บางคนพยายามก็ไม่ได้มา
แต่บางคนไม่คิดจะไขว่คว้าแม้มันจะอยู่ตรงหน้าก็ตาม
บทที่10.1…
บอกคิมจงอินทีว่านี่ไม่ได้ตาฝาด
...โอเซฮุนมาทำอะไรอยู่ตรงนี้!
“ปล่อย เจ็บ!! ตัวเป็นหมีมาลากแขนคิดว่าไม่เจ็บใช่ไหม?”ตะโกนบอกคนที่ยังคงลากตัวเองเดินไปเรื่อยๆ
จนมาถึงแปลงเกษตรที่ปลูกดอกไม้เสียบานสะพรั่ง ดอกเสี้ยนฝรั่งกำลังผลิ
อีกทั้งบานชื่นหนูก็เบ่งบานเลื้อยเต็มแปลง
“ตอบมาอย่าอ้อมค้อมเลยว่ามาทำไม
แล้วมากับไอ้หมอปาร์คด้วยเนี่ยนะ”สะบัดแขนคนตัวเล็กกว่าจนเซฮุนถลาเกือบจะหน้าทิ่มแปลงแพงพวยหลากสี
ไอ้จงอินบ้า! ไอ้หมีควาย แรงไม่ใช่น้อยๆเลยนะ!! เซฮุนคลำแขนตัวเองป้อยๆ ยู่ปากใส่พี่ชายในนาม
อยากจะเล่นตัวเชิดหน้าใส่อีกคนไม่ตอบคำถาม
แต่เห็นคนที่ตัวโตเป็นหมีแถมหัวโล้นเหมือนพระถังซัมจั๋งกำลังจะแยกเขี้ยวงับหัวเลยต้องอุบอิบพูดออกมา
“พี่คริสให้มา
ก็พี่อินซูหมู่นี้ออกไปข้างนอกไม่ค่อยได้นี่
ก็เลยต้องมาดูว่าอะไรคืบหน้ายังไงบ้าง”ปากบางเฉียบเอื้อนเอ่ยแต่มือก็ยังไม่หยุดลูบแขนที่ขึ้นสีแดงเป็นแถบ
ไอ้คนลงแรงบีบก็ไม่ได้เดือดร้อนกับร้อนนิ้วทั้งห้าบนท่อนแขนของเซฮุนเลยสักนิด
มีเพียงเสียงขอโทษเบาๆเท่านั้นที่ได้ยิน
สงสัยจะอยู่ในคุกมากไปจนกลายเป็นพวกป่าเถื่อนไปแล้วมั้ง
“แล้วให้ไอ้หมอมันมาคนเดียวไม่ได้หรือไง
ตัวจะเข้ามาทำไม?”ถึงจะอ่อนลงเพราะเห็นว่าที่อีกคนพูดมาเป็นความจริง
จางอินซูไม่ได้ออกนอกเรือนจำเพราะปัญหาแดนห้าตีกันทำให้ต้องเกนผู้คุมไปช่วยดูแลตอนกลางคืน
แต่ความจริงแล้วส่งไอ้ชานยอลเข้ามาคนเดียวก็ได้
ไม่จำเป็นที่คนรับบทน้องชายของเขาอย่างเซฮุนต้องเข้ามาด้วยสักนิด
เซฮุนหน้าคว่ำ
มองไอ้คนเป็นหมีที่ตีหน้ายักษ์ดุแล้วหมั่นไส้ อุตส่าห์ขอตามพี่หมอปาร์คเข้ามาในนี้
ความจริงพี่คริสก็สั่งให้พี่หมอเข้ามาคนเดียวนั่นล่ะ แต่เซฮุนขอตามมาเอง
ไอ้หมีบ้า! คนอุตส่าห์เข้ามาหาเพราะอยากเจอหน้ากัน
พูดคุยกันใกล้ๆ ไม่ต้องคุยผ่านโทรศัพท์เครื่องเส็งเคร็งตอนเยี่ยมญาติ
ไอ้หมีเฮงซวยก็ไม่เข้าใจสักนิด!!
“ไม่ต้องมาคว่ำปากเลย
ถ้าฉันไม่อยู่ด้วยป่านนี่ตัวโดนแทะโลมไปไหนต่อไหนแล้ว
ไอ้หมอห่านั่นก็อยู่แต่บนรถพยาบาล ถ้าตัวโดนพวกนั้นลวนลามจะทำยังไง”บอกทีว่าคิมจงอินยังมองเซฮุนเป็นผู้ชายอยู่
หน้าขาวจัดขึ้นสีแดงบางๆพาด
อดจะอายไม่ได้กับคำพูดที่เหมือนเขาเป็นเด็กสาวหน้าตาสะสวยในดงเสือสิงกระทิงแรด
ก็ถูกที่เซฮุนเป็นผู้ชายที่รักผู้ชายด้วยกัน
แต่ก็ใช่ว่าทุกคนมันจะอยากมาจับเขากดหรือเปล่า?
อีกอย่างเรือนจำก็มีผู้คุมที่ยืนถือพลองไฟฟ้าจังก้าอยู่แบบนั้น
อย่างมากที่สุดก็แค่โดนแซวโห่ ใครมันจะมาลวนลามเขากัน
“ไม่มีใครคิดอกุศลเท่าตัวหรอก!!”เถียงกลับแถมด้วยผลักอกคนผิวเข้มไป
เซฮุนยู่ปากใส่แล้วเดินกลับไปทางเดิม ไปช่วยพี่พยาบาลอีกครั้ง ตามด้วยจงอินที่เดินตามร่างบางมาติดๆ
พ่อหมีหน้าบูดไม่ยอมวัดส่วนสูงและช่างน้ำหนัก
แต่ยืนเป็นยักษ์ปักหลั่นกอดอกมองน้องชายในนามทำงานไม่ห่าง
“นี่น้องหรือเมียวะ
มึงนี่ก็เฝ้าจัง พวกกูจะแซวเล่นก็ไม่กล้าเลย”ไอ้ยองแจเรือนนอนหงส์แซวเอาขำๆ
แต่จงอินไม่ขำด้วย ยักษ์หน้าบูดส่งนิ้วกลางให้เพื่อนร่วมแดน
คนได้อาวุธลับก็ไม่ได้ใส่ใจ หัวเราะเอิ๊กอ๊ากเสียด้วยซ้ำที่แหย่หมีสำเร็จ
“น้องกู
กูหวง”พูดกระแทกหน้าคนที่เรียงคิวรอวัดส่วนสูงอยู่
ทำเอาคนที่ถือไม้วัดส่วนสูงแอบอมยิ้มด้วยความดีใจ
...โอเซฮุนแอบรักคิมจงอินอยู่...
หมีโง่...เซฮุนนิยามคิมจงอินแบบนี้
ครั้งแรกที่เซฮุนได้เจอจงอินคือตอนที่พี่คริสพาเขาไปที่ทำงาน
ไม่ใช่โรงพัก แต่เป็นบ้านหลังหนึ่ง แบ่งส่วนเป็นออฟฟิสและเป็นที่พักด้วย
ซึ่งคิมจงอินพักที่นั่น
จงอินเป็นสายให้กับพี่คริสมานานพอสมควร
คดียาเสพติดหลายๆคดีก็ได้สายมือดีคนนี้ช่วยล่อซื้อบ้าง หาข้อมูลบ้าง
เซฮุนอดทึ่งและชื่นชมคนตัวโตไม่ได้ ยิ่งรู้จักกันนานขึ้น
ยิ่งเห็นการทำงานของพี่ชายตัวโต เซฮุนยิ่งชื่นชม
และหลงรักผู้ชายที่เขาชื่นชมจนหมดใจ
แต่ความรักของเซฮุนดูเหมือนจะยากที่จะสมหวังเพราะพี่ชายต่างแม่อย่างอู๋อี้ฟานเป็นคนหวงน้องสุดๆ
ถึงจะเป็นคนสนิทที่ทำงานด้วยกันมานมนานก็โดนพี่ท่านเขม่นจนแทบจะกัด ก็มีแต่พี่หมอ
หรือหมอปาร์คชานยอล คุณหมอที่เป็นเพื่อนสนิทของพี่ชายอยู่คนเดียวที่พี่ชายพอจะไว้ใจ
หรือเรียกง่ายๆก็คือยกน้องชายให้พี่หมอปาร์คเท่านั้น
โดยไม่รู้เลยสักนิดว่าพี่หมอคนเก่งมีแฟนแล้ว เวลางอนกันยังเอาเซฮุนไปอ้างให้แฟนหึงเลยคิดดู
เซฮุนอดเบะปากไม่ได้เมื่อคิดถึงตรงนี้
ทั้งที่จงอินก็มีใจให้แถมตัวเองก็รักอีกคนเต็มเปา แต่ไม่อาจจะพูดอะไรออกไปได้
ดีใจแทบตายตอนรู้จากพี่อินซูว่าพี่จงอินอาละวาดเกือบจะพ่นไฟตอนที่รู้ว่าพี่ชานยอลไปรับเขาที่มหาวิทยาลัย
(เพื่อประชดแฟน) เซฮุนก็ได้แต่อาศัยช่วงเวลานี้ที่เขาลงทุนนอนกอดพี่ชายทุกวันเพื่อแลกกับการสวมบทบาทน้องชายของคิมจงอิน
เวลานี้ที่เขาจะได้เจอคนที่แอบรักบ่อยๆตอนมาเยี่ยม
ถึงจะหงุดหงิดใจที่ต้องมาเล่นบทเด็กชายวัยสิบหกทั้งที่ตัวเองอายุปาไปยี่สิบแล้วก็ตามที
แต่เด็กนิเทศสาขาการแสดงแบบเขาก็ตีบทผ่านฉลุยอยู่แล้ว
แม้แต่น้ำตาไหลตอนพี่ชายเข้าคุกก็ยังเล่นได้ดีจนสายคนอื่นเกือบตบรางวัล...
“เอ้า
มองคนวัดอยู่นั่นแหล่ะ มองไปแล้วมึงจะสูงขึ้นเหรอไอ้เชี่ย”
นี่ก็หยุดทำให้รู้สึกดีสักทีได้ไหมล่ะคิมจงอิน!!
ค น คุ ก
ลู่หานตามน้องไปไม่ได้
มินซอกไม่ได้เข้าไปตรวจในรถพยาบาล
แต่ร่างเล็กเดินหนีไปเลย
ซึ่งลู่หานก็ตามไปไม่ได้เพราะทันทีที่จะก้าวขาตามจุนมยอนก็โผล่มาประชิดตัวลากเขาลัดคิวเข้าไปตรวจบนรถแล้ว
ซึ่งบนรถพยาบาลนั้นลู่หานได้เจอกับคนคุ้นชื่อ หมอปาร์คชานยอลที่ไอ้จงอินเคยพูดถึง
คุณหมอร่างสูงเชิญนักโทษที่ตรวจอยู่ก่อนหน้าให้ลงจากรถเมื่อตรวจเสร็จแล้วพร้อมยิ้มต้อนรับเขากับจุนมยอนจนเห็นฟันครบทุกซี่
“นั่งก่อนนะ
ขอจัดการแฟ้มนี้แป๊บ”ว่าพร้อมขีดตวัดปากกาลงในกระดาษซึ่งติดอยู่กับแฟ้มคนไข้ก่อนจะโยนแฟ้มไปกองรวมกับแฟ้มอันก่อนหน้า
หมอชานยอลนี่ดูดูในระดับหนึ่งทีเดียว รูปร่างสูงโปร่ง
ใบหน้าคมคายแต่ดวงตากลมโตขี้เล่นทั้งเป็นประกาย
ลู่หานพอจะเข้าใจไอ้จงอินเพื่อนยากแล้ว
คุณหมอคงเป็นศัตรูหัวใจสำหรับมันแถมยังเป็นศัตรูที่ภาษีดีกว่าเป็นไหนๆด้วย
นี่ก็มาด้วยกันอีก
“ไอ้คริสให้ฉันมาถามความคืบหน้า
ได้ข่าวว่าอินซูไปดูแดนห้าทุกคืนไม่มีเวลาออกไปส่งข่าวอะไรเลย”หมอปาร์คพูดพร้อมยิ้ม
“ตอนนี้คิมกอนโมกำลังจะติดเบ็ดแล้ว
พวกเราว่าจะกดดันมันเข้าไปอีก ผมจะนอนกับมันอีกครั้ง แล้วจะมีอะไรกับลู่หานให้มันเห็น
ผมว่ามันคงอาละวาดแน่ๆ
จากนั้นผู้กองอินซูจะเข้าชาร์ตยื่นข้อเสนอตามที่ผู้กองคริสเคยพูดไว้”จุนมยอนอธิบายทุกอย่าง
หมอปาร์คพยักหน้าเข้าใจ
ดวงตากลมมองนักโทษคนอื่นที่ต่อแถวรอขึ้นบนรถแล้วตัดสินใจเชิญลู่หานกับจุนมยอนลงจากรถเหมือนเพิ่งตรวจเสร็จ
ลู่หานลงจากรถมาก็แยกกับจุนมยอนทันที
นางพญาคนสวยเดินฝ่านักโทษคนอื่นๆไปหาคิมกอนโม ลู่หานเห้นว่าจุนมยอนกำลังมองกอนโมด้วยสายตาที่แพรวพราว
แต่ไอ้กอนโมก็ทำใจแข็งปฏิเสธ
ได้ยินมันตะโกนว่าให้ไปหาเด็กนางพญาของเธอเสียสิ...อะไรสักอย่าง
สุดท้ายก็เป็นจุนมยอนที่ถอยออกมา
ร่างสวยไปรวมกับกลุ่มสายที่อยู่ในเรือนนอนหงส์
ลู่หานมองหามินซอกก็ไม่เห็น
จะถามเพื่อนคนอื่นก็เห็นว่าพวกมินโฮ แดฮยอนยังรอคิวตรวจอยู่ คงไม่ได้เห็นน้องแน่ๆ
ไอ้จงอินที่ลากน้องชายไปไหนมาแล้วก็เดินตามก้นน้องต้อยๆกำลังยืนหน้านิ่วคิ้วขมวดใส่พวกที่แซวเซฮุน
การที่ลู่หานเอาแต่ชะเง้อชะแง้มองหามินซอกคงไปกระตุกต่อมรำคาญของพวกเรือนนอนไอยราที่นั่งรอตรวจกันอยู่
พวกมันเลยบุ้ยใบ้ว่าน้องชายที่ตัวติดกับลู่หานแทบจะตลอดเวลานั้นเดินขึ้นเรือนนอนไป
ลู่หานขอบใจพวกมันก่อนจะเดินขึ้นเรือนนอนตัวเองตามคำบอกของเพื่อนร่วมแดน
ผู้คุมทั้งหลายไปดูแลความเรียบร้อยด้านล่างกันหมด
ลู่หานสาวเท้าเข้าด้านในสุดของเรือนนอนซึ่งเป้นที่ซุกหัวนอนของพวกเขา
แล้วก็ถอนหายใจออกมาเมื่อเห็นร่างเล็กๆของคิมมินซอกนอนตะแคงหันหน้าเข้าหาห้องน้ำอยู่แบบนั้น
เสียงลงเท้าแผวเบากลัวว่าน้องจะรู้ตัว ลู่หานทิ้งตัวนั่งใกล้ๆกับน้อง
ยกมือลูบหัวเล็กน้อยๆ
“ทำไมหนีพี่แบบนี้ล่ะ
หืม? งอนอะไรพี่นัก ไม่พอใจพี่มากเหรอ?”ถามเสียงอ่อน
มินซอกซุกหน้าเข้าหาพื้นไม่ยอมตอบทำเอาลู่หานอ่อนใจจะพูดเสียเหลือเกิน
น้องไม่พอใจที่เขาเป็นเด็กนางพญา
แต่จะไม่พอใจกันนานเกินไปไหม ถึงขนาดต้องหนีหน้ากันแบบนี้เลยเหรอ?
คนโตกว่าเหนื่อยใจจะไล่ตามเสียแล้ว
“มินซอกลุกมาคุยกันดีๆ
เลิกหนีพี่เป็นเด็กๆได้แล้ว พี่ไม่คิดว่าแค่พี่เป็นเด็กนางพญาจะทำให้เราไม่พอใจได้ขนาดนี้เลยนะ”ฉุดแขนเล็กให้ลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากันแต่มินซอกก็ขืนตัวเองเอาไว้
ริมฝีปากจุ๋มจิ๋มถูกกัดแน่น
ใบหน้าของมินซอกเบือนไม่หันไปหาคนที่เด็กน้อยมอบหัวใจให้สักนิด
อาจจะเพราะไม่อยากให้ลู่หานเห็น...ว่ากำลังร้องไห้
ความน้อยใจปะทุอยู่ในอก
อันที่จริงมินซอกรู้ดีว่าพี่ชายไม่ได้จะเปรียบเทียบเขากับนางพญาคนสวยนั่นเลย
ลู่หานแค่พูดเล่นด้วย...เหมือนเมื่อก่อน แต่เป็นมินซอกเอง...ที่เปลี่ยนไป
ความรู้สึกของร่างเล็กไม่ได้เหมือนเดิม
เขาไม่สามารถจะคุยเล่นกับคนที่ตัวเองรักได้ ทั้งที่รู้เต็มอกว่าคนที่ได้ครอบครองเขาคนนั้นไม่ใช่ตัวเอง...
สุดท้ายก็น้อยใจจนต้องพูดอะไรแบบนั้นออกไป แล้วก็มาคิดเสียใจเอง
ใจเสียที่พี่ชายไม่เดินตามมาแต่กลับเลือกจะตามจุนมยอนเข้ารถพยาบาลไปแทน
มินซอกได้แต่คิดในใจว่ามันก็ถูกแล้ว พี่เขาเป็นเด็กนางพญา เขาก็เลือกนางพญาของเขา
มินซอกแค่น้อง...น้องชาย
“เราคุยกันแบบผู้ใหญ่ไหม?
ความจริงพี่ไม่จำเป็นต้องสนเราด้วยว่าเราจะไม่พอใจอะไร
เพราะมินซอกไม่มีสิทธิ์จะมาไม่พอใจด้วยซ้ำ...”น้ำตายิ่งไหลลงเมื่อคนแก่กว่าหมดอารมร์จะไล่ตามคนเป็นเด็กน้อย
คำพูดแทงใจดำจนมินซอกเจ็บไปหมด จริงที่สุดที่เขาไม่มีสิทธิ์
เป็นแค่น้องชาย...มีสิทธิ์อะไรไปบอกให้เขาเป็นนู่นเป้นนี่
บอกให้เขาไม่เป็นเด็กนางพญา ไม่พอใจที่เขากับจุนมยอนมีอะไรกัน
มินซอกไม่มีสิทธิ์ทั้งนั้น...
ถ้าจะมี
ก็คงเป็นสิทธิ์ของหัวใจดวงนี้ที่เต้นอยู่ในอก...สิทธิ์ของคนที่รักลู่หาน...
เท่านี้ที่มีสิทธิ์
...มีสิทธิ์แต่ก็ไม่มีเสียง...เป็นแค่น้องชาย เป็นแค่คนที่รักข้างเดียว...
ร่างของมินซอกไหวสั่น
เด็กน้อยกัดริมฝีปากที่สั่นระริดเอาไว้
พลิกตัวกลับมาเผชิญกับคนที่นั่งอยู่ข้างๆกัน
น้ำตาที่นองใบหน้าทำเอาคนเป็นพี่ชะงักไปนิด ถึงจะไม่รู้ว่าทำไมน้องต้องร้องไห้แต่คนเป็นพี่ชายที่ดูแลกันมาก็ใจหายวาบ
ยิ่งไม่ชอบเห็นน้ำตาของอีกคนยิ่งอยากจะยกมือขึ้นเช็ดที่แก้มกลม
ทว่ามินซอกกลับจับข้อมือของลู่หานเอาไว้
ดวงตาเคลือบน้ำตาจ้องมองเข้าไปในดวงตาของพี่ชาย
ดวงตาของลู่หานกลมโตทั้งเป็นประกายงดงาม
“ฮยอง...”เรียกอีกคนเสียงแหบสั่น
มือที่มินซอกจับเอาไว้ มินซอกดึงมันเข้ามาทาบที่หน้าอกของตัวเอง
แล้วเลื่อนมันมาทาบที่แก้วซึ่งเปรอะเปื้อนด้วยคราบน้ำตา
ในใจก็ถามคำถามที่เคยใช้ถามจงอิน...ถ้ามินซอกบอกไป มันจะเป็นยังไง...
เลิก...เป็นเด็กนางพญาได้ไหม?...
มารักมินซอก...ได้ไหม?
“ผมทนไม่ได้...ฮยองอย่าเป็นเด็กนางพญา...อย่ามีอะไรกับเขานะ”ขอร้องอ้อนวอนด้วยสายตาและคำพูด
ลู่หานนิ่งเงียบ ตกใจและแปลกใจกับท่าทีของมินซอก
แล้วคำพูดต่อไปของน้องชายคนสนิทก็คงเป็นคำพูดที่ทำให้เขารู้สึกช็อคจนหูอื้อไปหมด
“ผมรักพี่...ผมทนไม่ได้ที่พี่เป็นของใคร...อึ่ก...ลู่หานฮยอง”
ค น คุ ก
“พี่ไม่ตลก...”คงเป็นคำพูดเดียวที่ลู่หานพูดได้ตอนนี้...
แววตาฉ่ำน้ำยังมองมาที่เขา
ลู่หานปลดมือออกจากใบหน้าของมินซอก
เขาไม่ตั้งใจจะขยับตัวออกห่างน้องแต่มันเป็นไปอัตโนมัติ เขาไม่ได้ชอบผู้ชาย...นั่นคือเสียงที่ร้องอยู่ในหัว...กับจุนมยอนมันคืองานและหน้าที่
แต่ถึงเขาจะชอบผู้ชาย
แต่มินซอกที่เขารักเหมือนน้องชาย...เขาก็ไม่สามารถคิดไปไกลกว่านั้นได้
เหมือนการกระทำของตัวเองจะทำให้คนอายุน้อยกว่าเจ็บปวด
มินซอกมองมือของลู่หานที่ละออกไป องพี่ชายแสนดีที่ขยับตัวออกห่างเหมือนรังเกียจกัน
นั่นคือคำตอบหรือเปล่า...
ร่างเล็กสั่นไหว
มือเล็กกุมหัวใจดวงน้อยพร้อมร้องไห้
“พี่ขอโทษ...แต่พี่เอ็นดูเราเป็นน้อง
ไม่ได้มากกว่านั้น”เขาพยายามจะหาคำที่ดูดี
แต่มุมมองของคนฟังมันก็คือคำปฏิเสธที่ไร้เยื่อใย ตอกย้ำว่ามินซอกก็แค่น้องชายคนหนึ่งเพียงเท่านั้น...
เข้าใจแล้วใช่ไหม?...
คำถามที่ถาม
ลู่หาน...จะเลือกมินซอกไหม...คำตอบคือไม่...ชัดเจนแล้ว...
ได้แต่พยายามกลั้นสะอื้น...กลั้นมันเอาไว้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรสักนิด
“ขอโทษที่ผมคิดมากกว่าที่พี่คิด...”เสียงแหบแห้งเพราะหัวใจที่แห้งผาก
มินซอกพลิกกายหันหลังให้คนที่เพิ่งทำร้ายตนเอง
น้องนอนลงกับพื้นอีกครั้งคู้เข่าเข้าหากัน คนเป็นพี่เห็นแบบนั้นในใจก็ไหววูบ
น้องชายที่เขาทำให้อีกคนยิ้มได้อีกครั้งกำลังจมน้ำตาเพราะตัวเขาเอง...
“พี่คงชอบจุนมยอนนั่น...เขาสวยนะฮะ”อยากปฏิเสธว่าไม่ใช่
เขาไม่ได้ชอบใครทั้งนั้น ไม่ว่าจะจุนมยอนหรือมินซอก
เขาไม่ได้ชอบผู้ชาย...แต่หน้าที่ที่ค้ำคอทำให้ต้องเงียบปาก
แล้วที่ไม่เข้าใจมาตลอดว่าทำไมน้องถึงต้องไม่ให้เขาเป็นเด็กนางพญาทั้งยังไม่พอใจที่เขาเป็น...ก็กระจ่างจากคำที่ออกมาจากปากมินซอกเอง...
ลู่หานลู่หัวน้องอีกครั้ง...
ขอโทษนะมินซอก...
“อืม...พี่ชอบเขา...”
เสียงสวบสาบบอกว่าลู่หานกำลังลุกออกไป
ชายหนุ่มลงส้นเท้าแผ่วเบาเหมือนตอนเดินเข้ามาแต่มินซอกก็ได้ยินชัดแจ้ง
เสียงฝีเท้าของอีกคนห่างออกไปเรื่อยๆจนเบาลงและเงียบหาย
แต่ไม่ใช่กับเสียงหัวใจของมินซอกที่เริ่มร้องร่ำดังขึ้นเรื่อยๆ...
TBC.
#พี่ลู่คนคุก
ยอมรับว่าออกอ่าว
กว่าจะดึงตัวเองกลับมาได้ ไม่ได้แต่งนาน ยืดเยื้อมากเรื่องพี่ลู่
มันโง่ดักดานควายธนูมาก
พาร์ทไคฮุนใสใส
(เหรอ) อันนี้ก็กลัวจะออกมาแปลก เพราะเขียนส่วนไคฮุนน้อยมาก แทบไม่มี เกือบลืมคาแรกเตอร์น้องฮุน
แล้วก็มาสำนึกได้ว่าไม่ได้ดึงคาแรกเตอร์น้องออกมาเลย (แล้วมึงจะลืมทำไม)
สุดท้ายนี้
ฟิคนี้ไม่ได้ดีเด่ แต่ก็อยากจะขอกำลังใจ ช่วงนี้เราเครียดเรื่องงาน กำลังจะตกงาน
(ชีวิตเนาะ) และก็อาจจะไม่มีเนตไว้อัพฟิค...
เม้นกันบ้างเต๊อะ
ไม่ก็ติดแท็กทวิตก็ได้นะ นี่เราะเหมือนคนบ้าเล่นแท็กอยู่คนเดียวอ่ะ
ถ่อออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ
รักนะอุ๊บๆ♥
แมลงจี่...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น