หึง
หวง ห่วง หา
บทที่9.2…
รู้ว่าคนเป็นน้องไม่พอใจ...แต่ลู่หานทำอะไรไม่ได้หรอก...
เมื่อคืนมินซอกแลกที่
จากนอนกลางระหว่างจงอินกับลู่หานเปลี่ยนให้ไอ้จงอินมานอนข้างลู่หานแทน
เด็กมินซอกซุกตัวในอ้อมกอดคุณพ่อหมีทั้งคืน ถึงแม้ลู่หานจะเอื้อมมือไปลูบหัวคนตัวเล็กอย่างที่ชอบทำแต่พ่อหมีของเด็กน้อยก็ทำท่าทีกันท่าเสียทุกครั้ง
ลู่หานสบถฮึดฮัดแต่จงอินกลับปรายสายตามาแล้วส่งนิ้วกลางให้
“ลู่หาน
มีญาติมาเยี่ยม”เสียงผู้คุมคิมดังขึ้น
ลู่หานมองที่ผู้คุมคิมอย่างไม่เชื่อว่าหูได้ยินไม่เพี้ยน ชี้นิ้วเข้าหาตัวเองงงๆ
อี้ชิงมาเยี่ยมหรือ?
ฉับพลันรอยยิ้มก็ผุดขึ้นบางเบา
ชายหนุ่มทิ้งเรื่องมินซอกที่กวนใจไม่หายไว้ที่ช็อปงานช่าง
บอกเพื่อนร่วมงานว่าจะไปหาญาติ น้องชายมาเยี่ยมแล้ววิ่งปรู๊ดออกไปเลย
นี่เป็นครั้งแรกที่ลู่หานจะได้เจอญาติผ่านการเยี่ยมญาติแบบธรรมดา
เขาเข้าแถวรวมกับนักโทษคนอื่นๆเมื่อรายงานตัวเรียบร้อยแล้ว
การเยี่ยมญาติจะมีเป็นล็อตๆไป
เพราะวันๆหนึ่งคนมาเยี่ยมญาติกันเยอะแยะไม่ขาด จึงแบ่งเป็นรอบเช้า และบ่าย
อย่างละไม่กี่รอบเท่านั้น หากญาติมาเกินเวลาถือว่าอดเยี่ยม
ลู่หานก้าวเท้าไปยังประตูเหล็กที่เชื่อมกับห้องเยี่ยม
ผู้คุมยื่นโซ่ตรวนมาให้
ลู่หานรับมาพันธนาการข้อเท้าตัวเองอย่างรู้หน้าที่เพราะเห็นคนก่อนหน้าก็ทำเช่นกัน
ไอ้จงอินไม่ได้บอกว่าเยี่ยมญาติแล้วต้องใส่โซ่พันเท้าด้วย
มีสัญญาณไฟกับกริ่งติดอยู่ที่บนประตู
ตอนนี้ไฟเป็นสีแดงบอกว่ายังเข้าเยี่ยมญาติไม่ได้
เสียงผู้คุมกำชับว่าห้ามมีการพูดร้องขอหรือฝากให้สิ่งผิดกฎหมายเด็ดขาดทั้งที่การพบกันก็เพียงแค่กระจกกั้น
จะฝากให้อะไรกันได้ก็ตามที
ไฟด้านบนประตูเปลี่ยนเป็นสีเขียว
บานประตูเหล็กถูกเปิดออก ลู่หานแย้มยิ้มไม่หยุดที่จะได้เจอกับอี้ชิงแล้ว
เดินตามเพื่อนร่วมเรือนจำที่ทยอยเดินเข้าประตูไป ที่นั่งไม้ทอดยาวต่อกันไปหลายตัว
บานกระจกใสอย่างหนาก็เช่นกัน มีชั้นยื่นออกมาเล็กน้อยให้วางแขนได้เวลานั่งคุยและใช้วางโทรศัพท์เครื่องเก่าที่เชื่อมสายกับอีกเครื่องด้านนอก
นักโทษชายในรอบเยี่ยมนี้ต่างเดินหาญาติตัวเองให้วุ่น
พอเจอกับญาติของตัวเองแล้วก็โผเข้าหาโทรศัพท์ทันที
ลู่หานไล่สายตา...ก่อนจะสะดุดกับร่างของน้องชายที่นั่งอยู่ท่ามกลางญาติคนอื่นๆ
ผิวขาวสะดุดตา รูปร่างค่อนไปทางบางแต่เนื้อตัวอวบอิ่มสุขภาพดี
ชายหนุ่มเดินไปทรุดตัวนั่งตรงหน้าอี้ชิง มีเพียงรอยยิ้มเท่านั้นที่เกิดขึ้นในตอนนี้
มือเรียวยกหยิบหูโทรศัพท์ขึ้นมา
อี้ชิงก็ทำเช่นกัน ทั้งสองเงียบไม่พูดอะไรจนลู่หานตัดสินใจทำลายความเงียบนั้นลง
“เป็นยังไงมั่งอี้...พี่คิดถึง”
ค น คุ ก
จงอินให้มินซอกช่วยขัดไม้
งานไม่หนักมากพอที่คนตัวเล็กจะทำได้ มีไอ้แดฮยอนที่แว๊บจากการไสไม้มานั่งช่วยขัดด้วยอีกแรง
ปล่อยให้ไอ้ดงกอนกับไอ้อูฮยอนด่าขรมว่าแม่งอู้
“ก็น้องติ๋มขัดไม้สองคนกับจงอินเมื่อไหร่จะเสร็จล่ะ
มึงก็มีไอ้มินโฮอีกคน”มันเถียงกลับ แต่ไม่กลับไปช่วยไสไม้อยู่ดี
มินซอกยิ้มให้แดฮยอน
“พวกพี่ชอบทะเลาะกันเรื่องไม่เป็นเรื่อง”เสียงเล็กๆว่าทำเอาจงอินหัวเราะหึหึ
ไอ้แดฮยอนพองแก้มเหมือนแม่งจะน่ารัก บอกงอนมินซอกแล้ว เดี๋ยวไม่ช่วยเลย
คนตัวเล็กเลยง้อด้วยยิ้มหวานๆเข้าหน่อยไอ้พี่ชายจอมสปอยด์ก็อ่อนยวบยาบ
ก็จริงที่พวกนี้ชอบทะเลาะกันเรื่องไม่เป็นเรื่อง
ตั้งแต่พวกจงอินจะย้ายเข้ามาแล้ว แต่ก็ไม่ถึงขนาดนี้ อาจเพราะมินซอกด้วยส่วนหนึ่ง
พวกเขาทั้งเรือนนอนสิงห์ทั้งรักทั้งเอ็นดูมินซอกเหมือนน้องเล็กที่น่าปกป้อง
แต่ละคนไม่มีใครอยากให้น้องทำงานหนัก แถมยังทำตัวเป็นโลลิค่อนตามไอ้จงอินกันไปหมด
แค่น้องยิ้มนิดหัวเราะหน่อย ไอ้พี่ชายทั้งหลายก็หลงกันไปหมด
ใครใช้ให้มินซอกน่ารักกันนะ...
“กูว่ามึงไปช่วยไอ้พวกนั้นไสไม้ก่อนไหมแดฮยอน
เชี่ยดงกอนแยกเขี้ยวอีกละ
นอกจากอู้แล้วยังมานั่งกระแซะน้องติ๋มของพวกแม่งอยู่ได้”จงอินบอกเมื่อดงกอนเริ่มจะทนกับไอ้แดฮยอนไม่ไหว
ไสไม้กันเหนื่อยแทบตายมันกลับมานั่งคุยกับมินซอกหน้าตาเฉย
ไอ้แดฮยอนหันไปเห็นเพื่อนแยกเขี้ยวจะแดกหัวเอาจริงๆก็ยิ้มแหยๆบ่นอุบอิบว่าไปก็ได้วะ
แต่เดี๋ยวช่วยไสไม้เสร็จแล้วจะกลับมาช่วยขัดไม้แล้วกัน
จงอินส่ายหัวเมื่อเพื่อนลุกออกไปช่วยอีกพวกที่ไสไม้แล้ว
เหลือแค่เขากับมินซอกที่นั่งใช้กระดาษทราบขัดไม้ที่ไสแล้วไปเรื่อยๆ
“เมื่อคืนไอ้ลู่หานสะกิดยิกๆจะเอื้อมมือมาลูบหัวเราน่ะ
รู้หรือเปล่า?”เสียงทุ้มเอ่ยถาม มินซอกพยักหน้า บอกว่ารู้ แต่ไม่อยากให้ลูบ
“ทำไมล่ะ?
มินซอกรักมันไม่ใช่เหรอ?”
“แต่...ฮยองเขาเป็นเด็กนางพญาไปแล้ว”จงอินหัวเราะน้อยๆ
ความคิดเด็กหนอ
“มันก็แค่เป็นเด็กนางพญา
มันไม่ได้รักจุนมยอนเสียหน่อยนี่ ถึงต้องเอากัน แต่ก็ไม่ได้รักกัน อีกอย่างนะ
มันไม่รู้ว่ามินซอกรักมัน...มินซอกลองบอกมันดูสิ”จงอินบอก
เอาจริงแล้วถึงมินซอกไม่บอก จงอินก็จะบอกเอง
ยืนยันสิ่งที่เขากับลู่หานสงสัยว่ามินซอกรู้สึกยังไงกับมันด้วยคำพูดของมินซอกเอง
แต่ที่พูดไปก็เพื่อกระตุ้นเด็กติ๋มเหนียมอายขี้ขลาดให้กล้ามากขึ้นเท่านั้นเอง
“ถ้าบอกไปแล้วพี่เขาจะไม่เป็นเด็กนางพญาไหมฮะ?
ผม...ไม่อยากให้เขานอนกับใคร อ่า...”หยุดพูดเมื่อรู้สึกว่าหน้าร้อนๆ
มินซอกเกือบหลุดออกไปว่าเขาไม่อยากให้ลู่หานเป็นของใคร ถ้าพูดไปคงน่าอายน่าดู จงอินยกมือเปื้อนขุยไม้จากการขัดขึ้นขยี้หัวน้อง
“ก็ลองดูสิ”แม้ว่าจงอินจะรู้ว่าลู่หานไม่สามารถเลิกเป็นเด็กนางพญาได้ก็ตาม
...เงื่อนไขของลู่หานในการทำงานให้ผู้กองคริส...
คือหากคิมกอนโมยอมคายชื่อคนที่หนุนหลังการค้ายารายใหญ่ออกมา
ลู่หานจะเป็นอิสระทันที...
มีหรือที่มันจะไม่คว้าเอาไว้
ยอมเปลืองตัวกับจุนมยอนสักหน่อย หากวิธีนี้ได้ผลจริงๆ
มันจะได้ออกไปหาน้องชายมันเร็วขึ้นเท่านั้น
ความเป็นห่วงน้องชายแท้ๆที่ต้องเผชิญโลกอยู่คนเดียวมันคงมากกว่าความรักเล็กๆจากน้องชายที่เจอกันในคุกอยู่แล้ว...
อีกอย่างที่เขามั่นใจ
ถ้าหากมินซอกสารภาพออกไป ต่อให้ไอ้ลู่หานจะมีใจให้มินซอกอย่างที่เขาคิดไว้ก็ตามที
แต่อารมณ์ซึนเหี้ยๆ หวังในพริตตี้ฮอนด้ามากกว่าผู้ชายรูปร่างเล็กบางในคุกของมัน
มันต้องปฏิเสธน้องอยู่แล้ว
เด็กติ๋มของเขาช่างน่าสงสาร...
ค น คุ ก
เวลาในการเยี่ยมมีเพียงไม่กี่นาที
ลู่หานใจหายที่ต้องบอกลาน้องชาย เขาบอกให้อี้ชิงตั้งใจเรียน อย่าโหมงานมาก
น้องชายเลยบอกว่าไม่ต้องห่วง เพราะผู้กองคริสตามไปรับไปส่งที่ผับที่ทำงานทุกวัน
อันที่จริง ผู้กองตัวสูงนั่นจะส่งเสียค่าเรียนช่วยเหลือกันด้วย แต่อี้ชิงปฏิเสธ
ซึ่งลู่หานก็เห็นด้วย แม่งทำพี่ชายเขามาติดคุกยังมีหน้าไปยื่นมือช่วยเหลือ
ตบหัวแล้วลูบหลังชัดๆ แถมยังไม่น่าไว้ใจทำตัวเป็นเสี่ยใหญ่เลี้ยงต้อยเด็ก
อย่าให้เจอหน้าอีกครั้งจะซัดหน้าแม่งซ้ำรอยเดิมฐานที่มาก้อร่อก้อติกน้องชายของเขา
“พี่กินข้าวเยอะๆนะ
อี้จะรอพี่ออกมา...”ประโยคสุดท้ายที่ได้สนทนาก่อนสัญญาณโทรศัพท์จะเงียบหายพร้อมไฟที่เปลี่ยนเป็นสีแดง
ลู่หานกำมือแน่น...
...พี่จะรีบออกไป...
จะรีบออกไปหาอี้ชิง...
ค น คุ ก
วันเวลาในคุกเดินไปรวดเร็วจนไม่น่าเชื่อ
ลู่หานเดินตามแถวเพื่อไปยังโรงเกศ หมายถึงห้องตัดผม
ที่เรือนจำทุกที่มีห้องสำหรับตัดผม แบตตาเลี่ยนมีอยู่เหลือแหล่สำหรับใช้งาน
ทั้งในห้องและนอกห้อง เช่นเอาไว้ใช้รับน้องใหม่อย่างที่พวกลู่หานกับจงอินเคยโดย
ผมของลู่หานยาวมากจริงๆ
มินซอกก็เช่นกัน ขนาดไอ้จงอินว่ายาวช้าๆก็ยังขึ้นเป็นตอแข็ง
ตบหัวมันทีเจ็บมือตัวเองแทน
“ไปนั่งรอในแถวเลยพวกมึง”ผู้คุมอินซูบอก
เก้าอี้ตัดมีอยู่สามตัว แต่แบตตาเลี่ยนมีเป็นสิบ
ใครที่อยากจะไถเลยเป็นไอ้โล้นซ่าก็เอาแบตตาเลี่ยนไปเสียบกร้อนหัวกันเอาเอง
แต่ไอ้พวกอยากจะมีตอผมไว้ลงแชมพูก็ต่อคิวใช้เก้าอี้และช่างไปแทน
ช่างผมก็ไม่ใช่ใครอื่นไกล
เป็นนักโทษจากแดนห้า พวกที่จะพ้นโทษกันอยู่แล้ว
ไม่มีอะไรทำนอกจากนั่งนอนในคุกก็งัดเอาวิชาชีพที่ได้เรียนมามาช่วยเหลือสถานที่ราชการให้เป็นประโยชน์
“วันนี้มีคนจากข้างนอกมาช่วยตัดผม
พอใครตัดเสร็จแล้ว วันนี้มีตรวจสุขภาพด้วย ไอ้พวกเรือนนอนไอยราเมื่อวานขี้แตกมั่ง
เยี่ยมเป็นเลือดมั่ง ไม่รู้เป็นเหี้ยอะไรนัก ข้างบนเลยสั่งให้หมอมาตรวจ
พวกมึงต้องตรวจทุกคน กันเป็นโรคติดต่อ”ผู้คุมอินซูร่ายยาว
ไอ้พวกเรือนนอนไอยราคือเรือนนอนที่อยู่ระหว่างเรือนนอนสิงห์และเรือนนอนหงส์
เป็นพวกชนชั้นกลาง อยู่มาเกือบจะครึ่งหนึ่งของโทษทั้งหมด เมื่อวานได้ยินเหมือนกันว่าพวกมันท้องเสียกันยกเรือน
ส้วมไม่พอจะใช้จนผู้คุมต้องปลดล็อกลูกกรงปล่อยพวกมันมาใช้ห้องน้ำข้างล่างยามดึก
แถมบางคนก็ฉี่เป็นเลือดด้วย
“ไม่ใช่แม่งชักว่าวจนเลือดซึมนะไอ้สัด”ห่ามินโฮพูดด้วยคะนองปาก
แล้วเพื่อนทั้งหลายก็หัวเราะกันสนุกสนาน ลู่หานดันหัวมันแล้วชี้ไปที่เก้าอี้เมื่อเห็นว่าช่างตัดผมในชุดลำลองพร้อมผ้าปิดปากเดินมาที่เก้าอี้แล้ว
ร่างสูงใหญ่ลุกไปนั่งเก้าอี้ทันที
ลู่หานมองตามมินซอกที่เดินไปนั่งข้างๆเก้าอี้ไอ้มินโฮแล้วช่างก็จัดแจงใช้กรรไกรงับผมของคนตัวเล็กทันที
พูดถึงมินซอกแล้ว
ลู่หานไม่ได้ใกล้คนตัวเล็กเท่าไหร่เลยตั้งแต่อยู่ในตำแหน่งเด็กนางพญา
คนตัวเล็กคอยหลบ ให้ไอ้พ่อหมีมาขวางทุกคืน
คนที่เคยใกล้น้องจนชินรู้สึกแปลกไปนิดที่เคยถูกคนตัวเล็กเกาะติดเป็นเงากลับไม่มีอีกคนมาอยู่ใกล้ๆ
แล้วพอหาโอกาสเข้าใกล้โดยไอ้พี่ๆทั้งเรือนนอนไม่อาจห้ามได้ จุนมยอนก็จะเข้ามาเสมอ
นางพญานั่นมาหาเขาบ่อยๆเพื่อยั่วไอ้กอนโม
และก็เหมือนจะสำเร็จเพราะคิมกอนโมโมโหร้ายบ่อยครั้ง
กระชากลากถูนางพญาคนสวยจนเจอตีนผู้คุมไปก็หลายที
ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่ามันจะหลงจุนมยอนได้ขนาดนี้
แต่ก็อย่างที่รู้กันว่าจุนมยอนมีสเน่ห์ดึงดูด ขนาดเขาเองที่ยืนยันหนักแน่นว่าไม่ใช่เกย์ยังหวั่นไหวไปกับดวงตาของจุนมยอนเมื่อแรกเจอ
แม้ในตอนนี้จะรู้สึกเฉยๆกับดวงตาคู่นี้บ้างแล้วก็ตามที
แผนขั้นต่อไป
จากการที่จุนมยอนเข้าหาเขาบ่อย แผนขั้นกว่าคือการที่เขาต้องสมสู่กับจุนมยอน
แน่นอนว่ามันไม่เกิดขึ้นจริง เขานัดแนะกับร่างบางของนางพญาแล้วว่าสถานที่ในการจัดฉากว่ามีอะไรกันคือห้องน้ำ
ห้องที่เขาเคยแอบเห็นฉากรักของเจ้าตัวกับคิมกอนโม
จุนมยอนบอกว่าที่นั่นเป็นที่ที่ทั้งสองใช้ร่วมรักกันบ่อยที่สุด
ถ้าคิมกอนโมรู้ว่าที่นั่นกลายเป็นสมรภูมิกามารมณ์ของจุนมยอนกับลู่หาน คงจะทนไม่ไหว
แล้วตอนนั้นเอง ผู้คุมอินซูจะเข้าไปยื่นข้อเสนอที่แสนจะเร้าใจให้มัน
คนที่เสพติดร่างกายของจุนมยอนจะเลือกอะไรระหว่างร่างกายเย้ายวนชวนให้กดร่างตัวเองเข้าหาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
กับชื่อของคนๆหนึ่ง
แถมด้วยสิทธิพิเศษที่ผู้กองคริสเตรียมไว้คือการคุ้มกันนักทาที่อวตารเป็นพยานไม่ให้ถูกพวกหนอนเน่ารองมือรองตีนไอ้แบ็คอัพนั่นมันฆ่าตัดตอน
ข้อเสนอช่างเร้าใจและคุ้มค่า...
เหมือนข้อเสนอของลู่หานไม่มีผิด
รอยยิ้มของเขาปรากฏเมื่อรู้ว่าหนทางที่จะออกจากเรือนจำแห่งนี้มันใกล้เข้ามาทุกที
แล้วรอยยิ้มของเขาก็พลันจางเบาบางลงเมื่อเห็นน้องชายคนสนิทที่ยิ้มให้ช่างตัดผม
มือเล็กๆนั้นลูบหัวที่เพิ่งถูกแบตตาเลี่ยนไถเบาๆไปทั้งหัว
ทรงรองหวีเบอร์หนึ่งขั้นดีกับใบหน้าเด็กน้อยที่อวบอูม
มันต่างจากครั้งแรกที่ได้เห็นมินซอกในทรงผมนี้
ตอนนั้นมินซอกยังเป็นเด็กติดยาหน้าซูบซีด ถึงกระนั้นก็ยังน่ารักในทรงรองหวีแบบนี้
แต่ครั้งนี้มินซอกอวบอิ่มไปหมดแถวยังน่ารักขึ้นจากการเลิกใช้ยามาเป็นเวลานาน
ทรงรองหวีที่ตัดเลยที่ขับให้มินซอกดูเด็กยิ่งกว่าเดิม
รอยยิ้มของเด็กน้อยที่ประดับบนใบหน้าพาเอาพี่ๆยิ้มตาม
เสียงโห่แซวหาว่ามินซอกเป็นน้องสาวไปตัดผมสั้นทำไมยิ่งทำให้มินซอกเขินหน้าแดง
...ลู่หานเพิ่งตระหนักได้...
เขาลืมมินซอกไป...
เขา...ที่สัญญาว่าจะพามินซอกไปเริ่มชีวิตใหม่ด้วยกัน...กำลังจะทิ้งเด็กคนนี้ไปเสวยสุขเพียงคนเดียว...
แน่นอนว่าถ้างานสำเร็จ
สายทุกคนรวมถึงจงอินจะเดินออกจากเรือนจำแห่งนี้ไปโดยไม่มีร่ำลาใครทั้งสิ้น...
...เป็นห่วงมินซอก...
กลัวมินซอกไม่เหลือใคร
นักทาที่เข้ามาใหม่จะรังแกมินซอกไหม? หรือพวกเรือนจำอื่นจะแกล้งมินซอกหรือเปล่า
พวกแดฮยอนกับมินโฮไม่สามารถจะดูแลเด็กน้อยของพวกเขาได้ตลอดไป เท่าที่ดูๆ
พวกนั้นต้องออกจากคุกก่อนมินซอกอยู่แล้ว...
ลู่หานเพิ่งตระหนักได้...
ว่าเขาต้องพามินซอกออกไปด้วยกัน...
ค น คุ ก
การตรวจสุขภาพนั้น
รถของโรงพยาบาลจะมาจอดอยู่ใกล้ๆกับเรือนนอนสิงห์ซึ่งเป็นเรือนนอนนอกสุด
โต๊ะลงชื่อนักโทษอยู่ใต้ต้นคูนของมินซอกที่กำลังแผ่กิ่งก้านเขียวชอุ่ม
เพียงแค่เวลาเดือนกว่ามันก็ปรับตัวได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ
แล้วเวลาอีกหนึ่งปีกับอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
วันที่มินซอกเดินออกจากเรือนจำนี้ไป...หวังว่ามันจะออกดอกงามสะพรั่ง...
“ผมชื่อเซฮุนฮะ
เป็นน้องพี่จงอิน วันนี้มาเป็นอาสาของโรงพยาบาล ให้มาลงชื่อที่ผมก่อนนครับ
วัดความสูงกับชังน้ำหนัก แล้วไปพบหมอปาร์คด้านในรถ”เสียงหวานแหบดังขึ้น ลู่หานเองก็แปลกจี่เห้นน้องนีออนปรากฏกายที่นี่
เช่นเดียวกับไอ้จงอินที่อ้าปากค้าง มันเดินลิ่วๆไปฉุดข้อมือน้องชาย (ในนาม)
ให้ไปไหนด้วยกันไม่รู้
เพื่อนร่วมเรือนจำเลยตะโกนแซวบ้างด่าบ้างว่ามันหวงน้องหรือไง
“แต่น้องแม่งขาวจริง
เจอตอนเยี่ยมใกล้ชิดไปครั้งตอนนั้นว่าน่ารัก
ได้มองอีกครั้งโคตรน่ารัก”ใครสักคนจากเรือนนอนสิงห์เป็นคนพูด
ลู่หานไม่ได้สนใจพี่น้องท้องชนกันสองคนนั้นแล้ว
คิดได้ว่าอาจเป็นแผนห่าอะไรอีกที่เขากับไอ้จงอินยังไม่รู้
ร่างโปร่งเลยเดินไปลงชื่อที่โต๊ะแทน
เห็นมินซอกที่เดินมาพร้อมไอ้จงอินยืนอยู่นิ่งๆเพราะพ่อหมีลากน้องชายตัวเองไปไหนลิ่วๆ
ลู่หานเลยสะกิดน้องชายคนสนิทให้ไปลงชื่อด้วยกันแทน
“ชั่งน้ำหนักก่อนนะคะ”คุณพยาบาลสาว
แต่ไม่ได้สวยอะไรนักบอกกับมินซอก เด็กนั่นเลยเดินขึ้นเหยียบที่ตาชั่ง
เข็มตีปัดไปแถวๆเลย60
“ยืนตรงไม้วัดความสูงเลยค่ะ”พยาบาลสาวบอกอีกครั้ง
คนตัวเล็กก็ทำตามไม่ปริปาก
“น้ำหนัก61
ส่วนสูง173นะคะ ถือว่าพอมีเนื้อหนังเนาะ”เธอสรุปพร้อมยิ้มนิดๆ
แต่คนที่ถูกบอกว่ามีเนื้อหนังกลับยู่หน้า รับกระดาษจากคุณพยาบาลมาถือเอาไว้
ลู่หานเองก็รับกระดาษจากพยาบาลอีกคนที่เขากรอกข้อมูลมาเช่นกัน
ส่วนสูง179กับน้ำหนักเพียง58 เมื่อเทียบกับมินซอก เขาเลยดูผอมบางไปทันที
“มินซอกอ้วนเหรอ”ถามเย้าออกไปอย่างที่เคยหยอกเล่นเมื่อครั้งก่อน
แต่คนเป็นน้องกลับไม่มีทีท่าเล่นด้วย ใบหน้าน่ารักที่ยู่ยี่มองมาที่พี่ชายคนสนิท
ริมฝีปากของมินซอกคว่ำลงก่อนจะเอ่ยประโยคที่ลู่หานไม่เข้าใจวง่าทำไมเขาถึงจับกระแสเสียงได้ว่าน้องชายกำลังน้อยใจ
“ก็ผมไม่ได้ผอมบางแบบนางพญานี่ฮะ...”
TBC.
#พี่ลู่คนคุก
พี่ปาร์คกะน้องฮุนออกมาจริงๆ...มาแค่ชื่อ...
อีเชร้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
อย่าตบข้านะโฮ่ยยยยยยยยยยยยยยยยย 55555555555555555555555555555555555555555555
อีพี่จงอินลากน้องไปทำไม
???????????
ตอนต่อไปมาเมื่อพี่ลู่จ่ายเงิน
ช่วงนี้กรอบ ถ่ออออออออออออออออออ (ไม่เกี่ยวป่ะวะ)
แมลงจี่...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น