โดคยองซูถามตัวเองว่าที่ทำอยู่ทุกวันนี้เพื่ออะไร?
การที่เขาเฝ้าทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับใครสักคนที่ไม่เคยมองเห็นตัวของเขาในสายตานั้น...คุ้มหรือเปล่า?
รูปถ่ายมากมายในจอคอมพิวเตอร์ถูกฉายสลับวนเวียน
รอยยิ้มสวยงามของคนในรูปนั้นเคยทำให้คยองซูยิ้มตามอย่างง่ายดาย
แต่หากวันนี้ที่ต้องมองมันกลับทำให้มุมปากนั้นแข็งทื่อ แม้แต่จะแค่นยิ้มยังยากลำบาก
ขอบตานั้นร้อนผ่าว และแล้วก็ทนไม่ไหวต้องทิ้งน้ำตาเม็ดใสนั้นไหลอาบแก้ม
ผู้ชายคนนั้น...พยอนแบคฮยอน...
รูปสัญลักษณ์หมาน้อยน่ารักที่ปรากฏอยู่มุมรูปภาพแสดงถึงตัวแทนของคยองซู
แฟนเทคเครดิต “แนบิซ ซารัง” นั้นเป็นชื่อเครดิตของเขาเอง การทำงานหลังเลนส์
ได้เฝ้ามองคนที่คยองซูรักจากที่ไกลๆ
ได้เข้าใกล้มาที่สุดเท่าความสามารถในการซูมกล้องนั้นเริ่มขึ้นเมื่อ3ปีก่อน
วันที่พยอนแบคฮยอนได้แจ้งเกิดบนเวทีในฐานะนักร้องเสียงเทพเจ้า
การแสดงสดของพยอนแบคฮยอนถูกฉายในโทรทัศน์ขณะที่คยองซูกำลังเปลี่ยนช่องทีวีไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย
...แต่เพียงได้ยินเสียงอันไพเราะนั้นก็สามารถทำให้คยองซูหยุดเปลี่ยนช่องได้...
แววตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดขณะร้องเพลงเนื้อหาบีบรัดหัวใจนั้นตรึงให้คยองซูหยุดสายตาไว้ที่เขา
พยอนแบคฮยอนในตอนนั้น...ทำให้โดคยองซูหัวใจเต้นแรง
การเดบิ้วต์ของแบคฮยอนประสบความสำเร็จอย่างมาก
ไม่นานก็เปิดตัวแฟนคลับอย่างเป็นทางการ
คยองซูจำได้ว่าหัวใจเต้นแรงขนาดไหนตอนลงชื่อสมัครเป็นเมมเบอร์เวปไซต์ออฟฟิเชียล
คยองซูเองก็ไม่คิดว่าเขาจะรู้สึกชอบนักร้องผู้ชายถึงขนาดต้องมานั่งสมัครเวปเพื่อเป็นแฟนคลับแบบนี้...ไม่คิด...ว่าจะเริ่มตกหลุมรักเสียงร้องและใบหน้าของพยอนแบคฮยอนมากขึ้นเรื่อยๆจนในที่สุดก็คิดจะไปตามนักร้องหนุ่มถึงสถานที่แสดงสด
วันนั้นหิมะตก
พยอนแบคฮยอนเดินลงจากรถคันสีดำด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ทว่าเมื่อเห็นแฟนคลับรออยู่
ใบหน้านั้นกลับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชียง เขายกยิ้มให้กล้องโทรศัพท์ที่ถูกยกขึ้นถ่าย
โบกมือทักทายกับเด็กสาวที่กรี๊ดคอแทบแตกอยู่ตรงนั้น
และวูบหนึ่ง...ที่พยอนแบคฮยอนเดินผ่านเข้าตึกไป คยองซูก็ได้สบกับสายตาคู่นั้น ...
สายตาที่ตรึงเขาไว้เมื่อเห็นครั้งแรกในทีวี...
“พี่ชายเป็นแฟนบอยเหรอคะ?”เสียงเล็กน้อยของเด็กสาววัยมัธยมต้นถามเขาขึ้นมา
คยองซูมองเด็กสาวส่วนมากที่เฮตะโลไปเกาะประตูประษัทเพื่อมองศิลปินที่ตนคลั่งไคล้หายเข้าห้องพักศิลปินไปแล้วเบือนสายตากลับมามองเด็กสาวตรงหน้าอีกครั้ง
“เธอล่ะไม่ตามพวกนั้นไปเหรอ?”แทนจะตอบคำถาม
คยองซูกลับถามเด็กสาวกลับ เธอส่ายหัวแล้วยิ้มๆ บอกว่าตามไปก็เท่านั้น เข้าหาพี่แบคฮยอนไม่ได้เสียหน่อย
ซึ่งคยองซูก็เห็นด้วยกับจุดนี้ ยังไงเสียยามหน้าดุที่ยืนจังก้าหน้าประตูก็ไม่มีทางให้แฟนคลับเข้าไปในตึกแน่นอนอยู่แล้ว
“แล้วพี่อ่ะ ยังไม่ตอบคำถามหนูเลย
พี่เป็นแฟนบอยเหรอ?”เมื่อเด็กสาวไม่ได้คำตอบที่ตนตั้งถามก็ถามเอาอีกครั้ง
คยองซูชั่งใจก่อนจะถามตัวเองว่า...การที่เขาปลื้ม ชอบพยอนแบคฮยอนขนาดตามมาที่นี่เรียกได้ว่าเขาเป็นแฟนบอยของอีกฝ่ายหรือเปล่า
ทว่ายังไม่ทันจะตอบออกไปเด็กสาวก็ขัดขึ้นมาเสียแล้ว
“ไม่ต้องละ ไม่ต้อง ขนาดมาตามที่นี่แสดงว่าพี่ชายคงชอบพี่แบคมากอ่ะ
นี่หนูเพิ่งเห็นพี่คนแรกเลยนะที่เป็นแฟนบอยแล้วมาตามขนาดนี้”เธอพูดพร้อมขยับก้าวขาเดิน
คยองซูไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องขยับขาเดินตามเด็กสาวนั้นไป...
อาจจะเพราะดูเหมือนเธอจะรู้จักพยอนแบคฮยอนดีหรือเปล่า...
“ดูเหมือนเธอจะรู้จักแบคฮยอนดีเลยนี่ ฉันก็แค่ชอบเสียงกับแววตาเวลาเขาร้องเพลงน่ะ...เพลงที่เปิดตัว...เอ่อ
มูนไลท์ ส่วนเรื่องอื่นฉันไม่ค่อยรู้เลย...”
“ช่ายยยย หนูน่ะ
ค้นข้อมูลพี่แบคจนละเอียดยิบเลยล่ะ พี่ชายคุยกับคนถูกแล้ว...มาๆๆ
ไปทานไอศกรีมกันนะ เดี๋ยวหนูจะเล่าเรื่องพี่แบคให้ฟัง”
การพูดคุยกับเด็กสาวที่ชื่อยุนโบมีนั้นกินเวลายาวนานถึง4ชั่วโมงโดยที่คยองซูไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
รู้แต่ว่าเรื่องราวของพยอนแบคฮยอนที่ออกมาจากปากของเด็กสาวนั้น...กำลังซึมซับเข้าไปในหัวของเขาอย่างช้าๆ
พยอนแบคฮยอนเป็นลูกชายคนเดียว บ้านอยู่คยองกิโด
กำลังเรียนสาขาการร้องเพลงมหาวิทยาลัยชื่อดัง ชอบกินชานมโกโก้กับพายฟรุตสลัด...
หลังจากคุยกันวันนั้น
คยองซูก็ยังติดต่อกับโบมีอยู่เรื่อยๆ เด็กสาวมักจะชวนเขาไปตามดูแบคฮยอนเสมอ
จนในที่สุดก็ได้สิทธิ์เข้าไปดูการแสดงสดบนเวทีของพยอนแบคฮยอน
ในตอนนั้นคยองซูพกกล้องตัวจิ๋วติดตัวไปด้วย การแสดงสีหน้าและแววตาของแบคฮยอนยังสามารถทำให้เข้าต้องมองมันนิ่งนานได้เสมอ
และคิดอยากจะเก็บมันเอาไว้ดูอีกครั้งต่อๆไปด้วย
...การยกกล้องดิจิตอลตัวเล็กขึ้นถ่ายรูปพยอนแบคฮยอนในตอนนั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้นการเป็นแฟนเทคของคยองซู
จากกล้องดิจิตอลตัวน้อย
การได้บันทึกภาพพยอนแบคฮยอนลงในเมมโมรี่การ์ดเริ่มเป็นสิ่งที่คยองซูชอบทำ
กล้องราคาแพงระยับตามคำแนะนำของยุนโบมีจึงถูกซื้อมาพร้อมเลนส์ที่ราคาแพงกว่าตัวกล้องเสียด้วยซ้ำ
คยองซูจำได้ว่าอดข้าวตั้งหลายอาทิตย์
แต่ระยะซูมที่เข้าไปได้ใกล้จัดจนแทบเห็นรูขุมขนนั้นก็ทำให้พอใจกับการเสียเงินจำนวนไม่น้อยนั้นไปเช่นกัน
ไม่รู้ว่าภาพถ่ายของคยองซูนั้นสวยหรือเปล่า
เขาใช้โปรแกรมแต่งรูปไม่ค่อยถนัดนัก แต่ยัยโบมีก็จุ้นจ้านจัดการให้หมด
เด็กสาวที่คยองซูสนิทสนมด้วยในระดับหนึ่งแล้วสอนเข้าปรับกล้องและใช้โปรแกรมจนชำนาน
และเป็นยัยนั่นอีกเช่นกันที่เปิดเวปไซต์และตั้งชื่อเครดิตให้เสร็จสรรพว่า “แนบิซ
ซารัง” ยุนโบมีบอกเพียง
“พี่ชายก็มีหน้าที่แต่งภาพ
แปะเครแล้วอัพลงเท่านั้นล่ะ เดี๋ยวหนูโปรโมตพี่เอง”
เวปไซต์แฟนเทคของคยองซูมีคนสมัครสมาชิกมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ
ภาพที่เขาไม่รู้ว่าสวยหรือเปล่า คนอื่นนั้นชมเปราะว่ามันงดงาม
พยอนแบคฮยอนท่ามกลางแสงสปอร์ตไลท์ที่ส่องลงมาบนเฮดเดอร์เวปแนบิซ
ซารังดอทคอมนั้นงดงามที่สุด
...จากนั้นการตามพยอนแบคฮยอนไปในที่ต่างๆพร้อมกล้องราคาเหยียบสองแสนคู่ใจจึงเป็นเหมือนงานประจำของคยองซู
ได้เห็นว่ามีคนคอยภาพถ่ายของเขาก็ยิ่งทำให้มีแรงใจในการถ่ายภาพมากขึ้นไปอีก
และบางครั้ง...ที่สายตาของพยอนแบคฮยอนบังเอิญจ้องมองมาที่กล้องของคยองซู...มันทำให้หัวใจของคยองซูเต้นแรง...
คยองซูชอบ...ที่จะมองพยอนแบคฮยอนผ่านเลนส์ของกล้องตัวนี้
แม้ว่าแบคฮยอนอาจจะไม่เคยรู้เลยด้วยซ้ำว่าใบหน้าหลังกล้องตัวใหญ่และเลนส์ที่ปิดได้เกือบทั้งหน้านี้เป็นอย่างไร
...ขอแค่ได้มองจากตรงนี้ก็พอ...
แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไป...
ผู้ชายคนนั้น...พยอนแบคฮยอน...
‘พยอนแบคฮยอน
นักร้องชื่อดังแอบคบลับๆกับเพื่อนสาวร่วมค่าย’
แค่ชื่อพาดหัวข่าวที่ถูกรีทวิตเข้ามาในไทม์ไลน์ของทวิตเตอร์ส่วนตัว...คยองซูก็เผลอทำแก้วโกโก้ในมือหลุดร่วงกระทบพื้นและแตกกระจาย
น้ำสีน้ำตาลแก่กระเซ็นไปทั่วพื้นหนำซ้ำฝ่าเท้าบอบบางยังเหยียบเศษแก้วนั้นซ้ำอีกด้วย
เนื้อหาด้านในบอกว่าพยอนแบคฮยอนคบหาดูใจกับอีซึงอา
นักแสดงสาวเพื่อนร่วมค่ายมากว่า5เดือน นักข่าวแอบถ่ายทั้งคู่ได้ในขณะที่แบคฮยอนขับรถไปรับเธอที่สนามบินหลังจากกลับมาจากการร่วมงานกับนักแสดงชาวญี่ปุ่นในหนังฟอร์มยักษ์
ชายหนุ่มพาเธอไปยังคอนโด
และกลับออกมาพร้อมกันในตอนเช้า...อีกทั้งยังจูบกันดูดดื่มก่อนหายเข้าไปในปอร์เช่สีดำ
ซึ่งเป็นรถของแบคฮยอน...
ยังไม่รู้แน่ว่านี่คือเรื่องจริงหรือเปล่า
ทว่าหัวใจของคยองซูเหมือนโดนกรีดไม่เป็นชิ้นดี เขาไม่ใช่เกย์...แต่รู้สึกปลื้ม และชอบพยอนแบคฮยอนมาก...มากจนกลายเป็นความหลงใหลในที่สุด
พูดได้เลยว่าแม้จะไม่ได้มีรสนิยมไม้ป่าเดียวกันแต่โดคยองซูก็
“รัก “พยอนแบคฮยอน...
หัวใจคยองซูเจ็บปวด เจ็บกว่าบาดแผลที่บาดลึกที่ฝ่าเท้า
โบมีโทรมาหาเข้าและพูดไม่รู้เรื่องเหมือนคนเสียสติ คยองซูเองก็ไม่ต่างกนนักหรอก
แต่เสียงนุ่มก็พยายามพูดปลอบเด็กสาวออกไป
พูดได้เพียงรอทางค่ายออกมายืนยันก่อนดีกว่า
แม้ว่าหลักฐานเป็นรูปแบถ่ายนั้นจะตำตาอยู่ก็ตาม...
และเพียงไม่กี่นาทีต่อมา
บาดแผลที่เท้าของคยองซูยังไม่ได้รับการเยียวยา
แต่บาดแผลที่ใจของเขากลับยิ่งกว่านั้น
มันทวีความเจ็บปวดเมื่อทางค่ายออกมาคอนเฟิร์มแล้วว่า...ทั้งคู่คบหากันจริงๆ
เหมือนโลกถล่มลงมาต่อหน้า แววตาที่เข้าหลงใหล น้ำเสียงที่เขาหลงรัก
พยอนแบคฮยอนที่เขาชื่นชม...มีเจ้าของแล้ว
มันไม่แปลกที่ผู้ชายหน้าตาดีอย่างแบคฮยอนจะมีแฟน
แต่คยองซู...แค่ทำใจไม่ได้ เขารัก...รักผู้ชายคนนี้...ยอมทุ่มเททุกอย่างให้
ในวันเกิดเขาก็เปิดโดนเทเพื่อซื้อของขวัญให้กับแบคฮยอน ส่งให้ในนามแนบิซ
ซารัง...โดยที่แบคฮยอนไม่เคยรู้เลยว่าเจ้าของของขวัญพวกนั้นคือเขาเอง
เหมือนที่ทำไปมันไม่มีค่า...
ที่สำคัญกว่านั้น...คือพยอนแบคฮยอนทรยศแฟนคลับได้อย่างเลือดเย็น
“ระหว่างแฟนคลับกับแฟนครับจะเลือกอะไรครับ”แบคฮยอนยิ้มให้กับพิธีกรที่ถามคำถาม
ดวงตาของเขากราดมองไปยังแฟนคลับที่มาร่วมชมมินิคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้มที่3
ก่อนจะยิ้มออกมาแล้วตอนคำตอบที่ทำเอาคยองซูผู้มองจากหลังเลนส์กล้องใจละลาย
“ผมเลือกแฟนคลับ...ไม่มีเขา...ผมคงเหมือนตาย
ผมจะไม่มีแฟนหรอกครับ ถ้าแฟนคลับของผมไม่อนุญาต”
...
พยอนแบคฮยอนคนผิดสัญญา...
TBC.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น