วันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

Never Know3


Never Know



มองเห็นแค่เธอเท่านั้น แม้ในฝันก็ยังเป็นเธอ
ไม่ต้องการสิ่งไหนอีกแล้วแค่ในวันนี้ฉันได้มีเธอ
วันคืนที่เคยสุขใจ ที่เคยได้รัก ยังจำฝังใจ
ยังคงคิดถึงมันทุกนาที ได้แต่ยิ้มทุกครั้งที่นึกถึง

การเปิดใจรับใครสักคนสำหรับคิมมินซอกคงเป็นเรื่องยากแสนยาก...แม้แต่ผู้หญิงที่แสนดีแบบฮานึลเขายังไม่สามารถรักได้ หัวใจดวงนี้มันเคยมีเจ้าของ...คนเดียวที่เป็นรักแรก...และคงเป็นรักสุดท้าย
 “คิดอะไรอยู่น่ะมินซอกเสียงหวานของนางพยาบาลคนสวยถาม ฮานึลขยับผ้าแพรเนื้อลื่นคลุมไหล่ของมินซอกเอาไว้ ในขณะที่เท้าก็ยังเคลื่อนเพื่อเข็นรถเข็นที่มินซอกนั่งไปรอบๆสวนสาธารณะ วันนี้อากาศดี ฮานึลเลยพาเขาออกมาเดินเล่น
...จะว่าเดินก็ไม่ถูก เขานั่งรถเข็นแบบนี้จะเรียกว่าเดินได้ยังไง...
อนาคตและความรัก สูญเสียไปพร้อมกับขาทั้งสองข้าง ไม่มีทางหวนกลับ...
กี่ปีแล้วที่ยังจมปักกับความทรงจำครั้งก่อน 5ปีได้ไหม? ไม่เลิกคิดถึงเรื่องราวเก่าๆ ที่เอาแต่ย้อนมาทำร้ายตัวเองเสมอ ยังคิดถึงอ้อมกอดที่เคยได้ รอยยิ้มที่แสนดี การกระทำที่อ่อนโยน รวมถึงคำบอกลาในวันที่ฝนโหมกระหน่ำ ทุกอย่างไม่มีทางลืม
 “เดี๋ยวมินซอกลงเดินดีกว่าเนาะ พื้นสนามหญ้านุ่มมากเชียว ก้าวเท้าช้าๆนะฮานึลบอกพร้อมหยุดรถเข็น เธอจับมือนิ่มแสนเล็กเอาไว้ พยุงให้มินซอกลุกจากวีลแชร์ช้าๆ
ปลายเท้าใต้รองเท้าคู่สวยเหยียบลงบนพื้นสนามหญ้า...ทว่ากลับว่างเปล่า ไม่ได้นิ่มเหมือนที่ฮานึลบอกเอาไว้
...เท้าพลาสติกของเขามันสัมผัสได้เพียงความแข็งกระด้างเสมอ

 “ดีจังที่มินซอกใช้ขาเทียมได้คล่องขึ้นกว่าแต่ก่อน กว่าจะยอมใส่ขาเทียมได้เล่นเสียฉันเหนื่อยใจไปหลายหน...เธอพูดพร้อมยิ้ม จูงมือมินซอกไปนั่งที่เก้าอี้เหล็กสีขาวตัวยาว
มินซอกปฏิเสธการใส่ขาเทียมมาโดยตลอด คนไร้ค่าจะทำอะไรแบบเขา สู้อยู่เฉยๆเสียยังดีกว่า คนพิการแบบเขาถึงมีขาก็เหมือนไม่มี ไม่มีปลายประสาทที่นิ้วเท้าไว้รับรู้ยามเหยียบลงบนหญ้าหรือผืนทรายเนียนละเอียด ไม่มีข้อต่อยืดหยุ่นขยับเคลื่อนยาวออกแรงวิ่ง...แล้วจะมีไปทำไมกัน


ในบางครั้งฉันนั้นก็ไม่เข้าใจว่าเธอเป็นคนแบบไหน
แม้พยายามทำความเข้าใจ แต่สุดท้ายก็ยังว่างเปล่า
ในบางครั้งคิดถึงเธอมากจนใจฉันมันเจ็บและมันปวดร้าว
ทำได้เพียงแค่นอนหลับตา และแค่ฝันถึงเธอเท่านั้นพอ



นั่งดูโน่นนี่นานเท่าไหร่แล้ว มินซอกไม่ได้มองเวลา แต่ได้มานั่งมองอะไรแบบนี้ก็สบายใจดีเหมือนกัน ดีกว่าทนจมอยู่กับตัวเองให้ต้องหวนกลับไปคิดถึงเขาคนนั้นอีกครั้ง...นายเป็นยังไงมั่งนะลู่หาน
คงจะยังรักกันดีกับอึนจองเหมือนเดิมสินะ ก็มีโซ่ทองคล้องใจกันแล้วเสียด้วย ลูกของนาย...ถ้าเป็นผู้ชายคงหล่อเหมือนนาย ถ้าเป็นผู้หญิงคงจะสวยเหมือนแม่...คงจะน่ารักน่าชังไม่หยอก...
มือเล็กบีบเข้าหากัน...กำลังรู้สึก...อิจฉา
อยากได้คืนมา...อยากได้ความรักครั้งเก่าคืนมา แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ไม่มีทางที่จะเริ่มใหม่ ทำได้แค่ปล่อยน้ำตาให้ไหลลงมากับความเดียวดายที่ต้องเผชิญ
 “ฉันไปซื้อน้ำให้ไหม? นั่งมาตั้งนาน แซนวิชด้วยดีไหม? มินซอกอยู่ๆหญิงสาวข้างกายก็ถามขึ้นมา มินซอกยิ้มน้อยๆ บอกว่าขอน้ำเปล่าอย่างเดียวดีกว่า ฮานึลยิ้มให้ กำชับว่าให้นั่งตรงนี้ไม่ให้ไปไหน เดี๋ยวเธอจะกลับมา แล้วร่างบางก็ลุกตรงไปยังซุ้มขายน้ำที่อยู่ห่างออกไปไกลพอตัว
มินซอกกลับมามองคู่รักที่ปั่นเรือหงส์อยู่ในบึงของสวนสาธารณะแทน ในหัวใจกลับพลันเจ็บปลาบขึ้นมา มันจุกแน่นไปหมด ขอบตาร้อนผ่าวจนทนไม่ไหว...และอีกครั้งที่น้ำตาไหลออกมา
...จูบครั้งสุดท้ายของเขากับลู่หานเกิดบนเรือหงส์ที่สวนสนุก...
และวันเดียวกันที่เขาสูญเสียทุกอย่างไป...

เคยถามตัวเอง...ลู่หานทำไมใจร้ายกับเขาแบบนี้...แต่สุดท้ายก็ไม่เคยตอบได้
หรือบางที...ลู่หานไม่ได้ใจร้าย...แต่เขาดีไม่พอจะคู่ควรกับชายหนุ่มอีกต่อไป
ลู่หานจึงเลือกคนที่เหมาะสมมากกว่าเช่นอึนจอง...
ดวงตากลมโตทนมองภาพด้านหน้าไม่ไหวอีกต่อไป เปลือกตาบางหลับลงช้าๆ ปล่อยให้น้ำตาอาบลงบนแก้มเนียนไม่คิดจะปาดมันออก...



เพราะฉันยังจำมันเลยต้องช้ำต้องเจ็บ ฉันยังคงโง่รอให้เธอกลับมา
แม้ความเป็นจริงไม่มีวันนั้นเลย ยังไงก็ตาม



คุณน้าขา...คุณน้าหลับเหรอคะ??”เสียงแจ๋วๆดังอยู่ข้างหูทำให้ต้องเปิดเปลือกตาขึ้นทันที มินซอกมองข้างตัวอย่างตกใจ เด็กหญิงตัวเล็กในชุดลายเจ้าหญิงดิสนีย์ฟูฟ่อง บนหัวเล็กๆคาดด้วยที่คาดผมหูกระต่ายสีชมพูดูน่ารัก
...มาได้ยังไงเนี่ย...
มินซอกรีบปาดน้ำตาออกทันที นึกว่าตัวเองที่ไม่ได้รู้เลยว่ามีเด็กคนนี้ปีนขึ้นมานั่งอยู่ข้างๆกัน รอยยิ้มที่คิดว่าจะไม่เศร้าถูกสงให้เด็กหญิงตัวน้อย
 “น้าหลับตาเฉยๆค่ะ แล้วหนูมาได้ยังไงคะเนี่ย? คุณพ่อคุณแม่ไปไหนเอ่ย?”ถามเด็กหญิงตัวน้อย ใบหน้ากลมบ๊องขยับย่นเหมือนใช้ความคิดเล็กน้อย คุณพ่อเดินคุยโทรศัพท์ไปไหนไม่รู้ค่ะ ทิ้งน้องจองอึนไว้ตรงม้าหมุนตรงโน้น น้องจองอึนเหงา...เธอพูดเจื้อยแจ้ว ดูเป็นเด็กที่ไม่กลัวอะไร ขนาดพ่อหายไปยังไม่กลัวเลย
 “แล้วแม่ล่ะคะ? ไม่มาด้วยกันเหรอ??”มินซอกถามต่อ ทว่าก็ต้องใจหายวูบเมื่อใบหน้าน่ารักของเด็กหญิงสลดลงทันตาเห็น ดวงตาเรียวรีของหนูจองอึนเหมือนจะคลอไปด้วยน้ำตา
 “คุณแม่ไม่อยู่แล้วค่ะ...คุณพ่อบอกว่าคุณแม่ไปเป็นนางฟ้าแล้วเท่านั้นเอง คิมมินซอกก็รู้ตัวเองว่าพูดไม่ดีไปเสียแล้ว แขนเรียวคว้าเด็กตัวน้อยเข้าสู่อ้อมกอดแล้วโอ๋ให้หยุดร้องไห้
...อาจจะคิดไปเอง แต่ทำไมเขารู้สึกรักเด็กคนนี้จังนะ มีความรู้สึกบางอย่างบอกว่าให้เขารักเด็กคนนี้...เพราะอะไรกัน??
จองอึนลูก อยู่ไหนครับ?”เสียงเรียกหาเด็กสาวดังขึ้นมา มินซอกเดาได้ไม่ยากว่าคงเป็นพ่อของเด็กคนนี้แน่ๆ ร่างบางหันไปตามเสียงเรียก ริมฝีปากอ้าจะเรียกพ่อของเด็กหญิง ทว่ากลับต้องชะงักค้าง ขอบตาที่เพิ่งหายร้อนกับเริ่มร้อนขึ้นอีกครั้ง และอีกไม่นานคงปล่อยน้ำตาให้ไหลลงมา
ทำไมเขาถึงรู้สึกรักจองอึน...
...เพราะจองอึนเป็นลูกของลู่หานหรือเปล่า...



สวัสดีนะ? ต้องการจะพูดคำนี้แต่ฉันก็ยังไม่กล้าจะโทรไป
ขอโทษเธอนะ ที่ยังคงรักเธออย่างนี้ อยากให้รู้ว่าฉันเสียใจ
ไม่มีเธอแล้วจะทำเช่นไร ฉันนั้นยังต้องการเธอ
ต้องทนทำยิ้มเหมือนว่าฉันนั้นไม่เป็นไร ทั้งที่ในใจ ฉันมันเจ็บเหลือเกิน


ลู่หานตกใจเล็กน้อย เมื่อร่างบางของใครบางคนกำลังกอดลูกสาวของเขาเอาไว้
 “จองอึนคะ...พอได้ยินเสียงพ่อเรียก คิมจองอึนก็เงยหน้าขึ้นมามองตาแป๋ว ใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตาเล็กน้อย เด็กหญิงโดดลงจากม้านั่งวิ่งเข้าสู่อ้อมกอดของคนเป็นพ่อแทบจะทันที ลู่หานลูบหัวปลอบลูกสาว ถามว่าเป็นอะไร เด็กหญิงส่ายหัวไปมา พูดออกมาแผ่วเบาทำให้ลู่หานต้องรู้สึกเศร้าใจ
หนูคิดถึงคุณแม่...
คิมอึนจองเสียไปแล้ว...ลู่หานพยายามบอกตัวเองเสมอ โรคร้ายพรากเธอจากไป ตรวจเจอมะเร็งหน้าอกในระยะสุดท้าย แรกๆเธอบอกว่าเจ็บที่หน้าอกบ่อยครั้งแต่หญิงสาวก็ไม่ได้ระแวง คิดว่าเป็นปรกติของการใกล้มีรอบเดือน ลู่หานเองก็เป็นผู้ชายไม่มีความรู้ด้านนี้ ภรรยาบอกว่าไหว ว่าปรกติเขาก็เชื่อ
จนวันที่ตรวจเจอ...คำว่าขั้นสุดท้ายทำให้อึนจองหมดกำลังใจ เธอป่วยซม และในที่สุดก็เสียชีวิตหลังจากตรวจพบไม่นาน...ลู่หานได้แต่โทษตัวเอง ถ้าเขาให้กำลังใจเธอมากกว่านี้ บอกว่าเธอต้องไม่เป็นไรให้บ่อยขึ้น เธออาจจะไม่ต้องจากไปเร็วขนาดนี้

 “เอ่อ...ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ...มินซอกเอ่ยขึ้นมา สัมผัสได้ว่ารอบกายลู่หานมีเพียงความโศกเศร้าเมื่อพุดถึงอึนจอง...
...เจ็บที่ใจจริงๆเชียว...
ถ้าเป็นเขาละ...ถ้าเป็นคิมมินซอกที่จากไป...ลู่หานจะเสียใจบ้างไหม??
เพ้อไปแล้วคิมมินซอก นายเป็นภรรยาของลู่หานหรือ? เป็นแม่ของจองอึนหรือ?? เปล่า...นายมันแค่คนที่เคยเป็น อดีต เท่านั้นเอง
อีกฝ่ายดูอ้ำอึ้งเกินจะเอ่ยต่อบทสนทนา มินซอกเข้าใจดี ร่างบางยิ้มอ่อนๆในใบหน้า
...เจ็บจังเลยหัวใจ...
 “อ่า...ฉันต้องไปก่อนล่ะ น้าไปแล้วนะคะจองอึน แล้วก็...เสียใจกับเรื่องอึนจองด้วยนะลู่หาน...ยิ้มครั้งสุดท้ายก่อนที่ขาเล็กจะลุกขึ้น  รองเท้าคู่สวยย่ำไปตรงรถเข็นก่อนจะเข็นมันเดินไปอีกทาง



หยดน้ำตาให้มันได้ไหลลงมา ตอกและย้ำให้มันลึกเข้ามา
ทำไมโง่งม ยังรักแค่เธอ ไม่ลืมวันวานที่เคยรักกัน
ฉันหวังสักวันหนึ่ง จะอยู่ได้โดยที่ไม่มีเธอ


เดี๋ยวสิ...เสียงทุ้มเรียกรั้งเอาไว้ มินซอกชะงักเท้าที่จะก้าวเดินต่อ ทำใจเพียงคู่แล้วหันกลับไปหาคนที่เรียกไว้
 “มีใครเป็นอะไรหรอ ถึงต้องใช้รถเข็นเสียงทุ้มถามออกมาอย่างเป็นห่วง มินซอกรู้ดีว่าลู่หานเป็นคนใจดี คงสงสัยว่าคนเจ็บที่ต้องใช้วีลแชร์อยู่ที่ไหน เพราะถ้ามากับมินซอกแค่สองคน แน่นอนว่าเขาต้องพยุงช่วยเหลือคนเจ็บไม่ได้แน่ๆ
...ก้อนแข็งๆที่จุกที่คอเหมือนจะปิดกั้นคำพูดทุกอย่างเอาไว้ อยากบอกออกไป
...รถเข็นคันนี้ของฉันเอง...
 “อ่อ ญาติฉันน่ะ เขาไปเดินเล่นกับพยาบาลประจำตัวทิ้งรถไว้...ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันไปก่อนนะยิ้มอีกครั้งแล้วหมุนตัวเดินไปทันที ถ้าครั้งนี้มีเสียงเรียกรั้งไว้อีกครั้ง มินซอกก็จะไม่หันกลับมา...เพราะน้ำตามันกำลังไหนท่วมทั้งหัวใจ และเอ่อนองจากดวงตาลงสู่ใบหน้า
พระเจ้าช่างใจร้าย 5ปีที่ผ่านมาเขาพยายามเท่าไรก็ไม่สามารถลืมลู่หานได้ แล้วไยพระองค์ต้องลิขิตให้เราได้เจอกันอีกครั้ง...มันยิ่งทำให้เขาเจ็บ เพราะความจริง..ว่าคิมมินซอกยังรักลู่หานสุดหัวใจ
...รักเสมอมา รักแรก...และรักเดียว...


My first love, รักที่ไม่เคยลืมไปจากหัวใจ
ต้องเจ็บและช้ำเพราะเธอมากมาย แต่ว่าฉันยังจำอยู่อย่างนี้
My first love, ฉันตะโกนเรียกเธอแต่เบาเหลือที
เธอนั้นไม่มีทางหันมามองอีกครั้งหนึ่ง รู้ไหมฉันคิดถึงเธอเหลือเกิน



เมื่อคิดว่าพ้นแล้ว มินซอกจึงหันกลับไปมองอีกครั้ง พบว่าร่างสูงของลู่หานเดินจูงมือเด็กหญิงไปอีกทางแล้ว แผ่นหลังกว้างที่แสนจะอบอุ่นในความทรงจำเริ่มห่างไปเรื่อยๆ มินซอกสะอื้นฮั่ก ยกมืออยากจะจับเอาอีกคนไว้ตรงนี้
 “ลู่หาน...เรียกแผ่วเบา เสียงสะอื้นยังดังเสียกว่า มินซอกปล่อยโฮออกมาดังลั่น
...อย่าไป...
 “ลู่หาน!!ตะโกนเสียงดังจนหลายคนหันมามอง ...ทว่าไม่ใช่ลู่หาน ร่างบางทรุดลงไปกองกับพื้นสนามหญ้า ปล่อยโฮออกมาไม่อายใคร เอื้อมมือจนสุดแขนก็รั้งอีกคนไว้ไม่ได้
กลับมาได้ไหม?...อยากจะถาม? ไม่มีอึนจองแล้วเขาจะกลับไปตรงที่เดิมได้ไหม?? หรือทั้งใจของลู่หานไม่เหลือเขาต่อไปอีกแล้ว
แต่นายรู้ไหม? ทั้งหัวใจของฉันยังมีแค่นาย นายคนเดียว...รักครั้งแรกของฉัน




ลู่หาน...

Na na na na na na na
Na na na na na na na
Na na na na na na na na






Never Know2

Never Know

ใจดวงนี้ที่เคยมืดดำ เธอช่วยนำแสงส่องให้ใจ
ช่วยเติมความฝันที่มันว่างเปล่า

คิมมินซอกไม่เคยมีความรักมาก่อน ชายหนุ่มเอาแต่เรียน เรียน และเรียน จนวันหนึ่งก็มีใครสักคนผ่านเข้ามา
ลู่หาน...คนที่ทำให้มินซอกรู้จักคำว่ารักนั้นมันเป็นอย่างไร คนที่ทำให้ยิ้มได้เสมอ และเป็นคนเดียวกับที่ทำให้เจ็บปวดทุรนทุรายแทบจะไม่อยากหายใจต่อ
เป็นคนที่ทำให้ชีวิตเขาพังทลายไม่มีสิ้นดี...

ชีวิตที่ไม่มีลู่หานดำเนินมาเรื่อยตั้งแต่จบการศึกษามัธยมปลาย...มินซอกไม่ได้เรียนต่อ เพราะเขากลายเป็นคนพิการไปแล้ว แม้ว่าพ่อแม่จะพยายามเกลี้ยกล่อมให้เข้าเรียนโรงเรียนของคนพิเศษก็ตามที
มินซอกคิดว่ามันไม่สำคัญ...ในเมื่อเขาไม่สามารถจะเดินเหินไปไหนได้...มันจะมีประโยชน์อะไรกับการที่จะต้องใช้ชีวิตไปกับการศึกษาเหล่านั้น

วันที่มันผ่านไป ยิ่งนานเท่าใด ยิ่งมีคำว่าเรา
เรียบเรียงความรู้สึกผ่านเพลงนี้



มินซอกชอบเขียนไดอารี่ เมื่อตอนอยู่โรงพยาบาลเขาอาศัยเขียนไดอารี่ระบายทุกความรู้สึกที่มีอยู่ในตอนนั้น ทั้งความเสียใจ ท้อแม้ ผิดหวัง และปวดร้าว จากทั้งการสูญเสียสิ่งสำคัญในการดำเนินชีวิตอย่างขาทั้งสองข้าง และสูญเสียหัวใจที่มีแต่รัก
วันนี้คุณหมอนัดมาตรวจอีกครั้ง มินซอกยิ้มให้พ่อที่ช่วยประคองนั่งวีลแชร์ก่อนที่คุณคิมจะแยกออกไปทางห้องจ่ายยาเพื่อดำเนินการเรื่องยาที่หมดแล้ว
มินซอกเข็นวงล้อเก้าอี้เหล็กไปรอหน้าห้องคุณหมอปาร์คเหมือนเคย หน้าห้องแสนจะชินตาเพราะมาเดือนละหลายๆหน ตอนนี้คุณหมอบอกว่าจะพยายามใส่ขาเทียมให้กับเขา เพื่อจะได้เดินเหินได้อย่างคนทั่วไป อีกอย่างก็ไม่ต้องพึ่งพ่อที่เริ่มจะแก่เข้าไปทุกทีอีกด้วย
เสียงจอแจของโรงพยาบาล เด็กเล็กวิ่งกันวุ่นวาย คนแก่มากมายรอให้คุณหมอเรียกเข้าห้องตรวจ มินซอกมองรอบๆแล้วยิ้มเล็กๆให้กับเด็กผู้หญิงขี้แยที่กำลังโดนเด็กชายคนหนึ่งแกล้งแหย่ ดูท่าทางแล้วคงสนิทกัน...อาจเป็นเพื่อนบ้าน หรือญาติ ดูเหมือนเด็กชายจะขี้เกเร แต่ดูในแววตามันเจือความรักที่มอบให้เด็กหญิงเต็มที่...เหมือนสายตาที่ลู่หานเคยใช้มองเขาเมื่อตอนนั้นไม่มีผิด
มุมปากตกลงเมื่อคิดถึงใครคนนั้นอีกแล้ว ผ่านมานาน ยังไงก็ไม่ลืมเสียทีสินะ

เธอไม่เคยที่จะเข้าใจ ไม่มีทางที่จะเข้าใจ
การรอสักคนให้ย้อนคืนมา
มันนั้นเจ็บเท่าใด กล้ำกลืนเท่าไร ฉันเสียใจเท่าไหร่
เรียบเรียงมันไว้ผ่านเพลง เพลงนี้


 “มินซอกเสียงเรียกอย่างดีใจก่อนที่ร่างเล็กๆของหญิงสาวในชุดพยาบาลจะพุ่งตรงมาหาเขา ฮานึลยังน่ารักเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง นางฟ้าชุดสีฟ้าที่คอยอยู่เคียงข้างเขาเสมอเมื่อตอนอยู่โรงพยาบาล คนที่เสียน้ำตาไปกับเขา คนที่บังคับให้เขากินยา คนที่ห่วงเขาจากใจจริง
พ่อกับแม่แซวว่าเขากับฮานึลน่าจะลงเอยกัน เห็นดูเข้ากันได้ดี ฮานึลเองก็เป็นสาวโสดหน้าตาดี เขาเองก็ไม่มีใคร แต่เขาไม่คิดอย่างนั้น เขาเป็นคนพิการ คิมมินซอกรังแต่จะเพิ่มภาระให้ฮานึลเสียไม่ว่า
ที่สำคัญ...เขาคงรักใครไม่ได้เมื่อใจยังจดจำเพียงแค่บางคนเท่านั้น

มาตรวจอีกแล้ว เข้มแข้งนะมินซอก ได้ยินว่าจะได้ขาเทียมแล้วสินะ อา...ถ้ามินซอกเดินได้ เราไปเที่ยวกันนะรอยยิ้มของนางพยาบาลสาวเกลื่อนเต็มใบหน้าพามินซอกยิ้มตามได้อย่างไม่ยาก เขาพยักหน้าเป็นอันว่าตกลง สาวเจ้าปรบมือด้วยความชอบใจ วาดฝันถึงวันที่จะได้ไปเที่ยวกับชายหนุ่มเรียบร้อย
 “เอ้อ มัวแต่คุยเพลิน มาเอาของให้คุณหมอคิม ฮ่ะๆ เดี๋ยวฉันไปก่อนนะ พอดีมีสาวน้อยน่ารักมาฝากท้องน่ะเธอกระซิบแล้วแอบแลบลิ้นอยางน่ารัก มินซอกหัวเราะเบาๆกับความทะเล้นที่ไม่เคยได้เห็นตอนที่เข้ายังนอนอยู่ที่นี่ ความจริงฮานึลเป็นผู้หญิงร่าเริงและน่ารักมากทีเดียว
ขอให้เธอเจอคนที่รักเธอและอยากจะอยู่ข้างเธอตลอดไป...ไม่ทิ้งเธอด้วยเถิดพระผู้เป็นเจ้า
มินซอกมองหญิงสาววิ่งเข้าห้องตรวจห้องหนึ่งไป นั่งรอพ่อที่ยังไม่มาเสียทีพลันสายตาก็เหลือบเห็นประตูห้องที่ฮานึลเข้าไปเปิดออก คงเป็นคู่ว่าที่พ่อแม่ในอนาคตที่มาฝากครรภ์
ทว่าดวงตากลมโตก็ต้องเบิกกว้างและนิ่งสนิทจ้องมองชายหญิงที่เดินออกจากห้องนั้นนิ่ง จมูกเหมือนจะไม่สามารถดึงเอาอากาศเข้าไปได้ แสบร้อนไปหมด แล้วน้ำตาก็ไหลลงมาอย่างง่ายดาย

ลู่หาน...และอึนจอง



เธอและฉันนั้นเคยรักกัน
อย่าทำฉันร้องไห้นะเธอ
เธอรู้ไหมว่าใจฉันเจียนแทบขาด


คนที่จะเดินผ่านหน้าไปชะงักค้างเมื่อเห็นใบหน้าหวานที่คุ้นเคย ร่างเล็กบนเก้าอี้วีลแชร์ ท่อนล่างถูกคลุมด้วยผ้าสีหวาน ลู่หานอึ้งเล็กน้อยที่พบกับคนรักเก่าที่นี่ ในวันที่พาแฟนสาวมาฝากครรภ์
อึนจองท้องได้สามเดือนแล้ว ข่าวดีมาพร้อมกับข่าวร้ายที่ว่าคุณแม่ของเธอจะส่งเธอไปอยู่ที่อังกฤษเพราะเธอท้องก่อนแต่งขณะยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ ยื้อยุดกันอยู่นานกว่าคุณคิมจะอนุญาตให้อึนจองพักการเรียนก่อนแล้วค่อยไปตามเก็บรายวิชาเอาหลังคลอดน้อง
เขาเองก็เอาคอพาดเขียงด้วยคำสาบานว่าจะมีแค่อึนจอง เมื่อเราทั้งคู่เรียนจบ เขาจะมาขอเธอแต่งงานทันที
อึนจองเป็นผู้หญิงน่ารัก ยิ้มสวย จิตใจดี เขาถึงตกหลุมรักเธอง่ายดาย จนมีโซ่ทองคล้องเราสองคนเอาไว้เช่นนี้...แล้วทั้งชีวิตนี้ของลู่หานก็มอบให้คิมอึนจองแต่เพียงผู้เดียวแล้ว..

 “เห นั่นเพื่อนเก่าลู่หานนี่นาเสียงหวานทัก เธอคลี่ยิ้มตรงรี่เข้ามาหามินซอกก่อนจะโค้งทักทายอย่างสุภาพ รอยยิ้มอ่อนหวาน ใบหน้าอ่อนโยน...ทุกอย่างของผู้หญิงคนนี้คือคนที่ลู่หานต้องการสินะ
มือเล็กปาดน้ำตาออก ...เหมาะสมดี...มินซอกคิดอย่างนั้น อึนจองสวย ลู่หานรักเธอก็ไม่ผิด
เหมาะสมกันดีแล้ว...
แต่ทำไมในใจยังเจ็บขนาดนี้ มองใบหน้าหล่อเหลาข้างกายเล็กแล้วเบือนหลบเมื่อดูท่าทางในแววตาคมเข้มนั้นไม่มีเขาเหลืออยู่อีก
เราจบกันไปนานแล้ว...

 “ฉันคิมอึนจอง แฟนลู่หานค่ะ จำได้ว่าคุณเป็นเพื่อนเก่าหมอนี่ ฮ่ะๆ ดีจังเลย ฉันบอกให้เขาไปหาเพื่อนเก่าบ้างก็ไม่ยอมไป งานเลี้ยงรุ่นก็ไม่ไปเธอกระเง้ากระงอด ทิ้งตัวลงเก้าอี้ข้างๆมินซอก รอยยิ้มจริงใจยังส่งมาให้อยู่ตลอดเวลา
 “ครับ...เราเคยเป็นเพื่อนเก่ากัน เพื่อนรัก...รักมาก...มากที่สุด
เสียงหวานตอบกลับ มองดูท้องของอึนจอง มันนูนเล็กน้อย คล้ายกับหญิงสาวจะรู้ว่ามินซอกมองทำไม เธอยิ้มเอียงอายก่อนจะอ้อมแอ้มตอบแผ่วเบา
 “ฉันท้องน่ะค่ะ สามเดือนแล้ว ว่าแต่ฉันยังไม่รู้จักชื่อคุณเลยเธอชูนิ้วขึ้นสามนิ้วแล้วยิ้มกว้าง ดูเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดี
 “มินซอกครับ...คิมมินซอก

ได้ยินเพียงเสียงของเธอ
เห็นเพียงเธอคนเดียวเสมอ
ขอเธอได้โปรดช่วยกลับมาหา


 “สบายดีเหรอดูไม่น่าจะเป็นคำที่ควรมาทักทายกันเลยระหว่างแฟนเก่า มินซอกแค่พยักหน้าเท่านั้น ยิ้มจางๆให้ มือเล็กลูบต้นขาไล่ไปเรื่อย แค่เพียงจะถึงหัวเขาก็ต้องชะงักเมื่อรู้ว่าถ้าลูบลงไป..จะไม่เจอขาทั้งสองข้าง
 “แล้วทำไมต้องนั่งรถเข็นล่ะคะอึนจองถาม นั่นก็เป็นคำถามในใจของคนที่ยืนนิ่งเช่นกัน ลู่หานมองร่างกายที่ผ่ายผอมลงเล็กน้อย ใบหน้าซูบซีด และผ้าที่คลุมขาของมินซอกเอาไว้
 “ปวดขาน่ะครับ...คงเดินเยอะไปหน่อยเขาตอบ ในใจกลั้นก้อนสะอึกเอาไว้
...บอกว่าเดินได้ทั้งที่ไม่มีโอกาสจะได้เดินเลยสักครั้ง...
 “อา...หายไวๆนะคะมินซอกเธออวยพร มินซอกยิ้ม...
 “รีบไปกันเถอะ คุณแม่รอทานข้าวอยู่นี่นาเสียงทุ้มเรียกแฟนสาวท้องอ่อน เธอทำสีหน้าตกใจก่อนจะคลี่ยิ้มแล้วบอกลามินซอก แล้วเจอกันอีกนะคะ
 “แล้วเจอกันนะเสียงทุ้มเอ่ยมาแผ่วเบา...มินซอกน้ำตาไหลอีกครั้ง ไหลมานิ่งเงียบ แต่คนที่หมุนตัวจากไปไม่มีทางได้เห็น
แผ่นหลังกว้างที่คุ้นเคย อ้อมกอดอุ่นที่คุ้นใจ เสียงทุ้มที่คุ้นหู
...โหยหา...
ต้องการ...ต้องการเหลือเกิน...ต้องการแค่นาย...
...ลู่หาน

มือไขว่คว้าเอื้อมเพื่ออยากจะรั้งคนที่เดินตะกรองกันห่างออกไปเรื่อยๆ น้ำตารินไหลเงียบๆ ไหลลง ไหลลง เอ่อท่วมทั้งใจ เอ่อขังในอก รวดร้าว หายใจไม่ออกเหมือนคนจมน้ำ...
 “กลับมา...กลับมาที

ขอเธอได้โปรดช่วยกลับมาหา




โครม...
ร่างเล็กหล่นจากเก้าอี้เหล็ก นอนนาบกับพื้นปูนของโรงพยาบาล ลู่หานไม่กลับมา เขาเดินไปไกลแล้ว เดินจากไปแล้ว
ใบหน้าหวานซบพื้นปูนเย็นเฉียบท่ามกลางกลุ่มคนที่เริ่มมุงดู น้ำตาที่ไหลยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเสียที
 “กลับมา....ฮึ่ก...กลับมา

แม้ฉันต้องเลือกที่จะทิ้งทุกอย่าเพื่อรักเธอก็ตาม
แม้ต้องสูญเสียทุกอย่าง ความฝัน หรือโอกาสก็ตาม
ต้องการเพียงเธอ ต้องการความรักของเรานั้นคืนมา
ต้องการเพียงแค่เธอ  แค่เธอกลับมา
แม้จะต้องสูญเสียน้ำตามากสักเท่าไร เท่าใด
สิ่งที่ฉันต้องการและอยากจะได้คือ ความรักที่มันไม่มีวันคืนย้อนมา
ถ้าได้ยินเสียงเพลงเพลงนี้ ให้เธอจงกลับมา จงกลับมา



มินซอก!!เสียงตะโกนเรียกของฮานึลดังลั่น หญิงสาวตรงประคองคนที่นอนอยู่กับพื้น เอาผ้าคลุมขาเล็กอันผอมแห้ง...และมีเพียงท่อนบนเท่านั้น
เห็นน้ำตาที่ไหลรินอีกครั้งของคิมมินซอก ร้องไห้สะอื้นฮั่กอย่างเมื่อก่อน ร้องไห้ราวจะขาดใจ นั่นทำให้ใจเธอแทบขาดไปด้วย..ทำไมมินซอกถึงร้องไห้ขนาดนี้
พลันสายตาก็เหลือบเห็นเอกสารที่ถือมาด้วยที่หล่นกระจาย เอกสารของคู่ที่เพิ่งพากันมาฝากครรภ์...แล้วมือเล็กของเธอก็ยกขึ้นรั้งมินซอกเข้าสู่อ้อมกอด
 “ร้องออกมานะ ร้องออกมานะมินซอก...ฉันจะฟังเสียงร้องมินซอกเอง แม้ว่าผู้ชายคนนั้นเขาจะไม่ได้ฟังมันเลย...ร้องออกมา

เอกสารระบุชัดเจน
แม่...คิมอึนจอง..
พ่อ...ลู่หาน....
..
.
.

สุดท้ายก็เดินจากไป ฉันเป็นคนให้เธอไป
คิดว่าบ้าไหมที่ยอมให้เธอจากไป แล้วมาเสียใจ
แต่เธอรู้ไหมว่ามือข้างนี้ที่มันยังสั่นยังไหว
อยากรั้งเธอไว้แต่มันไม่ทันจะคว้าเธอ
แกล้งยิ้มส่งเธอนั้นจาก ยินดีที่เธอนั้นจาก
ฟังนะนี่จะเป็นเพลงสุดท้าย ที่ฉันจะร้องเพื่อเธอ


*-*-*

เมื่อเคยรักแค่เธอคนเดียว ใจดวงนี้ก็มีแค่เธอ
ไม่มีวันเปิดรับคนใดเข้ามา
เธอและฉันนั้นเคยรักกัน อย่าทำฉันร้องไห้ได้ไหม
รู้ไหมว่าใจคงขาดไม่ช้า

นายรู้บ้างไหม หัวใจฉันเหมือนจะขาดอยู่ไม่ช้า....ลู่หาน


Never Know1

Never Know

ฉันไม่เคยได้จำว่ามันนานเท่าใดที่เราเลิกกัน
เเต่ว่าฉันร้องไห้ทุกครั้งที่ฉันต้องทนคิดถึงเธอ
ทำไมวันนี้เมื่อฉันลืมตาถึงไม่พบหน้าเธอ
ฝนที่ร่วงโรยเขย่าหัวใจฉันให้สั่นไหวเหลือเกิน

 “มินซอกคะ...ทานยาหน่อยนะยาเม็ดสีขาวถูกยื่นมาตรงหน้า ใบหน้าสวยหวานหันมองผู้หญิงในชุดสีฟ้า รอยยิ้มละมุนดูใจดี
ฮานึล...เสียงหวานเอ่ยเรียกผู้หญิงคนนั้น ฮานึลยิ้มให้ชายหนุ่มชุดคนไข้
ถ้ามินซอกไม่ทานยา มินซอกจะไม่หายนะคะรอยยิ้มละมุนของนางพยาบาลยังส่งให้คนที่นั่งบนเตียง ฮานึลมองคนที่รับยาไปกินแล้วยิ้มให้อีกครั้ง ใบหน้าของเธอฉาบด้วยรอยยิ้มเสมอเมื่ออยู่กับมินซอก...
เพราะมินซอกไม่เคยยิ้มเลย
ใครกันหนอ พรากรอยยิ้มของเด็กหนุ่มไปแล้วให้เด็กหนุ่มคนนี้ ร้องไห้แทน


*-*-*


 “เลิกกันเหอะ
คำนี้ยังก้องอยู่ในใจของมินซอกไม่หาย วันนั้นเป็นวันจบการศึกษามัธยมปลาย คิมมินซอกยิ้มแก้มแทบปริเมื่อแฟนหนุ่มชวนไปเที่ยวจบการศึกษาที่สวนสนุก ชายหนุ่มดูแลเทคแคร์เขาอย่างดี วันนั้นเป็นวันที่มินซอกมีความสุขมากที่สุดเลย
และก็เป็นวันที่แสนจะทุกข์เมื่อแฟนหนุ่มบอกกับมินซอกว่า เลิกกันเหอะแล้วปล่อยให้มินซอกยืนนิ่งตรงป้ายรถเมล์ที่จะกลับบ้าน
ลู่หานทิ้งคิมมินซอกไว้ตรงนั้น...กับคำบอกเลิกที่แสนสั้น...และฝนห่าใหญ่ที่ตกลงมา

ใครๆก็เคยอิจฉาคู่รักแห่งโรงเรียนมัธยมอิลกุก ลู่หมินคือชื่อคัพเพิ้ลที่สาวๆตั้งให้ มินซอกดูเขินอายมากเวลาได้ยินแบบนั้น เพราะมันหมายถึงว่าเขา...และลู่หาน เป็นคนรักกัน ลู่หานเองก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาบอกว่ามินซอกชอบอะไรเขาก็ชอบด้วย ช่างเป็นคำพูดของแฟนที่แสนดี
 “ใส่สร้อยคู่ไหมมินซอกเคยถาม ลู่หานก็ตามใจอีกเหมือนเคย วันนั้นที่ไปเดินตลาดเมียงดง คู่รักลู่หมินจึงได้สร้อยคู่น่ารักมาคนละเส้น ลู่หานสวมมันให้มินซอกก่อนจะสวมให้ตัวเอง
นายเหมาะกับมันที่สุดเลยรู้ไหมคำชื่นชมทำเอาหัวใจเต้นตูมตาม จูบแผ่วเบาเกิดขึ้นหน้าร้านขายเครื่องประดับช่างน่าราตรึงใจนัก
มินซอกรู้จักกับลู่หานเพราะเพื่อนแนะนำ มินซอกเป็นเด็กห้องเอ วันวันก็มีแต่เรียน เรียน กับเรียน อย่าพูดถึงแฟนเลย แค่คุยกับเด็กผู้หญิงคนอื่นก็ไม่ค่อยได้คุยแล้ว จนเมื่อซูโฮ เพื่อนตั้งแต่มัธยมต้นพาลู่หานมาให้รู้จัก แรกๆมินซอกไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมชายหนุ่มชอบตามซูโฮมาแล้วมานั่งจ้องหน้าเขากัน
มินซอกเคยถามว่าทำไมจ้องหน้ากันล่ะทว่าลู่หานกลับหัวเราะเบาๆแล้วพูดคำที่มินซอกได้ฟังแล้วต้องหน้าแดงไปถึงใบหู
 “นายน่ารัก...ฉันชอบนายจัง


ฉันเสียใจที่ฉันให้รักเธอไป
ฉันเสียใจที่ฉันนั้นได้รักเธอ
ฉันเสียใจที่ฉันเคยฉุดรั้งเธอ
ทำไมเธอจึงปล่อยให้ฉันเดียวดาย

 “ถ้าเกิดว่าฉันนอกใจนายนายจะทำยังไงลู่หานถามคนที่ตักไอศกรีมเข้าปาก คิมมินซอกเอาหลังมือป้ายมุมปากเมื่อรู้สึกว่าตัวเองกินเลอะ ป้ายเท่าไหร่ก็ไม่โดนจุดจนลู่หานต้องเกลี่ยหัวนิ้วมือลงบนมุมปากนุ่มให้
 “ถามว่าไงนะคนหน้าสวยยังไม่ได้สนใจคำถามที่ร่างสูงถาม ลู่หานหัวเราะเล็กๆกับความเปิ่นของมินซอก ก่อนจะบอกปัด ไม่มีอะไร
ถึงจะถามไปอย่างนั้น แต่ลู่หานคิดว่า เขาคงทิ้งมินซอกไม่ลง...ในเมื่ออีกคนน่ารักเสียขนาดนี้
เขาไม่คิดว่าจะต้องมีใครอีก ถึงความสัมพันธ์ของเขากับมินซอกยังอยู่แค่การจับมือหรือกอดเล็กน้อย แต่เขาก็สุขใจ...ไม่ได้ต้องการอะไรมากกว่านั้น
 “ฉันรักนายเพราะนายน่ารักอย่างนี้แหล่ะ รู้ไหมคราวนี้ทำเอาคนฟังหน้าแดงก่ำ มุดหน้าลงถ้วยไอศกรีมแล้วตักเข้าปากเป็นการใหญ่

ฉันอยากจะเป็นหนึ่งเดียวที่เธอมี เเต่เธอกลับทำเป็นไม่เข้าใจ
มันเลยเป็นวังวนของรักที่มันไม่เคยจะมีค่า
น้ำตาของฉันไหลลง เอ่อท่วมดวงใจรวดร้าวเพราะเธอ
จะให้ทำยังไง ฉันก็ลืมเธอไม่ได้

ไม่กลัวมันมีคนอื่นเหรอนั่นคือสิ่งที่ซูโฮถามเขาเสมอ ซูโฮบอกว่าคนอย่างลู่หานไม่ใช่คนที่จะหยุดที่ใครง่ายๆ แต่มินซอกไม่เห็นว่าจะจริง...บางที ลู่หานอาจจะยังไม่หยุด...แต่เขา ก็ค่อยๆผ่อนปรนความเร็วลง และอีกไม่นาน อาจจะหยุด...ที่มินซอก
มินซอกเองพยายามไม่สนใจ แม้ใครจะบอกว่าลู่หานเจ้าชู้ขนาดไหน แค่กอดเล็กน้อย มัดใจชายหนุ่มอีกคนไม่ได้หรอก...แต่เท่าที่เห็นลู่หานก็ยังไม่มีใคร คู่รักลู่หมินก็ยังคงรักกันดีเสมอ...มินซอกรู้สึกได้ ว่าลู่หานไม่ได้เปลี่ยนไปเลย
กระแสเรื่องลู่หานยังมีมาให้มินซอกได้ยินเสมอ ร่างบางพยายามที่จะไม่สนใจ ทว่าบางครั้ง...บางอยางก็สะกิดในใจว่เรื่องมันชักจะไม่ดีเข้าเสียให้แล้ว
ไปไหนมาเหรอมินซอกเคยถามลู่หานแบบนี้เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่ได้มากินข้าวกลางวันด้วยกัน หายเงียบไปเลย ลู่หานยิ้มให้เล็กน้อยทว่ามินซอกกลับรู้สึกได้ว่ารอยยิ้มนั้นมันไม่ได้มาจากใจเสียสักนิด เหมือนการยิ้มกลบเกลื่อนเสียมากกว่า
 “อาจารย์เรียกด่วนนะ แล้วกินอะไรหรือยังนอกจากรอยยิ้มแล้ว การกระทำก็ยังดูเหมือนลุกลี้ลุกลน คล้ายกลัวใครจับได้...

มินซอกตระหนักดี...มันอาจจะเป็นอย่างที่ซูโฮบอก

ในวันนั้นที่มีฝนพรำ เธอจ้องฉันโดยไร้เสียงใด
เธอจ้องมองเค่เพียงเเต่ ฉัน ฉัน ฉัน ฉัน
ในดวงตาสั่นไหวของเธอ เธอขยับฝืนยิ้มให้ฉันมา
เธอเอ่ยเพียงเเค่คำว่า ลา ลา ลา ลา



ความรักเริ่มจะติดขัด มินซอกไม่ใช่คนอยากรู้เรื่องส่วนตัวของคนรัก เพราะเชื่อว่ารักคือการไว้ใจกันมากกว่าจะมาสงสัยอะไร แม้ในใจ...จะร้อนรุ่มขนาดไหน ใคร่อยากได้คำตอบเสียมากมายก็ตามที
 “ไปเที่ยวสวนสนุกกันนะคำชวนจากแฟนหนุ่มทำให้มินซอกดีใจ ยิ้ม ยิ้มจนเมื่อยแก้ม..วันจบการศึกษาทั้งที การได้เที่ยวกับแฟนมันช่างเป็นความทรงจำที่ดีที่น่าเก็บเอาไว้
ไปสิ ฉันอยากปั่นเรือหงส์มากเลยอยากจะปั่นเรือลำเล็กกับคนรัก..นั่งเคียงข้างกัน ปั่นเลาะไปตามขอบสระ และอาจมอบจูบที่แสนสเน่หาให้แก่กัน...
วันที่แสนสุขจบลงที่ป้ายรถเมล์หน้าสวนสนุก มินซอกยังเขินไม่หายกับจุมพิตที่เกิดขึ้นบนเรือหงส์ แอบมองคนรักที่นั่งหันหน้าไปมองรอรถเมล์ ใบหน้าของลู่หานเรียบนิ่ง
มินซอก..เขาเรียกร่างบางที่นั่งข้างกัน สายฝนที่ตั้งเค้ามาตั้งแต่ช่วงบ่ายเริ่มจะโปรยปรายลงมาเสียแล้ว มินซอกไม่ได้พกร่มเสียด้วย
 “อือครางตอบลำคอ ยื่นมือสัมผัสเม็ดฝนเย็นจัด
ลู่หานถอนหายใจเสียงดัง ก่อนจะหันหน้ามาเผชิญกับคนรักที่ดูเหมือนกำลังสนใจกับสายฝน ชายหนุ่มจ้องนิ่งจนมินซอกต้องหันไปสบสายตา เสียงถอนหายใจดังขึ้นอีกครั้งก่อนที่ริมฝีปากหนาจะยกยิ้มเฝื่อนเฝือ...และพูดบางอย่างที่ทำให้โลกของมินซอกนิ่งสนิท

เลิกกันเหอะ


*-*-*-*-*


เธอบอกให้ฉันนั้นเดินจากเธอไป เธอไล่ฉันเเล้วหันหนีไป
เธอทำเหมือนฉันเป็นบ้า มันยากเกินไป boy slow down
ฉันยังนิ่งไม่ทำตามเธอ รู้ไหม cuz I want to stay
next to you my love is true
wanna go back to when I was with you

 “มีคนที่ดีกว่าฉัน...ขอโทษนะที่นอกใจ แต่ฉันกำลังคบกับอึนจองอยู่ เราจบกันเถอะ
ง่ายจัง...ง่ายเกินไปไหม ทำไมง่ายขนาดนี้
ความรักก่อร่างมาใช้เวลา บ่มเพาะกล้ารักก่อนเอาลงดิน รดน้ำใส่ปุ๋ย เฝ้าดูแลด้วยจิตใจ...จนกว่าจะเบ่งบาน...
ทำไม...นายถึงถอนมันทิ้งอย่างง่ายดายขนาดนี้นะ ลู่หาน
ไม่มีใคร...ดีกว่านายหรอก...
เพราะฉันรักนาย...ไม่ได้รักคนอื่น

มินซอกนิ่งไป มือที่รองน้ำฝนอยู่ลู่แนบลำตัว ใบหน้าหวานยังจ้องที่หน้าคนรักที่กำลังจะกลายเป็นอดีต จนลู่หานต้องเป็นคนหลบหน้าไปเอง เสียงหัวเราะหึดังในลำคอ
ทั้งที่พยายามจะเชื่อใจ พยายามไม่สนใจใครๆที่พูด เลิกจะเชื่อในรัก
สุดท้าย...คิมมินซอกก็กลายเป็นคนโง่ใช่ไหม
ทำไมล่ะ...

ฉันต้องร้องต้องเสียน้ำตาก็เพราะเธอ เเละที่ฉันหัวเราะได้นั้นก็เพราะเธอ
ฉันเรียนรู้ในคำว่ารักก็เพราะเธอ
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้น เธอรู้ไหมเพราะเธอ
ไม่อาจเอ่ย เอ่ย เอ่ย รั้ง
ไม่อาจไขว่คว้า ฉันนั้นเดี่ยวดาย
ในโลกที่ไม่มีเธอ
เหยียบย่ำความรักฉันจนพอใจ ฉีกหัวใจฉันที่ให้เธอไป
ทิ้งฉันให้จมอยู่กับรักที่เธอไม่ได้ต้องการ


ลู่หานลุกหนีไปแล้ว ไม่พูดอะไรอีก โดยมินซอกมองคนที่เดินจากไปนิ่ง ขาเรียวสวยขยับลุกจากม้านั่ง ก่อนจะเขยิบจะตามไป มือเรียวยกขึ้นช้าๆเหมือนจะไขว่คว้าแผ่นหลังที่เริ่มห่างออกไปท่ามกลางสายฝนแต่แล้วต้องตกลงแนบลำตัวอีกครั้ง
ความแสบร้อนที่จมูกบอกได้ว่าน้ำตาที่กำลังเก็บไว้มานาน...มันกำลังไหลออกมา น้ำตาแห่งความอัดอั้นตันใจ น้ำตาแห่งการเลือกเชื่อใจความรักโดยมองข้ามทุกๆอย่าง ไหลเรื่อยๆ ไหลออกมา...ปะปนกับสายฝนที่สาดกระเซ็นไปทั่วร่าง
 “ฉันรักนายเพราะนายน่ารักอย่างนี้แหล่ะ รู้ไหม
ไหนเล่าความรัก อยู่ไหนกัน...ฉันยังน่ารักไม่พอ หรือฉันหมดน่ารักแล้ว...นายถึงไม่รักฉันแล้ว
 “ฮึ่ก!เสียงหวานสะอื้นไห้ ก่อนที่ขาจะทรุดลงกับพื้น มือเรียวกุมตำแหน่งหัวใจที่มันปวดร้าว เต้นถี่หนึบรุนแรง เหมือนมือของร่างสูงกำลังบีบมันอยู่ บีบมันด้วยความรุนแรง จนแทบจะแหลกสลายลงไป
คล้ายกับมือของหญิงสาวคนหนึ่งที่เขาไม่เคยรู้จักหรือเห็นหน้ากำลังสอดเข้ามาในหน้าอกแล้วคว้าเอาหัวใจที่แทบสลายไปเขวี้ยงลงบนพื้น ก่อนปลายเท้าเล็กจะขยี้มันอีกครั้ง...
เจ็บปวดเกินไปแล้ว...

หัวใจฉันปวดร้าวเกินทน ฉันทนฝืนมานานเหลือเกิน
เเล้วเธอนั้นอยู่ไหนนะ (เห็นน้ำตาของฉันมั๊ย)
I can't live without you
ได้โปรดช่วยกลับมา และอย่าจากฉันไปไหน


มินซอกคะ ทานยาค่ะเสียงของผู้หญิงชุดฟ้าคนเดิม ยาเม็ดสีขาวเม็ดเดิม มินซอกมองยานั้นก่อนจะส่ายหน้า ฮานึลผ่อนลมหายใจด้วยความสงสารจับใจ
 “ถ้าไม่ทานยา มินซอกก็ไม่หายนะคะเธอหลอกล่อด้วยคำพูดเดิมๆ มินซอกหัวเราะในลำคอ ใบหน้าโศกเศร้ามองออกหน้าต่างออกไป...ก่อนที่ริมฝีปากจะขยับเอ่ยบางคำที่ทำให้ฮานึลนั้นแทบจะเสียน้ำตาด้วยความสงสารผู้ชายคนนี้สุดขั้วหัวใจ
 “ผมขาขาดนะฮานึล...ยานั่นกินไปก็แค่ระงับอาการปวด ติดเชื้อ...ไม่ได้ทำให้ผมเดินได้อีกครั้งเสียหน่อยน้ำตาของหญิงสาวรินไหล เธอยกมือโอบกอดร่างบนเตียงคนไข้ด้วยความวิสาสะเกินหน้าที่นางพยาบาล แต่วินาทีนี้...เธอรู้สึกสงสารคนๆนี้เหลือเกิน
ทำไมพระเจ้า...ทรงกลั่นแกล้งคนๆนี้ขนาดนี้

ตอนเคสของมินซอกเข้ามา ได้รับแจ้งว่ามีรถยนต์ลื่นไถลเพราะถนนเปียกเข้าพุ่งชนคนที่อยู่ที่ป้ายรถเมล์หน้าสวนสนุกแห่งหนึ่ง
บุรุษพยาบาลเข็นร่างของเด็กหนุ่มคนนึงมาด้วยเลือดโชกกาย หมอใหญ่ลงผ่าตัดด้วยตัวเองเพราะรถนั้นชนเข้าเต็มๆและเหยียบบางส่วนที่คาดว่าจะเป็นขาทั้งสองข้างของเด็กหนุ่มด้วย
สุดท้ายแล้ว...คิมมินซอกก็ถูกตัดขาเพราะขาทั้งสองข้างถูกล้อรถบดทับไป เนื้อหนังถลอกเหวอะและกระดูแตกยับ...
เมื่อคนไข้ในการดูแลของเธอตื่นมา ดูเขาไร้ซึ่งความสุข ฮานึลคิดว่าอาจเพราะขาที่สูญเสียไปด้วย และที่ฮานึลรู้สึกได้คือความเศร้าหมองเสียใจจากใครสักคนที่ทำร้ายจิตใจมินซอกอย่างรุนแรง...

คนที่ชื่อลู่หาน...ที่มินซอกละเมอหาทุกครั้งที่หลับตานั่นไง



*-*-*-*