วันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

Never Know1

Never Know

ฉันไม่เคยได้จำว่ามันนานเท่าใดที่เราเลิกกัน
เเต่ว่าฉันร้องไห้ทุกครั้งที่ฉันต้องทนคิดถึงเธอ
ทำไมวันนี้เมื่อฉันลืมตาถึงไม่พบหน้าเธอ
ฝนที่ร่วงโรยเขย่าหัวใจฉันให้สั่นไหวเหลือเกิน

 “มินซอกคะ...ทานยาหน่อยนะยาเม็ดสีขาวถูกยื่นมาตรงหน้า ใบหน้าสวยหวานหันมองผู้หญิงในชุดสีฟ้า รอยยิ้มละมุนดูใจดี
ฮานึล...เสียงหวานเอ่ยเรียกผู้หญิงคนนั้น ฮานึลยิ้มให้ชายหนุ่มชุดคนไข้
ถ้ามินซอกไม่ทานยา มินซอกจะไม่หายนะคะรอยยิ้มละมุนของนางพยาบาลยังส่งให้คนที่นั่งบนเตียง ฮานึลมองคนที่รับยาไปกินแล้วยิ้มให้อีกครั้ง ใบหน้าของเธอฉาบด้วยรอยยิ้มเสมอเมื่ออยู่กับมินซอก...
เพราะมินซอกไม่เคยยิ้มเลย
ใครกันหนอ พรากรอยยิ้มของเด็กหนุ่มไปแล้วให้เด็กหนุ่มคนนี้ ร้องไห้แทน


*-*-*


 “เลิกกันเหอะ
คำนี้ยังก้องอยู่ในใจของมินซอกไม่หาย วันนั้นเป็นวันจบการศึกษามัธยมปลาย คิมมินซอกยิ้มแก้มแทบปริเมื่อแฟนหนุ่มชวนไปเที่ยวจบการศึกษาที่สวนสนุก ชายหนุ่มดูแลเทคแคร์เขาอย่างดี วันนั้นเป็นวันที่มินซอกมีความสุขมากที่สุดเลย
และก็เป็นวันที่แสนจะทุกข์เมื่อแฟนหนุ่มบอกกับมินซอกว่า เลิกกันเหอะแล้วปล่อยให้มินซอกยืนนิ่งตรงป้ายรถเมล์ที่จะกลับบ้าน
ลู่หานทิ้งคิมมินซอกไว้ตรงนั้น...กับคำบอกเลิกที่แสนสั้น...และฝนห่าใหญ่ที่ตกลงมา

ใครๆก็เคยอิจฉาคู่รักแห่งโรงเรียนมัธยมอิลกุก ลู่หมินคือชื่อคัพเพิ้ลที่สาวๆตั้งให้ มินซอกดูเขินอายมากเวลาได้ยินแบบนั้น เพราะมันหมายถึงว่าเขา...และลู่หาน เป็นคนรักกัน ลู่หานเองก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาบอกว่ามินซอกชอบอะไรเขาก็ชอบด้วย ช่างเป็นคำพูดของแฟนที่แสนดี
 “ใส่สร้อยคู่ไหมมินซอกเคยถาม ลู่หานก็ตามใจอีกเหมือนเคย วันนั้นที่ไปเดินตลาดเมียงดง คู่รักลู่หมินจึงได้สร้อยคู่น่ารักมาคนละเส้น ลู่หานสวมมันให้มินซอกก่อนจะสวมให้ตัวเอง
นายเหมาะกับมันที่สุดเลยรู้ไหมคำชื่นชมทำเอาหัวใจเต้นตูมตาม จูบแผ่วเบาเกิดขึ้นหน้าร้านขายเครื่องประดับช่างน่าราตรึงใจนัก
มินซอกรู้จักกับลู่หานเพราะเพื่อนแนะนำ มินซอกเป็นเด็กห้องเอ วันวันก็มีแต่เรียน เรียน กับเรียน อย่าพูดถึงแฟนเลย แค่คุยกับเด็กผู้หญิงคนอื่นก็ไม่ค่อยได้คุยแล้ว จนเมื่อซูโฮ เพื่อนตั้งแต่มัธยมต้นพาลู่หานมาให้รู้จัก แรกๆมินซอกไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมชายหนุ่มชอบตามซูโฮมาแล้วมานั่งจ้องหน้าเขากัน
มินซอกเคยถามว่าทำไมจ้องหน้ากันล่ะทว่าลู่หานกลับหัวเราะเบาๆแล้วพูดคำที่มินซอกได้ฟังแล้วต้องหน้าแดงไปถึงใบหู
 “นายน่ารัก...ฉันชอบนายจัง


ฉันเสียใจที่ฉันให้รักเธอไป
ฉันเสียใจที่ฉันนั้นได้รักเธอ
ฉันเสียใจที่ฉันเคยฉุดรั้งเธอ
ทำไมเธอจึงปล่อยให้ฉันเดียวดาย

 “ถ้าเกิดว่าฉันนอกใจนายนายจะทำยังไงลู่หานถามคนที่ตักไอศกรีมเข้าปาก คิมมินซอกเอาหลังมือป้ายมุมปากเมื่อรู้สึกว่าตัวเองกินเลอะ ป้ายเท่าไหร่ก็ไม่โดนจุดจนลู่หานต้องเกลี่ยหัวนิ้วมือลงบนมุมปากนุ่มให้
 “ถามว่าไงนะคนหน้าสวยยังไม่ได้สนใจคำถามที่ร่างสูงถาม ลู่หานหัวเราะเล็กๆกับความเปิ่นของมินซอก ก่อนจะบอกปัด ไม่มีอะไร
ถึงจะถามไปอย่างนั้น แต่ลู่หานคิดว่า เขาคงทิ้งมินซอกไม่ลง...ในเมื่ออีกคนน่ารักเสียขนาดนี้
เขาไม่คิดว่าจะต้องมีใครอีก ถึงความสัมพันธ์ของเขากับมินซอกยังอยู่แค่การจับมือหรือกอดเล็กน้อย แต่เขาก็สุขใจ...ไม่ได้ต้องการอะไรมากกว่านั้น
 “ฉันรักนายเพราะนายน่ารักอย่างนี้แหล่ะ รู้ไหมคราวนี้ทำเอาคนฟังหน้าแดงก่ำ มุดหน้าลงถ้วยไอศกรีมแล้วตักเข้าปากเป็นการใหญ่

ฉันอยากจะเป็นหนึ่งเดียวที่เธอมี เเต่เธอกลับทำเป็นไม่เข้าใจ
มันเลยเป็นวังวนของรักที่มันไม่เคยจะมีค่า
น้ำตาของฉันไหลลง เอ่อท่วมดวงใจรวดร้าวเพราะเธอ
จะให้ทำยังไง ฉันก็ลืมเธอไม่ได้

ไม่กลัวมันมีคนอื่นเหรอนั่นคือสิ่งที่ซูโฮถามเขาเสมอ ซูโฮบอกว่าคนอย่างลู่หานไม่ใช่คนที่จะหยุดที่ใครง่ายๆ แต่มินซอกไม่เห็นว่าจะจริง...บางที ลู่หานอาจจะยังไม่หยุด...แต่เขา ก็ค่อยๆผ่อนปรนความเร็วลง และอีกไม่นาน อาจจะหยุด...ที่มินซอก
มินซอกเองพยายามไม่สนใจ แม้ใครจะบอกว่าลู่หานเจ้าชู้ขนาดไหน แค่กอดเล็กน้อย มัดใจชายหนุ่มอีกคนไม่ได้หรอก...แต่เท่าที่เห็นลู่หานก็ยังไม่มีใคร คู่รักลู่หมินก็ยังคงรักกันดีเสมอ...มินซอกรู้สึกได้ ว่าลู่หานไม่ได้เปลี่ยนไปเลย
กระแสเรื่องลู่หานยังมีมาให้มินซอกได้ยินเสมอ ร่างบางพยายามที่จะไม่สนใจ ทว่าบางครั้ง...บางอยางก็สะกิดในใจว่เรื่องมันชักจะไม่ดีเข้าเสียให้แล้ว
ไปไหนมาเหรอมินซอกเคยถามลู่หานแบบนี้เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่ได้มากินข้าวกลางวันด้วยกัน หายเงียบไปเลย ลู่หานยิ้มให้เล็กน้อยทว่ามินซอกกลับรู้สึกได้ว่ารอยยิ้มนั้นมันไม่ได้มาจากใจเสียสักนิด เหมือนการยิ้มกลบเกลื่อนเสียมากกว่า
 “อาจารย์เรียกด่วนนะ แล้วกินอะไรหรือยังนอกจากรอยยิ้มแล้ว การกระทำก็ยังดูเหมือนลุกลี้ลุกลน คล้ายกลัวใครจับได้...

มินซอกตระหนักดี...มันอาจจะเป็นอย่างที่ซูโฮบอก

ในวันนั้นที่มีฝนพรำ เธอจ้องฉันโดยไร้เสียงใด
เธอจ้องมองเค่เพียงเเต่ ฉัน ฉัน ฉัน ฉัน
ในดวงตาสั่นไหวของเธอ เธอขยับฝืนยิ้มให้ฉันมา
เธอเอ่ยเพียงเเค่คำว่า ลา ลา ลา ลา



ความรักเริ่มจะติดขัด มินซอกไม่ใช่คนอยากรู้เรื่องส่วนตัวของคนรัก เพราะเชื่อว่ารักคือการไว้ใจกันมากกว่าจะมาสงสัยอะไร แม้ในใจ...จะร้อนรุ่มขนาดไหน ใคร่อยากได้คำตอบเสียมากมายก็ตามที
 “ไปเที่ยวสวนสนุกกันนะคำชวนจากแฟนหนุ่มทำให้มินซอกดีใจ ยิ้ม ยิ้มจนเมื่อยแก้ม..วันจบการศึกษาทั้งที การได้เที่ยวกับแฟนมันช่างเป็นความทรงจำที่ดีที่น่าเก็บเอาไว้
ไปสิ ฉันอยากปั่นเรือหงส์มากเลยอยากจะปั่นเรือลำเล็กกับคนรัก..นั่งเคียงข้างกัน ปั่นเลาะไปตามขอบสระ และอาจมอบจูบที่แสนสเน่หาให้แก่กัน...
วันที่แสนสุขจบลงที่ป้ายรถเมล์หน้าสวนสนุก มินซอกยังเขินไม่หายกับจุมพิตที่เกิดขึ้นบนเรือหงส์ แอบมองคนรักที่นั่งหันหน้าไปมองรอรถเมล์ ใบหน้าของลู่หานเรียบนิ่ง
มินซอก..เขาเรียกร่างบางที่นั่งข้างกัน สายฝนที่ตั้งเค้ามาตั้งแต่ช่วงบ่ายเริ่มจะโปรยปรายลงมาเสียแล้ว มินซอกไม่ได้พกร่มเสียด้วย
 “อือครางตอบลำคอ ยื่นมือสัมผัสเม็ดฝนเย็นจัด
ลู่หานถอนหายใจเสียงดัง ก่อนจะหันหน้ามาเผชิญกับคนรักที่ดูเหมือนกำลังสนใจกับสายฝน ชายหนุ่มจ้องนิ่งจนมินซอกต้องหันไปสบสายตา เสียงถอนหายใจดังขึ้นอีกครั้งก่อนที่ริมฝีปากหนาจะยกยิ้มเฝื่อนเฝือ...และพูดบางอย่างที่ทำให้โลกของมินซอกนิ่งสนิท

เลิกกันเหอะ


*-*-*-*-*


เธอบอกให้ฉันนั้นเดินจากเธอไป เธอไล่ฉันเเล้วหันหนีไป
เธอทำเหมือนฉันเป็นบ้า มันยากเกินไป boy slow down
ฉันยังนิ่งไม่ทำตามเธอ รู้ไหม cuz I want to stay
next to you my love is true
wanna go back to when I was with you

 “มีคนที่ดีกว่าฉัน...ขอโทษนะที่นอกใจ แต่ฉันกำลังคบกับอึนจองอยู่ เราจบกันเถอะ
ง่ายจัง...ง่ายเกินไปไหม ทำไมง่ายขนาดนี้
ความรักก่อร่างมาใช้เวลา บ่มเพาะกล้ารักก่อนเอาลงดิน รดน้ำใส่ปุ๋ย เฝ้าดูแลด้วยจิตใจ...จนกว่าจะเบ่งบาน...
ทำไม...นายถึงถอนมันทิ้งอย่างง่ายดายขนาดนี้นะ ลู่หาน
ไม่มีใคร...ดีกว่านายหรอก...
เพราะฉันรักนาย...ไม่ได้รักคนอื่น

มินซอกนิ่งไป มือที่รองน้ำฝนอยู่ลู่แนบลำตัว ใบหน้าหวานยังจ้องที่หน้าคนรักที่กำลังจะกลายเป็นอดีต จนลู่หานต้องเป็นคนหลบหน้าไปเอง เสียงหัวเราะหึดังในลำคอ
ทั้งที่พยายามจะเชื่อใจ พยายามไม่สนใจใครๆที่พูด เลิกจะเชื่อในรัก
สุดท้าย...คิมมินซอกก็กลายเป็นคนโง่ใช่ไหม
ทำไมล่ะ...

ฉันต้องร้องต้องเสียน้ำตาก็เพราะเธอ เเละที่ฉันหัวเราะได้นั้นก็เพราะเธอ
ฉันเรียนรู้ในคำว่ารักก็เพราะเธอ
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้น เธอรู้ไหมเพราะเธอ
ไม่อาจเอ่ย เอ่ย เอ่ย รั้ง
ไม่อาจไขว่คว้า ฉันนั้นเดี่ยวดาย
ในโลกที่ไม่มีเธอ
เหยียบย่ำความรักฉันจนพอใจ ฉีกหัวใจฉันที่ให้เธอไป
ทิ้งฉันให้จมอยู่กับรักที่เธอไม่ได้ต้องการ


ลู่หานลุกหนีไปแล้ว ไม่พูดอะไรอีก โดยมินซอกมองคนที่เดินจากไปนิ่ง ขาเรียวสวยขยับลุกจากม้านั่ง ก่อนจะเขยิบจะตามไป มือเรียวยกขึ้นช้าๆเหมือนจะไขว่คว้าแผ่นหลังที่เริ่มห่างออกไปท่ามกลางสายฝนแต่แล้วต้องตกลงแนบลำตัวอีกครั้ง
ความแสบร้อนที่จมูกบอกได้ว่าน้ำตาที่กำลังเก็บไว้มานาน...มันกำลังไหลออกมา น้ำตาแห่งความอัดอั้นตันใจ น้ำตาแห่งการเลือกเชื่อใจความรักโดยมองข้ามทุกๆอย่าง ไหลเรื่อยๆ ไหลออกมา...ปะปนกับสายฝนที่สาดกระเซ็นไปทั่วร่าง
 “ฉันรักนายเพราะนายน่ารักอย่างนี้แหล่ะ รู้ไหม
ไหนเล่าความรัก อยู่ไหนกัน...ฉันยังน่ารักไม่พอ หรือฉันหมดน่ารักแล้ว...นายถึงไม่รักฉันแล้ว
 “ฮึ่ก!เสียงหวานสะอื้นไห้ ก่อนที่ขาจะทรุดลงกับพื้น มือเรียวกุมตำแหน่งหัวใจที่มันปวดร้าว เต้นถี่หนึบรุนแรง เหมือนมือของร่างสูงกำลังบีบมันอยู่ บีบมันด้วยความรุนแรง จนแทบจะแหลกสลายลงไป
คล้ายกับมือของหญิงสาวคนหนึ่งที่เขาไม่เคยรู้จักหรือเห็นหน้ากำลังสอดเข้ามาในหน้าอกแล้วคว้าเอาหัวใจที่แทบสลายไปเขวี้ยงลงบนพื้น ก่อนปลายเท้าเล็กจะขยี้มันอีกครั้ง...
เจ็บปวดเกินไปแล้ว...

หัวใจฉันปวดร้าวเกินทน ฉันทนฝืนมานานเหลือเกิน
เเล้วเธอนั้นอยู่ไหนนะ (เห็นน้ำตาของฉันมั๊ย)
I can't live without you
ได้โปรดช่วยกลับมา และอย่าจากฉันไปไหน


มินซอกคะ ทานยาค่ะเสียงของผู้หญิงชุดฟ้าคนเดิม ยาเม็ดสีขาวเม็ดเดิม มินซอกมองยานั้นก่อนจะส่ายหน้า ฮานึลผ่อนลมหายใจด้วยความสงสารจับใจ
 “ถ้าไม่ทานยา มินซอกก็ไม่หายนะคะเธอหลอกล่อด้วยคำพูดเดิมๆ มินซอกหัวเราะในลำคอ ใบหน้าโศกเศร้ามองออกหน้าต่างออกไป...ก่อนที่ริมฝีปากจะขยับเอ่ยบางคำที่ทำให้ฮานึลนั้นแทบจะเสียน้ำตาด้วยความสงสารผู้ชายคนนี้สุดขั้วหัวใจ
 “ผมขาขาดนะฮานึล...ยานั่นกินไปก็แค่ระงับอาการปวด ติดเชื้อ...ไม่ได้ทำให้ผมเดินได้อีกครั้งเสียหน่อยน้ำตาของหญิงสาวรินไหล เธอยกมือโอบกอดร่างบนเตียงคนไข้ด้วยความวิสาสะเกินหน้าที่นางพยาบาล แต่วินาทีนี้...เธอรู้สึกสงสารคนๆนี้เหลือเกิน
ทำไมพระเจ้า...ทรงกลั่นแกล้งคนๆนี้ขนาดนี้

ตอนเคสของมินซอกเข้ามา ได้รับแจ้งว่ามีรถยนต์ลื่นไถลเพราะถนนเปียกเข้าพุ่งชนคนที่อยู่ที่ป้ายรถเมล์หน้าสวนสนุกแห่งหนึ่ง
บุรุษพยาบาลเข็นร่างของเด็กหนุ่มคนนึงมาด้วยเลือดโชกกาย หมอใหญ่ลงผ่าตัดด้วยตัวเองเพราะรถนั้นชนเข้าเต็มๆและเหยียบบางส่วนที่คาดว่าจะเป็นขาทั้งสองข้างของเด็กหนุ่มด้วย
สุดท้ายแล้ว...คิมมินซอกก็ถูกตัดขาเพราะขาทั้งสองข้างถูกล้อรถบดทับไป เนื้อหนังถลอกเหวอะและกระดูแตกยับ...
เมื่อคนไข้ในการดูแลของเธอตื่นมา ดูเขาไร้ซึ่งความสุข ฮานึลคิดว่าอาจเพราะขาที่สูญเสียไปด้วย และที่ฮานึลรู้สึกได้คือความเศร้าหมองเสียใจจากใครสักคนที่ทำร้ายจิตใจมินซอกอย่างรุนแรง...

คนที่ชื่อลู่หาน...ที่มินซอกละเมอหาทุกครั้งที่หลับตานั่นไง



*-*-*-*

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น