ถ้าไม่สำคัญก็คงไม่แคร์
บทที่8.1…
เรียวขาขาวใต้กางเกงขาสั้นสีดำเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
ผู้คุมปล่อยให้ลู่หานอยู่กับคิมจุนมยอนเพียงสองคน
คนตัวขาวทิ้งตัวลงบนเตียงพยาบาลใกล้กับลู่หาน
ดวงตาแสนทรงเสน่ห์ทอดมองมาที่เขาก่อนจะยกยิ้มตาปิด
“นายน่ารักจัง”
คำชมไม่ทันได้ตั้งตัวทำเอาเขินไปเล็กน้อย
ลู่หานกระแอมกระไอกลบเกลื่อนก่อนจะถามว่าจุนมยอนคือสายของคริสใช่ไหม
ใบหน้าติดหวานนั่นจึงพยักลงตอบ
“อันที่จริงเราก็ไม่ใช่นางพญาหรอก
นางพญาตัวจริงน่ะถูกปล่อยตัวออกไปแล้ว...แลกกับการที่ย้ายเราเข้ามาแดนหนึ่งในฐานะตำแหน่งนางพญา”นี่เองสินะที่เป็นเหตุผลว่าทำไมนางพญาจึงย้ายมาอยู่แดน1
พวกแดน1เองก็ไม่เคยเห็นนางพญาตัวจริงเนื่องจากคนๆนั้นอยู่แดนอื่นมาก่อน
เนื้อตัวของจุนมยอนขาวเนียนไปหมด
ขาวจนอาจเรืองแสงในที่มืด ลู่หานมองต่ำลงไปยังเรียวขาของอีกคนก็ต้องร้อนวูบเมื่อนึกถึงฉากในห้องน้ำวันนั้น
“ไม่คิดว่าลงทุนไปเหรอ
ยอมนอนกับใครต่อใครแบบนี้”ถามสิ่งที่คิดออกไป จุนมยอนยิ้มน้อยๆ
ส่ายหัวแล้วทิ้งตัวลงนอนแย่งที่บนเตียงจากลู่หาน แขนขาวๆยืดออกบิดขี้เกียจ
“ถ้าสำหรับเรา...เรื่องนั้นมันไม่สำคัญหรอก
ไม่ว่าจะวิธีไหน? ให้คิมกอนโมคายความลับออกมาได้...เราก็ต้องทำ”
ถึงจะพูดเหมือนไม่ใส่ใจ
แต่ลู่หานก็จับสังเกตได้ว่าปลายเสียงของอีกคนสั่น
ดวงตาที่ลู่หานบอกว่ามีเสน่ห์นั้นหลับลงก่อนริมฝีปากจะขยับเอ่ย
“นายเองก็เหมือนกัน...หน้าที่ของนายก็คือร่วมมือกับฉันทำให้กอนโมคายความลับออกมา...”พูดตอกย้ำหน้าที่ของลู่หานที่อย่างไรก็ต้องช่วยกันง้างปากเรื่องแบ็คอัพหนุนหลังกลุ่มการค้ายาเสพติดมาจากคนที่จุนมยอนบอกว่าชื่อคิมกอนโมให้ได้
“คิมกอนโมคือคนที่นายมีอะไรด้วยในห้องน้ำหลายวันก่อนหรือเปล่า?”ถามคนที่นอนหลับตาบนเตียงพยาบาล
จุนมยอนหัวเราะเบาๆ
ดวงตาคู่สวยลืมขึ้นแล้วสบกับดวงตากลมโตของลู่หานที่กำลังมองคนตัวขาวอยู่เช่นกัน
...”เราไม่คิดว่าดวงตานั่นจะเป็นของนายนะลู่หาน”
ค น คุ ก
การเยี่ยมญาติใกล้ชิดจบลงแล้ว...
ลู่หานเดินตามจุนมยอนออกจากห้องพยาบาลเจอผู้คุมยืนอยู่ด้านหน้า
ผู้คุมตัวสูงดึงจุนมยอนให้ไปอีกทาง
คงพาไปรวมกับพวกเรือนนอนหงส์ที่ตั้งแถวอยู่คนละฝั่งกับเรือนนอนสิงห์
ญาติทั้งหลายกลับกันออกไปหมดแล้ว รวมถึงอี้ชิงและไอ้ผู้กองคริส
ลู่หานมองคนตัวขาวตำแหน่งนางพญาเดินไปนั่งต่อท้ายแถว แล้วแทบจะทันทีที่นั่งลงได้
ผู้ชายคนหนึ่งก็ลุกขึ้นเปลี่ยนที่กับนักโทษคนข้างหน้าจุนมยอนทันที
...คนๆนั้น...
เห็นข้างหลังแว๊บๆเขาก็จำได้ว่ามันต้องเป็นคนที่มีอะไรกับจุนมยอนในห้องน้ำวันนั้นแน่ๆ
และมันนั่นแหล่ะคือคิมกอนโม ดูมันทำท่าทางหัวเสียน่าดู แอบลอบมองผู้คุมตลอดเวลา
เมื่อเห็นว่าผู้คุมยังคงสนใจกับจางอินซูที่กำลังสรุปงานวันนี้ให้ฟังพร้อมเอ่ยคาดโทษหมาบางตัวที่ทำงานเกือบล่ม...ซึ่งนั่นก็คือลู่หานเอง
กอนโมดึงแขนขาวๆของจุนมยอนมากำเอาไว้แน่น
เห็นสีหน้าของจุนมยอนก็พอเดาออกว่าอีกคนเจ็บ พยายามสะบัดออกแต่คนตัวโตกว่าก็ยื้อเอาไว้
มันกอบกุมมือนิ่มขึ้นนาบกับใบหน้าของตัวเอง
แววตาของนักโทษชายคิมกอนโมที่มองไปยังใบหน้าหวานๆของจุนมยอนนั้นบอกได้คำเดียวว่าเกินคำว่าชอบพอ
มันคือความหลงใหล
ก็ไม่แปลกที่ใครจะพากันหลงใหลจุนมยอน
แม้ตำแหน่งนางพญาที่อีกคนได้มามันไม่ใช่จากการยกย่องของคนในคุกตั้งแต่แรกเริ่ม...แต่คิมจุนมยอนก็เหมาะกับการเป็นนางพญาอย่างที่สุด
ลู่หานเดินไปต่อท้ายแถวเรือนนอนสิงห์
ห่อปากเพราะยังเจ็บแขนอยู่มาก พวกมินซอกเข้าแถวกันอยู่ด้านหน้า
ไอ้จงอินหันมามองเขาเล็กน้อยตอนเขาเดินมาเข้าแถว แต่มินซอก...เด็กนั่นไม่ได้สนใจซักนิด
อาจจะร้อนแดดเลยเอาแต่ก้มหน้างุดๆ
พูดถึงมินซอกก็อดรู้สึกผิดในใจไม่ได้
เพราะวันนี้มีแต่เรื่อง ที่พูดเอาไว้กับเด็กนั่นเลยไม่ด้ทำ
ไม่ได้พาอี้ชิงไปหาเลยสักนิด ทั้งที่คิดเอาไว้ว่าจะให้มินซอกรู้จักกับญาติของเขา มินซอกไม่เหลือใคร
มันจะดีที่เด็กนั่นรู้จักกับครอบครัวของเขาไว้วันที่พ้นโทษ...เขาจะพามินซอกไปเริ่มต้นใหม่ด้วยกัน
แต่ก็เพราะตัวเองไปมีเรื่องกับไอ้ผู้กองห่ารากนั่นเสียก่อน
ไม่รู้ว่าวันนี้มินซอกทำงานเหนื่อยไหม
เด็กนั่นคงขายน้ำหวานกับขนมมือเป็นระวิงล่ะมั้ง...
สุดท้ายผู้คุมอินซูก็บอกให้แยกย้ายพร้อมเรียกลู่หานกับไอ้จงอินไปพบหลังเลิกแถวด้วย
เสียงปรบมือพร้อมเสียงตะโกนเฮดังลั่นก่อนนักโทษทั้งหลายจะแยกย้ายกันไป
บ้างก็เก็บของที่ยังไม่เรียบร้อยดี บ้างก็แยกกันไปอาบน้ำ
ลู่หานเห็นมินซอกถูกมินโฮลากคอไปอาบน้ำ
“กูเห็นมึงก่อเรื่องละ
แต่กูเข้าช่วยไม่ได้ เป็นเหี้ยไรไปทำสด”ไอ้จงอินถามทันที
ขาวของทั้งสองเดินตามจางอินซูที่เดินลิ่วไปยังห้องพักผู้คุม
ลู่หานส่ายหน้าบอกว่าเดี๋ยวเล่าให้ฟัง
เมื่อเข้าไปในห้องพักผู้คุมแล้ว
สิ่งแรกที่ประจักษ์คือรองเท้าคอมแบทถีบเข้าที่ท้องจนล้มไปกอง
ไอ้จงอินสบถลั่นทำท่าจะเข้าไปหาเรื่องผู้คุมอินซูแต่ก็ไม่วายห่วงเพื่อนที่สังขารไม่ดีอยู่แล้วดันมาโดนถีบใส่อีกครั้ง
มือหนาประคองเพื่อนให้ลุกขึ้นยืน ชี้หน้าผู้คุมอินซูอย่างหาเรื่อง
“นี่สำหรับที่มึงป่วนงานวันนี้ไปหมด
แล้วมึงก็เลิกด่ากูได้แล้วไอ้เหี้ยจงอิน ด่ากูจังเลยไอ้สัด นี่เพื่อนมึงนะไอ้ควาย”จางอินซูพูดกับลู่หานก่อนจะหันไปชี้หน้าไอ้จงอินคืนพร้อมด่ากลับยาวยืด
เพื่อตัวสูงผิวแทนของลู่หานส่งนิ้วกลางกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว
“มึงหมายความว่าไงวะ?”ลู่หานมองหน้าเพื่อนอย่างงงงวย
เมื่อกี้เขาคิดว่าไม่ได้หูฝาด...เขาได้ยิน...
...ว่าผู้คุมอินซูเป็นเพื่อนไอ้จงอิน...
เพื่อตัวสูงกลอกตาขึ้นมองเพดานน้อยๆ
ด่าผู้กองจางว่าเสือก
พยุงลู่หานให้นั่งลงกับเก้าอี้ส่วนตัวเองยืนพิงขอบโต๊ะท่าทางเหมือนจะเท่
“ก็...อย่างที่มึงได้ยิน...”
“...”
“สายในคุกโดยเฉพาะแดนหนึ่งน่ะมีอยู่เยอะจนมึงคิดไม่ถึงเลยล่ะ...กูกับไอ้อินซูก็เป็นหนึ่งในพวกนั้น...”
“...”
“ขอโทษที่ไม่ได้บอกมึง
มันเป็นความลับจริงๆ”
ลู่หานจะอึ้งดีหรือเปล่า?
เหมือนนิยายไม่มีผิด คล้ายกับบทละครโทรทัศน์สักเรื่อง
ดวงตากลมโตมองจงอินกับผู้คุมสลับกันไปมา
ที่เขาเห็นมาตลอดคือจางอินซูและคิมจงอินเป็นผู้คุมนักโทษและนักโทษที่ไม่ลงรอยกัน
อินซูมักเรียกจงอินไปหาเสมอซึ่งลู่หานคิดว่านั่นคงมาจากการกวนตีนของจงอินจนต้องถูกเรียกไปด่าหรืออาจจะโดนตีน
...ท่าทางเขาจะคิดผิด...
ดูจากท่าทางสบายๆของจงอินที่เดินไปกดน้ำกินพร้อมหยิบขนมบนโต๊ะทำงานที่เขียนชื่อว่าจางอินซูแล้ว...ที่ถูกเรียกมาคงไม่ได้ถูกด่าหรือโดนตีนแน่ๆ
“สรุปว่ามีสายของตำรวจกี่คนที่แฝงตัวอยู่ในนี้...เพื่อเอาความลับจากนักโทษคนนึงต้องลงทุนขนาดนี้เลยเหรอ?”ต้องลงทุนปลอมเป็นนักโทษขนาดนี้
แถมปลอมเสียเนียน ปลอมแม่งตั้งแต่เริ่มขึ้นศาล ลู่หานไม่ได้เอะใจสักนิด
เหมือนคนอื่นๆที่มองจงอินเป็นแค่นักโทษคดีขายธรรมดาเท่านั้น
“ไม่แน่นอนเรื่องจำนวน
เราก็ส่งสายเข้ามาเรื่อยๆ ลักๆแล้วก็มีจุนมยอน ฉัน จงอิน
และพวกที่เรือนนอนหงส์อีกสามสี่คนไว้คอยดูจุนมยอน”เป็นผู้คุมอินซูที่อธิบายส่วนไอ้จงอินหยิบขนมกินไม่สนใจสักนิด
ถ้าจงอินเป็นหนึ่งในสายแสดงว่าจงอินต้องรู้จักกับจุนมยอนอยู่แล้วสินะ
ลู่หานลองถามเพื่อนตัวโตก็ส่ายหน้าหวือบอกว่าถึงจะแฝงตัวเข้ามาแต่ก็เข้ามาพร้อมลู่หานแถมยังตัวติดกันตลอด
ลู่หานไม่เคยเห็นนางพญาเขาเองก็ไม่เคยเช่นกัน รู้แค่ชื่อจุนมยอนเท่านั้นเอง
“แล้วนายตกลงกับจุนมยอนว่ายังไง?”ผู้คุมอินซูถาม
ลู่หานถอนหายใจออกมา แม้ไม่คุ้นกับการที่ผู้คุมสุดโหดพูดดีๆด้วยแต่ก็พยายามจะให้ชิน
นึกถึงข้อตกลงที่เขาคุยกับจุนมยอนเรื่องการร่วมมือกันปลอกกล้วยตามชื่อแผ่นปัญญาอ่อนนี่
คิมกอนโมหลงใหลในจุนมยอน
หมอนั่นหลงจุนมยอนแบบถอนตัวไม่ขึ้น
เป็นเหตุผลให้จุนมยอนยอมเอาตัวเข้าแลกเพื่อหวังกระเทาะเอาความลับเรื่องแบ๊คอัพมาจากกอนโม
แต่ครั้งแล้วครั้งเล่า ใช้กลเม็ดอะไรมาหลอกถามกอนโมก็ไม่เคยปริปากออกมา
ทุกครั้งที่จุนมยอนจะวกเข้าเรื่องก่อนที่กอนโมจะถูกจับมันก็ดิ้นหนีไปเรื่องอื่นเสมอ
จุนมยอนเองก็ไม่กล้าเซ้าซี้กลัวเหยื่อจะรู้ตัว
และเพราะนางพญาเพิ่งย้ายแดนเลยไม่มีเด็กนางพญาตามมาด้วย
นักโทษเรือนนอนหงส์เรือนนอนเดียวกับนางพญาเลยมีสิทธิ์จะได้ก้าวขึ้นเป็นเด็กนางพญามากที่สุดเพราะใกล้ชิดกับนางพญามากที่สุด
คิมกอนโมเองก็คงหวังตำแหน่งนี้อยู่เหมือกัน
นอกจากจะได้หลับนอนกับจุนมยอนแล้วความสะดวกสบายก็เป็นอีกอย่างที่มันต้องการ
เพราะฉะนั้น...ข้อตกลงของลู่หานกับจุนมยอนคือตัดหน้าคิมกอนโมเสีย...ให้มันงุ่นง่านจนทนไม่ไหว
ให้มันหึงหวงจุนมยอนจนยอมแลกทุกอย่าง...
...ยกตำแหน่งเด็กนางพญาให้กับลู่หานเพื่อทำให้กอนโมหึงหวงและยอมคายความลับออกมา...
จุนมยอนเชื่อว่ากอนโมยอมทุกอย่างถ้าได้ครอบครองตนเอง
ซึ่งจากการมองดูท่าทางตอนที่จุนมยอนเข้าไปนั่งในแถวลู่หานก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน
แล้วถ้าถามว่าทำไมถึงเป็นลู่หาน
จุนมยอนบอกว่าเพราะสายบางคนที่อยู่เรือนนอนหงส์นั้นสนิทกับกอนโมดี
และพวกนั้นก็ไม่เคยมีทีท่าสนใจในจุนมยอนมาก่อน
ปุบปับจะมาเป็นเด็กนางพญาเลยก็กระไรอยู่ จึงต้องเป็นคนที่อยู่คนละเรือนนอน
คราวแรกที่เริ่มคิดแผนนี้หลังจากใช้ร่างกายเข้าแลกไม่ได้ผล
จุนมยอนตั้งใจจะให้จงอินรับหน้าที่นี้
แต่ก็ติดที่ใครบางคนที่อยู่นอกเรือนจำเขาดูท่าทางไม่พอใจ
จุนมยอนเลยไม่เอาจงอินดีกว่า ลู่หานก็ไม่ได้ถามว่าใครที่ไม่พอใจ
...หรือว่าจะเป็นน้องตัวขาวนั่น...
ลู่หานไม่คิดว่าเรื่องมันกับน้องตัวขาวที่ชื่อเซฮุนนั่นเป็นพี่น้องกันจะเป็นความจริงเสียแล้ว...
มองเพื่อนที่ยัดคุ้กกี้ฝีมือมินซอกที่เอาเข้ามาเป็นของว่างผู้คุมเข้าปากไปชิ้นสุดท้ายก่อนจะถามอะไรที่ทำเอาเพื่อรักสะอึกจนคุ้กกี้แทบติดคอ
“มึงกับน้องเซฮุนนี่พี่น้องท้องติดกันสินะ?”
ค น คุ ก
ไอ้เหี้ยจงอินงอนเป็นตุ๊ด
เพราะลู่หานถามแบบนั้นออกไป มันสำลักหน้าแดงก่ำ โวยวายว่าเปล่าเสียหน่อย
ยอมรับว่าไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆ แต่ไม่ได้ท้องติดกันสักหน่อย
โวยวายเสียงดังจนผู้คุมอินซูต้องประเคนตีนให้เงียบ
เพื่อนตัวสูงใหญ่เดินลิ่วๆคว้าผ้าเช็ดตัวกับชุดและเครื่องอาบน้ำลงจากเรือนนอนมาที่ห้องน้ำที่ว่างเปล่า
ลู่หานก็ด้วย
คนอื่นขึ้นไปทำกิจกรรมส่วนตัวกันบนเรือนนอนบ้างหรือนั่งคุยกันที่ม้าหินอ่อนด้านล่างบ้าง
รอเวลาขึ้นเรือนนอน มินซอกก็ยังนั่งอยู่ท่ามกลางกลุ่มนักโทษเรือนนอนหงส์
หัวเล็กๆถูกขยี้จากมือใหญ่ๆหลายมือตอนที่พวกมินโฮเล่าเรื่องเยี่ยมญาติวันนี้ให้เพื่อนฟัง
ได้ยินพวกนั้นบ่นเสียดายที่มินซอกต้องเฝ้าบูธขายน้ำ
น้ำในบ่อซีเมนต์ถูกตักขึ้นราดหัวราดตัว
ลู่หานขยี้สระผมลวกๆ เห็นเพื่อนตุ๊ดจงอินบึนปากสระผมอยู่ขอบอ่างตรงข้ามกันเลสะบัดน้ำใส่จนฟองแชมพูไหลลงเข้าตา
ไม่รอเสียงกร่นด่าของแม่งชายหนุ่มรีบล้างหัวล้างตัวผลัดผ้ากลับขึ้นเรือนนอนก่อนมันทันที
ขึ้นมาเรือนนอนก็เห็นมินซอกล้มตัวลงนอนที่นอนของคนตัวเล็กไปแล้ว
หลายคนก็เอนหลังนอนลงบนฟูกตัวเองกันแล้วเช่นกัน ลู่หานเอาผ้าไปผึ่งแล้วเดินมานั่งข้างคนที่นอนตะแคงหันหลังอยู่
เสียงผู้คุมที่บอกให้นอนได้แล้วกับเสียงวิ่งขึ้นเรือนนอนมาอย่างรวดเร็วของจงอินทำให้ลู่หานที่คิดจะเรียกน้องขึ้นมาคุยด้วยกันต้องจำใจล้มตัวลงนอน
ไฟของเรือนนอนดับทันทีไม่รอไอ้จงอินที่ยังผึ่งผ้าไม่เสร็จเสียด้วยซ้ำ
ลู่หานเห็นมินซอกขยับตัวยุกยิกในความมืด
แสดงว่าคนตัวเล็กยังไม่หลับ
“มินซอก...”ลองเรียกอีกคนเบาๆ
แต่คนที่นอนหันหน้าเข้าหาไอ้จงอินก็ไม่มีทีท่าจะหืออือ
ยิ่งไอ้จงอินล้มตัวลงนอนแล้วมินซอกขยับตัวเข้าไปใกล้แล้วลู่หานรู้สึกไม่พอใจขึ้นมา
ไม่รู้ว่าอะไรสั่ง
คงเป็นสมองส่วนไหนสักส่วนกระมัง
ลู่หานคว้าเอวคนตัวเองที่นอนหันหลังก่อนดึงนองให้เข้ามาใกล้
มินซอกดิ้นน้อยๆเสียงเล็กงึมงำให้ปล่อยแต่ลู่หานก็ปฏิเสธจะทำตามที่น้องสั่ง
“พี่เจ็บแขนอยู่
มินซอกดิ้นพี่ยิ่งเจ็บนะ”ชายหนุ่มหลับตาลงเมื่อมินซอกหยุดดิ้นทันทีที่เขาพูดแบบนั้น
ลู่หานขยับข้ามไปฟูกของมินซอกเล็กน้อยเพื่อจะกอดเอวน้องได้ถนัดถี่ขึ้น
ร่างกายที่ถูกสกรัมตีนมาเกือบทั้งวันที่ต้องการการพักผ่อนจึงค่อยๆนิ่งสนิทตามสติที่เริ่มเลือนลางขึ้นเรื่อยๆ
คงต้องนอนพักเอาแรงให้มากๆ...
เอาไว้สู้กับวันพรุ่งนี้...
วันที่เขาจะได้อยู่ในแดน1แห่งนี้ด้วยฐานะใหม่...
...เด็กนางพญา
TBC.
เหยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หายไปนานแบบไม่น่าให้อภัยใช่ป่ะ?
งานเราหนักมากจริงๆค่ะ กลับบ้านปุ๊บนอนปั๊บ
ไม่เคยเข้านอนสองทุ่มครึ่งมาก่อนก็ต้องนอน ร่างกายไม่ไหวมาก อยากแต่งนะ แต่ไม่ไหวจริงๆ
ขอบคุณที่ยังมีคนรอนะคะ
ซาบซึ้งใจมากอ่ะ
รักนะมุ๊บๆ TT
#พี่ลู่คนคุก
แมลงจี่...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น