Never Know
ใจดวงนี้ที่เคยมืดดำ
เธอช่วยนำแสงส่องให้ใจ
ช่วยเติมความฝันที่มันว่างเปล่า
คิมมินซอกไม่เคยมีความรักมาก่อน
ชายหนุ่มเอาแต่เรียน เรียน และเรียน จนวันหนึ่งก็มีใครสักคนผ่านเข้ามา
ลู่หาน...คนที่ทำให้มินซอกรู้จักคำว่ารักนั้นมันเป็นอย่างไร
คนที่ทำให้ยิ้มได้เสมอ
และเป็นคนเดียวกับที่ทำให้เจ็บปวดทุรนทุรายแทบจะไม่อยากหายใจต่อ
เป็นคนที่ทำให้ชีวิตเขาพังทลายไม่มีสิ้นดี...
ชีวิตที่ไม่มีลู่หานดำเนินมาเรื่อยตั้งแต่จบการศึกษามัธยมปลาย...มินซอกไม่ได้เรียนต่อ
เพราะเขากลายเป็นคนพิการไปแล้ว
แม้ว่าพ่อแม่จะพยายามเกลี้ยกล่อมให้เข้าเรียนโรงเรียนของคนพิเศษก็ตามที
มินซอกคิดว่ามันไม่สำคัญ...ในเมื่อเขาไม่สามารถจะเดินเหินไปไหนได้...มันจะมีประโยชน์อะไรกับการที่จะต้องใช้ชีวิตไปกับการศึกษาเหล่านั้น
วันที่มันผ่านไป
ยิ่งนานเท่าใด ยิ่งมีคำว่าเรา
เรียบเรียงความรู้สึกผ่านเพลงนี้
มินซอกชอบเขียนไดอารี่
เมื่อตอนอยู่โรงพยาบาลเขาอาศัยเขียนไดอารี่ระบายทุกความรู้สึกที่มีอยู่ในตอนนั้น
ทั้งความเสียใจ ท้อแม้ ผิดหวัง และปวดร้าว
จากทั้งการสูญเสียสิ่งสำคัญในการดำเนินชีวิตอย่างขาทั้งสองข้าง
และสูญเสียหัวใจที่มีแต่รัก
วันนี้คุณหมอนัดมาตรวจอีกครั้ง
มินซอกยิ้มให้พ่อที่ช่วยประคองนั่งวีลแชร์ก่อนที่คุณคิมจะแยกออกไปทางห้องจ่ายยาเพื่อดำเนินการเรื่องยาที่หมดแล้ว
มินซอกเข็นวงล้อเก้าอี้เหล็กไปรอหน้าห้องคุณหมอปาร์คเหมือนเคย
หน้าห้องแสนจะชินตาเพราะมาเดือนละหลายๆหน
ตอนนี้คุณหมอบอกว่าจะพยายามใส่ขาเทียมให้กับเขา
เพื่อจะได้เดินเหินได้อย่างคนทั่วไป
อีกอย่างก็ไม่ต้องพึ่งพ่อที่เริ่มจะแก่เข้าไปทุกทีอีกด้วย
เสียงจอแจของโรงพยาบาล เด็กเล็กวิ่งกันวุ่นวาย
คนแก่มากมายรอให้คุณหมอเรียกเข้าห้องตรวจ
มินซอกมองรอบๆแล้วยิ้มเล็กๆให้กับเด็กผู้หญิงขี้แยที่กำลังโดนเด็กชายคนหนึ่งแกล้งแหย่
ดูท่าทางแล้วคงสนิทกัน...อาจเป็นเพื่อนบ้าน หรือญาติ ดูเหมือนเด็กชายจะขี้เกเร
แต่ดูในแววตามันเจือความรักที่มอบให้เด็กหญิงเต็มที่...เหมือนสายตาที่ลู่หานเคยใช้มองเขาเมื่อตอนนั้นไม่มีผิด
มุมปากตกลงเมื่อคิดถึงใครคนนั้นอีกแล้ว ผ่านมานาน
ยังไงก็ไม่ลืมเสียทีสินะ
เธอไม่เคยที่จะเข้าใจ
ไม่มีทางที่จะเข้าใจ
การรอสักคนให้ย้อนคืนมา
มันนั้นเจ็บเท่าใด
กล้ำกลืนเท่าไร ฉันเสียใจเท่าไหร่
เรียบเรียงมันไว้ผ่านเพลง
เพลงนี้
“มินซอก”เสียงเรียกอย่างดีใจก่อนที่ร่างเล็กๆของหญิงสาวในชุดพยาบาลจะพุ่งตรงมาหาเขา
ฮานึลยังน่ารักเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
นางฟ้าชุดสีฟ้าที่คอยอยู่เคียงข้างเขาเสมอเมื่อตอนอยู่โรงพยาบาล
คนที่เสียน้ำตาไปกับเขา คนที่บังคับให้เขากินยา คนที่ห่วงเขาจากใจจริง
พ่อกับแม่แซวว่าเขากับฮานึลน่าจะลงเอยกัน
เห็นดูเข้ากันได้ดี ฮานึลเองก็เป็นสาวโสดหน้าตาดี เขาเองก็ไม่มีใคร
แต่เขาไม่คิดอย่างนั้น เขาเป็นคนพิการ
คิมมินซอกรังแต่จะเพิ่มภาระให้ฮานึลเสียไม่ว่า
ที่สำคัญ...เขาคงรักใครไม่ได้เมื่อใจยังจดจำเพียงแค่บางคนเท่านั้น
“มาตรวจอีกแล้ว
เข้มแข้งนะมินซอก ได้ยินว่าจะได้ขาเทียมแล้วสินะ อา...ถ้ามินซอกเดินได้
เราไปเที่ยวกันนะ”รอยยิ้มของนางพยาบาลสาวเกลื่อนเต็มใบหน้าพามินซอกยิ้มตามได้อย่างไม่ยาก
เขาพยักหน้าเป็นอันว่าตกลง สาวเจ้าปรบมือด้วยความชอบใจ วาดฝันถึงวันที่จะได้ไปเที่ยวกับชายหนุ่มเรียบร้อย
“เอ้อ มัวแต่คุยเพลิน มาเอาของให้คุณหมอคิม ฮ่ะๆ
เดี๋ยวฉันไปก่อนนะ พอดีมีสาวน้อยน่ารักมาฝากท้องน่ะ”เธอกระซิบแล้วแอบแลบลิ้นอยางน่ารัก
มินซอกหัวเราะเบาๆกับความทะเล้นที่ไม่เคยได้เห็นตอนที่เข้ายังนอนอยู่ที่นี่
ความจริงฮานึลเป็นผู้หญิงร่าเริงและน่ารักมากทีเดียว
ขอให้เธอเจอคนที่รักเธอและอยากจะอยู่ข้างเธอตลอดไป...ไม่ทิ้งเธอด้วยเถิดพระผู้เป็นเจ้า
มินซอกมองหญิงสาววิ่งเข้าห้องตรวจห้องหนึ่งไป
นั่งรอพ่อที่ยังไม่มาเสียทีพลันสายตาก็เหลือบเห็นประตูห้องที่ฮานึลเข้าไปเปิดออก
คงเป็นคู่ว่าที่พ่อแม่ในอนาคตที่มาฝากครรภ์
ทว่าดวงตากลมโตก็ต้องเบิกกว้างและนิ่งสนิทจ้องมองชายหญิงที่เดินออกจากห้องนั้นนิ่ง
จมูกเหมือนจะไม่สามารถดึงเอาอากาศเข้าไปได้ แสบร้อนไปหมด
แล้วน้ำตาก็ไหลลงมาอย่างง่ายดาย
ลู่หาน...และอึนจอง
เธอและฉันนั้นเคยรักกัน
อย่าทำฉันร้องไห้นะเธอ
เธอรู้ไหมว่าใจฉันเจียนแทบขาด
คนที่จะเดินผ่านหน้าไปชะงักค้างเมื่อเห็นใบหน้าหวานที่คุ้นเคย
ร่างเล็กบนเก้าอี้วีลแชร์ ท่อนล่างถูกคลุมด้วยผ้าสีหวาน
ลู่หานอึ้งเล็กน้อยที่พบกับคนรักเก่าที่นี่ ในวันที่พาแฟนสาวมาฝากครรภ์
อึนจองท้องได้สามเดือนแล้ว
ข่าวดีมาพร้อมกับข่าวร้ายที่ว่าคุณแม่ของเธอจะส่งเธอไปอยู่ที่อังกฤษเพราะเธอท้องก่อนแต่งขณะยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่
ยื้อยุดกันอยู่นานกว่าคุณคิมจะอนุญาตให้อึนจองพักการเรียนก่อนแล้วค่อยไปตามเก็บรายวิชาเอาหลังคลอดน้อง
เขาเองก็เอาคอพาดเขียงด้วยคำสาบานว่าจะมีแค่อึนจอง
เมื่อเราทั้งคู่เรียนจบ เขาจะมาขอเธอแต่งงานทันที
อึนจองเป็นผู้หญิงน่ารัก ยิ้มสวย จิตใจดี
เขาถึงตกหลุมรักเธอง่ายดาย
จนมีโซ่ทองคล้องเราสองคนเอาไว้เช่นนี้...แล้วทั้งชีวิตนี้ของลู่หานก็มอบให้คิมอึนจองแต่เพียงผู้เดียวแล้ว..
“เห นั่นเพื่อนเก่าลู่หานนี่นา”เสียงหวานทัก
เธอคลี่ยิ้มตรงรี่เข้ามาหามินซอกก่อนจะโค้งทักทายอย่างสุภาพ รอยยิ้มอ่อนหวาน
ใบหน้าอ่อนโยน...ทุกอย่างของผู้หญิงคนนี้คือคนที่ลู่หานต้องการสินะ
มือเล็กปาดน้ำตาออก
...เหมาะสมดี...มินซอกคิดอย่างนั้น อึนจองสวย ลู่หานรักเธอก็ไม่ผิด
เหมาะสมกันดีแล้ว...
แต่ทำไมในใจยังเจ็บขนาดนี้
มองใบหน้าหล่อเหลาข้างกายเล็กแล้วเบือนหลบเมื่อดูท่าทางในแววตาคมเข้มนั้นไม่มีเขาเหลืออยู่อีก
เราจบกันไปนานแล้ว...
“ฉันคิมอึนจอง แฟนลู่หานค่ะ
จำได้ว่าคุณเป็นเพื่อนเก่าหมอนี่ ฮ่ะๆ ดีจังเลย
ฉันบอกให้เขาไปหาเพื่อนเก่าบ้างก็ไม่ยอมไป งานเลี้ยงรุ่นก็ไม่ไป”เธอกระเง้ากระงอด
ทิ้งตัวลงเก้าอี้ข้างๆมินซอก รอยยิ้มจริงใจยังส่งมาให้อยู่ตลอดเวลา
“ครับ...เราเคยเป็นเพื่อนเก่ากัน
เพื่อนรัก...รักมาก...มากที่สุด”
เสียงหวานตอบกลับ มองดูท้องของอึนจอง
มันนูนเล็กน้อย คล้ายกับหญิงสาวจะรู้ว่ามินซอกมองทำไม
เธอยิ้มเอียงอายก่อนจะอ้อมแอ้มตอบแผ่วเบา
“ฉันท้องน่ะค่ะ สามเดือนแล้ว
ว่าแต่ฉันยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย”เธอชูนิ้วขึ้นสามนิ้วแล้วยิ้มกว้าง
ดูเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดี
“มินซอกครับ...คิมมินซอก”
ได้ยินเพียงเสียงของเธอ
เห็นเพียงเธอคนเดียวเสมอ
ขอเธอได้โปรดช่วยกลับมาหา
“สบายดีเหรอ”ดูไม่น่าจะเป็นคำที่ควรมาทักทายกันเลยระหว่างแฟนเก่า
มินซอกแค่พยักหน้าเท่านั้น ยิ้มจางๆให้ มือเล็กลูบต้นขาไล่ไปเรื่อย
แค่เพียงจะถึงหัวเขาก็ต้องชะงักเมื่อรู้ว่าถ้าลูบลงไป..จะไม่เจอขาทั้งสองข้าง
“แล้วทำไมต้องนั่งรถเข็นล่ะคะ”อึนจองถาม
นั่นก็เป็นคำถามในใจของคนที่ยืนนิ่งเช่นกัน ลู่หานมองร่างกายที่ผ่ายผอมลงเล็กน้อย
ใบหน้าซูบซีด และผ้าที่คลุมขาของมินซอกเอาไว้
“ปวดขาน่ะครับ...คงเดินเยอะไปหน่อย”เขาตอบ
ในใจกลั้นก้อนสะอึกเอาไว้
...บอกว่าเดินได้ทั้งที่ไม่มีโอกาสจะได้เดินเลยสักครั้ง...
“อา...หายไวๆนะคะมินซอก”เธออวยพร
มินซอกยิ้ม...
“รีบไปกันเถอะ คุณแม่รอทานข้าวอยู่นี่นา”เสียงทุ้มเรียกแฟนสาวท้องอ่อน
เธอทำสีหน้าตกใจก่อนจะคลี่ยิ้มแล้วบอกลามินซอก “แล้วเจอกันอีกนะคะ”
“แล้วเจอกันนะ”เสียงทุ้มเอ่ยมาแผ่วเบา...มินซอกน้ำตาไหลอีกครั้ง
ไหลมานิ่งเงียบ แต่คนที่หมุนตัวจากไปไม่มีทางได้เห็น
แผ่นหลังกว้างที่คุ้นเคย อ้อมกอดอุ่นที่คุ้นใจ
เสียงทุ้มที่คุ้นหู
...โหยหา...
ต้องการ...ต้องการเหลือเกิน...ต้องการแค่นาย...
...ลู่หาน
มือไขว่คว้าเอื้อมเพื่ออยากจะรั้งคนที่เดินตะกรองกันห่างออกไปเรื่อยๆ
น้ำตารินไหลเงียบๆ ไหลลง ไหลลง เอ่อท่วมทั้งใจ เอ่อขังในอก รวดร้าว
หายใจไม่ออกเหมือนคนจมน้ำ...
“กลับมา...กลับมาที”
ขอเธอได้โปรดช่วยกลับมาหา
โครม...
ร่างเล็กหล่นจากเก้าอี้เหล็ก
นอนนาบกับพื้นปูนของโรงพยาบาล ลู่หานไม่กลับมา เขาเดินไปไกลแล้ว เดินจากไปแล้ว
ใบหน้าหวานซบพื้นปูนเย็นเฉียบท่ามกลางกลุ่มคนที่เริ่มมุงดู
น้ำตาที่ไหลยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเสียที
“กลับมา....ฮึ่ก...กลับมา”
แม้ฉันต้องเลือกที่จะทิ้งทุกอย่าเพื่อรักเธอก็ตาม
แม้ต้องสูญเสียทุกอย่าง
ความฝัน หรือโอกาสก็ตาม
ต้องการเพียงเธอ ต้องการความรักของเรานั้นคืนมา
ต้องการเพียงแค่เธอ แค่เธอกลับมา
แม้จะต้องสูญเสียน้ำตามากสักเท่าไร
เท่าใด
สิ่งที่ฉันต้องการและอยากจะได้คือ
ความรักที่มันไม่มีวันคืนย้อนมา
ถ้าได้ยินเสียงเพลงเพลงนี้
ให้เธอจงกลับมา จงกลับมา
“มินซอก!!”เสียงตะโกนเรียกของฮานึลดังลั่น
หญิงสาวตรงประคองคนที่นอนอยู่กับพื้น
เอาผ้าคลุมขาเล็กอันผอมแห้ง...และมีเพียงท่อนบนเท่านั้น
เห็นน้ำตาที่ไหลรินอีกครั้งของคิมมินซอก
ร้องไห้สะอื้นฮั่กอย่างเมื่อก่อน ร้องไห้ราวจะขาดใจ
นั่นทำให้ใจเธอแทบขาดไปด้วย..ทำไมมินซอกถึงร้องไห้ขนาดนี้
พลันสายตาก็เหลือบเห็นเอกสารที่ถือมาด้วยที่หล่นกระจาย
เอกสารของคู่ที่เพิ่งพากันมาฝากครรภ์...แล้วมือเล็กของเธอก็ยกขึ้นรั้งมินซอกเข้าสู่อ้อมกอด
“ร้องออกมานะ
ร้องออกมานะมินซอก...ฉันจะฟังเสียงร้องมินซอกเอง
แม้ว่าผู้ชายคนนั้นเขาจะไม่ได้ฟังมันเลย...ร้องออกมา”
เอกสารระบุชัดเจน
แม่...คิมอึนจอง..
พ่อ...ลู่หาน....
..
.
.
สุดท้ายก็เดินจากไป
ฉันเป็นคนให้เธอไป
คิดว่าบ้าไหมที่ยอมให้เธอจากไป
แล้วมาเสียใจ
แต่เธอรู้ไหมว่ามือข้างนี้ที่มันยังสั่นยังไหว
อยากรั้งเธอไว้แต่มันไม่ทันจะคว้าเธอ
แกล้งยิ้มส่งเธอนั้นจาก
ยินดีที่เธอนั้นจาก
ฟังนะนี่จะเป็นเพลงสุดท้าย
ที่ฉันจะร้องเพื่อเธอ
*-*-*
เมื่อเคยรักแค่เธอคนเดียว
ใจดวงนี้ก็มีแค่เธอ
ไม่มีวันเปิดรับคนใดเข้ามา
เธอและฉันนั้นเคยรักกัน
อย่าทำฉันร้องไห้ได้ไหม
รู้ไหมว่าใจคงขาดไม่ช้า
“นายรู้บ้างไหม
หัวใจฉันเหมือนจะขาดอยู่ไม่ช้า....ลู่หาน”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น