งกระตุ้นเร้าอารมณ์เลยสักอย่าง มีบ้างที่เกิดอารมณ์ขึ้นตามประสาผู้ชาย แต่มันก็ไม่มากมายเหมือนก่อนหน้านี้ อย่างน้อยเขาก็แค่ช่วยตัวเองและไม่ต้องการอะไรยัดเข้ามาในรู้ก้นก็แล้วกัน
“วันมะรืนหมอนัดก็บอกไปตามที่เป็นแล้วกัน ถ้าจะกลับเกาหลีอาจจะต้องทำเรื่องย้ายผู้ป่วยไปที่นู่น”เขาบอก อดใจหายไม่ได้ที่คนเคยอยู่ด้วยกันจะต้องจากกันแล้ว แต่ก็นึกดีใจที่จงแดจะได้กลับไปบ้านเกิดเสียที นึกถึงรอยยิ้มของจงแดเวลามองข้อความแชทจากแม่แล้วคิดว่าถ้าหากเด็กนี่ได้เจอกับแม่อีกครั้งจะยิ้มกว้างขนาดไหนกัน
จงแดควรจะมีความสุขเสียบ้าง...
เรื่องทุกอย่างที่เด็กนี่ต้องเผชิญมันหนักหนาเกินไปแล้ว เกินกว่าที่เด็กอายุสิบเจ็ดปีควรพบเจอ...
“ขอบคุณนะครับ ถ้าไม่มีพี่ผมคงแย่แน่ๆ”จงแดเอ่ย รับผ้าจากอี้ชิงมาพับแยกกอง อี้ชิงบอกว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องขอบคุณก็ได้ เขาไม่ได้มีบุญคุณอะไรขนาดนั้น ก็ช่วยไปเพราะสงสารเด็กตัวผอมข้างห้องเช่าพ่อแม่ที่ถูกทำร้ายจากนายจ้างคนหนึ่ง ต่อจากนั้นจงแดก็เป็นคนเลือกทางเดินเองทั้งหมด ไม่ว่ามันอาจจะผิดบ้างถูกบ้างก็มาถึงจุดนี้ได้เพราะตัวเอง
“ไม่จริงหรอกครับ ถ้าคนที่อยู่ตรงนี้ไม่ใช่พี่อี้ชิง”
ถ้าไม่ใช่อี้ชิงคนที่บังคับให้กินข้าว
ถ้าไม่ใช่อี้ชิงคนที่หางานให้
ถ้าไม่ใช่อี้ชิงคนที่ดูแลตอนที่เจ็บ
ถ้าไม่ใช่อี้ชิงคนที่พูดจาทำร้ายแต่ก็เป็นไปด้วยความหวังดี
ถ้าเป็นคนอื่น...ก็ไม่มีทางเป็นแบบนี้
เพราะนี่คืออี้ชิง...
พี่ชายของจงแด...

คนขาย

จงแดเทบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปลงในชามตามด้วยน้ำร้อน เป็นการกินแบบง่ายๆและประหยัดที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะไม่ได้ทำงานแล้ว เงินส่วนหนึ่งต้องใช้เป็นค่าหมอ ค่าทำเรื่องย้ายผู้ป่วยไปเกาหลี ค่าพาสปอร์ตที่หมดอายุไปนาน และค่าตั๋วเครื่องบิน จงแดพยายามจะใช้เฉพาะเงินที่อยู่ในมือไม่ดึงจากในบัญชีออกมา เก็บเอาไว้เป็นทุนเมื่อกลับบ้าน
ระหว่างรอให้บะหมี่อืดเต็มชาม คนตัวเล็กหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเช็คข้อความล่าสุดที่คุยกับแม่อีกครั้ง ห้ามให้ตัวเองยิ้มคงยากเกินไปเพราะตอนนี้จงแดกำลังวาดรอยยิ้มเต็มแก้มแบบที่ไม่บ่อยครั้งที่จะยิ้มได้ จงแดบอกแม่ว่ากำลังจะกลับบ้าน จากนั้นก็เห็นแค่ตัวอักษรที่แม่พิมพ์มาถามว่า “จริงเหรอลูก?” จากนั้นก็สิ้นสุดการสนทนาผ่านแชทแต่กลายเป็นแม่ต่อสายมาหาอย่างรวดเร็ว เสียงของแม่สั่นไปหมด ละล่ำละลั่กถามว่าไม่ได้โกหกใช่ไหม จะกลับบ้านของเราจริงๆใช่ไหม จงแดกลั้นน้ำตาไม่อยู่ตอนแม่บอกว่าดีใจแค่ไหน กี่ปีมาแล้วที่ไม่ได้เจอหน้ากันโดยไม่ผ่านหน้าจอ กี่ปีที่แม่กับจูจินนอนกอดกันสองคน ทั้งคู่ยังคิดถึงวันที่จูจินนอนอยู่ตรงกลางและแม่กับจงแดกอดน้องเอาไว้ เราสามคนหลับไปพร้อมๆกัน แม้จะเหนื่อย ลำบากขนาดไหนแต่ก็มีความสุขดี
พี่อี้ชิงออกไปทำงานและเลิกงานจะมารับจงแดไปกินข้าวต้มร้านเดิมด้วยกันเสมอ พักนี้พี่อี้ชิงมักจะเป็นคนจ่าย คนแก่กว่าบอกว่าเก็บเงินของจงแดเอาไว้ดีกว่า งานก็ไม่มี รายจ่ายก็เยอะ แล้วไม่ต้องมาเกรงใจ เพราะอีกคนเต็มใจให้ ประโยคคล้ายกับคำพูดที่ทำให้จงแดรู้สึกแย่เวลาได้ยินแต่ตอนนี้เขากลับคิดว่าคำพูดพวกนั้นมันจริงใจและมีแต่ความห่วงใยทั้งนั้น บรรยากาศเหมือนตอนที่จงแดมาอยู่ที่นี่ใหม่ๆ พวกเรากินข้าวต้มร้านประจำ พี่อี้ชิงเป็นคนจ่ายแล้วบอกให้จงแดเก็บเงินเอาไว้
บะหมี่อืดๆลอยอยู่ในชาม จงแดคีบเว้นอ่อนนุ่มเข้าปาก รสชาติมันไม่ได้อร่อยเลิศ เป็นแค่บะหมี่ราคาถูกเหมาแพ็ค ในตลาด เขาคิดถึงบะหมี่กิมจิที่บ้านจัง ถ้าหากซื้อที่จีนราคาจะพุ่งขึ้นสูงเท่าตัว ถ้าหากกลับไปเกาหลีเขาอยากจะกินบะหมี่รสซุปกิมจิก่อนเป็นอันดับแรก

ก็อกๆ
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นพอดีกับที่เส้นบะหมี่ถูกเคี้ยวกลืนลงคอไป จงแดขมวดคิ้วน้อยๆมองไปยังประตู ในใจวูบไหวขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ เขาจำได้ว่ามันเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เหมือนวันนั้น...วันที่เปี้ยนป๋ายเสียนมา...
แววตาหวาดระแวงฉายชัดในดวงตาของจงแด คนตัวเล็กเดินอย่างกล้าๆกลัวๆไปยังประตู อาจจะไม่ใช่ป๋ายเสียน ผู้ชายคนนั้นจะกลับมาทำไม เราไม่ได้มีเรื่องอะไรต่อกันแล้ว เขาไม่ได้ไปยุ่งกับครอบครัวของคนๆนั้น ไม่ได้ติดต่อดีโอ
...แต่ก็อดกลัวไม่ได้
“เฮ้ คิมจงแด อยู่หรือเปล่า?”เสียงพูดภาษาเกาหลีที่ดังอยู่หน้าประตูทำให้คนที่กึ่งกล้าและกลัวนั้นสะดุ้งโหยง แล้วก็ต้องเบาใจไปเป็นกองเมื่อไม่ใช่เปี้ยนป๋ายเสียนอย่างที่ระแวง จำได้ดีว่าเป็นเสียงของโอเซฮุน
แล้วคนอย่างเซฮุนมาทำอะไรที่นี่...
จงแดปลดล็อกประตูแล้วเปิดบานประตูไม้อ้าออก โอเซฮุนยืนอยู่ตรงหน้า จงแดตกใจเล็กน้อยที่เห็นมุมปากของร่างสูงโปร่งช้ำเป็นจ้ำ อึ้งอยู่เกือบนาทีจนเซฮุนถามว่าเข้ามาในห้อองได้ไหมจงแดถึงเบี่ยงตัวให้อีกคนเข้ามาข้างใน
“มีอะไรหรือเปล่าครับถึงมาหาที่นี่”จงแดถาม นึกเหตุผลไม่ออกที่เซฮุนจะมาหาตนเอง ถ้าหากจะคุยก็โทรศัพท์ก็ได้ หรือถ้าจะมีของฝากมาก็ผ่านทางอี้ชิงได้ แต่กระนั้นก็ไม่มีเรื่องอะไรที่เซฮุนต้องคุยกับเขาหรือไม่มีของสิ่งไหนที่จำเป็นต้องให้เขาเช่นกัน
เซฮุนไม่ได้ตอบอะไร เขากวาดสายตามองยังห้องแคบๆที่กำลังยืนอยู่ เพิ่งรู้ว่าอี้ชิงอยู่ห้องเล็กเท่านี้เอง แต่ก็ยังดูดีกว่าห้องพักของเขาในช่วงแรกๆที่มาอยู่จีนนั่นล่ะ แม้จะพกเงินมาจากเกาหลีประมาณหนึ่ง แต่เพราะช่วงนั้นเริ่มใช้ยา เงินเลยหมดไปอย่างรวดเร็วจนต้องพักอยู่ห้องเช่าเท่ารังหนู ร่างสูงโปร่งถามว่านั่งตรงไหนได้บ้าง จงแดเลิ่กลั่ก ห้องแคบๆมีเตียงและฟูกกินพื้นที่ไปเสียมาก นอกนั้นก็มีโต๊ะทำงานพี่อี้ชิง จงแดเลยบอกว่านั่งตรงนั้นก็ได้
“ตกลงว่ามีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”จงแดถามย้ำเซฮุนถึงละสายตาจากการมองรอบๆห้องมามองที่ใบหน้าคนตัวผอมแทน มุมปากที่ช้ำนั้นยกยิ้มน้อยๆ คล้ายกับยิ้มเยาะๆ ก่อนจะบอกว่าอยากมาเยี่ยม ถามจงแดกลับว่ารู้หรือเปล่าว่าตนเองเป็นคนพาจงแดไปส่งที่โรงพยาบาล
“พี่อี้ชิงบอกครับ ขอบคุณนะที่ช่วยเหลือ”จงแดบอกก่อนจะเงียบ ไม่รู้อยู่ดีว่าเซฮุนมาหาทำไม ถามอีกคนว่าอยากได้น้ำสักแก้วไหมเพื่อทำลายความเงียบระหว่างเขาและเซฮุนที่กำลังโรยตัวอยู่รอบๆกาย ใบหน้าได้รูปพยักลงจงแดจึงไปหยิบแก้วรินน้ำมาให้
“ฉันผ่านมา จี้ฟางเคยพูดเอาไว้ว่าหอพักของอี้ชิงอยู่ตรงนี้ ถามเจ้าของหอก็บอกเลขห้องมาเลย”เซฮุนบอก ยกน้ำขึ้นจิบเล็กน้อยแล้ววางไม่บนโต๊ะ จงแดมองอีกคนอย่างสงสัย ปรกติเซฮุนเก็บตัวจะตาย ทำไมถึงออกมาข้างนอกคนเดียวได้ เซฮุนคงจะเห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย อีกคนเลยบอกว่าอยากขึ้นมาเยี่ยม ได้ยินว่าอาการดีขึ้นแล้วแต่จะไม่กลับไปทำงานที่บ้านดอกเหมย เขาถามเหตุผลจี้ฟางก็ไม่ได้บอกอะไร แม้แต่เหตุผลที่จงแดสลบอยู่ในห้องน้ำมาม่าซังคนงามก็บอกแค่จงแดคงเพลีย
เรื่องที่เกิดกับเด็กเกาหลีคนนี้มีแค่จื่อเทา อี้ชิง และจี้ฟางที่รู้ และเซฮุนไม่คิดจะคาดคั้นมาม่าซังเพราะรู้ว่าหล่อนไม่ชอบใจเท่าไร ยิ่งช่วงนี้กิจการที่บ้านดอกเหมยรายได้ลดลงเจียนจี้ฟางยิ่งอารมณ์ไม่ดี
ความจริงเซฮุนไม่จำเป็นต้องสนใจสักนิด แต่เพราะบังเอิญได้ยินอะไรเข้า...
เสียงที่จื่อเทาใช้พูดคุยกับอี้ชิงดูเคร่งเครียด เขาแค่ออกไปสูบบุหรี่ที่หลังร้านเหมือนทุกครั้ง สองคนนั้นไม่ระวังกันเองเสียมากกว่า จื่อเทาถามว่าอาการของจงแดเป็นยังไงบ้างและอี้ชิงก็ตอบว่าดีขึ้นมากแล้ว เซฮุนไม่ได้สนใจตรงนั้น เขาสนใจคำพูดต่อจากนั้นเสียมากกว่า
“ว่าหากรู้ว่าใครเป็นคนข่มขืนจงแดเขาจะไม่ปล่อยมันไว้...”
อี้ชิงพูดว่าไม่ควรเก็บมันมาใส่ใจอีก ตอนนี้จงแดอาการดีขึ้นมากและไม่มีท่าทีต้องการเซ็กส์แบบรุนแรง โรคที่จงแดเป็นน่าจะเป็นอาการผิดปรกติทางความคิดและจิตใจทำให้มีความรู้สึกต้องการทางเพศมากขึ้นเท่านั้น
...ตอนนั้นเองเซฮุนถึงได้รู้ว่าจงแดทำไมถึงเลิกทำงาน เด็กนี่เป็นโรคหมกมุ่นตามที่อี้ชิงพูด ปะติดปะต่อกันเอาเองว่าอาจจะเพราะถูกข่มขืน ถูกข่มขืนจนเป็นคนบ้าเซ็กส์งั้นเหรอ??
ในตอนนั้นเซฮุนเห็นว่าฮวังจื่อเทาสีหน้าไม่พอใจ หมอนั่นหงุดหงิดน่าดูแต่เมื่อี้ชิงพูดว่าหากรื้อฟื้นอีกจงแดก็อาจมีอาการคลุ้มคลั่งอีกหมอนั่นถึงได้สงบลงได้บ้าง ดูท่าเป็นห่วงรักใคร่กันมากเสียเหลือเกิน มันไม่พอใจ โกรธแค้นที่คนที่มันรักถูกข่มขืน มันรู้สึกด้วยหรือว่ารสชาติการถูกข่มขืนมันเป็นยังไง
แล้วทำไม...มันถึงเป็นคนทำเอง...
คนอย่างมันมีสิทธิ์ไปเคียดแค้นพวกที่ใช้กำลังยัดไอ้ท่อนเนื้องี้เง่าเข้าไปในร่างคนอื่นด้วยเหรอ...
ฮวังจื่อเทาไม่มีความละอายเลยหรือ?...

“เห็นว่าจะกลับเกาหลีแล้วด้วยเหรอ?”เซฮุนถาม เรื่องนี้จี้ฟางเป็นคนบอกเอง พนักงานทุกคนก็รู้ จงแดพยักหน้าตอบ อยู่ที่จีนมานาน อยากจะกลับบ้านไปหาแม่กับน้องสาวแล้ว
“แล้วคุณเซฮุนไม่คิดจะกลับบ้างเหรอครับ?”จงแดถาม แม้จะแอบคิดว่าเซฮุนอาจจะโมโหก็ได้ที่ถามแบบนี้ แต่จงแดก็อยากรู้จริงๆ เซฮุนจะอยู่ที่ที่ไม่ใช่บ้านเกิดของตัวเองไปจนถึงเมื่อไหร่ สำหรับจงแด ถ้าหากเขาต้องอยู่ที่นี่เรื่อยไป อย่างน้อยเขาก็จะกลับไปตายที่เกาหลี
ไปตายที่บ้าน...
เซฮุนยกมุมปากที่ช้ำขึ้น ส่งสายตาปรามจงแดให้หยุดพูดเรื่องบ้านของตนเองก่อนที่เขาจะอารมณ์เสียไปมากกว่านี้ มือเรียวสวยยกขึ้นแตะที่มุมปากเบาๆ เพราะแสยะยิ้มเมื่อครู่เลยรู้สึกเจ็บขึ้นมา จงแดหุบปากฉับ ไม่กล้าพูดถึงเรื่องส่วนตัวของเซฮุนอีก คนตัวเล็กแก้สถานการณ์ด้วยการถามว่าเซฮุนไปโดนอะไรมา อยากให้ตนเองทำแผลให้ไหม? เซฮุนมองคนที่ไม่ได้รอคำตอบจากเขา จงแดเดินหากล่องปฐมพยาบาลในห้องแคบๆนี้ เมื่อเจอก็ยิ้มออกมาน้อยๆ ก่อนเดินมาหยุดตรงหน้า วางกล่องนั้นบนโต๊ะ เปิดฝาพลาสติกออกแล้วหยิบสำลีมาชุบแอลกอฮอล์
“เอ่อ...ทำแผลให้ได้ใช่ไหม?”เหมือนจงแดเพิ่งจะรู้ตัวว่ายังไม่ได้รับอนุญาตเลยสักคำ คนตัวเล็กเลยหน้าเจื่อนถือสำลีค้างอยู่แบบนั้น เซฮุนถอนหายใจออกมา ไอ้เด็กจอมวุ่นวายนี่มันวุ่นวายทุกเรื่องจริงๆ เขาถามคนที่ยืนนิ่งว่าตกลงจะทำแผลให้ไหม แอลกอฮอล์ระเหยหมดแล้ว จงแดได้ยินแบบนั้นเลยกระวีกระวาดชุบแอลกอฮอล์อีกครั้งแล้วค่อยๆแตะสำลีที่มุมปากสีช้ำ สังเกตดีๆจะเห็นรอยแตกเหมือนโดนชกมาอย่างไรอย่างนั้น
“แสบหน่อยนะครับ”ไม่บอกก็รู้ว่ามันแสบเพราะใบหน้าของเซฮุนเหยเกเล็กน้อย จงแดซับแอลกอฮอล์แล้วใส่เบตาดีนอีกเล็กน้อย ไม่จำเป็นต้องปิดแผลอะไร จงแดรู้ว่าอีกไม่กี่วันมันจะตกสะเก็ดและหาย รอยช้ำก็จะลดลงไปเอง เพราะเมื่อก่อนเขาก็ได้แผลบ่อยจนชินไปแล้ว
ระยะที่ใกล้ชิดตอนที่จงแดมัวแต่วุ่นกับการแตะเบตาดีนลงที่แผลนั้นทำให้เซฮุนได้มีเวลาสังเกตอีกคน ไม่ใช่ว่าจงแดขี้ริ้วขี้เหร่ หน้าตาไม่ได้ดูหล่อเหลาแต่มันก็น่ารักดีเหมือนกัน คิมจงแดมีเสน่ห์ที่ริมฝีปากหยักๆนั้น เมื่อยิ้มน้อยๆเหมือนเด็กนี่กำลังให้ท่ากันชัดๆ ไม่แปลกใจเลยทำไมลูกค้าถึงได้จองคิวกันยาวเหยียด บางคนขอกลับมาซื้ออีกรอบ ตามตื้อมาม่าซังจนน่ารำคาญ ปฏิเสธเท่าไหร่ก็ไม่ยอมหยุด อย่างอู๋อี้ฟานนั่นก็อีกคน พยายามเสนอราคาที่เห็นแล้วต้องตาวาว เซฮุนเห็นจี้ฟางชั่งใจสุดท้ายก็รักษาคำพูดตนเองไม่รับคิวคนที่จงแดไม่ต้องการ
“ถามจริงๆเถอะ นายรู้ไหมว่าฮวังจื่อเทาชอบนาย”เซฮุนถาม จงแดชะงักมือไป เลิ่กคิ้วขึ้นน้อยๆก่อนจะส่ายหัว บอกว่าไม่ใช่อย่างที่เซฮุนคิดหรอก จื่อเทารักและเป็นห่วงจงแดในฐานะน้องชายคนหนึ่งเท่านั้น แต่ถึงบอกไปเซฮุนก็ไม่ได้เปลี่ยนความคิดของตัวเองเลย เขาเห็นท่าทีของจื่อเทาเขาก็รู้ว่ามันเกินกว่าพี่น้องไปแล้ว
“ทำไมไม่บอกไปล่ะว่าคนที่ข่มขืนนายเป็นใคร”น้ำเสียงของเซฮุนจริงจัง จงแดรู้สึกเย็นที่หลังวูบ คนตัวเล็กเบิกตากว้าง ริมฝีปากเริ่มสั่นระริกพอๆกับมือเล็กที่จับเข้าหากันแน่น
“ค...คุณรู้ได้ยังไง”จงแดถามเสียงสั่น เขาไม่เคยบอกใครนอกจากอี้ชิงและจื่อเทา มีมาม่าซังอีกคนที่รู้เรื่องและทราบอาการป่วยของจงแด แต่อี้ชิงก็ขอให้เก็บเอาไว้อย่าบอกใคร แล้วเซฮุนไปรู้มาจากไหน แววตาตระหนกของจงแดน่าขำสิ้นดีในสายตาของเซฮุน เขายิ้มน้อยๆบอกว่ารู้เอง ได้ยินอี้ชิงกับจื่อเทาคุยกัน
“ไม่เห็นตอบ ทำไมไม่บอกจื่อเทาไปล่ะ มันพร้อมจะตามล่าคนที่ทำเพื่อนายเลยนะ จะบอกว่าไม่ได้รู้สึกอะไรมากกว่าพี่ชายเลยเหรอ?”เซฮุนถาม จงแดหันกลับไปเก็บยาใส่กล่องพยาบาลแล้วปิดฝาพลาสติกลงให้มิดชิด คนตัวเล็กถอยออกมาห่างจากที่เซฮุนนั่งเล็กน้อย บอกว่าร่างสูงโปร่งควรกลับได้แล้วเพราะอี้ชิงใกล้จะกลับจากมหาวิทยาลัยแล้ว จงแดรู้ว่าตัวเองเสียมารยาทและเซฮุนอาจจะโกรธที่เอ่ยปากไล่แต่เขาไม่อยากให้เซฮุนพูดรื้อฟื้นเรื่องขึ้นมาอีก เขาไม่อยากจำมันอีกแล้ว
มีหรือคนถูกไล่จะไป เซฮุนไม่ได้อยากจะมาเยี่ยม ไม่ได้บังเอิญผ่านมา เขาตั้งใจมาที่นี่ รู้ว่าอี้ชิงมีสอบวันสุดท้ายที่มหาวิทยาลัย นักดนตรีของร้านบอกว่าจะเข้าไปดึกๆหน่อยเพราะอาจเลิกสอบช้า โอเซฮุนจงใจมาเจอจงแดที่นี่!
แผลที่มุมปากอาจจะเจ็บ เวลาพูดหรือยกยิ้มมันตึงและเจ็บเพราะรอยแตกถูกรั้งจนปริออก หมัดของฮวังจื่อเทาไม่ใช่เบาๆมันกระแทกที่มุมปากของเขาแค่ครั้งเดียวเท่านั้นแต่ทำให้เลือดกบอย่างไม่ยากเย็น ไม่หรอก เซฮุนไม่ได้รู้สึกเจ็บมากมายขนาดนั้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจากนั้นต่างหาก...
แรงเฟ้นไปทุกส่วนของร่างกายช่างน่าขยักแขยง แรงขบกัดที่เนื้อหนังทำให้รู้สึกเจ็บกว่ามุมปากที่เลือดเกรอะกรังนั่นเสียอีก เซฮุนดิ้นปัด แต่กลับได้แรงชกตามเนื้อตัวและหมัดหนักๆฮุคเข้ามาที่ท้องจนขยับตัวไม่ได้ เขาตะโกนด่าจื่อเทาอย่างหยาบคายแต่จื่อเทาก็ไม่ยอมหยุด ตอนที่ท่อนเนื้อโสโครกนั้นดุนดันอยู่ที่ด้านหลัง ทว่าจู่ๆฮวังจื่อเทาก็นิ่งไป ใบหน้าหล่อเหลานั้นบิดเบี้ยวก่อนจะปัดขาของเซฮุนทิ้งอย่างแรง มันลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าแล้วชี้นิ้วเรียวยาวมาที่ใบหน้าของเขา
“กูรับปากกับจงแดเอาไว้แล้วว่าจะไม่ทำ... แต่ถ้าคราวหลังมึงยังพูดจาหมาๆเกี่ยวกับเรื่องที่จงแดถูกข่มขืนอีกมึงได้โดนจริงๆแน่”
 เสียงของจื่อเทากดต่ำมากจนน่ากลัว...ร่างสูงกระแทกเท้าออกจากห้องรับรองแขกไปทิ้งให้เซฮุนนอนตัวงอเพราะจุกท้องอยู่บนเตียงเหมือนอีตัวโดนฟันอย่างนั้นล่ะ เซฮุนกัดฟันด้วยความเจ็บใจ เขาผิดเองที่ไม่ระวังพลาดเหยียบอะไรเข้าจนมันเกิดเสียง ทำให้สองคนที่กำลังถูกแอบฟังรู้ตัว อี้ชิงขอตัวเข้าไปในร้านก่อนแต่จื่อเทาตรงปรี่เข้ามาหาแล้วคาดคั้นถามว่าได้ยินอะไรไปบ้าง
เซฮุนหัวเราะเยาะ บอกได้ยินทุกอย่าง...รวมถึงเรื่องที่จงแดคนที่จื่อเทาชอบถูกข่มขืนด้วย สาเหตุที่เลิกทำงานคงเพราะแบบนี้สินะ ถูกข่มขืนจนเป็นพวกติดเซ็กส์
“เด็กนั่นน่าสงสารนะ”สาบานได้ว่าน้ำเสียงของเซฮุนไม่ได้มีความสงสาร แค่พูดให้จื่อเทานั้นโมโหมากกว่าเดิมตามสันดานที่คงแก้ไม่ได้ ไม่มีทางที่จะพูดกับจื่อเทาดีๆได้เลย และสุดท้ายก็เป็นตัวของเซฮุนเองที่เจ็บทุกครั้งที่ยั่วอารมณ์ของอีกคน
“โดนไปครั้งเดียวมึงยังดิ้นแทนขนาดนี้ ถ้าโดนอีกสักครั้งจะเป็นยังไง”คำพูดจาไม่เข้าหูของคนฟังแม้สักนิด จื่อเทาลากเซฮุนเข้าห้องรับรองแขกเหมือนเขาเป็นพวกขายตัวลูกๆของมาม่าซัง ฉีกกระชากเสื้อผ้าออกและเกือบจะข่มขืนเขา
...ถ้าไม่นึกถึงคำที่รับปากกับคิมจงแดเอาไว้...
เซฮุนถึงมั่นใจนักว่าจื่อเทาชอบจงแด มันฟังคำที่เด็กนั่นบอก...
เขาเกลียดมัน เขาเกลียดจื่อเทาจนแทบอยากจะสำรอกออกมาแค่ได้ยินชื่อ มันก็แค่ผู้ชายเฮงซวยที่เอาแต่ใช้กำลังข่มเหงเขา เขาเกลียดที่มันรู้สึกเจ็บปวดที่คนที่มันรักถูกทำร้าย แต่มันกลับเป็นคนลงมือทำร้ายคนอื่นได้อย่างเลือดเย็นและไม่มีจะสำนึกหรือละอายกับสิ่งที่ได้ทำเลยสักนิด
ลองดูสิ...ว่าคนอย่างฮวังจื่อเทาจะไม่ปล่อยคนที่ข่มขืนคิมจงแดไปจริงๆหรือเปล่า...

อย่างที่บอกว่าเขาไม่ได้ผ่านมาแถวนี้ เขาจงใจมา เหตุผลที่เซฮุนอยู่ตรงนี้ก็เพื่อสิ่งเดียว...
คือทำให้จื่อเทาเจ็บปวด...
โดยใช้คิมจงแดเป็นเครื่องมือ

“ฉันไม่ได้เกลียดนายนะ แต่ถ้าเห็นฮวังจื่อเทาทรมานได้นายก็น่าเกลียดขึ้นมาทันที”เซฮุนพูด เขาลุกขึ้นย่างสามขุมเข้าหาคนที่ถอยไปจนชิดเตียง จงแดคิดว่าเขาเกลียดที่ห้องมันแคบแบบนี้ ไม่กี่ก้าวเซฮุนก็เข้ามาประชิดตัวได้ สมองสั่งให้จงแดวิ่งหนีแต่ก็ไม่ทันเพราะทั้งตัวถูกผลักลงกับเตียงของอี้ชิง
“นายรู้ใช่ไหมว่ามันน่าสะอิดสะเอียนแค่ไหนตอนที่ไอ้ท่อนนั่นมันเข้ามาทั้งที่เราไม่ต้องการ ฉันคิดว่าจื่อเทาอาจจะไม่รู้ก็ได้ แต่มันผิด หมอนั่นเป็นเดือดเป็นร้อนกับนายเพราะรู้ว่านายเจ็บ...แต่ที่มันทำกับฉัน”
“...”
“มันไม่เคยคิดว่าฉันจะเจ็บ”น้ำเสียงของเซฮุนดูเจ็บปวด จงแดไม่ได้ตอบอะไรไป คนตัวผอมทำได้แค่ส่ายหน้า มือเล็กยกขึ้นดันไหล่เซฮุนที่อยู่เกือบจะแนบชิดให้ห่างออกไป จงแดไม่รู้หรอกว่าตอนถูกบังคับสอดใส่มันน่าสะอิดสะเอียนขนาดไหนเพราะป๋ายเสียนไม่ได้ทำมัน แต่แค่ต้องรับท่อนเนื้อนั่นเข้ามาในปาก เขาก็รู้สึกอยากจะอ้วกเต็มทน
“ผมรู้...แต่พี่เทาจะไม่ทำอะไรแบบนั้นอีกผมมั่นใจ”จงแดพูด นั่นทำให้เซฮุนหัวเราะ จงแดคงไม่รู้ว่าจื่อเทามันซื่อสัตย์ต่อคำพูดของตัวเองกับเด็กคนนี้ขนาดไหน แต่ถึงจะพูดแบบนั้นก็ไม่ได้ทำให้เซฮุนเปลี่ยนใจ จะบอกว่าเรื่องอัปยศนั่นจะไม่เกิดขึ้นอีกมันก็ไม่ได้ช่วยเยียวยาความเจ็บปวดและสูญเสียที่เคยเกิดขึ้นได้เลย
เขาเจ็บ...ตอนที่ถูกข่มขืนเหมือนอีตัวแล้วถูกปล่อยให้นอนจมกองเลือด
เขาเจ็บ...ที่ต้องนึกถึงมันตลอดเวลาตราบที่ยังมีลมหายใจ
เขาเจ็บ...เวลาคนสารเลวอย่างจื่อเทาคอยแต่สร้างบาดแผลให้เพิ่ม
เขาอยากให้ฮวังจื่อเทาเจ็บแบบเขา อยากให้มันเจ็บจนขาดใจตาย
เสียงกรีดร้องของจงแดดังขึ้นเมื่อเซฮุนโถมกายเข้าหา แม้จะสู้แรงของจื่อเทาไม่เคยได้แต่เขาก็สามารถข่มเหงจงแดได้อย่างสบาย สีหน้าหวาดกลัวและแววตาที่สั่นระริกเป็นสิ่งที่เซฮุนพอใจ เสียงร้องห้ามว่าอย่าทำดังซ้ำไปมาแต่เซฮุนเลือกที่จะเมินมัน เสื้อที่คนตัวผอมใส่ถูกกระชากดึง มันบาดเนื้อหนังจนเจ็บแสบ จงแดพยายามจะดิ้นรนแต่พอขัดขืนก็ถูกตบจนหน้าหัน
เซฮุนมือสั่นระริก มองจงแดฟุบลงไปแนบกับพื้นเตียง ในตาวูบไหวเพราะภาพบางอย่างมันฉายทับขึ้นมา แต่เขาเลือกที่จะสลัดมันทิ้ง จับคนที่ไร้ท่าทีจะขัดขืนเนื่องด้วยหน้าช้ำไปเป็นแถบจากแรงตบเปลื้องเสื้อผ้าออก เสียงสะอึกสะอื้นดังขึ้นเบาๆ มือเล็กกว่าพยายามจับขอบกางเกงที่สวมใส่เอาไว้แต่เซฮุนก็ถอดมันออกจนได้ เนื้อตัวของจงแดมีรอยช้ำอยู่ประปรายแต่ดีขึ้นกว่าตอนี่เขาเห็นครั้งสุดท้ายมาก
“ถ้าคุณก็รู้ว่ามันรู้สึกยังไงทำไมถึงจะทำมันล่ะครับ ถ้าอย่างนั้นคุณเองก็ไม่ต่างจากพี่จื่อเทาเลยสักนิด”เสียงของจงแดนั้นสั่นพอกับไหล่เนียนที่ไหวระริก เซฮุนหัวเราะ ปลดกางเกงตัวเองออกแล้วปลุกปั่นท่อนเนื้อที่มันอ่อนเปลี่ยให้เริ่มแข็งสู้มือ จงแดถดกายหนีแต่เซอุนก็ลากกลับมา คนตัวเล็กกว่าขอร้องให้ปล่อยกันไปซ้ำแล้วซ้ำอีกทำให้เซฮุนนึกรำคาญ
“อื้อ”เสื้อที่จงแดเคยสวมถูกหยิบมาอุดเข้าไปในปากทำให้ต้องร้องเสียงหลง ทว่ากลับมีเพียงเสียงอื้ออึ้งเท่านั้นที่ได้ยิน จงแดเบิกตากว้าง ดิ้นปัดรุนแรง พยายามจิกข่วนเข้าที่แขนของเซฮุนให้ให้คนตัวสูงกว่าเจ็บและล่าถอยแต่ก็ไม่เป็นผล ยิ่งเจ็บเหมือนเซฮุนจะโมโหมากขึ้น หมัดหนักๆกระทบเข้าที่ข้างแก้มซ้ำรอยตบ ได้ยินเสียงของฟันกระทบกันจนดังก้องในหู เขารู้สึกได้ว่ากัดกระพุ้งแก้มของตัวเองจนได้แผลใหญ่ แต่เลือดกลับถูกซับด้วยผืนผ้าที่ยัดกั้นเสียงร้องเอาไว้
เซฮุนมองใบหน้าที่ช้ำ โหนกแก้มของจงแดแตกจากแรงต่อยจนเลือดซึมออกมา ดวงตาที่สั่นระริกคลอดด้วยน้ำตาและสุดท้ายน้ำใสๆนั่นก็กลิ้นหล่นมาจากด้วงตาคู่สวย ร่างสูงโปร่งชะงักไป ภาพที่ซ้อนทับขึ้นมามันเริ่มชัดเจนมากขึ้น มองเห็นตัวเองนอนอยู่ใต้ร่างของฮวังจื่อเทา หมัดหนักๆกระทบเข้าที่ใบหน้าจนเจ็บไปหมด
“ไอ้เด็กเหี้ย!
เซฮุนสะดุ้งเฮือก! เขาได้ยินเสียงผรุสวาทดังลั่น มันดังออกมาจากหัวของเขาเอง เป็นเสียงของจื่อเทาที่ตวาดด่าตอนที่เขาพยายามจะทำร้ายอีกคน ร่างสูงใหญ่ถลันเข้ามาหาจับไหล่เขาเข้าไปประชิดตัวจนได้กลิ่นเหล้า
“มึงมันเด็กเหลือขอ”ร่างของเซฮุนถูกเหวี่ยงติดกำแพง จื่อเทาเข้ามาประชิดอีกครั้งแล้วซีกหน้าก็ชาเพราะหมัดหนักๆกระทบเข้าไปเต็มๆ เซฮุนในตอนนั้นสมองมึนงงไปหมด ที่ตัวถูกต่อยหลายที ที่หน้าก็ถูกตบซ้ำลงมา เขาได้ยินเสียงหอบหายใจของฮวังจื่อเทา และเสื้อผ้าของเขากำลังถูกปลดเปลื้องออก
“เงี่ยนพอดี ลงโทษที่คิดจะตีกูนะไอ้เด็กเวร”
.
.
“อย่า!!”เสียงหวีดร้องดังลั่นเมื่อเห็นภาพที่ฮวังจื่อเทาจับขาของตนเองแยกออกแล้วแทรกกายเข้ามา เซฮุนผงะถอยจนล้มคว่ำไปกับพื้นร้องกรี๊ดลั่น จงแดได้อิสระคืนมา ในตอนนั้นคนตัวเล็กรีบดึงเสื้อออกจากปากของตัวเอง ความเจ็บแล่นปราดขึ้นมาทันที เลือดจากบาดแผลที่กระพุ้งแก้มไหลออกมาจนคาวคลุ้ง การเสียเลือดมากแบบฉับพลันทำให้รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาทันที คนตัวเล็กพยุงตัวเองขึ้นยืน เสียงร้องของเซฮุนดูรู้ว่าอีกคนน่าสงสารขนาดนั้น จงแดรู้ดี เพราะมันเหมือนตอนที่ภาพทุกอย่างวิ่งเข้ามาในหัวของเขา ความเกลียดตัวเองตีรวนขึ้นจนแทบอยากจะดึงทึ้งเนื้อหนังให้มันถลอกปอกเปิก อยากจะกระชากมันออกไปจากหัวแต่ก็ทำได้เพียงกระชากผมจนเจ็บหนังศีรษะ
“อย่า คุณเซฮุนปล่อยมือ”ถึงแม้จะเจ็บแต่จงแดก็ทนมองเห็นโอเซฮุนฮุนทึ้งกระชากหัวเหมือนคนบ้าไม่ได้ เขาทรุดลงไปกองที่พื้น มือเอื้อมไปจับแขนอีกคนเอาไว้แต่กลับถูกปัดออกอย่างแรง เซฮุนตวัดสายตามองคนที่ถูกปัดจนเซล้มฟุบที่พื้น เขาปาดน้ำตาที่ไหลออกมาตอนไหนไม่อาจรู้ได้ออก รี่เข้ากระชากจงแดแล้วเหวี่ยงลงกับฟูก มือวกไปปลุกเร้าท่อนเนื้อกลางกายอีกครั้ง
ในหัวสวยๆของเซฮุนนั้นมีแต่ภาพที่ตัวเองโดนจื่อเทาทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำอีก เขาจับขาของจงแดแหวกออกแล้วดันท่อนเนื้อที่ถูกปลุกเร้าเข้าไปไม่ให้อีกคนได้ตั้งตัว จงแดกรีดร้อง มือจิกกำฟูกนอนแน่น เพราะเจ็บซ้ำจากการถูกเหวี่ยงเลยไม่ทันตั้งตัว จะถีบอีกคนออกก็ถูกจับขาเอาไว้แน่น ท่อนเนื้อที่ทุรังแทรกเข้ามาหลังจากที่พักเรื่องอย่างว่าไปอีกทั้งไม่มีการเตรียมพร้อมทำให้รู้สึกเจ็บ
“เป็นไง เจ็บเหรอ”เสียงของเซฮุนเอ่ยถาม จงแดคงรังเกียจอีกคนแทบบ้าตายถ้าตอนนี้คนที่กำลังยกสะโพกออกแล้วกดดันท่อนเนื้อเข้ามาในตัวของเขานั้นไม่ได้กำลังร้องไห้ เซฮุนกัดฟันแน่น หลับตาลงแล้วจับขาของจงแดแยกออกกว้างมากขึ้น เสียงสะอื้นจากจงแดทำให้ภาพในหัวของเซฮุนผุดขึ้นมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาได้ยินเสียงร้องไห้ของตัวเอง เสียงร้องว่าอย่าทำมัน อย่าทำอะไรเขา เขาเจ็บ...
“เจ็บสินะ...เพราะฉันก็เจ็บเหมือนกัน”เซฮุนว่าเสียงแตกพร่า ขยับโยกกายแรงขึ้นเพื่อจะสลัดภาพที่ตัวเองโดนทำร้ายออกไป ลืมตาขึ้นมามองภาพตรงหน้า ตอนนี้คิมจงแดต่างหากที่กำลังโดนเขาทำร้าย เขาก้มลงไปกระซับบอกข้างริมฝีปากที่เปิดอ้า จงแดกรีดร้องยามเขาเสือกกายเข้าไปลึกมากขึ้น เซฮุนกระซิบบอก...ว่าอย่าลืมอธิบายกับจื่อเทาเชียวว่ามันเจ็บขนาดไหน
มือของเซฮุนปล่อยจากขาเพรียวมาข้างหนึ่งเพื่อจับส่วนอ่อนไหวด้านหน้าของจงแดและขยับมันเพื่อทักทาย จงแดกัดปากฉับแม้จะเจ็บเพราะมันไปซ้ำแผลเดิมที่มีก็ตามที ความรู้สึกแปลบปลาบแล่นไปทั่วร่าง ยิ่งผสมแรงเสียดสีของผนังช่องทางอ่อนนุ่มกับส่วนที่แข็งขืนแล้วยิ่งทำให้รู้สึกว่าด้านหน้าที่ถอกหยอกเย้านั้นจะแข็งตัวขึ้นได้ง่ายกว่าเดิม
อาการที่คิดว่ามันดีขึ้นเมื่อไม่ได้รับการกระตุ้นเร้าเรื่องเพศเหมือนจะแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด จงแดแหงนเงยหน้าเชิด รู้สึกชาตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ร่างกายร้อนวูบวาบไปหมด คนตัวเล็กผืนกัดฟันจับมือที่กำรูดส่วนหน้าของตัวเองเอาไว้ทั้งที่ในใจอยากจะเร่งเร้าให้อีกคนช่วยขยับสะโพกให้เร็วขึ้นอีกสักนิด
“อย่าทำแบบนี้”เอ่ยขอร้องไม่รู้ว่าเป็นครั้งที่เท่าไหร่ แต่แรงที่ขยับในร่างกายก็ไม่ลดราลงเลยสักนิด เซฮุนกระชากกายออกอย่างแรงเรียกเสียงหวีดสูงดังลั่นออกจากปากของจงแด ทั้งตัวถูกจับพลิกคว่ำ จงแดได้แต่ปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมายามที่หัวถูกกดแนบกับพื้นฟูก อยากจะขยับเพื่อหาทางหนีแต่ก็ไปไม่เป็นเมื่อสะโพกถูกยกขึ้นแล้วเซฮุนก็สวนกายกระแทกเข้ามาอีกครั้ง ความเสียววูบแล่นปราดที่ท้องน้อย ขาแทบจะไร้เรี่ยวแรงพังพาบไปนอนกองถ้าไม่ถูกมือของเซฮุนดึงรั้งเอาไว้
เสียงเนื้อที่กระทบกันดังเคล้าเสียงครางเจือสะอื้นของจงแด เซฮุนหลับตาลงอีกครั้ง ยิ่งพยายามจะกำจัดภาพที่ตัวเองนอนเป็นตุ๊กตาให้จื่อเทาเสือกกายเข้ามาในร่างเท่าไหร่เขาก็ยิ่งเห็นมันได้ชัดจากภาพที่จงแดนอนเป็นตุ๊กตาให้เขาเสือกกายเขาไปในร่างเท่านั้น
“ดิ้นเข้าไปสิ!
เสียงข้างในหัวดังขึ้นอีกครั้ง เซฮุนลืมตาโพลง แรงขยับที่สะโพกหยุดชะงักในทันที เขาได้ยินเสียงหัวเราะดังลั่นในหัว
“มารำลึกความหลังหน่อยไหมว่าคนอวดดีจะเป็นยังไง”เสียงของจื่อเทาดังขึ้นมาต่อเนื่อง ภาพที่อยู่ในหัวตอนนี้คือเซฮุนถูกจับเหวี่ยงไปกระแทกประตูรถของจื่อเทา แรงชกที่หน้าทำให้เจ็บไปหมด ใบหน้าคมเข้มนั้นแสยะยิ้มที่เซฮุนแสนรังเกียจ
“อยากรู้นักว่าไปนอนกับน้าฉันมาตั้งนาน ลืมไปแล้วหรือยังว่าเคยเอากับคนหลานมาก่อน”
.
.
“พอแล้ว!เซฮุนตวาดเสียงดัง ชายหนุ่มถอนตัวออกมาจากจงแดอย่างแรง ก่อนจะสะบัดตัวผอมบางล้มลงไปที่พื้นข้างฟูก ได้ยินเสียงจงแดร้องโอ้ยออกมาคงเพราะหัวไปกระแทกพื้นปูเข้าให้ แต่คนที่ชักเข่าขึ้นมากอดแน่น ปิดหูเหมือนไม่ต้องการได้ยินอะไรอีกทั้งนั้นก็ไม่อาจรู้ได้เลย เซฮุนหวีดเสียงสูง ร้องเร่าว่าให้หยุดเดี๋ยวนี้ หยุดภาพจื่อเทาขยับโยกอยู่บนร่างของเขา หยุดเสียงที่หมอนั่นหอบครางอยู่ข้างหูแล้วหัวเราะเยาะ
จงแดยันตัวลุกขึ้นมาอย่างยากลำบาก มือจับหน้าผากที่เจ็บเพราะกระแทกพื้นเมื่อครู่ อาการบาดเจ็บไม่ได้ทำให้ความต้องการที่แข็งขืนอย่างหว่างขานั้นสงบลงเลยสักนิด เด็กหนุ่มกัดฟันผ่อนลมหายใจเพื่อดับความต้องการนี้แม้มันจะไม่ได้ช่วยอะไรมากมายแต่ก็พอทุเลาลงได้ คนตัวเล็กสะดุ้งยามที่เซฮุนกรีดร้องขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้จงแดไม่กล้าเข้าไปใกล้ เขามองหาโทรศัพท์เพื่อจะขอความช่วยเหลือจากใครสักคนแทน เมื่อเห็นเครื่องมือสื่อสารนอนนิ่งอยู่ไม่ใกล้ จงแดหยิบมากดโทรออกหาอี้ชิงเป็นเบอร์แรก อีกมือหนึ่งก็พยายามหยิบผ้าห่มที่พับวางอยู่ข้างๆเซฮุนมาเพื่อปิดร่างกาย ทว่าเพียงขยับตัวเข้าจับปลายผ้า คนที่ปิดหูปิดตากรีดร้องก็สะดุ้งเฮือกขึ้นมา ดวงตาของเซฮุนแดงก่ำเพราะร้องไห้ จงแดหน้าซีดเผือดไม่รู้ว่าเซฮุนอยู่ในอารมณ์ไหนตอนนี้ เขาไม่สนใจผ้าห่มที่ว่าแล้ว จงแดตัดสินใจลุกขึ้นวิ่งเข้าห้องน้ำเพื่อหลีกหนีแทน ทว่าคนที่เจ็บจนน่วมไปทั้งตัวมีหรือจะไวเท่าคนที่ไม่เป็นอะไร เซฮุนลุกขึ้นตามคว้าเอาร่างเล็กเอาไว้ได้ทันพอดี โทรศัพท์ที่ถือร่วงลงไปกระทบพื้นเสียงดังแต่ไม่พัง เสียงรอสายเบอร์อี้ชิงยังคงดังลอดลำโพงออกมาให้ได้ยินอยู่
“กูเกลียดมึงไอ้เหี้ยจื่อเทา!”เสียงเซฮุนตวาด มือเรียวขยุ้มคอของจงแดเอาไว้ กดแรงบีบลงไปเหมือนต้องการให้ตายในทันที คนตัวเล็กกว่าดีดดิ้น พยายามจะเรียกชื่อของเซฮุนบอกให้มองดีๆ เขาคือคิมจงแดไม่ใช่พี่จื่อเทา แต่แรงที่กดอยู่ก็ทำให้ไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาได้
-ฮัลโหลจงแด-
เสียงของอี้ชิงจากในโทรศัพท์ดังขึ้น จงแดน้ำตาไหล ทำได้เพียงจับมือที่บีบคอของเขาแน่น เซฮุนพูดซ้ำวนไปมาว่าเกลียด อยากให้ตาย อยากให้เจ็บปวดจนอยากตาย
“คนอย่างมึงควรจะตายๆไปซะ ไอ้เหี้ย!”ตวาดกร้าวและเพิ่มแรงบีบเข้ามาจนจงแดทนไม่ไหว เขาหายใจไม่ออก รู้สึกว่าใบหน้าของเขามันชาขึ้นมาคงเพราะสมองกำลังขาดออกซิเจน แต่หูยังคงได้ยินเสียงอี้ชิงดังลอดมาจากลำโพงโทรศัพท์ เสียงทุ้มดูร้อนรนถามย้ำซ้ำว่าเป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น และใครกำลังตวาดเสียงดัง
-พี่ใกล้จะถึงแล้ว รอก่อนนะ-
เสียงของอี้ชิงดังประโยคสุดท้ายก่อนที่สายจะถูกตัดไป จงแดยกยิ้มอย่างอ่อนแรง สมองไม่รับรู้อะไรอีกแล้วนอกจากคำว่าพี่ที่อี้ชิงใช้แทนตัวเอง สรรพนามเล็กๆที่บอกว่าอีกคนได้รับเขาเป็นสมาชิกของครอบครัวอย่างเต็มใจแล้วจริงๆ

คนขาย

อี้ชิงแขวนถุงกับข้าวไว้ที่แฮนด์มอเตอร์ไซค์ก่อนจะสตาร์ทและบิดคันเร่งอย่างแรง ในใจเขาร้อนรนเพราะเหตุการณ์เมื่อครู่ จงแดโทรเข้ามา เขาไม่รู้เพราะโทรศัพท์อยู่ในกระเป๋าสะพายที่แขวนไว้ที่รถขณะที่ตนเองไปสั่งกับข้าวในร้าน พอมาถึงรถจึงกดรับแต่ไม่มีเสียงตอบกลับมา ทว่าอีกเพียงครู่หนึ่งก็ได้ยินเสียงตวาดลั่น มันไม่ใช่ภาษาจีน...แต่ไม่ใช่เสียงของจงแด
ให้เป็นคนโง่ก็รู้ว่ากำลังเกิดเรื่องไม่ดี จงแดอาจจะอยู่ในอันตราย เขาร้อนใจจนแทบจะอยากหายไปถึงบ้านตอนนั้นเลยด้วยซ้ำ
ชายหนุ่มวิ่งขึ้นหออย่างรีบเร่งไม่สนใจด้วยซ้ำว่าเจ๊เวี่ยงเจียงเจ้าของหอเรียกให้เขาหยุดคุยก่อน กุญแจถูกไขเพื่อเปิดประตูอย่างรวดเร็วและทันทีที่ประตูเปิดออก ข้าวของที่อยู่ในมือของอี้ชืงก็หล่นกระทบพื้นเพราะเขาไม่มีเรี่ยวแรงจะถือมันเอาไว้
ภาพคนตัวผอมบางนอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้นทำให้อี้ชิงแทบสิ้นสติ เขาถลาเข้าไปหาจงแดทันที ดึงน้องขึ้นมาก่อนจะเขย่าเรียกทว่ากลับไม่มีท่าทีตอบสนอง ชายหนุ่มแนบหูกับอกของน้องยังได้ยินเสียงหัวใจเต้นก็พอใจชื้น อี้ชิงหาผ้ามาคลุมร่างแล้วแบกคนเด็กกว่าขึ้นบนบ่าทันที เขาตะโกนบอกให้ยามหน้าหอเรียกแท็กซี่ให้ ทุกคนที่อยู่ชั้นล่างแตกตื่นไปหมดถามว่าเกิดอะไรขึ้นโดยเฉพาะเจ๊เวี่ยงเจียง
“ว่าแล้วต้องมีเรื่อง คนที่มาวันนี้รีบออกไปท่าทางมีพิรุธ”อี้ชิงขมวดคิ้วฉับเขาจะถามว่ามีคนมาหาที่ห้องวันนี้ด้วยหรือแต่แท็กซี่ที่แล่นเข้ามาจอดเทียบก็ทำให้ต้องเลือกวางจงแดไว้ที่เบาะหลังจากนั้นก็ขึ้นนั่งตามไปแทนที่จะซักไซร้เจ๊เจ้าของหอต่อ
ร่างผอมบางถูกเข็นเข้าห้องฉุกเฉินไปทันทีเมื่อมาถึงโรงพยาบาล อี้ชิงลูบหน้าตัวเองเพื่อตั้งสติ เขาโทรแจ้งความก่อนอันดับแรก เพราะมีคนบุกรุกและจงแดถูกทำร้ายร่างกาย สภาพน้องดูแทบไม่ได้ เนื้อตัวเปลือยเปล่ามีแต่ร่องรอยช้ำ ใบหน้ายับเยินไปด้วยเลือดเต็มไปหมด ยิ่งกว่านั้นคือช่องทางที่บวมแดงจากการถูกสอดใส่ทำให้รู้ได้ทันทีว่ามีไอ้เลวระยำคนหนึ่งทำร้ายและข่มขืนจงแด...
ตำรวจรับเรื่องและเดินทางไปที่หอเพื่อเก็บหลักฐาน อี้ชิงบอกให้สอบถามกับเจ้าของหอได้เลยส่วนเขาจะรอดูอาการน้องชายอยู่ที่โรงพยาบาลหากต้องการซักถามเพิ่มเติมรบกวนให้มาหาที่นี่แทน อี้ชิงวางสายจากตำรวจแล้วมองเข้าไปในห้องฉุกเฉินแทน ทีมแพทย์ครอบหน้ากากออกซิเจนให้จงแด เขาเห็นแค่นั้นก่อนที่พยาบาลสาวจะปิดผ้าม่านบังจนสนิท
นั่งกระวนกระวายใจอยู่นานหลายชั่วโมงแต่ไม่มีทีท่าว่าทีมแพทย์จะออกมาจากห้องฉุกเฉินเลยสักนิด อี้ชิงมองที่บานประตูซึ่งปิดสนิทนิ่ง เขาโทรไปถามเจ๊เว่ยเจียงเรื่องตำรวจ ทางนั้นบอกว่ามีตำรวจเข้ามาตรวจค้นห้องและขอดูกล้องวงจรปิด หังจากวางสายจากเจ๊เว่ยเจียงไม่นานชายหนุ่มในชุดตำรวจสองคนก็ปรากฏขึ้นในโรงพยาบาล
“สวัสดีครับ คุณอี้ชิงใช่ไหม ผมหมวดเทียนรับผิดชอบคดีของคุณ ขอสอบปากคำหน่อยได้ไหมครับ”คนหนึ่งพูดกับอี้ชิง เขาพยักหน้าแล้วเริ่มเล่าตั้งแต่ได้รับโทรศัพท์จนกระทั่งไปเจอจงแดในสภาพแบบนั้น ด้วยความห่วงว่าอีกคนจะเป็นอะไรจึงรีบพามาโรงพยาบาลก่อนแจ้งความ
“ผมเช็คทางกล้องวงจรปิดแล้ว บวกกับพยานยืนยันว่าคนในรูปนี้เป็นผู้ต้องสงสัย เจ้าของหอบอกว่าเขามาถามหาเลขห้องของคุณและออกไปท่าทางลุกลน”หมวดเทียนเอ่ย ยื่นแฟ้มเอกสารอันหนึ่งมาให้ อี้ชิงรีบรับมาดู ภาพที่นายตำรวจคนนี้ปริ้นท์มาเป็นสีขาวดำ ใบหน้าของคนที่ว่านั้นดูไม่เห็นชัดเจน แต่รูปร่างลักษณะที่อี้ชิงเห็นบ่อยครั้งยังไงเขาก็จำได้ดี
...โอเซฮุน...
มือของอี้ชิงกำแน่น เขาบดกรามจนปวดไปหมด มือที่ถือแฟ้มอยู่สั่นระริกจนนายตำรวจต้องขอแฟ้มข้อมูลนั้นกลับคืนไป เสียงถามว่าทราบไหมว่าผู้ต้องสงสัยเป็นใครนั้นแทบจะไม่เข้าโสตของอี้ชิงสักนิด ตอนนี้เขามีแต่คำถามในใจจากตัวเอง ว่าโอเซฮุนทำอย่างนี้ทำไม!
“ผมคุ้นหน้าแต่นึกไม่ออก”เขาบ่ายเบี่ยงยังไม่ตอบไปทั้งที่แน่ใจว่าเป็นเซฮุนแน่ๆ นายตำรวจทั้งสองเข้าใจดี บอกขอบคุณสำหรับข้อมูลทั้งหมดและขอตัวกลับไปก่อน หากได้รายละเอียดเพิ่มเติมจะรีบติดต่อกลับมาในทันที อี้ชิงหยิบโทรศัพท์ออกมาต่อสายตาจื่อเทาในทันทีเพื่อถามหาเซฮุน เขาฝากพยาบาลเวรให้ช่วยโทรบอกหากคนในห้องฉุกเฉินปลอดภัยแล้ว จากนั้นรีบโบกแท็กซี่เพื่อไปบ้านดอกเหมยทันที
จื่อเทาไม่รับโทรศัพท์ ตอนนี้คงเตรียมร้านกันอยู่ อี้ชิงเมื่อลงรถได้ก็พรวดพราดเข้าไปในร้าน จื่อเทากำลังเช็ดพื้นร้านตามปรกติอยู่จริงๆ อี้ชิงถามว่าทำไมไม่รับโทรศัพท์ จื่อเทาตบกระเป๋ากางเกงตัวเองดูแล้วบอกว่าคงลืมไว้ที่ห้องพัก
“มึงมีอะไร แล้วนั่นเลือดอะไรวะ”จื่อเทาถาม เลือดจุดเล็กๆอยู่ที่เสื้อนักศึกษาของอีกคน อี้ชิงไม่ตอบคำถาม แต่ถามว่าเซฮุนอยู่ที่ไหนแทน เสียงของอี้ชิงดังจนพนักงานคนอื่นที่มาเปิดร้านออกมาดูกัน จื่อเทารั้งเพื่อนไว้ สีหน้าของอี้ชิงทมึงทึง เอาแต่ตะโกนเรียกหาเซฮุนไม่หยุด
“มีอะไรกันน่ะอาอี้ เซฮุนไม่อยู่ ออกไปหาซื้อของ”เจียนจี้ฟางเข้ามาถาม
“มึงมาถามหามันทำไมวะ มันออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว”จื่อเทาสำทับ อี้ชิงสูดลมหายใจเข้าออก เขากัดฟันแน่นก่อนจะค่อยๆง้างปากพูดอย่างยากเย็น
“...มันข่มขืนจงแด”
.
.
เหมือนทุกอย่างหยุดชะงักไปหมดเมื่ออี้ชิงพูดออกมา น้ำเสียงนักดนตรีของร้านไม่ได้ล้อเล่น พนักงานคนอื่นเบิกตากว้างอย่างตกใจ เจียนจี้ฟางนิ่งตั้งสติอยู่นานก่อนจะถามว่าอี้ชิงกำลังพูดอะไรออกมา
“วันนี้เซฮุนไปที่ห้องผมแล้วข่มขืนจงแด! ผัวของม่าน่ะข่มขืนน้องชายผม! และผมอยากรู้ว่าเพราะอะไรไอ้สารเลวนั่นมันถึงทำเด็กคนนั้น!!”เสียงอี้ชิงตวาดกร้าว ย้ำคำพูดเดิมของตนเอง เจียนจี้ฟางได้ยินแบบนั้นก็แทบจะเป็นลม หล่อนเกือบทรุดลงไปที่พื้นถ้าไม่ได้พนักงานตรงนั้นช่วยกันประคองเอาไว้ หล่อนรับยาดมจากพนักงานเสิร์ฟหญิงคนหนึ่งมาดมแรงๆ
“มึงไม่ได้ล้อกูเล่นแน่นะ”จื่อเทายังถามอีกครั้ง นั่นเรียกสีหน้าบึ้งตึงมากกว่าเดิมจากอี้ชิงได้ดี เขาบอกเพื่อนว่าจะโกหกทำไม ที่ต้องการรู้ตอนนี้คือโอเซฮุนอยู่ที่ไหน อยากจะรู้ว่าทำไมมันถึงไปทำระยำแบบนั้นกับจงแด เขาไม่อยากจะคิดว่าหัวใจที่เต้นแผ่วๆของเด็กนั่นจะหยุดเต้นไปหรือเปล่า
“ทำไมเซฮุนต้องทำแบบนั้นล่ะ อาอี้ไม่ได้ดูผิดไปใช่ไหม?”เจียนจี้ฟางยังคงไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น หล่อนไม่เห็นความเป็นไปได้ที่เซฮุนจะไปทำแบบนั้นเลยสักนิด แต่อี้ชิงก็ยังคงพูดว่าเป็นคนเกาหลีคนนั้น ภาพจากกล้องวงจรปิดและคำยืนยันจากเจ๊เว่ยเจียงก็ชัดเจนอยู่แล้ว
จื่อเทาค่อยๆทรุดตัวลงกับเก้าอี้ที่อยู่ตรงนั้น เขาบอกให้พนักงานคนอื่นออกไปพักนอกร้านกันก่อน แล้วออย่าเอาเรื่องนี้ไปพูดเด็ดขาด หากรู้จะไล่ออกให้หมด ชายหนุ่มกำหมัดแน่น ปะติดปะต่อเรื่องราวแล้วคงเดาในทางอื่นไม่ได้
“โดนไปครั้งเดียวมึงยังดิ้นแทนขนาดนี้ ถ้าโดนอีกสักครั้งจะเป็นยังไง”
คำพูดที่เซฮุนเคยพูดไว้ผุดขึ้นมาแทบจะทันที จื่อเทากัดฟันแน่น ก่อนจะเอ่ยออกมา...ว่าเขาพอจะรู้ว่าทำไม...
เขาเกลียดโอเซฮุน และอีกคนก็เกลียดเขาไม่ต่างกัน ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาใช้กำลังที่เหนือกว่าข่มเหงอีกคนมาตลอด เซฮุนไม่เคยสู้ได้ และถ้าหากมีโอกาสจะเอาคืน...หมอนี่ต้องไม่พลาด เซฮุนเห็นเขาเป็นเดือดเป็นร้อนกับเรื่องของจงแด ไอ้เวรนั่นรู้ว่าจงแดเป็นจุดอ่อนของเขาได้
“มันทำเพื่อจะแก้แค้นกูเอง...”ไม่มีใครเข้าใจที่จื่อเทาพูด เจียนจี้ฟางถามว่าทำไม เรื่องที่เคยเกิดขึ้นมันก็นานมาแล้วและจื่อเทาเองก็ไม่ได้เป็นอะไรกับจงแด มันไม่เกี่ยวกันสักนิด
“เซฮุนคิดว่าผมรักจงแด มันทำผมไม่ได้...มันไปลงกับเด็กนั่น”ยิ่งพูดจื่อเทาก็ยิ่งกำหมัดแน่น เขากำลังโทษตัวเองว่าเป็นสาเหตุทำให้จงแดต้องเจ็บตัว แต่ถึงจะอธิบายเพิ่มก็ไม่ทำให้ทั้งอี้ชิงและจี้ฟางกระจ่างใจ โดยเฉพาะอี้ชิงที่ถามเสียงแข็งว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมเซฮุนต้องแก้แค้นจื่อเทาโดยการทำร้ายจงแดแบบนี้ ทำร้ายร่างกายยังพอเข้าใจ ทำไมต้องข่มขืนเด็กคนนั้น แค่ที่จงแดพบเจอมามันก็หนักพออยู่แล้ว ทำไมถึงต้องไปซ้ำเติม หรือเพราะที่ได้ยินอี้ชิงกับจื่อเทาพูดกันวันนั้น...จื่อเทาบอกว่าจะเป็นคนเคลียร์เรื่องปิดปากเซฮุนไม่ให้พูดเรื่องจงแดถูกข่มขืน
แล้วทำไมตอนนี้มันถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้...
“จื่อเทา!! แกทำอะไรเซฮุน!”จี้ฟางตวาดเสียงแหลม หล่อนตรงเข้ามาคว้าคอเสื้อหลานชายตนเองแล้วเขย่า หล่อนไม่เชื่อว่าเซฮุนจะเคียดแค้นอะไรมากมายจนทำร้ายคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องได้แบบนี้ แม้จะไม่ได้ญาติดีกัน เจอหน้ากันต้องเกิดทะเลาะแต่มันไม่ทำให้คนแค้นได้ขนาดนั้นหรอก นอกจากจื่อเทาจะทำอย่างอื่น!
ฮวังจื่อเทากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ก่อนจะพูดออกมา คำที่จี้ฟางน่าจะรู้ดีแก่ใจ
“ผมข่มขืนมัน...อีกครั้ง”

อี้ชิงกุมศรีษะตัวเอง เขาปวดหัวกับเรื่องที่เกิดขึ้น จื่อเทานั่งเงียบพอๆกับมาม่าซังที่พอฟังหลานชายพูดแล้วก็ปล่อยคอเสื้อจื่อเทาออก หล่อนไปทรุดตัวนั่งบนเก้าอี้ตรงข้ามกับหลานตนเอง พึมพำออกมาว่าสารเลว...
“ตอนนั้นแกพูดว่าแกเมา แล้วตอนนี้แกทำทำไมจื่อเทา แกข่มขืนคนอื่นได้ยังไง และที่สำคัญคนๆนั้นเป็นผัวของฉัน!”เสียงแหลมหวีดลั่น จื่อเทาหมดข้อแก้ตัว เขาจะพูดว่าเพราะเซฮุนทำตัวเองมันคงใช้ไม่ได้กับจี้ฟาง เนื้อตัวของมาม่าซังสั่นเทิ้ม อี้ชิงเข้าไปแตะให้อีกคนสงบลง เขาปรายสายตามามองจื่อเทาก่อนจะหันกลับไปแตะไหล่ให้จี้ฟางลุกขึ้น เขาจะพาหล่อนไปพักผ่อน ไม่ลืมโทรตามพนักงานที่ออกไปเมื่อครู่เข้ามาดูแลมาม่าซังด้วย
“เรื่องมันบานปลายเพราะแกเอง รู้ไว้ด้วยนะจื่อเทา ฉันไม่เคยเข้าข้างเซฮุน เด็กนั่นผิดที่จะทำร้ายแก แกก็แค่สั่งสอนให้หลาบจำ ไม่จำเป็นที่แกจะต้องไปข่มขืนเซฮุน”มาม่าซังลุกขึ้นตามแรงประคองของอี้ชิง แต่หล่อนกลับมาพูดกับหลายชายตัวเองอีกครั้ง
“แกข่มขืนเขาแล้วไม่เคยยอมรับผิด ฉันไม่ว่า ฉันชดใช้ให้เอง ให้เด็กนั่นสบายมีกินมีใช้ แกไปรวนหาเรื่องเขาฉันก็เพิกเฉยเพราะคิดว่าแกเป็นหลานของฉัน”
“...”
“ทั้งที่ฉันเกลียดการข่มขืนมากขนาดไหนแกก็รู้ดี...”น้ำเสียงของมาม่าซังดูเจ็บปวด จื่อเทารู้ดี อดีตของแม่เล้าแน่นอนว่ากว่าจะมาอยู่จุดนี้เจียนจี้ฟางผ่านอะไรมาบ้าง เป็นเหตุผลที่จี้ฟางไม่เคยบังคับใครขายตัว หล่อนมีอดีตกับการถูกบังคับให้ร่วมรักกับผู้ชายคราวพ่อเพื่อแลกเงิน ถูกข่มขืนจากคนพวกนั้นเพราะหล่อนขัดขืน กว่าจะเข้มแข็งและมาเป็นมาม่าซังได้ หล่อนผ่านเรื่องราวหนักหนามาแทบนับไม่ถ้วน
คนถูกอบรมก้มหน้านิ่ง ยอมรับทุกอย่างไม่มีคำแก้ตัว ไม่บ่อยหรอกที่จี้ฟางจะพูดสั่งสอนจื่อเทา แม้รู้ตัวว่าหลานทำผิดแต่จี้ฟางก็ไม่เคยว่าเพราะคิดว่ายังไงจื่อเทาก็เป็นหลานชายของหล่อน
คนเป็นน้าสาวเดินจากไปพร้อมกับอี้ชิงแล้ว จื่อเทากุมขมับตัวเอง ความรู้สึกตอนนี้คือโมโหจนแทบบ้า โมโหไอ้ตัวดีอย่างเซฮุนที่มันทำร้ายจงแด และโมโหตัวเอง...
จริงอย่างที่น้าสาวของเขาพูดว่าเรื่องมันบานปลายไปเพราะเขาเอง...ถ้าหากไม่ขาดสติจนทำร้ายเซฮุนในตอนนั้น ถ้าหากเขายอมรับผิดตั้งแต่แรก ถ้าไม่คอยแต่หาเรื่องรวนอีกคน ถ้าไม่ทำมันอีกครั้ง...
จื่อเทาประสานสายตากับอี้ชิงที่เดินกลับมาจากส่งจี้ฟางไปพักแล้ว พนักงานที่สนิทกันคนหนึ่งมาช่วยดูแลมาม่าซัง ส่วนคนอื่นก็กลับบ้านกันเพราะวันนี้มาม่าซังคงเปิดร้านไม่ไหว อี้ชิงนั่งลงตรงข้ามจื่อเทาที่จี้ฟางเคยนั่ง
“เพราะกูเอง เซฮุนมันจะแก้แค้นกู”จื่อเทาพูดออกมา อี้ชิงไม่ได้ว่าอะไร เขาไม่เคยรู้เรื่องระหว่างจื่อเทากับเซฮุนมาก่อน รู้แค่ไม่ถูกกันมาก แต่ไม่คิดว่าเพื่อนของเขาจะทำร้ายอีกคนไว้ขนาดนี้ เขาไม่คิดจะซ้ำเติมเพื่อน เรื่องมันเกิดขึ้นแล้วก็ต้องหาทางแก้ไขเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ในตอนนี้คงต้องหาว่าเซฮุนอยู่ที่ไหน
Rrr
เสียงโทรศัพท์มือถือของอี้ชิงดังขึ้น ชายหนุ่มรีบหยิบมากดรับในทันทีเพราะคิดว่าอาจจะเป็นตำรวจหรือทางโรงพยาบาล เมื่อรับสายจึงรู้ว่าเป็นอย่างหลัง เขาถามว่าคนไข้อาการเป็นอย่างไรบ้าง พ้นขีดอันตรายแล้วใช่หรือไม่ แต่คำตอบที่ได้รับนั้นไม่ใช่สิ่งที่อี้ชิงคาดหวังเลยสักนิด

-เราพบรอยบีบที่คอ สมองคนไข้น่าจะขาดอากาศระยะหนึ่งทำให้หมดสติค่ะ ตอนนี้กำลังย้ายคนไข้เข้าไอซียู ถ้าหากญาติมากรุณาติดต่อที่เค้าเตอร์ก่อนนะคะ-

อี้ชิงตอบรับแผ่วเบาก่อนจะกดวางสาย จื่อเทามองมาอย่างตั้งคำถามว่าอาการของจงแดเป็นยังไงบ้าง อี้ชิงส่ายหัวบอกว่าจงแดถูกบีบคอ
“ระยำเอ้ย”ร่างสูงสบถ เขาถามอี้ชิงว่าจงแดเจ็บมากไหม อี้ชิงจึงบอกสภาพของน้องตอนที่เห็นให้ฟัง จื่อเทากำหมัดแน่น แม้คนที่ถูกกระทำไม่ใช่จงแดเขาก็คิดว่าเซฮุนมันระยำกว่าสัตว์ มันเกลียดเขามากขนาดต้องทำร้ายคนอื่นเลยใช่ไหม
“อยากไปเยี่ยมน้องกับกูไหม”อี้ชิงเอ่ยถาม จื่อเทาท้วงเรื่องเซฮุนว่าสรุปจะเอาอย่างไร อี้ชิงบอกว่าถ้าหากไอ้เด็กนั่นกำลังหลบหนีอยู่ก็จะปล่อยให้ตำรวจเป็นคนจัดการ วิวัฒนาการในการสืบค้นคนร้ายของตำรวจก้าวล้ำขนาดนี้คงหาชื่อคนในกล้องวงจรปิดได้ไม่ยาก และเมื่อมีชื่อก็หาตัวได้ไม่ยากเช่นกัน
ภาวนาให้ตำรวจจับตัวเซฮุนได้เร็วๆ เขาอยากจะถามมัน...
ว่าทำไมต้องทำกันขนาดนั้น...

เด็กคนนั้นยังเจ็บไม่พออีกหรือไง...
ทั้งที่ทุกอย่างมันกำลังไปได้ด้วยดี จงแดกำลังจะกลับไปหาแม่และน้องที่เกาหลี เรื่องร้ายๆที่ผ่านมาทั้งหมดสำหรับเด็กนั่นกำลังจะจบลง แล้วทำไม...
ทำไมโอเซอุนถึงไม่ยอมให้มันจบเสียที...
ทำไม...

ทำไมเด็กคนนั้นถึงน่าสงสารขนาดนี้นะ...






100 เปอร์เซ็นต์


TBC.

#ขายตัวออลเฉิน




รักค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น