Never Know
ฉันไม่เคยได้จำว่ามันนานเท่าใดที่เราเลิกกัน
เเต่ว่าฉันร้องไห้ทุกครั้งที่ฉันต้องทนคิดถึงเธอ
ทำไมวันนี้เมื่อฉันลืมตาถึงไม่พบหน้าเธอ
ฝนที่ร่วงโรยเขย่าหัวใจฉันให้สั่นไหวเหลือเกิน
“มินซอกคะ...ทานยาหน่อยนะ”ยาเม็ดสีขาวถูกยื่นมาตรงหน้า
ใบหน้าสวยหวานหันมองผู้หญิงในชุดสีฟ้า รอยยิ้มละมุนดูใจดี
“ฮานึล...”เสียงหวานเอ่ยเรียกผู้หญิงคนนั้น
ฮานึลยิ้มให้ชายหนุ่มชุดคนไข้
“ถ้ามินซอกไม่ทานยา
มินซอกจะไม่หายนะคะ”รอยยิ้มละมุนของนางพยาบาลยังส่งให้คนที่นั่งบนเตียง
ฮานึลมองคนที่รับยาไปกินแล้วยิ้มให้อีกครั้ง ใบหน้าของเธอฉาบด้วยรอยยิ้มเสมอเมื่ออยู่กับมินซอก...
เพราะมินซอกไม่เคยยิ้มเลย
ใครกันหนอ พรากรอยยิ้มของเด็กหนุ่มไป…แล้วให้เด็กหนุ่มคนนี้
ร้องไห้แทน
*-*-*
“เลิกกันเหอะ”
คำนี้ยังก้องอยู่ในใจของมินซอกไม่หาย
วันนั้นเป็นวันจบการศึกษามัธยมปลาย
คิมมินซอกยิ้มแก้มแทบปริเมื่อแฟนหนุ่มชวนไปเที่ยวจบการศึกษาที่สวนสนุก
ชายหนุ่มดูแลเทคแคร์เขาอย่างดี วันนั้นเป็นวันที่มินซอกมีความสุขมากที่สุดเลย
และก็เป็นวันที่แสนจะทุกข์เมื่อแฟนหนุ่มบอกกับมินซอกว่า
“เลิกกันเหอะ” แล้วปล่อยให้มินซอกยืนนิ่งตรงป้ายรถเมล์ที่จะกลับบ้าน
ลู่หานทิ้งคิมมินซอกไว้ตรงนั้น...กับคำบอกเลิกที่แสนสั้น...และฝนห่าใหญ่ที่ตกลงมา
ใครๆก็เคยอิจฉาคู่รักแห่งโรงเรียนมัธยมอิลกุก “ลู่หมิน” คือชื่อคัพเพิ้ลที่สาวๆตั้งให้
มินซอกดูเขินอายมากเวลาได้ยินแบบนั้น เพราะมันหมายถึงว่าเขา...และลู่หาน
เป็นคนรักกัน ลู่หานเองก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาบอกว่ามินซอกชอบอะไรเขาก็ชอบด้วย
ช่างเป็นคำพูดของแฟนที่แสนดี
“ใส่สร้อยคู่ไหม”มินซอกเคยถาม
ลู่หานก็ตามใจอีกเหมือนเคย วันนั้นที่ไปเดินตลาดเมียงดง
คู่รักลู่หมินจึงได้สร้อยคู่น่ารักมาคนละเส้น
ลู่หานสวมมันให้มินซอกก่อนจะสวมให้ตัวเอง
“นายเหมาะกับมันที่สุดเลยรู้ไหม”คำชื่นชมทำเอาหัวใจเต้นตูมตาม
จูบแผ่วเบาเกิดขึ้นหน้าร้านขายเครื่องประดับช่างน่าราตรึงใจนัก
มินซอกรู้จักกับลู่หานเพราะเพื่อนแนะนำ
มินซอกเป็นเด็กห้องเอ วันวันก็มีแต่เรียน เรียน กับเรียน อย่าพูดถึงแฟนเลย
แค่คุยกับเด็กผู้หญิงคนอื่นก็ไม่ค่อยได้คุยแล้ว จนเมื่อซูโฮ เพื่อนตั้งแต่มัธยมต้นพาลู่หานมาให้รู้จัก
แรกๆมินซอกไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมชายหนุ่มชอบตามซูโฮมาแล้วมานั่งจ้องหน้าเขากัน
มินซอกเคยถามว่า”ทำไมจ้องหน้ากันล่ะ”ทว่าลู่หานกลับหัวเราะเบาๆแล้วพูดคำที่มินซอกได้ฟังแล้วต้องหน้าแดงไปถึงใบหู
“นายน่ารัก...ฉันชอบนายจัง”
ฉันเสียใจที่ฉันให้รักเธอไป
ฉันเสียใจที่ฉันนั้นได้รักเธอ
ฉันเสียใจที่ฉันเคยฉุดรั้งเธอ
ทำไมเธอจึงปล่อยให้ฉันเดียวดาย
“ถ้าเกิดว่าฉันนอกใจนายนายจะทำยังไง”ลู่หานถามคนที่ตักไอศกรีมเข้าปาก
คิมมินซอกเอาหลังมือป้ายมุมปากเมื่อรู้สึกว่าตัวเองกินเลอะ
ป้ายเท่าไหร่ก็ไม่โดนจุดจนลู่หานต้องเกลี่ยหัวนิ้วมือลงบนมุมปากนุ่มให้
“ถามว่าไงนะ”คนหน้าสวยยังไม่ได้สนใจคำถามที่ร่างสูงถาม
ลู่หานหัวเราะเล็กๆกับความเปิ่นของมินซอก ก่อนจะบอกปัด “ไม่มีอะไร”
ถึงจะถามไปอย่างนั้น แต่ลู่หานคิดว่า
เขาคงทิ้งมินซอกไม่ลง...ในเมื่ออีกคนน่ารักเสียขนาดนี้
เขาไม่คิดว่าจะต้องมีใครอีก
ถึงความสัมพันธ์ของเขากับมินซอกยังอยู่แค่การจับมือหรือกอดเล็กน้อย
แต่เขาก็สุขใจ...ไม่ได้ต้องการอะไรมากกว่านั้น
“ฉันรักนายเพราะนายน่ารักอย่างนี้แหล่ะ รู้ไหม”คราวนี้ทำเอาคนฟังหน้าแดงก่ำ
มุดหน้าลงถ้วยไอศกรีมแล้วตักเข้าปากเป็นการใหญ่
ฉันอยากจะเป็นหนึ่งเดียวที่เธอมี
เเต่เธอกลับทำเป็นไม่เข้าใจ
มันเลยเป็นวังวนของรักที่มันไม่เคยจะมีค่า
น้ำตาของฉันไหลลง
เอ่อท่วมดวงใจรวดร้าวเพราะเธอ
จะให้ทำยังไง
ฉันก็ลืมเธอไม่ได้
“ไม่กลัวมันมีคนอื่นเหรอ”นั่นคือสิ่งที่ซูโฮถามเขาเสมอ
ซูโฮบอกว่าคนอย่างลู่หานไม่ใช่คนที่จะหยุดที่ใครง่ายๆ
แต่มินซอกไม่เห็นว่าจะจริง...บางที ลู่หานอาจจะยังไม่หยุด...แต่เขา
ก็ค่อยๆผ่อนปรนความเร็วลง และอีกไม่นาน อาจจะหยุด...ที่มินซอก
มินซอกเองพยายามไม่สนใจ
แม้ใครจะบอกว่าลู่หานเจ้าชู้ขนาดไหน แค่กอดเล็กน้อย
มัดใจชายหนุ่มอีกคนไม่ได้หรอก...แต่เท่าที่เห็นลู่หานก็ยังไม่มีใคร
คู่รักลู่หมินก็ยังคงรักกันดีเสมอ...มินซอกรู้สึกได้ ว่าลู่หานไม่ได้เปลี่ยนไปเลย
กระแสเรื่องลู่หานยังมีมาให้มินซอกได้ยินเสมอ
ร่างบางพยายามที่จะไม่สนใจ
ทว่าบางครั้ง...บางอยางก็สะกิดในใจว่เรื่องมันชักจะไม่ดีเข้าเสียให้แล้ว
“ไปไหนมาเหรอ”มินซอกเคยถามลู่หานแบบนี้เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่ได้มากินข้าวกลางวันด้วยกัน
หายเงียบไปเลย ลู่หานยิ้มให้เล็กน้อยทว่ามินซอกกลับรู้สึกได้ว่ารอยยิ้มนั้นมันไม่ได้มาจากใจเสียสักนิด
เหมือนการยิ้มกลบเกลื่อนเสียมากกว่า
“อาจารย์เรียกด่วนนะ แล้วกินอะไรหรือยัง”นอกจากรอยยิ้มแล้ว
การกระทำก็ยังดูเหมือนลุกลี้ลุกลน คล้ายกลัวใครจับได้...
มินซอกตระหนักดี...มันอาจจะเป็นอย่างที่ซูโฮบอก
ในวันนั้นที่มีฝนพรำ
เธอจ้องฉันโดยไร้เสียงใด
เธอจ้องมองเค่เพียงเเต่
ฉัน ฉัน ฉัน ฉัน
ในดวงตาสั่นไหวของเธอ
เธอขยับฝืนยิ้มให้ฉันมา
เธอเอ่ยเพียงเเค่คำว่า
ลา ลา ลา ลา
ความรักเริ่มจะติดขัด
มินซอกไม่ใช่คนอยากรู้เรื่องส่วนตัวของคนรัก
เพราะเชื่อว่ารักคือการไว้ใจกันมากกว่าจะมาสงสัยอะไร แม้ในใจ...จะร้อนรุ่มขนาดไหน
ใคร่อยากได้คำตอบเสียมากมายก็ตามที
“ไปเที่ยวสวนสนุกกันนะ”คำชวนจากแฟนหนุ่มทำให้มินซอกดีใจ
ยิ้ม ยิ้มจนเมื่อยแก้ม..วันจบการศึกษาทั้งที
การได้เที่ยวกับแฟนมันช่างเป็นความทรงจำที่ดีที่น่าเก็บเอาไว้
“ไปสิ
ฉันอยากปั่นเรือหงส์มากเลย”อยากจะปั่นเรือลำเล็กกับคนรัก..นั่งเคียงข้างกัน
ปั่นเลาะไปตามขอบสระ และอาจมอบจูบที่แสนสเน่หาให้แก่กัน...
วันที่แสนสุขจบลงที่ป้ายรถเมล์หน้าสวนสนุก มินซอกยังเขินไม่หายกับจุมพิตที่เกิดขึ้นบนเรือหงส์
แอบมองคนรักที่นั่งหันหน้าไปมองรอรถเมล์ ใบหน้าของลู่หานเรียบนิ่ง
“มินซอก..”เขาเรียกร่างบางที่นั่งข้างกัน
สายฝนที่ตั้งเค้ามาตั้งแต่ช่วงบ่ายเริ่มจะโปรยปรายลงมาเสียแล้ว
มินซอกไม่ได้พกร่มเสียด้วย
“อือ”ครางตอบลำคอ
ยื่นมือสัมผัสเม็ดฝนเย็นจัด
ลู่หานถอนหายใจเสียงดัง
ก่อนจะหันหน้ามาเผชิญกับคนรักที่ดูเหมือนกำลังสนใจกับสายฝน
ชายหนุ่มจ้องนิ่งจนมินซอกต้องหันไปสบสายตา
เสียงถอนหายใจดังขึ้นอีกครั้งก่อนที่ริมฝีปากหนาจะยกยิ้มเฝื่อนเฝือ...และพูดบางอย่างที่ทำให้โลกของมินซอกนิ่งสนิท
“เลิกกันเหอะ”
*-*-*-*-*
เธอบอกให้ฉันนั้นเดินจากเธอไป
เธอไล่ฉันเเล้วหันหนีไป
เธอทำเหมือนฉันเป็นบ้า
มันยากเกินไป boy slow
down
ฉันยังนิ่งไม่ทำตามเธอ
รู้ไหม cuz I want
to stay
next to you my love is
true
wanna go back to when I
was with you
“มีคนที่ดีกว่าฉัน...ขอโทษนะที่นอกใจ
แต่ฉันกำลังคบกับอึนจองอยู่ เราจบกันเถอะ”
ง่ายจัง...ง่ายเกินไปไหม ทำไมง่ายขนาดนี้
ความรักก่อร่างมาใช้เวลา
บ่มเพาะกล้ารักก่อนเอาลงดิน รดน้ำใส่ปุ๋ย เฝ้าดูแลด้วยจิตใจ...จนกว่าจะเบ่งบาน...
ทำไม...นายถึงถอนมันทิ้งอย่างง่ายดายขนาดนี้นะ
ลู่หาน
ไม่มีใคร...ดีกว่านายหรอก...
เพราะฉันรักนาย...ไม่ได้รักคนอื่น
มินซอกนิ่งไป มือที่รองน้ำฝนอยู่ลู่แนบลำตัว
ใบหน้าหวานยังจ้องที่หน้าคนรักที่กำลังจะกลายเป็นอดีต
จนลู่หานต้องเป็นคนหลบหน้าไปเอง เสียงหัวเราะหึดังในลำคอ
ทั้งที่พยายามจะเชื่อใจ พยายามไม่สนใจใครๆที่พูด
เลิกจะเชื่อในรัก
สุดท้าย...คิมมินซอกก็กลายเป็นคนโง่ใช่ไหม
ทำไมล่ะ...
ฉันต้องร้องต้องเสียน้ำตาก็เพราะเธอ
เเละที่ฉันหัวเราะได้นั้นก็เพราะเธอ
ฉันเรียนรู้ในคำว่ารักก็เพราะเธอ
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้น
เธอรู้ไหมเพราะเธอ
ไม่อาจเอ่ย เอ่ย เอ่ย
รั้ง
ไม่อาจไขว่คว้า
ฉันนั้นเดี่ยวดาย
ในโลกที่ไม่มีเธอ
เหยียบย่ำความรักฉันจนพอใจ
ฉีกหัวใจฉันที่ให้เธอไป
ทิ้งฉันให้จมอยู่กับรักที่เธอไม่ได้ต้องการ
ลู่หานลุกหนีไปแล้ว ไม่พูดอะไรอีก
โดยมินซอกมองคนที่เดินจากไปนิ่ง ขาเรียวสวยขยับลุกจากม้านั่ง ก่อนจะเขยิบจะตามไป
มือเรียวยกขึ้นช้าๆเหมือนจะไขว่คว้าแผ่นหลังที่เริ่มห่างออกไปท่ามกลางสายฝนแต่แล้วต้องตกลงแนบลำตัวอีกครั้ง
ความแสบร้อนที่จมูกบอกได้ว่าน้ำตาที่กำลังเก็บไว้มานาน...มันกำลังไหลออกมา
น้ำตาแห่งความอัดอั้นตันใจ น้ำตาแห่งการเลือกเชื่อใจความรักโดยมองข้ามทุกๆอย่าง
ไหลเรื่อยๆ ไหลออกมา...ปะปนกับสายฝนที่สาดกระเซ็นไปทั่วร่าง
“ฉันรักนายเพราะนายน่ารักอย่างนี้แหล่ะ รู้ไหม”
ไหนเล่าความรัก อยู่ไหนกัน...ฉันยังน่ารักไม่พอ
หรือฉันหมดน่ารักแล้ว...นายถึงไม่รักฉันแล้ว
“ฮึ่ก!”เสียงหวานสะอื้นไห้
ก่อนที่ขาจะทรุดลงกับพื้น มือเรียวกุมตำแหน่งหัวใจที่มันปวดร้าว เต้นถี่หนึบรุนแรง
เหมือนมือของร่างสูงกำลังบีบมันอยู่ บีบมันด้วยความรุนแรง จนแทบจะแหลกสลายลงไป
คล้ายกับมือของหญิงสาวคนหนึ่งที่เขาไม่เคยรู้จักหรือเห็นหน้ากำลังสอดเข้ามาในหน้าอกแล้วคว้าเอาหัวใจที่แทบสลายไปเขวี้ยงลงบนพื้น
ก่อนปลายเท้าเล็กจะขยี้มันอีกครั้ง...
เจ็บปวดเกินไปแล้ว...
หัวใจฉันปวดร้าวเกินทน
ฉันทนฝืนมานานเหลือเกิน
เเล้วเธอนั้นอยู่ไหนนะ
(เห็นน้ำตาของฉันมั๊ย)
I can't live without
you
ได้โปรดช่วยกลับมา
และอย่าจากฉันไปไหน
“มินซอกคะ ทานยาค่ะ”เสียงของผู้หญิงชุดฟ้าคนเดิม
ยาเม็ดสีขาวเม็ดเดิม มินซอกมองยานั้นก่อนจะส่ายหน้า
ฮานึลผ่อนลมหายใจด้วยความสงสารจับใจ
“ถ้าไม่ทานยา มินซอกก็ไม่หายนะคะ”เธอหลอกล่อด้วยคำพูดเดิมๆ
มินซอกหัวเราะในลำคอ
ใบหน้าโศกเศร้ามองออกหน้าต่างออกไป...ก่อนที่ริมฝีปากจะขยับเอ่ยบางคำที่ทำให้ฮานึลนั้นแทบจะเสียน้ำตาด้วยความสงสารผู้ชายคนนี้สุดขั้วหัวใจ
“ผมขาขาดนะฮานึล...ยานั่นกินไปก็แค่ระงับอาการปวด
ติดเชื้อ...ไม่ได้ทำให้ผมเดินได้อีกครั้งเสียหน่อย”น้ำตาของหญิงสาวรินไหล
เธอยกมือโอบกอดร่างบนเตียงคนไข้ด้วยความวิสาสะเกินหน้าที่นางพยาบาล
แต่วินาทีนี้...เธอรู้สึกสงสารคนๆนี้เหลือเกิน
ทำไมพระเจ้า...ทรงกลั่นแกล้งคนๆนี้ขนาดนี้
ตอนเคสของมินซอกเข้ามา ได้รับแจ้งว่ามีรถยนต์ลื่นไถลเพราะถนนเปียกเข้าพุ่งชนคนที่อยู่ที่ป้ายรถเมล์หน้าสวนสนุกแห่งหนึ่ง
บุรุษพยาบาลเข็นร่างของเด็กหนุ่มคนนึงมาด้วยเลือดโชกกาย
หมอใหญ่ลงผ่าตัดด้วยตัวเองเพราะรถนั้นชนเข้าเต็มๆและเหยียบบางส่วนที่คาดว่าจะเป็นขาทั้งสองข้างของเด็กหนุ่มด้วย
สุดท้ายแล้ว...คิมมินซอกก็ถูกตัดขาเพราะขาทั้งสองข้างถูกล้อรถบดทับไป
เนื้อหนังถลอกเหวอะและกระดูแตกยับ...
เมื่อคนไข้ในการดูแลของเธอตื่นมา
ดูเขาไร้ซึ่งความสุข ฮานึลคิดว่าอาจเพราะขาที่สูญเสียไปด้วย
และที่ฮานึลรู้สึกได้คือความเศร้าหมองเสียใจจากใครสักคนที่ทำร้ายจิตใจมินซอกอย่างรุนแรง...
คนที่ชื่อลู่หาน...ที่มินซอกละเมอหาทุกครั้งที่หลับตานั่นไง
*-*-*-*
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น