ลูกค้าคนนี้ติดจูบ
บทที่5.
การกลับมาทำงานหลังจากนอนโรงพยาบาลทำให้จงแดประหลาดใจ
กี่เพ้าสีแดงสดที่พี่สาวต่างสวมใส่กำลังอยู่ในมือของเขา ดิ้นทองปักลวดลายสวยงาม
ความยาวของมันกรอมเท้าแต่ไม่ได้เข้ารูปเน้นสรีระแบบที่ผู้หญิงชอบใส่ ด้านข้างไม่ได้ผ่าขึ้นมาจนน่าหวือหวา
เป็นชุดที่งดงามและเรียบร้อยดูดี ทว่ามันก็ยังเป็นชุดในแบบที่ผู้หญิงใส่กันอยู่ดี
“ทำไมต้องใส่แบบนี้”ไม่ใช่จงแดที่ถามแต่เป็นอี้ชิง
จับผ้าในมือจงแดดู เนื้อผ้าลื่นมือ สีสันสดตัดกับเนื้อสีขาวซีดของคนที่ต้องสวมใส่
“ไม่ใช่ไอเดียม่าหรอก เซฮุนน่ะ
เห็นว่าจงแดก็เป็นลูกม่าเหมือนกันแต่แต่งตัวไม่เหมือนพี่เขา
พอเซฮุนพูดแบบนี้เลยคิดได้ว่าน่าจะให้จงแดใส่กี่เพ้าแดง
เสื้อดำแบบพนักงานธรรมดามันดูไม่มีราศีเลยน่ะสิ”เจียนจี้ฟางจีบปากจีบคอพูด
ชมเปราะว่าต้องดูดีมากแน่ๆถ้าหากจงแดสวมกี่เพ้าชุดนี้
“เสือกจริงๆ”เสียงพึมพำจากคนที่ยืนข้างอี้ชิง
ถึงจะเคยคิดว่าจงแดอยู่ในชุดกี่เพ้ามันต้องดูดีเอามากๆ
แต่ก็ไม่คิดอยากจะให้เด็กคนนี้ใส่
ชุดที่สวมใส่แล้วช่างสวยงาม
ทว่ายิ่งใส่ยิ่งไร้ค่า...
“เถอะน่า ไปๆ ไปอาบน้ำอาบท่าดีกว่า
แล้วก็ใส่ชุดนี้นะจงต้า”มาม่าซังรุนหลัง ตีเผียะที่ไหล่ของจื่อเทาบอกให้ไปดูความเรียบร้อยของร้านเสีย
ส่วนอี้ชิงก็รีบไปเช็คสายกีต้าร์เสียดีกว่า เมื่อวานเห็นบอกว่าเสียงเพี้ยนอยู่น้อยๆ
จงแดมองชุดสีแดงสดในมือ
หลังจากอาบน้ำจนกายกรุ่นกลิ่นสบู่แล้วซับเนื้อตัวให้แห้งก็ต้องมางุนงงกับชุดที่ถือ
ไม่รู้จะใส่ยังไงเพราะเป็นชุดตัดเย็บไม่มีซิปรูด ถอนหายใจออกมา
คงต้องสวมลงทางหัวกระมัง? ตอนที่สวมก็ติดขัดน้อยเพราะไม่คุ้นชินการแต่งกายแบบนี้
แต่พอชุดผ้าลื่นถูกสวมลงบนกายแล้วก็ไม่รู้สึกแปลกอะไร
แค่โล่งน้อยๆที่ช่วงล่างเพราะไม่ได้ใส่กางเกง ก้าวออกจากห้องน้ำด้วยท่าทางขัดๆ
แก้มซูบซีดซับสีตอนออกมาแล้วพี่ชิงชิงพุ่งตรงเข้ามาหากับพี่ลี่อิน
หญิงสาวจับนู่นลูบนี่ชมว่าน่ารักเอามากๆ
“มาแต่งหน้าหน่อยสิจงต้า
เร็วๆ”พี่ชิงชิงดึงแขนเข้าห้องแต่งตัว พี่สาวหลายคนมองมาทางจงแด
บางคนก็ทักทายถามถึงอาการไม่สบาย บางคนก็ชมว่าใส่ชุดนี้แล้วดูดีขึ้นเป็นกอง
แต่กับบางคนก็ไม่วายแขวะกัดด้วยความไม่ชอบใจ เหมือนพี่สาวคนเดิม
คนที่ค่อนขอดเขาตั้งแต่วันแรกๆ
“เลื่อนเป็นไอ้ตัวเต็มขั้นแล้วสิ”หล่อนมองเหยียดกี่เพ้าสีแดงสด
ดิ้นทองปักลายสวยขนาดนี้คงแพงน่าดู
เป็นไอ้ตัวราคาสูงก็ต้องประดับร่างให้แพงเข้าไว้
แต่มันจะสำคัญอะไรเมื่อพอรับแขกก็ต้องถอดทิ้งอยู่ดี
“เงียบปากไปเถอะ พูดเหยียดจงต้าว่าไอ้ตัวไอ้เตอ
หล่อนมันก็ขายตัวเหมือนกัน
ที่อยู่ที่นี่ก็ขายตัวกันทั้งนั้น”พี่ชิงชิงว่าพี่สาวคนนั้น
ริมฝีปากอวบอิ่มเคลือบด้วยลิปสติกสีอ่อนเหยียดยิ้มยกใส่อีกคน ดูเหมือนนางเอกสู้คนเสียทว่าจงแดกลับคิดว่าพี่ชิงชิงเหมือนนางร้ายในละครมากกว่า
“ไห่เทียน...เธอใช้คำว่าไอ้ตัวของจงต้า
คนอื่นก็ใช้คำว่าอีตัวกับเธอเช่นกัน จำเอาไว้ยัยปลาจวด”เหมยชิงชิงกดเสียงต่ำ
เธอปรายตามองพี่สาวชื่อไห่เทียนจนอีกฝ่ายเกือบจะปรี่เข้ามาหาเรื่อง
พี่สาวคนอื่นรีบคว้าตัวทั้งสองเอาไว้
สุดท้ายก็เป็นเหมยไห่เทียนที่ต้องรามือเพราะยังไงเสียพี่ชิงชิงก็ภาษีดีกว่า
เป็นถึงอันดับหนึ่งของร้าน หาเกิดปัญหาขึ้นมามิวายหล่อนเองที่จะเดือนร้อน
พี่ลี่อินหัวเราะร่ายามกางกระเป๋าเครื่องสำอางออก
ชมเพื่อนรักเสียงใสว่าคนอย่างเหมยชิงชิงนี่วินเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ
พี่ชิงชิงสะบัดผมที่พลิ้วสวยพูดบอกว่าแน่อยู่แล้ว
“จงต้าเองก็เหมือนกัน
ยัยปลาจวดนั่นมันพูดอะไรก็ตอบโต้เสียบ้าง เป็นผู้ชายไม่จำเป็นต้องเกรงใจผู้หญิงเสมอไป
โดยเฉพาะผู้หญิงแก่ๆขี้อิจฉา”จงแดอดหัวเราะไม่ได้
ส่วนพี่ลี่อินส่งเสียงหัวเราะดังไม่เกรงใจ รวมทั้งพี่สาวอีกหลายคน
บางคนพูดสนับสนุนกันสนุกปาก ขำกันให้ครื้น
นั่งนิ่งให้หญิงสาวทั้งสองลงรองพื้นบางๆและปัดแก้มให้ดูมีสีสัน
ส่วนปากนั้นจงแดขอไว้ว่าไม่อยากทาลิปมันเพราะมันเหนอะหนะ จนแล้วเสร็จก็จวนเวลาเปิดร้านพอดี
แขกวันนี้ของจงแดมารออยู่แล้ว
มาม่าซังต้อนรับการกลับมาของเขาด้วยนักธุรกิจวัยกลางคนเงินหนาฟูเต็มกระเป๋า
แค่เห็นจงแด ผู้ชายคนนั้นก็ร้องด้วยความพึงพอใจ จงแดไม่ชอบแววตาที่เหมือนจะไล้ไปทุกสัดส่วน
เขาพูดกับมาม่าซังว่าใส่ชุดนี้แล้วน่ารักมาก
“ม่าเลือกให้หนูจงต้าเป็นพิเศษเลยล่ะค่ะ”หล่อนพูดประจบประแจง
ยิ้มร่ากับเงินทิปที่ได้รับเพราะความถูกใจในชุดที่จงแดกำลังสวมใส่ นักธุรกิจวัยกลางคนไม่คิดสนใจที่จะนั่งดื่มแอลกอฮอล์ก่อนด้วยซ้ำ
บอกให้เปิดห้องเสียเดี๋ยวนั้น
มองปราดไปทั่วร่างคนที่ใช้เงินซื้อในคืนนี้แล้วยกยิ้มพอใจถึงขีดสุด
เนื้อขาวเจือซีด
ไม่อ้วนติดค่อนไปทางผอมแต่ลองจับต้องก็ไม่ระคายมือซ้ำยังนิ่มเสียด้วย
กลิ่นกุหลาบลอยวนรอบกายเพราะสบู่ที่จงแดใช้อาบก่อนเข้าทำงาน
ไอ้กี่เพ้าสีแดงสดนี่ก็ยิ่งขับให้ร่างกายเล็กบางดูน่าทะนุถนอม แต่กระนั้นเถอะ
...ยามได้เชยชมเรือนร่าง ยามที่ความกระสันอยากมันท่วมท้น
ก็คงไม่มีใครอยากจะทะนุถนอมร่างกายที่ใช้เงินซื้อมาหรอก
เพราะจ่ายเงินแลกมาถึงได้คิดจะทำยังไงก็ย่อมได้
อยากจะฉีกทึ้งแค่ไหนก็จะทำให้สมกับที่อยาก...
ค น ข า ย
เจ็บ...
จงแดกัดปากยามที่ขาถูกแยกออกกว้างรองรับกายอีกคนที่ทาบทับลงมา
ในตัวแน่นจุกและโล่งว่างยามที่เขาขยับเข้าออก
ลูกค้าคนแรกของวันนี้กัดกินร่างกายของเขาอย่างตะกรุมตะกราม เหมือนพวกอดอยาก
“อึ่ก...”จงแดเบือนหน้าซบหมอน จิกมือลงผ้าปูแน่น
พยายามผ่อนปรนไปตามแรงของอีกคน ได้ยินเสียงบอกให้ครางให้ฟังแต่ตอนนี้นอกจากความเจ็บ
คิมจงแดก็ไม่มีอารมณ์อื่นเลยสักนิด
เขาไม่มีความสุขกับเซ็กส์ที่ตะกรุมตะกรามสนใจแค่ยัดไอ้นั่นเข้ามาในตัวแบบนี้
“ร้องเสียงหวานๆสิ จงต้า”นักธุรกิจหนุ่มเร่งเร้า
จงแดส่ายหน้า เขาเจ็บ เขาเจ็บ!!
“อึ่ก...”ยังคงมีเพียงเสียงร้องก้องในลำคอกับการขยับร่างเข้าออกรุนแรง
แค่ขอให้มันจบลงเร็วๆ อดทน กัดฟันรับความเจ็บปวดที่ถาโถมอยู่เกือบชั่วโมง
กว่าที่ความทรมานจากเซ็กส์ที่ปราศจากความสุขจะจบลง ชายวัยกลางคนถอนตัวออกไป
จงแดคู้ตัวนอนขดแทบจะทันที มือกุมที่ท้องแน่นเพราะรู้สึกปวดจุก
ก่อนจะเสร็จลูกค้าของเขาดันตัวเข้ามาจนสุด บีบช่วงเอวยึดรั้งไม่ให้ขยับหนี
กระแทกกระทั้นไม่ปรานี
“เธอนี่สุดยอดเลยจินจงต้า
ฉันอยากจะจองเธอทุกวัน”เสียงของเขาแหบพร่า มือหยาบไล้ตามโครงหน้าชื้นเหงื่อ
จงแดปิดเปลือกตาให้สนิทไม่คิดจะเสวนาด้วย แกล้งทำเป็นเหนื่อยจนหลับจากกิจกรรมเมื่อครู่
ทั้งยังจุกแน่นท้องจนไม่อยากจะทำอะไรนอกจากนอนพักสักครึ่งชั่วโมงให้พอทุเลา
ได้ยินอีกคนอยากจะซื้อบริการตนเองอีก
จงแดคงไม่ต้องคิดให้เปลืองเวลาว่าเขาจะรับคิวผู้ชายคนนี้อีกหรือเปล่า
จัดพวกให้เข้ากับอู๋อี้ฟานได้แบบไม่ต้องไตร่ตรอง
สุดท้ายแล้วในคืนนี้จงแดก็รับแขกได้แค่คนเดียว
หลังจากออกจากห้องรับรองแขกมาก็หน้ามืดซ้ำยังจุกในท้องไม่หาย
อาการคลื่นไส้ตีรวนขึ้นประดังประเด
จบด้วยการขังตัวเองอาเจียนอยู่ในห้องน้ำนานสองนาน
เหมยลี่อินเข้ามาดูอาการน้องชายคนเล็กแล้วพาไปพัก บอกมาม่าซังว่าจงแดป่วย
เจียนจี้ฟางเต้นผางถามว่าป่วยอีกแล้วหรือ?
แล้วลูกค้าอีกคนที่นัดไว้เล่าจะทำอย่างไร หล่อนเสียรายได้ไปเยอะแล้วกับอาการป่วยของจงแด
“ก็น้องมันป่วยนี่ม่า
ร่างกายคนมันบังคับกันได้หรือไง”จื่อเทาแทรกวงสนทนามาพร้อมกับยาแก้ปวดในมือ
ถึงจะบอกว่าป่วยจริงๆแต่คนเสียรายได้ก็อดจะหงุดหงิดไม่ได้
หล่อนกะฟันกำไรจากคืนแรกหลังกลับมาทำงานของจงแด
ถึงได้ลงทุนสั่งตัดกี่เพ้าเป็นพิเศษ
ปักดิ้นทองลวดลายที่งดงามเป็นพิเศษไว้ดึงดูดลูกค้า สุดท้ายก็รับได้แค่คนเดียว
เป้ารายได้วันนี้ของหล่อนตกฮวบแบบไม่ต้องสงสัย
“ให้ผมรับแขกแทนน้องไหมล่ะ?”จื่อเทาพูดติดตลก
เจียนจี้ฟางแยกเขี้ยวบอกให้เอากระจกมาส่องเสียหน่อย ตัวสูงชะลูดเป็นต้นตาล
เนื้อหนังก็แข็งกระด้างแบบนี้ให้หล่อนเป็นผู้ชายก็ไม่เอาหรอก
ถ้าคิดจะขายล่ะคงจะเรียกลูกค้าได้แต่แม่สาวทรงสะโอด
“งั้นก็ให้ไอ้อี้มารับแทน”ยังไม่หยุดพูดจาติดตลก
จี้ฟางฟาดเข้าที่แขนแข็งแรงตวาดแว๊ดว่าถ้าจะให้อาอี้ของหล่อนไปขายล่ะข้ามศพหล่อนไปเถอะ
“งั้นม่าจะแคนเซิลคนนี้ให้ก็ได้
ไปพักไป”ท้ายที่สุดก็ต้องยอม จี้ฟางโบกมือไล่ให้จงแดไปพักด้านหลังร้าน
หรือจะนั่งในห้องแต่งตัวก็ได้แต่อย่าออกมาเพ่นพ่าน
แล้วหล่อนจะบอกแขกให้ว่าจงแดอาหารเป็นพิษต้องหามส่งโรงพยาบาล
ลี่อินพาน้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียก่อนเป็นอันดับแรก
ก่อนจะจัดแจงให้จงแดนอนพักในห้องแต่งตัว ช่วงนี้ลูกค้าเยอะ
แต่ละคนออกไปรับแขกกันหมดไม่ค่อยมีใครสิงในนี้มากนัก
“พี่ออกไปทำงานก่อนล่ะ อีกสามชั่วโมงก็เลิกแล้ว
เดี๋ยวมาเรียกถ้าอี้ชิงจะกลับ”เธอบอก จงแดพยักหน้ารับรู้
กอบกุมท้องที่ยังคงจุกปวดแล้วหลับตาลง
ยาแก้ปวดที่พี่จื่อเทาให้กินค่อยๆออกฤทธิ์ทำให้ง่วงงุน
ไม่นานก็ผ่อนลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอในที่สุด
ค น ข า ย
เสียงปิดประตูดังปังปลุกให้จงแดตื่น
อาการจุกปวดที่ท้องลดน้อยลงมากแล้วเพราะยาที่กินไปคงไประงับเอาไว้ได้ชะงัด
จงแดลุกขึ้นจากโซฟาที่ยึดเป็นที่นอน มองนาฬิกา เขาหลับไปสองชั่วโมงแล้ว
มองไปรอบห้องก็ไม่เห็นใคร
เสียงปิดประตูเมื่อครู่อาจเป็นพี่สาวสักคนเข้ามาแล้วออกไป
จงแดลุกขึ้นเดินออกจากห้อง
เขาถูกสั่งห้ามไม่ให้เพ่นพ่านที่หน้าร้านแต่การอยู่ด้านในก็น่าเบื่อและอึดอัด
เขาไม่อยากจะมีเรื่องกับพี่สาวบางคนที่มองกันตาขวาง
ยิ่งไม่มีพี่ชิงชิงและพี่ลี่อินคอยช่วยเหลืออีกด้วย
แต่หากจะให้สู้กลับอย่างที่พี่ชิงชิงว่าไว้จงแดก็ทำไม่ได้
สำนึกความเป็นผู้ชายบอกว่ายังไงก็ตามไม่ควรที่จะทำร้ายผู้หญิง
เลี่ยงเอาเสียยังจะดีกว่า ไม่เกิดการต่อเถียงกันแต่แรกก็จบ
เดินออกหลังร้านมาสูดอากาศที่หลังร้าน
ยิ้มขำเพราะคำว่าสูดอากาศมันควรเป็นสถานที่หย่อนใจบรรยากาศดีๆไม่ใช่หลังร้านที่เต็มไปด้วยรถของพนักงานจอดเรียงรายและถังขยะกองใหญ่แบบนี้
แต่ก็คงดีกว่าอยู่มีเรื่องกับเหมยไห่เทียนล่ะนะ
กึก..กึก
กึก...กึก
จงแดเลิกคิ้วกับเสียงประหลาดที่ได้ยิน มันดัง กึก
กึก กึก เป็นจังหวะเหมือนใช้มือทุบกระจก
ทั้งที่เขาคิดว่าไม่มีใครอยู่ที่แถวนี้เลยสักคน
กวาดตามองก็มีเพียงรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์จอดเรียงราย
หัวคิ้วขมวดฉับเพราะเสียงนั้นยังดังต่อเนื่อง จงแดก้าวขาเดินไล่ตามรถแต่ละคัน
กังวลว่าจะเป็นขโมย มือเล็กฉวยเอาท่อนไม้แถวนั้นมาเป็นอาวุธ
ที่จอดรถของร้านนั้นมีเนื้อที่ไม่มาก บางคนใช้ตรอกแคบๆตรงมุมถนนเป็นที่จอด
ไม่แน่อาจจะมีคนคิดแงะรถเอาทรัพย์สินเพราะลับสายตาคน
เสียงดังกึก กึกดังมาจากในตรอกแคบนั้นจริงๆ
รถยนต์คันหนึ่งจอดคาเอาไว้ คุ้นตาว่าเป็นรถของพี่จื่อเทา จงแดกัดปาก
ชั่งใจว่าจะกลับไปเรียกคนในร้านดีหรือเปล่า
ทว่าตอนที่กำลังจะกลับไปเรียกคนอื่นมาช่วยก็ต้องหยุดชะงักเพราะน้ำเสียงทุ้มต่ำของเจ้าของรถดังขึ้นจากด้านในตรอกนั้นพอดิบพอดี
จงแดเบิกตาขึ้น เสียงเมื่อครู่ไม่ใช่เสียงพูดทว่าเป็นเสียงครางต่ำ
เขาจำโทนเสียงของพี่จื่อเทาได้ดี เป็นเสียงทุ้มแบบมีเสน่ห์เฉพาะตัว
ยิ่งยืนฟังยิ่งตัวแข็งทื่อเพราะปะติดปะต่อภาพเอาเองจากเสียงกระทบดังตึก
ตึกของอะไรสักอย่างกับกระจก คิดว่าคงเป็นกระจกรถ
เสียงทุ้มต่ำยังคงครางเครือคลอกับมันและครวญครางถี่กระชั้นจนเงียบหาย
จงแดหลบเข้าไปซ่อนที่ซอกรถสองคันเพราะได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้
แววตาตระหนกมองลอดซอกรถสองคันเห็นร่างสูงโปร่งที่คุ้นเคยเดินผ่านหน้าไป
ใช่ฮวังจื่อเทาจริงๆ...
เมื่อชะเง้อมองเห้นแผ่นหลังกว้างหายเข้าประตูหลังร้านไปแล้วถึงได้กล้าออกจากที่ซ่อน
ไม้ในมือที่คิดจะเอามาใช้เป็นอาวุธถูกกำแน่นตอนที่เดินเข้าไปใกล้ตรอกแคบที่มีรถของจื่อเทาจอดอยู่
เขารู้ได้ว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้นตรงนี้
ฮวังจื่อเทากำลังมีเซ็กส์กับใคร...แล้วทำไมอีกคนถึงไม่ได้ออกมาพร้อมกัน...
ทว่าเพียงแค่ปลายเท้าหยุดอยู่ที่หน้ารถคันสีดำสนิท
อีกคนที่จงแดสงสัยว่าทำไมจึงไม่ออกมาพร้อมพี่จื่อเทานั้นกำลังเดินออกมาจากตรอกแคบและหยุดอยู่ตรงหน้าของเขา
ไม้ที่ถือในมือร่วงไปที่พื้น จงแดมองสภาพของอีกคนที่ใกล้เคียงกับคำว่าเละแล้วครางชื่อของคนๆนั้นเบาๆ
“...คุณเซฮุน”
ค น ข า ย
คนที่ยืนตรงหน้าไม่ได้พูดอะไร ทำเพียงดึงเสื้อเชิ้ตที่ถูกกระชากจนกระดุมกระเด็นหายไปมาปิดบังร่างกายแล้วเดินไปไขรถอีกคันหนึ่งหยิบเสื้อตัวใหม่มาเปลี่ยน
ใบหน้าของโอเซฮุนมีรอบช้ำโดยเฉพาะที่ปาก มันแตกและเป็นแผลเหวอะ
จงแดจะเอ่ยถามแต่อีกคนก็ล็อกรถแล้วเดินเข้าหลังร้านไปแล้ว จนเลิกร้านจงแดก็ไม่เห็นโอเซฮุนอีกเลย
“พาน้องกลับบ้านดีๆล่ะมึง”จื่อเทาโบกมือให้เพื่อนทั้งที่กำลังถูพื้นอยู่
พี่ชายร่างโปร่งยิ้มให้จงแดแต่เขากลับรู้สึกว่าปากมันเกร็งจนไม่อาจยิ้มตอบได้
ภาพที่จื่อเทาเดินออกมาจากตรอกนั้น ภาพที่โอเซฮุนสภาพดูไม่ได้
และเสียงครวญครางที่ได้ยิน
...สองคนนี้มีอะไรกัน
ทั้งที่คุณเซฮุนคือผู้ชายของมาม่าซัง และจากสภาพแล้ว
ดูก็รู้ว่าโอเซฮุนไม่น่าจะสมยอมเลยสักนิด
คิดไม่ออกเลยว่าระหว่างสองคนนี้เกิดอะไรขึ้น
แต่ในความคิดของจงแดมีแต่ด้านลบของจื่อเทาเต็มไปหมด
“เป็นอะไร”อี้ชิงถามคนที่ดูเหม่อ
เห็นไอ้เทาบอกรับแขกคนแรกก็ได้เรื่อง หรือยังจุกท้องอยู่?
จงแดได้ยินคนพี่ถามก็ส่ายหน้า บอกไม่มีอะไร
แค่หิวหน่อยๆเลยโดนบ่นเอาเสียยกหนึ่งว่าหากหิวทำไมไม่ไปขออะไรจากครัวกิน
ทนรออยู่ได้
“รอกินพร้อมพี่ก็ได้นี่ครับ”ตอบเสียงซื่อ
เพราะอี้ชิงก็ต้องแวะกินข้าวก่อนกลับหออยู่ดี ก็รอกินพร้อมกันก็ได้ อีกอย่าง
จงแดก็ชินเสียแล้วที่จะกินข้าวพร้อมอีกคน
อี้ชิงวางมือลงบนกลุ่มผมนิ่มก่อนถอนหายใจออกมา
นี่คงเป็นอีกครั้งที่คิมจงแดไม่ยอมคิดถึงตนเองก่อน
กับแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆเช่นการกินข้าวก็ต้องรอ
แม้ท้องจะหิวขนาดไหนก็จะรอกันหรือยังไง ทำไมไม่คิดถึงตัวเองก่อน...
“ไป หิวก็รีบกลับ”อี้ชิงบอก
ก้าวขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์แล้วรอให้อีกคนขึ้นซ้อน
แวะกินข้าวต้มร้านประจำเหมือนเคยแล้วจึงกลับหอ
พรุ่งนี้ตามที่จริงเป็นวันหยุดของจงแดแต่เพราะป่วยนอนโรงพยาบาลแล้ววันนี้ยังรับลูกค้าได้ไม่ครบจนต้องแคนเซิลทำให้เสียรายได้ไปพอควร
เจียนจี้ฟางจึงขอร้องแกมบังคับให้จงแดไปทำงานพรุ่งนี้ด้วย
“ส่งเงินให้แม่หมดเลยหรือเปล่า?”อี้ชิงเอ่ยถามตอนทิ้งตัวลงที่เตียง
จงแดกำลังนั่งเขียนแบบฟอร์มขอโอนเงินอยู่ที่พื้น จงแดส่ายหน้าบอกว่าโอนไปแค่บางส่วน
แม่ยังเหลือเงินอยู่ เธอบอกให้จงแดเก็บรวมเป็นก้อนเอาเป็นทุนแล้วรีบกลับเกาหลีดีกว่าส่งให้เธอกับน้อง
เพราะนายญี่ปุ่นของเธอขึ้นค่าแรงให้อีกหลายเงิน
ตอนนี้นอกจากค่ากินอยู่กับค่าเรียนบัลเล่ต์ของยัยจูจินก็ไม่ได้ขัดสนอะไร
“พรุ่งนี้เดียวพาไปซื้อเบาะนอน
นอนพื้นมาตลอดไม่ปวดหลังหรือไง”เขาถาม โยนผ้าเช็ดตัวที่ใช้เช็ดผมไปผึ่งตากที่ปลายเตียงแล้วล้มตัวลงนอน
จงแดส่ายหัว เขาชินแล้วกับความลำบาก มีพื้นให้นอนก็ดีไปถมถืด
ดีกว่าไปนอนตามดินตามปูนเป็นคนไร้บ้าน
“ขอบคุณนะครับพี่อี้ชิง”เอ่ยขอบคุณออกมา
มองดวงตาที่หันมาสบกันแลวเอ่ยขอบคุณซ้ำอีกครั้ง
ถ้าไม่มีพี่อี้ชิงป่านนี้เขาก็คงยังเป็นเด็กล้างจานที่ร้านอาหารจีนสักที่
เนื้อตัวผอมแห้งสกปรกมอมแมม ทางบ้านเขาก็คงยังขัดสนและลำบาก
แม่คงไม่มีมอเตอร์ไซค์ขี่พาจูจินไปเรียน
และน้องสาวของเขาคงไม่ได้ใส่ชุดบัลเล่ต์เป็นนางฟ้าตัวน้อยๆแบบที่เขาต้องการ
“ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอก
ที่นายมีก็เพราะตัวของนายเอง”ทุกอย่างที่จงแดมีก็เพราะน้ำพักน้ำแรงและร่างกายของเจ้าตัวทั้งนั้น
เขาก็แค่พาจงแดมาเจออะไรใหม่ๆ เจออาชีพทางลัดสำหรับเด็กคนนี้
แต่ถึงอย่างนั้นจงแดก็อดจะขอบคุณอีกไม่ได้ เพราะอี้ชิงหวังดีกับเขา เขาถึงมีวันนี้
“นอนไปได้แล้ว ไม่ต้องมาขอบคุณอะไรนัก
ฉันไม่ได้ถือเป็นบุญเป็นคุณอะไรหรอก”เขาว่า
ชี้ให้จงแดปิดไฟเสียด้วยหากเขียนเอกสารที่อยู่ในมือเสร็จแล้ว
จงแดยิ้มกว้างขานรับเสียงดัง พี่อี้ชิงพลิกตัวหันหน้าหนีไปอีกทาง จงแดทอดสายตามองแผ่นหลังกว้างของพี่ชาย
จะไม่ให้เป็นบุญคุณได้ยังไงกัน จงแดน่ะไม่คิดหรอกนะว่าคนที่ไม่ได้สนิทชิดเชื้อกันจะช่วยเหลือเขามากมายขนาดนี้
มันไม่ใช่แค่เพราะพี่อี้ชิงพามาทำงานจนมีเงิน
แต่จงแดขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่พี่ทำให้ ข้าวที่พี่เลี้ยง บ้านที่พี่ให้อยู่
สำหรับทุกสิ่งที่จางอี้ชิงมอบให้จงแดมันน้อยไปด้วยซ้ำถ้าแค่พูดว่าขอบคุณ
อี้ชิงไม่รู้หรอกว่าสำหรับจงแด เขาคือแสงสว่างเลยนะ...แสงสว่างที่ชี้นำทาง...
แสงสว่างที่แสนน่าประทับใจของคิมจงแด...
ค น ข า ย
นอกจากจะซื้อฟูกนอนแล้วจงแดยังต้องซื้อผ้าปูกับหมอนด้วย
พี่อี้ชิงบอกจะยึดทุกอย่างที่เอาให้จงแดใช้คืนทั้งหมด ให้จงแดซื้อเอาเอง
อดจะพองลมใส่แก้มไม่ได้ บ่นไปเบาๆว่าพี่อี้ชิงงกก็เลยได้มะเหงกเข้าที่หน้าผากกับคำว่าพูดที่ว่าถ้าจะงกจริงๆคงไม่ให้ใช้หมอนใช้ผ้าห่มของตนมาจนถึงทุกวันนี้หรอก
“แต่ผ้าห่มมันแพงนี่ครับ”เพราะผ้าห่มนั้นทำจากฝ้ายคุณภาพดี
เลยทำให้มีราคาที่สูงเล็กน้อย ซื้อผ้าห่มกับหมอนี่เกือบจะซื้อฟูกนอนได้อีกอันเลยด้วยซ้ำไป
ถึงอย่างนั้นก็ต้องจำให้หยิบหมอนกับผ้าห่มผืนหนาไปคิดเงินอยู่ดีนั่นล่ะ
จ่ายค่ารถขนส่งเพิ่มอีกเกือบร้อยหยวนเพราะฟูกค่อนข้างหนักไม่สามารถแบกกลับเอกได้
แต่ตอนแบกขึ้นหออี้ชิงเป็นคนแบกขึ้นไปเอง โชคดีที่ขนาดของฟูกไม่ใหญ่เกินไป
ปูข้างเตียงที่จงแดใช้นอนได้พอดี
อี้ชิงปล่อยให้จงแดจัดการซักผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนตากเพื่อจะเอาไว้ใช้คืนนี้
ส่วนตัวเขาเองออกไปรับรายงานที่จ้างเข้าเล่มเอาไว้แถวมหาวิทยาลัย กลับมาอีกทีก็บ่าย
พาจงแดไปโอนเงินให้แม่แล้วจึงหาข้าวกินกันแถวหอก่อนจะไปทำงานตามปรกติ
ซึ่งในวันนี้ชุดของจงแดก็ยังคงเป็นกี่เพ้าสีแดงอีกเช่นเคย
มาม่าซังสั่งตัดมาถึงสามชุดเอาไว้คอยเปลี่ยน แต่ละตัวมีลวดลายที่ต่างกัน
ตัวของวันนี้เป็นลายหงส์ดูงดงามส่วนตัวเมื่อวานเป็นลายดอกเหมยอ่อนช้อย
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่จงแดไม่จำเป็นต้องไปนั่งที่โต๊ะ
ส่วนมากแขกของเขามักจะมาเริ่มที่ห้องรับรองเลยเสียทุกครั้ง
แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะจงแดก็ไม่อยากนั่งที่โต๊ะคอยปรนนิบัติพัดวีลูกค้าและให้ลูกค้าดื่มเหล้า
เขากลัวใจลูกค้าที่เมาเสมอ อารมณ์คนเมาไม่เที่ยง คุ้มดีคุ้มร้าย
รีบเริ่มรีบจบลงอย่างนี้ก็ดีแล้ว
นั่งรอลูกค้าอยู่บนเตียงในห้องรับรองไม่นานประตูห้องก็ถูกเปิดออกตามด้วยผู้ชายร่างโปร่งเดินเข้ามาภายใน
มองแวบแรกจงแดต้องตกใจเพราะใบหน้าของอีกคนดูดีเอามากๆ
ซ้ำยังเหมือนผู้หญิงจนน่าอึ้ง
ถ้ามองข้ามทรงผมและเสื้อผ้าที่สวมใส่จงแดคงคิดว่าเขาเป็นผู้หญิงแน่ๆ
“มองอะไรเหรอ?”แม้แต่เสียงของเขาก็ยังติดหวานโทนนิ่มคล้ายผู้หญิง
จงแดส่ายหน้าหวือ ก้มหน้าต่ำแอบแก้มร้อนเพราะโดนจับได้ว่าแอบมองลูกค้า
แต่จะไม่ให้มองก็ไม่ไหว ก็คนตรงหน้าของเขาสวยมากจริงๆนี่
สวยยิ่งกว่าผู้หญิงบางคนเสียอีก
“เห้ยคุณ ผมไม่ได้ว่าอะไร มองได้นะ...ผมรู้ว่าผมสวย
ฮ่ะๆ”น้ำเสียงของเขาขี้เล่น เดินมาใกล้แล้วทรุดตัวนั่งข้างๆ
จงแดเหลือบตามองเห็นเขายิ้มให้กว้างจนรอบตายับเป็นรอย
ดูแลตลกจนต้องเผลอหลุดหัวเราะออกมา
ทั้งที่หน้าตาสะสวยแต่ยิ้มทีกลับมีตีนกาเสียอย่างนั้น
“ขำผมเหรอ”เขาถาม
ชี้นิ้วเข้าหาตัวเองหน้าประหลาดใจ นั่นยิ่งทำให้จงแดหัวเราะดังไปใหญ่
ท่าทางของเขาน่ะน่าตลกชะมัดเลย
คนโดนหัวเราะก็ขำตามอีกคนเลยกลายเป็นว่าทั้งสองคนหัวเราะใส่กันกว่าจะหยุดก็จนท้องคัดท้องแข็งกันไปข้างนั่นล่ะ
“ผมชื่อหาน
คุณชื่ออะไร?”อีกคนถามจงแดเมื่อหยุดหัวเราะกันทั้งสองฝ่าย นี่เขาจองตัวจงแดโดยที่ไม่รู้เลยหรือไงว่าคนที่เขาซื้อน่ะชื่ออะไร
“จินจงต้าครับ”ตอบฉายาที่ทุกคนต่างใช้เรียกออกไป
อีกฝ่ายพยักหน้าบอกชื่อดีจริงๆ แถมยังมีสามพยางค์ดูลงตัว
“ผมชื่อหานแซ่ลู่ ชื่อเต็มๆว่าลู่หาน
ใครถามก็ตอบลู่หาน พวกเขาชอบคิดว่าลู่หานเป็นแค่ชื่อ ถามหาสกุลผมกันใหญ่”ลู่หานบอกยาวยืดปิดท้ายด้วยการหัวเราะ
จงแดแปลกใจกับคนตรงหน้า หัวเราะตัวเองก็เป็นนะคนเรา
“คุณลู่หานจะอาบน้ำก่อนไหมครับ? หรือจะทำเลย”ไม่อยากจะให้ชักช้า
คิดว่าคุยกันไปคุยกันมาคนอารมณ์ดีคงพาเขาหัวเราะอีก จงแดถาม
ชี้ไปทางห้องน้ำให้อีกคนทราบว่าอาบน้ำก่อนได้ ส่วนตนเองนั้นอาบเรียบร้อยและใช้ยาสวนเรียบร้อยแล้วด้วย
“คุณสะอาดดีจัง ตัวหอมด้วย”ลู่หานเอ่ยชม
ขยับเข้ามาใกล้จนได้กลิ่นกุหลาบที่ติดตัว
อดใจไม่ไหวต้องประทับริมฝีปากลงไปที่ซอกคอ
ลำตัวของจงแดถูกเอนลงกับพื้นเตียงช้าๆเป็นคำตอบของคำถามที่ถามว่าลู่หานจะอาบน้ำก่อนหรือเปล่า
ริมฝีปากร้อนจูบซับที่แถวซอกคอจนจั๊กจี้ก่อนจะเปลี่ยนมาประกบกลีบปากนิ่มเสียแทน
จงแดอ้าเผยอริมฝีปากให้อีกคนสอดลิ้นเข้ามาเกี่ยวกระหวัดพัน
ลู่หานจูบเก่ง
จงแดชื่นชมในสิ่งที่ไม่ได้น่าชื่นชมเลยสักนิด
แต่ต้องยอมรับว่าอีกคนใช้ปากชำนาญเอามากๆ ไล่จากริมฝีปากลงสู่ลำคอลากเอาความร้อนผะผ่าวของลมหายใจสัมผัสไปทั่ว
“ผมชอบจูบ
ไม่ว่าอะไรใช่ไหม?”ลูกค้าของจงแดเงยหน้าจากไหปลาร้าที่แหวกกี่เพ้าเข้าไปสัมผัสมันจนได้
จงแดไม่ได้ตอบอะไร เขาถูกซื้อมา
แน่นอนว่าสิทธิ์จะทำอะไรมันก็ขึ้นอยู่กับคนจ่ายเงินทั้งนั้น
เด็กหนุ่มถามว่าจะถอดกี่เพ้าออกก่อนดีไหม อยู่อย่างนี้คงเกะกะแย่ แววตาคนถูกถามดูซุกซนขึ้นมา
ผละออกจากจงแดให้ได้ถอดชุดออกก่อน
เพียงผืนผ้าสีแดงพ้นจากร่างไปก็ถูกดันให้เอนลงนาบกับพื้นเตียงอีกครั้งโดยทันที
ลู่หานชมว่าเนื้อตัวของจงแดสะอาดหมดจด
“แม้แต่สะดือ...”เสียงหวานพึมพำ
แนบริมฝีปากลงกับรูเล็กๆที่หน้าท้อง กดซับปะพรมริมฝีปากจนปั่นป่วนไปทั่วท้องน้อย
ขอบกางเกงชั้นในถูกจับเอาไว้ด้วยมือที่จงแดเพิ่งสังเกตว่ามันเล็กนิดเดียวทั้งยังเรียวสวย
คนตรงหน้าที่สวยกว่าผู้หญิงไปทุกส่วนเลยหรืออย่างไรกัน
ขยับยกสะโพกขึ้นให้อีกคนได้ถอดชั้นในออกได้สะดวกแต่ลู่หานกลับเลือกที่จะกดสะโพกที่ร่อนค้างให้ลงแนบเตียง
รอยยิ้มขี้เล่นเผยที่ริมฝีปาก
จงแดเชิดหน้าขึ้นยามที่ลู่หานแรมปากลงที่ตรงขอบชั้นใน
พรมจูบเรื่อยไปตามความยาวของตัวตนที่นอนนิ่งซึ่งถูกปิดบังไว้ด้วยผืนผ้า
“จั๊กจี้ไหม?”เสียงหวานเครือถาม จงแดส่ายหน้าพรืด
ไม่จั๊กจี้แต่มวนในท้องจนขนลุกชัน ปรกติกับแขกคนอื่นก็จูบกันบ้าง
บางคนก็จูบที่กายบ้างแต่ไม่ได้ปะพรมปากไปทั่วร่างแบบนี้
ยิ่งตอนมือเรียวจับขาของจงแดให้ตั้งชันกับพื้นเผยกลางกายให้ประจักษ์เด่น
จงแดเผลอกำผมของลูกค้าตนเองแน่นเพราะลู่หานแต้มริมฝีปากลงบริเวณขาหนีบ
ความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยสัมผัสทำให้ลำตัวบิดเร้า
เขาเพิ่งรู้ว่าการที่ริมฝีปากไม่หยุดรุกรานไปทั่วขาอ่อนด้านในมันทำให้เสียวท้องได้ขนาดนี้
ชั้นในไม่ถูกถอดแต่นิ้วมือเรียวกลับแหวกมันกว้างจนเหอะสิ่งที่ปิดบังเอาไว้
จงแดซับสีบนใบหน้า เปล่งเสียงห้ามกระท่อนกระแท่นตอนที่อีกคนใช้ลิ้นแตะที่จีบเนื้อที่ปิดสนิท
มันสกปรก เขาคิดเสมอยามที่ลูกค้าแต่ละคนต้องการทำแบบนี้
แต่ทว่ายามที่ลิ้นนิ่มเคลือบด้วยน้ำลายชุ่มตวัดเลียกลับพาให้ไร้เรี่ยวแรงจะห้ามปราม
รู้สึกดีจนต้องร้องขอให้กระทำอีกซ้ำๆ
“ช่วยผมก่อน”เสียงติดหวานร้องบอก
ผละออกไปถอดกางเกงออกจากตัว สีผิวของลูกค้าจงแดคนนี้ดียิ่งกว่าพี่สาวบางคน
แต่อะไรที่นูนเด่นที่กลางกายก็ยืนยันกันอีกรอบว่าคนตรงหน้าเป็นผู้ชาย หาใช่ผู้หญิง
จงแดขยับตัวขึ้นนั่ง โดยที่ลู่หานยังคงยืนอยู่บนเตียง
ส่วนกลางกายไม่มีอะไรปิดบังจ่อจดอยู่ตรงหน้ารอให้จงแดใช้โพลงปากครอบครองกลืนกินมันเข้าไป
ขนาดของอีกคนไม่ได้ใหญ่แต่ก็ไม่ได้เล็ก พอถูกสัมผัสเปียกชื้นก็เริ่มพองฟู
ในที่สุดก็คับโพลงปาก จงแดคายมันออกมาในที่สุด
น้ำลายเปียกทั้งลำท่อนเนื้อไหลหยดจากส่วนปลายเป็นสายยืด
ได้ยินเสียงลู่หานหัวเราะตลกทั้งที่เมื่อครู่ยังครางในลำคอ
“คุณนี่ขำไปหมดเลยนะครับ”จงแดแซว
อีกคนไม่ได้สะทกสะท้าน ยังพูดติดตลกว่าเวลาเอากันจะให้เคร่งขรึมไปทำไม
“สุนทรีบ้างก็ได้นี่คุณ
อย่างบางคนยังเปิดเพลงไปทำกันไปเลย”พูดเล่นไปเรื่อยแม้ยามที่ใช้มือสาวความยาวท่อนเนื้อของตนเองให้พร้อมรบเต็มที่
จงแดถูกดึงให้ทรุดตัวลงอยู่ในท่าคลาน เจลหล่อลื่นชโลมลงบนส่วนที่สวมครอบถุงยางอนามัยเรียบร้อยแล้ว
ลู่หานยังไม่เลิกตลกด้วยการขออนุญาตใช้นิ้วแทรกเข้าไปในกายหลังรูดชั้นในออกจากตัวของจงแดแล้ว
ได้ยินเสียงบ่นขรมแต่เดี๋ยวเดียวก็ครางออกมา
“พร้อมไหม?”จงแดล่ะอยากจะถามว่านี่ใช่เวลามาถามกันงั้นเหรอ
มาถึงขนาดนี้ไม่พร้อมก็จะหยุดหรือไงกัน? แต่เพราะคนถามเองก็ไม่ได้อยากได้คำตอบ
ลู่หานหยัดตัวขึ้นคุกเข้า แยกขาของจงแดออกกว้างกว่าเดิม
แทรกกายเข้าไปอยู่ตรงกลางแล้วจดจ่อความปรารถนาลงกับช่องทาง
แรงกดค่อยๆดันเข้าไปภายใน แล้วก็ห่อปากสูดลมหายใจแรงๆเพราะมันร้อนสุดๆ
ความร้อนมาเจอเจลหล่อลื่นเย็นๆพาเอาลู่หานขนลุกแปลกๆ
แต่แช่ได้ไม่นานก็เริ่มขยับเข้าออก ยิ่งเสียดสีก็ยิ่งร้อนผ่าวไปทั่วลำ
จงแดเชิดหน้าขึ้น
ช่วงเอวถูกลูบไล้และแผ่นหลังถูกริมฝีปากของอีกคนนาบลงมา
รู้สึกดีจนต้องครางร้องเสียงหลงตอนที่อีกคนสาวตัวเข้าออกเร็วขึ้นอีก
ต่างกับเซ็กส์เมื่อวานกับลูกค้านักธุรกิจคนนั้นลิบลับ
ไม่ต้องเรียกร้องจงแดก็ยอมครางเสียงหวานหู
“เสียงคุณเพราะว่ะ”ถูกชมจนต้องกระดากอายแต่ร่างกายพาลไม่อายเหมือนจิตใจ
มันทรยศด้วยการเปล่งเสียงร้องออกมาดังขึ้นยามที่ขาข้างหนึ่งถูกจับลอยขึ้นใส่พับแขนของคนที่ควบคุมเกมเอาไว้
ช่องทางด้านหลังเปิดกว้างยิ่งดันตัวเข้าไปง่ายดาย
ยิ่งเข้าไปยิ่งก็ยิ่งเสียวซ่านไปทั้งร่าง
แรงกระแทกส่งมาครั้งสุดท้ายก่อนที่ลู่หานจะถอนตัวออก
มือเรียวสวยรั้งให้จงแดลุกขึ้นยืน แล้วเกี่ยวเอาขาเล็กขึ้นข้างหนึ่ง
คนเกือบล้มร้องเหวอคล้องคอของลู่หานเอาไว้แทบจะทันที ขาที่ถูกยกขึ้นนั้นพาดบนแขนที่ไม่ได้ใหญ่โตหรือมีกล้ามเนื้อแต่ก็ยังรองรับน้ำหนักไหว
ท่อนเนื้อถูกจ่อกับปากทางอีกครั้งยามที่เปิดเผยให้เห็นส่วนน่าอายแล้ว
จงแดโน้มตัวเข้าหาอีกคนแล้วกอดเอาไว้แน่น ไม่เคยถูกรักด้วยท่าแบบนี้มาก่อน
ทั้งเขินอายแปลกๆ และยังรู้สึกเสียววูบวาบไปหมด
“อื้อ”มือข้างที่ว่างของลู่หานดันคางให้จงแดหันมามองหน้าก่อนจะประกบริมฝีปากลงไป
ดูดดุนปลายลิ้นที่พลิกหลบขณะที่เอวขยับดันให้ร่างกายจมหายเข้าไปในตัวของจงแด
พื้นเตียงยวบยาบเกือบทำให้ล้มแหล่ไม่ล้มแหล่
ลู่หานจำใจถอนตัวออกมาก่อนจับจูงให้อีกคนเดินลงจากเตียงแล้วยืนพิงกับผนังห้อง
ขาเล็กถูกยกขึ้นอีกครั้งและคราวนี้ก็มั่นคงพอจะดันตัวตนเข้าไปแล้วขยับเข้าออกได้อย่างไม่กลัวที่จะเอนล้ม
ทุกครั้งที่ดันเข้าไปแผ่นหลังของจงแดก็กระทบผนังเป็นจังหวะ
ตึก ตึก
จงแดขมวดคิ้ว เขาพาลคิดไปถึงเสียงเมื่อวาน
แต่คิดออกนอกเรื่องได้ไม่นานก็ถูกหว่านล้อมกลับมาด้วยจูบแรงๆดูดดึงริมฝีปากเหมือนลูกหมาดูดนมแม่
“ฮา...”ระบายเสียงครวญครางยามที่ช่วงล่างก็ยังสอดประสานและหน้าอกยังถูกครอบครอง
เสียงฟืดฟาดของลมหายใจลู่หานดังระงมเพราะริมฝีปากอีกคนดูดดุดยอดอกของจงแดไม่ได้หยุด
พอละออกเลยทิ้งรอยแดงจัดเอาไว้เป็นปื้น
ตอนนั้นคิมจงแดไม่มีอารมณ์ห่วงร่างกายตัวเองเสียเท่าไหร่ อาจจะเพราะถูกจับจูงให้ไปนอนแผ่ที่กลางเตียงแล้วถูกลู่หานดันกายเข้ามาอย่างไม่ให้ขาดช่วง
แรงเสียดสีถี่กระชั้น เสียงครางหวานดังระงม
เนื้อต่อเนื้อกระทบส่งเสียงน่าอายทว่าก็น่าฟังเคล้าคลอ ลู่หานโยกกายเร็วขึ้น
ห่อปากส่งเสียงคราง
ใบหน้าหวานราวผู้หญิงเชิดสูงปล่อยให้เหงื่อจากการโหมแรงไหลลงตามลำคอ
“จะแตก...”ถ้อยคำน่าอายแต่พอมาอยู่ในสถานการณ์ตอนนี้กลับไม่ได้ทำให้ต้องอายเลยสักนิด
จงแดกอบกุมส่วนอ่อนไหวที่ชูชันเพราะแรงอารมณ์จากลู่หาน รูดรั้งมันขึ้นลงเพื่อช่วยเหลือตัวเอง
เปิดตามองใบหน้าของลู่หาน
ใช้มืออีกข้างแตะปลายคางของอีกคนให้โน้มลงมาจูบปากกันอีกครั้งยามที่สะโพกของลู่หานนั้นขยับรัว
“อ๊า...”ในหัวของจงแดขาวโพลนเมื่อถึงจุด
น้ำอย่างว่าพุ่งฉีดออกมาจนเลอะไปทั่วทั้งมือ
กระเด็นโดนหน้าท้องของลู่หานที่ขยับบดเบียดอยู่ไม่ห่าง ลู่หานครางฮือ
ยิ่งเร่งขยับกายจนในที่สุดก็ทนไม่ไหว ถอนกายออกมารวดเร็ว
กระชากถุงยางที่สวมใส่ออกแล้วฉีดพ่นคราบคาวขุ่นลงบนเรือนร่างของจงแด
น้ำรักสองสายปะปนจนแยกไม่ออก ลู่หานหอบตัวโยน จงแดเองก็เช่นกัน
“เห้อ”ลูกค้าหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาก่อนจะยิ้มกว้าง
ทิ้งตัวลงกับเตียงหมดแรง เขามองคนที่จ่ายเงินซื้อมา
ไม่ผิดหวังเลยที่ยอมเสียมากกว่าซื้อพวกตามถนนหรือซ่องระดับล่าง
เพราะเลือกมากไม่ค่อยได้กับตลาดขายตัวของผู้ชายเลยต้องยอมซื้อพวกนั้น
แต่พอเห็นบ้านดอกเหมยมีผู้ชายก็รีบจองคิวเข้ามาขอลิ้มลอง
แล้วก็ถูกใจเอามากๆกับใบหน้าที่ดูจิ้มลิ้มพริ้มเพรา เนื้อตัวที่สะอาดสะอ้าน
การดูแลรักษาความสะอาดก่อนร่วมรัก อีกทั้งลีลาก็ไม่เป็นรอง
ถูกใจลู่หานมากที่สุดคงเป็นเสียงที่ครางหวานหู
“รู้ไหม
น้อยครั้งมากเลยนะที่ผมเป็นคนทำแล้วจะมีความสุขขนาดนี้”เขาสะกิดจงแดถาม
อีกคนกลับหลับตานิ่งคงเพราะเหนื่อย ลู่หานไม่คิดจะเอาคำตอบ
เขามองแพขนตาหนาที่ปิดทับกันจนสนิทแล้วโน้มตัวจูบลงบนเปลือกตาไล่มาตามสันจมูกแล้วจบลงด้วยการบดเบียดริมฝีปากเข้าหา
เพราะหน้าตาที่สวย รูปร่างที่ค่อนแคะไปทางผู้หญิง
ลู่หานถึงได้มีแต่ผู้ชายเข้ามาหา สุดท้ายเขาก็เป็นเกย์ เริ่มมีเซ็กส์กับแฟนครั้งแรกตอนมอต้นด้วยการเป็นฝ่ายรับ
และรู้จักอยากรุกเอาตอนมอปลาย ทว่ากี่คนก็เหมือนสนองให้ตรงใจไม่ค่อยได้
บ้างก็หมดอารมณ์เพราะหน้าสวยๆ บ้างก็ไม่ยอมแม้แต่จะให้หน้าอย่างเขาเป็นคนกด
ถึงได้ต้องลำบากหากินกับพวกขายบริการแบบนี้
ละจูบออกแล้วยิ้มกว้างให้คนที่หลับไปแล้ว
เขาคงต้องขอจองคิวมาม่าซังไว้รอเลย เพราะจินจงต้าถูกใจเขาแบบโคตรๆเลยล่ะ
ค น ข า ย
จงแดรู้สึกตัวตอนที่มีมือสะกิดปลุกเขา
ลู่หานอยู่ในชุดเดิมเรียบร้อยและเตรียมออกจากห้องไปแล้ว
เอ่ยขอบคุณกับเซ็กส์ครั้งนี้ ชมว่าจงแดเยี่ยมสุดๆ คนหน้าไม่หนาเลยซับเลือดเต็มแก้ม
น่ายินดีใช่ไหมกับเรื่องแบบนี้เนี่ย?
มองร่างตัวเองแล้วถอนหายใจออกมา หน้าอกแดงเป็นดวง
กว่าจะหายคงเป็นอาทิตย์
อย่างนี้ค่าตัวของเขาไม่ลดลงหรือ?เพราะตามตัวมีตำหนิมากขนาดนี้
ต้องโทษตัวเองนั่นล่ะที่ไม่ได้ห้ามปรามลู่หานเลย
ปล่อยให้อารมณ์หวามครองสติทั้งหมดแบบนั้น
อาบน้ำแต่งตัวใหม่จนสะอาดก่อนจะออกจากห้องแล้วปล่อยให้หน้าที่เก็บกวาดเป็นของพนักงานคนอื่นไป
จงแดตั้งใจจะเดินไปขอน้ำที่เค้าเตอร์บาร์เสียหน่อย
ทว่าพอไปถึงกลับเจอมาม่าซังที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว
ที่สำคัญข้างกายของเธอมีชายหนุ่มร่างโปร่งอิงแอบแนบชิดอยู่ด้วย
อยากจะหมุนตัวเดินกลับแต่ไม่ทันเสียงเรียกของเจียนจี้ฟางที่เอ่ยชื่อตนเองเสียงลั่น
หล่อนกวักมือเรียกให้จงแดไปหา ริมฝีปากเคลือบลิปสติกถามว่าบริการแขกเสร็จแล้วหรือ?
จงแดพยักหน้าตอบแต่กลับเหลือบมองคนที่นั่งอยู่กับมาม่าซัง
ในมือของโอเซฮุนมีแก้วเหล้าถืออยู่ จงแดเผลอมองที่ริมฝีปาก
มันยังคงเป็นแผลเลยทำให้ปากที่เคยสีสดนั้นคล้ำม่วงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“จงต้าจะกินอะไรสั่งเลยนะลูก
เดี๋ยวม่าไปดูแขกก่อน คุณหวงมาแน่ะ!”หล่อนพูดบอก
ดันตัวจงแดให้ไปนั่งที่เค้าเตอร์แล้วตรงรี่ไปหาลูกค้ากลุ่มใหญ่ซึ่งกำลังเข้ามาในร้าน
เสียงแหลมพูดจาฉอเลาะให้ไปยังโซนวีไอพีแต่คุณหวงที่ว่าก็ยืนยันว่าวันนี้มาแค่รับประทานอาหารเท่านั้น
จงแดเลิกสนใจมาม่าซัง ตั้งใจจะลุกออกไปจากตรงนี้ทว่ากลับโดนคว้าแขนเอาไว้
“เดี๋ยว”เสียงติดทุ้มเอ่ยขึ้น
เซฮุนกำแขนของจงแดเอาไว้แน่น เงยหน้ามามองจงแด อดจะกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอไม่ได้
ใบหน้าของอีกคนเรียบเฉยจนน่ากลัว
“เรื่องเมื่อวานเงียบๆเอาไว้”พูดแค่นั้นก็ลุกเดินออกไป
ทิ้งให้จงแดยืนเคว้งกับบาร์เทนเดอร์ที่มองมางงๆ จงแดลูบแขนที่โดนจับ
มันเป็นรอยแดงน้อยๆ แต่ถือว่ายังน้อยสำหรับการไปรู้ความลับของคนอื่น
เพราะโอเซฮุนเป็นคนที่ได้ชื่อว่าเป็นผัวของเจียนจี้ฟาง
แต่แล้วกลับไปมีอะไรกับฮวังจื่อเทา เรื่องนี้ถ้ารู้ถึงหูมาม่าซังคงแย่
ไม่ว่าระหว่างพี่จื่อเทากับคุณเซฮุนจะเกิดขึ้นเพราะอะไรก็ตามที
บางทีคุณเซฮุนอาจคิดว่าจงแดจะบอก...
“มานั่งทำอะไรตรงนี้เนี่ย”เสียงทุ้มดังขึ้นด้านหลังขณะที่กำลังใช้ความคิด
มือหนาวางบนกลุ่มผมแล้วขยี้เล่นเหมือนเคยทว่าครั้งนี้จงแดกลับเลือกที่จะปัดมือนั้นทิ้งพาให้จื่อเทามองคนเป็นน้องด้วยสายตาฉงนใจ
“เป็นอะไรของเราน่ะ”พี่ชายตัวสูงถาม เห็นสีหน้าของน้องดูวิตกจริต
จงแดส่ายหน้าบอกว่าไม่เป็นอะไร แค่ตกใจ จื่อเทาหัวเราะแซวว่าขวัญอ่อนเสียเหลือเกิน
เสียงหัวเราะและรอยยิ้มของจื่อเทายังเหมือนกับแรกๆที่จงแดได้เห็น
แต่ทว่าตอนนี้กลับนึกถึงตอนที่อีกคนข่มเหงโอเซฮุน
แม้จื่อเทาจะไม่รู้ว่าเขาเห็นเหตุการณ์แต่จงแดก็กลัวว่าอาจจะหลุดพิรุธออกไป
“ผมไปก่อนนะครับ”เลี่ยงออกมาไม่รอให้จื่อเทาชวนพูดคุยมากกว่านี้
คนเป็นพี่มองตามอย่างไม่เข้าใจ ท่าทางของจงแดเหมือนไม่อยากจะอยู่ใกล้เขา
“ไม่สบายอีกหรือเปล่าวะ”พึมพำกับตัวเองอย่างไม่เข้าใจ
แต่ที่จริงแล้วเขาเองก็ไม่ได้ตั้งใจมาหาจงแด
ทว่าเป็นคนที่นั่งอยู่ตรงนี้เมื่อครู่ต่างหาก เห็นปากมันแตก
เดินก็กระย่องกระแย่งเหมือนลูกหมาขาไม่แข็ง
สะใจ?
ก็นิดหน่อย...
โทษตัวมันเองที่ยั่วโมโห
ทั้งๆที่โอเซฮุนรู้อยู่แก่ใจว่าถ้าหากเขาโมโหจะลงเอยแบบไหน แต่มันก็ไม่เคยหลาบจำ
แค่ถามว่าความคิดมันใช่ไหมที่ให้จงแดใส่กี่เพ้า มันแค่ตอบว่าใช่หรือไม่ใช่มันคงจะยากเกินไป
โอเซฮุนถึงได้รวนกลับว่าเขาจะอยากรู้ไปทำไม
ชุดกี่เพ้าสีแดงสำหรับบ้านดอกเหมยก็เอาไว้ให้พวกขายตัวใส่ ก็ถูกอยู่แล้ว...
จื่อเทาไม่ได้โมโหที่มันพูดถึงจงแดว่าขายตัวแต่โมโหที่มันรวนและยอกย้อน
สุดท้ายก็จบลงที่เขาจับมันฉีกทึ้ง และปล่อยเข้าไปในตัวมันเหมือนในตอนนั้น
วันแรกๆที่มันมาทำงานที่นี่
เขาจับได้ว่ามันเล่นยาที่หลังร้านและจะไปบอกมาม่าซัง
ไอ้ลูกหมาตัวแค่นั้นคว้าเอาท่อเล็กมาฟาดเขา
ความเดือดดาลบวกกับกรึ่มแอลกอฮอล์จากลูกค้าที่ยกแก้วให้เลยขาดสติใช้กำลังข่มขืน
จำได้ว่าสภาพมันแหลกยับ และเจียนจี้ฟางก็รู้เรื่องในที่สุด
จากเด็กเสิร์ฟกลายเป็นผัวเด็กของเจียนจี้ฟางเพราะมาม่าซังรู้สึกผิดแทนหลานชาย...
ใช่...ฮวังจื่อเทาเป็นหลานชายของมาม่าซัง...
ยิ่งเห็นมันเชิดหน้านั่งนอนกินสบายใจในร้านเขายิ่งรังเกียจมัน
เคยพูดกับมาม่าซังหลายครั้งแล้วแต่น้าสาวของตนเองก็ไม่ฟัง บอกว่าไม่ได้เดือดร้อนอะไร
เวลาหล่อนไม่สบายใจก็มีมันคอยพูดคุยด้วย
ปะเหลาะล่ะสิไม่ว่า...
โอเซฮุนสำหรับฮวังจื่อเทามันก็แค่แมงดาเกาะน้าสาวของเขา
เกาะแน่นชนิดเอาน้ำร้อนสาดไล่ก็ไม่หนีไปไหน
ส่วนเซ็กส์ของเขากับมัน...
ครั้งแรกตรงกองขยะ
ครั้งที่สองเขยิบมาตรงตรอกไม่ห่างกัน ถึงได้บอกว่าระหว่างกองขยะกับโอเซฮุน
ไม่รู้ว่าอันไหนมันเหม็นมากกว่ากันเลย...
ค น ข า ย
-วันนี้ยัยจูจินหกล้มเลือดอาบขาเชียว-
จงแดมองข้อความจากแม่แล้วมุ่นหัวคิ้ว
ถามกลับไปอย่างรวดเร็วว่าทำไมน้องถึงล้ม แล้วแม่ซื้อยามาทาให้จูจินหรือยัง
ต้องซื้อยาแก้แผลเป็นด้วยไม่งั้นขาสวยๆของเด็กสาวคงเป็นรอยน่าเกลียด
แม่ตอบกลับมาว่าซื้อเรียบร้อยแล้ว
คงต้องพักเรียนอยู่บ้านสักอาทิตย์เพราะแผลแสบและยัยคนเก่งร้องไห้โยเยใหญ่
แม่เองก็ต้องไปทำงาน เลยลำบากไปหมด
“ทำไมต้องหยุดล่ะครับ แค่แผลถลอกเท่านั้นเอง
จูจินคนเก่งไม่เป็นไรหรอก จูจินเก่งจะตาย”จงแดอัดเสียงแทนการพิมพ์แล้วส่งไปให้แม่
บอกให้เปิดให้จูจินฟังด้วย สักครู่ใหญ่ๆข้อความจากแม่ก็ตอบกลับมา
บอกว่ายัยจูจินยอมไปเรียนแล้ว
ล้างแผลไปตอนเช้าแล้วกำชับว่าห้ามเล่นซนคงจะไม่เท่าไหร่
เดี๋ยวจะฝากคุณครูดูแลอีกแรง
-ดีแล้วครับแม่ ผมไม่อยากให้น้องขาดเรียน
การเรียนสำคัญนะครับ-
พิมพ์ตอบกลับไป เขารู้ดีว่าการศึกษาสำคัญแค่ไหน
เพราะตัวเองไม่มีโอกาสจึงอยากให้น้องได้เรียนสูงๆ มีการศึกษาก็มีอนาคต
เขาน่ะ...เป็นยังไงก็ได้แต่จูจินจะต้องไม่เป็นแบบเขาเด็ดขาด
ข้อความสุดท้ายของวันนี้จากแม่คือบอกให้รีบไปนอน
เพราะมันดึกแล้ว จงแดเถียงแม่ว่าตอนนี้ที่จีนยังแค่หัวค่ำเท่านั้นเอง
เวลาที่จีนกับเกาหลีห่างกันตั้งหนึ่งชั่วโมง แม่กับจูจินนั่นล่ะที่ควรไปนอน
-นอนดึกเดี๋ยวแม่ของจงแดไม่สวยกันพอดี...รักแม่ครับ-
จงแดยิ้มกว้าง ออกจากโปรแกรมสนทนาก่อนจะทิ้งตัวลงบนฟูกหนาที่ซื้อมาเมื่อเช้า
หมอนใบใหม่ฟูรับศีรษะพอดี และเครื่องนอนทั้งหมดหอมกลิ่นผงซักฟอก
ว่างๆคงต้องเอาของพี่อี้ชิงออกไปซักตากเสียบ้าง
แดดไม่แรงแต่ทิ้งไว้ทั้งวันก็แห้งได้ หมอนพี่อี้ชิงน่ะไม่รู้ใช้มากี่ชาติแล้ว
ผ้าห่มก็ไม่เคยเห็นซักเลยสักครั้ง มีผ้าปูที่นึกครึ้มวันไหนก็ถอดมาซักเท่านั้น
“ดิ้นเป็นหมาได้เบาะใหม่เลยนะ”คนเพิ่งอาบน้ำเสร็จแซวจงแด
ก็เห็นกลิ้งไปกลิ้งมาบนฟูก คว้าหมอนมาซุกหน้าลงไปซ้ำแล้วซ้ำอีก ดูตลกชะมัด
นึกถึงได้เต้าหู้ที่เคยเลี้ยง ให้มันนอนที่พื้นดินอยู่นาน วันนั้นเจอเบาะนอนเด็กถูกทิ้งเลยเก็บมาให้มันนอน
มันก็กลิ้งไปกลิ้งมาแบบนี้นี่แหละ
จงแดย่นคิ้ว เถียงว่าไม่ใช่หมาเสียหน่อย
เพราะกลิ่นที่นอนหมอนมุ้งมันหอมก็เลยอยากกลิ้งให้ทั่ว
“อ้อ พี่อี้ชิงครับ
ผมอยากกลับไปเยี่ยมป้าเหม่ยกุ้ย พี่จะไปด้วยกันไหม?”จงแดถามออกมา เขาคิดถึงป้าเหม่ยกุ้ย
อีกคนที่มีบุญคุณกับเขาไม่ต่างจากพี่อี้ชิง ในวันที่จงแดขัดสนก็ได้ป้าแกช่วยเหลือ
ตอนนี้จงแดมีเงินแล้ว อยากจะซื้อของไปฝากแกบ้าง
“ก็เอาสิ แต่ไม่ต้องซื้ออะไรไปหรอกนะ
เก็บเงินน้ำพักน้ำแรงของนายไว้เถอะ เดี๋ยวฉันจะเอาเงินไปให้แม่พอดี”อี้ชิงบอก
คนพูดตรงไม่ได้คิดหรอกว่าคำพูดของตัวเองทำเอาคนฟังจุกจนพูดไม่ออก
จะกี่ครั้งก็ตาม
จางอี้ชิงก็ทำให้จงแดรู้สึกว่าเงินจากความเหนื่อยยากของเขามันไม่มีค่าเสียเลย...
ฝันยิ้มบอกว่ายังไงก็ต้องมีอะไรติดไม้ติดมือไปบ้าง
ขนมนมเนยก็ยังดี อี้ชิงว่าให้ตามแต่สะดวกเถอะ แต่ไม่ต้องขนไปมาก
เดี๋ยวแม่ตนจะสงสัยว่าทำไมถึงได้ดิบได้ดีขนาดนี้
เพราะตัวอี้ชิงเองทำงานมาตั้งหลายปียังไม่มีเงินเก็บขนาดนั้นเลย
“...อย่าให้คนที่ภูมิใจนักหนากับตัวนายรู้ว่านายได้ดีเพราะอาชีพแบบนี้จะดีกว่า”
“...”
“มันไม่น่าเอาไปพูดอวดชาวบ้านหรอกว่าขายตัวแล้วได้ดี”
100 เปอร์เซ็นต์
พี่อี้นี่พูดแต่ละอย่างน่าตบปากฉีกจริมจริม
ฮึ่ยยยยยยยยยยยยยยยยย
ปล.พิเทาแบดมากจริมจริม
ปลล.เรื่องที่ทำไมเซฮุนมาจีนมีบอกอยู่ตอนสองนะก๊ะ
555555555555555555555555
ปลลล.เฉลยปมเทาฮุนเนาะ
ปลลลล.ตอนหน้าจะเดินเรื่องถึงครึ่งที่วางไว้แล้วค่ะ
ตามที่วางไว้ตอนหน้าน้องจะเจ็บมาก (หลังจากซอฟมาหลายตอน) เตรียมขี้ไว้ปาเราก็ได้นะ
ถ้าเราทำให้น้องเจ็บไม่พอ
55555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555
(หัวเราะดูโรคจิตนะว่ามั้ย)
ปลลลลล.ถามกันตลอดว่าพี่อี้ได้น้องมั้ย
ตอบตรงนี้ว่าได้กันถ้วนหน้า ใครไม่ได้เดี๋ยวก็ได้เนาะ พยายามจะให้ได้ให้หมด
ให้มันออล แต่เอาจริงๆตัวเดินเรื่องหลักก็มีไม่กี่ตัว
ความตั้งใจของเราจริงๆแรกเริ่มคืออยากให้เห็นมุมของคนที่ขายตัวกับเรื่องเพศแบบต่างๆ
เคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่งจากคนที่เคยขายตัวมาเขียน เขาบอกว่าลูกค้าแต่ละคนน่ะไม่เหมือนกัน
มีหลากหลายรูปแบบ เราเลยอยากจะเขียนตรงจุดนี้ค่ะ
แล้วคัดเอาลูกค้าบางรายที่เป็นจุดเปลี่ยนให้ชีวิตจงแดเท่านั้น
ปลลลลลล. พยายามจะลงให้กับแท็กนี้ #เอาห้าสิบห้าเปอร์เซ็นมา
เราพิมพ์ถึงตีสามเลยนะ เอาค่าไฟมาด้วย งานการเราก็ไม่มีทำ ว่าเราใจร้าย ใครกันแน่ใจรว๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย
T{}T กระซิกกระซิก
(ทอแรระดับยูนิเวิร์สมาก 55555555555555555555555555555555555555555555)
ทอล์คยาวกว่าฟิคอีก บัยส์
ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
TBC.
#ขายตัวออลเฉิน
รักค่ะ
แมลงจี่