วันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

Never Know2

Never Know

ใจดวงนี้ที่เคยมืดดำ เธอช่วยนำแสงส่องให้ใจ
ช่วยเติมความฝันที่มันว่างเปล่า

คิมมินซอกไม่เคยมีความรักมาก่อน ชายหนุ่มเอาแต่เรียน เรียน และเรียน จนวันหนึ่งก็มีใครสักคนผ่านเข้ามา
ลู่หาน...คนที่ทำให้มินซอกรู้จักคำว่ารักนั้นมันเป็นอย่างไร คนที่ทำให้ยิ้มได้เสมอ และเป็นคนเดียวกับที่ทำให้เจ็บปวดทุรนทุรายแทบจะไม่อยากหายใจต่อ
เป็นคนที่ทำให้ชีวิตเขาพังทลายไม่มีสิ้นดี...

ชีวิตที่ไม่มีลู่หานดำเนินมาเรื่อยตั้งแต่จบการศึกษามัธยมปลาย...มินซอกไม่ได้เรียนต่อ เพราะเขากลายเป็นคนพิการไปแล้ว แม้ว่าพ่อแม่จะพยายามเกลี้ยกล่อมให้เข้าเรียนโรงเรียนของคนพิเศษก็ตามที
มินซอกคิดว่ามันไม่สำคัญ...ในเมื่อเขาไม่สามารถจะเดินเหินไปไหนได้...มันจะมีประโยชน์อะไรกับการที่จะต้องใช้ชีวิตไปกับการศึกษาเหล่านั้น

วันที่มันผ่านไป ยิ่งนานเท่าใด ยิ่งมีคำว่าเรา
เรียบเรียงความรู้สึกผ่านเพลงนี้



มินซอกชอบเขียนไดอารี่ เมื่อตอนอยู่โรงพยาบาลเขาอาศัยเขียนไดอารี่ระบายทุกความรู้สึกที่มีอยู่ในตอนนั้น ทั้งความเสียใจ ท้อแม้ ผิดหวัง และปวดร้าว จากทั้งการสูญเสียสิ่งสำคัญในการดำเนินชีวิตอย่างขาทั้งสองข้าง และสูญเสียหัวใจที่มีแต่รัก
วันนี้คุณหมอนัดมาตรวจอีกครั้ง มินซอกยิ้มให้พ่อที่ช่วยประคองนั่งวีลแชร์ก่อนที่คุณคิมจะแยกออกไปทางห้องจ่ายยาเพื่อดำเนินการเรื่องยาที่หมดแล้ว
มินซอกเข็นวงล้อเก้าอี้เหล็กไปรอหน้าห้องคุณหมอปาร์คเหมือนเคย หน้าห้องแสนจะชินตาเพราะมาเดือนละหลายๆหน ตอนนี้คุณหมอบอกว่าจะพยายามใส่ขาเทียมให้กับเขา เพื่อจะได้เดินเหินได้อย่างคนทั่วไป อีกอย่างก็ไม่ต้องพึ่งพ่อที่เริ่มจะแก่เข้าไปทุกทีอีกด้วย
เสียงจอแจของโรงพยาบาล เด็กเล็กวิ่งกันวุ่นวาย คนแก่มากมายรอให้คุณหมอเรียกเข้าห้องตรวจ มินซอกมองรอบๆแล้วยิ้มเล็กๆให้กับเด็กผู้หญิงขี้แยที่กำลังโดนเด็กชายคนหนึ่งแกล้งแหย่ ดูท่าทางแล้วคงสนิทกัน...อาจเป็นเพื่อนบ้าน หรือญาติ ดูเหมือนเด็กชายจะขี้เกเร แต่ดูในแววตามันเจือความรักที่มอบให้เด็กหญิงเต็มที่...เหมือนสายตาที่ลู่หานเคยใช้มองเขาเมื่อตอนนั้นไม่มีผิด
มุมปากตกลงเมื่อคิดถึงใครคนนั้นอีกแล้ว ผ่านมานาน ยังไงก็ไม่ลืมเสียทีสินะ

เธอไม่เคยที่จะเข้าใจ ไม่มีทางที่จะเข้าใจ
การรอสักคนให้ย้อนคืนมา
มันนั้นเจ็บเท่าใด กล้ำกลืนเท่าไร ฉันเสียใจเท่าไหร่
เรียบเรียงมันไว้ผ่านเพลง เพลงนี้


 “มินซอกเสียงเรียกอย่างดีใจก่อนที่ร่างเล็กๆของหญิงสาวในชุดพยาบาลจะพุ่งตรงมาหาเขา ฮานึลยังน่ารักเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง นางฟ้าชุดสีฟ้าที่คอยอยู่เคียงข้างเขาเสมอเมื่อตอนอยู่โรงพยาบาล คนที่เสียน้ำตาไปกับเขา คนที่บังคับให้เขากินยา คนที่ห่วงเขาจากใจจริง
พ่อกับแม่แซวว่าเขากับฮานึลน่าจะลงเอยกัน เห็นดูเข้ากันได้ดี ฮานึลเองก็เป็นสาวโสดหน้าตาดี เขาเองก็ไม่มีใคร แต่เขาไม่คิดอย่างนั้น เขาเป็นคนพิการ คิมมินซอกรังแต่จะเพิ่มภาระให้ฮานึลเสียไม่ว่า
ที่สำคัญ...เขาคงรักใครไม่ได้เมื่อใจยังจดจำเพียงแค่บางคนเท่านั้น

มาตรวจอีกแล้ว เข้มแข้งนะมินซอก ได้ยินว่าจะได้ขาเทียมแล้วสินะ อา...ถ้ามินซอกเดินได้ เราไปเที่ยวกันนะรอยยิ้มของนางพยาบาลสาวเกลื่อนเต็มใบหน้าพามินซอกยิ้มตามได้อย่างไม่ยาก เขาพยักหน้าเป็นอันว่าตกลง สาวเจ้าปรบมือด้วยความชอบใจ วาดฝันถึงวันที่จะได้ไปเที่ยวกับชายหนุ่มเรียบร้อย
 “เอ้อ มัวแต่คุยเพลิน มาเอาของให้คุณหมอคิม ฮ่ะๆ เดี๋ยวฉันไปก่อนนะ พอดีมีสาวน้อยน่ารักมาฝากท้องน่ะเธอกระซิบแล้วแอบแลบลิ้นอยางน่ารัก มินซอกหัวเราะเบาๆกับความทะเล้นที่ไม่เคยได้เห็นตอนที่เข้ายังนอนอยู่ที่นี่ ความจริงฮานึลเป็นผู้หญิงร่าเริงและน่ารักมากทีเดียว
ขอให้เธอเจอคนที่รักเธอและอยากจะอยู่ข้างเธอตลอดไป...ไม่ทิ้งเธอด้วยเถิดพระผู้เป็นเจ้า
มินซอกมองหญิงสาววิ่งเข้าห้องตรวจห้องหนึ่งไป นั่งรอพ่อที่ยังไม่มาเสียทีพลันสายตาก็เหลือบเห็นประตูห้องที่ฮานึลเข้าไปเปิดออก คงเป็นคู่ว่าที่พ่อแม่ในอนาคตที่มาฝากครรภ์
ทว่าดวงตากลมโตก็ต้องเบิกกว้างและนิ่งสนิทจ้องมองชายหญิงที่เดินออกจากห้องนั้นนิ่ง จมูกเหมือนจะไม่สามารถดึงเอาอากาศเข้าไปได้ แสบร้อนไปหมด แล้วน้ำตาก็ไหลลงมาอย่างง่ายดาย

ลู่หาน...และอึนจอง



เธอและฉันนั้นเคยรักกัน
อย่าทำฉันร้องไห้นะเธอ
เธอรู้ไหมว่าใจฉันเจียนแทบขาด


คนที่จะเดินผ่านหน้าไปชะงักค้างเมื่อเห็นใบหน้าหวานที่คุ้นเคย ร่างเล็กบนเก้าอี้วีลแชร์ ท่อนล่างถูกคลุมด้วยผ้าสีหวาน ลู่หานอึ้งเล็กน้อยที่พบกับคนรักเก่าที่นี่ ในวันที่พาแฟนสาวมาฝากครรภ์
อึนจองท้องได้สามเดือนแล้ว ข่าวดีมาพร้อมกับข่าวร้ายที่ว่าคุณแม่ของเธอจะส่งเธอไปอยู่ที่อังกฤษเพราะเธอท้องก่อนแต่งขณะยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ ยื้อยุดกันอยู่นานกว่าคุณคิมจะอนุญาตให้อึนจองพักการเรียนก่อนแล้วค่อยไปตามเก็บรายวิชาเอาหลังคลอดน้อง
เขาเองก็เอาคอพาดเขียงด้วยคำสาบานว่าจะมีแค่อึนจอง เมื่อเราทั้งคู่เรียนจบ เขาจะมาขอเธอแต่งงานทันที
อึนจองเป็นผู้หญิงน่ารัก ยิ้มสวย จิตใจดี เขาถึงตกหลุมรักเธอง่ายดาย จนมีโซ่ทองคล้องเราสองคนเอาไว้เช่นนี้...แล้วทั้งชีวิตนี้ของลู่หานก็มอบให้คิมอึนจองแต่เพียงผู้เดียวแล้ว..

 “เห นั่นเพื่อนเก่าลู่หานนี่นาเสียงหวานทัก เธอคลี่ยิ้มตรงรี่เข้ามาหามินซอกก่อนจะโค้งทักทายอย่างสุภาพ รอยยิ้มอ่อนหวาน ใบหน้าอ่อนโยน...ทุกอย่างของผู้หญิงคนนี้คือคนที่ลู่หานต้องการสินะ
มือเล็กปาดน้ำตาออก ...เหมาะสมดี...มินซอกคิดอย่างนั้น อึนจองสวย ลู่หานรักเธอก็ไม่ผิด
เหมาะสมกันดีแล้ว...
แต่ทำไมในใจยังเจ็บขนาดนี้ มองใบหน้าหล่อเหลาข้างกายเล็กแล้วเบือนหลบเมื่อดูท่าทางในแววตาคมเข้มนั้นไม่มีเขาเหลืออยู่อีก
เราจบกันไปนานแล้ว...

 “ฉันคิมอึนจอง แฟนลู่หานค่ะ จำได้ว่าคุณเป็นเพื่อนเก่าหมอนี่ ฮ่ะๆ ดีจังเลย ฉันบอกให้เขาไปหาเพื่อนเก่าบ้างก็ไม่ยอมไป งานเลี้ยงรุ่นก็ไม่ไปเธอกระเง้ากระงอด ทิ้งตัวลงเก้าอี้ข้างๆมินซอก รอยยิ้มจริงใจยังส่งมาให้อยู่ตลอดเวลา
 “ครับ...เราเคยเป็นเพื่อนเก่ากัน เพื่อนรัก...รักมาก...มากที่สุด
เสียงหวานตอบกลับ มองดูท้องของอึนจอง มันนูนเล็กน้อย คล้ายกับหญิงสาวจะรู้ว่ามินซอกมองทำไม เธอยิ้มเอียงอายก่อนจะอ้อมแอ้มตอบแผ่วเบา
 “ฉันท้องน่ะค่ะ สามเดือนแล้ว ว่าแต่ฉันยังไม่รู้จักชื่อคุณเลยเธอชูนิ้วขึ้นสามนิ้วแล้วยิ้มกว้าง ดูเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดี
 “มินซอกครับ...คิมมินซอก

ได้ยินเพียงเสียงของเธอ
เห็นเพียงเธอคนเดียวเสมอ
ขอเธอได้โปรดช่วยกลับมาหา


 “สบายดีเหรอดูไม่น่าจะเป็นคำที่ควรมาทักทายกันเลยระหว่างแฟนเก่า มินซอกแค่พยักหน้าเท่านั้น ยิ้มจางๆให้ มือเล็กลูบต้นขาไล่ไปเรื่อย แค่เพียงจะถึงหัวเขาก็ต้องชะงักเมื่อรู้ว่าถ้าลูบลงไป..จะไม่เจอขาทั้งสองข้าง
 “แล้วทำไมต้องนั่งรถเข็นล่ะคะอึนจองถาม นั่นก็เป็นคำถามในใจของคนที่ยืนนิ่งเช่นกัน ลู่หานมองร่างกายที่ผ่ายผอมลงเล็กน้อย ใบหน้าซูบซีด และผ้าที่คลุมขาของมินซอกเอาไว้
 “ปวดขาน่ะครับ...คงเดินเยอะไปหน่อยเขาตอบ ในใจกลั้นก้อนสะอึกเอาไว้
...บอกว่าเดินได้ทั้งที่ไม่มีโอกาสจะได้เดินเลยสักครั้ง...
 “อา...หายไวๆนะคะมินซอกเธออวยพร มินซอกยิ้ม...
 “รีบไปกันเถอะ คุณแม่รอทานข้าวอยู่นี่นาเสียงทุ้มเรียกแฟนสาวท้องอ่อน เธอทำสีหน้าตกใจก่อนจะคลี่ยิ้มแล้วบอกลามินซอก แล้วเจอกันอีกนะคะ
 “แล้วเจอกันนะเสียงทุ้มเอ่ยมาแผ่วเบา...มินซอกน้ำตาไหลอีกครั้ง ไหลมานิ่งเงียบ แต่คนที่หมุนตัวจากไปไม่มีทางได้เห็น
แผ่นหลังกว้างที่คุ้นเคย อ้อมกอดอุ่นที่คุ้นใจ เสียงทุ้มที่คุ้นหู
...โหยหา...
ต้องการ...ต้องการเหลือเกิน...ต้องการแค่นาย...
...ลู่หาน

มือไขว่คว้าเอื้อมเพื่ออยากจะรั้งคนที่เดินตะกรองกันห่างออกไปเรื่อยๆ น้ำตารินไหลเงียบๆ ไหลลง ไหลลง เอ่อท่วมทั้งใจ เอ่อขังในอก รวดร้าว หายใจไม่ออกเหมือนคนจมน้ำ...
 “กลับมา...กลับมาที

ขอเธอได้โปรดช่วยกลับมาหา




โครม...
ร่างเล็กหล่นจากเก้าอี้เหล็ก นอนนาบกับพื้นปูนของโรงพยาบาล ลู่หานไม่กลับมา เขาเดินไปไกลแล้ว เดินจากไปแล้ว
ใบหน้าหวานซบพื้นปูนเย็นเฉียบท่ามกลางกลุ่มคนที่เริ่มมุงดู น้ำตาที่ไหลยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเสียที
 “กลับมา....ฮึ่ก...กลับมา

แม้ฉันต้องเลือกที่จะทิ้งทุกอย่าเพื่อรักเธอก็ตาม
แม้ต้องสูญเสียทุกอย่าง ความฝัน หรือโอกาสก็ตาม
ต้องการเพียงเธอ ต้องการความรักของเรานั้นคืนมา
ต้องการเพียงแค่เธอ  แค่เธอกลับมา
แม้จะต้องสูญเสียน้ำตามากสักเท่าไร เท่าใด
สิ่งที่ฉันต้องการและอยากจะได้คือ ความรักที่มันไม่มีวันคืนย้อนมา
ถ้าได้ยินเสียงเพลงเพลงนี้ ให้เธอจงกลับมา จงกลับมา



มินซอก!!เสียงตะโกนเรียกของฮานึลดังลั่น หญิงสาวตรงประคองคนที่นอนอยู่กับพื้น เอาผ้าคลุมขาเล็กอันผอมแห้ง...และมีเพียงท่อนบนเท่านั้น
เห็นน้ำตาที่ไหลรินอีกครั้งของคิมมินซอก ร้องไห้สะอื้นฮั่กอย่างเมื่อก่อน ร้องไห้ราวจะขาดใจ นั่นทำให้ใจเธอแทบขาดไปด้วย..ทำไมมินซอกถึงร้องไห้ขนาดนี้
พลันสายตาก็เหลือบเห็นเอกสารที่ถือมาด้วยที่หล่นกระจาย เอกสารของคู่ที่เพิ่งพากันมาฝากครรภ์...แล้วมือเล็กของเธอก็ยกขึ้นรั้งมินซอกเข้าสู่อ้อมกอด
 “ร้องออกมานะ ร้องออกมานะมินซอก...ฉันจะฟังเสียงร้องมินซอกเอง แม้ว่าผู้ชายคนนั้นเขาจะไม่ได้ฟังมันเลย...ร้องออกมา

เอกสารระบุชัดเจน
แม่...คิมอึนจอง..
พ่อ...ลู่หาน....
..
.
.

สุดท้ายก็เดินจากไป ฉันเป็นคนให้เธอไป
คิดว่าบ้าไหมที่ยอมให้เธอจากไป แล้วมาเสียใจ
แต่เธอรู้ไหมว่ามือข้างนี้ที่มันยังสั่นยังไหว
อยากรั้งเธอไว้แต่มันไม่ทันจะคว้าเธอ
แกล้งยิ้มส่งเธอนั้นจาก ยินดีที่เธอนั้นจาก
ฟังนะนี่จะเป็นเพลงสุดท้าย ที่ฉันจะร้องเพื่อเธอ


*-*-*

เมื่อเคยรักแค่เธอคนเดียว ใจดวงนี้ก็มีแค่เธอ
ไม่มีวันเปิดรับคนใดเข้ามา
เธอและฉันนั้นเคยรักกัน อย่าทำฉันร้องไห้ได้ไหม
รู้ไหมว่าใจคงขาดไม่ช้า

นายรู้บ้างไหม หัวใจฉันเหมือนจะขาดอยู่ไม่ช้า....ลู่หาน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น