วันเสาร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2557

kaichan: 귀여워 ♥

มีคนเคยบอกคุณหรือเปล่าครับ...ว่าคุณน่ะ...
..
.
.

“น่ารักจัง”

คิมจงอินสะดุ้งโหยง รีบดีดตัวออกห่างคนที่อยู่ดีๆก็มากระซิบข้างหูกันทันที ปาร์คชานยอลเป็นมนุษย์ประหลาด มนุษย์ติ่ง ติ่งมากด้วย ที่บอกว่าชอบจงอินตอนแรกคิดว่าแค่เรียกเรตติ้งรายการ  ไปไปมามา พี่ชายตัวสูงโย่งหูกางเหมือนโยดาก็ไม่หยุดเล่นมุขตลกร้ายนี้ แถมยังเข้าหาแบบประชิดมากขึ้น ชอบมากระซิบข้างหูตอนเผลอแบบนี้

โอย...คิมจงอินเป็นมนุษย์ผู้ชายธรรมดานะครับผม นี่ชอบผู้หญิงเว้ย สเป็คสาวนี่ต้องขาวๆ ตัวเล็กๆ แก้มป่องๆ เหมือนพี่คยองซูนี่ใช่เลย หน้ากลมๆ ตาโตๆ โอย สวรรค์ของคิมจงอินเลยแหล่ะ

“ไคคลุงตกใจอะไรนักหนา”ปาร์คชานยอลบึนปากแล้วนั่งลงที่โซฟาซึ่งน้องเพิ่งจะเด้งตัวออกไป กอดอกเชิดหน้าอย่างไม่เข้าใจ นี่ปาร์คชานยอลน่ากลัวขนาดไคคลุงไม่กล้าเข้าใกล้เลยช่ะ...

...ก็ชอบอ่ะ...

ปาร์คชานยอลเป็นคนเปิดเผย ชอบใครก็อยากแสดงออก อย่างรุ่นพี่ดาร่าคนสวย ชานยอลนี่ติ่งสุดๆ แต่ก็เป็นแค่อดีตอันหวานชื่นไปแล้วล่ะ ตอนนี้สายตาของปาร์คชานยอลมีแค่คิมจงอิน...มีแค่ไคคลุง

“พี่ก็เลิกมากระซิบข้างๆกันสักทีได้ไหมล่ะ? นี่ขนลุก หุย ไปเล่นกับพี่แบคฮยอนนู่น รายนั้นชอบจะตาย”บุ้ยใบ้ไปทางคนตัวเล็กเมนว้อยซ์ของวง ใช่ๆ แบคฮยอนน่ะชอบให้สัมผัสมากเลย ยิ่งกอด ยิ่งหอม ยิ่งกระซิบข้างๆหูยิ่งชอบ ชานยอลก็ชอบเซอร์วิสแฟนคลับกับแบคฮยอนเหมือนกัน แต่ว่าตอนนี่น่ะ...เราไม่ได้อยู่ต่อหน้ากล้องนี่


...ชานยอลแค่อยากจะทำแบบนั้นกับไคคลุง...

“พี่แค่อยากอยู่ใกล้ไคนี่”ชานยอลเถียง น้องยิ่งขยับห่างเพราะชานยอลลุกขึ้นเดินเข้าไปหา ชานยอลมองคนผิวเข้มเขยิบถอยแล้วอดไม่น้อยใจไม่ได้จริงๆ นี่ปาร์คชานยอลนะ พี่คริสก็ชอบมาเล่นกับเขา แบคฮยอนก็ชอบกอดเขา เลย์ก็ชอบเขา ทำไมไคไม่ชอบล่ะ...ทำไมไคปฏิเสธชานยอลตลอดล่ะ...

จงอินเขยิบไปไกลกว่าเดิม แม้จะเห็นนัยน์ตาโตๆนั่นสลดลงก็ตามที แต่จงอินไม่สนใจ ต่อให้มันไหวระริกคลอด้วยน้ำตาเขาก็ไม่สงสาร เขาเบื่อเต็มทนกับอาการของพี่ร่วมวง

เขาไม่ใช่เกย์...ไม่ชอบที่จะสัมผัสกับผู้ชายด้วยกัน ถ้าเป็นหน้ากล้องก็ยังเข้าใจว่าเป็นงาน แต่ไม่ใช่กับเวลาส่วนตัวแบบนี้ ก็ไม่รู้หรอกว่าตัวเองมีเสน่ห์อะไรให้พี่ชายร่วมวงมาคลั่งไคล้แบบนี้ แต่จงอินก็ยืนยันคำเดิมว่า...เขาไม่ชอบใจ


“พี่รู้ไหมว่าพี่ประหลาด”จงอินถาม ชานยอลได้แต่ยืนนิ่งกระดิกหูไปมาเหมือนโยดาหน้าโง่ เขาไม่ค่อยทันใครเท่าไหร่ หลายครั้งที่ชานยอลถูกหลอกเพราะความเด๋อด๋าของตัวเอง

“ป่าวนี่ พี่ปรกติดี”เขาบอก ก็ไม่เห็นแปลกตรงไหน นี่ก็เป็นชานยอลคนเดิม จงอินหัวเราะเบาๆ ขยับเข้ามาจนใกล้พี่ชายตัวสูง นั่นทำเอาชานยอลเผยรอยยิ้มจนเห็นฟันสามสิบกว่าซี่ มือหนาหนักของน้องวางบนบ่าของพี่ชาย มองหน้าขาวผ่อง รอยยิ้มเหมือนคนปัญญาอ่อนที่ยิ้มให้ลมให้ฟ้าไปเสียหมด ดวงตาสุกสกาวดวงโตๆ...


“ผู้ชายปรกติที่ไหนจะมาชอบผู้ชายด้วยกันเอง...อย่างพี่เขาเรียกวิปริต”



*-*-*-*-*-*-*-*


รถของเอ็กโซ่เคเงียบไปอย่างถนัดเพราะคนที่ชอบส่งเสียงนั่งเงียบเป็นก้อนหินไม่มีปาก แม้แบคฮยอนจะเข้าไปแหย่ หรือเซฮุนดึงหูกางๆนั่นเล่นไปมา...ปาร์คชานยอลก็ไม่หือไม่อืออะไรเลย

ซูโฮค่อนข้างจะแปลกใจ ปรกติชานยอลเป็นคนร่าเริง เจ้านั่นขี้เอะอะโวยวายเป็นที่หนึ่ง ตาโตๆนั่นเบิกกว้างตลอดเวลาอย่างเด็กอยากรู้อยากเห็น ใครกันทำให้ปาร์คชานยอลเงียบได้ขนาดนี้ ซูโฮจับมือน้องเอาไว้ บอกว่ามีอะไรจะคุยหรือเปล่าแต่ใบหน้าขาวๆก็ส่ายไปมา ลีดเดอร์ตัวน้อยเลยจนปัญญาจะเค้น เอาว่าถ้าชานยอลจะเล่าให้ฟังคงมาเล่าเอง

อีกคนที่แปลกไปคือไอ้เด็กดำที่ย้ายตูดไปนั่งเงียบๆข้างคยองซูทั้งที่ปรกติจะนั่งคุยสัพเพเหระกับเด็กวัยเดียวกันอย่างเซฮุนมากกว่า

“จอดข้างหน้าได้ไหมครับ?”ชานยอลตะโกนบอกคนขับรถ พี่เมเนหันมามองสายตาดุ เพราะถ้าลงกลางทาง แน่นอนว่าต้องเจอแฟนๆแน่ๆ ช่วงนี้เก็บตัวสำหรับอัลบั้มใหม่ หัวก็เพิ่งไปตัดกันมายังเหี่ยนๆอยู่เลยด้วยซ้ำ แต่ปาร์คชานยอลใช่ว่าจะสน พอรถจอดไอ้เด็กตัวโย่งก็เปิดประตูออกไปเลย ไม่สนใจเสียงด่าตามหลังของพี่เมเน

“ปล่อยน้องไปก่อนเหอะพี่...ให้ชานยอลได้อยู่กับตัวเองอาจจะดีขึ้น”ซูโฮเอ่ยรั้งคนที่จะไปตามเด็กในความปกครองมาขึ้นรถเหมือนเดิม ดวงตาของลีดเดอร์มองแผ่นหลังของน้องชายปะปนกับคนเดินตามถนน บางคนกรี้ดกร๊าดแล้วยกมือถือขึ้นถ่ายรูป แต่ชานยอลก็ยังคงเดินต่อไปไม่ได้หยุดทั้งที่ปรกติจะต้องเซอร์วิสแฟนคลับสุดฤทธิ์...


...ใครทำปาร์คชานยอลเป็นแบบนี้กันนะ...




*-*-*-*-*-*-*-*-*




ชานยอลมาถึงบริษัทช้ากว่าสมาชิกคนอื่นเกือบครึ่งชั่วโมง เมื่อถึงห้องซ้อมก็เดินไปนั่งซึมกระทือเหมือนคนไร้จิตใจ ตอนซ้อมแขนขาที่ยาวโยกเยกขยับตามเพลงไปเหมือนเอาวิญญาณมาด้วย พอซ้อมเสร็จก็กลับไปนั่งที่เดิม ซูโอเริ่มจะทนไม่ไหว ครูมาเห็นจะต้องด่าเละเทะแน่ๆที่ชานยอลไม่ตั้งใจซ้อม

อยากจะรู้ว่าทำไมชานยอลเป็นแบบนี้ มองหน้าน้องเรียงรายตัวแล้วก็ไปสะดุดกับหน้าของคิมจงอิน...มันแปลกที่เจ้าชานยอลไม่มาเกาะแกะจงอินเลย จะว่าเพราะอาการซึมกระทือไม่พูดไม่จานั่นก็อาจจะไม่ใช่ เพราะขนาดป่วยหายใจพะงาบๆทางปากชานยอลมันยังเอาตัวไปเฝือจงอินได้เลย

...เกิดอะไรกับพวกมัน...

“คิมจงอิน...ตามพี่มาด้วย”เรียกน้องชายที่กำลังซ้อมท่ากับเซฮุน ไคเอานิ้วชี้ที่ตัวเอง ซูโฮจึงพยักหน้าว่ามึงนั่นล่ะ คนผิวเข้มตบบ่าเพื่อนแล้วบอกให้ซ้อมคนเดียวไปก่อน เดี๋ยวกลับมา เดินตามพี่ชายตัวกระจ้อยออกมานอกห้องซ้อม ใบหน้าของคิมจุนมยอนบูดบึ้ง ปากที่ชอบบึนขึ้นนั้นบิดเบี้ยว ท่าทางดูเหมือนจะน่ากลัวแต่ก็เปล่า

...ลีดเดอร์เอ็กโซเคน่ากลัวตรงไหน...

“นายรู้ไหมว่าพี่เรียกนายมาทำไม?”ลีดเดอร์ตัวขาวถาม กอดอกด้วยท่าทางที่คิดว่าจะสุขุม จงอินส่ายหน้า แอบขำกับท่าทางของพี่ชาย ซูโฮยกเท้าเตะเข้าที่หน้าแข้งน้อง แอบเห็นหรอกว่ามันหัวเราะเขา มือนิ่มๆของลูกผู้ดีมีอันจะกินตบเบาๆที่หัวน้องก่อนจะขยำผมของจงอิน โยกหัวทุยๆนั่นไปมาอย่างหมั่นไส้ จงอินแผดเสียงลั่น หนังหัวจะหลุดออกมาอยู่แล้ว

“โอ้ยพี่ ปล่อยๆๆๆๆ ไม่รู้หรอกว่าเรียกมาทำไม ก็บอกกันดีๆเซ่” รั้งข้อมือขาวๆเอาไว้ เหยหน้าเพราะเจ็บหนังหัวแบบชิบหาย พี่จุนมยอนแม่งตัวแค่เนี้ยแต่เวลาเอาเรื่องนี่แสบสันต์ ไม่งั้นจะคุมลิงตั้ง9ชีวิตได้ยังไง ไม่นับรวมพี่มินซอกกับลู่หานอ่ะนะ

“เหน่ะ! ฟังพี่ป่ะเนี่ย”จงอินร้องจ้ากเมื่อพี่ชายตัวกะเปี้ยกเตะเข้ามาที่หน้าแข้ง มือของซูโฮโยกหัวดึงผมน้องอีกหลายๆทีก่อนจะเฉดมันทิ้งให้น้องร้องโอดโอย

...พี่จุนนี่โหดเหี้ยๆ...

“เรื่องชานยอล แกใช่ไหมที่ทำน้องมันเป็นงั้น หา?? ไอ้เด็กดำ!”พี่ชายตัวเล็กตบป้าบมาที่หัวอีกหน โอ้ย ถ้าไม่ติดว่าอายุมากกว่าคิมไคจะแดกหัวแม่งให้!! แล้วอะไร? มาถามเรื่องปร์คชานยอลกับเขาเนี่ยนะ เหย จะไปรู้ได้ไงว่าคนอย่างปาร์คชานยอลทำไมถึงเป็นสภาพงั้น

จงอินไม่ได้ทำอะไรให้สักหน่อย ถึงจะแปลกใจที่พี่ชายคนนั้นไม่มาวอแวกันก็ตามทีเหอะ จงอินบอกกับตัวเองว่าแม่งดีแล้ว เขาไม่ชอบ แล้วก็เบื่อเต็มที ห่างๆไปแบบนี้อ่ะดีที่สุดละ

“ผมเปล่านะพี่ ไม่ได้ทำไรเลยเหอะ น้องชายพี่เมนส์ไม่มาป่าว อ๊ากกกกก”คำพูดกวนตีนเลยได้มือเล็กๆไปบิดหูเป็นของรางวัล จงอินคลำหูป้อยๆ สัดส่วนร่างกายของเขาจะโดนพี่จุนมยอนทำร้ายหมดละว้อย

“ไม่เชื่อหรอก นายต้องไปพูดอะไรให้หมอนั่นได้ยินแน่ๆ มันถึงซึมแบบนั้น เดี๋ยวนี้มันออกจะติดนาย ไปไล่มันหรือเปล่า?”ลีดเดอร์กอดอกถาม ปาร์คชานยอลมันเป็นมนุษย์ขี้น้อยใจ ไม่ได้หรอก อะไรไปขัดใจนิดหน่อยก็งอนตุ๊บป่อง แล้วนี่มันยิ่งกว่างอน สงสัยจะกระทบกระเทือนหัวใจมันมาก จงอินมุ่นหัวคิ้ว...ก็ไม่ได้ไล่

“ก็...”
“...”
“ก็แค่บอกว่าให้เขาเลิกมายุ่งกับผมง่ะ”
“...”
“แล้วก็บอกว่าที่พี่เขาทำอ่ะ...มันแปลก...”
“...”

“มันวิปริต”


...
..
.

คิมจุนมยอนเบิกปากกว้าง...

โหไอ้ห่าราก เป็นกูจะไม่ซึมกระทือแบบนั้นแต่จะไล่เตะมึงห้าย จิกหัวมึงเอาหน้ามึงจุ่มน้ำแพ๊บ!!! ไอ้สันขวานคิมจงอิน!!!





*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



จำได้หรือเปล่า...ตอนเราเป็นเด็กฝึกน่ะ...

..
.
.


“ปังมาแล้วปังงงงงง”เสียงปาร์คชานยอลดังมาก่อนตัว เสื้อยืดชุ่มเหงื่อจากการฝึกซ้อมกลายเป็นถุงฉบับจำเป็นไปเสียแล้ว เพราะในห่อเสื้อที่ดึงให้กางออกจากตัวนั้นเต็มไปด้วยขนมปังไส้ถั่วแดงในห่อพลาสติกอย่างดี ร้านนี้เขาว่าเด็ด ไม่ใช่ร้านประจำของเทรนนี่อย่างพวกเขาทั้ง12 เห็นว่าราคาแพงใช้ได้


แต่ที่ได้กินครั้งนี้น่ะ เพราะปาร์คชานยอลมันเลี้ยง!!

“เอ้าจงอิน ของนายสองห่อ”ปาร์คชานยอลส่งห่อขนมให้รุ่นน้องผิวสีแทนที่นั่งหัวยุ่ง เห็นประกายตาวิบๆของน้องแล้วอดยิ้มไม่ได้ ก็เห็นว่าจงอินอยากกินร้านนี้มานานแล้ว เจ้าตัวบ่นบ่อยครั้ง ชานยอลเห็นว่าเงินค่าขนมของตัวเองเหลือเลยอยากซื้อให้กิน

แต่จะให้กินคนเดียวก็กระไรใช่ไหมล่ะ??


.
..

...


คิมจุนมยอนกุมขมับ ไอ้เด็กดำเอ้ย

ถ้าถามว่าคำว่าวิปริตของจงอินรุนแรงขั้นไหน ซูโฮบอกเลยว่าเลเวล10 กับคนอื่นไม่เท่าไหร่ แต่กับปาร์คชานยอลน่ะนะ...คนที่คลั่งไคล้ยกให้คิมไคเป็นไอดอล คอยเฝ้ามองด้วยแววตาไหวระริกตลอดเวลา


คนที่ปาร์คชานยอลแคร์และใส่ใจ...


ได้ฟังมันคงเจ็บไปถึงกระดูกดำ


.

..
...



ร่างของเทรนนี่เอสเอ็มเอ็นเตอร์เทนเมนต์ร่วงพับกองที่พื้นเหมือนเศษผ้าเน่าๆขยุกขยุย โอเซฮุนร้องออกมาเสียงดังดีดดิ้นไปบนพื้นเพราะความเหนื่อย ทำเอาพยอนแบคฮยอนหมั่นไส้วิ่งไปกระโดดทับอย่างนึกสนุก เมื่อเห็นว่าน้องเล็กโดนทับไอ้พวกพี่ชายไร้ความสงสารก็กรูกับไปทับต่อๆกันเป็นทาวเวอร์
พอดีกับพี่ที่ดูแลเปิดประตูห้องเอาน้ำมาส่งให้ตามคำขอและอ้อนวอนว่าช่วยไปซื้อน้ำดื่มให้ที ชานยอลเห็นว่าทุกคนยังสนุกกับการแกล้งเซฮุนเลยอาสาไปรับถุงน้ำแทน เปิดดูเห็นมีหลากหลายสีสัน มีชานมของโปรดเซฮุนด้วย

...แล้วก็มีชามะนาวที่จงอินชอบ...

ช่วงนี้จงอินชอบกินชามะนาว ชานยอลเห็นมีขวดเดียว มองซ้ายแลขวาไม่มีใครสนใจ มือเรียวจึงดึงมันออกจากถุงอย่างนิ่มๆ กั๊กเอาไว้ให้น้องผิวเข้ม


...

..

.

“ชานยอลมันแสดงออกมาตั้งนานแล้ว แกไม่รู้หรือลืม?”ซูโฮถามน้อง คิมจงอินเงียบและฟังที่เขาเทศนาอยู่ตั้งนาน มันเถียงมาหน่อยว่าพี่ชานยอลชอบมาวอแวไม่ไม่ชอบนะ ซูโฮได้แต่หัวเราะ

...เพิ่งมาไม่ชอบเอาตอนนี้หรือเปล่า??...




.

..

...



พลาดอีกแล้ว คิมจงอินชกตัวเองด้วยความหงุดหงิด เขาลองเต้นตามที่พี่อึนฮยอก แรปเปอร์คนเก่งของซุปเปอร์จูเนียร์สละเวลามาสอน แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้เค้าลางแบบที่พี่เขาเต้นเลยสักนิด พยายามจะนึกว่าพี่ตัวขาวนั้นสอนเอาไว้แบบไหนก่อนจะไปเตรียมตัวเรื่องคอนเสิร์ต พอนึกได้ ก็เต้นไม่ได้

คิมจงอินแม่งกระจอก...


พรูลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด นอนราบกับห้องซ้อมที่มีแค่เขาเพียงคนเดียว ทว่าไม่นานประตูก็ถูกเปิดออก จงอินมองอย่างรวดเร็ว

...ปาร์คชานยอล

“อ้าวพี่ มาไมอ่ะ ไม่ซ้อมร้องกับพวกพี่จงแดอ่อ?”เขาถาม พี่ชายหน้าแป้นยิ้มกว้าง หูกางๆนั้นกระดิกดุ๊กดิ๊ก ปาร์คชานยอลถือวิสาสะนั่งลงข้างน้องแล้วตบบ่าปุๆ ความจริงคือแอบดูมานานแล้ว เห็นน้องพยายามเต้นให้เหมือนพี่อุนฮยอก แต่ก็นะ...แต่ละคนไลน์เต้นมันไม่เหมือนกันเสียหน่อย

ชานยอลยังยิ้มให้น้อง พร้อมกับพูดคำๆหนึ่ง



“เต้นไม่เหมือนพี่เขาก็ไม่เป็นไรนี่ เต้นให้เป็นตัวนายก็พอ”




.

..

...


คิมจงอินคนโง่...


“แต่ก่อนนายไม่เห็นรังเกียจที่ชานยอลเข้าใกล้เลย”

คำพูดของพี่จุนมยอน จงอินเอากลับมาคิด...ก็จริง คิมจงอินในตอนนั้นถือว่าชอบพี่ชานยอลด้วย พี่ชายที่คอยเอาใจใส่เสมอ พี่ชานยอลมักรู้ว่าทุกคนต้องการอะไร โดยเฉพาะจงอิน...พี่ชานยอลรู้ทุกอย่าง

จงอินในสมัยก่อนเป็นคนคอยมองหาพี่ชานยอลเสียด้วยซ้ำ...


ทำไม...ไม่จำกันนะ


.

..


...


“พี่ชานยอลอ่ะ”เอ่ยถามเพื่อนตัวขาว โอเซฮุนส่ายหน้า บอกไม่รู้เหมือนกัน จงอินยู่ปาก หงุดหงิดใจที่หาพี่ชายคนโปรดไม่เจอ เขาอยากกินปุงออปังร้านเยื้องบริษัท จะชวนพี่ชานยอลไปเป็นเพื่อน

ร่างหมีๆกับผิวสีแทนเดินปึงปังไปทุกห้องซ้อม ไล่สายตามองหาปาร์คชานยอล แล้วก็ต้องระบายยิ้มเมื่อเห็นร่างสูงโปร่ง หูกางๆ และใบหน้าเกลี้ยงเกลาของพี่ชาย มือเรียวสวยนั้นจับอยู่ที่กีต้าร์ตัวโปรดในห้องซ้อมร้องเพลง เกลาที่สายทั้งหกเบาๆ มืออีกข้างก็เปลี่ยนคอร์ดไปเรื่อยๆ

จงอินยิ้มกว้าง ตะโกนเรียกชื่ออีกคนเสียงดัง ทำเอาชานยอลสะดุ้งโหยง แต่เมื่อเห็นว่าเป็นใคร รอยยิ้มเหมือนคนบ้าก็ปรากฏ


“อยากกินขนมอ่ะดิ่”บอกออกมาก่อนจงอินจะชวนเสียอีก


...นี่แหล่ะพี่ชายที่จงอินชอบ



.

..

...




คิมจงอินเดินตามหาคนที่เคยนั่งอยู่มุมห้องซ้อม แต่พอเข้าไปดูอีกครั้งก็ไม่อยู่แล้ว ถามใครก็ไม่รู้ เห็นบอกพี่ท่านเดินมึนไร้ชีวิตออกไปจากห้อง ก็ไม่มีใครอยากจะตามไปสักคน จงอินสบถ

นี่มันไม่ห่วงมนุษย์ปาร์คชานยอลเลยใช่ไหม???

เดินวุ่นเป็นหมีอยู่ในห้องซ้อมนานสองนาน จนเซฮุนมันเอาตีนเขี่ยว่าให้หยุดสักที ปวดหัวจะแย่ เพื่อนร่างหมีเลยหันมาแยกเขี้ยวใส่ ยังไม่ได้จะสั่งสอนไอ้เพื่อนตัวขาวที่เอาตีนมาสะกิด ประตูห้องซ้อมก็เปิดออกเสียก่อน

ร่างสูงโปร่งกับใบหูกางๆเดินเข้ามา เสื้อยืดแบรนด์ดีที่ใส่ถูกดึงออกให้กว้างพอจะเป็นถุงฉบับจำเป็น เสียงกร๊อบแกร๊บของถุงพลาสติดที่เสียดสีกันในห่อเสื้อนั้นเรียกความสนใจจากทุกคน ปาร์คชานยอลแย้มยิ้มน้อยๆ


“มากินขนมปังกัน”



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



จงอินมองขนมปังไส้ถั่วแดงยี่ห้อโปรดที่ไม่ค่อยได้กินเท่าไหร่ ยิ่งหลังเดบิ้วต์มาก็ไม่ค่อยได้แตะมันอีกเลย ราคามันเหมือนจะถูกอัพขึ้นเล็กน้อยจากแต่ก่อน
ขนมปังสองชิ้นอยู่ในมือของเขา ...และคนให้ก็นั่งอยู่ข้างๆ จงอินมองปาร์คชานยอลที่ยิ้มให้เพดานห้องซ้อมเหมือนคนวิกลจริต


...ทำไมพี่ยิ้มได้แล้วล่ะ...


ทั้งที่ตอนแรกนั้นเหมือนคนไร้จิตใจขนาดนั้น...


“พี่...”ลองเรียกดู ชานยอลครางรับหืมในลำคอเบาๆ จงอินแกะห่อขนมปังออกแล้วลองกัดดู รสชาติยังไม่เปลี่ยน...


“ขอโทษนะ...”จู่ๆชานยอลก็พูดขึ้นมา รอยยิ้มยังมีให้เพดานเหมือนเดิม จงอินถามว่าเรื่องอะไร ดวงตาสุกใสถึงเบนมามองหน้าน้อง

“ก็ที่ชอบวุ่นวายกับนาย...ลืมไปว่าไม่เหมือนตอนเป็นเด็กฝึกแล้ว”พูดด้วยน้ำสียงร่าเริงแต่จงอินก็จับได้ว่ามันดูขมขื่น....


ปาร์คชานยอลก็เหมือนขนมปังไส้ถั่วแดง...


ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านไป ราคาของมันจะขึ้นก็ตาม แต่รสชาติก็ไม่เปลี่ยน เหมือนเวลาที่เปลี่ยนไป จากเด็กเทรนนี่กลายเป็นไอดอลชื่อดัง...แต่ปาร์คชานยอลก็ยังดูแลเขาไม่เปลี่ยน...

ถึงจะมาวุ่นวายวอแว แต่ทุกครั้งก็ทำเพื่อจงอินทั้งนั้น

ช่วยหาน้ำให้ดื่มบ้าง ช่วยดูเรื่องไมค์ก่อนขึ้นเวลทีบ้าง...



คงเป้นไคเองที่ลืมมันไป...ว่าพี่ชานยอลคือพี่ชายที่เขาชอบมากแค่ไหน...


“ไม่ต้องหรอก”เสียงทุ้มพูดแผ่วเบา กัดขนมปังไส้ถั่วแดงอีกคำ ชานยอลเลิ่กคิ้ว หูกางๆนั้นยิ่งกางออกเพราะความฉงนใจ

“นายว่าไงนะ”เหมือนได้ยินไม่ชัด จงอินหมุนตัวไปอีกด้านไม่มองหน้าพี่ชาย ทำไมต้องให้พูดซ้ำสองด้วย



“ผมมาคิดดูที่พี่ทำก็ไม่ได้แปลกอะไร ไม่ได้วิปริตตรงไหน...ก็คล้ายๆกับตอนเป็นเด็กฝึกนี่นะ...”


“...”


“ก็ไม่ต้องเลิกทำหรอก...”



จงอินคงไม่รู้ว่าตอนนี้ปาร์คชานยอลยิ้มกว้างขนาดไหน สมาชิกในห้องเองก็กัดขนมปังกันค้างอย่างลุ้นสุดตัว ลีดเดอร์ตัวเล็กมองภาพตรงหน้าแล้วยิ้มน้อยๆ เห็นประกายวิบวับและน้ำตาที่คลอหน่วยของปาร์คชานยอลแล้วอยากจะดีดหน้าผากโยดาแรงๆ




นี่แหล่ะ...ชานยอลคนโง่ที่รู้จักแต่ไคคนเดียว...







“ไคคลุงน่ารักที่สุดเลย”





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น