วันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

คนคุก8.2

หน้าที่ก็คือหน้าที่ ไม่ปฏิบัติหน้าที่ก็คือความผิด



บทที่8.2…

คิมมินซอกเป็นแค่เด็กคนหนึ่งเท่านั้นเอง
...เด็กที่ยังไงก็เป็นเด็ก...

ริมฝีปากถูกเม้มแน่น การที่ต้องยืนขายน้ำหวานกับขนมทั้งวันทำให้เหนื่อยเอาการ ญาตินักโทษมาเยอะมาก และของทุกอย่างก็ขายดีมาก แดฮยอนพาญาติมาซื้อน้ำจากมินซอกด้วย และคนอื่นๆก็เช่นกัน รวมไปถึงจงอิน ญาติของจงอินเป็นเด็กผู้ชายร่างเพรียว อายุรุ่นราวคราวเดียวกับมินซอก อาจจะมากกว่าหรืออ่อนกว่านิดหน่อย น้องชายของจงอินตัวขาวเหมือนหลอดนีออน พี่ชายตัวสูงลากน้องชายตัวขาวมาแนะนำกับมินซอก มินซอกไม่ลืมที่จะขอบคุณกับการช่วยเหลือเรื่องเงินทอง
ยืนคุยกันได้ไม่นานจงอินก็พาเซฮุนไปหาที่นั่งกินข้าวและคุยกันเหมือนญาติคนอื่น มินซอกได้แค่ยืนแหง่วตักน้ำน้ำหวานขาย ชะเง้อคอหาคนที่บอกว่าจะพาญาติตัวเองมาแนะนำ
ก็ไม่ได้ตั้งใจจะรอ แต่หมู่นี้มินซอกรู้สึกติดลู่หานอย่างประหลาด อาจเป็นเพราะลู่หานทำให้เขาคิดถึงพ่อ ทั้งเป้นคนที่เปิดใจให้เขาระบายทุกอย่างออกมาได้ มินซอกรู้สึกที่จะผูกพันกับพี่ชายคนนี้
ยังจำได้ดีว่าลู่หานบอกให้มินซอกเริ่มใหม่ อ้อมกอดของพี่ชาย กับคำพูดที่ว่าให้เริ่มใหม่...ด้วยกัน

...ชีวิตของมินซอกที่ไม่เหลือใคร ตอนนี้เขากำลังมีลู่หาน...
มินซอกยังมีลู่หาน มีจงอิน และคนอื่นๆ...

“เหี้ย ลู่หานแม่งต่อยญาติตัวเอง สัดเอ้ย”เสียงของใครสักคนตะโกนดังลั่น นักโทษเริ่มแห่กันไปทางลานกิจกรรมมุงดูกันจนมิด มินซอกเบิกตากว้างที่ได้ยินชื่อของลู่หาน
ก็ญาติที่มาเป็นน้องชายของลู่หาน...
“เกิดอะไรขึ้นน่ะ”มินซอกหันไปถามมินกิ นักโทษจากเรือนนอนหงส์ที่เพิ่งทำความรู้จักกันวันนี้ มินกิขายซาลาเปากับขนมจีบหมูอยู่ใกล้ๆกัน มินกิส่ายหน้าเพราะยืนชะเง้อคอมองเหตุการณ์อยู่ข้างกัน แต่รอแป้บเดียวคนที่วิ่งไปดูก็วิ่งกลับมาเล่าทุกอย่างแล้ว
มินซอกนึกเป็นห่วงขึ้นมาทันทีที่ได้ยินว่าลู่หานหาเรื่องญาติของตัวเองที่มาเยี่ยม สุดท้ายก็โดนรุมกระทืบ อยากจะไปดูแต่ก็ติดที่ญาติบางคนยังเดินเข้ามาซื้อของไม่ได้สนใจเหตุการณ์ชุลมุนสักนิด ใบหน้าน่ารักเบ้บิดแถมด้วยคิ้วเรียวที่ขมวดแน่น แล้วพวกมุงก็แตกฮือกันออกมา แต่ละคนถูกผู้คุมไล่ให้แยกย้ายไป และลู่หานถูกหิ้วไปทางห้องพยาบาล
ใบหน้าของลู่หานเต็มไปด้วยรอยบอบช้ำ เสื้อเปรอะเปื้อนรอยเท้าจากคอมแบท มินซอกได้แต่ยืนมองจากตรงนี้ ทั้งที่อยากเข้าไปหามากก็ตามที อยากตามไปดูที่ห้องพยาบาล แต่เพราะเหตุการณ์เริ่มสงบ ญาติและนักโทษจึงเริ่มซื้อหาขนมและน้ำมากเช่นเคย จึงทำได้แค่มองทางห้องพยาบาลเป็นพักๆเท่านั้น...

ค น คุ ก

เป็นห่วงก็เป็นห่วง...
มินซอกฝากงานเก็บร้านให้คนอื่นทำแทน ไปชะเง้อมองแถวๆห้องพยาบาลแต่เห็นผู้คุมตัวใหญ่นั่งเฝ้าอยู่ด้านหน้า
คนตัวเล็กเห็น...ว่ามีใครบางคนเข้าไปในห้องพยาบาลหลังลู่หานเข้าไปไม่นาน ไม่ค่อยเห็นหน้านักโทษคนนี้ แต่มองจากที่ไกลๆก็ยังรู้ว่าหน้าตาเข้าขั้น...สวย

อยากรู้ว่านักโทษคนนั้นเข้าไปทำอะไรในห้องพยาบาล...ซึ่งมีลู่หานอยู่ในนั้น แถมผู้คุมยังออกมาเฝ้าอยู่ด้านนอกเหมือนจงใจให้สองคนนั้นอยู่ด้วยกัน
เสียงเรียกให้เข้าแถวทำให้มินซอกต้องผละจากการจ้องมองบานประตูห้องพยาบาลไปเข้าแถวกับคนอื่นๆ จงอินบ่นเสียดมเสียดายยังไม่ได้หายคิดถึงน้องชายสักนิดก็ต้องแยกกันแล้ว มินโฮดึงมินซอกไปนั่งด้วยกัน ผู้คุมอินซูกำลังสรุปงานวันนี้ เอ่ยชมพวกขายของที่ทำหน้าที่ได้ดี มีญาติบางส่วนชมเปราะว่าอาหารการกินรสชาติดี พอชมเสร็จถึงเปลี่ยนไปติเตียนและด่าทอถึงต้นเหตุที่ทำงานเกือบล่ม ถึงไม่เอ่ยชื่อออกมาก็รู้ว่าเป็นลู่หาน
เสียงซุบซิบดังขึ้นรอบกาย ผู้คุมอินซูหันหน้ามองไปทางห้องพยาบาล มินซอกจึงมองตามบ้าง บานประตูนั้นถูกเปิดออกแล้ว นักทาที่เข้าไปทีหลังถูกดึงให้แยกออกมาโดยผู้คุมและไปนั่งร่วมกับเรือนนอนหงส์ มินฮยอกสะกดแดฮยอนชี้ให้ดูว่า...นั่นล่ะคือนางพญา
มินซอกมองคนหน้าสวยเรือนนอนหงส์อีกครั้ง ...นั่นคือนางพญา...
แล้วลู่หานเข้าไปทำอะไรในห้องพยาบาลกับนางพญา
คิดในแง่ดีคือนางพญาคงป่วย...
แต่ดูท่าทางแล้วก็ไม่เห็นเหมือนคนป่วยสักนิดเดียว...

ลู่หานแยกเดินมาต่อท้ายแถวเรือนนอนสิงห์ มินซอกไม่มองหน้าอีกคน ยังคงสงสัยเคลือบแคลงใจกับการที่นางพญาเข้าไปอยู่กับพี่ชายคนสนิทในห้องพยาบาลสองต่อสอง จนเมื่อผู้คุมอินซูพูดทุกอย่างจบแล้วบอกให้แยกย้าย มินซอกถูกดึงไปอาบน้ำ ส่วนจงอินกับลู่หาน ผู้คุมอินซูประกาศเรียกให้ไปพบ
แน่นอนว่าคนตัวเล็กเลือกจะอาบในห้องน้ำอีกตามเคย มินฮยอกเคยบอกว่าน่าจะลองมาอาบด้านนอกดูบ้าง แต่มินซอกก็ไม่กล้า เขายังอายที่จะต้องเปิดเผยเรือนร่างตัวเองให้คนอื่นได้เห็น
อาบน้ำเสร็จก็ถูกพวกมินโฮลากไปนั่งรวมกันที่ม้าหินอ่อนล่างเรือนนอน มินโฮกับคนอื่นๆผลัดกันเล่าเรื่องวันนี้ แล้วยังบ่นว่ามินซอกไม่น่าต้องบูธขายน้ำเลย เลยอดดูกรแสดงของแดน4ที่ส่งกระเทยตัวน้อยๆมาเต้นเพลงของโฟร์มินิทจนเวทีสะเทือน ญาติที่มาเยี่ยมชอบใจกันจนตบรางวัลเป็นคูปองซื้ออาหารจนเต็มร่องอกปลอมๆใต้บราสีแดงสด มินซอกหัวเราะตามคำเล่าของมินโฮ เห็นสาวประเพทสองพวกนั้นมาซื้อของกินอยู่เหมือนกัน พวกเธอก็แซ่บได้ใจสุดๆ
มินฮยอกเล่าว่ามีพ่อคนหนึ่งเคยมาเยี่ยมลูกตัวเองในแดน4 แรกๆลูกชายก็ยังส่งจดหมายกลับไปหาที่บ้านปรกติ แต่หลังจากนั้นหนึ่งปี พ่อก็ได้รับจดหมายจากลูกชายบอกว่าตัวเองเป็นโรคร้ายและกำลังจะตาย พอดีกับตรงกับการเยี่ยมญาติใกล้ชิดพอดี พ่อเลยรีบตอบรับมาเยี่ยมลูกชาย อยากรู้ว่าลูกป่วยเป็นโรคอะไร
“แล้วลูกเป็นโรคอะไรล่ะฮะ”เสียงเล็กเอ่ยถาม น่าเศร้ากับเหตุการณ์ที่มินฮยอกเล่า มินฮยอกเผยรอยยิ้มแล้วเล่าต่อ
“คนเป็นพ่อมาเยี่ยมลูกไม่ทันน่ะ วันเยี่ยมญาติใกล้ชิด...พ่อมารู้ว่าลูกตายไปอาทิตย์นึงแล้ว”สิ้นเสียงเล่า มินซอกก็ยกมือขึ้นปิดปาก คิดถึงตัวเองขึ้นมา การจากกับครอบครัวโดนไม่มีวันจะได้พบกันอีกมันเป็นเรื่องที่แสนเศร้าและน่าใจหาย ดวงตาของมินซอกคลอน้ำตาขึ้นมา สงสารคุณพ่อคนนั้นจับใจ

เมื่อเห็นว่าน้องเล็กน้ำตาคลอ ทั้งกลุ่มก็ส่งเสียงฮือขึ้นมา มินโฮขยี้หัวน้องด้วยความเอ็นดู บางคนส่งเสียงด่ามินฮยอกที่ทำน้องร้องไห้ มินฮยอกร้องจ๊ากเพราะแดฮยอนทุบเข้าที่ไหล่ ชายหนุ่มแบะปากตามมินซอก ดึงมือน้องมาจับบอกอย่าร้องนะ อย่าร้อง มินซอกช้อนตามองมินฮยอก
“ก็นักโทษคนนั้นเขาตายไม่ใช่เหรอ? พี่ว่ามันไม่น่าเศร้าเหรอ?”มินฮยอกเห็นน้องอินจัดก็ได้แต่หัวเราะแหะ รอยยิ้มขี้เล่นผุดที่ริมฝีปากก่อนจะเฉลยออกมา
...
“ก็...ตายจากการเป็นผู้ชายกลายเป็นกระเทยไง กระเทยที่มาแสดงวันนี้น่ะ โอ้ยยยย เชี่ยแดฮยอนทุบกูอีกแล้วนะสัด”ไม่ต้องรอ พอรู้ว่าที่มินฮยอกเล่ามามันเป็นแค่เรื่องโจ๊ก แดฮยอนก็จัดการเอาอีกปั๊ก โทษฐานทำน้องเล็กน้ำตาคลอ มินซอกเองพอฟังเฉลยออกมา ใบหน้าน่ารักก็งอง้ำ ปาดน้ำตาลวกๆแล้วก้มหน้าต่ำ อับอายเล็กน้อยเพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องจริง แถมยังอ่อนไหวกับเรื่องพ่อลูกเสียด้วย มินโฮได้แต่ขยี้ผมน้องปลอบใจ เสียงหัวเราะครื้นเครงก็กลับมาอีกครั้งเมื่อมินซอกดึงมือคนเป็นพี่ออก ปากเบะด้วยความงอน แถมชูนิ้วโป้งใส่มินฮยอกอีกด้วย

“เออ...ว่าแต่เมื่อเย็นจำที่ไอ้ลู่หานแม่งออกมาจากห้องพยาบาลกับนางพญาได้ป่ะวะ”ใครสักคนจุดประเด็นขึ้นมา ทั้งกลุ่มเกิดเสียงซุบซิบขึ้นทันที
“หรือแม่งจะได้เป็นเด็กนางพญาวะ นี่เพิ่งเห็นหน้านางพญาชัดๆ แม่ง น่าเอาฉิบหาย ถึงว่าได้ตำแหน่งไปครองได้”เป็นแดฮยอนที่พูดขึ้น มินซอกเห็นพี่ๆเริ่มคุยกันเรื่องนางพญาก็นั่งเงียบ หลายคนคิดว่าลู่หานต้องมีอะไรเกี่ยวกับนางพญาแน่ๆ หรือวีรกรรมตีกับญาติตัวเองมันจะสะกิดให้นางพญาเกิดชอบถึงได้เข้าไปอยู่ด้วยกันสองต่อสองนานสองนาน
“กูว่าถ้าแม่งได้เป็นเด็กนางพญาจริงๆก็แย่แน่ๆว่ะ”
“ทำไมวะ”
“ก็ไอ้กอนโมที่อยู่เรือนนอนหงส์น่ะ แม่งเล็งตำแหน่งไว้ ไหนจะเรือนนอนอื่นอีก แม่งก็อยากจะสบายกันทั้งนั้น งานนี้มีขัดตีนกันชัวร์”

มินซอกแทบไม่ได้สนใจกับสิ่งที่พวกพี่ๆพูดด้วยซ้ำ แค่คิดว่าลู่หานจะต้องไปเป็นเด็กนางพญาจริงๆ...มินซอกก็รู้สึกแปลกๆ
กลัว...
กลัวจะเสียพี่ชายคนสนิทไป...

ค น คุ ก

มินซอกล้มตัวลงนอนที่ที่ของตัวเอง ฝั่งหนึ่งเป็นห้องน้ำ ซึ่งมีฟูกของลู่หานวางอยู่ อีกด้านเป็นที่นอนจงอิน มินซอกเลือกจะหันหน้าเข้าหาที่นอนจงอินแล้วหลับตาลง ได้ยินเสียงผู้คุมบอกให้นอนได้แล้ว เสียงฟูกของลู่หานยวบลงตามน้ำหนักตัว และเสียงโวยวายของจงอินที่วิ่งตึกตักเข้ามา มินซอกไม่ลืมตามองทั้งที่รู้ว่าลู่หานนอนลงข้างๆแล้ว คำว่าเด็กนางพญาทำให้มินซอกเขยิบตัวเข้าหาจงอินทันทีที่พี่ชายตัวใหญ่นอนลงบนฟูกตัวเอง เหมือนได้ยินเสียงฮึดฮัดจากลู่หาน
“มินซอก...”เสียงทุ้มเรียกชื่อของเขา แต่มินซอกไม่ได้สนใจ ทว่าในที่สุดก็ถูกดึงเอวเข้าไปหาคนที่นอนหันหลังให้ มินซอกดิ้นขลุกขลัก นึกถึงตอนที่ลู่หานหายเข้าไปในห้องพยาบาลกับนางพญาแล้วขืนตัวออกมา
ไม่รู้ว่ามินซอกเป็นอะไร แต่เขาไม่อยากอยู่ใกล้ลู่หานเลย...
“พี่เจ็บแขนอยู่ มินซอกดิ้นพี่ยิ่งเจ็บนะ”อีกคนพูดขึ้นอีกท่ามกลางความมืด มินซอกเหมือนจะนึกขึ้นได้ว่าอีกคนเพิ่งโดนรุมกระทืบมา ร่างเล็กหยุดดิ้นแล้วนอนนิ่งแทน
แล้วความเหนื่อยล้าจากการยืนขายของวันนี้ก็ทำให้มินซอกเข้าสู่ห้วงนิทราช้าๆ...


ค น คุ ก

เช้านี้ก็ถูกปลุกโดยผู้คุมเช่นเคย นักโทษแต่ละคนกระวีกระวาดวิ่งเข้าห้องน้ำไปปฏิบัติภารกิจเหมือนเดิม เข้าแถว รอกินข้าวเช้า และแยกย้ายกันไปลงงาน
“จุนมยอนจะประกาศชื่อมึงตอนกลางวัน เตรียมตัวเด่นได้เลยนะไอ้สัด”ไอ้จงอินบอกขำๆขณะที่กำลังจะไปลงงานแผนกซ่อมบำรุง วันนี้ไม่มีงานอะไรมาก มีพัดลมเสียๆอยู่สองสามตัวกับทีวีที่ให้เอามารื้อส่วนประกอบไปชั่งโลขาย
“ผมไปนั่งใต้ต้นคูนสักแป้บได้หรือเปล่า?”มินซอกถาม เหล่าพี่ชายให้ท้ายน้องก็พยักหน้ากันระนาว งานการน้องน้อยไม่ต้องแตะอะไรเลยเป็นดี งานที่มินซอกทำได้ดีที่สุดคงเป็นอบขนม พวกงานช่างแบบนี้ให้พวกถึกทนได้แบบพวกเขาทำไปกันดีที่สุด มินซอกยิ้มๆให้พี่ชายทั้งหลายแล้วเดินไปหาต้นคูนที่ยืนต้นได้ดีในระดับหนึ่ง ช่วงแรกที่ลงต้องห้ามคนเดินผ่านเพราะไม่ต้องการให้ใครเหยียบรากให้ช้ำ ต้นอาบจะเฉาตาย แต่ตอนนี้ต้นไม้ที่พ่อของมินซอกชอบยืนต้นได้แล้ว มินซอกสามารถมาทิ้งตัวนั่งใต้ร่มเขียวขจีของคูนได้
คนตัวเล็กเอนหลังพิงกับลำต้นของคูน เช้านี้ยังไม่ได้คุยกับลู่หานเลย มีแต่จงอินที่เข้ามาหยอกล้อ พอลู่หานตั้งใจจะเข้ามาหามินซอกก็เดินหนี
...มินซอกไม่อาจให้คำตอบตัวเองได้ แต่รู้ว่าไม่ต้องการใกล้กับลู่หาน เขายังนึกถึงภาพที่ลู่หานออกจากห้องพยาบาลมากับนางพญา นึกถึงตอนที่ร่างโปร่งอยู่กับนางพญาในห้องพยาบาลสองต่อสอง มือเล็กยกมาขยำเสื้อยืดตัวเอง ทุบลงตรงหน้าอกข้างซ้าย
...หัวใจของมินซอกมันวูบโหวง...
คิดขึ้นมาแล้วเป็นแบบนี้ มันคงเป็นอาการของเด็กที่กลัวการเสียพี่ชายหรือเปล่า
...มินซอกไม่ต้องการให้ลู่หานไปเป็นเด็กนางพญา...

มินซอกจำซึงฮยอนได้ การเป็นเด็กนางพญาไม่ได้ทำให้ซึงฮยอนมีความสุข ซึงฮยอนถูกรังเกียจจากบุคคลร่วมสังคม เป็นพวกไม่มีเพื่อนฝูง...แต่มินซอกไม่ได้ห่วงลู่หานในเรื่องนี้
มินซอกแค่หวง...หวงพี่ชายคนสนิท

“มานั่งคนเดียวนี่หนีพี่หรือเปล่า”เสียงทุ้มของคนที่กำลังคิดถึงดังขึ้นข้างตัว มินซอกผงะออกห่างทันทีที่เห็นว่าลู่หานมาหย่อนตัวนั่งใกล้ๆกัน เห็นลู่หานขมวดคิ้วน้อยๆ แขนเพรียวยกขึ้นกอดคอมินซอกแล้วรั้งให้เข้าไปใกล้ๆ
“ตอบพี่ดิ๊ว่าหลบหน้ากันทำไม ไม่ยอมพูดกับพี่ด้วย แถมยังเดินหนีตลอดเลย”ลู่หานถาม ยกมือขยี้หัวน้องอย่างที่ชอบทำ นึกขำใบหน้ากลมๆที่บูดบึ้งขึ้นมาเล็กน้อย แรงเด็กน้อยขืนตัวเองจะออกจากวงแขนของลู่หานแต่เปล่าประโยชน์
ลู่หานเองก็พอจะรู้ว่าน้องทำไมถึง...งอน
จะเรียกว่างอนได้ไหม? เพราะไอ้จงอินมันเรียกว่าอย่างนั้น มันบอกว่ามินซอกคงงอนเขา เพราะนอกจากจะไม่พาอี้ชิงไปทำความรู้จักตามที่บอกแล้วยังหายหัวไปเอาตัวรองตีนผู้คุมเล่นให้น้องเป็นห่วง ได้ยินมินกิที่เป็นสายคนหนึ่งในเรือนนอนหงส์บอกว่ามินซอกดูท่าทางเป็นห่วงลู่หานน่าดู แอบไปชะเง้อมองที่ห้องพยาบาลด้วย แล้วก็คงจะเห็นตอนที่ลู่หานออกจากห้องพยาบาลมาพร้อมจุนมยอนด้วย
คิดแล้วรอยยิ้มกว้างของลู่หานก็เผยออกมา กอดรัดน้องชายอย่างนึกเอ็นดู
“มินซอกงอนที่พี่ไม่พาอี้ชิงไปหาเหรอ? หรืองอนพี่เรื่องอื่น บอกพี่สิ พี่จะได้ง้อ”พูดเย้าน้องที่เบะปากเสียคว่ำ มินซอกเอียงหน้าหนีอีกคน
“เปล่า ไม่ได้งอน ปล่อยผม”ปากว่าไม่งอนแต่มือนี้ยื้อจะหนีด้วยความปั้นปึ่ง ลู่หานหัวเราะ แอบยกนิ้วกลางให้ไอ้จงอินที่ยืนเท้าเอวมองอยู่ห่างๆ สมทบด้วยพวกมินโฮ มินฮยอกที่มองเขาเข่นเขี้ยว ก็เล่นกอดน้องรักเรือนนอนหงส์ไว้กับตัว ไอ้เหล่าพี่ชายเลยออกอาการหวง
“พี่จะปล่อยก็ตอนมินซอกบอกเหตุผลที่หลบหน้าพี่มาก่อน...มินซอกไม่พอใจอะไรเหรอ? บอกพี่สิ ลืมไปแล้วเหรอว่าพี่พร้อมจะฟังที่มินซอกเล่า...”มินซอกเม้มปากแน่น พ่นลมหายใจออกจากจมูกแรงๆ เสหน้าไม่ยอมมองลู่หานแต่ก็ถามออกมาเสียงติดขุ่น
“ทำไมต้องเข้าห้องพยาบาลไปกับนางพญาสองต่อสองล่ะฮะ?”

...ยิ้ม...
ลู่หานกำลังยิ้ม...
อยากจะหัวเราะให้ลั่นแต่ก็ต้องเก็บอาการเอาไว้ รัดอ้อมกอดของตัวเองพันธนาการมินซอกให้แน่นขึ้นไปอีก เอ็นดูคนในอ้อมกอดตัวเองมากขึ้นเท่าตัว
เด็กหนอเด็ก...
“หึงพี่เหรอ?”ถามเย้าแกมหัวเราะแผ่วเบา ลู่หานไม่ได้คิดหรอกว่าน้องหึง น้องอาจจะน้อยใจไปตามประสา มินซอกไม่ได้เป็นพวกนิยมไม้ป่าเดียวกัน อาจจะออกแนวนุ่มนิ่มติ๋มๆแบบที่ไอ้จงอินเอามาเรียกแทนชื่อน้องไปนิดหน่อย แต่มินซอกก็ยังไม่เข้าเค้าพวกเกย์ แถมยังไม่มีเหตุผลให้มินซอกมาหึงลู่หาน เพราะคำว่าหึงมันใช้กับคนที่มีใจรักชอบกัน แต่สำหรับพี่น้องแบบเขากับมินซอก ใช้คำว่างอนก็เพียงพอ
“ผมเปล่า ผมไม่ได้งอน ไม่ได้หึงอะไรทั้งนั้น...ผมไม่รู้ แค่ไม่ชอบที่ฮยองอยู่กับเขาสองต่อสอง”เด็กน้อยยอมหันมามองหน้าแต่สบตาลู่หานได้หน่อยเดียวก็ก้มงุดคางติดอก
“คนอื่นบอกว่าพี่จะไปเป็นเด็กนางพญา...ลู่หาน...จะไม่เป็นใช่ไหม?”คำถามถูกเอ่ยพร้อมดวงตากลมโตที่ช้อนขึ้นมอง ลู่หานปล่อยแขนจากคอของน้อง ใบหน้าที่แย้มยิ้มกลับเรียบนิ่ง มินซอกยังจ้องมาที่เขาอย่างเอาคำตอบ
“ทำไมมินซอกไม่อยากให้เป็นล่ะ...ถ้าพี่เป็นเด็กนางพญาพี่จะสบายแล้วพี่จะให้มินซอกสบายด้วยนะ?”มินซอกส่ายหน้า
“หรือกลัวพี่เป็นแบบซึงฮยอน...เรื่องนั้นไม่ต้องกลัวหรอก มินซอกเห็นไหมว่าเรือนนอนของเราดูรักกัน ทุกคนไม่มาคิดเล็กคิดน้อยเรื่องสิทธิ์เด็กนางพญาหรอก”อย่างที่ลู่หานพูด ทุกคนในเรือนนอนสิงห์รักใคร่กลมเกลียวกันดี และการได้ตำแหน่งเด็กนางพญาของลู่หาน เขาเองก็ตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่ใช้สิทธิ์พวกนี้ข่มตนให้สูงกว่าใคร สิทธิ์ที่ได้มามีไว้แค่ทำให้คิมกอนโมเดือนร้อนใจเท่านั้น
มินซอกส่ายหน้า มือเล็กยืดเสื้อของลู่หานเอาไว้ จะบอกได้ไหมว่าหวง...มินซอกหวงลู่หาน
“ผมไม่อยากให้เป็น...ไม่เป็นได้ไหม?”ได้ยินเสียงน้องถามก็อยากจะตอบไปว่าได้ ลู่หานไม่ได้ต้องการตำแหน่งนี้สักนิด ยิ่งเห็นมินซอกขอร้องแบบนี้ยิ่งไม่ต้องการเข้าไปใหญ่
...แต่อี้ชิง...
หน้าที่ที่ได้รับมากับรางวัลอันแสนคุ้มค่าถ้าทำสำเร็จ...ถ้าทำสำเร็จเขาจะได้ออกไปหาอี้ชิง ไปหาครอบครัวที่เหลืออยู่เพียงคนเดียว...
ลู่หานลูบหัวน้องแล้วยิ้มให้บางๆ

“คนอื่นพูดถูกว่าพี่จะได้เป็นเด็กนางพญา...ขอโทษนะมินซอก...พี่ไม่มีทางเลือก”







TBC.


งงป่ะ เราว่ามันงงๆ มีหลายอย่างที่ขัดๆกันอยู่ ไม่มีเวลารีไรท์ ว๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยย ทำงานมันเหนื่อยจรุงเบย ได้เงินมาก็ไม่พอกินอีกนะ ไหนจะคอน ไหนจะบลาบลาบลา
ตรัยดีฟ่า ถ่ออออออออออออออออ


เรื่องมุกที่มินฮยอกเล่านั่นเรื่องจริงนะ มีคนเล่ามุกนี้ให้เราฟัง 5555 ก็ไอ้คนที่เป็นตัวต้นแบบพี่หานนั่นแหล่ะ อยากจะตบหัวมันมากตอนเล่าจบ อีบร้า ถ่ออออออออออออออออออออออออออออ

#พี่ลู่คนคุก






แมลงจี่...

วันศุกร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

คนคุก8.1

ถ้าไม่สำคัญก็คงไม่แคร์



บทที่8.1…

เรียวขาขาวใต้กางเกงขาสั้นสีดำเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ผู้คุมปล่อยให้ลู่หานอยู่กับคิมจุนมยอนเพียงสองคน คนตัวขาวทิ้งตัวลงบนเตียงพยาบาลใกล้กับลู่หาน ดวงตาแสนทรงเสน่ห์ทอดมองมาที่เขาก่อนจะยกยิ้มตาปิด
“นายน่ารักจัง”
คำชมไม่ทันได้ตั้งตัวทำเอาเขินไปเล็กน้อย ลู่หานกระแอมกระไอกลบเกลื่อนก่อนจะถามว่าจุนมยอนคือสายของคริสใช่ไหม ใบหน้าติดหวานนั่นจึงพยักลงตอบ
“อันที่จริงเราก็ไม่ใช่นางพญาหรอก นางพญาตัวจริงน่ะถูกปล่อยตัวออกไปแล้ว...แลกกับการที่ย้ายเราเข้ามาแดนหนึ่งในฐานะตำแหน่งนางพญา”นี่เองสินะที่เป็นเหตุผลว่าทำไมนางพญาจึงย้ายมาอยู่แดน1 พวกแดน1เองก็ไม่เคยเห็นนางพญาตัวจริงเนื่องจากคนๆนั้นอยู่แดนอื่นมาก่อน
เนื้อตัวของจุนมยอนขาวเนียนไปหมด ขาวจนอาจเรืองแสงในที่มืด ลู่หานมองต่ำลงไปยังเรียวขาของอีกคนก็ต้องร้อนวูบเมื่อนึกถึงฉากในห้องน้ำวันนั้น

“ไม่คิดว่าลงทุนไปเหรอ ยอมนอนกับใครต่อใครแบบนี้”ถามสิ่งที่คิดออกไป จุนมยอนยิ้มน้อยๆ ส่ายหัวแล้วทิ้งตัวลงนอนแย่งที่บนเตียงจากลู่หาน แขนขาวๆยืดออกบิดขี้เกียจ
“ถ้าสำหรับเรา...เรื่องนั้นมันไม่สำคัญหรอก ไม่ว่าจะวิธีไหน? ให้คิมกอนโมคายความลับออกมาได้...เราก็ต้องทำ”

ถึงจะพูดเหมือนไม่ใส่ใจ แต่ลู่หานก็จับสังเกตได้ว่าปลายเสียงของอีกคนสั่น ดวงตาที่ลู่หานบอกว่ามีเสน่ห์นั้นหลับลงก่อนริมฝีปากจะขยับเอ่ย
“นายเองก็เหมือนกัน...หน้าที่ของนายก็คือร่วมมือกับฉันทำให้กอนโมคายความลับออกมา...”พูดตอกย้ำหน้าที่ของลู่หานที่อย่างไรก็ต้องช่วยกันง้างปากเรื่องแบ็คอัพหนุนหลังกลุ่มการค้ายาเสพติดมาจากคนที่จุนมยอนบอกว่าชื่อคิมกอนโมให้ได้
“คิมกอนโมคือคนที่นายมีอะไรด้วยในห้องน้ำหลายวันก่อนหรือเปล่า?”ถามคนที่นอนหลับตาบนเตียงพยาบาล จุนมยอนหัวเราะเบาๆ ดวงตาคู่สวยลืมขึ้นแล้วสบกับดวงตากลมโตของลู่หานที่กำลังมองคนตัวขาวอยู่เช่นกัน

...”เราไม่คิดว่าดวงตานั่นจะเป็นของนายนะลู่หาน”


ค น คุ ก


การเยี่ยมญาติใกล้ชิดจบลงแล้ว...

ลู่หานเดินตามจุนมยอนออกจากห้องพยาบาลเจอผู้คุมยืนอยู่ด้านหน้า ผู้คุมตัวสูงดึงจุนมยอนให้ไปอีกทาง คงพาไปรวมกับพวกเรือนนอนหงส์ที่ตั้งแถวอยู่คนละฝั่งกับเรือนนอนสิงห์ ญาติทั้งหลายกลับกันออกไปหมดแล้ว รวมถึงอี้ชิงและไอ้ผู้กองคริส ลู่หานมองคนตัวขาวตำแหน่งนางพญาเดินไปนั่งต่อท้ายแถว แล้วแทบจะทันทีที่นั่งลงได้ ผู้ชายคนหนึ่งก็ลุกขึ้นเปลี่ยนที่กับนักโทษคนข้างหน้าจุนมยอนทันที
...คนๆนั้น...
เห็นข้างหลังแว๊บๆเขาก็จำได้ว่ามันต้องเป็นคนที่มีอะไรกับจุนมยอนในห้องน้ำวันนั้นแน่ๆ และมันนั่นแหล่ะคือคิมกอนโม ดูมันทำท่าทางหัวเสียน่าดู แอบลอบมองผู้คุมตลอดเวลา เมื่อเห็นว่าผู้คุมยังคงสนใจกับจางอินซูที่กำลังสรุปงานวันนี้ให้ฟังพร้อมเอ่ยคาดโทษหมาบางตัวที่ทำงานเกือบล่ม...ซึ่งนั่นก็คือลู่หานเอง
กอนโมดึงแขนขาวๆของจุนมยอนมากำเอาไว้แน่น เห็นสีหน้าของจุนมยอนก็พอเดาออกว่าอีกคนเจ็บ พยายามสะบัดออกแต่คนตัวโตกว่าก็ยื้อเอาไว้ มันกอบกุมมือนิ่มขึ้นนาบกับใบหน้าของตัวเอง แววตาของนักโทษชายคิมกอนโมที่มองไปยังใบหน้าหวานๆของจุนมยอนนั้นบอกได้คำเดียวว่าเกินคำว่าชอบพอ มันคือความหลงใหล
ก็ไม่แปลกที่ใครจะพากันหลงใหลจุนมยอน แม้ตำแหน่งนางพญาที่อีกคนได้มามันไม่ใช่จากการยกย่องของคนในคุกตั้งแต่แรกเริ่ม...แต่คิมจุนมยอนก็เหมาะกับการเป็นนางพญาอย่างที่สุด

ลู่หานเดินไปต่อท้ายแถวเรือนนอนสิงห์ ห่อปากเพราะยังเจ็บแขนอยู่มาก พวกมินซอกเข้าแถวกันอยู่ด้านหน้า ไอ้จงอินหันมามองเขาเล็กน้อยตอนเขาเดินมาเข้าแถว แต่มินซอก...เด็กนั่นไม่ได้สนใจซักนิด อาจจะร้อนแดดเลยเอาแต่ก้มหน้างุดๆ
พูดถึงมินซอกก็อดรู้สึกผิดในใจไม่ได้ เพราะวันนี้มีแต่เรื่อง ที่พูดเอาไว้กับเด็กนั่นเลยไม่ด้ทำ ไม่ได้พาอี้ชิงไปหาเลยสักนิด ทั้งที่คิดเอาไว้ว่าจะให้มินซอกรู้จักกับญาติของเขา มินซอกไม่เหลือใคร มันจะดีที่เด็กนั่นรู้จักกับครอบครัวของเขาไว้วันที่พ้นโทษ...เขาจะพามินซอกไปเริ่มต้นใหม่ด้วยกัน
แต่ก็เพราะตัวเองไปมีเรื่องกับไอ้ผู้กองห่ารากนั่นเสียก่อน ไม่รู้ว่าวันนี้มินซอกทำงานเหนื่อยไหม เด็กนั่นคงขายน้ำหวานกับขนมมือเป็นระวิงล่ะมั้ง...

สุดท้ายผู้คุมอินซูก็บอกให้แยกย้ายพร้อมเรียกลู่หานกับไอ้จงอินไปพบหลังเลิกแถวด้วย เสียงปรบมือพร้อมเสียงตะโกนเฮดังลั่นก่อนนักโทษทั้งหลายจะแยกย้ายกันไป บ้างก็เก็บของที่ยังไม่เรียบร้อยดี บ้างก็แยกกันไปอาบน้ำ ลู่หานเห็นมินซอกถูกมินโฮลากคอไปอาบน้ำ
“กูเห็นมึงก่อเรื่องละ แต่กูเข้าช่วยไม่ได้ เป็นเหี้ยไรไปทำสด”ไอ้จงอินถามทันที ขาวของทั้งสองเดินตามจางอินซูที่เดินลิ่วไปยังห้องพักผู้คุม ลู่หานส่ายหน้าบอกว่าเดี๋ยวเล่าให้ฟัง
เมื่อเข้าไปในห้องพักผู้คุมแล้ว สิ่งแรกที่ประจักษ์คือรองเท้าคอมแบทถีบเข้าที่ท้องจนล้มไปกอง ไอ้จงอินสบถลั่นทำท่าจะเข้าไปหาเรื่องผู้คุมอินซูแต่ก็ไม่วายห่วงเพื่อนที่สังขารไม่ดีอยู่แล้วดันมาโดนถีบใส่อีกครั้ง มือหนาประคองเพื่อนให้ลุกขึ้นยืน ชี้หน้าผู้คุมอินซูอย่างหาเรื่อง
“นี่สำหรับที่มึงป่วนงานวันนี้ไปหมด แล้วมึงก็เลิกด่ากูได้แล้วไอ้เหี้ยจงอิน ด่ากูจังเลยไอ้สัด นี่เพื่อนมึงนะไอ้ควาย”จางอินซูพูดกับลู่หานก่อนจะหันไปชี้หน้าไอ้จงอินคืนพร้อมด่ากลับยาวยืด เพื่อตัวสูงผิวแทนของลู่หานส่งนิ้วกลางกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว
“มึงหมายความว่าไงวะ?”ลู่หานมองหน้าเพื่อนอย่างงงงวย เมื่อกี้เขาคิดว่าไม่ได้หูฝาด...เขาได้ยิน...
...ว่าผู้คุมอินซูเป็นเพื่อนไอ้จงอิน...

เพื่อตัวสูงกลอกตาขึ้นมองเพดานน้อยๆ ด่าผู้กองจางว่าเสือก พยุงลู่หานให้นั่งลงกับเก้าอี้ส่วนตัวเองยืนพิงขอบโต๊ะท่าทางเหมือนจะเท่
“ก็...อย่างที่มึงได้ยิน...”
“...”
“สายในคุกโดยเฉพาะแดนหนึ่งน่ะมีอยู่เยอะจนมึงคิดไม่ถึงเลยล่ะ...กูกับไอ้อินซูก็เป็นหนึ่งในพวกนั้น...”
“...”
“ขอโทษที่ไม่ได้บอกมึง มันเป็นความลับจริงๆ”

ลู่หานจะอึ้งดีหรือเปล่า? เหมือนนิยายไม่มีผิด คล้ายกับบทละครโทรทัศน์สักเรื่อง ดวงตากลมโตมองจงอินกับผู้คุมสลับกันไปมา ที่เขาเห็นมาตลอดคือจางอินซูและคิมจงอินเป็นผู้คุมนักโทษและนักโทษที่ไม่ลงรอยกัน อินซูมักเรียกจงอินไปหาเสมอซึ่งลู่หานคิดว่านั่นคงมาจากการกวนตีนของจงอินจนต้องถูกเรียกไปด่าหรืออาจจะโดนตีน
...ท่าทางเขาจะคิดผิด...
ดูจากท่าทางสบายๆของจงอินที่เดินไปกดน้ำกินพร้อมหยิบขนมบนโต๊ะทำงานที่เขียนชื่อว่าจางอินซูแล้ว...ที่ถูกเรียกมาคงไม่ได้ถูกด่าหรือโดนตีนแน่ๆ
“สรุปว่ามีสายของตำรวจกี่คนที่แฝงตัวอยู่ในนี้...เพื่อเอาความลับจากนักโทษคนนึงต้องลงทุนขนาดนี้เลยเหรอ?”ต้องลงทุนปลอมเป็นนักโทษขนาดนี้ แถมปลอมเสียเนียน ปลอมแม่งตั้งแต่เริ่มขึ้นศาล ลู่หานไม่ได้เอะใจสักนิด เหมือนคนอื่นๆที่มองจงอินเป็นแค่นักโทษคดีขายธรรมดาเท่านั้น
“ไม่แน่นอนเรื่องจำนวน เราก็ส่งสายเข้ามาเรื่อยๆ ลักๆแล้วก็มีจุนมยอน ฉัน จงอิน และพวกที่เรือนนอนหงส์อีกสามสี่คนไว้คอยดูจุนมยอน”เป็นผู้คุมอินซูที่อธิบายส่วนไอ้จงอินหยิบขนมกินไม่สนใจสักนิด ถ้าจงอินเป็นหนึ่งในสายแสดงว่าจงอินต้องรู้จักกับจุนมยอนอยู่แล้วสินะ ลู่หานลองถามเพื่อนตัวโตก็ส่ายหน้าหวือบอกว่าถึงจะแฝงตัวเข้ามาแต่ก็เข้ามาพร้อมลู่หานแถมยังตัวติดกันตลอด ลู่หานไม่เคยเห็นนางพญาเขาเองก็ไม่เคยเช่นกัน รู้แค่ชื่อจุนมยอนเท่านั้นเอง

“แล้วนายตกลงกับจุนมยอนว่ายังไง?”ผู้คุมอินซูถาม ลู่หานถอนหายใจออกมา แม้ไม่คุ้นกับการที่ผู้คุมสุดโหดพูดดีๆด้วยแต่ก็พยายามจะให้ชิน นึกถึงข้อตกลงที่เขาคุยกับจุนมยอนเรื่องการร่วมมือกันปลอกกล้วยตามชื่อแผ่นปัญญาอ่อนนี่
คิมกอนโมหลงใหลในจุนมยอน หมอนั่นหลงจุนมยอนแบบถอนตัวไม่ขึ้น เป็นเหตุผลให้จุนมยอนยอมเอาตัวเข้าแลกเพื่อหวังกระเทาะเอาความลับเรื่องแบ๊คอัพมาจากกอนโม แต่ครั้งแล้วครั้งเล่า ใช้กลเม็ดอะไรมาหลอกถามกอนโมก็ไม่เคยปริปากออกมา ทุกครั้งที่จุนมยอนจะวกเข้าเรื่องก่อนที่กอนโมจะถูกจับมันก็ดิ้นหนีไปเรื่องอื่นเสมอ จุนมยอนเองก็ไม่กล้าเซ้าซี้กลัวเหยื่อจะรู้ตัว
และเพราะนางพญาเพิ่งย้ายแดนเลยไม่มีเด็กนางพญาตามมาด้วย นักโทษเรือนนอนหงส์เรือนนอนเดียวกับนางพญาเลยมีสิทธิ์จะได้ก้าวขึ้นเป็นเด็กนางพญามากที่สุดเพราะใกล้ชิดกับนางพญามากที่สุด คิมกอนโมเองก็คงหวังตำแหน่งนี้อยู่เหมือกัน นอกจากจะได้หลับนอนกับจุนมยอนแล้วความสะดวกสบายก็เป็นอีกอย่างที่มันต้องการ
เพราะฉะนั้น...ข้อตกลงของลู่หานกับจุนมยอนคือตัดหน้าคิมกอนโมเสีย...ให้มันงุ่นง่านจนทนไม่ไหว ให้มันหึงหวงจุนมยอนจนยอมแลกทุกอย่าง...
...ยกตำแหน่งเด็กนางพญาให้กับลู่หานเพื่อทำให้กอนโมหึงหวงและยอมคายความลับออกมา...

จุนมยอนเชื่อว่ากอนโมยอมทุกอย่างถ้าได้ครอบครองตนเอง ซึ่งจากการมองดูท่าทางตอนที่จุนมยอนเข้าไปนั่งในแถวลู่หานก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน
แล้วถ้าถามว่าทำไมถึงเป็นลู่หาน จุนมยอนบอกว่าเพราะสายบางคนที่อยู่เรือนนอนหงส์นั้นสนิทกับกอนโมดี และพวกนั้นก็ไม่เคยมีทีท่าสนใจในจุนมยอนมาก่อน ปุบปับจะมาเป็นเด็กนางพญาเลยก็กระไรอยู่ จึงต้องเป็นคนที่อยู่คนละเรือนนอน คราวแรกที่เริ่มคิดแผนนี้หลังจากใช้ร่างกายเข้าแลกไม่ได้ผล จุนมยอนตั้งใจจะให้จงอินรับหน้าที่นี้ แต่ก็ติดที่ใครบางคนที่อยู่นอกเรือนจำเขาดูท่าทางไม่พอใจ จุนมยอนเลยไม่เอาจงอินดีกว่า ลู่หานก็ไม่ได้ถามว่าใครที่ไม่พอใจ
...หรือว่าจะเป็นน้องตัวขาวนั่น...
ลู่หานไม่คิดว่าเรื่องมันกับน้องตัวขาวที่ชื่อเซฮุนนั่นเป็นพี่น้องกันจะเป็นความจริงเสียแล้ว...
มองเพื่อนที่ยัดคุ้กกี้ฝีมือมินซอกที่เอาเข้ามาเป็นของว่างผู้คุมเข้าปากไปชิ้นสุดท้ายก่อนจะถามอะไรที่ทำเอาเพื่อรักสะอึกจนคุ้กกี้แทบติดคอ

“มึงกับน้องเซฮุนนี่พี่น้องท้องติดกันสินะ?”


ค น คุ ก


ไอ้เหี้ยจงอินงอนเป็นตุ๊ด เพราะลู่หานถามแบบนั้นออกไป มันสำลักหน้าแดงก่ำ โวยวายว่าเปล่าเสียหน่อย ยอมรับว่าไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆ แต่ไม่ได้ท้องติดกันสักหน่อย โวยวายเสียงดังจนผู้คุมอินซูต้องประเคนตีนให้เงียบ
เพื่อนตัวสูงใหญ่เดินลิ่วๆคว้าผ้าเช็ดตัวกับชุดและเครื่องอาบน้ำลงจากเรือนนอนมาที่ห้องน้ำที่ว่างเปล่า ลู่หานก็ด้วย คนอื่นขึ้นไปทำกิจกรรมส่วนตัวกันบนเรือนนอนบ้างหรือนั่งคุยกันที่ม้าหินอ่อนด้านล่างบ้าง รอเวลาขึ้นเรือนนอน มินซอกก็ยังนั่งอยู่ท่ามกลางกลุ่มนักโทษเรือนนอนหงส์ หัวเล็กๆถูกขยี้จากมือใหญ่ๆหลายมือตอนที่พวกมินโฮเล่าเรื่องเยี่ยมญาติวันนี้ให้เพื่อนฟัง ได้ยินพวกนั้นบ่นเสียดายที่มินซอกต้องเฝ้าบูธขายน้ำ
น้ำในบ่อซีเมนต์ถูกตักขึ้นราดหัวราดตัว ลู่หานขยี้สระผมลวกๆ เห็นเพื่อนตุ๊ดจงอินบึนปากสระผมอยู่ขอบอ่างตรงข้ามกันเลสะบัดน้ำใส่จนฟองแชมพูไหลลงเข้าตา ไม่รอเสียงกร่นด่าของแม่งชายหนุ่มรีบล้างหัวล้างตัวผลัดผ้ากลับขึ้นเรือนนอนก่อนมันทันที
ขึ้นมาเรือนนอนก็เห็นมินซอกล้มตัวลงนอนที่นอนของคนตัวเล็กไปแล้ว หลายคนก็เอนหลังนอนลงบนฟูกตัวเองกันแล้วเช่นกัน ลู่หานเอาผ้าไปผึ่งแล้วเดินมานั่งข้างคนที่นอนตะแคงหันหลังอยู่ เสียงผู้คุมที่บอกให้นอนได้แล้วกับเสียงวิ่งขึ้นเรือนนอนมาอย่างรวดเร็วของจงอินทำให้ลู่หานที่คิดจะเรียกน้องขึ้นมาคุยด้วยกันต้องจำใจล้มตัวลงนอน ไฟของเรือนนอนดับทันทีไม่รอไอ้จงอินที่ยังผึ่งผ้าไม่เสร็จเสียด้วยซ้ำ
ลู่หานเห็นมินซอกขยับตัวยุกยิกในความมืด แสดงว่าคนตัวเล็กยังไม่หลับ
“มินซอก...”ลองเรียกอีกคนเบาๆ แต่คนที่นอนหันหน้าเข้าหาไอ้จงอินก็ไม่มีทีท่าจะหืออือ ยิ่งไอ้จงอินล้มตัวลงนอนแล้วมินซอกขยับตัวเข้าไปใกล้แล้วลู่หานรู้สึกไม่พอใจขึ้นมา
ไม่รู้ว่าอะไรสั่ง คงเป็นสมองส่วนไหนสักส่วนกระมัง ลู่หานคว้าเอวคนตัวเองที่นอนหันหลังก่อนดึงนองให้เข้ามาใกล้ มินซอกดิ้นน้อยๆเสียงเล็กงึมงำให้ปล่อยแต่ลู่หานก็ปฏิเสธจะทำตามที่น้องสั่ง
“พี่เจ็บแขนอยู่ มินซอกดิ้นพี่ยิ่งเจ็บนะ”ชายหนุ่มหลับตาลงเมื่อมินซอกหยุดดิ้นทันทีที่เขาพูดแบบนั้น ลู่หานขยับข้ามไปฟูกของมินซอกเล็กน้อยเพื่อจะกอดเอวน้องได้ถนัดถี่ขึ้น ร่างกายที่ถูกสกรัมตีนมาเกือบทั้งวันที่ต้องการการพักผ่อนจึงค่อยๆนิ่งสนิทตามสติที่เริ่มเลือนลางขึ้นเรื่อยๆ
คงต้องนอนพักเอาแรงให้มากๆ...
เอาไว้สู้กับวันพรุ่งนี้...

วันที่เขาจะได้อยู่ในแดน1แห่งนี้ด้วยฐานะใหม่...


...เด็กนางพญา





TBC.


เหยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หายไปนานแบบไม่น่าให้อภัยใช่ป่ะ? งานเราหนักมากจริงๆค่ะ กลับบ้านปุ๊บนอนปั๊บ ไม่เคยเข้านอนสองทุ่มครึ่งมาก่อนก็ต้องนอน ร่างกายไม่ไหวมาก อยากแต่งนะ แต่ไม่ไหวจริงๆ
ขอบคุณที่ยังมีคนรอนะคะ ซาบซึ้งใจมากอ่ะ

รักนะมุ๊บๆ TT


#พี่ลู่คนคุก






แมลงจี่...